นุ้ย เกศริน จัดให้ วาบหวิว สยิว ทรวง นุ้ย เกศริน จัดให้ วาบหวิว สยิว ทรวง วาบหวิว สยิว ทรวง นุ้ย เกศริน จัดให้          มีของเด็ด ของดี โดนตา ต้องอารมณ์มาให้คุณๆ ได้หัวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะกันอีกแล้ว          สำหรับภาพสยิวลอตใหม่ ที่มีนางแบบ-นักร้องน้องใหม่ ''นุ้ย'' เกศริน เอกธวัชกุล มาเชื้อเชิญความรู้สึกของหนุ่มๆ ให้กระเจิดกระเจิง ตั้งแต่ภาพแรกที่เปิดมายล           ถือเป็นการกลับมาขึ้นปกนิตยสาร Zoo อีกครั้ง ตามคำเรียกร้องของบรรดาคทาชายที่อยากเห็นเนื้อหนังมังสา ที่โหนกนูนไปแทบทุกส่วนสัด นุ้ย เกศริน นุ้ย เกศริน นุ้ย เกศริน นุ้ย เกศริน ขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา   Create Date : 03 ธันวาคม 2553     0 comment Last Update : 3 ธันวาคม 2553 9:19:34 น.     Counter : 3491 Pageviews.   Share Tweet

แดน ผวา ก้อย ขู่ฆ่า เผาบ้าน แดน ผวา ก้อย ขู่ฆ่า เผาบ้าน โชว์หลักฐานSMS แดนผวา ก้อย ขู่ฆ่า-เผาบ้าน     "แดน ดนัย" ชูหลักฐานโต้กลับ "ก้อย แพรวพรรณ" อดีตแฟนสาว มีเจตนาไม่ดี เผยอยู่คนเดียวไม่ได้ ยังรู้สึกกลัวจะโดนทำร้าย นำรูปแฟนสาวไว้หน้าหมู่บ้านเพื่อให้ผู้รักษาความปลอดภัยดูจะได้เข้ามาถึง บ้านไม่ได้ ลั่น! ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด     หลังจากตกเป็นข่าวว่า อดีตแฟนสาวที่คบกันมานานถึง 5 ปี  เกิดอารมณ์พิษรักแรงหึง บุกเข้าไปสาดน้ำยาเคมีชนิดหนึ่งใส่ใบหน้า นักแสดงหนุ่ม "แดน" ดนัย สมุทรโคจร ถึงบ้านของฝ่ายชาย จนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าบางส่วนโดยเฉพาะที่ปาก และบริเวณมือทั้ง 2 ข้าง   ซึ่งทราบภายหลังว่าน้ำที่อดีตแฟนสาวของหนุ่มแดนใช้สาดนั้นเป็นน้ำยาล้างห้อง น้ำผสมโซดาไฟ โดยด้านหนุ่มแดนได้แจ้งความกับตำรวจดำเนินกับอดีตแฟนสาวในวันเกิดเหตุทันที      ต่อมา "ก้อย" แพรวพรรณ สมพงษ์มิตร อดีตแฟนสาวนักแสดงหนุ่ม ได้จัดแถลงข่าวเปิดใจ โดยเจ้าตัวได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมน้ำตานองหน้า ว่าไม่เจตนาทำร้ายใคร วันเกิดเหตุไปเคลียร์ปัญหาและขอคืนดี  เมื่อใดที่รู้สึกห่างเหินตนก็เสียใจทุกข์ใจจนอยากจะตายให้ได้ จึงได้เตรียมน้ำโซดาไฟผสมกับน้ำยาล้างห้องน้ำไปด้วยหวังที่จะประชดรักด้วย การกินโซดาไฟที่ผสมกับน้ำยาล้างห้องน้ำให้ตายไปต่อหน้าแดน ไม่ได้คิดที่จะทำร้ายอดีตแฟนหนุ่มแต่อย่างใด    ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 53 ณ ร้านโสต รัชดาซอย 4  นักแสดงหนุ่มพร้อมผู้จัดการส่วนตัว ได้จัดแถลงข่าวเปิดใจพร้อมชูหลักฐานโต้กลับอดีตแฟนสาวที่บอกว่าไม่มีเจตนา ที่จะทำร้ายตัวเอง ซึ่งหนุ่มแดนได้เผยว่า อดีตแฟนสาวได้มีการส่ง SMS มาขู่ และเคยขู่ว่าจะเผาบ้าน ซึ่งตอนนี้ตนเองยังมีความรู้สึกกลัวว่าอดีตแฟนสาวยังจะมาทำร้ายไม่สามารถ อยู่คนเดียวได้ พร้อมบอกอีกว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะกลัวว่า ตนอาจจะไม่ใช่ผู้ชายคนสุดท้ายที่จะโดนกรณีอย่างนี้      "ประเด็นที่ผมจะแถลงข่าวมีประเด็น 2-3 อย่างนะครับ ก่อนอื่นเลยผมอยากขอบคุณคนที่ให้กำลังผมมาโดยตลอดนะครับ อย่างเพื่อน คนที่ผมทำงานด้วย ผู้ใหญ่ทางช่อง 7 ที่ให้กำลังใจผมมาตลอดเลยนะครับ ผมรู้สึกซาบซึ้งกับตรงนี้มากเลยนะครับ ต่อเป็นเหตุผลที่ผมจะแถลงข่าวเนี่ย ผมอยากจจะมาเคลียร์ข้อมูลที่แท้จริง เพราะแดนเข้าใจว่าที่ก้อยเค้าได้ออกมาแถลงข่าวออกมาแล้วนะครับ ผมก็รู้สึกว่าบางทีคนที่โกรธกันเนี่ย หรือว่าแค้นเนี่ย ความจริงมันจะเพี้ยนไปครับ สิ่งที่ก้อยเค้าคิดว่าเป็นความจริงเนี่ย ผมคิดว่ามันไม่ใช้ความจริงที่แท้จริง ผมไม่ได้บอกว่าเค้าโกหกนะ เค้าอาจจะเห็นอะไร และเข้าใจไปเอง และความโกรธเค้าก็มีอยู่ค่อนข้างเยอะ แล้วอีกอย่างฝที่จะพูดถึงในการแถลงข่าวครั้งนี้ คือตอนนี้แดนไม่รู้สึกปลอดภัยเลย แดนรู้สึกค่อนข้างอันตรายเวลาที่แดนอยู่ที่บ้านตัวเอง มันเป็นความรู้สึกที่น่ากลัวมาก ตอนนี้ผมได้ยินเสียงอะไรนิดๆ หน่อยๆ ผมก็จะระแวงแล้วครับ"      "แดนยอมรับนะครับว่าเราเคยคบกัน แต่แดนกับก้อยเราเลิกกันมานานมากแล้วครับ ตั้งแต่เดือนที่5 เดือนที่ 5 ของปีนี้ แล้วก็เลิกกันจริงๆ เลย ไม่ได้คบหรืออะไรกันตั้งแต่นั้นครับ การที่ได้เลิกกันมันจะมีเหตุการณ์หนึ่งที่ก้อยได้พูดถึงมาแล้ว คือตอนนั้นก้อยเข้ามาที่บ้านผม แล้วผมไม่อยู่ เค้ายังมีกุญแจอยู่ อันนี้ก็คือหลังจากที่เราได้เลิกกันเดือนกว่าๆ ตอนที่เค้าขนของออกไปจากบ้านผมเนี่ย เค้าค่อนข้างที่จะมีอารมณ์ค่อนข้างเยอะ แล้วเค้าก็ไปพังบ้านผมด้วย ตอนแรกที่เค้าพูดแถลงข่าว เค้าบอกว่า เค้าแค่เอาของบางอย่างไป ซึ่งมันไม่จริงนะครับ ผมก็เลยเอาหลักฐานบางอย่างให้ดู ว่าตอนนั้นสภาพบ้านผมเป็นยังไง ซึ่งเค้าก็ทำร้ายข้าวของบ้านผมนะครับ คือถ้าผมเอาเรื่องเค้าตั้งแต่ตอนนั้นคือ ตำรวจเค้าบอกว่าเป็นคดีแพ่ง ซึ่งเค้าอาจจะต้องเข้าคุก เค้าก็มีสิทธิจะฆ่าตัวตาย เพราะว่าเค้ามีสภาพจิตที่ไม่ค่อยจะดีนัก ผมก็เลยไม่ได้แจ้งความ แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ครับ เค้าก็น่าจะเห็นใจผม แล้วก็ไม่ทำอะไรต่อ แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ"      "คุณแม่ก็ค่อนข้างจะไม่สบายใจอยู่แล้วครับ เพราะลูกโดนอย่างนี้  ผมก็พยายามไม่คิดอะไรมาก เค้าน่าจะทำได้ครั้งเดียวแล้วก็หยุด คือมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผมก็ได้เปลี่ยนล็อคที่บ้านหมดเลย ผมรู้สึกว่าตอนนั้น เค้าพาคนอื่นมาด้วยนะ เพราะว่ามันจะมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดหน้าหมู่บ้าน ตอนแลกบัตรด้วยครับ ผมก็ทำใจแล้วครับ ผมรู้ว่าความโกรธแค้นเค้าจะเป็นยังไง ก็เลยทำใจไว้แล้วว่ามันน่าจะประมาณนี้ครับ กับเหตุการณ์ที่เกิดผม มันก็ทำให้ผมไม่ค่อยสบายใจ"    นักแสดงหนุ่มได้เล่าให้ฟังถึงเหตุกาณ์ระทึกใจที่อดีตแฟนสาวบุกสาดน้ำยาเคมีชนิดหนึ่งว่า      "ทางก้อยเค้าบอกว่า เค้าจะมาดูบ้านผม แล้วเค้าจะมาฆ่าตัวตาย นั้นคือสิ่งที่เค้าพูด แต่ขวดน้ำนั้นมาทำไม ซึ่งหลังจากที่เราเลิกกัน ช่วงแรกๆ เค้าก็จะขู่ผมตลอดเลยว่าเค้าจะฆ่าแดน แล้วก็จะเอาน้ำกรดมาสาดแดนกับแฟนแดนถ้าแดนมีแฟนใหม่นะครับ นั้นคือสิ่งที่เค้าพูดมาหลายครั้งแล้ว แล้วตอนนั้นเค้าเข้ามาพอกับขวด 2 ขวด ผมก็เลยนึกถึงสิ่งที่เค้าขู่ไว้ แล้วเค้าก็เดินไปที่เพื่อนผมที่อยู่ตอนนั้นด้วย เค้าบอกเค้าจะฆ่าตัวตาย ในสภาพตอนนั้นเค้าไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยครับ มันมีอีกอย่างที่ผมมั่นใจว่าเค้าไม่ฆ่าตัวตายในบ้านผมแน่นอน เพราะผมเก็บบ้านหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่ผมเจอตอนที่ผมเปลี่ยนผ้าปูเตียง ทำให้ผมช็อกมาก นั้นคือ มีดครับ คือเค้าเอามาด้วยแล้วก็เก็บไว้ข้างเตียงแดน ผมก็คิดว่าถ้าคนจะมาฆ่าตัวตาย สิ่งที่เค้าเอามามันเยอะไปแล้วครับ อันนี้ก็น่าจะเป็นเจตนาอื่น ผมก็ไม่รู้สึกปลอดภัยครับ แผลที่อยู่บนตัวผมคือสิ่งที่เค้าทำหมด แต่แผลของเค้า ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เค้าทำตัวเค้าเองหมด ทุกอย่างคือเค้าทำเองหมดเลย เค้าป้องกันตัวเองหมดเลย ตอนนี้ได้แจ้งความไปคือ ทำร้ายร่างกาย บุกรุก และก็ทำร้ายข้าวของ 3 อย่างครับ"   ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า แล้วเพื่อนที่มาจากอเมริกาใช่แฟนหรือเปล่า ด้านนักแสดงหนุ่มยืนยันว่าเป็นเพื่อนจริงๆ      "อีกอย่างเพื่อนแดนที่มาจากอเมริกา คือสิ่งที่เข้าใจผิดนะครับ เค้าเป็นเพื่อนนะครับ ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่แปลกอะไร แล้วตอนก้อยเค้าเข้ามา เค้าก็คงคิดไปไกล แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ  เพื่อนผมที่มาจากอเมริกาเป็นเพื่อนผมครับ"   นักแสดงหนุ่มกล่าวต่ออีกว่า "ตอนนี้ที่หมู่บ้านผมติดภาพก้อยไว้ เพื่อที่จะไม่ให้เค้าเข้ามาในหมู่บ้านเด็ดขาด แล้วผมก็ล็อกกลอน บ้านก็ติดเหล็กดัด ผมเปลี่ยนประตู คือพยายามที่จะปลอดภัยที่สุด ผมก็ระวังตัวมากขึ้นครับ"      "หลังเกิดเหตุการณ์คืนนั้นเค้าก็ส่งข้อความมาหาผมอีกว่า รู้นะว่าบ้านคุณอยู่ไหน แล้วก็หัวเราะ เป็นภาษาอังกฤษครับ ซึ่งตอนนั้นผมอยู่บ้านพ่อกับแม่ผม ตอนแรกผมคิดจะไม่เอาเรื่องนะ แต่เค้าก็ยังส่งข้อความมาอย่างนี้ วันรุ่งขึ้นผมก็เลยไปแจ้งความ ตอนนี้ผมก็พยายามติดล็อคให้เยอะที่สุด ตอนนี้ผมก็พยายามติดที่ตรวจไฟ  เพราะกลัวว่าเค้าจะมาเผาบ้าน เพราะนั้นคือสิ่งที่เค้าเคยขู่ผมมาก่อนครับ ผมคิดว่าจะขายบ้านแล้วหล่ะครับ เพราะผมอยู่ที่นั้นก็ไม่ค่อนสบายใจ"      "แดนคิดว่า ถ้าจริงที่เค้าทำเป็นเพราะความรักเนี่ย ทำไมในกรณีแดนต้องโดนพังบ้าน ต้องโดนสาดน้ำกรดด้วย คือปกติคนเราจะโกรธได้เท่านี้ แต่ทางก้อยจะโกรธเป็น 10 เท่า เค้าเป็นอย่างนี้อยู่แล้วครับ"      "คดีตอนนี้ก็มีการนัดสืบพยานแล้ว ทางเพื่อนแดนที่เป็นคนต่างชาติก็ไปขึ้นศาลสืบพยานแล้ว ทางศาลเองก็ตามตัวก้อยไป แต่เค้าก็ไม่ไป ถ้า 2 ครั้งเค้าไม่ไปก็จะโดนหมายจับ"   "ตอนนี้ผมกลัวมากครับ ผมอยู่คนเดียวไม่ได้จริงๆ เรื่องที่เค้าบอกว่าอยู่กับผมฉันสามีภรรยาก็ไม่จริงนะครับ เป็นแฟนกันปกติ มันมีช่วงหนึ่งที่ผมคิดว่า เค้าค่อนข้างมากแล้ว เป็นหนักมาก ผมก็เริ่มกลัวเค้า ก็เลยพาเค้าไปหาหมอครับ แล้วยาที่เค้าจ่ายมาคือยาที่เกี่ยวกับคนที่มาอาการแปรงปรวนทางอารมณ์ค่อน ข้างมากครับ ถ้าสมมุติว่าเค้าเป็นโรคจิตจริงๆ ก็จะนำตัวเค้าไปรักษาแล้วพอหายก็จับเข้าคุก"      "ผมไม่อยากทำโทษอะไรเค้ามาก แต่ผมอยากให้ก้อยหาย แต่ผมคิดว่าไม่ใช่ผม คราวหน้าก็จะเป็นผู้ชายคนอื่นที่จะต้องเจออย่างนี้ครับ มันเป็นอะไรที่อันตรายครับ ผมอยากให้มันจบ แต่ก็คิดว่าคนที่จะดูแลเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ก็น่าจะเป็นทางตำรวจครับ" แดน กล่าว ขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา   Create Date : 03 ธันวาคม 2553     0 comment Last Update : 3 ธันวาคม 2553 9:18:11 น.     Counter : 1056 Pageviews.   Share Tweet

เก๋ ปรับทุกข์เลิกเพราะ โอ มีกิ๊ก เก๋ ปรับทุกข์เลิกเพราะ โอ มีกิ๊ก ปิดบ้านเงียบ เก๋ ปรับทุกข์เลิกเพราะ โอ มีกิ๊ก     ''เก๋ เจษฎาวัลย์'' อดีตภรรยา ''โอ วรุฒ'' พาแม่ และ ''น้องแอร์บัส'' ลูกชาย หนีจากบ้าน จ.เพชรบรูณ์ ไปนานกว่า 3 เดือนแล้ว เพื่อนบ้านเผยไม่เคยเห็นนักแสดงพิธีกรชื่อดังโผล่มาที่บ้านหลังนี้กับ ''เก๋'' แม้แต่ครั้งเดียวนับตั้งแต่มีข่าวอยู่กินฉันสามีภรรยา และมีลูกชายด้วยกัน เพื่อนสาวคนสนิทเผย ''เก๋'' ยืนยัน ''น้องแอร์บัส'' ลูกชาย ''โอ-วรุฒ'' 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ต้องอุ้มลูกชายออกจากบ้าน ไปอยู่กับพี่สาว ที่ จ.ระยอง เพราะปัญหามือที่สาม เจ็บช้ำที่อดีตสามี มีผู้หญิงอื่นเข้ามาติดพัน เวลานี้หาเงินเลี้ยงลูก และแม่ ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง     หลังจากมีกระแสข่าวว่า ''โอ'' วรุฒ วรธรรม นักแสดงพิธีกรชื่อดัง ได้แยกทางกับ ''เก๋'' เจษฎาวัลย์ จันทร์แตง  ภรรยา วัย 23 ปี เพราะตรวจดีเอ็นเอพบว่า ''น้องแอร์บัส'' 'ด.ช.อาณาจักร วรธรรม''  ลูกชายไม่ใช่ลูก ที่เกิดกับตนเอง และนักแสดงพิธีกรชื่อดังได้ให้สัมภาษณ์กลางกองถ่ายละครเรื่อง ''ปลาไหลป้ายแดง'' ที่ รร.เรดิสัน พระราม 9 ว่าเป็นการสื่อสารจากทวิตเตอร์ที่ผิดพลาด จากการสัมภาษณ์รายการข่าวบันเทิงโทรทัศน์ช่องหนึ่ง โดย ''โอ'' ยืนยันว่า ''น้องแอร์บัส'' เป็นลูกของตน แต่ยอมรับว่าได้แยกกันอยู่กับ ''เก๋'' ภรรยา มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พร้อมระบุว่าตอนนี้อดีตภรรยาหอบลูกชายกลับมาอยู่บ้านที่เพชรบูรณ์ตามที่เสนอ ข่าวไปแล้วนั้น     ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 53 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป บ้านพักที่ ''เก๋'' เจษฎาวัลย์ จันทร์แตง กลับมาพักนั้น เป็นบ้านของนางแตงอ่อน จันทร์แตง ซึ่งเป็นมารดาของน้องเก๋ โดยอยู่หมู่ที่ 13 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แต่ปรากฏว่าไร้เงาของเก๋และมารดาอยู่อาศัยในบ้านดังกล่าว      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตรอบบ้านพบว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูงมีใต้ถุน บริเวณทางเข้าบ้านมีต้นไม้รกครึ้ม ด้านหลังตัวบ้านมีการร่องรอยการต่อเติมแต่ยังไม่เสร็จ หน้าต่าง และประตูบ้านถูกปิดเงียบในลักษณะเหมือนไม่มีใครอยู่มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว จากการสอบถามเพื่อนบ้าน (ขอสงวนชื่อ และนามสกุล) ทราบว่า ก่อนหน้านี้ราว 3 เดือนเห็น ''เก๋'' พร้อม ''น้องแอร์บัส'' ลูกชายกลับมาที่บ้าน โดยมีพี่เลี้ยงเด็กติดตามมาด้วย หลังจากมาพักอยู่ได้ไม่กี่วันก็เห็นครอบครัวนี้ขนข้าวของโดยหอบหิ้วสัมภาระ ต่างๆ ออกจากบ้านไป โดยเข้าใจว่าจะเดินทางไปต่างจังหวัดหรืออาจไปพักอาศัยกับญาติที่จังหวัดอื่น เนื่องจาก ''เก๋'' มีพี่สาวอยู่ที่ จ.ระยองและอีกคนอยู่ที่ จ.มหาสารคาม เพื่อน บ้านรายนี้ยังระบุด้วยว่า แม่ของเก๋ยังนำรถจักรยานยนต์มาฝากไว้กับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน พร้อมบอกด้วยว่าคงไปหลายวัน ส่วนเรื่อง ''เก๋'' กับสามีแยกทางกันนั้นก่อนหน้านี้ไม่มีใครระแคะระคายมาก่อน      ''บ้านนี้เขามีลูกสาว 4 คน เก๋เป็นคนสุดท้อง หลังจากที่เก๋เขามาเก็บของ และเอารถมอเตอร์ไซค์มาฝากไว้ก็ไม่ได้มีการติดต่อกลับมาเลยนะ ส่วนเรื่องที่เก๋เขาแยกทางกับสามีเขาชาวบ้านคงยังไม่รู้เท่าไหร่หรอกครับ เพราะคนแถวนี้เขาทำอาชีพเกษตรกันไม่ค่อยสนใจเรื่องอะไรแบบนี้เท่าไหร่ รถมอเตอร์ไซค์เขาเอามาฝากนานแล้วนะ ยี่ห้อฮอนด้าเวป ก็ไม่ใหม่นะซื้อนานแล้ว ตั้งแต่เขาแต่งงานกันก็ไม่เคยเห็นคุณโอมานะ ลูกสาวเขาก็จะกลับมาหาแม่ทำอะไรกินช่วงปีใหม่ ตอนที่มีข่าวว่าเขาอยู่กินกับคุณโอ ก็ไม่มีการมาจัดงานแต่งงานอะไรที่บ้านนะ แล้วแม่เขาก็ไม่ได้บอกชาวบ้านแถวนี้ เพราะลูกเขาก็แยกไปทำงานต่างจังหวัดกันหมด แม่เก๋ก็คุยกับบ้านข้างๆ ประมาณ 4-5 หลัง นานๆ เขาจะออกมาคุยกับเพื่อนบ้านดี เขาเก็บตัวอยู่ในบ้าน''      เพื่อนบ้านรายนี้บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ก่อนมีข่าวอยู่กินกับนักแสดงพิธีกรชื่อดัง ''เก๋'' ใช้ชีวิตปกติ นั่งรถโดยสารไปเรียนหนังสือที่ ม.ราชภัฏเพชรบรูณ์ แบบไปเช้าเย็นกลับ บางวันก็ไปรถของแม่เขา เพราะแม่เขาขับรถรับจ้าง ไม่รู้เหมือนกันว่า เคยคบหาดูใจกับหนุ่มคนไหนมาเป็นพิเศษ จนทำให้นักแสดง และพิธีกรชื่อดังเกิดความระวาดระแวง จนส่งผลให้ครอบครัวต้องแตกร้าวในครั้งนี้ และเชื่อว่าที่เก๋ต้องเลิกกับสามี เพราะปัญหาเรื่องเวลาที่แตกต่างกันมากกว่า ''ที่เลิกกันเพราะปัญหาครอบครัวมากกว่า ไม่น่าจะมาจากต่างคนต่างระแวงกัน ผมว่าเพราะไม่มีเวลาให้กันเหมือนที่คุณโอบอกนั่นแหละ ก็รู้สึกสงสารเด็กนะครับ เพราะเด็กเขาไม่เรื่องอะไร  ครั้งสุดท้ายที่เขามาบ้านก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าหลังจากที่เขาเอารถ มอเตอร์ไซค์ไว้ก็ไม่เคยมาอีกเลย ผมเองถ้ามีเวลาว่างก็ไปรดน้ำต้นไม้ให้เขานะ ตามภาษาคนบ้านนอกก็เวลาใครไม่อยู่บ้านก็ช่วยดูแลกันไป''      ขณะที่เพื่อนบ้านอีกรายกล่าวว่า ตนไม่ค่อยได้คบค้าสมาคมกับครอบครัวของ ''เก๋'' เพราะแม่ของเก๋ไม่ค่อยสังคมกับใคร แต่เก๋นั้นมีอัธยาศัยดี เท่าไหร่ ตั้งแต่มีข่าวว่า อยู่กินมีลูกกับ ''โอ-วรุฒ'' ก็ไม่เห็นกลับมาบ้านเท่าไหร่ นานๆ จะกลับมาเยี่ยมแม่ที โดยแต่ละครั้งก็จะมาพร้อมลูกชาย ไม่มีนักแสดงพิธีกรชื่อดังเดินทางมาด้วยแต่อย่างใด ล่าสุดที่มาก็ประมาณเดือนตุลาคม มาอยู่ 2-3 วัน แล้วก็เก็บข้าวของพาแม่ และ ''น้องแอร์บัส'' ลูกชายเดินทางออกจากบ้านจนตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาอีกเลย คาดว่า ''เก๋'' น่าจะไปอยู่กับพี่สาว ที่เปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่ จ.ระยอง เพราะเป็นพี่สาวที่ส่งเงินขึ้นมาให้ทางบ้านอยู่เป็นประจำ หรืออาจไปอยู่กับพี่สาวอีกคนที่ จ.มหาสารคามก็เป็นได้      นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากสมาชิกองค์การบริหาร ส่วนตำบล (อบต.) ตำบลน้ำชุน (ขอสงวนชื่อ และนามสกุล) ว่า หลังจากที่พ่อของ ''เก๋'' เสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปีก่อน ''เก๋'' และแม่ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านหกลังนี้ 2 คนอย่างเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร  ส่วนพี่สาวของ ''เก๋'' ได้แยกย้ายกันไปอยู่ที่ จ.มหาสารคาม และจ.ระยอง ทำงานส่งเงินให้กับทางบ้าน และส่ง ''เก๋'' เรียนจนจบบัญชี ที่ ม.ราชภัฏเพชรบรูณ์ ก่อนเข้าไปหางานทำที่กรุงเทพฯ จนมีครอบครัวกับนักแสดงพิธีกรชื่อดัง และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน      ทั้งนี้หลังจากมีข่าวว่า ''เก๋'' อยู่กินฉันสามีภรรยากับ ''โอ-วรุฒ'' แล้ว เวลาที่ ''เก๋'' กลับมาเยี่ยมบ้านทุกครั้ง มากับ ''น้องแอร์บัส'' ลูกชายเท่านั้น ไม่เคยเห็นนักแสดงพิธีกรหนุ่มมาที่บ้านหลังนี้พร้อมกันแต่อย่างใด และ''เก๋'' ก็ไม่เคยคุยโม้โอ้อวดกับใครว่ามีสามีเป็นดารา ทราบข่าวความเคลื่อนไหวจากข่าวที่มีออกมาทางหนังสือพิมพ์ และทีวีเท่านั้น เวลานี้ก็รู้สึกสงสารและเห็นใจครอบครัวเขามาก แม่เขาเองก็สูญเสียสามีไปเมีย 10 ปีก่อน ลูกก็เป็นเด็กกำพร้าพ่อ พอมาตอนนี้ ''เก๋'' ก็ยังต้องมาดูลูกคนเดียวตามลำพังอีก วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเพื่อนสาวร่วมห้องคน สนิทของเก๋ ตั้งแต่สมัยเรียนคณะบริหาร เอกบัญชี (ขอสงวนชื่อ และนามสกุล) โดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ 3 วันพอเริ่มมีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า ''น้องแอร์บัส'' ไม่ใช่ลูกชายของ ''โอ-วรุฒ''  ทาง ''เก๋'' ได้ติดต่อเพื่อนๆ มาทางเอ็มเอสเอ็น และเฟสบุ๊กโดย ''เก๋'' บอกว่าเวลานี้พาแม่ และลูกชายไปอยู่ที่บ้านพี่สาว จ.ระยอง พร้อมกับยืนยันว่า ''น้องแอร์บัส'' เป็นลูกชายของ ''โอ-วรุฒ'' 100  เปอร์เซ็นต์ และก่อนหน้าที่ข่าวแยกทางกันจะแดงขึ้น ''เก๋'' ได้โทร.มาบอกถึงสาเหตุที่พาลูกชายออกมาจากบ้าน เพราะมีปัญหาเรื่องมือที่สาม ''เก๋'' รู้สึกเจ็บช้ำที่นักแสดงพิธีกรหนุ่มมีผู้หญิงอื่นมาติดพัน เวลานี้หาเงินเลี้ยงลูกชาย และแม่ด้วยการไปทำงานที่ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง      ''เก๋เขาก็เล่นออนเอ็มเอสเอ็น และเล่นเฟสบุ๊กคุยกับเพื่อน ยืนยันว่าน้องแอร์บัสเป็นลูกชายของโอ-วรุฒ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก่อนที่จะเป็นข่าวตอนที่เขาแยกกันใหม่ๆ เก๋โทร.มาปรับทุกกับให้ฟังว่า เพราะปัญหามือที่สาม เข้ามาเกี่ยวข้อง มีผู้หญิงเข้ามาพัวพันพี่เขา เลยพาลูกชายออกมาจากบ้าน ตอนนี้เก๋เศร้าไหมเขาไม่ได้บอกใคร เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาจะเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่ง เจ็บช้ำอะไรก็เก็บไว้คนเดียว ยืนยันว่าฝั่งเก๋ไม่มีผู้ชายอื่นเข้ามาพัวพันแน่นอน ยอมรับว่าก่อนหน้าที่จะอยู่กินกับพี่เขา เก๋ก็มีคนมาจีบเยอะ คนรวยกว่านี้ก็มี แต่เก๋ไม่เลือก ที่มาเลือกพี่โอเพราะรู้สึกว่า ณ เวลานั้นพี่เขาเทกแคร์ดูแลดี ตอนที่เก๋คบกับพี่เขาไม่มีใคร100 เปอร์เซ็นต์ คบแค่คนเดียว ตอนนี้ตั้งแต่ออกจากบ้านพี่เขาไป เก๋ก็ต้องหางานทำเลี้ยง แม่และลูก เขาเพิ่งทำงานได้ 2-3 เดือน ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง พอมีข่าวเลือกน้องแอร์บัสไม่ใช่ลูกของพี่เขา เก๋เขาก็คงเสียใจ'' เพื่อนสนิทเก๋กล่าว ขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา   Create Date : 03 ธันวาคม 2553     1 comment Last Update : 3 ธันวาคม 2553 9:16:18 น.     Counter : 1847 Pageviews.   Share Tweet

ปอย เอ็ม ปัด แต่งฟ้าแล่บ ปอย เอ็ม ปัด แต่งฟ้าแล่บ เอ็ม ปอย เคลียร์ข่าวจ่อแต่งฟ้าแล่บ      นักแสดงสาวประเภทสอง “ปอย ตรีชฎา” ควงแฟนหนุ่ม “เอ็ม พีร์ระพงษ์” เคลียร์ข่าวจ่อแต่งฟ้าแล่บ หลังมีกระแสข่าวลือว่าฝ่ายชายทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอปอยแต่งงานต่อหน้าคุณแม่ ในวันเกิดของแฟนสาว แย้มปีใหม่ควงเค้าท์ดาวน์ แอนด์ ช้อปปิ้งที่อังกฤษ ที่บอกว่าจะมีข่าวดีสรุปว่ายังไง ปอย : " ปอยไม่เคยบอกเลย ไม่เคยพูดเลยค่ะ (เคยไปพูดให้ใครฟังหรือเปล่า) ไม่ค่ะ อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ ปอยไปโชว์ตัวงานอีเว้นท์หลายงานมาก ที่เขาให้ปอยใส่ชุดเจ้าสาว แล้วก็เดินคู่กับเอ็ม ที่บางกอกแฟนชั่นวีค ก็ใส่ " เคยคุยกันเรื่องแต่งานบ้างไหม " เอ็ม : “ก็คิดอยู่แล้วนะครับ แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้ (เคยคุยๆ กันไหม) เคยๆ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ " ที่บอกไม่ใช่ตอนนี้ คือกะไว้ว่าเมื่อไหร่ เอ็ม : " ต้องทำของตังเองให้ดีที่สุด นะครับค่อยมาคุยกันอีกทีเอาให้พร้อม" มีกระแสข่าวว่า เอ็มไปคุกเข่าต่อหน้าแม่ปอยในงานวันเกิดปอย บอกจะดูแลปอยตลอดชีวิตจริงไหม เอ็ม : " ไม่มีๆ ไม่ใช่เรื่องจริง คุณแม่ก็ฝากให้ดูแลอยู่แล้ว เราก็บอกทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ปอย : “ไม่มีเลยค่ะ แค่เป็นการกินข้าวของ 2 ครอบครัวเล็กๆ” เคยไปพูดขอดูแลลูกสาวเขานะ เอ็ม : " ไม่เคยๆ แม่รู้อยู่แล้ว ดูการกระทำก็รู้อยู่แล้วครับ " คุณแม่ปอยโอเคกับเราไหม เอ็ม : โอเคอยู่แล้ว" มีข่าวออกมาแล้วคุณพ่อแม่ถามไหม ปอย : " เอาจริงๆ นะไม่มีเลยคะ เพราะว่าปอยก็ งง เหมือนกัน ถ้าถามเขาก็คงรู้ว่ามันไม่น่าจะใช่ สมมติถ้าเป็นจริงเขาก็คงต้องรู้ก่อนข่าวอยู่แล้วค่ะ" คบกันมานานเท่าไหร่แล้ว ปอย : “จะปีนึงแล้วค่ะ ประมาณ 11 เดือน” ปีใหม่จะไปเคาท์ดาวน์กันที่ไหน ปอย : “คาดว่าจะไปอังกฤษค่ะ เป็นงานช็อปปิ้งเซลทั้งลอนดอนเลยคะ เอ็มก็ไปน่าจะต้องไปกับพี่สาวด้วย ไม่ได้ไปกัน 2 คน " ตอนนี้ถือว่าแฮปปี้ดี? ปอย : “แฮปปี้ค่ะ” ข่าวว่าแม่เอ็มไม่ปลื้มเคลียร์จบยัง เอ็ม : " ไม่ต้องเคลียร์ครับ เค้ายังบอกอยากให้เราคบกันนานๆ มีสิ่งดีๆให้กันและกันมากกว่า" ปอย เอ็ม ขอบคุณข้อมูลจาก rakdara.net   Create Date : 02 ธันวาคม 2553     0 comment Last Update : 2 ธันวาคม 2553 14:36:48 น.     Counter : 1080 Pageviews.   Share Tweet

ชิ โต้แทน ครูแหม่ม ไม่มีเรื่องสัมพันธ์สวาท 100% ชิ โต้แทน ครูแหม่ม ไม่มีเรื่องสัมพันธ์สวาท 100%         "ชิ อนุชา" อดีตผู้จัดการ "นาธาน" ออกโรงโต้แทน "ครูแหม่ม" ยันไม่มีเรื่องสัมพันธ์สวาทแน่นอน 100% เผยครูแหม่มเสียใจมาก เตรียมเดินทางไปออกรายการบอกเก้าเล่าสิบเย็นนี้          เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ชิ-อนุชา ลังประเสริฐ อดีตผู้จัดการส่วนตัวของ นาธาน โอมาน อดีตนักร้องฉาว เผยในรายการแฉแต่เช้า ทางคลื่น 94 EFM ถึงกรณีที่นาธานให้สัมภาษณ์กับรายการบอกเก้าเล่าสิบ ทางช่องโมเดิร์นไนท์ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.อ้างว่า ทางครูแหม่ม หรือ น.ส.พิศมัย ศรีกระบุตร อดีตแม่บุญธรรม เป็นฝ่ายเอาเงินไปทำรีสอร์ทจนหมดตัว รวมถึงความสัมพันธ์ที่สนิทเกินแม่บุญธรรมว่า "ตอนนี้สภาพจิตใจของครูแหม่มไม่ค่อยดี แก่เสียใจมากหลังได้ฟังคำให้สัมภาษณ์ของนาธาน คือเรื่องที่เชียงคาน จ.เลยเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ แต่ในมุมมองของพี่ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ครูแหม่มดูแลเขา ข้าวแดงแกงร้อนมี  บุญคุณมีต่อกันมากมายเขารู้ดีอยู่ แต่คำพูดเมื่อวานที่เขาพูดออกมา ทำให้ครูแหม่มรู้สึกเสียใจมาก และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ครูแหม่มดูแล้วร้องไห้ว่า คนที่เขาดูแลอยู่ตลอดช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา ทำไมทำหรือพูดกับเขาได้ถึงขนาดนี้ และที่ครูแหม่มเสียใจ คือการทำให้คุณพ่อ-แม่ร้องไห้"           ประเด็นที่สะเทือนใจที่สุด "ครูแหม่มบอกว่า นาธานไม่ ได้มีปฏิกิริยาก้าวร้าวกับคุณพ่อ-แม่เขา และที่สะเทือนใจคือ ครูแหม่มรู้สึกเสียใจว่าเขาเอาคนที่เป็นแบบนี้ไปอยู่กับพ่อ-แม่เขา แล้วสร้างความเดือนร้อนให้กับครอบครัวและบ้าน  จนทำให้พ่อ-แม่ต้องเสียน้ำตา" เขามีสัมพันธ์สวาทกันหรือไม่ "ไม่มีแน่นอนครับ 100% ครูแหม่มมีลูกศิษย์ลูกหาหลายคนที่มีชื่อเสียงดังๆ ในวงการ นาธานก็ เป็นหนึ่งในนั้นที่ครูแหม่มดูแลอยู่ ไม่มีเรื่องสัมพันธ์สวาทแน่นอน 100% แต่ถามว่ามีความรักพิเศษไหม ครูแหม่มเอ็นดูมากเป็นพิเศษ เพราะว่าไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้นาธานก็จะรู้สึกว่า รักและเอ็นดูมากเป็นพิเศษ  จริงๆ แต่ไม่มีเรื่องสัมพันธ์สวาทแน่นอน"           คนที่เลี้ยงดูปูเสื่อนา ธานมา มีใครที่มีสัมพันธ์สวาทหรือไม่ "ไม่มีครับ ทุกคนเอ็นดูนาธาน ด้วยความที่เขามีความที่น่ารัก เป็นลิตเติ้ลบังที่น่ารัก" นาธานยืนยัน ว่าเขาเป็นคนเงินไปช่วย "เรื่องนี้ต้องฟังกันต่อไป พี่ต้องบอกตรงๆ ว่าเรื่องที่เชียงคาน พี่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเยอะ เพราะว่าเราไม่ได้ติดต่อกันเลย เพิ่งรู้เรื่องราว 1 สัปดาห์เองว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่ในใจพี่รู้อยู่แล้ว" คิดอย่างไรกับการให้สัมภาษณ์ของนาธาน "ช่วงเวลาที่ผ่านมา กับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เราต้องยอมรับว่านาธานมี พื้นที่ยืนในสังคมน้อยอยู่แล้ว และการไปใช้ชีวิตที่เชียงคานก็เหมือนเป็นโอกาสใหม่ที่ดี แล้วยังทำพฤติกรรมแบบเดิมอีก เหมือนกับการขี้รดบ้านตัวเองอ่ะ แล้วทุกวันนี้จะอยู่ยังไง แล้วยิ่งทำกับคนที่มีบุญคุณกับเขาพี่ก็รับไม่ได้เหมือนกัน สังคมตัดสินแล้วแหละว่าเขาเป็นอย่างไร"            ระหว่างกันแตกหักกันเมื่อไร "ช่วงประมาณปี 2546 ก่อนสึนามิ ช่วงที่เขาไปออสเตรเลีย แล้วกลับมา ให้รอดูกันต่อไปว่าเขาจะออกมพูดว่าอย่างไรดีกว่า ซึ่งวันนี้ครูแหม่มจะเดินทางไปออกรายการบอกเก้าเล่าสิบ ซึ่งตัวพี่เองก็จะไปด้วย" จะออกพ็อกเกตบุ๊กแฉ เล่ม 2 "หลายคนบอกว่าพี่จะเขียนหนังสือเล่น2 แฉเรื่องนั้น เรื่องนี้อีก ขอบอกตรงนี้เลยว่า จะไม่มีหนังสือเล่ม 2 อีกต่อไป เพราะพี่จะไม่ขอเอาประโยชน์อะไรจากตัวเขาคนนี้อีกเลย เดี๋ยวจะมาคิดว่าพี่เกาะกระแส เอาเรื่องราวของเขาไปเขียนแล้วได้เงินมา เดี๋ยวจะต้องมานั่งคิดถึงข้าวแดงแกงร้อน พี่ไม่เอาแล้ว". ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ   Create Date : 02 ธันวาคม 2553     0 comment Last Update : 2 ธันวาคม 2553 14:28:34 น.     Counter : 861 Pageviews.   Share Tweet