Group Blog
 
All Blogs
 
ทุรทัศนาจรน้ำตกแม่กลาง (๑)

บันทึกของคนเดินเท้า

ทุรทัศนาจรน้ำตกแม่กลาง

“เทพารักษ์”

ตอนที่ ๑

ได้เคยบันทึกถึงเรื่องไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งแรกในชีวิต เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๒ เขียนกลอนไว้นิดเดียว มีผู้อยากทราบว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ทำไมไม่เขียนกลอนต่อ ก็บอกว่าได้ไปเที่ยวหลายแห่ง เป็นบันทึกธรรมดา แต่เนื้อหายาวมาก และคิดว่าคงไมสนุก แต่จำได้ว่าเคยเขียนลงในนิตยสารทหารสื่อสารแล้วครั้งหนึ่ง

เมื่อค้นหาถอยหลังไปก็เจอ บันทึกเรื่อง ทุรทัศนาจรน้ำตกแม่กลาง โดย “พัชรรัตต์” พิมพ์เมื่อเดือน มกราคม ๒๕๑๑ จึงนำมารวมไว้ในชุด อะไรก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แต่งจากบันทึกตัวจริง เมื่อเวลาได้ล่วงไปแล้ว ๙ ปี หลังจากที่ได้ไปผจญภัยกันมา

หน้าร้อนปีนี้ ผมออกจะโชคดีอยู่ค่อนข้างมากสักหน่อย ไม่ใช่เพราะหยุดพักร้อนถึง ๑๐ วัน ฟรี ๆ หรอกครับ เพราะใคร ๆ ก็หยุดกันได้ทั้งนั้น ถ้าเป็นข้าราชการเหมือนอย่างผม แต่การที่ได้ใช้เวลาพักร้อนนั้นไปทัศนาจรถึงเชียงใหม่นี่ซิครับ ถึงจะพอพูดได้ว่าโชคดี เพราะตามธรรมดาข้าราชการชั้นหางแถว ที่ได้รับเงินเดือนขนาดพอใช้ไปอย่างมากเพียง ๕ วันอย่างผมนี้ ถ้าไม่โชคดีบุญมีมา กุศลพานำช่วยให้ถูกหวยรัฐบาลเข้าซักใบครึ่งใบแล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะหาโอกาสไปทัศนาจรได้ยากเต็มที ฉะนั้น การที่เราสามารถกัดฟันหอบหิ้วสังขารอันบอบบางของเราขึ้นไปเที่ยวถึงเชียงใหม่ได้ โดยไม่ได้รับการอุปถัมภ์รายการจากใครเลยนี้ จึงเป็นเรื่องที่ผมออกจะภูมิใจเอามาก ๆ ทีเดียวครับ แต่ถ้าใครจะไม่เห็นด้วย ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับ

ทีนี้บังเอิญเหลือเกินที่ “แม่กลาง” เป็นตำบลหนึ่งที่อยู่ในอำเภอจอมทอง ซึ่งขึ้นอยู่กับจังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็บังเอิญอีกเหมือนกันที่ตำบลนั้นมีน้ำตก ที่ขึ้นชื่อลือชาว่าสวยงามกว่าน้ำตกอีกหลายต่อหลายแห่ง ในประเทศไทย อยู่ที่นั่นเสียด้วย ดังนั้นหรือดังนี้ ทั้ง ๆ ที่น้ำตกแม่กลางอยู่ห่างจากอำเภอจอมทองถึง ๙ ก.ม. และห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่อีกตั้ง ๕๘ ก.ม. ซึ่งดูเหมือนไม่ค่อยจะมีใคร นิยมเดินทางไปโดยรถไฟ หรือเครื่องบิน กันเท่าใดนัก นอกจากรถยนต์หรือเกวียน ทั้ง ๆ ที่เราไม่มีรถยนต์จะไป ไม่ว่าจะรถส่วนตัวหรือแท็กซี่ เพราะเพียงแต่มาเดินเตร่อยู่ในเมืองเชียงใหม่ได้ เราก็ต้องชักชวนกันและกัน รัดเข็มขัดจนแทบจะแย่อยู่แล้ว เราก็ยังอุตส่าห์ พยายามที่จะตะเกียกตะกายไปให้ถึงให้ได้ ด้วยความมุ่งหมายแต่เพียงอย่างเดียว คือกลัวจะเสียชื่อว่ามาถึงเชียงใหม่ทั้งทีไม่ได้เห็นน้ำตกแม่กลาง

เพราะเหตุฉะนั้น หรือเพราะเหตุฉะนี้นี่เอง การทัศนาจรน้ำตกแม่กลางอย่างทุลักทุเลของเรา จึงได้เริ่มต้นขึ้นด้วยประการฉะนี้

เราที่ได้พูดถึงตั้งหลายหนแล้วนั้น ประกอบขึ้นด้วย นายออด นายผี และคนสำคัญอีกคนหนึ่งคือ ผมเอง นายห่อ ซึ่งได้ถูกบังคับเคี่ยวเข็ญให้เป็น หัวหน้าคณะทัศนาจรจ้อย ๆ ซึ่งมีจำนวนสมาชิดเพียงสามนายนี้ ด้วยความจำอกจำใจเป็นที่สุด ทั้งนี้เพราะว่าถ้าหากผมไม่ยอมรับเป็นเสียแล้ว แน่นอนที่สุด ไม่นายออด ก็นายผี คงจะยอมเป็นเข้าสักคนหนึ่งเป็นแน่ ซึ่งถ้าเป็นดังนั้นหมอก็ย่อมจะมีอำนาจสิทธิ์ขาดในการที่จะสั่งให้คนอื่นทำโน่นทำนี่ โดยที่ตนเองไปนอนเสียเฉย ๆ หรือมีสิทธิ์ที่จะกินหรือดื่มมากกว่าคนอื่น ตลอดจนมีสิทธิ์ที่จะเก็บเอาไว้ซึ่งเงินทั้งหมดที่มีอยู่อย่างจำกัดจำเขี่ย และดำเนินกรรมวิธีใช้จ่ายทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็นไว้แต่ผู้เดียว โดยไม่แยแสต่อสายตาอันละห้อยละเหี่ยของคนอื่น ๆ ซึ่งผมเห็นจะยอมไม่ได้เป็นเด็ดขาด

เราทั้งสามต่างตื่นขึ้นในเช้ามืดของวันที่ ๑๓ พ.ค. บนเตียวกระจ้อยร่อยของโรงแรมร่มโพธิ์ หลังจากที่ได้นอนเบียดกันเหงื่อแตกซิก ๆ มาแล้วตลอดคืน เมื่อได้ผลัดกันเข้าไปทำกิจธุระส่วนตัวในห้องน้ำแล้ว ก็แต่งเนื้อแต่งตัวพากันเดินเรียงหนึ่งราวกับจะเล่นงูกินหาง ไปยังตลาดวโรรสซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหาอาหารมื้อเช้ารองท้องเสียก่อน แล้วก็ซื้ออาหารอันประกอบด้วย ข้าวเหนียวนึ่ง ไก่ย่าง ซี่โคงหมูทอด ไส้กรอกหมู และลาบเนื้อ พร้อมทั้ง”ช้าง “ยอดวิสกี้ของเชียงใหม่ ใส่ถุงย่ามเพื่อสำรองไปกินกลางวันหรือเย็น ตามแต่จะเหมาะในโอกาสหน้า

เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไล่นายออดกับนายผี ไปเช่ารถจักรยาน ๒ ล้อที่แถว ๆ สันป่าข่อยมาให้ ๒ คัน การที่ต้องเช่าจักรยานสองล้อ ก็เพราะว่าเราจะเดินทางไปน้ำตกแม่กลางด้วยจักรยานนั้น แทนที่จะเดินทางไปด้วยเท้าที่สวมเกือกเก่าของเราเอง ซึ่งผมได้นอนคิดใครครวญอยู่อย่างรอบคอบที่สุดในชีวิต เป็นเวลาครึ่งคืนแล้ว ก็เห็นว่าการที่เราจะทัศนาจรน้ำตกแม่กลางด้วยการเดินไปนั้น เป็นการกระทำที่ไม่สู้จะเหมาะสมนัก เพราะนอกจากจะเสียเวลามาก และเสี่ยงต่อการอดข้าวเป็นอย่างยิ่งแล้ว ดีไม่ดีเวลากลับกรุงเทพ ขาของเราอาจจะเหลืออยู่แค่หัวเข่าก็เป็นได้

แต่ที่ผมให้ไปเช่าจักรยานพียงสองคันนั้น ก็เพราะในขบวนของเรา มีคนที่ขี่จักรยานเป็น เพียงสองคนเท่านั้น ซึ่งแน่นอนคนที่ขี่ไม่เป็นนั้น ย่อมจะไม่ใช่นายออด หรือนายผี แต่เป็นผมเอง ไม่มีครั้งใดในชีวิตที่ผมจะยินดีต่อการขี่จักรยานไม่เป็นของผม ยิ่งไปกว่าครั้งที่จะได้ไปน้ำตกแม่กลางนี่เลย เพราะย่อมเป็นการแน่นอนว่า ไม่ใครก็ใครคนหนึ่งในจำนวนนายผีกับนายออดนั้น จะต้องยอมให้ผมนั่งซ้อนท้ายไปกับเขาโดยไม่อาจโต้แย้งหรือเกี่ยงงอนได้เลย นอกจากทำตาปริบ ๆ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็จะขาดหัวหน้าคณะที่ดีที่สุดของเขาไปเสีย ซึ่งย่อมจะเป็นผลให้ขาดอะไรต่ออะไรที่เป็นปัจจัยสำคัญ ในการทัศนาจรไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

เรานัดจะไปพบกันที่ประตูเชียงใหม่ ซึ่งเป็นต้นทางของรถเมล์สาย เชียงใหม่-จอมทอง ในเวลาแปดโมงเช้า สั่งเสียกันดิบดีแล้วผมก็แยกจากเขาทั้งสอง ขึ้นรถ ร.ส.พ.ขนาดย่อมไปรออยู่ที่ที่นัดหมายอย่างสบายอกสบายใจ ที่ซึ่งเรียกกันว่าประตูเชียงใหม่ โดยไม่เห็นมีประตูอยู่ตรงไหนนั้น เป็นที่รวมของรถเมล์หลายสายคล้ายชุมทางรถเมล์ที่ตลาดหมอชิต เอกมัย หรือสายใต้ของกรุงเทพอย่างนั้นแหละ คนขับและกระเป๋าซึ่งมีเป็นจำนวนไม่น้อย ต่างก็พยายามที่ฉุดลากกระชากแขนให้ผมไปขึ้นรถของเขาแต่ละคนให้ได้ ยังแต่ไม่ได้ลงทุนอุ้มไปเลยเท่านั้น ผมเห็นท่าไม่ค่อยดีเลยต้องถอยออกมาตั้งหลักอยู่ในร้านกาแฟแถว ๆ นั้น ดูดโอเลี้ยงฆ่าเวลารอเพื่อนไปพลาง ๆ แต่แปดโมงแล้วก็แปดโมงกว่า จนเกือบจะแปดโมงครึ่ง โอเลี้ยงหมดแก้วไปนานแล้ว ก็ยังไม่เห็นหน้า หรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง ของนายออดหรือนายผี โผล่มาเลย

ผมชักใจคอไม่ดี อาจจะเกิดอุบัติเหตุ เช่นคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคน ถูกรถยนต์ทับแข้งขาหรือคอเข้าให้แล้วก็ได้ หรือไม่งั้นก็อาจจะจำถนนผิด ผ่าขี่เรื่อยเปื่อยไปไปทางลำพูนลำปาง ดน่นแล้วก็ได้ ผมรออยู่จนเกือบจะเก้าโมงก็รอต่อไปอีกไม่ไหว ต้องฝากสัมภาระไว้ที่ร้านกาแฟนั้น แล้วรีบจับรถ ร.ส.พ.ย้อนกลับเข้าไปในเมืองอีก

พอลงรถที่สันป่าข่อยก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นนายสองคนนั่น นั่งป๋ออยู่ที่ร้านจักรยานอย่างสบายใจเฉิบ เหมือนกับกำลังนั่งกินลมชมวิวอยู่ที่สนามหลวงอย่างนั้นแหละ ไม่ยักวิตกทุกข์ร้อนหรือเจ็บไข้ได้ป่วย เฟหมือนอย่างที่ผมคิดเลย พอสองคนนั่นเห็นสีหน้าของผมเข้า ก็กระโดดออกไปตั้งหลัก ห่างคนละสักสองวา แล้วก็ช่วยกันอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสียจนฟังแทบไม่ทัน

ได้ความว่าเช่ารถได้เรียบร้อยแล้ว ก็ขี่ออกจากร้านเมื่อแปดโมงกว่า ๆ พอขึ้นสะพานนวรัฐ คันของนายออกก็ทำพิษ ยางหน้าระเบิดออกมารูโต ทั้งนี้เพราะเจ้าของร้านทราบว่า จะเอารถของเขาขี่ไปถึงน้ำตกแม่กลาง จึงพยายามคัดเอารถคันที่เก่าที่สุด เท่าที่จะหาได้ให้มาเลยต้องจูงกลับไป เสียเวลา ตั้งแต่บัดนั้นมาจนบัดนี้ แต่ที่ไม่ได้ติดต่อให้ผมรู้ก็เพราะคิดเดี๋ยวก็จะเสร็จ (สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์วิเศษอย่างสมัยนี้)

พอปรับความเข้าใจกันได้โดยยังไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ ก็พอดีทางร้านปะยางเสร็จ เราจึงพากันย้อนกลับมายังประตูเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง ได้เวลาที่รถจะไปจอมทองอีกคันหนึ่งกำลังจะออกพอดี พวกเราจึงถูกระเป๋ารถลากตัวเข้าไปอัดอยู่ในรถซึ่งแน่นเอี๊ยดอยู่แล้ว โดยไม่สามารถจะอ้าปากโต้แย้งหรือขอความกรุณาได้ทันท่วงที และแล้วรถเมล์คันนั้นก็ออกเดินทาง พาปลาซาดีน...เอ๊ย...ผู้โดยสารทั้งโขยงออกจากประตูเชียงใหม่ไป เมื่อเวลาเก้าโมงครึ่งพอดี

รถเมล์ห้อตะบึงไปบนถนน ที่ดูเหมือนจะราดยางไว้น้อยไปสักหน่อย เรานั่งข้างท้ายจึงต้องคอยระวังหัวไว้ให้ดี อย่ายอมให้มีอันกระดอนไปกระทบกับหลังคาเข้าได้เป็นอันขาด ซึ่งเป็นภาระอันหนักที่เราจะต้องกังวลอยู่มิใช่น้อย สองข้างทางมีหมู่บ้านกับท้องนาสลับกันไปคล้าย ๆ ถนนพหลโยธินตอนชานพระนครเหมือนกัน แต่ฝุ่นเท่านั้นที่ดูเหมือนจะมากกว่ากันอยู่สักหน่อย

เราถือโอกาสคุยกับผู้เฒ่าผู้แก่ ที่โดยสารร่วมทางกัน หาความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเชียงใหม่เพิ่มเติมไว้ประดับสติปัญญา แกอู้คำเมืองมา เราฟังพอรู้เรื่องก็อู้คำกรุงไป แกก็พอเข้าใจ เลยคุยกันได้อย่างสนุกสนาน ที่น่าสังเกตคือผู้เฒ่าผู้แก่เหล่านั้น ไม่ว่าหญิงว่าชายมักจะคาบบุหรี่มวนโตติดปากกันคนละมวนแทบทั้งนั้น รูปร่างคล้าย ๆ ซิการ์ เราเลียบเคียงขอมาลองรสกันคนละมวน ผมอัดเข้าไปทีแรกตาแทบเหลือก สะพานโพยังไงยังงั้นเชียว จะทิ้งก็เกรงใจเลยต้องพ่นเอาพ่นเอา จนควันกลบไปหมด มองแทบไม่เห็นหน้ากัน

รถแล่นมาสักพักหนึ่งก็ถึงหมู่บ้าน ชื่ออะไรก็จำไม่ได้เสียแล้ว รถเลี้ยวเข้าไปส่งผู้โดยสารถึงข้างในหมู่บ้าน พอจะกลับถอยหลังไปบนสะพานไม้ที่ทำไว้อย่างหยาบ ๆ ชะรอยผู้โดยสารบนรถจะเกินน้ำหนักบรรทุกไปมิใช่น้อย ไม้ท่อนหนึ่งเลยหักกรอบลงไป โดยไม่บอกไม่กล่าว ล้อหลังตกผลุบลงไปเอียงกระเท่เร่ เสียงผู้โดยสารร้องวี้ดว้ายกันจนตกอกตกใจ นึกว่าจะต้องมีการแช่เย็นกันเสียแล้ว แต่เมื่อลงไปดูก็พบว่าเป็นสะพานเล็ก ๆ ข้ามคูตื้นนิดเดียว แต่ถึงกระนั้นรถก็ไม่สามารถจะขึ้นมาเองได้ ต้องเป่าหมู่ผู้โดยสาร เฮโลสาระพายกขึ้นมา รถจึงแล่นต่อไปได้ พร้อมกับมีเรื่องสำหรับคุยสรวลเสเฮฮาแก้ง่วง เพิ่มขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง.


Thanks: gclub




Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2554 13:13:30 น. 0 comments
Counter : 422 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.