Group Blog
All Blog
--- L e v i a t h a n ---














บันทึกการอ่าน : L E V I A T H A N
เ ล อ ไ ว อ ะ ธั น
พอล ออสเตอร์ เขียน
นาลันทา คุปต์ แปล



สารภาพว่า ก่อนซื้อเล่มนี้ พลิกแล้วพลิกอีก ชื่อเรื่องแปลก ๆ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเพราะไม่ใช่ฮาร์ดคอร์การเมือง จึงไม่รู้จักคำว่า เลอไวอะธัน เพียงแต่คิดว่าถ้าเป็นชื่อหนังสือ มันต้องสำคัญมาก

ครั้นเปิดหน้าแรกเข้าไป เขาเขียน แด่ ดอน เดอลิลโล -- อ้าว ไม่รู้จักคน ๆ นี้อีก เขาเป็นใครกันนะ สำคัญกับ พอล ออสเตอร์ คนเขียนหนังสือเล่มนี้อย่างไร เขาอาจเป็นใครที่เราไม่ต้องรู้จักก็ได้นี่นา

อ่านโคว้ทที่ปกด้านในว่า

รัฐที่แท้จริงทุกรัฐล้วนชั่วร้าย
ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สัน

โอย..ตายแล้ว เรื่องการเมืองเหรอ หนักไปมั้ย เรื่องใกล้ตัวแท้ ๆ คิดในใจว่า ยังไม่นึกอยากอ่านในช่วงเวลานี้ ไม่มีกะจิตกะใจจะอ่านกลัวไปไม่รอด กลัวอ่านยาก กลัวอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะแค่อยากอ่านอะไรสนุก ๆ และอ่านรู้เรื่องก็พอแล้ว

แต่เพราะป็นสำนักพิมพ์กำมะหยี่ ก็เลยซื้อไว้ก่อน..

ในที่สุดก็หยิบเล่มนี้มาอ่านก่อนเล่มที่ตั้งใจจะอ่านเป็นเล่มแรก
คงเหมือนอาหารที่เราไม่คุ้นเคยทั้งหลาย อย่าเพิ่งปฏิเสธมันไว้ก่อน
ลองชิมดู ไม่ชอบก็ไม่กินต่อ เท่านั้นเอง มันอาจจะไม่ถูกปากเราเท่านั้น
หนังสือก็เหมือนอาหารที่ทำมาหลากหลายชนิดให้คนได้เลือกชิม




เปิดฉาก ... ' เ มื่ อ ห ก วั น ก่ อ น
ชายคนหนึ่งตายจากระเบิดของตัวเองข้างถนนทางตอนเหนือของรัฐวิสคอนซิน ไม่มีพยานรู้เห็น แต่ดูเหมือนเขานั่งอยู่บนพื้นหญ้าข้างรถที่จอดอยู่ ตอนระเบิดที่กำลังประกอบเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ตามที่ระบุในรายงานชันสูตรซึ่งเพิ่งตีพิมพ์ ชายคนนั้นเสียชีวิตในทันที ร่างแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย บางชิ้นส่วนของร่างกาย ถูกพบห่างจากจุดระเบิดถึงห้าสิบฟุต จนถึงวันนี้ ( 4 กรกฎาคม 1990) ดูจะยังไม่มีใครรู้ว่าผู้ตายเป็นใคร...'

ฉันสงสัยตั้งแต่เริ่มต้นแล้วว่า ทำไมเขาถึงเลือกมาตายวันชาติอเมริกัน มันต้องมีความสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่ง ไหน ๆ ก็มีปรัชญาการเมืองเข้ามาแล้ว ปีศาจเสรีภาพมากมายในโลกที่คิดว่าตนยังติดอยู่ในสงครามการเมือง ทั้งที่สงครามนั้นอาจไม่รุนแรงแต่สิ่งที่รุนแรงกว่านั้นคือการต่อสู้ภายในของตนเองและความรู้สึกที่ต้องทำสงครามกับคนอื่นตลอดเวลา

การตามหาชายที่ถูกกับระเบิดของตัวเองนั้นยากพอควรเพราะไม่เหลือเศษซากพอจะเป็นขุมทรัพย์ให้ตำรวจติดตามตัวได้เลย ครั้นเจอกระเป๋าเงินของผู้ตายที่รอดจากการระเบิดมาแล้วนั้นล้วนแต่เป็นบัตรปลอม ชื่อปลอม บัตรเครดิตปลอม รถที่จอดอยู่ก็ขโมยมา ไม่มีอะไรที่จะตามหาเพราะเป็นคดีที่ไม่มีรอยนิ้วมือเพราะคนตายนั้นกระจุยไปในอากาศ การให้ข้อมูลบิดเบือนอย่างอัปลักษณ์ของรัฐนั้นเป็นเรื่องสามัญ เพียงไม่กี่วัน ชื่อเสียงของคน ๆ หนึ่งก็ย่อยยับลงเพราะเขาไม่สามารถมาแก้ต่างในคดีนี้ได้ ข่าวสั้นกำกวม โดยพุ่งประเด็นไปที่ชายคนหนึ่ง

ปีเตอร์ อารอน รู้ว่าชายผู้ตายคนนั้นเป็นใคร

เขาคือ เบนจามิน แซคส์ นักเขียนที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ฉลาดเฉลียว มีหลักการและความมุ่งมั่น แต่เหตุใดกันที่เขาต้องมาพบจุดจบเช่นนี้

จากนั้น ปีเตอร์ อารอนผู้เป็นนักเขียนและนักแปลเช่นกัน เขาเล่าเรื่องของแซคส์และเรื่องราวทุกอย่างที่นำไปสู่การวางระเบิดในครั้งนี้

อารอนสนิทกับแซคส์มากเท่าที่แซคส์จะปล่อยให้เขารู้จัก วัยเด็กของแซคส์ที่มีความขัดแย้งในใจกับพ่อผู้ซึ่งไม่เคยผ่านสงครามโลกครั้งที่สองเหมือนพ่อของเพื่อน ๆ เขาไม่มีโอกาสได้อวดโอ่วีรกรรมจากของที่ระลึกของพ่อจากการผ่านสงครามโลกเหมือนพ่อของเพื่อน ทั้งน้อยใจและอิจฉา แต่ก็มีเรื่องที่เขาภาคภูมิใจในตัวพ่อเช่นกันเกี่ยวข้องกับขบวนการเรียกร้องสิทธิผู้ใช้แรงงาน แต่แนวโน้มของเขานั้นใกล้ชิดแม่มากกว่าพ่อ แซคส์เติบโตท่ามกลางพี่สาวอีกสามคนผู้เป็นพี่ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เขาเข้ากับผู้หญิงได้ง่ายและเป็นธรรมชาติ

เบน(อีกชื่อหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าสับสนเพราะผู้เขียนหรือผู้แปลใช้ทั้งสองชื่อเรียกคน ๆ เดียวกันในบรรทัดเดียวหรือประโยคเดียวจนนึกว่าพูดถึงคนละคน ฉันก็เลยเขียนบันทึกแบบใช้ชื่อทั้งเบนและแซคส์ปนกันไปด้วย ) ถูกสั่งสอนมาให้ยืนหยัดในสิ่งที่ตนเชื่อ มีเรื่องตลกค่อนข้างมากระหว่างเขากับแม่เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของเด็ก ๆ ในวัยเด็กของเขา เขาได้เสรีภาพจริงตามคำร้องเมื่อเขาทำให้แม่เห็นจริงตามที่เขาร้องขอ แต่เขาก็เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันว่า ' เสรีภาพอาจมีอันตราย ถ้าไม่ระวังให้ดี มันก็จะฆ่าเรา '

แซคส์เป็นทั้งยิวและแคทอลิก ถูกเลี้ยงดูอย่างไม่เคร่งศาสนา เขาคุ้นเคยกับคัมภีร์ไบเบิล มีช่วงที่ต่อสู้กับภายใน เคยติดคุกถึง 17 เดือนเพียงเพราะเชื่อในความเชื่อของตน มีนักคิดอย่างธอโรเป็นต้นแบบ ไว้เคราตามธอโร ชอบ วอลเดน หนังสือที่กล่าวถึงประสบการณ์การใช้ชีวิตในกระท่อมกลางป่ากว่าสองปีของธอโร มีความบังเอิญหลายอย่างของธอโรที่มีความหมายกับเขาซึ่งเป็นต้นแบบเสมอมา เขาปฏิเสธอุดมการณ์แค่ต่อต้านการรับราชการทหารและเขียนหนังสือในคุก

สิ่งที่เราซึมซับไปได้เรื่อย ๆ ของชีวิตการเป็นนักเขียนของผู้ชายสองคนคือ กำแพงระหว่างงานกับความเรื่อยเปื่อยได้ผุพังไปจนถึงขั้นที่เขาแทบไม่ได้สังเกตว่ามันมีอยู่ มันมีประโยชน์ในฐานะนักเขียนเพราะความคิดดีที่สุดจะมาหาเขาเมื่ออยู่ห่างโต๊ะทำงานเสมอ ทุกอย่างจึงจัดอยู่ในหมวดงาน ไปกินข้าวก็คืองาน ดูบาสเกตบอล อยู่กับเพื่อน แม้จะดูว่างแต่ไม่มีเลยใดเลยที่เขาไม่ทำงาน

อารอน(ปีเตอร์ อารอน)แต่งงานกับเดเลีย มีลูกชายคนหนึ่งชื่อ เดวิด ส่วนแซคส์มีภรรยาชื่อแฟนนี่ ผู้หญิงที่ไม่ได้สวยแต่อาจจะแปลกตา เปล่งประกายด้วยความมั่นใจ พูดจาคมคาย มีพลังในการวิเคราะห์ เป็นนักวิชาการ ไม่ด่วนตัดสิน พูดอะไรมีเหตุผล ส่วนเบนนั้นห้าวหาญ ไม่ซับซ้อน รักการเสี่ยง พร้อมกระโจนเข้าหาความมืด เชื่อมโยงสิ่งที่ไม่น่าเชื่อมโยงได้ แฟนนี่ดูมีสไตล์ แต่เบนเหมือนเด็กโข่งที่สวมรองเท้าคอนเวิร์สออลสตาร์สีดำ บลูยีนส์ เสื้อวอร์มมีฮู้ด ความรู้สึกของคนที่พบเห็นพวกเขาต้องคิดว่าเขาต้องเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน

เรื่องของเรื่องมาเกี่ยวพันกันโดยบังเอิญเพราะสมัยเรียน ปีเตอร์เคยหลงใหลแฟนนี่ เพียงแต่ไม่รู้จักกัน เขากับแฟนนี่บังเอิญเกิดวันเดียวกัน หนังสือเล่มนี้ก็เป็นแบบนั้น มีการเชื่อมโยงคนนั้นมาสู่คนนี้อย่างมีเหตุผลและไม่น่าจะเกี่ยวกันได้ และที่สำคัญไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดกับโลกกลม ๆ และโลกแคบใบนี้ มันเป็นเหมือนชะตาของโลก

และแล้วก็เกิดสงครามเย็นในครอบครัวของปีเตอร์ เธอและเขาต้องแยกทางกันแต่ไม่หย่ากัน และมาวันหนึ่งที่ ปีเตอร์ทุกข์ทรมานกับการทำลายความไว้วางใจของเพื่อนด้วยการเป็นชู้กับแฟนนี่ เธอต้องการแค่นั้น ไม่หย่ากับเบนและไม่มาอยู่กับปีเตอร์

ผู้ชายสองคนพูดความจริงแก่กันซึ่งคนอ่านก็ไม่เข้าใจว่าแบบไหนจริง และมีเรื่องอื่นสำคัญกว่าเรื่องนี้อีกมากมาย มีผู้หญิงผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะมาเรีย เทอเนอร์, ลิเลียน สเติร์น , แฟนนี่ ผู้หญิงแต่ละคนมีเรื่องราว มีที่มาและมีวีรกรรม แต่ละตัวละครมีสีสันตลอดเรื่อง นำความวุ่นวาย สับสนในใจ ความรักที่ใช้ชั้นเชิงต่อกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง แซคส์มีชนักติดหลังจนต้องกระเซอะกระเซิงไปทั่วทุกมุมโลก ไม่ใช่เพื่อซ่อนตัว แต่เพื่อต่อสู้กับสงครามในตัวเอง เขาใช้ชีวิตสองปีที่ผ่านมาเหมือนคนพเนจรไปทั่วประเทศเหมือนคนหนีคดี ทำราวกับว่าชีวิตยังประกอบด้วยรายละเอียดสามัญอยู่



'... เขาพูดด้วยความมั่นใจอย่างศิลปินที่รู้ว่าตัวเองเพิ่งสร้างงานชิ้นสำคัญที่สุด
...เป็นตำนานการเดินทาง ปลอมตัว แห่งความนิ่งงัน บ้าคลั่งและการหลบหนีอย่างเฉียดฉิว ...การระเบิดแต่ละครั้งมีเรื่องต้องทำมากมาย ทั้งวางแผนและเตรียมการหลายสัปดาห์ วิธีการอ้อมค้อมซับซ้อนในการในการรวบรวมวัสดุมาทำระเบิด การอ้างหลักฐานที่อยู่ตอนเกิดเหตุและล่อหลอกที่ละเอียดยิบ ระยะทางที่ต้องเดินทาง เมื่อเลือกเมืองได้แล้ว เขาก็ต้องหาวิธีไปอยู่ที่นั่นสักพักโดยไม่น่าสงสัย ขั้นแรกคือการสร้างตัวตนและเรื่องบังหน้าขึ้น และเพราะเขาไม่เคยเป็นคนเดิมซ้ำกันเลย พลังการสร้างสรรค์ของเขาจึงได้ใช้งานอย่างเต็มที่อยู่ตลอดเวลา เขาใช้ชื่อต่างกันเสมอ จืดชืด ไร้จุดเด่นเท่าที่ทำได้ (เอ็ด สมิธ , อัล กู๊ดวิน,แจ๊ก ไวท์,บิล ฟอสเตอร์) และในแต่ละปฏิบัติการ เขาจะเปลี่ยนแปลงหน้าตาของตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่าที่ทำได้ (ครั้งหนึ่งไม่มีเครา อีกครั้งมีเครา ที่หนึ่งมีผมสีเข้ม อีกที่ผมสีอ่อน ใส่แว่นหรือไม่ใส่แว่น ใส่สูทหรือใส่เสื้อแบบคนงาน มีตัวแปรมากมายให้เขาเลือกหยิบใช้และผสมออกมาแตกต่างกันไปในแต่ละเมือง) แต่ความท้าทายที่สุดคือการหาเหตุผลของการไปอยู่ที่นั่น ข้ออ้างที่จะไปอยู่ในชุมชนที่ไม่มีใครรู้จักเขาสักสองสามวัน ครั้งหนึ่งเขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นนักสังคมวิทยาที่ทำวิจัยเพื่อเขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวิตและคุณค่าของชาวอเมริกันในเมืองเล็ก อีกครั้งเขาแกล้งทำเป็นว่าเดินทางเพื่อเยียวยาจิตใจ เป็นเด็กถูกรับไปเลี้ยงที่ตามหาข้อมูลพ่อแม่ที่แท้จริง อีกครั้งเป็นนักธุรกิจที่หวังจะมาลงทุนในอหังสาริมทรัพย์ท้องถิ่น อีกครางหนึ่งเขาเป็นพ่อม่าย เป็นชายที่เสียภรรยาและลูก ๆ ในอุบัติเหตุทางรถยนต์และคิดจะปักหลักในเมืองใหม่ จากนั้น อย่างเกือบจะเรียกได้ว่าวิปริต เมื่อปีศาจเริ่มมีชื่อเสียง เขาก็ไปโผล่ที่เมืองเล็ก ๆ ในแบรสกาในฐานะนักข่าวหนังสือพิมพ์ กำลังเขียนบทความเกี่ยวกับทัศนคติและความเห็นของคนที่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีเสรีภาพจำลองเป็นของตัวเอง พวกเขาคิดอย่างไรกับการวางระเบิด ... '

อ่านแล้วสยองมากในความฉลาดของเขา ทำไมเขาต้องระเบิดสถานที่สำคัญของรัฐขนาดนั้น
แต่ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้คือการบรรยาย การเล่าเรื่องของคนแต่ละคนได้ละเอียดสะท้อนภาวะภายใน ความนึกคิด ภาษาเปรียบเทียบคมคาย ชวนคิดและติดตามโดยไม่ต้องพยายามอ่านเพื่อทำความเข้าใจแต่อย่างใด จนมาถึงต้นฉบับเลอไวอะธัน ของแซคส์ ( Leviathan มาจากชื่อปีศาจทะเลในพระคัมภีร์ไบเบิลที่ THomas Hobbes นำมาเปรียบใช้กับรัฐ ) ซึ่งเป็นหนังสือที่เขาเขียนค้างไว้และปีเตอร์เป็นคนรับช่วงเขียนต่อนั้นจะเป็นอย่างไร และตำรวจสืบจนรู้ว่าเป็นเขาได้อย่างไร

อ่านสนุกมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย
1 กันยายน 2558












Create Date : 01 กันยายน 2559
Last Update : 1 กันยายน 2559 7:25:29 น.
Counter : 817 Pageviews.

1 comments
  
สวัสดีจ้าา มาทักทายจ้า sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140 วันที่: 6 พฤษภาคม 2561 เวลา:15:20:24 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com