Group Blog
All Blog
--- 5 พ ฤ ษ ภ า เ วี ย น ม า อี ก ค รั้ ง ---







6 เดือนแล้วสินะที่พ่อผ่านความเป็นความตายเมื่อเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อรอดมาก็ยังมีเรื่องต้องลุ้นอีก เพราะคำแรกที่ได้ยินว่าพ่อมีอาการ Stroke นั้น ทำให้คิดเรื่องอัมพาตด้วย

ครั้งนั้น สมองเกี่ยวกับการสื่อสารของพ่อเสียไป พ่อไม่สามารถสื่อสารหรือประกอบคำความได้ ความทรงจำก็มาแบบแว๊บไปแว๊บมา พ่อจำเราได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่สื่อออกมานั้น ไม่ได้คำได้ความ ฟังไม่รู้เรื่องเลย ตัวเขาเองก็หงุดหงิดที่เราไม่เข้าใจที่เขาพูด ตัวเขาเองก็ใจเสีย พูดอะไรก็ไม่มีใครแปลออก แต่หมอก็ให้กำลังใจทุกคนว่า มันจะค่อย ๆ ฟื้นฟู แต่ตอนนี้ที่ทำได้คือ ระวังอย่าให้มันเกิดซ้ำอีกซึ่งมันสามารถเกิดซ้ำได้ทุกเวลา เราควรดีใจที่สมองส่วนท้าย เป็นส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและการทรงตัวยังดีอยู่ เพราะอาการของพ่อเสี่ยงกับการเป็นอัมพาตมากที่สุด ทุกคนทำใจเรื่องที่พ่อต้องนอนบนเตียงตลอดเวลาบ้างแล้ว อาการป่วยอื่น ๆ ของพ่อไม่ว่าจะมะเร็งลำไส้ใหญ่และถุงลมโป่งพองที่ทำให้พ่อต้องพ่นยาบ่อย ๆ นั้นเป็นเหมือนเพื่อนที่สนิทชิดเชื้อกับพ่อไปแล้ว

มาเยี่ยมพ่อครั้งนี้ น่าตื่นเต้นมากที่พ่อสื่อสารได้ดีเกินคาด นั่นหมายถึงเราพอเดาทางได้และที่ดีไปกว่านั้น สมองส่วนความรู้สึก อารมณ์ ความคิดความจำของเขายังดีอยู่ แม้จะสื่อความไม่ได้ เราก็ไม่ต้องการความลึกซึ้งอะไรนักหรอก ถ้ามากกว่านี้พ่อจะเป็นห่วงเรามากไปทั้งที่ลูก ๆ โตจนหัวหงอกกันหมดแล้ว พ่อก็ไม่เคยหมดห่วงไม่ว่าเรื่องสุขภาพกาย ใจและเงินในกระเป๋า วันนี้เห็นเขายังกินข้าวอร่อย กลืนยาและเดินได้บ้างก็ดีใจที่สุด


เช้าวันที่ 5 พฤษภาคมที่เรามาถึงบ้านพ่อ เห็นพ่อแต่งตัวหล่อเลย กำลังกินยาและจะพ่นยาต่อ เขารู้ว่าวันนี้วันเกิดเขา เห็นอาบอกว่า พ่อพูดว่าวันนี้ต้องฉลอง เดี๋ยวมีเพื่อนมารับไปกินข้าวกัน แต่พอเห็นฉันมาหา หน้าตาดีใจจนออกนอกหน้า ถามว่ามายังไง เราก็ว่าบินมาตั้งแต่เมื่อคืน นอนกับเจ้าหนู(น้องสาวอยู่ กทม.)แล้วยืมรถมันมาหาพ่อนี่แหละ มันล้างรถให้ใหม่เอี่ยม เติมน้ำมันให้เต็มถึงอีกต่างหาก พ่อก็ถามว่า ค่าเครื่องบินแพงมั้ย เราว่าไม่แพง พอ ๆ กับนั่งรถทัวร์มาแต่เซฟเวลากว่า พ่อถามต่อว่า ทำไมมันไม่มาด้วย หยุดตั้งหลายวัน (แหนะ..ฉันคิดในใจ รู้อีกนะว่าวันนักขัตฤกษ์มีวันหยุดหลายวัน) เลยบอกพ่อว่า มันมีธุระ ไว้มาเที่ยวหาวันอื่น ผลัดกันมาหาพ่อน่ะ พ่อไม่เซ้าซี้แต่เริ่มคิดจะเบี้ยวนัดเพื่อน พึมพำว่า ถ้าเพื่อนไม่มาเดี๋ยวเราจะไปกินข้าวกันเองดีกว่า ไม่รอแล้ว ฉันอมยิ้มในใจ บอกพ่อว่า ไปเถอะ เดี๋ยวเราค่อยกินด้วยกันมื้ออื่น มีเวลาคุยกันอีกหลายวัน

ฉันซื้อเสื้อมาแฮปปี้เบิร์ดเดย์พ่อ พ่อให้อาแกะให้และลองใส่เสื้อเดี๋ยวนั้น หัวเราะว่าทำไมมันมีแต่ดอกไม้ ลายแบบนี้ไม่เคยใส่ แต่ดูสีหน้าแล้ว ชอบ ลองใส่เสื้อใหม่ พอดีเป๊ะ พ่อบอกว่า เนื้อผ้าดี นี่มันยี่ห้ออะไร ใส่สบายจริง ๆ พ่อใส่แต่จอห์น เฮนรี่ เสื้อตัวนี้ใส่สบายกว่า (ฮ่า ฮ่า ฮ่า พูดเอาใจลูกซะ) ฉันเลยถ่ายรูปคู่กับพ่อเพื่อส่งให้น้องสาวและน้องชายดูด้วย อ้อ..เจ้าหนูฝากไม้เท้ามาให้พ่อนะ ถือเลย ดูเขาชอบใจ บอกว่าต่อไปนี้จะถือ อาก็เลยบอกว่า มีตั้งหลายอัน ไม่เห็นใช้เลย สงสัยจะใช้อันที่ลูกซื้อให้อันนี้ซะละมั้ง แล้วอาก็เล่าให้ฟังอีกว่า เจ้าหนูบอกพ่อว่าจะซื้อที่ตัดเล็บให้ จากญี่ปุ่น ดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ พ่อก็รอ อาพาไปซื้อกี่อันต่อกี่อัน เขาก็ไม่ใช้ ไม่ถูกใจ รออันที่เจ้าหนูจะซื้อให้ เลยพูดเหมือนฝากไปบอกเจ้าหนูให้ฉันฟังนิดนึงว่า อย่ารับปากพ่อเขาไปอย่างนั้น พ่อเขารอ กว่าจะส่งมาก็ช้า ซื้อใหม่เป็นสิบอัน พ่อเอาไปซ่อนไว้หมด ไม่ชอบสักอัน ฉันพยักหน้ายิ้ม ๆ

พ่อถอดเสื้อใหม่ออกและบอกว่า เอาไว้ก่อน ยังไม่ได้ซัก เดี๋ยวคัน

'เพื่อนพ่อที่จะมารับนี่เป็นใครมั่งคะ พ่อจำได้หรือเปล่า'
'เพื่อนรุ่นพี่ก็ตายไปหมดแล้ว เพื่อนที่รัก ๆ กันก็เพิ่งตายไปเมื่อสองวันที่แล้ว ไปเผาไม่ได้ พ่อติดเชื้อที่ปอดเพิ่งออกจากโรงพยาบาล วันนี้มีแต่เพื่อนรุ่นน้อง เขาเคยมาฝึกงานกับพ่อ มันจะมากันกี่คนก็ไม่รู้ เดี๋ยว 11 โมงไม่มา เราก็ไปหาอะไรกินกัน'

ฉันได้แต่หัวเราะ

'ยังไงก็ได้ค่ะ ไม่คิดว่าพ่อจะออกบ้านไปไหนได้ กะมาขอกินข้าวบ้านพ่อสักสองสามวัน'
'พ่อพอไปได้ แต่ต้องนั่งแอร์เย็น ๆ ร้านดี ๆ ที่เคยกินแต่ไม่ติดแอร์ พ่อไปไม่ได้ ร้อนจัดพ่อนั่งไม่ไหว '
'นั่นสิ ปีนี้ร้อนทั่ว ร้อนสาหัสเหมือนกันทุกที่ ที่บ้าน หมาแมวป่วยกันหมด'

ฉันเล่าถึงหมาที่บ้าน เอารูปเจ้าอองออหมาแก่ให้พ่อดู พ่อจำได้และบอกว่า สงสารมัน ดูแลมันให้ดีที่สุด หมาพันธุ์นี้เป็นแบบนี้ ท่าทางแก่มาก อยู่ได้อีกไม่นานเหมือนพ่อนี่แหละ พ่อก็รอดตายมาแล้วครั้งนึง ตอนนั้นนึกว่าไปซะแล้ว

อ้าว พ่อจำได้ด้วยเหรอว่าตอนนั้นเป็นยังไง
จำได้ แต่พูดไม่ได้ มันพูดอะไรก็ไม่มีใครรู้เรื่อง
แล้วตอนนี้ล่ะ
มันก็รู้ แต่ยังสะกดไม่ได้ ออกเสียงไม่ได้ แล้วพ่อก็หยิบหนังสือ 'คุณหนูอ่านเอง' ซึ่งเป็นหนังสือภาพและคำอ่าน อาซื้อมาให้พ่อเปิดดูเวลาอยากกินอะไรและบอกใครก็ไม่รู้เรื่อง เพราะวันก่อน พ่ออยากได้น้ำยาอุทัย พูดกับใครก็ไม่มีใครรู้เรื่องสักคนจนกระทั่งน้องเขยอามาบ้าน เขาคุยกันยังไงไม่รู้ เราเลยเพิ่งรู้ว่าพ่อจะเอาน้ำยาอุทัยทิพย์ มันเย็นชื่นใจ

จากนั้นพ่อก็ชี้ให้เราดูในหนังสือหน้าผลไม้และกากบาทคำที่ออกเสียงไม่ได้เช่น ส้มโอ พ่ออ่านกี่ครั้งก็ออกเสียงไม่ได้ และมีอีกคำที่พ่อบอกคือ แตงโม พ่อก็อ่านว่า แมงโต เราก็หัวเราะกัน พ่อก็ขำตัวเองอีกนะ เล่าว่า อยากกินผลไม้อันนึงชื่อว่า ค็อคคะนอย เราก็มองหน้ากัน ผลไม้อะไรนะชื่อค็อคคะนอย พ่อเลยขอกระดาษมาวาดให้ดู อ๋อ...(ลากเสียงยาว) โคโคนัท น่ะเอง พ่ออยากกินมะพร้าว (ก็..นะ.. สิ่งที่ฉันเขียนบันทึกนี้คือผ่านการแปลมาอย่างถูกต้องแล้ว แต่ไม่สามารถเขียนภาษาที่พ่อพูดออกมาได้เท่านั้น)

แล้วพ่อไปฝังเข็มอยู่หรือเปล่าคะ

พ่อบอกว่า'ไปสิ แต่มันเจ็บชิบบบบ...(ไม่มีหาย) เข็มปักกลางหัวก็เจ็บแล้วนะ มีปักกลางหน้าผากอีก เราบอกว่าเจ็บ หมอก็บอกว่าให้อดทนหน่อย แต่อะไรไม่เจ็บเท่าปักที่เหนือริมฝีปาก(พ่อชี้ให้ดู) ตรงนี้เจ็บจนอยากวิ่งออกห้อง บอกเขาว่าพอแล้ว ไม่อยากหายแล้ว ไม่ทำได้มั้ย แต่พอนึกได้ว่า ทำแล้วจะดี ก็เลยต้องอดทน

ฟังพ่อเล่าแล้วสงสาร คนเรานะ เจ็บก็ต้องทน อยากดีขึ้นก็ต้องอดทน พ่อเกรงใจอาด้วยที่อุตส่าห์พาไปทำกายภาพบำบัดและพาไปหาหมอทุกอาทิตย์


เราคุยกันสัพเพเหระ เรื่องพี่เลี้ยงเจ้าแฝดว่ายังอยู่ด้วยกันหรือเปล่า พ่อดีใจที่ฉันยังจ้างเขามาเฝ้าบ้านให้อยู่ทั้งที่ทำงานบ้านไม่เป็นเลย ข้อดีของเขาอย่างเดียวคือเป็นคนดี พ่อถามถึงเงินเดือนที่จ้างเขาอีกต่างหาก ฉันบอกว่า ต่อให้เขาออกตอนนี้ก็มีเงินเก็บนะ เก็บให้เขาทุกเดือน คิดว่าวันหนึ่งวันใด เขาคงต้องถึงเวลาพักบ้าง

พ่อถามถึงกิจการเล็ก ๆ ของเรา ความเปลี่ยนแปลงที่ไชยปราการ เล่าถึงร้านกะทะทองที่เคยพาพ่อไปกินบุฟเฟ่ต์เนื้อโคขุน ร้านดังของอำเภอแต่ปิดตัวลงทั้งที่ขายดีที่สุดในสามอำเภอใกล้เคียง คุยกันจนถึง 11 โมง เพื่อนพ่อซ้อนมอเตอร์ไซค์มาหาและบอกพ่อว่า นัดกันที่ร้านอาหารแถว ๆ แม่บ๊วย 11 โมงครึ่งเจอกันครับ พ่อถามเขาว่า รถยนต์อยู่ที่ไหน ทำไมไม่ขับรถมาเอง เขาว่าเขาจอดไว้และนั่งมอเตอร์ไซค์มาบอก พอเขาไป พ่อบอกฉันว่า ทำไมมันไม่โทรศัพท์มา ไม่เห็นต้องนั่งมอเตอร์ไซค์มาเองเลย ฉันนั่งอมยิ้มเลย คิดในใจว่า เขาอาจจะกลัวสื่อสารแล้วพ่อไม่เข้าใจหรือเปล่า หารู้ไม่ว่าพ่อฟังรู้เรื่องแต่พูดออกไปไม่ค่อยได้เท่านั้นเอง

เราไม่ได้ไปแจมกับเพื่อน ๆ พ่อหรอก ขอตัวไปหาอะไรกินเอง อาแนะนำว่า ที่ร้านใบเงินมีอาหารน่ากินหลายอย่าง ลองไปกิน แสร้งว่ากุ้งสิ อาหารโบราณ เขาทำอร่อยมาก กินกับผัก ปลาดุกฟู เครื่องเคียงเขาทำดี เราก็เลยออกไปหาอะไรกิน

อากาศเมืองสุพรรณร้อนแทบละลาย เลยไปเดินเล่นที่ บีทูเอส หาหนังสือติดไม้ติดมือมาอ่านเล่นบ้าง

เรากลับมานอนเล่นแต่หลับจริง พ่อกลับจากกินเลี้ยงเมื่อไหร่ไม่รู้ พ่อโทรฯหาเพราะเรานอนชั้นบน พ่อเดินขึ้นชั้นสองมาตามเราไม่ได้

อากาศร้อนเหลือเกิน ราว ๆ ห้าโมง แดดดวงไม่มีทีท่าลดความร้อนแรง เราออกบ้านไปหาอะไรกินที่ร้านลูกชายนายขนาบน้ำ ปกติร้านขนาบน้ำจะเป็นร้านอาหารมีชื่อร้านหนึ่งของสุพรรณ แต่อากาศแบบนี้ พ่อคงนั่งไม่ไหว เราเลยหาร้านที่สบาย ๆ หน่อย พ่อจะได้กินอร่อย

เราสั่งกับข้าวไม่กี่อย่างเพราะแต่ละอย่างมันเยอะเกิน ดีใจที่พ่อกินอร่อย ไม่คิดว่าพ่อกินเอาใจหรอก ไม่เหมือนครั้งที่แล้วที่พยายามกินขนมครกกับข้าวสวยเอาใจลูก ตอนนั้นเหมือนเขาไม่ค่อยดี ลูกกลับก็ร้องไห้ เหมือนไม่รู้จะเจอกันอีกเมื่อไหร่ เหมือนจะอยู่เจอเราอีกไม่นาน นี่แหละมั้งที่พระท่านถึงเตือนเราบ่อย ๆ ว่า จงทำวันนี้ให้เป็นเหมือนวันสุดท้ายของชีวิตเพราะเราอาจไม่มีวันพรุ่งนี้ได้แก้ตัวหรือได้ทำอะไรให้คนที่เรารัก หากยังไม่เคยได้บอกรักใครก็รีบบอก อยากกอดพ่อก็รีบกอดก่อนที่จะไม่มีเขาให้กอด ไม่เคบอกรักพ่อด้วยวาจาก็บอกบ่อย ๆ บอกกันทุกวัน ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในแต่ละวันให้มีความสุข ภาษาอบอุ่นนุ่มนวล ความสบายใจสื่อถึงกันไปมาเสมอ

ฉันดีใจที่พ่อมีความทรงจำดี ๆ ในเรื่องเก่าก่อนมากมาย ทั้งที่พ่อจำอะไรได้ไม่มากมายพอจะสื่อสารลึกซึ้งเหมือนก่อน แต่เพราะเราไม่คาดหวังว่าพ่อจะต้องดีเหมือนเดิม มันเป็นไปไม่ได้ สังขารมีแต่เสื่อมสภาพลง ขอให้เขามีความสุขแต่ละขณะ แต่ละวัน ไม่ต้องเป็นห่วงลูกคนไหน แต่ก็ยังจดจำได้อยู่ว่า พ่อมีหลานสามคน สามสาวที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้

'ไอ้สองคนมันอยากเรียนอะไร'
'หมอฟันค่ะ'
'ไม่มีใครอยากเป็นหมอบ้างเรอะ '
ฉันหัวเราะ ส่ายหน้า 'ไม่มีค่ะ'
แล้วมันไม่อยากเป็นเหมือนพ่อมันเรอะ
'ไม่เห็นพูดถึงค่ะ' ฉันอมยิ้ม
'เกรดมันไม่ดีหรือไง'
'ดีมากค่ะ แต่เขาไม่ชอบ แต่หมอฟันก็มีโอกาสพลาดสูงเพราะรับน้อยมาก เขาบอกแล้วว่า ขอเขาเลือกสอบที่เขาชอบ ถ้าปีนี้ไม่ได้ ขอว่างอ่านหนังสือปีนึงได้มั้ย จะสอบใหม่ เราตกลง ตามใจลูก ให้เลือกที่อยากเรียนจริง ๆ ทำให้เต็มที่ '
'งั้นก็ต้องปล่อยเขาแล้ว'
'คอยให้กำลังใจตอนเขาสอบไม่ได้ก็แล้วกัน พ่อช่วยเชียร์หลาน ๆ ด้วยนะ ต้นปีหน้าก็รู้แล้วว่าจะสอบติดมหา'ลัยหรือเปล่า'
พ่อหัวเราะ 'ถึงปีหน้า พ่อก็อายุ 80 แล้วสิ น่าจะอยู่ถึงนะ'
ฉันยิ้มทั้งตาและหัวใจ จะมีอะไรดีไปกว่าความรักล่ะ







'บันทึกวันไปเยี่ยมพ่อ กินข้าวกับพ่อในวันเกิดพ่อครบ 79 ปี'
ขอให้พ่อมีสุขภาพกายใจดีและมีความสุขทุกวัน
ขอให้ทุกท่านมีความสุขค่ะ
ภูพเยีย
5 พฤษภาคม 2559














Create Date : 08 พฤษภาคม 2559
Last Update : 11 พฤษภาคม 2559 8:25:33 น.
Counter : 662 Pageviews.

1 comments
  
แอบมองเทออยู่นะจ้ะ อิอิ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4529152 วันที่: 8 พฤษภาคม 2561 เวลา:17:54:40 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com