Group Blog
 
All Blogs
 

กรรมของแมว

เรื่องสั้น

กรรมของแมว

เพทาย

วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ผมลงจากรถโดยสารปรับอากาศสาย ๑๖ ที่ป้ายเลยสี่แยกมาบุญครองไปหน่อย แล้วก็เดินลัดเลาะเข้าไปในอาณาเขตสยามสแควร์ เพื่อจะไปทำบุญที่วัดปทุมวนาราม ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พอจะขึ้นสะพานลอยคนเดิน มองเห็นตู้โทรศัพท์เรียงเป็นแถว จึงนึกขึ้นมาได้ถึงแมวสองตัว ที่ส่งไปทำหมันแถวตลาดห้วยขวาง ตัวแรกป่วยมาสองสามวันแล้ว จึงยังไม่ได้รับกลับบ้าน ขอฝากไว้ให้เขาดูแลด้วย ตัวหลังเพิ่งป่วยเมื่อคืนนี้เอง เป็นโรคเดียวกันคือท้องเสีย ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีประการใด

เมื่อหยอดเหรียญลงไปในตู้โทรศัพท์ และมีเสียงกริ่งเรียกดังอยู่ในหูโทรศัพท์ของผมแล้ว ก็ยืนรอคนมารับสาย ระหว่างรอก็นึกลำดับเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นานนี้

เมื่อแม่แมวสองตัวคือ นังสีเทา กับนังอ้วน พาลูกมาอยู่ในบ้านผมนั้น ครอบครัวของนัง สีเทา อยู่ในสวนหน้าบ้าน ลูกของมันก็ค่อยลืมตาขึ้น แล้วก็โตวันโตคืน วิ่งเล่นอยู่ทั่วบริเวณ จนต้นไม้ในกระถางหงิกงอหักพับไปตาม ๆ กัน แต่ไม่ไปทางหลังบ้าน

ครอบครัวของนังอ้วน อยู่ใต้เตียงที่วางสัมภารกหลังบ้าน ซุกอยู่ในกล่องเปล่าใบหนึ่ง มันไม่ยอมให้ใครแตะต้องตัวทั้งแม่ทั้งลูก มันจะออกมาจากรังเพื่อกินอาหาร ที่ผมให้เป็นประจำ แล้วก็กลับเข้าที่ นอนให้นมลูก

จนกระทั่งลูกทั้งสองตระกูลเติบโตขึ้นมาไล่เรี่ยกัน และผมให้อาหารทางหน้าบ้าน เพื่อจะล่อให้มันออกไปกินนอกบ้าน มันก็ไม่ยอมออก แต่กินอาหารจานเดียวกันได้ จนกระทั่งลูกแมวอายุได้ประมาณห้าเดือน แม่ทั้งสองก็ทิ้งลูกมันไว้ให้ผมเลี้ยง ทั้งคู่ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในบ้านผมอีกเลย คอยอาศัยกินอาหารข้างนอกบ้านรวมกับแมวพเนจรตัวอื่น ๆ

ขณะนั้นผมจะสังเกตได้แล้ว ว่าลูกทั้งหมดของมัน ตัวไหนเป็นตัวผู้ ตัวไหนเป็นตัวเมีย ผมก็ตั้งชื่อให้มันสำหรับผมจะเรียกเอง พวกหน้าบ้านหกตัวเหลือสี่ตัว เจ้าตัวโตชื่อกระดิ่งก็เกิดป่วย นอนแบ็บไม่ยอมกินข้าวกินปลา กินแต่น้ำ หลานผมคนหนึ่ง ทำนายว่าตายแน่ ๆ แต่เขาเคยเอายาพาราเซตามอน บดกรอกให้แมวกินเมื่อนานมาแล้ว จำไม่ได้ว่าผลเป็นอย่างไร คราวนี้ผมจึงลองดูบ้าง ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นเจ้ากระดิ่งคางบวมตุ่ย คล้ายคนเป็นโรคต่อมทอลซินอักเสบ ผมก็ใจไม่ค่อยดีว่า มันเป็นของมันเองหรือเป็นเพราะยาของผม

แต่วันต่อมาอาการบวมก็ลดลง และเดินมาดม ๆ อาหารเม็ดได้ ผมก็ดีใจเที่ยวหาอาหารแมวที่เป็นซองข้างในเละ ๆ มาให้มันกิน มันก็กินได้นิดหน่อย ที่เหลือเจ้าตัวอื่นช่วยกินหมด

อีกสองสามวันต่อมา พอเจ้ากระดิ่งทุเลาลงพอจะกินอาหารเม็ดได้ เจ้าตัวรองชื่อ พุงลายก็นอนซมบ้าง แต่เจ้าตัวนี้ไม่สบายแล้วก็ออกจากบ้านหายเงียบไปเลย เจ้าตัวที่สามชื่อนมเย็นก็พลอยออกจากบ้านไปด้วย สองสามวันแรกยังมากินอาหารที่นอกบ้าน แต่แล้วก็หายเงียบหาไม่เจออีกตัวหนึ่ง เหลือแต่เจ้าตัวที่สี่ชื่อเจ้าปะซึ่งเป็นตัวเมีย จึงได้ส่งไปให้ผู้มีใจเมตตาที่ห้วยขวาง ช่วยพาไปทำหมันให้ และต้องนอนพักรอให้แผลหายอีกเจ็ดวัน แต่เพิ่งอยู่ได้ไม่กี่วัน ก็ได้รับแจ้งว่าป่วยเหมือนเจ้าตัวแรก ตั้งแต่เมื่อคืนนี้

ส่วนพวกหลังบ้าน เมื่อมันไปกินอาหารรวมกับพวกหน้าบ้านแล้ว ก็จะกลับมาเล่นหรือนอนที่หลังบ้านตามเดิม เจ้าตัวที่สองชื่อเจ้าเลอะเทอะ ออกไปนอกบ้านแล้วก็หายไปเลย ไม่ทราบว่าเป็นสุขหรือทุกข์อย่างไร เจ้าตัวที่สามชื่อมอมแมม ได้ส่งไปทำหมันก่อนเจ้าปะ ยังไม่ถึงเวลากลับบ้าน แล้วเจ้าตัวโตที่ชื่อเจ้าสั้น ก็ออกนอกบ้านหายไปอีกตัวหนึ่ง

คงเหลือแต่เจ้ากระดิ่งซึ่งหายป่วย อยู่คู่กับเจ้าซ่า ซึ่งเป็นแมวเลี้ยงที่แก่คราวพ่อคราวลุงของเจ้าพวกนี้เท่านั้น

เมื่อเจ้ามอมแมมไปอยู่ที่บ้านห้วยขวางได้ห้าวัน หลังจากทำหมันแล้ว ก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าของบ้าน ว่า มันไม่สบาย ไม่กินอาหารและท้องเสียต้องพาไปหาหมอที่คลีนิค วันที่หกเมื่อผมเอาเจ้าปะไปฝากอีกจึงถือโอกาสเยี่ยมมอมแมมด้วย เขาว่าอาการดีขึ้นบ้าง แต่ยังต้องไปหาหมอให้ฉีดยาและให้น้ำเกลืออีกครั้ง และนัดว่าอีกเจ็ดวันค่อยมารับกลับพร้อมกับเจ้าปะด้วย ผมจึงให้เงินไว้จำนวนหนึ่งสำหรับค่าหมอคลีนิค และค่าทำหมัน ขาดเหลือค่อยว่ากันวันหลัง

แต่อีกสองวันต่อมา ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าของบ้านว่า เจ้าปะไม่สบายมีอาการเหมือนเจ้ามอมแมม ต้องพาไปคลีนิคด่วน ผมก็ใจหายขอร้องให้ช่วยดูแลรักษากันต่อไปตามสมควร แล้วผมก็ภาวนาให้มันทั้งสองตัว หายป่วยกลับบ้านได้โดยเร็ว เพราะไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่านั้น

ความจริงผมไม่ค่อยเต็มใจที่จะพาแมวทั้งสองตัวไปทำหมัน เพราะตัวผมเองก็เกลียดการผ่าตัดอย่างยิ่ง ด้วยเคยถูกผ่าตัดเล็กน้อยมาสองครั้งแล้วในชีวิต การที่เอาแมวที่มันอยู่ของมันดี ๆ ไปทำให้มันเจ็บตัวนั้น มันก็คงไม่เต็มใจนัก และการทำหมันนั้นก็ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของมัน แต่เป็นประโยชน์สำหรับผม ที่จะได้ไม่ต้องเลี้ยงลูกมันเพิ่มขึ้นในภายหน้า แต่มีผู้แนะนำให้เห็นประโยชน์หลายประการและหลายคน ทั้งมีตัวอย่างให้ดูด้วยว่า หลังจากนั้นแล้ว แมวก็จะมีสุขภาพดี น่ารัก น่าเอ็นดู ผมจึงตัดสินใจพามันไปทำบ้าง โดยปลอบใจตนเองว่า มันจะได้อยู่เป็นเพื่อนกันไปอีกนาน จนกว่าผมจะตายก่อนมัน แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นการทำบุญหรือทำบาปกันแน่

เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังอยู่ในหูผมครู่หนึ่ง ก็มีเสียงยกสาย ผมก็บอกชื่อตนเอง แต่ยังไม่ทันจะพูดว่ากระไร ก็มีเสียงลอดออกมาว่า

“ เจ้าปะไปเสียแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ “

ผมนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ หนึ่ง ใจหายเหมือนได้ข่าวว่าญาติตาย เสียงเจ้าของบ้านทางโน้นเล่าความถึงการพามันไปรักษาที่คลีนิค แต่อาการไม่ดีขึ้น เพียงคืนเดียวก็อยู่ไม่ถึงเช้า เธอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่เกิดเรื่องเช่นนี้ เพราะไม่เคยมีมาก่อนเลย ช่วยเหลือพาแมวไปทำหมันมานานก็เรียบร้อยดีทุกตัว ผมก็ปลอบเธอว่า ผมไม่คิดอะไรเพียงแต่เสียใจในเคราะห์กรรมของมันเท่านั้น ส่วนเจ้ามอมแมมนั้นอาการดีขึ้น เธอบอกว่าจะต้องฉีดยาให้อีกเข็มหนึ่ง แล้วให้มารับกลับในวันพุธหน้า

ผมเดินซึมเข้าไปในวัดปทุมวนารามตามความตั้งใจเดิม นั่งรับศีลและฟังปาฐกถาธรรมจนจบ แล้วก็เอาเงินใส่กล่องรับบริจาค พร้อมกับอธิฐานส่งส่วนบุญให้กับเจ้าปะ ขอให้พ้นเวรพ้นกรรมเสียที เกิดใหม่ขอให้ได้ชีวิตที่ดีกว่านี้

เช้าวันรุ่งขึ้นผมก็ออกไปใส่บาตรอีกองค์หนึ่ง อุทิศส่วนกุศลให้แก่แมวที่เคยมากินข้าวของผมและตายจากไปแล้ว คือ นังทองดำ นังน้ำเงิน เจ้ากุฏิ เจ้าหูขาว เจ้าเดี่ยว รวมกับลูกแมวที่ยังไม่ลืมตา ตระกูลของเจ้าบุญรอดอีกหกตัว และสองตระกูลหลังนี้ ที่เพื่อนข้างบ้านบอกว่าได้เก็บศพใส่ถุงดำทิ้งถังขยะไปสามตัว และยังเหม็นเน่าอยู่ที่ใต้ถุนเตี้ย ๆ อีก ไม่รู้ว่ามันเป็นโรคอะไร ถึงได้ตายในเวลาใกล้เคียงกันถึงห้าตัว รวมทั้งสิ้นเป็นสิบหกตัวด้วยกัน

ขอจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันเลย ไม่ว่าจะไปเกิดเป็นอะไรก็ตาม

วันต่อมาผมจึงค่อยมีความสบายใจขึ้น และนั่งรถเมล์ไปรับนังมอมแมมขึ้นรถแท็กซี่กลับจากบ้านห้วยขวาง พอหิ้วตะกร้าเข้าบ้านแล้วเปิดฝาออก มันก็ออกมายืนงงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ก้าวออกเดินด้วยอาการเป๋ ๆ ปัด ๆ คงเป็นเพราะต้องนอนคุดอยู่ในกรงสิบกว่าวัน จึงทำให้แข้งขาอ่อนแรงไป บ้าง

เมื่อผมเอาอาหารเม็ดมาใส่จานให้มันกิน มันก็ไม่กินแต่เที่ยวเดินไปดมที่โน่นที่นี่ เป็นการสำรวจพื้นที่ มันคงจะจำบ้านเก่าไม่ค่อยได้กระมัง เดินสำรวจเรื่อยไปจนเข้าไปในดงไม้เลื้อยข้างบ้านแล้วก็หายเงียบ ผมคิดว่ามันคงจะเข้าไปถ่าย ก็นั่งรออยู่แต่มันก็ไม่ออกมา ร้องเรียกมอมแมมหลายครั้งก็ยังเงียบ ไม่ยอมร้องตอบ จึงเดินไปดูก็เห็นเพียงลูกตาสีเหลืองจ้องเขม็ง มันแอบอยู่ลึกเกินกว่าที่ผมจะเอื้อมมือเข้าไปได้ จึงคิดในใจว่าแล้วแต่ใจของมันเถิด ถ้าจะเกลียดขี้หน้าผม จะไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ว่า

แต่ถ้าพรุ่งนี้มันออกมากินอาหารเม็ดตามเดิม ผมก็คงจะเลี้ยงมันต่อไป เพื่อใช้หนี้ที่ทำให้มันเจ็บตัว พร้อมกับเจ้ากระดิ่ง และเจ้าซ่า จนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง สุดแต่เวรกรรม ไม่ของผม ก็ของแมวนั่นแหละ.

##########

ถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป
๖ กันยายน ๒๕๔๙


Create Date : 02 ธันวาคม 2550
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 21:12:21 น. 6 comments
Counter : Pageviews. Add to





เคยพาแมวไปทำหมัน แล้วก้อเสียใจจนทุกวันนี้ รู้สึกบาปเพราะแมวยังไม่เคยเสียพรมจรรย์เลย สงสัยผลกรรมส่งให้ไม่มีคู่จนทุกวันนี้ แย่จัง

โดย: ข้าวโพด IP: 202.123.145.203 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:00:18 น.




อย่าคิดมากครับ
ผมสงสารแมวตัวเมียพเนจร ที่ต้องท้องป่องทุกหกเดือน
ออกลูกมาแล้วก็ตายเสียครึ่งต่อครึ่ง

ตอนพาไปทำหมันครั้งแรกก็คิดกลัวบาป
แต่เราทำด้วยความหวังดีก็คงจะบาปไม่มากนัก

สำหรับตัวผู้ก็ไม่ได้ทำ เพราะคิดเข้าข้างตนเองครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:32:54 น.




แมวเร่ร่อนด้วยหรือครับ ไม่ค่อยเห็น



โดย: พี่แต้ วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:12:47:26 น.




ซอยหน้าบ้านผม มีแมวตัวผู้เดินไขว่ไปหมด
ตอนกลางคืนก็ขู่กัน กัดกัน แย่งตัวเมียกัน
ต้องตื่นดึก ๆ อยู่เสมอครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:11:07:10 น.




ผมไม่เคยเลี้ยงแมวเป็นจริงเป็นจังสักทีครับ...
ตอนนี้มีแมวที่ไหนไม่ทราบมาออกลูกที่บ้าน
ก็ให้อาหาร ให้น้ำเท่าที่เวลามี
ตอนนี้เริ่มโตกันแล้ว ซนมากๆเลยครับ
ผมชอบเล่นกับตัวเล็กๆน่ารักดี...

โดย: วิรุฬห์ IP: 124.120.164.24 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:21:43:07 น.




ผมก็เลี้ยงเพราะสงสารเมื่อมันหิวแล้วมันก็ไม่ไปหากินที่อื่น
จะกินแต่ที่บ้านเราเท่านั้นครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:4:22:53 น.





 

Create Date : 28 สิงหาคม 2554    
Last Update : 28 สิงหาคม 2554 8:12:58 น.
Counter : 931 Pageviews.  

แมวในบ้าน

เรื่องสั้น

แมว(ใน)บ้าน

เพทาย

ผมให้อาหารแมวพเนจรที่อยู่หน้าบ้าน ตั้งแต่มีเพียงสามตัวแล้วก็มีมาเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่เตร็ดเตร่มากินอาหารเม็ด แล้วก็ไปหากินที่อื่น ทั้งที่อยู่ประจำแล้วก็ตายไป ทั้งที่ออกลูกมาหลายครอก แล้วก็หายไปหมด เดี๋ยวนี้เหลือตัวเดียวคือตัวที่ผมเรียกมันว่า สีอ่อน เพราะตัวสีขาวมีแต้มสีน้ำตาลอ่อนเป็นแห่ง ๆ กับแมวรุ่นลูกของมันมาบ้างไม่มาบ้างอีกตัวสองตัว

ผมไม่ยอมเลี้ยงแมวในบ้านเพราะขี้เกียจดูแล เว้นแต่เจ้าซ่าตัวเดียว ที่ผมช่วยชีวิตมันไว้จากการถูกรถยนต์ถอยทับขาที่หน้าบ้าน ตั้งแต่มันยังเป็นวัยรุ่น เพราะมันเดินไม่ได้ ต้องเอามานอนใต้ร่มไม้ เอาอาหารเอาน้ำมาวางไว้ใกล้ ๆ แต่มันก็หายได้เองในเวลาไม่นาน มันเดินและวิ่งได้ตามปกติ มันจึงอาศัยอยู่ในบ้านเป็นเวลาร่วมหลายปีแล้ว จนมันตามเข้าไปนอนในห้องรับแขกบ้าง นอนบนตักผมเวลาดูทีวีบ้าง ตัดไม่ขาด เวลาให้อาหารแมวหน้าบ้าน มันก็ไม่กิน ต้องให้ในชามของมันตรงที่ประจำ จึงจะกิน มันจึงเป็นแมวเลี้ยงโดยอุบัติเหตุ แต่เวลานอนก็จะไล่ออกไปนอนนอกห้องทุกคืน เช้าจึงจะเจอหน้ากัน ตัวมันเป็นสีด่างดำขาวหางยาว เป็นตัวผู้

ผมทำดังนี้มาเป็นเวลานานพอสมควร ก็มีแมวด่างดำขาวอีกตัวหนึ่งแอบมาออกลูกทิ้งไว้สี่ตัวในพงหญ้าริมรั้วบ้าน แล้วก็หายหน้าไป ผมต้องเลี้ยงลูกแมวแรกเกิดนั้น จนตายไปทีละตัวจนถึงวันที่หกตัวสุดท้ายที่ตั้งชื่อว่าบุญรอดก็ตายจากไป ตั้งแต่นั้นเวลามีแมวท้องโย้มาเดินกรายในบ้าน ผมจะต้องใช้บทโหดไล่ออกไปเสมอ เพราะกลัวว่ามันจะมาออกลูกทิ้งไว้อีก

แต่ก็มีอยู่ตัวหนึ่งสีด่างดำขาวเหมือนกัน ไม่ทราบว่าเป็นตัวเดียวกับแม่ใจร้ายตัวนั้นหรือเปล่า มันมาเดินพุงโย้แถวหน้าบ้านหลังบ้าน ไล่ก็ออกไปแล้วก็เข้ามาอีก เวลากินอาหารก็ออกไปกินหน้าบ้านเช่นเดียวกับตัวอื่น ท้องของมันก็โตขึ้นทุกวันโตขึ้นโตขึ้น จนหนังด้านหลังยืดออก ขนที่ด่างห่างกันเห็นได้ชัด แต่มันก็ไม่คลอดสักที ผมจึงเรียกมันว่านังอ้วน ผมก็ไม่รู้ว่าแมวมันท้องกี่เดือน แต่รู้สึกว่านานผิดปกติเวลาไล่ออกนอกบ้าน มันก็วิ่งอุ้ยอ้ายขึ้นทุกที ความเวทนาก็เกิดขึ้นหน่อย ๆ แต่ยังยึดคติเดิม จึงต้องทำใจแข็งไว้

วันหนึ่งก็มีลูกแมวตัวนิดเดียวตายกองอยู่หลังบ้าน ดูลักษณะว่าจะคลอดก่อนกำหนด เข้าใจว่าจะเป็นลูกของนังอ้วน แต่พอเจอมันก็เห็นยังท้องป่องอยู่อย่างเดิม ทำให้ประหลาดใจว่าถ้าไม่ใช่ลูกของมันจะเป็นลูกใคร แล้วถ้ามันหลุดออกมาตัวเดียว จะเหลืออีกกี่ตัวก็ไม่รู้ แล้วทำไมมันถึงยังไม่ออกมาทั้งหมด คิดแล้วก็เสียสมองเปล่า ๆ ปล่อยมันไปตามกรรมดีกว่า

นังอ้วนมันเดินย้ายพุงตุ๊ต๊ะอยู่อย่างนั้นอีกเป็นสัปดาห์ จนถึงคืนวันหนึ่งฝนผิดฤดูตกปรอย ๆ ก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องแง้ ๆ อยู่ริมรั้วสังกระสีผุ ก็นึกปลงในใจว่าถ้าแม่มันอยู่ด้วยก็ดูแลกันเองเถอะ เราไม่เกี่ยว ถ้าแม่มันทิ้งไปอีกก็เห็นจะเป็นกรรมของเราตามเคย แต่พอรุ่งเช้าเสียงนั้นก็เงียบไป มองหาก็ไม่เจอว่ามันอยู่ตรงไหน มันเงียบเสียงอย่างนั้นสักสองวัน จนดีใจว่ามันพากันไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว แต่ที่ไหนได้ มันดันหอบลูกเต้ามาซุกนอนอยู่ในกล่องเปล่าหลังบ้านเป็นกองโต

ก็เจ้านังอ้วนนี่แหละ นอนเงียบอยู่กับลูกที่ยังไม่ลืมตา สีมืด ๆ ทึม ๆ นับไปนับมาได้ตั้งหกตัว มีสีด่างเหมือนแม่ตัวเดียว พอมันรู้ว่าผมรู้ที่อยู่ของมัน วันนั้นมันก็คาบลูกหายไปอีก แต่มันยังมากินข้าวหน้าบ้านตามเคย ผมไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ไหน เที่ยวเดินหาทั่วบ้านทุกซอกทุกมุมก็ไม่เจอ จึงวางใจว่ามันไม่ชอบบ้านผมแล้ว

ในขณะเดียวกันนั้นข้างบ้านของผมรั้วติดกัน ก็มีแมวมาออกลูกอีกครอกหนึ่ง นังแม่สีน้ำตาลอ่อนทั้งตัว แต้มขาวที่ปลายเท้าทั้งสี่และจมูก หางขอดสั้นกุด ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกของนังสีอ่อน ผมเรียกมันว่านังสีเทา รายนี้ออกมานับได้หกตัวสีเทาอ่อนทั้งนั้น มีด่างขาวดำตัวเดียวเหมือนกัน ตัวแม่มันก็มากินข้าวหน้าบ้านเป็นประจำ มันก็เลี้ยงลูกของมันที่บ้านข้างเคียงเป็นปกติ ส่วนนังอ้วนคาบลูกวิ่งเข้าวิ่งออกบ้านผมกับบ้านนั้นแทบทุกวัน จนผมคิดว่าลูกมันอาจจะเปลี่ยนกันหรือรวมกันเป็นครอกใหญ่ก็ได้ แต่ความจริงแม่มันคงจะจำกลิ่นลูกของมันได้

เวลาผ่านไปจนลูกแมวทั้งหมดลืมตา แล้วเดินเตาะแตะตามแม่ของมันได้ ผมจึงเห็นมันเต็มตาว่า นังอ้วนเหลือลูกอยู่สามตัวนอกจากเจ้าด่างแล้ว อีกสองตัวมีสีดำเทาน้ำตาลปนกันเลอะเทอะ จนแยกกันไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน แล้วนอกนั้นมันหายไปไหนก็ไม่ทราบ

ส่วนนังสีเทาเหลือลูกอยู่ห้าตัว นอกจากเจ้าด่างแล้ว อีกสี่ตัวเป็นสีเทาอ่อน ปนลายเสือนิดหน่อย คล้ายกันจนแยกไม่ออกเหมือนกัน

นังอ้วนพาลูกมาอาศัยอยู่หลังบ้าน มุดเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะกองสัมภารก ไม่ย้ายไปไหนอีกแล้ว ส่วนนังสีเทาพาลูกมาอยู่ใต้ร่มไม้ใบหญ้าในสวนหน้าบ้าน

จนกระทั่งลูกมันโตขึ้นวิ่งเล่นกันเกลื่อนไปหมดทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน แต่มันก็ยังจำฝูงของมันได้ ผมจะทำไม่รู้ไม่ชี้ก็ไม่ได้ จำเป็นต้องหาอาหารให้มันกินกันทั้งสองครอก ด้วยความขมขื่นที่จะต้องเลี้ยงแมวในบ้านทั้งหมดสิบเอ็ดตัว รวมทั้งเจ้าซ่าด้วย เวรกรรมแท้ ๆ ทีเดียว

ผมพยายามที่จะให้ทั้งสองครอกออกไปหากินนอกบ้านบ้าง จึงค่อย ๆ ล่อให้เจ้าครอกหลังบ้านมากินข้าวที่หน้าบ้าน แล้วก็จะได้ให้ออกไปกินนอกบ้าน มันก็ชักจะปน ๆ กันอยู่จนเราเองก็จำไม่ได้ว่าตัวไหนอยู่ครอกไหน

เวลาผ่านไปเป็นเดือนจนลูกแมวทั้งหมดอดนม เพราะแม่มันไม่ยอมให้กิน และตัวแม่เองก็หายหัวไปทำสาวอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เจ้าหลังบ้านก็หายไปอีกตัวหนึ่ง คงเหลือสองตัวด่างดำขาว มีหางสั้น และหนวดสั้นเหมือนใครเอาตะไกรไปตัดมันไว้ ผมเรียกว่าเจ้าสั้นเป็นตัวผู้ อีกตัวหนึ่งมีลายเสือสับสนก็เลยเรียกว่านังมอมแมมเป็นตัวเมีย

ส่วนข้างหน้าบ้านเหลือสี่ตัว ตัวโตสีเทาอ่อนหางยาว แต่ปลายหางมีลายเสือและหงิกงอไปมา เหมือนงูหางกระดิ่ง จึงเรียกเจ้ากระดิ่ง ตัวรองลงมามีลายเสือชัดเจนทั้งตัว จึงเรียกเจ้าลาย สองตัวนี้เป็นตัวผู้ อีกตัวหนึ่งด่างขาวดำเกือบจะเหมือนเจ้าสั้น แต่สังเกตได้ว่าหางยาวกว่า และที่ใต้ข้อศอกหน้ามีสีดำเหมือนคนใส่เสื้อปะ จึงเรียกว่านังปะ กับตัวสุดท้ายด่างน้ำตาลอ่อนแต่มีสีขาวมากกว่า เลยเรียกว่านังนมเย็น ทั้งสองตัวนี้เป็นตัวเมีย

ต่อมามันสามารถกินอาหารเม็ดรวมกันได้ แต่ถ้าออกไปให้หน้าบ้านมันไม่ยอมออกไป เพราะมีหมาเดินผ่านไปมา บางทีก็เข้ามาแย่งกินอาหารแมวด้วย มันเลยกลัวหัวหด นอกจากจะกินด้วยกันแล้วยังเล่นด้วยกันได้อีกด้วย ตกลงหกตัววิ่งกันทั่วไปทั้งบ้าน แล้วก็ขี้เยี่ยวเหม็นไปหมดทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ข้างหน้าบ้านเป็นสวนรก ๆ มันเข้าไปขี้เราได้กลิ่นแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนทางหลังบ้านเป็นลานโล่ง มันเที่ยวขี้กองไว้ที่โน่นที่นี่ไม่เป็นประจำ

ผมพยายามเอาทรายมากลบ พอแห้งแล้วก็โกยไปใส่กระบะไว้ให้เป็นส้วม ก็มีบางตัวใช้บริการบ้าง แต่ก็ยังมีหลงเหลืออยู่เสมอ ต้องเก็บกวาดทุกวัน และเมื่อในกระบะแห้งดีแล้ว ก็ต้องร่อนออกจากทราย ใส่ถุงไปทิ้งถังขยะอีกทอดหนึ่ง ถ้าเมื่อไรมันพากันไปขี้นอกบ้านหมด ผมก็จะมีความสุขขึ้นมากทีเดียว

ผมใช้กรรมในการตามล้างตามเก็บขี้แมวอยู่เป็นเดือนๆ ก็ทุเลาลงมันคงจะชวนกันไปขี้ในสวนหน้าบ้านหมดแล้วก็ได้ แต่ทำอย่างไรมันก็ไม่ยอมออกไปกินอาหารหน้าบ้าน แม้แต่เจ้านมเย็นจะชอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน แต่ ก็กลับเข้ามากินอาหารเม็ดอย่างเดิม คงจะคิดได้แล้วว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่มีกินอย่างในบ้านนี้ สุดท้ายเมื่อผมเอาอาหารเม็ดมาใส่จานหน้าบ้าน ก็จะมีแมวกระโดดเข้ากระโดดออก มาสุมหัวกันกินจนนับไม่ทัน

เวลาที่ผมไม่ว่างหรือลืมเอาอาหารเม็ดใส่จานตามเวลาเช้าเย็น มันก็จะพากันมาร้องประสานเสียงอยู่ทางหน้าบ้าน หลังบ้านบ้าง ตามแต่ว่าผมจะเดินไปทางไหน เมื่อผมมองเห็นดวงตาทั้งแปดเก้าคู่ที่จ้องมองรวมเป็นจุดเดียวที่ดวงตาของผมแล้ว ทำให้ผมต้องรีบไปตักอาหารมาให้โดยเร็ว ด้วยความสำนึกผิดอย่างยิ่งทีเดียว

เรื่องที่ผมวิตกอีกอย่างหนึ่งก็คือในสองกลุ่มนี้มีตัวเมียสามตัว ถ้ามันโตขึ้นและท้องขึ้นมา มันไม่มีที่อื่น ก็คงจะหาที่ออกลูกในบ้านอีก แล้วถ้ามันออกมาอย่างน้อยครอกละสามตัว บ้านนี้ก็คงจะมีแมวยั้วเยี้ยเต็มไปหมด

ผมจึงมาเขียนกระทู้หารือในห้องจตุจักร ของพันทิป ซึ่งเคยได้รับความช่วยเหลือแนะนำในการเลี้ยงลูกแมวมาแล้ว ก็มีท่านหนึ่งที่คุ้นชื่อแนะนำให้ติดต่อกับผู้อุปถัมภ์แมว ที่แถวตลาดห้วยขวาง ผมก็ไม่รอช้ารีบโทรศัพท์ไปติดต่อทันที ท่านผู้รับโทรศัพท์ฟังตามน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตากรุณานั้น ยินดีรับลูกแมวตัวเมียทั้งสามตัวไปทำหมันให้ โดยจะนัดวันพาไปส่งที่บ้านของเธอ

ผมรออยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็ได้รับโทรศัพท์จากเธอผู้นั้น ให้นำแมวไปให้เธอได้ตัวหนึ่ง เพราะมีคิวทำได้เพียงตัวเดียว ผมมีตะกร้าแมวอยู่แล้วจึงจับนังมอมแมมใส่ตะกร้า ขึ้นรถแท็กซี่ เพราะรถเมล์เขาห้ามเอาสัตว์ขึ้น ผมเคยเห็นกระปี๋ไล่ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่ง ที่อุ้มสุนัขตัวนิดเดียวลงจากรถเมื่อนานมาแล้ว

แท็กซี่เองก็ไม่ค่อยพอใจนัก บ่นอยู่ว่าแท็กซี่บางคันก็ไม่ยอมรับ เพราะบางทีเจ้าของไม่ระวังปล่อยหมาหรือแมวหลุดจากกล่อง มันก็ตกใจขี้เยี่ยวเลอะรถเขา ผมก็ต้องทนฟังเขาเล่าเสียดสีไปตลอดทาง ถ้าไม่ทนเดี๋ยวเขาไล่ลงเราก็ลำบาก จนกระทั่งถึงตลาดห้วยขวางมีตรอกแคบ ๆ พอจะเดินไปได้ จึงลงจากแท็กซี่ แถมเศษเงินทอนและขอบอกขอบใจเขา ซึ่งคงพอจะทำให้เขาสบายใจขึ้น แล้วก็หิ้วกรงเจ้ามอมแมม เข้าตรอกไปจนถึงบ้านของท่านผู้มีใจอารีต่อสัตว์เลี้ยง ซึ่งอยู่ไม่ลึกนัก

พอเจอหน้าหญิงวัยยังไม่ถึงกลางคน ผมรีบยกมือไหว้ก่อนเธอก็ทักทายเป็นอันดี ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลย ทั่วบ้านของเธอมีแต่แมวมากกว่ายี่สิบตัว บ้างก็นอนเล่นนั่งเล่นอย่างสงบเสงี่ยม ซึ่งเป็นแมวที่เธอเลี้ยงเอง และที่อยู่ในกรงกว้างพอตัวอีกนับสิบ ที่มีผู้เอามาฝากให้ทำหมันและรอมารับกลับ ทำให้ผมโล่งอกเหมือนยกภูเขาแสนหนักออกไปทันที ผมขอฝากเจ้ามอมแมม และเจ้าปะที่จะเอามาเป็นตัวต่อไป ให้เธอดำเนินการตามกรรมวิธีและดูแลตามสมควร แล้วผมก็จะได้มีแมวเป็นเพื่อนเล่นเพื่อนคุยเหมือนเมื่อสมัยโน้น แทนที่นางทองดำที่ตายไป หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกันมานับสิบปี

เมื่อผมกลับมาถึงบ้านด้วยความสบายใจ ก็พบหน้านังอ้วนตัวเก่า ซึ่งหายไปเป็นเวลานาน เข้ามายืนจ้องหน้าจะให้หาข้าวให้กิน เหมือนมันเป็นนายเรา แค่นั้นผมก็ยังไม่ว่าอะไรหรอก

แต่ที่สำคัญก็คือ มันท้องโย้เหมือนเดิมอีกแล้วน่ะซี ผมจึงต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่

กรรมของผมยังไม่สิ้นอีกหรือนี่.

##########

ถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป
๔ กันยายน ๒๕๔๙

วารสารข่าวทหารอากาศ
กรกฎาคม ๒๕๕๐



Create Date : 02 ธันวาคม 2550
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 21:02:30 น. 10 comments
Counter : 142 Pageviews. Add to





//www.wanted-c35-.c60

โดย: xx IP: 125.24.242.228 วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:21:16:02 น.




เป็นกำลังใจให้เลี้ยงแมวเหมือนกัน

โดย: hippo IP: 203.153.174.174 วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:21:23:10 น.







แวะมาทักทายจ้า

เห็นใจลยคนเลี้ยงแมว
ที่บ้านก็เลี้ยงแมวคะ จาก 1 ตัวท้องโย้เอาลูกมาฝากคาบมาทีละตัวมาวางไว้ที่หน้าบ้าน
จากแมว 1 ตัว ตอนนี้มีเกือบ 20 ตัวแล้วคะ

การทำหมันสัตว์เป็ฯเรื่องสำคัญมากๆ
เอาใจช่วยคะ สู้ๆนะคะ

โดย: StarInDark วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:21:52:36 น.




ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและเห็นใจ
ทั้งแมวและคนที่เลี้ยงด้วยครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:20:47:53 น.




ตามมาอ่านถึงที่นี่แล้วค้าบ คุณเจียวต้ายน่าตั้งชมรมคนรักแมวเนอะ คุณเจี้ยวต้ายเป็นประธาน โพดเป็นเลขาการกิณี อิอิอิ

โดย: ข้าวโพด IP: 121.55.227.70 วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:02:16 น.




แมวมันน่ารักดีนะครับ ชอบเอาอกเอาใจเจ้านาย

แต่ขี้เหม็นมาก ถ้าแมวรู้จักขี้เป็นที่จะดีมาก ๆ

เคยเลี้ยงแ่มวในบ้านแบบห้องแถว เหม็นจนมึนเลยครับ

บ้านแบบมีสวนน่าจะเลี้ยงแมวได้ดีกว่า เพราะว่าอากาศถ่ายเทได้ดีกว่า

โดย: พี่แต้ วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:21:02:34 น.




คุณข้าวโพด ต้องขออภัยที่เพิ่งเห็น
ช้าไปห้าเดือนเองครับ
คำนี้เขาเขียนว่า เลขานุกาลกิณี ขออภัย เลขานุการิณี ครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:31:46 น.




ขออภัยคุณพี่แต้อีกคนนึง
ช้าไปเพียงสี่เดือนเท่านั้นเอง

คนเลี้ยงแมวในบ้าน เขาจะต้องทำกระบะให้แมวถ่ายเป็นที่
และทำความสะอาดง่ายครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:34:25 น.




เหตุผลอีกอย่างที่ไม่อยากเลี้ยงแมวเพราะขี้เหม็นนี่แหละครับ
ถ้าพูดถึงความน่ารัก ชอบคลอเคลีย ต้องยกให้เขาล่ะ

โดย: วิรุฬห์ IP: 124.120.164.24 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:21:54:01 น.




ความจริงที่บ้านผม มีสวนรก ๆ อยู่ ซึ่งหลายตัวก็เข้าไปขี้ในนั้น
แต่มีบางตัวไม่รู้จักที่ทาง เจ้าตัวอื่นได้กลิ่นก็เอาอย่างบ้าง
ต้องตามทำความสะอาดกันเรื่อยไปครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:4:27:37 น.





 

Create Date : 27 สิงหาคม 2554    
Last Update : 27 สิงหาคม 2554 5:21:40 น.
Counter : 543 Pageviews.  

เรื่องแมวแมว

เรื่องสั้น

เรื่องแมวแมว

เพทาย

เมื่อผมเริ่มอุปการะแมวหน้าบ้านนั้น มันมีอยู่ด้วยกันสามตัวเท่านั้น ตัวแรกเป็นสีขาวเหลืองดำ ผมเรียกไอ้สามสี ต่อมามีสีด่างดำขาว ผมเรียกไอ้ด่าง และตัวหลังสีด่างขาวกับน้ำตาลอ่อน ผมเรียกไอ้สีอ่อน ทั้ง ๆ ที่เป็นตัวเมียทั้งสามตัว

สามสีนั้นเป็นแมวขี้อายหวงตัว เมื่อเอาอาหารออกมาใส่จานกระดาษหน้าบ้าน มันจะนั่งรออยู่ห่าง ๆ ถ้าจานไหนมีผู้เข้ามากินแล้ว มันก็จะไม่เข้ามา ต้องหาจานใหม่มาใส่ให้ต่างหาก และถ้าเราเอ็นดูเอามือไปแตะต้องตัว ยังไม่ทันจะลูบหัว มันจะตวัดเล็บตบทันที นังนี่ถนัดซ้าย

ด่างนั้นหางกุดถึงก้น หน้าตาสวยดีแต่ขี้กลัวและงก เราเอาอาหารใส่จานแล้ว ถ้าจานยังอยู่ใกล้เรา มันจะถอยหน้าถอยหลังไม่กล้าเข้ามากิน ต้องเลื่อนจานไปให้ใกล้ตัวจึงจะกิน และกินอย่างเร่งรีบกลัวใครจะเข้ามาแย่ง ขณะกำลังกินถ้าใครมาร่วมวงด้วยก็จะฮื่อฮ่าใส่ ใครกลัวก็ถอยไป ถ้าไม่กลัวก็กินได้ไม่ถึงกับตบตีกัน

สีอ่อนเป็นแมวสุภาพเรียบร้อย ทำอะไรชักช้าค่อย ๆ เล็มกินทีละนิด เลยโดนเจ้าด่างแย่งกินจนหมดก่อนที่จะอิ่ม แล้วนั่งมองทำตาซึ้ง ต้องเติมอาหารให้อีก

อยู่มาไม่นานนังสามสีก็มีลูกตัวหนึ่ง แต่เลี้ยงไม่เป็นเกิดมาไม่กี่วันก็ตาย ต่อมาก็มีลูกแมวตัวน้อยสีด่างดำขาว เพิ่มขึ้นมาอีกสี่ตัว ผมคิดว่ามันเป็นลูกนังด่างแต่มันกินนมนังสีอ่อน โดยไม่รู้ว่าลูกของนังสีอ่อนหายไปไหน เจ้าสี่ตัวนี้เป็นตัวผู้ทั้งหมด หางขอดสองตัวหางตรงสองตัว ต้องสังเกตที่หู ตัวที่โตกว่าเพื่อนหูขาว ตัวรองหูดำ ตัวที่สามหางตรงมีสนับสีดำที่ข้อศอกขาหน้าทั้งสองข้าง ดูท่าจะเก่งกว่าเพื่อนเรียกไอ้ซ่า ตัวสุดท้ายหางตรงแต่ตาขวาบอด เลยชื่อไอ้เดี่ยว

อยู่มาอีกไม่นานไอ้เดี่ยวหากินไม่ทันพี่น้องก็ตายไป และไอ้ซ่าถูกรถยนต์ถอยมาทับขาหลังขวา นอนแบ็บไปไหนไม่ได้ ผมสงสารมันจึงเอามาไว้ในบ้านให้นอนใต้ร่มไม้ แล้วก็เอาอาหารเม็ดและขันน้ำเล็ก ๆ มาวางให้กิน ไม่ช้าไม่นานก็ลุกขึ้นเขยกไปได้ แล้วก็เลยอยู่ในรั้วบ้านเป็นแมวเลี้ยงไปโดยไม่เจตนา ขณะนั้นทองดำเป็นเจ้าของบ้านอยู่ แต่เป็นแมวตัวเมียและเจ้าของเก่าเขาคุมกำเนิดแล้ว มันจึงไม่สามารถขับไล่ไอ้ซ่าให้ออกจากบ้านไปได้ ต้องทนให้ไอ้ซ่าตื๊อทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน จนตายจากไปเอง

ส่วนเจ้าหูดำวันหนึ่งก็ป่วยเหมือนกัน ขนที่ขาและแผ่นท้องเกรียนไป เป็นรอยเหมือนไฟไหม้ คล้าย ๆ จะแสดงกายกรรมกระโดดข้ามเตาถ่านมายังงั้น แต่มันไม่ยอมให้รักษาเพราะเลียถึงทุกแห่ง เลียไปเลียมาขนก็ขึ้นแทนที่มีสีเหมือนเดิม ไม่มีใครรู้ว่ามันไปโดนอะไรมา

ในขณะเดียวกันก็มีแมวประเภทผู้ร้ายอยู่สามตัว เป็นตัวผู้ทั้งหมด เจ้าพวกนี้จะตัวโตหน้าดุลูกคางเหลี่ยมมองแล้วไม่มีความน่ารัก ตัวแรกลายเสือคอยแย่งอาหารแมวเด็กกิน หรือไม่ก็มานอนหมอบอยู่ในมุมมืด จะแบ่งอาหารให้ก็ไม่ออกมากิน แต่พอเราเดินลับตาไปแล้วจึงจะกิน เมื่อเรากลับมาเห็นมันก็จะวิ่งหนีไปทุกครั้ง

ต่อมาก็มีเจ้าลายเหลืองเข้ามาแย่งพื้นที่ เจ้าลายเสือก็หายไป เจ้าลายเหลืองนี้มีพฤติกรรมเลวร้ายกว่าลายเสือ คือจะไม่ยอมรอขออาหารที่เราจะให้ แต่จะแอบเข้ามาในบ้านทุกเวลาที่เผลอเปิดประตูทิ้งไว้ เพื่อหาอาหารตามถังขยะ และหาที่วางถุงหรือกล่องใส่อาหารเม็ดที่เราซุกซ่อนไว้ ถ้าเป็นถังพลาสติก ก็จะทำให้ล้มจนฝาเปิด แล้วก็ขโมยกิน ถ้ายังไม่เอาออกจากถุงที่ซื้อมาจากร้าน ก็ลงแรงกัดแทะให้ถุงขาด แล้วก็ล้วงอาหารเม็ดออกมากิน จับได้ก็ไล่ตีกันทุกครั้ง แต่ไม่เข็ดไม่ยอมแพ้ แม้จะหาก้อนอิฐบล็อคมาทับ ก็ยังเห็นร่องรอยของความพยายามที่จะขโมยได้บ่อย ๆ

หลังจากไล่ฟาดกันอยู่ไม่นาน ก็มีผู้ร้ายอีกตัวเข้ามาขวาง ตัวโตเท่ากันสีขาวแต้มน้ำตาลแต่ยังโตไม่เต็มที่ เจอหน้ากันเป็นต้องลองกำลังฟัดกันอยู่เสมอ ทั้งในบ้านนอกบ้าน ทั้งกลางวันกลางคืน เสียงเจี๊ยวจ๊าวหนวกหู เพราะกว่าจะลงมือได้ต้องข่มขู่กันอยู่นาน ถ้าเป็นกลางวันเราเอาขันตักน้ำไปสาด มันก็ยังไม่เลิก ตัวไหนกระโดดก่อน อีกตัวเป็นพุ่งเข้าชาร์ตทันที เรียกว่าตัวไหนขยับก่อนเป็นแพ้ แม้ฝีปากฝีตีนจะพอกันก็ตาม ลงท้ายเจ้าเหลืองเป็นฝ่ายหายหน้าไป เหลือแต่ตัวด่างน้ำตาลที่มีสีขาวอยู่กลางสันจมูกจึงเรียกว่าเจ้าแด่น

ก่อนเจ้าเหลืองจะหายไป เจ้าแด่นได้แผลที่คอด้านหลังเหวอะหวะเลียไม่ถึง ดูอาการจะลุกลามแบบอีแหว่ง ผมจึงจับเอายาเบตาดีนของคนหยอดแผลให้ มันก็นอนให้หยอดโดยดี ไม่ช้าก็หายดี เลยทำท่าจะเลิกเป็นผู้ร้ายอาศัยกินอาหาร แต่กินจุกว่าตัวอื่น

เจ้าแด่นพยายามทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อย หมอบคอยรับอาหารเป็นตัวสุดท้าย ถ้ายังไม่ถึงคิวก็จะร้องอิ๊ ๆ เบา ๆ เป็นเชิงเตือน เวลานอนเล่นในบ้าน พวกเจ้าด่างดำตัวเล็ก มาหยอกล้อด้วยก็ไม่ทำอะไร

วันหนึ่งเกิดบ้าอะไรขึ้นมาไม่ทราบ อยู่ดี ๆ วิ่งเข้าฟัดเจ้าซ่าซึ่งตัวเล็กกว่า และไม่มีทางสู้แต่วิ่งหนีแล้วเจ้าแด่นก็ยังไล่ตาม ผมก็ฉวยไม้อาญาสิทธิ์ ตามไปจะตีสั่งสอน แต่มันไม่ยอมหมอบให้ตีเหมือนทุกครั้ง มันเดินหนีไปเรื่อย ๆ พอเราเร่งฝีเท้ามันก็วิ่ง เหมือนจะรู้ว่าตัวผิดคงจะโดนหนักแน่ เลยไม่ยอมให้ทำโทษ มุดรั้วหนีหายเงียบไป

ตั้งแต่บัดนั้นเมื่อมันโผล่มาเจอหน้าผม เป็นต้องหันหนีผมก็ร้องตามไปว่า ไอ้อันธพาลรังแกเด็ก หนีได้หนีไปอย่าเข้ามากินข้าวก็แล้วกัน ไม่ทราบว่ามันจะเข้าใจหรือเปล่า แล้วผมก็ตั้งหน้าจะฟาดมันทุกครั้งที่เห็น มันก็เลยอดได้รับเลี้ยงต้องคอยแอบกินตามจานที่พวกตัวเล็กเหลือไว้

จนกระทั่งเจ้าด่างดำทั้งสามโตขึ้นเต็มที่ และเจ้าหูขาวก็หายไปหากินที่อื่น เหลือแต่เจ้าหูดำกับเจ้าซ่า อยู่หน้าบ้านตัวหนึ่งหลังบ้านตัวหนึ่ง คราวนี้เจ้าแด่นคงจะแก่ตัวลง ก็โดนเจ้าสองตัวนี้ไล่ต้อนเอาบ้าง ผมก็ต้องเป็นกรรมการห้ามปรามอีก มันฟัดกันทั้งในบ้านและนอกบ้านอย่างเคย

ผมคิดดูแล้วก็เห็นสัจธรรมอย่างชัดแจ้ง ในบรรดาสัตว์โลกนี้ ผู้ที่แข็งแรงจึงจะอยู่ได้ ผู้ที่อ่อนแอถ้าไม่หนีไปหากินถิ่นอื่น ก็ต้องยอมเป็นลูกน้องของตัวที่แข็งแรงไป จึงจะอยู่ในถิ่นเดียวกันได้ และเมื่อตัวเก่งเฒ่าชราลง ก็มีตัวอื่นเก่งขึ้นมาแทนที่ เป็นวัฏจักรต่อไป

เดี๋ยวนี้ผมมีแมวให้เลี้ยงอยู่หน้าบ้านถึงเจ็ดแปดตัว เจ้าสามสีและเจ้าด่างกับเจ้าสีอ่อนก็ยังอยู่เพราะเป็นตัวเมีย แล้วก็ผลิตทายาทออกมาครั้งละสองตัวสามตัว พอโตขึ้นก็อยู่บ้างหายไปบ้าง จนไม่ถึงสิบตัวสักที ส่วนในบ้านก็เหลือตัวเดียวคือเจ้าซ่า เจ้าหูดำก็มาบ้างหายไปบ้าง

ผมต้องใช้อาหารเม็ดเดือนละกว่าสี่ถุง บางครั้งถ้ามีอาหารพิเศษเช่นข้าวคลุกปลาทู หรือหนังปลาช่อนหุ้มเกลือเอามาล้างเกลือออก มันจะเข้ามารุมแทะทึ้งพร้อมกับส่งเสียงงึมงำด้วยความชื่นชมยินดี จนผมต้องทำหน้าตายขอเศษอาหารที่เหลือกินจากร้าน เอากลับมาบ้านบ่อย ๆ จนคนขายเชื่อใจว่าเอาไปฝากแมว ไม่ได้เอาไปกินเอง จึงไม่ต้องเพิ่มน้ำจิ้มมาให้เปลืองไปอีก

แล้วก็ถึงวาระที่เจ้าแด่นจะต้องยอม ให้เจ้าซ่าข่มขู่เอาบ้าง มันจะนอนหมอบนิ่ง เจ้าซ่าก็จะดม ๆ ส่วนเจ้าแด่นคงจะส่งกลิ่นว่ายอมแพ้แล้ว เจ้าซ่าจึงไม่ทำอะไร เมื่อผมเดินเข้าไปหามันก็ไม่ลุกหนีเหมือนอย่างเคย แต่ผมก็อภัยให้มันแล้ว เพราะแมวมันก็คงไม่จำเรื่องเก่าได้ยาวนานเท่าไรนัก ผมจึงเอาจอกตักอาหารเม็ดใส่จานที่มันเคยกิน มันก็เดินโขยกเขยกเข้ามาโดยยกขาหน้าซ้ายไว้ไม่ให้แตะพื้น

เมื่อมันก้มลงกินอาหาร ผมก็เอามือลูบหัวมันแล้วก็หยิบขาที่เจ็บขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นแผลในซอกกลางอุ้งเท้า ไม่ทราบว่าลึกหรือเปล่า ไม่รู้ไปเหยียบอะไรมา ผมจึงต้องเอาทิงเจอร์ของคนใส่แผลให้มันอีกตามเคย

ไม่รู้ว่าชาติก่อนผมไปทำบาปอะไรไว้กับไอ้เจ้าพวกนี้ ชาตินี้จึงต้องมีกรรมคอยเลี้ยงดู ปรนนิบัติวัฏฐากมันอยู่เป็นประจำ โดยไม่รู้ว่าจะสิ้นเวรลงเมื่อไรแน่

#######

ถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป
๒๑ มีนาคม ๒๕๔๘

วารสารข่าวทหารอากาศ
พฤศจิกายน ๒๕๔๘



Create Date : 30 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2550 10:46:46 น. 8 comments
Counter : 21 Pageviews. Add to





เข้ามาหน้ารวม (งานเขียน...เรื่องสั้น)เป็นครั้งแรกในรอบ 4-5 เดือนคับ
ดูๆแล้วคุณเจียวต้ายจะขยันขันแข็งที่สุด เลยแวะมาดูแมวจั๊กกะหน่อย

โดย: อุกเงียว วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:11:14:33 น.




ขอบคุณครับ
ผมขยันเอาเรื่องมาลง เพราะมีอยู่ในปี๊บเยอะครับ

เฉพาะเรื่องแมว ก็มีตั้ง ๗-๘ เรื่องแล้ว
ลองอ่านดูนะครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:20:50:34 น.




เมื่อก่อนยายก้อเลี้ยงแมวประมาณ 13ตัว กะหมา 7ตัว อบอุ่น เจี้ยวจ๊าวดี ตอนนี้ก้อมีแมวเหมือนกันคร้าบแต่โดนเพื่อนฉกไปเลี้ยงแล้วไม่คืน

อ่านเรื่องของคุณเจียวต้ายแล้วคิดถึงแมวมากกกก

อ้อ ข้าวโพดเป็นชื่อแมวคร้าบบบบบ

โดย: ข้าวโพด IP: 202.123.145.203 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:55:01 น.




ยินดีที่ได้คุยกับเพื่อนที่รักแมว
ผมนั้นเดิมไม่ได้รักแมวเลย เลี้ยงด้วยความจำเป็นแท้ ๆ
แต่เดี๋ยวนี้พอจะเข้าใจภาษาแมวบ้างแล้วครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:35:52 น.




สงสัยบ้านคุณอามีที่ให้แมววิ่งเล่น

มันเลยมาอาศัยอยู่กันเต็มไปหมด

แต่เขาว่าแมวหมามาอาศัยใครอยู่แสดงว่า

บ้านนั้นร่มเย็นนะครับ

โดย: พี่แต้ วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:21:25:47 น.




ที่เขาว่านั้นน่าฟังครับ

บ้านผมแค่ ๖๐ ตารางวางและปลูกบ้านเกือบเต็มเนื้อที่
แมวก็วอ่งได้รอบ ๆ บ้าน แต่ถ้าเผลอเปิดประตู
ก็เข้าในบ้านเลยครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:42:45 น.




ถึงจะเป็นกรรม แต่เป็นกรรมที่มีความสุขนะครับผมว่า...


โดย: วิรุฬห์ IP: 124.120.164.24 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:21:59:20 น.




สมัยก่อนเวลานั่งคนเดียวก็สูบบุหรี่
เดี๋ยวนี้ถ้านั่งคนเดียวก็จะมีแมวกระโดดขึ้นมานั่งตักด้วยครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:4:30:41 น.





 

Create Date : 26 สิงหาคม 2554    
Last Update : 26 สิงหาคม 2554 10:00:16 น.
Counter : 1308 Pageviews.  

ขาของเพื่อน

เรื่องสั้น

ขาของเพื่อน

" เพทาย "

ผมบังเอิญเป็นคนที่มีเพื่อนมาก ทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร เมื่อมีชีวิตอยู่มานานเกินไป เพื่อนที่ว่านั้นก็ลดน้อยถอยไปหลายคน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเหลืออยู่พอประมาณ และที่เหลืออยู่ก็ล้วนแต่ได้สร้างวีรกรรมวีรเวรเอาไว้คนละหลายเรื่อง ที่พอจะนำมาเล่าสู่กันอ่านได้ในคราวนี้สักสองคน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ถ้าขึ้นต้นอีแบบนี้ก็คงไม่แคล้ว นิทานปรำปรา ที่เล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่เด็ก จนแก่เฒ่าใกล้จะเข้าโลง แต่ความจริงเรื่องนี้ไม่นานนักหนา เพียงแค่ประมาณสามสิบกว่าปีเท่านั้น สมัยที่ในกรุงเทพมหานคร ยังมีรถเก๋งที่มีชื่อทางการค้า เหมือนกับเครื่องพิมพ์ดีด คือไทรอัมพ์ ซึ่งคงจะอ่านว่าไทรอั้ม หรือไทรอ้ำ ไม่ใช่อ่านว่าไซอ้ำ

รุ่นที่เรียกกันว่าเมย์ฟลาวเออร์ มีสัญลักษณ์เป็นรูปเรือใบอยู่บนบนกระโปรงหน้าหม้อของรถ รถชนิดนี้แปลกอยู่ตรงที่รูปร่าง ซึ่งไม่มีความโค้งมนให้ลู่ลมเหมือนอย่างรถสมัยนี้เอาเสียเลย เป็นเหลี่ยมหักมุมไปหมดทั้งคัน ตั้งแต่หัวจรดท้าย

เพื่อนของผมคนที่ชื่อ นายผึ่ง เป็นครูโรงเรียนราษฎร์แถวเทเวศร์ ซึ่งในปัจจุบัน ได้เลิกกิจการไปแล้ว เขาได้เป็นเจ้าของอยู่หนึ่งคัน ไม่ทราบว่าไปเลหลังต่อมาจากใคร เขาชอบพาเพื่อน ๆ นั่งรถของเขาไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ก็ที่กินเหล้านั่นแหละครับ เราเรียกอาการอย่างนี้ว่าการย้ายที่กินเหล้า ไม่ได้ปักหลักกินอยู่ใต้ต้นสาเกที่เดียว เหมือนบางกลุ่ม พวกเราขนานนามเจ้ารถคู่ยากของเพื่อนนี้ว่า รถประป๋อง

เจ้ารถกระป๋องคันนี้เป็นเหมือนเท้าของเพื่อนผม บางครั้งเขาไปส่งพวกเรา หลังจากที่กินกันสามสี่แห่ง ซึ่งเป็นที่นิยมกันในสมัยนั้นก็คือ เริ่มด้วยร้านอาหารธรรมดา แล้วก็ต่อด้วยร้านที่มีไฟฟ้าสลัว ๆ มีดนตรี และสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นที่สุดเท่าที่จะสั้นได้ แล้วสวมรองเท้าหนังสูงเลยหัวเข่า เป็นนักร้อง จากนั้นก็แถไปตามร้านข้าวต้มที่เปิดโต้รุ่ง โดยไม่ได้กินข้าวกันเลยสักคนเดียว เมื่อเขาขับรถไปส่งเพื่อนจนถึงบ้านครบทุกคนแล้ว เขาจึงจะขับรถกลับบ้านซึ่งอยู่แถวบางพลัด

พอถึงหน้าบ้านที่แน่ใจว่าเป็นบ้านของเขาแล้ว เขาก็จะดับเครื่อง นอนฟุบหลับอยู่กับพวง มาลัยรถจนสว่าง ภรรยาต้องมาปลุกให้ อาบน้ำอาบท่าไปทำงานเสียที

กาลครั้งหนึ่ง(อีกแล้ว) เราไปในงานแต่งงานแถว ๆ ถนนตก ขากลับก็นั่งกลับมาด้วยกันถึงหกคน เพราะไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย ขณะนั้นเป็นเวลาดึกมากแล้ว สมัยนั้นยังไม่มีรถเต็มถนนทุกเวลาอย่างเดี๋ยวนี้ เขาจึงค่อย ๆ ประคองรถแล่นมาจนถึง สามแยกโรงภาพยนต์โอเดี้ยน จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า ทางตรงนั้นห้ามเข้า ต้องแยกซ้ายอ้อมมาทางซอยหน้าโรงภาพยนต์ เราที่เป็นผู้โดยสารต่างก็คุยกันเสียงลั่นรถ เลยไม่มีคนเตือนนายผึ่งให้เลี้ยว ดันผ่าไปในทางที่เขาไม่ให้เข้า

พอได้ยินเสียงนกหวีดดังอยู่ข้างหลัง นายผึ่งถามว่าเขาเป่านกหวีดทำไม พรรคพวกต่างก็บอกว่า ตำรวจจราจรเขาคงเรียกรถคันอื่นกระมัง ไม่เกี่ยวกับเราหรอก อย่าไปสนใจเลย

พอถึงแยกที่จะเข้าถนนเยาวราชและถนนเจริญกรุง ก็มีตำรวจจราจรออกมาโบกมือให้รถหยุด นายผึ่งก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ขอใบขับขี่ พวกเราต่างก็ชี้แจงประสานเสียงกันเอะอะ จนจราจรผู้นั้นต้องชะโงกหน้าเข้ามาชิดหน้าต่างรถ แล้วถามด้วยเสียงที่ไม่อ่อนหวานว่า เมาทั้งหมดใช่ไหม จะได้เอาไปโรงพัก นั่นแหละพวกเราจึงได้เงียบเสียงลง รวมทั้งนายผึ่งด้วย และยอมให้ใบขับขี่ไปแต่โดยดี

วันรุ่งขึ้น นายผึ่งจึงได้ขอร้องให้เพื่อนที่เป็นนายทหาร ช่วยไปเอาใบขับขี่คืน โดยมีการว่ากล่าวตักเตือนตามธรรมเนียม

เย็นวันหนึ่งผมเดินผ่านโรงพักสามเสน ก็เห็นรถเมย์ฟลาวเออร์จอดอยู่ ริมถนนข้างหน้า โดยมีสภาพที่ดูยับเยินเต็มที เพราะแม้ทั้งหัวและท้ายจะเรียบร้อยดี แต่หลังคาด้านขวาตั้งแต่กระจกหน้า ย่นยู่เข้าไปจนเกือบถึงกระจกหลัง แล้วคนขับจะรอดไปได้อย่างไร ผมรีบเข้าไปถาม สิบเวรด้วยความตื่นเต้นว่าคนขับเป็นยังไงบ้าง ก็ได้รับคำตอบว่าบาดเจ็บเล็กน้อย ทำแผลที่โรงพยาบาลแล้วก็คงกลับบ้านไปได้ เพราะเรื่องเกิดขึ้นเมื่อสองสามวันก่อน

ผมก็ค่อยเบาใจ แต่ก็รีบโหนรถเมล์ข้ามสะพานกรุงธน ไปบางพลัดทันที เมื่อถึงบ้านนายผึ่งก็พบว่า เจ้าของบ้านคือเพื่อนผมกำลังเปิดจุกขวดโซดาอยู่พอดี

"ไงห่อ" เขารีบทักผม ซึ่งมีชื่อเล่นว่า นายห่อ

"ไปไงมาไงถึงมาถึงนี่ได้"

"ก็มาเยี่ยมแกน่ะซี เป็นไงบ้างล่ะ"

"ไม่เห็นเป็นไร ก็สบายดีอย่างเคยแหละ มาพอดีทีเดียว"

"อ้าว..." ผมอ้าปากไม่ออกด้วยความงุนงง เขารีบส่งแก้วที่มีน้ำสีอำพันเป็นฟองเดือดปุด ๆ ให้อย่างรู้ใจ

"เอ้า...ล่อซะคนละกรุบ จะได้หายเหนื่อย ดูหน้าแกซิยังกะเห็นผี"

"แกไม่เป็นอะไรหรอกรึ"

"ก็เป็นครูไงล่ะ"

"ไอ้เวร..." ผมว่าจะนึกในใจแต่ดันโพล่งออกไปแล้ว

"นึกว่าแกเป็นผีไปแล้ว ถึงได้มาถามข่าว เห็นรถไปจอดแหงแก๋อยู่ที่หน้าโรงพักสามเสน...."

"เฮ้ย...รถฉันเข้าอู่ ซ่อมแล้วมันกระดำกระด่าง ก็เลยว่าจะเปลี่ยนสี
ใหม่ อีกสองสามวันก็ได้นั่ง"

"งั้นที่โรงพักมันของใคร รถกระป๋องเหมือนกันเดี๊ยะเลย"

"อ๋อ.….รู้แล้ว" เขาว่าพลางหัวร่อกั้ก ๆ

"รถคันนั้นมันของครู โรงเรียนวัดสมอแครง เพื่อนฉันเอง ชื่อครูสำรวม"

นายผึ่งค่อย ๆ บรรจงรินเหล้าไทยเติมแก้วทั้งสอง ผมรีบใส่น้ำก้อนรินโซดาตาม แล้วซดกันคนละฮวบ สมัยนั้น (อีกที) โซดายังเป็นฟอง กระเด็นขึ้นถึงจมูก ดื่มชื่นใจดีจริง ๆ แล้วจึงถามเขาว่า

"เรื่องเป็นยังไง เขาถึงไม่เป็นอะไรมาก"

"มันเล่าให้ฟังว่า....." เขาหมายถึงครูสำรวม

"มันขับรถข้ามสะพานกรุงธนจะไปโรงเรียน ตอนขาลงฝั่งโน้น ใกล้จะถึงวัดส้มเกลี้ยง สวนกับสิบล้อที่แซงล้ำเข้ามาทางขวา มันหลบไม่ได้เพราะรถเรียงสองตามกันมาเป็นพืด เลยเหยียบเบรค แล้วล้มตัวลงฟุบบนเบาะ มุมรถสิบล้อข้างตัวคนขับก็ปาดเอาหลังคาเปิงไป แต่ตัวเองไม่ไเป็นไรเลย"

ผมก็เลยดื่มคล่องคอขึ้นมาหน่อย

อยู่ต่อมาอีกนานรถกระป๋องของนายผึ่งก็ทำเหตุขึ้นอีก แต่คราวนี้
เขาไปสองคนกับเพื่อนที่ชื่อ นายชั้น ขากลับจากเลิกงานแล้ว ก็ไถลไปตามเคยจนดึกพอสมควรแล้ว ก็กลับมาทางถนนจรัญสนิทวงศ์ สมัยนั้นถนนยังไม่ได้เป็นทางคู่ อย่างเดี๋ยวนี้ และทางเท้าก็ยังไม่สมบูรณ์เรียบร้อยตลอดสาย

นายชั้นเล่าว่านายผึ่งขับรถกินขวา เกินครึ่งถนนมาตลอด นาน ๆ จึงจะแถกลับมาอยู่ในทางซ้ายของตน พอดีมีรถบรรทุกขนาดใหญ่เปิดไฟจ้าสวนมา นายผึ่งตกใจได้สติ รีบหักพวงมาลัยรถหลบเข้าทางซ้ายอย่างรวดเร็ว โดยไม่เห็นทางข้างหน้า รถ จึงเข้าไปในซอยเล็ก ๆ แล้วชนเข้ากับมุมตึกแถว เสียงดังกึงแล้วรถก็หยุดนิ่งอยู่กับที่

ตัวนายผึ่งนั้นฟุบเงียบอยู่กับพวงมาลัย แต่นายชั้นไม่บาดเจ็บที่ไหนเลย เพราะรถแล่นช้ามาก เมื่อตรวจดูว่าเพื่อนก็ไม่มีบาดแผล แต่เขย่าเท่าไรก็ไม่หือไม่อือ คิดว่าคงจะสลบไป นายชั้นจึงเดินไปหาตู้โทรศัพท์ เพื่อจะแจ้งตำรวจท้องที่ให้ช่วยมาดูแลหน่อย และในสมัยนั้นตู้ โทรศัพท์ก็ไม่เกลื่อนเมืองเหมือนเดี๋ยวนี้ จึงเดินออกไปไกลกว่าที่เกิดเหตุมาก กว่าจะได้กลับมา ก็มีคนมุงเต็มไปหมด

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์กันจ้อกแจ้กจอแจ ว่าคนขับคงจะแย่แน่ นายผึ่งก็ผงกหัวขึ้นมาร้องถามว่า

"เฮ้ย....เกิดอะไรขึ้น คนง่วงจะตายขอนอนสักงีบก็ไม่ได้รึไง"

นายชั้นรีบเข้าไปเปิดประตูด้านคนขับ ถามว่า

"เป็นไงบ้างพี่ผึ่ง เป็นอะไรหรือเปล่า"

"เปล่า..ไม่ได้เป็นอะไรเลย นอนหลับอยู่ดี ๆ ดันมีคนมาถอดนาฬิกาข้อมือซะนี่ ถ้าไม่ตื่นก็คงสูญไปแล้ว"

พลันก็มีเสียงฮาขึ้นพร้อมกัน แล้วกลุ่มชนเหล่านั้น ต่างก็แยกย้ายสลายตัวไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันนายผึ่งยังคบหาสมาคม กับเพื่อนกลุ่มเดิมอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่เขาเลิก ขับรถอย่างเด็ดขาดแล้ว เพราะต้องใช้ไม้เท้าเป็นขาที่สาม ตั้งแต่เกษียณอายุราชการมาเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง

#############

นิตยสารทหารปืนใหญ่
มกราคม ๒๕๔๖

ถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป
๒๙ ธันวาคม ๒๕๔๘

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2550 6:49:51 น. 8 comments
Counter : Pageviews. Add to





ลงชื่ออ่านครับ

นอนไปได้ยังไงเนี่ย 555

โดย: blackguard (boris_chung ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:20:36 น.




เมามากก็เลยหลับคาพวงมาลัยครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:40:16 น.




อิอิอิ ตลกดี

โดย: ข้าวโพด IP: 121.55.227.70 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:15:30:00 น.




เรื่องตลกแบบนี้ยังมีอีกครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:19:53:08 น.




ยุคไหน ก็มีคนมาปลดทรัพย์สินของผู้ประสบอุบัติเหตุ

โชคดีที่ไม่เป็นอะไรเลยนะครับ

โดย: พี่แต้ วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:22:42:11 น.




เวลารถโดยสารต่างจังหวัดคว่ำก็มี
ถ้ามีคนมากแบบเครื่องบินตกก็เป็นคดีความใหญ่โตครับ.

โดย: เจียวต้าย IP: 58.9.203.88 วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:48:50 น.




เพื่อนคุณลุงเยอะจริงๆนะครับ
เอามาเขียนเรื่องคงได้เล่มหนาทีเดียว


โดย: วิรุฬห์ IP: 124.120.96.180 วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:21:01:22 น.




เลือกรวมแล้วทั้งเรื่องตนเองและเพื่อน ประมาณ ๒๐ เรื่อง
ไม่มีใครรับพิมพ์ให้ครับ
ต้องพิมพ์เองไว้แจกในงานเผาศพครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:8:13:47 น.

 

นายชั้นตายเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕

นายพึงตายเมื่อ ปลาย พ.ศ.๒๕๕๖

 

 

 





 

Create Date : 25 สิงหาคม 2554    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2557 13:16:21 น.
Counter : 1027 Pageviews.  

แมวอีกแล้ว

เรื่องสั้น

แมวอีกแล้ว

เพทาย

ผมเคยเล่าไว้ว่าครอบครัวของแมวชื่อสีเทาที่อยู่ทางหน้าบ้าน ทิ้งลูกไว้ให้ผมเลี้ยงตัวหนึ่ง ชื่อเจ้ากระดิ่ง เพราะมีหางยาวแต่ตอนปลายคดงอเหมือนงูหางกระดิ่ง ต่อมามันออกลูกมาอีกครอกหนึ่งกี่ตัวจำไม่ได้ มันมานอนให้ลูกกินนมอยู่แถวหน้าบ้านตามเดิม สุดท้ายก็เหลือตัวเดียว หน้าตาเนื้อตัวสีลายน้ำตาลอ่อนเหมือนเจ้ากระดิ่ง จึงให้ชื่อว่านังพุงขาว พออายุได้ประมาณห้าเดือนก็เอาไปทำหมันที่ห้วยขวาง คราวนี้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ หลังผ่าตัดอาศัยอยู่ไม่กี่วันก็กลับบ้านได้ แล้วก็เป็นเพื่อนเล่นไล่จับกับเจ้ากระดิ่งพี่ชาย และนังมอมแมม ลูกครอกหลังบ้าน ที่มีอายุเท่ากันกับเจ้ากระดิ่ง

นังสีเทาก็ถือโอกาสท้องอีกครั้งหนึ่ง พอนังพุงขาวมาอยู่บ้านได้ไม่กี่เดือน นังแม่ก็ออกลูกมาอีกครอกหนึ่ง คราวนี้ไม่รู้ว่ากี่ตัวเพราะมันไปออกที่บ้านข้าง ๆ ไม่ได้ยินเสียงร้อง

วันหนึ่งก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องอยู่ตัวเดียวทั้งวัน จึงเที่ยวเดินหาดูก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งขนสีน้ำตาลอ่อนทั้งตัวไม่มีด่าง ลืมตาแล้ว แหกปากร้องอยู่ใต้พุ่มไม้ จนเสียงแหบเสียงแห้ง ก็นึกว่าเป็นกรรมของเราอีกแล้ว จึงไปเอาอ่างพลาสติกใบใหญ่เอาผ้าขี้ริ้วรองพื้น จับลูกแมวมานอนในนั้นกันไม่ให้มันปีนออก แล้วก็ไปซื้อนมมาหนึ่งกล่อง ค้นหาอุปกรณ์การป้อนนมลูกแมวของเก่าไม่พบ ก็ไปซื้อหลอดที่มีลูกยางบีบมาป้อนนม มันก็กินบ้างหกบ้าง แล้วก็ปล่อยให้มันร้องต่อไปตลอดคืน

วันรุ่งขึ้นแม่ของมันก็มาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ข้างกาละมังแต่ไม่ทำอะไร ลงท้ายก็นอนอยู่ใกล้ ๆ ผมแอบดูแล้วเห็นมันไม่คาบลูก ก็หอบเอาลูกไปวางใกล้ ๆ มันก็วิ่งหนีไปเสียอีก นึกว่าจะต้องเลี้ยงเองอีกแล้ว แต่พอตอนเย็นก็หายไปทั้งแม่ทั้งลูก แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงร้องอีกเลย ผมก็ถือว่าแม่มันมารับผิดชอบไปแล้ว ก็ไม่ต้องเป็นห่วงมันอีก จนหลายวันต่อมาจึงแอบตามสะกดรอยนังแม่ที่ออกมากินอาหารเม็ด ก็พบว่ามันไปกกลูกอยู่ใต้พุ่มไม้ใกล้ ๆ ที่เดิม จึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

แต่เวลาล่วงไปอีกครึ่งเดือน ลูกมันก็ไม่เคยออกมาจากพุ่มไม้นั้นเลย พอไปแอบดูมันก็มองตาแป๋วแต่ไม่ร้อง และไม่คลานอย่างที่เคยเห็นลูกแมวทั่วไป เพราะคำนวนอายุแล้วน่าจะมากกว่าหนึ่งเดือน เมื่อแม่มันพาลูกอพยพมาอยู่ข้างเครื่องปรับอากาศชิดฝาบ้าน จึงซื้ออาหารลูกแมวมาใส่จานให้มันกิน มันก็ไม่ค่อยกินทั้งแม่ทั้งลูกปล่อยให้มดขึ้นเต็ม ก็เลยเลิกพยายามปล่อยไปตามยะถากรรมของมัน

วันหนึ่งมีฝนหลงฤดูตกลงมาอย่างหนัก ได้ยินเสียงลูกแมวร้องที่ข้างเครื่องปรับอากาศ จึงรีบออกไปดู ก็เห็นเจ้าสีน้ำตาลคลานหนีฝนสาด ก็อุ้มมาให้แม่มันที่นอนหลบฝนอยู่ใต้โต๊ะหน้าบ้าน ปรากฏว่ามันดันลุกหนีไปเสียอีก มีแต่พวกพี่อย่างเจ้ากระดิ่ง นังมอมแมม และนังพุงขาว มามุงดูกันเต็มแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ผมจึงต้องเอามันใส่อ่างพลาสติกไว้อีก แต่พอฝนหายมันก็กลับมาคาบลูกเอาไปกกอยู่ที่ข้างเครื่องปรับอากาศตามเดิม เจ้าลูกตัวนี้ยังไม่รู้ว่าเพศใด แต่ตั้งชื่อมันว่า สีน้ำตาล แทนแม่ซึ่งชื่อ สีเทา

นังสีเทาก็พาลูกของมันไปเลี้ยงเอง อยู่หลายวัน ถึงเวลาก็มากินอาหารเม็ด กินแล้วก็หายไปหาลูก ทำอย่างนั้นอยู่เกือบเดือน วันหนึ่งไปแอบมองดูมันกกลูกอยู่ในพุ่มไม้ จึงได้รู้ว่ามันไม่ได้มีลูกตัวเดียวอย่างที่เราคิด มันมีสองตัวแต่สีเหมือนกันอย่างที่แยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน ผมก็เลยไม่รู้ว่าไอ้เจ้าตัวที่อุ้มมาใส่อ่างนั้นเป็นตัวไหนกันแน่

เมื่อเจ้าสองตัวมันเดินตามแม่ออกมายังลานซีเมนต์หน้าบ้าน จึงสังเกตเห็นว่าตัวที่โต กว่า มีหางสั้นกว่าและมีขนหุ้มดูทื่อ ๆ ส่วนเจ้าตัวเล็กมีหางยาวกว่า และปลายแหลมเรียว จึงตั้งชื่อใหม่ว่า เจ้าทื่อ กับเจ้าแหลม แต่รู้สึกว่าจะเป็นตัวเมียทั้งคู่

ลูกนังสีเทาคู่นี้ดูจะไม่ค่อยแข็งแรงอย่างปกติ อายุเดือนกว่าแล้วแต่ยังเดินตุปัดตุเป๋ เวลาแม่มันเดินห่างออกไป ก็ไม่วิ่งตาม และหาแม่ไม่ค่อยเจอ มักจะเดินไปคนละทิศละทาง ต้องจับมันเข้าไปหาแม่ตอนมันนอนกลางลาน แม่มันก็เลียหัวเลียตัวลูกตา มประสาแมว แต่ไม่เห็นกระโดดโลดเต้น เหมือนครอกอื่น ๆ ที่เคยเห็นมา เมื่อพิจารณาดูให้ถนัดก็จะเห็นว่า ทั้งคู่มีพุงป่องเหมือนคนเป็นโรคท้องอืด กินแล้วไม่ถ่ายอย่างนั้น จึงคิดว่ามันจะอยู่รอดหรือไม่

แต่อีกหลายวันต่อมา เจ้าแหลมกับเจ้าทื่อก็ยังดำรงชีวิตอยู่ได้ เจ้าขาวมักจะมาเล่นด้วย โดยวิธีกระโดดเข้ามาคล่อมเขี่ยนิดเขี่ยหน่อย เจ้าตัวเล็กก็ล้มกลิ้งล้มหงาย ต้องร้องตะโกนห้ามปรามทุกครั้งที่เห็น แต่มันก็มีความอดทนไม่ร้องโวยวายอย่างที่คิด แม้ว่านังแม่จะไม่ค่อยเอาใจใส่นักก็ตาม

เมื่อผมไปซื้ออาหารแมวมาตุนไว้ ก็ถือโอกาสซื้ออาหารลูกแมวที่เป็นซอง มาเผื่อ มั นอีก ข้างในเป็นเนื้อปลาเละ ๆ น่าจะกินง่าย แต่มันก็ไม่ค่อยกิน ได้แต่และเล็มนิดหน่อย แล้วก็ปล่อยให้มดขึ้น ต้องเอาไปให้ตัวโตกินต่อ

มันอยู่ของมันสามตัวแม่ลูก อย่างที่ไม่ค่อยเห็นความเจริญก้าวหน้ามาได้อีกพักหนึ่ง เจ้าแหลมก็หายหน้าไป เหลือแต่เจ้าทื่อคอยตามแม่อยู่ตัวเดียว ผมก็เที่ยวเดินหาทุกซอกทุกมุม ว่ามันจะไปแอบนอนอยู่ที่ไหนก็ไม่พบ เจ้าทื่อก็พุงป่องมากขึ้นเห็นผนังท้องใส เมื่อเวลานังแม่นอนพัก มันก็เข้าไปดูดนม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีน้ำนม เพราะนังสีเทาก็ผอมแห้งแรงน้อย ท่าทางไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนกัน

ลงท้ายเจ้าทื่อก็หายไปอีกตัวหนึ่ง ผมก็เที่ยวมองหาทุกซอกทุกมุม ก็ไม่พบอย่างเคย แต่คราวนี้ได้กลิ่นเหม็นตุ ๆ อยู่ใต้ชั้นที่วางรองเท้าหน้าบ้าน ซึ่งผมก้มลงไปดูไม่ถนัด ต้องถอยออกไป ห่าง ๆ แล้วก้มหน้าลงเกือบแนบพื้นซีเมนต์ จึงเห็นเจ้าทื่อนอนนิ่งอยู่ เมื่อเอื้อมมือไปจับตัวมันก็กระดุกกระดิกได้ แต่ไม่มีเสียงร้อง จึงคิดว่าวาระสุดท้ายของมันคงจะมาถึงแล้ว ไม่อยากจะรบกวนมันให้ลำบากลำบนอีก จึงปล่อยไว้ที่เดิม

แต่ที่ไหนได้ เมื่อถึงตอนเย็นออกมาดูอีกที มันกลับลงไปนอนอยู่ในรางน้ำแฉะ ๆ ข้างรั้วบ้าน ไม่รู้มันแถกไปได้อย่างไร ตัวเปื้อนโคลนไปด้านหนึ่ง จึงอุ้มมันขึ้นมาเอาผ้าขี้ริ้วเช็ดน้ำและโคลนออก แล้วก็ให้มันนอนบนผ้าแห้งใกล้ ๆ กับที่แม่มันนอนอยู่ เมื่อผมถอยออกมาก็เห็นนังสีเทาเดินเข้าไปนอนใกล้ ๆ ลูกแล้วก็เลียเนื้อตัวที่เปียกเปื้อนนั้น ตั้งแต่หัวจรดหาง เลียซ้ำซากอยู่อย่างนั้น จนผมเดินเข้าบ้าน

แต่กลิ่นเหม็นตุ ๆ นั้นยังอยู่ จึงฉุกคิดว่า เมื่อเจ้าทื่อยังไม่ตาย กลิ่นนั้นก็ต้องเป็นของเจ้าแหลมแน่ ผมจึงก้มลงไปดูอีกครั้ง ก็พบร่างของเจ้าแหลมเปื่อยเละอยู่ใต้ชั้นไกลสุดมือเอื้อมถึงอย่างที่คิด

ผมจัดการกับศพของเจ้าแหลม ด้วยความสังเวชใจเป็นอย่างยิ่ง นังสีเทานี้มีลูกครอกแรกก็เหลือตัวเดียวคือเจ้ากระดิ่ง ส่วนพี่น้องของมันที่หายสาบสูญไป ผมก็ไม่ได้พบศพ ครอกที่สองก็เหลือตัวเดียวคือนังพุงขาว ซึ่งได้พาไปทำหมันแล้ว กลับมาก็ร่าเริงเป็นปกติอยู่เป็นเพื่อนเจ้ากระดิ่ง

มาครอกที่สามนี้ ได้เห็นเป็นศพไปตัวหนึ่งแล้ว ยังเหลืออีกตัวหนึ่งก็นอนไม่กระดิกกระเดี้ย ให้แม่เลียแล้วเลียอีกอยู่ในขณะนี้ ดูแล้วก็ไม่มีโอกาสที่จะรอดมาวิ่งเล่นได้เลย

แม้ผมจะเห็นความตายของแมวในบ้าน ที่ไม่ได้เจตนาจะเลี้ยงมาหลายตัวแล้ว ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ออกจากราชการมา จนชักจะชินแล้ว แต่ก็อดเวทนาในชะตากรรมของมันไม่ได้ มันมีกรรมอะไรจึงต้องเกิดมาเป็นแมว เกิดแล้วก็อด ๆ อยาก ๆ แล้วก็ออกลูก แล้วก็ตายไป แล้วก็มีไอ้ที่เกิดใหม่มาทดแทน วนเวียนอยู่เช่นนี้

ผมไม่รู้ว่าหมาแมวที่ตายไปแล้ว มีสิทธิ์จะเกิดเป็นคนหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าอย่างผม ถ้าตายแล้วจะได้เกิดเป็นหมาหรือแมว หรือไม่ ก็ไม่รู้จะไปถามใคร ได้แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม

เช่นเดียวกับเจ้าทื่อ ซึ่งนางสีเทาแม่ของมัน ที่เลิกเลียเนื้อตัวลูกแล้ว แต่มันก็ยังนอนอยู่ไม่ไกล ไม่เกินสายตา โดยมันหันหน้ามามองลูกอยู่ตลอดเวลา มันทั้งสองก็อยู่ด้วยกรรมของมันเอง

ผมอยากรู้ว่า มันจะอยู่อย่างนั้นจนถึงเช้าหรือไม่.


############


Create Date : 25 ตุลาคม 2550
Last Update : 25 ตุลาคม 2550 9:58:07 น. 11 comments
Counter : 10 Pageviews. Add to





แวะมาทักทายคะ

โดย: ApPleNarak999 วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:10:28:33 น.




ผมเพิ่งเคยเห็นชื่อคุณครั้งแรก
ยินดีมากครับ.

โดย: เจียวต้าย (เจียวต้าย ) วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:10:33:33 น.






โดย: หม๋องแหม๋ง วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:17:49:30 น.




เป็นแมวนี่น่าสงสารค่ะ

ไม่เคยเลี้ยงแมวแต่น้องบ้านใกล้ๆเลี้ยง


ที่บ้านเลี้ยงแต่น้องหมากับกระต่ายก็เยอะเลย

เลี้ยงไม่ไหว

น่าสงสารนะคะ ทำไม มันถึงไม่ค่อยกินเลย

เฮ้อ เวรกรรม

โดย: เชอรี่ (JAN_CHERRY ) วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:21:16:52 น.




ขออภัย ทั้งคุณหม็องแหม็ง และคุณเชอรี่
ผมนึกว่าเข้ามาตอบแล้ว เลยเลื่อนผ่านไปตั้งเดือนกว่า
คุณคงไม่เข้ามาอ่านอีกแล้วนะครับ
โดยเฉพาะคุณเชอรี่ ยกโทษให้ผมนะครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:22:19 น.




ตอนไปอยู่ที่ซีเชลล์ ที่หอพักมีแมวจรจัด ใครไม่รุเอาเส้นลวดมาผูกคอแมว คงจะผูกตั้งแต่มันยังเด็ก เพราะเส้นลวดมันฝังลงในเนื้อทำให้ป็นแผลเน่าเหม็นมาก วางแผนจับแมวล่อให้มากินข้าวในห้องแล้วปิดประตู กว่าจะจับได้ แมวฉี่แตกเหม็นเต็มห้องไปหมดเลย แต่สุดท้ายก้อช่วยให้แมวพ้นทุกข์ สุขจายยยยย

โดย: ข้าวโพด IP: 121.55.227.70 วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:11:22 น.




การช่วยเหลือสัตว์ตกทุกข์ได้ยาก ก็เป็นบุญอย่างหนึ่งครับ
คิดว่าคนผูกคงไม่เจตนาแกล้ง แต่เผอิญแมวพเนจรไปไกลจากที่ ๆ เคยอยู่
และผู้ที่พบเห็นก่อนคุณ ก็พากันเฉยเมยเสียหมด นะครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:18:35:43 น.




แม่แมวคงไม่แข็งแรง ถึงออกลูกมาตาย

ผมเคยเลี้ยงแมว ที่ไม่ใช่แมวจรจัด

ลูกออกมาจะแข็งแรงไม่ค่อยจะเป็นอะไรเลยนะครับ

เลี้ยงมาประมาณ 5 ครอก ได้มั้งครับ

โดย: พี่แต้ วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:19:02:11 น.




แล้วยังอยู่ครบมั้ยครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:9:09:56 น.




วันนี้เจ้าแมวมาถ่ายไว้ให้เก็บสองกอง กลิ่นตลบอบอวล
เคยถ่ายตรงไหนก็ถ่ายตรงนั้น ไม่รู้จะแก้ยังไง
ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงเลยครับ มันมาขออาศัยก็เลยปล่อยๆเห็นลูกของมันน่ารักไม่กล้าไล่

โดย: วิรุฬห์ IP: 124.120.232.203 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:19:27:58 น.




เราต้องย้ายอึแมวไปวางไว้ตรงที่เราต้องการให้มันถ่าย
แล้วก็จับมันไปดมว่าตรงนี้นะ
ส่วนที่เก่ากวาดล้างให้สะอาด แล้วเอาพริกป่นโรยไว้
แมวดมแล้วก็จะไม่ถ่านตรงนั้นครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:8:14:24 น.





 

Create Date : 24 สิงหาคม 2554    
Last Update : 24 สิงหาคม 2554 19:48:12 น.
Counter : 512 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.