|
โครงสร้างข้อมูล
โครงสร้างข้อมูล (Data Structure) คืออะไร ?
คือ ลักษณะเฉพาะของชุดข้อมูลที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ ที่นำชนิดของข้อมูลที่มีลักษณะพื้นฐานที่แตกต่างกันมาประกอบกันเข้า ซึ่งจะเป็นชุดของข้อมูลชนิดเดียวกันหรือไม่ก็ได้ เช่น โครงสร้างข้อมูลประเภทอะเรย์ โครงสร้างข้อมูลประเภทพอยต์เตอร์ โครงสร้างข้อมูลประเภทเรคคอร์ด เป็นต้น ลักษณะของข้อมูลที่เราเคยเรียนมานั้นไม่เพียงพอ เมื่อต้องมีการนำไปใช้งานจริง ๆ นั่นก็เพราะลักษณะของงานที่มีการใช้ข้อมูลในลักษณะเฉพาะเจาะจงลงไปนั่นเอง
อัลกอริทึม (Algorithm) คืออะไร ? คือ ขั้นตอนในการแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอนซึ่งจะมีเป้าหมายและมีแนวทางในการปฎิบัติอย่างชัดเจนโดยมีเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็คือ การแก้ปัญหานั้น ๆ ได้อย่างเป็นมีประสิทธิภาพ อัลกอริทึมนั้นมีด้วยกันอยู่มากมายหลายแบบซึ่งก็แล้วแต่ลักษณะของแนวทางในการแก้ปัญหานั้น ๆ ซึ่งอัลกอริทึมที่เรามักจะพบเห็นกันบ่อย ๆ คือ
1. อัลกอริทึมแบบแตกย่อย (Divide-and-conquer) เป็นอัลกอริทึมที่จะมีการนำปัญหาหลักที่ได้มาทำการแยกออกเป็นปัญหาย่อย ๆ แล้วนำคำตอบที่ได้จากปัญหาย่อยต่าง ๆ มารวมกันเข้าด้วยกันโดยอัลกอริทึมนี้เราสามารถ หาคำตอบของปัญหาได้ง่ายขึ้นจากการรวมคำตอบของปัญหาหลักนั่นเอง
2. อัลกอริทึมแบบเคลื่อนที่ (Dynamic Programming)
ปัญหาที่เราได้รับมานั้นบางครั้งไม่สามารถแบ่งปัญหาออกเป็นปัญหาย่อย ๆ ได้ ซึ่งถ้าเราพยายามจะแบ่งปัญหานั้น ๆ ออกเป็นปัญหาย่อยที่เล็กที่สุด อัลกอริทึมของเราอาจจะใช้เวลาทำงานเป็นแบบทวีคูณ (Exponential) ได้ แต่เวลาที่เราแก้ปัญหาต่าง ๆ เรามักจะ พบว่าบางครั้งเราต้องแก้ปัญหาย่อย ๆ ที่เหมือนกันซ้ำไปซ้ำมา โดยการหลีกเลี่ยงการคำนวณเพื่อหาคำตอบซ้ำ ๆ ซาก ๆ นี้ Dynamic Programming จะแก้ปัญหาย่อย ๆ เหล่านั้นเพียง ครั้งเดียวแล้วเก็บผลลัพธ์ไว้ ซึ่งถ้าหากพบว่าต้องมีการแก้ปัญหาย่อยนั้นซ้ำอีกเราก็สามารถนำ คำตอบมาจากคำตอบที่เคยคำนวณเก็บไว้มาใช้ได้
3. อัลกอริทึมแบบทางเลือก (Greedy Algorithm)
เป็นอัลกอริทึมที่จะหาคำตอบโดยการเลือกทางออกที่ดีที่สุดที่พบได้ในขณะนั้นเพื่อให้ได้คำตอบ ที่ดีที่สุด แต่ในบางครั้ง Greedy Algorithms อาจจะไม่สามารถหาคำตอบของปัญหาที่ดีที่สุดได้เสมอไป
โครงสร้างแบบลำดับ เป็นโครงสร้างที่มีลักษณะการทำงานแบบเรียงลำดับ คือ จะทำงานตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบโปรแกรมโดยไม่มีการข้ามขั้นตอนใด ๆ โดยมีลักษณะทางโฟล์ชาร์ต
โครงสร้างแบบทางเลือก
เป็นโครงสร้างที่มีลักษณะของเงื่อนไขเข้ามาช่วย เพื่อทำให้โปรแกรมสามารถตัดสินใจเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้ โดยผลลัพธ์ของเงื่อนไขที่ได้นั้นจะมีค่าของความเป็นได้อยู่แค่ 2 ลักษณะคือ จริงและเท็จ เท่านั้น
โครงสร้างแบบวงจร
เป็นโครงสร้างการทำงานของโปรแกรมมีลักษณะการทำงานแบบวงกลม คือ จะมีการวนกลับไปทำตามคำสั่งเดิมอีกที่จุดใดจุดหนึ่งของโปรแกรม หรือการทำซ้ำนั่นเอง โดยโครงสร้างลักษณะนี้นิยมนำไปใช้เขียนโปรแกรมที่ต้องมีการทำงานซ้ำกันหลายรอบจนกว่าจะเสร็จ เช่น การเรียงลำดับข้อมูล การออกเอกสารหลาย ๆ ชุดในคราวเดียว เป็นต้น โดยโครงสร้างแบบวงจรมีลักษณะการทำงานอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะ
1 ตรวจสอบเงื่อนไขก่อน จึงมีการกระทำคำสั่งในวงจร
2 กระทำคำสั่งในวงจรก่อน จึงค่อยตรวจสอบเงื่อนไข
Create Date : 11 ตุลาคม 2550 | | |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2550 13:00:53 น. |
Counter : 2688 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
HTML
HTML คืออะไร
HTML (HyperText Markup Language) เป็นภาษาหลักของเวิร์ลไวด์เว็บ (WWW เป็นบริการหนึ่งที่ใช้ในอินเตอร์เน็ต) ปัจจุบันมาตรฐาน HTML ถูกดูแลภายใต้องค์กร W3C (//www.w3c.org) ซึ่งมาตรฐานเวอร์ชั่นล่าสุดคือ HTML 4.01 (//www.w3.org/TR/html4) แต่เดิม HTML ถูกใช้สำหรับสร้างทุกส่วนประกอบของเว็บเพจ ตั้งแต่การกำหนดสี สร้างเฟรม สร้างตาราง สร้างฟอร์ม กำหนดขนาดอักษร ฯลฯ แต่ปัจจุบันมาตรฐาน HTML ถูกปรับแต่งใหม่ให้ทำหน้าที่อย่างจำกัดมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเฉพาะการกำหนดโครงสร้างของเว็บเพจเท่านั้น เช่น การกำหนดส่วนหัว HEAD และ BODY หรือ การสร้างตัวเชื่อม (นิยมเรียกกันว่าลิงค์) เป็นต้น ส่วนหน้าที่อื่นๆ ได้ถูกโอนไปเป็นมาตรฐานหรือภาษาตัวใหม่แทน เช่น CSS และ XForms คำสั่ง HTML แต่ละตัวนิยมเรียกกันว่า "แท็ก" ซึ่งแท็กทุกตัวจะมีเครื่องหมาย < และ > ปิดหัวท้าย ตัวอย่างเช่น , , ฯลฯ ลักษณะการทำงานของคำสั่ง HTML ส่วนใหญ่จะต้องมีการกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดลงท้าย เช่น หากต้องการทำให้อักษรแสดงผลเป็นตัวหนาเราต้องใช้คำสั่ง แล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการทำให้เป็นตัวหนา จากนั้นปิดคำสั่งด้วย เช่น สยามไอที Siam-iT เว็บไซต์ เป็นต้น ปัจจุบันคำสั่ง HTML มีอยู่เป็นร้อยๆ คำสั่ง แต่บราวเซอร์หลักอย่างเน็ตสเคปและอินเตอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ยังไม่สามารถแสดงคำสั่งได้ทั้งหมด นอกจากนี้ในบางคำสั่งบราวเซอร์ทั้งสองตัวยังแสดงผลแตกต่างกันไปอีกด้วย HTML ถือได้ว่าเป็นภาษาที่ง่ายที่สุดบนเว็บ ผู้ศึกษาไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งใดๆ ทั้งสิ้น คำสั่งก็จดจำง่ายและสื่อความหาายได้ในตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญปัจจุบันมีเครื่องมือทั้งที่ต้องเสียเงินและแจกฟรีบนอินเตอร์เน็ตมากมายให้ได้ทดลองใช้ ซอฟต์แวร์เหล่านี้ช่วยให้การเขียนเว็บเพจด้วย HTML เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น และไม่ต้องไปวุ่นวายกับโค้ด HTML เลยเพราะแค่ลากวัตถุที่ต้องการไปวางตำแหน่งที่ต้องการ พิมพ์ข้อความลงไป แค่นี้ซอฟต์แวร์เหล่านั้นก็จะสร้างโค้ด HTML ให้อัตโนมัติ สำหรับส่วนขยายไฟล์ HTML นั้นนิยมใช้กันทั้ง .htm และ .html
Create Date : 11 ตุลาคม 2550 | | |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2550 12:10:40 น. |
Counter : 622 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|