just can't {imagine} our ends
Group Blog
 
All blogs
 
รักหนัง ชอบหนัง (แทบกินหนังแทนข้าวแย้ว) อ่านกันได้ spoil ม่ายเยอะหรอก

FAME (1980)
ขยับเท้า ก้าวสู่ฝัน




ขอแนะนำหนัง(ที่เพลงประกอบ)น่าดู
เขียนไว้แต่ปีมะโว้ละ
แต่ชอบจังเลย
เพลงสุดจะเพราะเลยอ่ะ

วัยที่มีสีสัน วัยแห่งอิสระในการค้นหาความเป็นตัวเองอย่างแท้จริง วัยที่ทุกคนเห็นพ้องกันว่า เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต

จุดเปลี่ยนของชีวิต จุดพลิกผัน
สภาพแวดล้อม สามารถเปลี่ยนแปลงคนได้ (จริงหรือ)
การแสดง หนีจากโลกความเป็นจริง เข้าถึงตัวตนที่ไม่ใช่ตัวเรา
หลีกหนีตัวตนแท้จริง พยายามจะเป็น ในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง
ทุกคนต่างต้องเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคของตน ต้องหาวิธีรับมือและแก้ไขมันให้ได้ด้วยตัวเอง




หยิบหนังเรื่องนี้มาจากร้านเช่าวีซีดีแถวบ้านเพื่อน เพิ่งเข้ามาใหม่(หมายถึงในชั้นนะ) ดูหนังเรื่องนี้ ทีแรกคิดว่าเป็นหนังที่สร้างเมื่อไม่นานมานี้ ที่ไหนได้ ตั้งแต่ปี 1980 นั่นเชียว(เกิดกันไม่ทันเลยสิท่า) ทว่าภาพและเนื้อหายังคงสะท้อนภาพวัยรุ่นให้เราเห็นกัน ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยผ่านไปยังไง ช่วงชีวิตที่สดใส ซาบซ่าที่สุดในการดำรงชีวิต ก็ตอนเป็นวัยรุ่นนี่ล่ะ


เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวข้องกับชีวิตนักเรียนในโรงเรียนการแสดง (ในต่างประเทศ มีโรงเรียนการแสดงกันจริงๆจังๆ ก็น่าจะคล้ายกับคณะศิลปกรรมศาสตร์บ้านเรานั่นล่ะ)
ตั้งแต่การคัดเลือกเข้าเรียน ชีวิตระหว่างการเรียนทั้งในและนอกห้องเรียนตลอด 4 ปี จนกระทั่งในงานพิธีจบการศึกษา
หนังให้เราเห็นตัวละครตั้งแต่เริ่มต้นคัดเลือก ค่อยๆ ติดตามพัฒนาการ การเรียนรู้ชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นทีละเล็กละน้อย เห็นความเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนได้อย่างชัดเจน หากมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของพวกเขา เรา(ลอบ)ตามพวกเขามาไกลมาก พบเจอทั้งความสุขสนุกสนาน ความคิดที่เป็นอิสระ(ไม่รู้ได้ความขึ้นตามอายุหรือเปล่า) ตัวตนที่แท้ของแต่ละคน คือสิ่งที่เราตามมาดูหรือไม่ ความทุกข์ อุปสรรคที่ต้องฝ่า หลงทางไป เสียเวลาก็บ้าง แต่จากจุด(วันจบการศึกษา)ที่เราหยุดแล้วยืนมองกลับไป ช่างคนละเรื่องเดียวกับตอนตัดสินใจเริ่มก้าวเดินเลยทีเดียว และนี่เอง อาจเป็นจุดเริ่มก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง เริ่มอะไรใหม่ๆ เมื่อได้ค้นพบตัวตนภายในตัวเองอย่างแท้จริง

ตัวละครหลักๆในเรื่องมีหลายคนทีเดียว(ก็เป็นนักเรียนการแสดง เวลาดังก็ต้องแบ่งๆกันไป) แต่ที่มีบทบาทให้เห็นและติดตามได้ก็มี

มอนท์โกเมอรี ชายหนุ่มผู้สืบสายเลือดนักแสดง ทว่ามีเบื้องลึกบางอย่างซุกซ่อนอยู่

ราอูล ผู้แสนกะล่อน สนุกสนานจนเพื่อนหมั่นไส้ ดอริส สาวน้อยเงียบ เรียบ นิ่ง (เอ แล้วเธอผ่านการคัดเลือกมาได้ยังไง)

บรูโน ชายผู้เปี่ยมพรสวรรค์ทางด้านดนตรี แต่อาจารย์ไม่เปิดใจรับ

โคโค่ สาวผิวสีเส้นเสียงสวย มั่นใจสุดๆ และลีรอย หนุ่มซ่า บ้าบิ่น ผู้ไม่คาดฝันว่าจะได้เรียนการแสดง


(สิ่งที่พวกเขาแสดงออก ล้วนมีสาเหตุและที่มา)ลักษณะที่ปรากฎออกมาภายนอก ล้วนมาจากต่างประสบการณ์กัน ซึ่งต่างคนก็มีชีวิตนอกโรงเรียนที่ต่างกันไป และให้เรามีโอกาสรับรู้ปัญหาของทุกคน ซึ่งพวกเขาก็เป็นคนเหมือนกันกับเรา ทุกคนอยู่ในวัยใกล้เคียงกับเรา และต่างก็มีปัญหา สิ่งนี้ยิ่งทำให้ตัวละครดูมีมิติและสามารถสื่อสารถึงผู้ดูได้อย่างใกล้ชิดขึ้น ทำเราเชื่อสนิทและคอยเอาใจช่วยอยู่ตลอด ปัญหาใหญ่ในชีวิตของทุกๆคน หนีไม่พ้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวของพวกเขาเอง หลายครั้ง สิ่งที่คิดและตัดสินใจ อาจขาดการไตร่ตรอง ทบทวน อย่างรอบคอบ เนื่องจากประสบการณ์อันอ่อนด้อย ความมั่นใจในตัวเองสูง คึกคะนอง กล้าคิดกล้าทำ (ฮอร์โมนพุ่งกระฉูด) ถ้าหากได้นำความสุดโต่งเหล่านี้มาสร้างประโยชน์ คงมีคุณมหาศาล แต่เป็นตรงกันข้าม อาจได้ลิ้มรสเศร้าเคล้าน้ำตาแห่งความเสียใจ สำนึกผิด ของทั้งตนเองและผู้ใกล้ชิด

ฉากประทับใจ (มีหลายฉากทีเดียว) มีเพลงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยตลอดเลย จะไม่ชมเพลงด้วยก็กระไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นฉากในโรงอาหารของโรงเรียนช่วงพักกลางวัน ที่ดนตรี(เพลง Hot lunch jam)รวมทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียว ทุกจังหวะ ทำนองที่เกิดขึ้นล้วนสอดประสานเข้าเป็นเพลงเดียวกัน

ฉากบนถนนตอนเลิกเรียน (กับเพลง Fame) ที่พ่อบรูโนนำเพลงของลูกชายมาเปิด ได้เห็นความสนุกสุดเหวี่ยงของผู้ที่ได้ฟัง

และฉากเล่นเปียโนบนเวทีฝึกซ้อมที่โคโค่ได้แสดงการร้องเพลง(Out here on my own)และเดี่ยวเปียโนได้จับจิตจับใจจริงๆ

แม้ในหนังจะกล่าวถึงแต่กลุ่มคนอยากดังก็ตาม ในความเป็นจริง ลึกๆแล้วภายในจิตใจของทุกคนอยากเป็นที่รู้จัก ชื่นชม ตลอดจนคาดหวังการยอมรับจากผู้อื่น ทุกคนอยากมีและต้องการแสดงตัวตนของตัวเอง การจะมีที่ทาง(ชื่อเสียง)อยู่บนโลกใบนี้ ทุกคนต่างมีวิธีในการค้นหาคำตอบให้กับชีวิตเป็นของตัวเอง



หน้าปก dvd ที่ซื้อมา

พ่อครัวผู้ปรุงแต่งเรื่องนี้ Alan Parker ผู้เตรียมเครื่องเครา(บท)ก็คือ Christopher Gore
และที่จัดจ้านไม่แพ้เนื้อเรื่องก็เห็นจะเป็นเพลงประกอบนี่ล่ะ(เพราะมากกก) ก็มี 2 รางวัลออสการ์ปี 80
การันตี best original score และ best song โดย Micheal Gore (เอ๊ะ คุ้นๆป่ะ ยังกับงานในครอบครัวเลย) นักร้องคนสำคัญในเรื่อง ที่เล่นเป็น Coco น่ะ เธอคือ Irene Cara สาวเสียงทรงพลังที่ถนัดในการทำเพลงประกอบภาพยนตร์ อืม เธอร้องประกอบ ost. FLASHDANCE ด้วยล่ะเออ




ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน มีความอดทนต่อการเผชิญหน้าและต่อสู้เพื่อแก้ไขปัญหา รวมไปถึงความสำเร็จในการค้นหาจุดมุ่งหมายของการมีชีวิตอยู่ (เรารู้ว่าทุกคนต่างเคยท้อถอย หมดหวัง เพราะเราเองก็เช่นกัน แต่เราก็ยังเชื่อว่า ท้ายที่สุด เราจะสามารถก้าวผ่านจุดเปลี่ยนของชีวิตไปได้อย่างแน่นอน แม้ไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ขอเพียงยังมีหวัง) ขอยกคำดีๆจากหนังสือที่เราชอบเล่มหนึ่งมาฝากกัน (โตขึ้นเราอยากเป็นหมา เปล่าโฆษณาให้นะ) เวลานอนเราฝัน เวลาตื่นเราต้องมีความฝัน จะฝันใหญ่ ฝันเลิศ ยังไง แต่ขออย่าหมดไฟฝันละกัน


ปีใหม่ 2004 5-1-47แต่ทำอีกที 12-1-47อ่ะ
เขียนไปเขียนมารู้สึกเข้าตัวแฮะ ดูเหมือนมันเข้ากับชีวิตของเราในช่วงนี้จัง
ตัวเราเองก็อยากเต็มที่กับชีวิตวัยรุ่นให้มากกว่านี้จัง แต่วันเวลาไม่เข้าใครออกใครซะด้วยสิ





Heaven
นรก
สวรรค์
อยู่บนผืนดินนี้ตลอดมา
ตราบใดที่คนเรายังตกอยู่ภายใต้ อำนาจแห่งรัก



ฟิลิปปา ครูสาวสอนภาษาอังกฤษผู้อับจนหนทาง เรื่องที่สามีและเหล่าลูกศิษย์เธอ ล้วนตกเป็นเหยื่อแกงค์ยาเสพติด
ในเมื่อไม่อาจทนถูกกระทำอีกต่อไป หลังจากที่ได้มีจดหมายและเอกสารร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รู้ต่อกี่ฉบับ ในที่สุดจึงต้องเลือกหนทางตอบแทนให้สาสม
แต่แล้ว โชคก็ยังไม่เข้าข้าง เนื่องจากผู้บงการยังคงลอยนวล ในขณะที่ต้องสังเวยชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปถึง 4 คน

การเลือกทางแก้ปัญหาโดยขาดความยั้งคิด เอาความแค้นเป็นบรรทัดฐาน ย่อมส่งผลร้ายกลับมา แม้จะเป็นการลงทัณฑ์คนที่ผิดจริงๆก็ตาม

เลือกที่จะแก้แค้น
เลือกจะร่วมมือในการหลบหนี
แม้จะรู้ว่าเป็นสิ่งผิด
เมื่อเพียงแรกพบ
ให้ความช่วยเหลือ
รักแรกพบ (ขนาดเราเป็นผู้หญิง ยังอดประทับใจหน้า cate ไม่ได้เลย สวยมีเอกลักษณ์ดี)

การโกนหัว
เสื้อผ้าที่ทั้งคู่สวม

บทอัศจรรย์ ทำได้ตระการตา
ฉากหลังที่เต็มไปด้วยความสวยงามในแบบภูมิทัศน์ประเทศแม่ของฟิลิปปา(อังกฤษนั่นเอง)

คงเป็นเพราะประสบการณ์ส่วนตัวที่มีความประทับใจกับความสัมพันธ์ระดับครอบครัว จึงอดซึ้งไปกับพ่อลูกไม่ได้ ความผูกพันทางสายเลือดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นความรักบริสุทธิ์ ที่ไม่เคยเรียกร้องอะไรตอบแทน
ในเรื่อง มองว่าพ่อทำความเข้าใจ ยอมรับและเคารพในการตัดสินใจของลูกอย่างมาก แม้สิ่งนั้นจะทำให้ลูกต้องเดือดร้อนก็ตาม

ภาษาอิตาเลียน ดูมีความสวยงาม(ทั้งตาที่ต้องกวาดดูทั้ง sub ไทย และอังกฤษก็ยังเหลือหูไว้ชื่นชมกับเสียงที่ได้ยิน) ฟังแล้วเห็นรากของภาษาที่คล้ายคลึงกันในแถบภูมิภาคยุโรป

ความผิดบาปที่ฟิลิปปารู้สึก การสำนึกผิดและเสียใจในการกระทำของตนเองฉายออกมาค่อนข้างชัด แต่ยังคงต้องการนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ แม้จะเป็นศาลเตี้ยโดยตัวเธอเองก็ตาม

งานเขียนบทของผู้กำกับ Krzysztof Kieslowski และคู่หูของเขา Krzysztof Piesiewicz (ผู้มีผลงานประดับวงการภาพยนตร์เพียง 5 เรื่อง แต่เต็มไปด้วยความหมาย ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยผลงาน red ในไตรภาคของ three colours ตามที่ได้ประกาศไว้) ผู้กำกับ

สวรรค์ที่พวกเขาทั้งสองร่วมกันดำเนินไป

แม้ฉากจบจะนำความงงงันมาให้เราบ้างก็ตาม
แต่เมื่อย้อนความคิดตามกลับไปยังช่วงเปิดเรื่อง ก็พอจะปูมาให้เป็นอย่างนี้ได้(ล่ะมั๊ง)


อยากทิ้งท้ายอีกนิด ว่าแต่ละครั้งของการไปดูหนังเรื่องไหนก็ตาม สำหรับเรามันมีอะไรมากกว่าเรื่องของหนัง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งสามารถเชื่อมโยงให้เรารับรู้ความเป็นไปในวันนั้นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เหมือน diary ชีวิตยังไงยังงั้นเลย ซึ่งวันที่เราไปดูเรื่องนี้ เป็นวันที่ค่อนข้างเจ็บปวดของเรา ทั้งก่อนเข้าโรง และเมื่อหนังจบ(กว่าจะได้เข้ามาดู ช่างยากเย็นเหลือเกิน อีกทั้งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรียนค่อนข้างหนัก และความไม่เข้าใจกันกับคนใกล้ชิด) มีเพียงเรื่องราวในนั้นที่ช่วยประสานเราเอาไว้ ใครจะว่าเราเป็นเอามากก็ไม่รู้จะบอกว่ายังไงเหมือนกัน แต่มันก็คือตัวเรานี่นา



Create Date : 12 มิถุนายน 2548
Last Update : 30 มิถุนายน 2548 23:02:28 น. 16 comments
Counter : 676 Pageviews.

 
....เข้ามาเพราะชื่อหัวข้อนี้เลยครับ
รักหนัง ชอบหนัง (แทบกินหนังแทนข้าวแย้ว)

...มันบ่งบอกวันน่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน กลุ่มเสพหนังแทนข้าว555(มีเวลาแวะไปเยี่ยมเยียนบล้อกกันนะครับ ในวาระที่ทัศนคติเดียวกันแบบนี้)

...เรื่องนี้เคยเห็นแผ่นแต่ยังไม่เคยดูครับ อ่านที่คุณเล่าแล้วน่าสนใจมาก


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:21:17:22 น.  

 
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ....

โห เปิดมานี่ของแท้เลยนะค่ะ แสดงว่าชอบจริง ๆ ..


โดย: เปาหมู (salapaomoo ) วันที่: 15 มิถุนายน 2548 เวลา:12:17:37 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค๊า

ยินดีที่รู้จักค่ะ


โดย: yadegari IP: 84.66.166.223 วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:1:43:48 น.  

 
หนังที่กินแทนข้าวคงเป็น หนังไก่ทอดล่ะครับ


โดย: Bluejade วันที่: 23 มิถุนายน 2548 เวลา:17:24:27 น.  

 
ฮะฮะฮะ วันนี้จะไปดูหนังตลาดล่ะ batman อิอิ


โดย: Bluejade วันที่: 24 มิถุนายน 2548 เวลา:20:03:45 น.  

 
อาทิตย์นี้จะไปดู a lot like love ล่ะ อิอิ


โดย: Bluejade วันที่: 7 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:06:21 น.  

 
ใช่ Aston รึป่าว อิจฉาฟ่ะ
เราก็อยากดูเหมือนกัน
ทว่า
ที่นี่ มันออกไปแย้วง่ะ


โดย: quin toki วันที่: 7 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:42:04 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณจขบ. รู้เรื่องหนังเยอะจังค่ะ


โดย: ยิ้มปริศนา วันที่: 8 กรกฎาคม 2548 เวลา:9:13:56 น.  

 
แล้วมีเวลาเดี๋ยวไปดู มาดากาสก้า ด้วย เยเย้


โดย: Bluejade วันที่: 8 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:33:52 น.  

 
ถึงคุณยิ้มปริศนาค่ะ
ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่หรอกค่ะ
อาศัยความชอบเข้าว่า
แต่เรื่องนี้ จริงๆเราก็ไม่ใช่สาวกสปีลเบิร์กหรอกค่ะ
แต่รัก ET จัง

ถึงคุณหยกสีฟ้า
อิจฉาว่ะ
เอ๊ย ดูเผื่อด้วยนะคะ


โดย: quin toki วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:52:36 น.  

 

สวัสดียามค่ำคืนจ้า

คุณ quin toki สบายดีนะจ้า


จอมแก่นมาขอบคุณที่ คุณ quin toki มาร่วมแรงใจ อธิษฐานกับจอมแก่นและก็ขอขอบคุณกับทุกๆๆความรู้สึกที่มีให้ จอมแก่น ด้วยนะจ้า

..ดีจัยที่ได้รู้จักคุณ quin toki นะจ้า...

**มีความสุขมากๆๆนะจ้า**


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:27:34 น.  

 
ไปดู WOW แล้วเป็นไงบอกด้วยนะครับ อิอิ


โดย: Bluejade วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:21:43:14 น.  

 
ก็ไม่ได้บอกซะทีว่า wow เป็นเช่นไร
เฮ้อ พักนี้เหนื่อยๆ เบื่อๆ เนือยๆ
บ้าๆบอๆ
แย่จัง


โดย: quin toki วันที่: 26 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:21:48 น.  

 
Happy New Year 2006

Image hosted by Photobucket.com

ปีใหม่ปี 2006 นี้นุ้ยขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนจงมีแต่ความสุข
ความเจริญในชีวิต ขอให้สุขภาพกายและใจแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง
คิดสิ่งใดที่ดีเป็นกุศลก็ขอให้สมหวังและสามารถใช้ชีวิตให้ดีมีสติอยู่ทุกเมื่อนะคะ

Kisses & Hug from me n u ii จุ๊บๆ xox


โดย: what for ^.~ วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:21:25:36 น.  

 


อ่านแล้วเพลินจังค่ะ ชอบแนวนี้อ่ะ


โดย: nina IP: 202.91.19.194 วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:2:32:39 น.  

 


อ่านแล้วเพลินจังค่ะ ชอบแนวนี้อ่ะ


โดย: nina IP: 202.91.19.194 วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:2:32:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

quin toki
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




everything has a begining , has an end.

link to my thought
~~*http://pompom67.bloggang.com*~~




บล็อกน้อยอิเหละเขะขะ
เก็บ+กระจุกของไว้สารพัด
สารบัญก็ไม่มีให้กดง่ายๆ ขออภัยด้วยเน้อ




เคยมีคนบอกกับเราว่า
ถ้าเราไม่ได้ดูหนัง
คงหายใจไม่ออกสินะ

...
ขาดหนัง
ก็ขาดใจ
(ไอ้บ้าเอ๊ย!)

เข้าใจพูดนะเนี่ย
>_<








นิตยสารดีโอ DE.O. Magazine E-Book

issue 6

L.O.V.E.







คุณป้าสุวคนธ์ ไม้แดง

และหมาแมวจรนับร้อย

ที่กำแพงเพชร



เล่นกับแกรี่ได้นะจ๊ะ (แต่แกรี่ตัวนี้ไม่มีเขี้ยวเท่านั้นแหละ)
Friends' blogs
[Add quin toki's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.