Group Blog
 
All Blogs
 
อ้วนเสี้ยว (๕)

สามก๊กฉบับลายคราม

ผู้เป็นใหญ่ฝ่ายเหนือ

ตอนที่ ๕ ผู้พ่ายศึกทุกสารทิศ

เล่าเซี่ยงชุน

อ้วนเสี้ยว ผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคเหนือ เมื่อถูกโจโฉตีแตกพ่ายมาจากตำบลกัวต๋อก็หนีข้ามแม่น้ำฮองโห พร้อมกับทหารที่เหลืออยู่เพียงแปดร้อยคน มุ่งไปสู่เมือง ลิหยง เจียวหงี ซึ่งรักษาเมืองอยู่ก็ออกมาต้อนรับ พาเข้าไปในค่ายซึ่งตั้งเตรียมยันทัพโจโฉนอกเมือง พวกทหารของอ้วนเสี้ยวที่แตกหนีไปหลายทาง พอรู้ข่าวว่าอ้วนเสี้ยวมาตั้งหลักอยู่ที่ค่ายหน้าเมืองลิหยง ก็กลับมารวมพลกันเป็นอันมาก

อ้วนเสี้ยวยังไม่ยอมแพ้ จึงยกทหารออกจากค่ายจะไปปรับขบวนที่เมือง
กิจิ๋ว เพื่อคิดการสงครามแก้ตัวต่อไป ขณะเดินทางพอพักกลางคืน ก็ได้ยินเสียงทหารที่
เหลือตายร้องไห้รำพันว่า ถ้านายเราเชื่อฟังถ้อยคำของ เตียนห้อง ที่ไหนเลยจะได้รับ
ความเดือดร้อนล้มตายกันถึงเพียงนี้ ครั้นพอถึงเช้าออกเดินทางต่อไป ก็สวนกับ ฮองกี๋ ที่ปรึกษาซึ่งขี่ม้าพาทหารมารับ อ้วนเสี้ยวก็ว่าเราไปทำศึกครั้งนี้เสียทีโจโฉมา เพราะ
ว่าไม่ฟังคำห้ามของเตียนห้อง กลับไปนี้คิดอายเตียนห้องนัก

ฮองกี๋จึงใส่ความว่า เตียนห้องซึ่งอยู่ในคุกนั้น พอรู้ว่าท่านแตกทัพมาก็ตบมือหัวเราะเยาะ อ้วนเสี้ยวได้ฟังดังนั้นก็โกรธอีกตามเคยจึงส่งกระบี่ให้ทหารรีบเข้า
ไปในเมือง แล้วเอาตัวเตียนห้องไปฆ่าเสียก่อนอย่าให้เห็นหน้า

เตียนห้องนั้นความจริงไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย ผู้คุมก็เข้ามา
ฝากเนื้อฝากตัวว่า ต่อไปภายหน้าจะขอพึ่งบุญท่าน เตียนห้องก็ถามเหตุผล ผู้คุมก็บอกว่า เดิมท่านห้ามปรามอ้วนเสี้ยวไม่ให้ยกทัพไป อ้วนเสี้ยวไม่ฟังยกไปแล้วก็ปราชัยแก่ โจโฉมาสมดังคำท่าน คราวนี้อ้วนเสี้ยวก็จะนับถือท่าน คงจะปล่อยออกจากที่คุมขัง และเลี้ยงดูให้เป็นใหญ่สืบไป
เตียนห้องก็หัวเราะแล้วว่า ถ้าอ้วนเสี้ยวกลับมาเมื่อไร เราก็จะถึงซึ่ง
ความตายเมื่อนั้น ผู้คุมก็สงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เตียนห้องก็อธิบายว่า

"...ถ้าอ้วนเสี้ยวมีชัยชนะมาเห็นจะไว้ชีวิตเรา บัดนี้แตกมาต้องคำเราว่าเห็นจะมีความอัปยศแก่เรา จะให้ฆ่าเราเสียเป็นมั่นคง ด้วยเหตุว่าน้ำใจอ้วนเสี้ยวนั้น ถือมานะอยู่ว่าตัวเป็นใหญ่มิได้ เอาความคิดผู้ใด ทำการประหนึ่งว่าตัวกล้าหาญ มีสติปัญญาลึกซึ้งหาผู้ใดเสมอมิได้...."

พอดีทหารของอ้วนเสี้ยวก็ถือกระบี่เข้ามาบอกแก่ผู้คุมว่า อ้วนเสี้ยวใช้ให้เรามาฆ่าเตียนห้องเสีย จงเร่งส่งตัวออกมาให้เราฆ่าเสียตามคำสั่ง เตียนห้องได้ฟัง
ดังนั้นก็บอกผู้คุมว่า เรารู้น้ำใจอ้วนเสี้ยวดีบอกแล้วไม่เชื่อ ผู้คุมก็ร้องไห้

เตียนห้องจึงว่า

"...ท่านจะโศกเศร้าไปใยให้ป่วยการ อันคำโบราณกล่าวไว้ว่าธรรมดาเกิดเป็นชาย ถ้าจะหาเจ้านายก็ให้พึงพิเคราะห์ ดูน้ำใจซึ่งดีและร้ายก่อน จึงให้เข้าไปอยู่ด้วย แลตัวเราทิ้งคำโบราณเสีย มิได้พิจารณาดูน้ำใจอ้วนเสี้ยวให้ปรากฏว่าดีแลร้าย เห็นแต่กับยศศักดิ์เข้ามาอยู่ด้วย อ้วนเสี้ยวเป็นคนหาสติปัญญามิได้จึงเกิดเหตุ ทั้งนี้เพราะเป็นกรรมของเราเอง....."

ว่าแล้วก็ขอกระบี่มาเชือดคอตายอย่างไม่สะทกสท้าน

ส่วนจอสิวที่ติดคุกอยู่ในค่ายกัวต๋อนั้น เมื่อโจโฉยึดค่ายได้แล้วก็ให้ทหาร
ถอดเครื่องจองจำจอสิวออกแล้วว่า เรากับจอสิวรู้จักกันมาก่อน จอสิวก็รู้ว่าโจโฉจะชัก
ชวนให้เป็นพวกด้วย จึงว่า

"....อ้ายโจโฉอย่าพักมาเกลี้ยกล่อมเลย กูหาอ่อนน้อมต่อเอ็งไม่....."

โจโฉก็ทำเป็นไม่โกรธ เอาเงินทองเสื้อผ้ามาให้ แล้วก็แต่งโต๊ะเลี้ยง
แต่พอตกกลางคืนจอสิวก็ลักม้าได้ตัวหนึ่ง ควบหนีจะตามไปหาอ้วนเสี้ยว ทหารของ โจโฉก็จับตัวไว้ได้เอากลับมาส่งให้โจโฉอีก

โจโฉเห็นว่าจอสิวไม่เต็มใจจะอยู่ด้วย จึงให้ทหารเอาตัวไปประหารเสีย แต่แล้วก็สงสารน้ำใจสัตย์ซื่อต่อนาย จึงให้จัดการศพเอาไปฝังไว้ริมแม่น้ำฮองโห
แล้วเอาแผ่นศิลาจารึกไว้ว่า จอสิวนี้มีความซื่อสัตย์สุจริตรักนายเป็นอันมาก ผู้ใดจะทำ
การไปภายหน้า จงดูเยี่ยงอย่างจอสิวนี้เถิด

อ้วนเสี้ยวนั้น เมื่อกลับถึงเมืองกิจิ๋วแล้ว ก็มีแต่ความทุกข์เดือดร้อน จน
สติฟั่นเฟือนไปไม่ได้ออกว่าราชการ และ อ้วนถำ บุตรชายคนโตก็ขอลาไปอยู่รักษาเมือง
เซียงจิ๋วดังเก่า นางเล่าซือ ผู้ภรรยาเห็นอ้วนเสี้ยวไม่สบายหลายวัน จึงเข้าไปหาแล้วว่า

"...ตัวท่านไม่สบายมากไม่สามารถออกว่าราชการได้ อาจทำให้ราชการบ้านเมืองผันแปรไปได้ ส่วนบุตรทั้งสามคนนั้น อ้วนถำผู้พี่ก็ไปรักษาเมืองเซียงจิ๋ว อ้วนฮี ผู้น้องก็ไปรักษาเมืองอิจิ๋วคงเหลือแต่ อ้วนซง ซึ่งเป็นบุตรของข้าพเจ้า ขอให้พิจารณาดูว่าผู้ใดมีสติปัญญา ก็ควรจะให้ว่าราชการเมืองแทนไปพลางก่อน จนกว่าจะหายป่วย....."

อ้วนเสี้ยวก็เห็นว่าเป็นความคิดที่ดี จึงให้หา สิมโพย ฮองกี๋ ซินเบ้ง และกัวเต๋า มาปรึกษาหารือตามคำแนะนำของนางเล่าซือ ที่ปรึกษาก็มีความคิดเห็นไม่
ลงรอยกันตามเคย สิมโพยกับฮองกี๋นั้นมีใจรักอ้วนซง จะให้ว่าราชการแทน แต่กัวเต๋า
กับซินเบ้งนั้น ใคร่จะให้อ้วนถำเป็นผู้ว่าราชการแทน อ้วนเสี้ยวก็เลยชักลังเลไม่รู้ว่าจะ
ตกลงใจอย่างไรดีจึงว่า ครั้งนี้ศึกภายนอกก็ติดพันอยู่ยังไม่เรียบร้อย ตัวเราเองก็ไม่
สบาย จึงคิดจะตั้งบุตรชายไว้เป็นหลักในเมือง จะได้คอยดูแลปกปักษ์รักษาอาณาประชาราษฎรสืบไป แต่อ้วนถำพี่ใหญ่ก็มีน้ำใจดุร้ายมักฆ่าฟันผู้คน อ้วนฮีคนกลางก็เป็นคนใจเย็น เอาเรื่องอะไรรวดเร็วไม่ได้ทันใจ ส่วนอ้วนซงบุตรนางเล่าซือนั้นมีสติปัญญา ทั้งมีน้ำใจโอบอ้อมอารีรักทหารและไพร่บ้านพลเมือง ควรที่จะตั้งให้เป็นใหญ่ในเมืองกิจิ๋วแทนต่อไป

กัวเต๋าจึงว่าอ้วนถำเป็นบุตรชายคนใหญ่ ท่านให้ไปรักษาเมืองเซียงจิ๋วแล้วท่านจะให้อ้วนซงผู้น้องเป็นผู้บังคับบัญชาพี่นั้นจะไม่เสียธรรมเนียมไปหรือ อ้วนถำก็จะน้อยใจได้ อีกประการหนึ่งการศึกสงครามก็ยังติดพันกันอยู่ สมควรจะคิดอ่านการศึกให้สำเร็จเสียก่อน ขืนมัววุ่นวายเรื่องการแต่งตั้งบุตรให้เป็นใหญ่ เห็นว่าบุตรเหล่านั้นก็จะอาฆาตพยาบาทจองเวรโกรธเคืองกันเป็นมั่นคง ขอให้รอเอาไว้ก่อน เมื่อเสร็จสิ้นการสงครามกับโจโฉแล้ว จึงค่อยคิดกันใหม่

อ้วนเสี้ยวก็รีรออยู่ ต่อมาไม่นานอ้วนถำก็คุมทหารห้าหมื่นอ้วนฮีคุมทหารหกหมื่น และ โกกัน ผู้หลานรักษาเมืองเป๊งจิ๋วก็คุมทหารมาอีกห้าหมื่นเพื่อช่วยทำสงครามแก้แค้นโจโฉ อ้วนเสี้ยวก็ยินดีรีบจัดทหารได้อีกประมาณสิบหมื่น แล้วพาลูกหลานซึ่งรวมทั้งอ้วนซง ยกทัพข้ามแม่น้ำฮองโหไปตั้งอยู่ที่ตำบลซองเต๋ง

โจโฉซึ่งยังไม่ได้กลับเมืองฮูโต๋ รู้ข่าวแล้วก็ยกทหารไปตั้งประชิดค่าย
อ้วนเสี้ยว กองทัพของทั้งสองฝ่ายได้เข้ารบพุ่งกันเป็นสามารถ เริ่มแรกอ้วนเสี้ยวเป็นต่อ
เนื่องจากอ้วนซงฆ่านายทหารรองฝ่ายโจโฉตายไปคนหนึ่ง ต่อมาโจโฉหลอกให้ทหารของอ้วนเสี้ยวไล่ตามมาไปจนเกือบจะตกแม่น้ำ พอฝ่ายอ้วนเสี้ยวหลวมตัวก็โดนตีตลบกลับจนต้านทานไม่ไหวต้องแตกระส่ำระสายไป อ้วนเสี้ยวก็พาบุตรหลานถอยหนีไปประมาณร้อยเส้น ก็ยังไม่พ้นข้าศึก ต้องหนีต่อไปอีกสามสิบเส้น สุดท้ายก็ถอยเข้าค่าย พอกำลังหุงหาอาหารได้สุกยังไม่ทันลงมือกิน ก็ถูกข้าศึกตีหักค่ายเข้ามาได้อีก ต้องพาลิ่วล้อทั้งหลายหนี ออกจากค่ายต่อไป จนถึงภูเขาลูกหนึ่งไม่ปรากฏชื่อ ก็ถูกทหารโจโฉอีกกองดักซุ่มโจมตีจน อ้วนฮีและโกกัน ถูกเกาทัณฑ์และอาวุธหลายแห่ง

อ้วนเสี้ยวกอดบุตรและหลานร้องไห้ด้วยความแค้น จนอาเจียนออกมาเป็นโลหิต แล้วให้เลิกทัพกลับไปเมืองกิจิ๋ว โดยให้อ้วนถำ อ้วนฮี และโกกัน กลับไปดู
แลเมืองของตนเองเพื่อสะสมผู้คนและเสบียงอาหารเอาไว้ให้พร้อม ได้โอกาสเมื่อไรจะ
เรียกให้ยกมารวมกันใหม่ เมื่ออ้วนเสี้ยวกลับมาถึงเมืองนั้นก็ป่วยหนัก ต้องให้อ้วนซงว่า
ราชการแทน และให้สิมโพยกับฮองกี๋เป็นผู้ช่วย

จนถึงปีใหม่ เดือนสามข้างขึ้น โจโฉก็จัดแจงทหารจะยกไปตีเอาเมือง
กิจิ๋วของอ้วนเสี้ยวให้ได้อย่างเด็ดขาด โดยยกข้ามแม่น้ำฮองโหไปตั้งฟังข่าวอ้วนเสี้ยวอยู่
ข้างอ้วนเสี้ยวนั้นพอทุเลาป่วยก็คิดจะยกทัพไปตีเมืองฮูโต๋เหมือนกัน แต่สิมโพยห้ามไว้ว่า คราวก่อนเสียทีแก่โจโฉถึงสองครั้ง เสียทหารไปเป็นอันมากและทหารที่เหลือก็ยังอิดโรยอยู่ ควรจะรอทำนุบำรุงทแกล้วทหารให้เข้มแข็งเสียก่อน ก็พอดีได้ข่าวว่าโจโฉยกกองทัพข้ามแม่น้ำมาแล้ว อ้วนเสี้ยวก็ไม่ยอมอยู่นิ่ง เตรียมจะยกกองทัพอออกไปต่อกรด้วย

แต่อ้วนซงเห็นว่าบิดายังป่วยอยู่จึงขออาสายกไปแทน แล้วก็สู้ทหารเอกของโจโฉไม่ได้ต้องแตกพ่ายกลับมา อ้วนเสี้ยวก็ตกใจโรคกำเริบขึ้นมาอีก ถึงกับอาเจียน
เป็นโลหิตออกมาหนึ่งถัง แล้วล้มสลบอยู่กับที่ นางเล่าซือกับหญิงรับใช้ก็ช่วยกันอุ้มเข้าไปพักที่ข้างใน แล้วก็เชิญสิมโพยกับฮองกี๋เข้ามา ปรึกษากันว่าจะแต่งตั้งให้อ้วนซงเป็นเจ้าเมืองกิจิ๋วแทนบิดา

อ้วนเสี้ยวนั้นเมื่อฟื้นขึ้นมาแล้วก็พูดไม่ออกเอามือชี้ที่อกของตัวเอง นาง
เล่าซือก็เลยโมเมเอาว่า เมืองกิจิ๋วนี้จะยกให้แก่อ้วนซงหรือ อ้วนเสี้ยวก็พยักหน้าเพราะ
ไม่รู้จะทำอย่างไร และลมก็ตีสว้านขึ้น ร้องออกมาด้วยเสียงอันดังแล้วก็ชักกระตุกจนพลิกกลับมา และสิ้นใจตายไป โดยไม่ทันได้สั่งเสียอะไรอีก

ชีวประวัติของ อ้วนเสี้ยว แม่ทัพใหญ่ผู้ขาดธรรมะสำหรับบุคคลผู้จะเป็นใหญ่ปกครองบ้านเมือง ถึงสิบประการ ก็สิ้นสุดลงอย่างที่เรียกว่านอนตาไม่หลับ ลงไปแต่เพียงแค่นี้ คงเหลือแต่บุตรและหลานอีกสี่คน ที่จะต้องต่อสู้กับโจโฉ มหาอุปราชผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน เพื่อความอยู่รอดต่อไปตามลำพัง.

##########



Create Date : 11 ธันวาคม 2559
Last Update : 11 ธันวาคม 2559 11:14:37 น. 0 comments
Counter : 578 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.