|
ช่องคลอดอักเสบ สามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง
แค่สังเกตตัวเองก็พอ เพราะอาการคันในที่ลับเฉพาะนั้น อาจมาจากหลายสาเหตุ ซึ่งมีความรุนแรงมากน้อย แตกต่างกันไป สำหรับคนที่เป็นช่องคลอดอักเสบนั้น สามารถแยกย่อยออกเป็น 2 สาเหตุของการเกิดโรค
คนที่ช่องคลอดอักเสบที่มีสาเหตุมาจากเชื้อรา จะรู้สึกคันในช่องคลอด หรือรอบๆ ปากช่องคลอดอย่างมาก และมีตกขาวเป็นลักษณะข้นขาวคล้ายแป้งเปียก หรือคราบนม อาจมีความรู้สึกเจ็บขณะร่วมเพศ หรือปัสสาวะบ่อย และอาจจะปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย บางคนเป็นมากอาจจะมีผื่นแดงรอบๆ ปากช่องคลอดหรือบริเวณขาหนีบ ซึ่งสร้างความรำคาญใจแก่ผู้เป็นอย่างมาก
ส่วนกรณีผู้ป่วยช่องคลอดอักเสบจากเชื้อพยาธิ จะรู้สึกคันภายนอก หรือภายในช่องคลอดมาก บางครั้งมีขัดเบา และตกขาว ออกเป็นสีเหลืองหรือเขียว มีกลิ่นเหม็น ผลจากการตกขาวทำให้มีอาการบวมแดง และปวดขณะปัสสาวะ มักมีปริมาณปัสสาวะมาก และมีลักษณะเป็นฟอง หากการอักเสบลุกลามเข้าไปทางท่อปัสสาวะ จะทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้เช่นกัน นอกจากนี้ การติดเชื้อพยาธิทริโคโมแนส เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งของมะเร็งปากมดลูกได้ หากมีการปล่อยปละละเลยนานเกินไป เนื่องจากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ บริเวณปากมดลูกจนกลายเป็นมะเร็ง แต่ถ้าได้รับการรักษาทันที เมื่อหายจากติดเชื้อ ก็จะกลับสู่สภาพปกติเหมือนคนทั่วๆ ไป
ในรายที่มีการตั้งครรภ์ หากเกิดการติดเชื้อในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ จะทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย และมีภูมิต้านทานต่ำ
ดังนั้น การจะให้ร่างกายเราปราศจากโรคภัย คือการเสริมสร้างภูมิชีวิตของตนเองให้แข็งแรง ทั้งนี้นอกจากจะออกกำลังกาย และรับประทานอาการให้ถูกสุขลักษณะแล้ว เราจำเป็นต้องเข้าใจถึงระบบการทำงานของร่างกายเราด้วย หากเราเข้าใจอย่างผิดๆ แน่นอนว่าโรคภัยไข้เจ็บจะถามหาท่านอย่างแน่นอน
Create Date : 27 มิถุนายน 2555 | | |
Last Update : 27 มิถุนายน 2555 15:19:33 น. |
Counter : 1063 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เตือนกินไส้กรอก-แฮม มาก ๆ เสี่ยงมะเร็ง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ใครชอบทานไส้กรอก แฮม เบคอน บ้างเอ่ย? เรารู้ว่า อาหารประเภทนี้เป็นของโปรดของใครหลาย ๆ คน เพราะหาซื้อง่าย กินง่าย แถมยังอร่อย แต่รู้ไหมว่า ในเนื้อสัตว์แปรรูปแสนอร่อยเหล่านี้มีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "โซเดียมไนไตรท์" ผสมอยู่ ซึ่งสารชนิดนี้มีอันตรายต่อสุขภาพแน่นอน หากรับประทานมากเกินไป ไปติดตามสกู๊ปดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ จากทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กันค่ะ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้ไปตรวจสอบไส้กรอกที่วางขายอยู่ตามตลาด และพบว่า มีหลายยี่ห้อที่บนฉลากระบุว่า ใช้วัตถุเจือปนอาหาร แต่ไม่ระบุว่า เป็นสารชนิดใด ผสมอาหารในปริมาณเท่าไหร่ และควรบริโภคแค่ไหนจึงไม่เป็นอันตราย
สำหรับวัตถุเจือปนอาหารที่ระบุไว้นั้น คือ สารโซเดียมไนไตรท์ ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์จำพวกไส้กรอก แฮม เบคอน แหนม กุนเชียง หรือไส้กรอกเปรี้ยว โดยสารนี้เป็นผลึกสีขาว คล้ายน้ำตาลทราย ใช้สำหรับผสมอาหารประเภทเนื้อสัตว์หมัก เพื่อคงสภาพสีและกลิ่นของไส้กรอก ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะไว้ได้นาน แต่หากได้รับสารชนิดนี้ในปริมาณมากเกินไปก็มีอันตรายเช่นกัน เพราะเมื่อสารชนิดนี้ไปทำปฏิกิริยากับสารเคมีในเนื้อสัตว์ อาจก่อให้เกิดโรคชนิดเฉียบพลัน และโรคเรื้อรัง อย่างเช่น โรคมะเร็ง
เมื่อสอบถามไปยัง ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ก็ทราบว่า การบริโภคอาหารประเภทนี้บ่อย ๆ จะทำให้เกิดพิษเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากการที่ไนไตรท์ทำปฏิกิริยาขึ้นในร่างกาย แล้วเกิดเป็นกรดไนตรัสขึ้นมา เมื่อลงไปในกระเพาะอาหาร พอเวลาที่เราทานอาหารประเภทโปรตีนเข้าไป ตัวกรดไนตรัสจะไปทำปฏิกิริยากับโปรตีน เกิดเป็นไนโตรซามีน ซึ่งไนโตรซามีนเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งได้ หากเราทานอาหารที่มีไนไตรท์สะสมเข้าไปนาน ๆ สารนี้จะค่อย ๆ ทำปฏิกิริยาไปเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง
ทั้งนี้ ในหลาย ๆ ประเทศไม่ได้ห้ามการใช้สารไนไตรท์ในอาหาร เพียงแต่ต้องใช้ในปริมาณที่ระบุไว้ตามกฎหมาย เช่น ในประเทศเกาหลี ไม่ให้ใช้ไนไตรท์เกิน 70 มิลลิกรัม ต่อ เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม ขณะที่ในสหภาพยุโรป ไม่ให้ใช้ไนไตรท์เกิน 150 มิลลิกรัม ต่อ เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม ส่วนประเทศไทย มีข้อบังคับว่า ไม่ให้ใช้ไนไตรท์เกิน 125 มิลลิกรัม ต่อ เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม
เพื่อเป็นการตรวจสอบว่า ผลิตภัณฑ์จำพวกไส้กรอกที่วางขายอยู่ในท้องตลาด มีปริมาณไนไตรท์อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ ทีมข่าวไทยพีบีเอส จึงได้ร่วมมือกับคณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทดสอบปริมาณสารไนไตรท์ที่ตกค้างอยู่ในไส้กรอก โดยสุ่มตัวอย่างจากไส้กรอกที่วางขายอยู่ตามท้องตลาด และหน้าโรงเรียน
ภายหลังการทดสอบ พบว่า มีปริมาณไนไตรท์ตกค้างอยู่ในไส้กรอกประมาณ 100 มิลลิกรัม ต่อ เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม ซึ่งแม้ว่าตัวเลขนี้จะไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 125 มิลลิกรัม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มกลัวแล้วว่า เราจะยังสามารถทานไส้กรอกได้หรือไม่ ซึ่ง ผศ.ยุพร พีชกมุทร ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร สจล. ก็ได้ให้คำแนะนำว่า เราสามารถทานอาหารจำพวกนี้ได้ แต่อย่าทานต่อเนื่องทุกวัน เพราะหากไม่ได้รับประทานอาหารประเภทนี้บ่อย ๆ การสะสมของไนไตรท์ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
Create Date : 24 มิถุนายน 2555 | | |
Last Update : 24 มิถุนายน 2555 11:53:16 น. |
Counter : 1044 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
กินของหมักดองเสี่ยงต่อสุขภาพหญิง
กินของหมักดองเสี่ยงต่อสุขภาพหญิง (ไทยโพสต์)
ของหมักดองกับผู้หญิงดูเหมือนจะจี๊ดจ๊าดเป็นของคู่กัน แต่คุณผู้หญิงน่าจะเรียนรู้ว่า การรับประทานของดองส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก
รายงานข่าวระบุอันตรายจากการกินของดองสำหรับคุณผู้หญิงที่ควรระวัง ได้แก่
1.ปวดท้องน้อย จะปวดเวลาที่เราใกล้จะมีประจำเดือนมากหรือช่วงมีประจำเดือน 1-2 วันแรกปวดมากผิดปกติ (คือ ถึงกินยาแก้ปวดก็ไม่หายหรือทุเลาแค่นิดหน่อย)
2.มีตกขาวมากกว่าปกติ หรือขุ่นเหลือง เขียว และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาด้วย
3.คันยิบ ๆ ตลอดที่จุดซ่อนเร้น เวลาที่มีตกขาวออกมาเยอะ (เนื่องจากตกขาวของคุณเกิดอาการอักเสบ)
ถ้าหากใครมีอาการเริ่มต้นดังต่อไปนี้ แนะนำว่าควรไปตรวจที่แผนกสูติฯ ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทันที ไม่ว่าจะเป็นการตรวจภายใน อัลตราซาวด์ ตรวจมะเร็งปากมดลูก ตกขาว ช็อกโกแลตซีสต์ ถ้าอายุน้อย ๆ ควรตรวจตั้งแต่แรกจะดีมาก ถ้าบางคนไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็บอกหมอได้ เพื่อป้องกันสุขภาพของคุณ ๆ ไว้ก่อน
แต่ทางที่ดีคุณควรจะงดทานของดองไปตลอด หรือหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง แล้วสุขภาพของคุณจะดีขึ้นมาก ๆ และจะไม่ปวดท้องน้อยเนื่องจากอาการอักเสบของมดลูกอีกเลย เพราะอาการดังกล่าวอาจจะก่อให้เกิดโรคที่คุณผู้หญิงทั้งหลายไม่รู้ก็ได้
Create Date : 24 มิถุนายน 2555 | | |
Last Update : 24 มิถุนายน 2555 11:52:09 น. |
Counter : 707 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|