--- ป่ ว ย ---
ครบรอบหนึ่งอาทิตย์ของการป่วยพอดี !
ฉันเริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่แล้ว
ปวดกล้ามเนื้อและยืนโงนเงน
แต่เรามีภารกิจที่ต้องทำคือซ้อมวิ่ง
เสาร์นี้ เราต้องตื่นซ้อมวิ่งยาว 35 กิโล
คืนวันศุกร์ก็เหมือนทุกครั้งที่เราซ้อมวิ่งคือ
เรากินอาหารให้อิ่ม เตรียมอาหารสำหรับมื้อเช้า
และเข้านอนแต่หัววัน
คนอื่นอาจไม่เข้าใจ จะอะไรกันนักหนา
กะแค่วิ่ง ทำไมต้องซ้อมกันขนาดนี้
เราจำเป็นต้องซ้อมเพื่อปรับสภาพร่างกายให้รู้ว่า
จะต้องรับศึกหนักในการวิ่งครั้งต่อไป
จู่ ๆ นึกอยากลงแข่งแล้วไม่ซ้อม คงวิ่งไม่ได้
และยังไงก็ทนสภาพนั้นไม่ได้ อาจบาดเจ็บจนวิ่งต่อไปไม่ได้
นั่นไม่ใช่ความต้องการของเรา
เราวางแผนการวิ่งมาราธอนเพียงปีละครั้ง
มันสำคัญกับเรามากพอสมควร
แต่ก็ลดความสำคัญลงไปเมื่อสุขภาพไม่ไหวจริง ๆ
การป่วยไข้มาเยือนแบบช้า ๆ
ลมฝนที่ว่าหอม สดชื่น แต่ก็มากับเชื้อโรคเล็ก ๆ น้อย ๆ
แดดอ่อนยามสาย อ่อนโยน แต่ก็ซ่อนความแปรปรวนไว้ในนั้น
กลิ่นลมหนาวรวยระรินให้ชื่นใจ ทักทายฤดูใหม่ที่จะมาถึง
หรืออาจหาญวิ่งกลางฝนปรอย เพราะบางอย่างก็อยากลองดู
วิ่งชนอุปสรรคก็ต้องเจออุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา
อาจติดเชื้อแบคทีเรียในอากาศ จากลมหายใจของลูกค้า
เขารับจากฉัน ฉันรับจากเขา เรามีโอกาสป่วยได้เท่า ๆ กัน
ทั้งที่พยายามดูแลรักษาสุขภาพตามสมควร
กินอาหารดี กินผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อน
แต่ก็เลี่ยงอาการป่วยไข้ไม่ได้
ความแปรปรวนในร่างกาย
ความเปลี่ยนแปลงภายในของเรา
แล้วจะโทษใครไปทำไม ป่วยการเปล่า ๆ
เมื่อป่วยก็ต้องพัก..เรื่องง่าย ๆ
วางทุกอย่างข้างหน้าตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ต้องเสียดาย
ไม่ต้องไปกังวล เพราะแต่ละวัน เราซ้อมเต็มที่ทุกครั้ง
เราวิ่งตามแผนและไม่สาหัสจนร่างกายทนไม่ไหว
เราไม่ได้ประมาท แต่เราเป็นมนุษย์ธรรมดา
ที่ป่วยได้ และ หายได้
ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา
ต้องมาทำงานตามปกติด้วยสภาพร่างกายไม่ปกติ
ปวดหัวมากทุกวัน เจ็บคอ ไอ ระโหยโรยแรง
ดื่มเกลือแร่วันละสี่แก้ว พยายามกินอาหารแม้ไม่อร่อย
กลับบ้านก็นอนพัก ไม่อยากสนทนากับใคร
หน้าตาไม่รับแขก ไร้ความสุขมาก
นึกถึงชีวิตในวันปกติ
คนที่มีจิตใจสดชื่นแจ่มใสมักอยู่กับคนสุขภาพดี
เมื่อสุขภาพไม่ค่อยดี
ก็ถึงเวลาที่เราต้องดูแลสุขภาพใจให้ดี
อย่าให้ล้มเหมือนร่างกาย
ฝืนหน่อย ก็ควรทำ
เพื่อตัวเอง เพื่อคนใกล้และคนรอบข้าง
ไม่ต้องกังวลอะไรกับอาการป่วยไข้ มันคือธรรมชาติ
ฉันรักตัวเองและดูแลตัวเองอย่างดี
ไม่ได้ฟูมฟาย พักผ่อนและไม่ได้โอดครวญให้ใครเป็นห่วง
ใช้ชีวิตตามปกติในวันไม่ค่อยปกติ
แต่ที่ดีใจคืออาการป่วยของหมาชราในบ้าน
เขาดีขึ้น ไม่ร้องโหยหวนทั้งคืน เหมือนอาทิตย์ที่ผ่านมา
บางทีมันเกิดจากอาการป่วยข้างใน เขาบอกเราไม่ได้
เราป่วย เขาป่วย
เราหงุดหงิด แต่เขาไม่รู้
เผลอเบื่อหน่ายเขา ยามร่างกายเราอ่อนแอ
พอเห็นเขาพยายามมารอรับเรากลับบ้านทุกเย็น ก็สงสาร
น้ำตาจะไหล เขาไม่รู้อะไรด้วย ป่วยก็ยังมารับ-ส่ง
ตามเวลาปกติ ในวันที่เขาไม่ปกติเช่นกัน
การเลี้ยงหมาสักตัว
ต้องเอาใจใส่อย่างมาก
เรามีเรื่องสุขทุกข์ มีเรื่องราวของตัวเอง
แต่เขาไม่มี มีแต่เรา
รอเราทุกวัน
ขอโทษนะที่หงุดหงิดใส่
จะพยายามมีสติกว่านี้
รู้สึกผิดที่ไม่ดีกับเขา
การป่วยไข้สอนอะไรหลายอย่าง
สนใจ ใส่ใจความรู้สึกกันให้มากกว่าเวลาปกติ
เราป่วย เขาก็ป่วย แต่เขาช่วยตัวเองไม่ได้และต้องการเรา
บางวันเขาต้องลากขา ร้องเรียกเราตอนนอนหลับไหลเพราะเหนื่อย ล้า
เขาอยากบอกเราว่าเขาปวด ไม่สบายตัว เท่านั้นเอง
ความรักของเขาที่มอบให้เราไม่น้อยลงเลย
ยังจงรักภักดีทุกวัน
ส่วนแมว เขายังสุขสบายดี
เขาป่วยเมื่อไร เราถึงจะได้กอดเขา
เรารักกันห่าง ๆ ไม่เป็นภาระแก่กันและกัน
ดูสบายใจและรู้ซึ้งอย่างยิ่งว่า
ความรัก เราครอบครองไม่ได้
ก็แค่รัก...
เช้านี้...
อาการไม่ค่อยดีขึ้นเลย
ฝนทำท่าจะตกอีกยกใหญ่ ฟ้าครึ้ม หม่น
คิดว่า พักอีกสักอาทิตย์ คงจะดีขึ้น
งดการซ้อมวิ่ง
หรืออาจงดการลงวิ่งในงานจริง ๆ
ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่นะ
ภูพเยีย
16 กันยายน 2559
มาเยี่ยมครับ ป่วยไม่สบายก็ รับประทานยา พักผ่อนมากๆนะครับ
แนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ครับ
ผมได้รับการฉีดเพราะเป็นยาฟรี ฉีดให้กับพนักงานทุกคน ตั้งแต่ต้นปีมายังไม่เป็นหวัดเลยครับ(ฉีดปีละครั้ง)
ส่วนออกกำลังกาย ปั่นจักรยานหลังเลิกงานเกือบทุกวัน(ยกเว้นวันฝนตกหนัก)
ขอให้หายป่วยในเร็ววันครับ