Get more detail for your trip

ภูผาวารี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




Since Aug 2009
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ภูผาวารี's blog to your web]
Links
 

 
รีวิวเที่ยวสวนผึ้ง 3 วัน 2 คืน: พร้อมข้อมูลกินเที่ยว แผนที่การเดินทางและพิกัด GPS อย่างละเอียด Part1

เวลาจริงที่ใ้ช้ในการท่องเที่ยวสวนผึ้ง 3 วัน 2 คืน
Fri 26 Aug 2011
10:00 – 11:17 เดินทางจากนนทบุรีถึงราชบุรี
11:17 - 11:52 แวะทานอาหารกลางวันที่ ก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม
11:52 - 13:13 เดินทางไป The CAMP Boutigue Resortซึ่งเป็นที่พักของเราในคืนนี้ แวะซื้อของที่ Tesco Lotus Express ชัฎป่าหวาย (13 นาที)
13:13 - 16:00 Check-in รอแม่บ้านทำความสะอาด (10 นาที) ทำงาน พักผ่อน ไม่ได้ออกไปไหนเนื่องจากฝนตก
16:00 - 17:18 เดินทาง (20 นาที) ไปร้านอาหารเวียดนามทานอาหารเย็น
17:18 - 19:10 ขับรถแบบหลงๆ (48 นาที) ไป The Banyan Leaf Resortเพื่อไปให้อาหารและเล่นกับแกะ
19:10 - 19:50 กลับที่พัก

Sat 27 Aug 2011
9:00 - 10:00 อาหารเช้าที่ The CAMP Boutigue Resort
10:00 - 11:10 เดินทาง (13 นาที) ไปเลี้ยงแกะที่ Bellissimo Cafe & Resort
11:10 - 12:20 ถ่ายรูป ซื้อเทียนที่บ้านหอมเทียน
12:20 - 13:05 ตั้งใจจะทานข้าวที่ร้านครัวกระเหรี่ยงแต่โต๊ะเต็มเพราะทัวร์ลง จึงไปทานกลางวันที่ ก๋วยเตี๋ยวไข่สูตรคุณยาย
13:05 - 14:10 เดินทาง (15 นาที) ไป บ้านห้วยน้ำริน รีสอร์ทซึ่งเป็นที่พักของเราในคืนที่สอง พักผ่อน
14:10 - 14:47 เดินทาง (23 นาที) แวะถ่ายรูปหน้ารีสอร์ท Swiss Valley Hip Resort
14:47 - 17:07 Scenery Farm
17:07 - 18:15 เดินทาง (7 นาที) ไปเที่ยว Panozaร้านกาแฟ ถ่ายรูป ท่องเที่ยว แห่งใหม่ของพนาลีรีสอร์ท
18:15 - 19:46 ไปธารน้ำร้อนบ่อคลึง แต่ปิดให้บริการแล้ว (8:00 - 17:00) จึงขับรถ (37 นาที) ไปทานข้าวเย็นที่ ครัวม่อนไข่
19:46 - 20:45 นั่งทำงานศิลป์อยู่ที่แล่นฉิว Landchillแล้วจึงกลับที่พัก

Sun 28 Aug 2011
8:40 - 9:30 อาหารเช้าที่ บ้านห้วยน้ำริน รีสอร์ท
9:30 - 11:17 เดินเล่น ถ่ายรูป ภายในรีสอร์ท เก็บข้าวของกลับบ้าน
11:17 - 12:20 ขับรถ (28 นาที) ไปธารน้ำร้อนบ่อคลึงเดินไปดูตาน้ำและแช่เท้า
12:20 - 13:13 ขับรถทานอาหารกลางวันที่ร้านไส้กรอกเยอรมันระหว่างทางแวะซื้อของที่เพิงตรงข้าม Swiss Valley Hip Resort
13:13 - 14:10 ทานอาหารกลางท่ามกลางวิวขุนเขาที่ร้านไส้กรอกเยอรมัน
14:10 - 14:54 เดินเล่น ถ่ายรูป ที่ La Toscana
14:54 - 15:25 แวะจิบกาแฟที่อามันเต้ทำบุญให้อาหารกระต่าย และ LAmour ก่อนเดินทางกลับบ้าน

นิตยสารผู้ถือหุ้นกู้ KTC ฉบับหนึ่งถูกส่งมาที่บ้านผมพร้อมเขียนเล่าบรรยากาศของสวนผึ้งในปัจจุบัน เลยทำให้ผมหวนนึกถึงวันวาน และเป็นที่มาของทริปนี้

เริ่มต้นออกเดินทางจากนนทบุรีตรงไปสู่ราชบุรีก็พอดีกับเวลาอาหารกลางวันของพวกเราซึ่งผมมีร้านในใจอยู่แล้ว โดยการแนะนำของนิตยสารู้ถือหุ้นกู้ KTC ก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม



เรื่องความอร่อยไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการมาเยือนที่นี่ ปัจจัยสำคัญที่นำผมมาถึงร้านนี้คือการได้มานั่งถ่ายรูปกับคำขวัญของร้าน



ก๋วยเตี๋ยวที่นี่ก็อร่อยเหาะ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
  • ดูรีวิว เมนูแนะนำ ข้อมูลเดินทาง แผนที่ GPS ของก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่มอย่างละเอียด คลิ๊กที่นี่ครับ




  • จากนั้นก็เข้าที่พักสำหรับคืนแรกที่ The CAMP Boutigue Resortถึงแม้ว่าที่นี่จะถูกต่อว่าจากห้อง Blue Planet เกี่ยวกับ Voucher ไทยเที่ยวไทยอย่างมากก็ตาม



    ผมพักที่บ้านชมจันทร์ด้วยราคาเพียง 1650 บาท ห้องกว้างขวาง มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ซึ่งสามารถอาบได้พร้อมกันสองคน



    ในมุมมองของผมจุดเด่นของรีสอร์ทนี้อยู่ที่ความคุ้มค่าบรรยากาศในห้องพักที่ดี มีอ่าบอาบน้ำขนาดใหญ่ รวมถึงไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวมากนัก เมื่อเทียบกับราคาห้องพักเพียงแค่ 1,650 บาท ได้ ทำให้รีสอร์ทนี้เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ผมจะกลับไปพักอีก
  • ดูรีวิวอย่างละเอียดทุกแง่มุมของ The CAMP Boutigue Resort คลิ๊กที่นี่ครับ




  • ถือเป็นหน้าฝนของที่นี่ในช่วงเวลาที่ผมไปพัก ทำให้บ่ายวันนี้ใช้เวลาอยู่แต่ในห้องเนื่องจากฝนตกพร่ำ พอฝนหยุดตก ท้องก็เริ่มร้อง เลยออกไปทานข้าวเย็นกันที่ ร้านอาหารเวียดนามทีแรกไม่ได้ตั้งใจจะทานที่ร้านนี้ แต่บังเอิญว่าแฟนผมเห็นป้ายข้างทางทำให้เธออยากกินอาหารเวียดนามขึ้นมาทันที ส่วนตัวก็เคยได้ยินชื่อร้านนี้อยู่บ้าง



    อาหารที่นี่ดูเหมือนจะราคาแพง แต่เมื่อดูเครื่องเคียงที่มีผักนานาชนิดซึ่งเติมได้ไม่อั้น จึงทำให้ราคาอาหารนั้นไม่แพงจนเกินไปนัก จานที่ผมติดใจคือกุ้งพันอ้อยจุดแข็งของร้านนี้อยู่ที่น้ำจิ้มรสชาติกลมกล่อมเข้ากับผักได้เป็นอย่างดี
  • ดูรีวิว เมนูแนะนำ ข้อมูลเดินทาง แผนที่ GPS ของร้านอาหารเวียดนามอย่างละเอียด คลิ๊กที่นี่ครับ




  • หลังท้องอิ่มก็เริ่มหากิจกรรมทำ ในช่วงเย็นวันศุกร์ซึ่งเป็น week day แบบนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายทียังคงไม่เปิดให้บริการBellissimo Cafe & Resort ก็ยังปิดอยู่ จุดหมายของเราในวันนี้จึงเป็นฟาร์มเลี้ยงแกะของ Banyan Leaf Resortซึ่งโทรศัพท์ไปสอบถามแล้วว่าเปิดแน่นอน



    ถึงแม้ว่าแกะที่นี่จะกระโจนใส่ผู้ให้อาหารในบางครั้ง แต่มันก็แสดงถึงร่าเริงและแข็งแรง ประกอบกับคุณลุงผู้เลี้ยงแกะและพนักงานรีสอร์ทดูแลพวกเราอย่างดีทำให้ผมรู้สึกสะดวกสบายและไม่อึดอัดพร้อมๆ กัน ผมจึงชอบการให้อาหารแกะที่นี่มากที่สุดในทริปนี้



    นอกจากกิจกรรมเลี้ยงแกะแล้ว Banyan Leaf Resortยังมีร้านกาแฟบรรยากาศดี Coffee Nest และมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปอีกมากมาย
  • ดูรีวิวเลี้ยงแกะ ข้อมูลเดินทาง แผนที่ GPS ของ Banyan Leaf Resort คลิ๊กที่นี่ครับ




  • วันที่สองของทริป เป็นวัีนที่แดดค่อนข้างดี พวกเราก็ภาวนากันอยู่ว่าอย่าให้ฝนตกมาเลย หลังจากทานข้าวเช้าที่ The CAMP Boutigue Resortเรียบร้อยก็ออกเิดินทางไปยังที่พักในคืนที่สองของเราพร้อมทั้งแวะเที่ยวระหว่างทางไปด้วยเลย เริ่มต้นจาก ให้อาหารแกะที่ Bellissimo Cafe & Resort



    แกะที่นี่ไม่กระโจนใส่ผู้ให้อาหาร แต่ก็ยังไม่ค่อยคุ้นกับคนเท่าไรนัก การให้อาหารแกะที่นี่จึงเหมาะสำหรับเด็กหรือคนที่ยังไม่ค่อยคุ้นกับแกะนั่นเองนอกจากนั้นแกะที่นี่ยังเรียบร้อยแบบผู้ดีอังกฤษ คือ ต่อคิวกินหญ้า



    Bellissimo Cafe & Resortยังมีร้านกาแฟน่ารักๆ ไว้บริการอีกด้วย
  • ดูรีวิวเลี้ยงแกะ ข้อมูลเดินทาง แผนที่ GPS ของ Bellissimo Cafe & Resort คลิ๊กที่นี่ครับ




  • ขับรถมาอีกเพียงอึดใจเดียวก็จะถึงแหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ของสวนผึ้ง บ้านหอมเทียนพิกัด GPS N13 32.684 E99 18.844





    มีทั้งร้านอาหารที่หลายคนบอกว่าอร่อย กิจกรรมทำเทียนหอม และบ้านหอมเทียนซึ่งเป็นร้านขายเทียนนั่นเอง



    ไอติมกะทิ ลูกลาน และน้ำกระเจี๊ยบซ่าก็มี ส่วนตัวยังไม่เคยลิ้มลอง



    วันนี้มาเยี่ยมชมบ้านเทียนหอมต้องเสียค่าเข้าคนละ 25 บาทซึ่งใช้แทนเป็นเงินสดในการซื้อเทียนหรือกิจกรรมทำเทียนหอมได้



    ก่อนถึงทางเข้าด้านในก็มีร้านค้าเช่าหลายร้านด้วยกัน บ้างก็ปิดตัวเองไปแล้ว แต่ก็ยังคงบรรยากาศเดิมๆ มุมสวยๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปได้



    ดูไปดูมาก็คล้ายร้านอาหารบ้านไม้ชายน้ำแถวปากช่องทที่ตกแต่งด้วยของสะสมและเครื่องใช้ไม้สอยสมัยอดีต



    ตุ๊กตุ๊กหัวเต่าเหมือนที่ตรังเดะเลย



    มุมถ่ายรูปสวยๆด้านในก็มีหลายมุม



    เดินไปจนสุดทางด้านใน วันนี้ท้องฟ้าเป็นใจ ไม่เหมือนเมื่อวานที่ฝนเอาแต่ตกตลอดทั้งบ่าย



    จากนั้นก็เดินกลับมา ผ่านอุโมงค์ก่อไผ่แปลกตาดี



    กิจกรรมทำเทียนหอมราคาก็ตามขนาด



    จะทำเทียนให้เป็นรูปแกะก็ได้ ถ้ามีฝีมือและมีเงินเพียงพอ



    เห็นเด็กๆ สนุกกันใหญ่ แต่พวกเราคงพ้นวัยนั้นมานานมากแล้ว เลยเห็นว่าซื้อเอาดีกว่าทำเอง



    เข้ามาที่ highlight ของที่นี่ บ้านหอมเทียน



    ภายในถูกตกแต่งด้วยแสงเทียนนับร้อย



    ต้นไม้แห่งแสงเทียนแต่ทำไมมันต้องมีแกะอยู่ทุกที่ด้วยเนี่ย หรือว่าแกะมันกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำสวนผึ้งไปแล้ว



    พุ่มไม้นี้ก็เต็มไปด้วยเทียน ...ไม่มีแกะสักรูปจะได้มั้ยเนี่ย



    บ้างก็มืด บ้างก็สว่าง แต่ทุกที่จะมีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง แกะ



    ภายในบ้านหอมเทียนก็ยังมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเช่นกัน



    จะถ่ายรูปคู่กับผู้พันแซนเดอร์สก็ได้ ว่าแต่ผู้พันเกี่ยวอะไรกับเทียนหอมเนี่ย



    หรือจะเป็นมุมหลายสีสรรแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบ



    เทียนที่นี่มีให้เลือกซื้อหลากหลายมาก



    ตั้งแต่เทียนรูปทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา แต่เน้นที่ลวดลาย



    เทียนในถ้วยแก้วทรงกลม แต่ออกแบบให้ดูเก๋และแตกต่าง



    และเทียนหอมมากกล่องนี้ ก็ไม่รู้ว่าหอมกว่าแค่ไหน เพราะไม่ได้ซื้อมาลอง



    เทียนวันเกิด



    เทียนรูปทรงแกะที่ตัวกลมเหมือนน้อยหน่า



    เทียนรูปทรงไก่



    นอกจากเทียนแล้ว เชิงเทียนดีไซน์เก๋ก็ยังมีขายอีกด้วย



    เชิงเทียนใหญ่เป็นต้นไม้เลยก็มี



    ชอบแสงจากเชิงเทียนนี้จัง ดูมีสีสรรและสวยดี



    เสร็จจากการช๊อปปิ้งเทียนแสนสวย ก็ได้เวลาอาหารกลางวัน เราเลือกที่จะทานที่ร้านครัวกระเหรี่ยงแต่ทัวร์ลงร้านแน่นจนไม่มีโต๊ะว่างสำหรับเรา จึงเปลี่ยนใจมาทานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไข่สูตรคุณยายเพราะเคยได้ยินชื่ออยู่ ประกอบกับคนมาใช้บริการพอสมควร



    ส่วนตัวรสชาติของร้านนี้ยังไม่ถูกปากผมเท่าไรนัก ราคาอาหารก็แพงเหมือนอยู่ในกรุงเทพ เลยไม่ประทับใจร้านนี้เท่าที่ควร
    ดูรีวิว เมนูแนะนำ ข้อมูลเดินทาง แผนที่ GPS ของก๋วยเตี๋ยวไข่สูตรคุณยายอย่างละเอียด คลิ๊กที่นี่ครับ



    หลังจากอิ่มท้องแบบไม่ค่อยอร่อยแล้ว เราก็เดินทางเข้าที่พักสำหรับคืนที่สองที่ บ้านห้วยน้ำริน รีสอร์ทเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง



    จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มถึง 7 ขวด ไดร์เป่าผม สเปรย์ฉีดกันยุ่ง เครื่องทำน้ำร้อน และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงอาหารเช้าที่อร่อยและหลากหลาย



    และยังมีห้องอ่านหนังสือและคาราโอเกะให้ผู้เข้าพักใช้บริการฟรีอีกด้วย



    จัดแจงเก็บข้าวของเข้าห้องเรียบร้อย ก็เที่ยวกันต่อเลย ขับรถไปตามเส้นทางหลัก (3038) ผ่านหน้าอำเภอสวนผึ้งมาได้ซัก 5 กิโลเมตรจะเจอสามแยกซึ่งมีภูผาผึ้งรีสอร์ทอยู่ตรงสามแยกพอดี เลี้ยงซ้ายมาได้ซักพักก็จะเจอกับรีสอร์ทวิวสวยแห่งหนึ่ง Swiss Valley Hip Resortพิกัด GPS N13 30.846 E99 17.208







    วิวสวยจริงๆ ครับสมชื่อ Swiss Valley



    ใครๆ มาที่นี่ก็มักจะมาถ่ายรูปกับป้ายนี้ไม่รู้ทำไม ผมก็เหมือนกัน



    ที่นี่รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้เ้ข้าพัก เฉพาะผู้เข้าพักเท่านั้นถึงจะเข้าไปในบริเวณรีิสอร์ทได้ซึ่งภายในมีกิจกรรมต่างๆ เช่น เลี้ยงแกะ ยิงธนู พัตกอร์ฟ ขี่จักรยานชมสวนองุ่น ฝูงเป็ด ฝูงหงส์ และกระต่าย จะมีเพียงแค่ร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารที่เข้าไปใช้บริการได้



    ด้วยความเป็นส่วนตัวแบบนี้ ทำให้ผมอยากจะเข้าไปพักที่ Swiss Valley Hip Resort สักครั้งเหมือนกัน แต่ยังชั่งใจกับราคาที่พักซึ่งแพงอยู่เหมือนกัน สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผม



    วันนี้ยังไม่ได้เข้าไปข้างใน แวะร้านขายของที่ระลึกของรีสอร์ทไปพลางๆ ก่อนแล้วกัน



    ภายในร้านมีมุมให้ถ่ายรูปด้วยนะครับ แต่ลืมถ่ายรูปมาฝาก



    ตรงข้าม Swiss Valley Hip Resort มีเต็นท์ขายของเรียงรายแน่นข้างทาง ทีแรกก็นึกว่าจะขายราคาถูกกว่าร้านขายของที่ระลึกตามรีสอร์ท แต่พอสอบถามก็รู้ว่าราคาไม่ได้ต่างกันบางชิ้นขายแพงกว่าในรีสอร์ทหรือใน Scenery Farm เสียอีก แต่มีร้านขายไวน์คูลเลอร์อยู่ร้านหนึ่งรสชาติอร่อยเหมือนน้ำผลไม้ยี่ห้อ Full Moon Wine Coolerเหมาะสำหรับผู้ทานไวน์ไม่เป็นแต่อยากได้ความอร่อยจากไวน์ แฟนผมชอบมาก เหมามา 1 ลัง



    นอกจากเต็นท์ร้านค้าต่างๆ แล้ว ยังมีรีสอร์ทตรงข้าม Swiss Valley Hip Resort แห่งหนึ่ง อาศัยหากินกับวิวและบรรยากาศ Swiss Valley Hip Resort โดยใช้ชื่อว่า บ้านชมสวิส



    ัขับรถจาก Swiss Valley Hip Resort ไปได้ซักประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงจุดหมายสำคัญของเราในวันนี้ Scenery Farm



    เล่นเกมส์งานวัดในบรรยากาศวินเทจฟาร์ม



    จุดเด่นของ Scenery Farm ที่ไม่เหมือนฟาร์มแกะอื่นๆ คือเจ้าแกะตัวน้อยน่ารักฝูงนี้
  • ดูรีวิวเลี้ยงแกะ ข้อมูลเดินทาง แผนที่ GPS ของ Scenery Farm คลิ๊กที่นี่ครับ




  • ใช้เวลาชิลๆ ไปกับ Scenery Farm อยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยัง Panoza ซึ่งเป็นจุดชมวิว ร้านค้าและร้านกาแฟของพนาลีรีสอร์ทที่พึ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน พิกัด GPS N13 33.101 E99 16.491







    มีทั้งร้านขายผักปลอดสารพิษ ร้านขายของที่ระลึก และร้านขายตุ๊กตาหมี



    ห้องข้างประตูทางเข้า จัดโชว์กระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในทะเลทรายในแอฟรีกา



    กระบองเพชรต้นยักษ์ถูกตกแต่งให้กลายเป็นน้ำพุใจกลาง Panoza



    ร้านขายน้องหมี ถูกใจแฟนผมเป็นที่สุด น่ารักและราคาก็ไม่แพงจนเกินไป



    มีให้เลือกหลากหลายทั้งหมีเล็กหมีใหญ่



    ห้องน้ำออกแบบได้เก๋ไก๋มาก ต้องลองมาใช้้บริการครับ



    ร้านกาแฟที่ให้บริการทั้งกาแฟสด ไอศครีมโฮมเมด และ เค้ก



    วิวทิวทัศน์หน้าร้านกาแฟ ชิลดีแท้



    อีกมุมจากร้านกาแฟ



    มีมุมนั่งชิลสบายๆ โดยรอบบริเวณ



    เนื่องจากตรงนี้เป็นภูเขา การออกแบบโครงสร้างจึงต้องเล่นระดับ และ Panoza ก็ถูกออกแบบมาได้อย่างลงตัว สามารถขึ้นไปดูวิวชั้นสองและบนหอคอยชั้นสามได้จากบันไดข้างๆ ร้านค้า



    วิวทิวทัศน์จากชั้นสองครับ



    มองไปอีกข้างจะเห็นพนาลีรีสอร์ท หลังใหญ่บนเนินเขา ออกแบบสวยงามจริงๆ ทีแรกก็กะจะมานอนที่บ้านหลังนี้ แต่จองไม่ทัน เต็มไปเสียก่อน



    ขึ้นมาถึงชั้นสามซึ่งเป็นชั้นบนสุดที่ถูกโฆษณาว่าชมวิวแบบ 360 องศา ก็จริงอย่างคำบอกครับ มองไปรอบๆ ตัว ก็เห็นวิวสวยๆ ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นวิวมุมสูงของ Panoza



    วิวพนาลีรีสอร์ท



    เป็นอีกรีสอร์ทหนึ่งที่ผมอยากเข้าพัก แต่ไม่มีโอกาสเสียที



    วิวทิวป่าสนด้านตรงข้าม Panoza



    ถนนและทิวเขาซึ่งมุ่งหน้าไปยังน้ำตกเก้าชั้นและธารน้ำร้อนบ่อคลึง



    หลังจากเพลิดเพลินกับการชมวิว 360 องศาจนเต็มอิ่ม ก็ลงมาเดินเล่นด้านล่าง เหลือบไปเห็นหมาหน้าเหมือนโลโก้ของ Hush Puppies น่ารักมาก เลยเข้าไปเล่นด้วย แต่ท่าทางเขาจะไม่สนใจผมเท่าไรนัก เจ้าของเลยให้แพนเค้กเพื่อหลอกล่อให้เจ้า "มีทอง" มาสนใจผม เพียงแค่มีแพนเค้กอยู่ในมือเท่านั้นแหละ จับมือโพสต์ท่าให้ถ่า่ยรูปได้ทันที



    จากการได้พูดจากับเจ้าของรีสอร์ททำให้รู้ว่าเจ้าของรีสอร์ทน่ารักและอัธยาศัยดีมากเลยครับ คุยกันได้ซักพัก เขาก็ปล่อยหมาออกมาอีกตัวชื่อ "มีิเงิน" เป็นหมาพันธุ์โกลเด้นตัวใหญ่ยักษ์ เข้ามาทักทายผมด้วยเสียงเห่าคำรามจนผมตกใจ เนื่องจากไม่เคยเจอโกลเด้นเห่าได้มาก่อน เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเจ้ามีเงินมาฝากเพราะเล่นกับมันจนเพลินไปหน่อย ชื่อหมาที่รีสอร์ทนี้เป็นมงคลมากเลยครับ เจ้ามีเงินและเจ้ามีทอง



    ระหว่างผมเล่นกับเ้จ้ามีเงินมีทองอยู่นั้น แฟนผมก็กำลังสร้างสรรค์งานศิลปะอยู่ โดยซื้อหมีตัวน้อยมาระบายสี สนนราคาอยู่ที่ตัวละ 20 บาท พร้อมสีเลือกใช้ได้ตามใจชอบ



    ออกมาได้หมีสีชมพูัตัวนี้ครับ ก่อนทำเสร็จผมว่ามันสวยกว่านี้นะ พอเติมอะไรๆ มากไป มันเลยดูเยอะ



    หลังจากอยู่ที่นี่ได้ชั่วโมงกว่าจนตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ก็ถึงเวลาต้องจากลาPanoza



    ไว้วันหลังจะแวะมาอีกน้า Panozaและเจ้ามีเงินมีทอง



    ติดตามต่อ Part 2 คลิ๊กที่นี่ครับ


    Create Date : 09 ตุลาคม 2554
    Last Update : 18 ตุลาคม 2554 20:44:42 น. 5 comments
    Counter : 14922 Pageviews.

     
    ตามไปเที่ยวด้วยคน
    รีวิวราชบุรีครบถ้วนหลายทริป ขอบคุณค่ะ
    ช่วงนี้น้ำท่วมเปล่าค่ะ อยากพาคุณแม่ไปเที่ยว
    vote ให้ค่ะ


    โดย: pantawan วันที่: 9 ตุลาคม 2554 เวลา:11:35:01 น.  

     
    สวัสดียามบ่ายค่ะ

    ขอตามมาเที่ยวสวนผึ้งด้วยคนค่ะ

    ขอให้มีความสุขกับวันหยุดนะคะ....emo


    โดย: iamorange วันที่: 9 ตุลาคม 2554 เวลา:12:54:18 น.  

     
    ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ

    กำลังจะพาครอบครัวไปเที่ยวเหมือนกัน
    ไม่ทราบจะมีบ้านพัีกหลังใหญ่ทั้งครอบครัวไหม



    โดย: buabusaba วันที่: 9 ตุลาคม 2554 เวลา:13:33:47 น.  

     
    ขอบคุณครับคุณpantawan ได้ข่าวจากเพื่อนว่ายังไม่ท่วมครับ ผมก็ติดตามอยู่ เพราะมีธุระต้องไปที่นั่นสิ้นเดือนนี้ด้วย

    ขอให้มีความสุขเช่นกันครับคุณiamorange

    คุณbuabusaba ที่สวนผึ้งมีบ้านหลังใหญ่ครับ สำหรับ 4 คนก็มี สำหรับ 15 คนก็มีครับ


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 9 ตุลาคม 2554 เวลา:21:29:26 น.  

     


    โดย: Kavanich96 วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:7:58:38 น.  

    ชื่อ :
    Comment :
      *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
     
     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.