Group Blog
 
All Blogs
 
เล่าปี่ (๖)

สามก๊กฉบับลายคราม
เล่าปี่...ผู้พนมมือถือดาบ
ตอนที่ ๖ ผู้พนมมือทุกทิศ เล่าเซี่ยงชุน


ฝ่าย เล่าปี่ ซึ่งได้รับหนังสือของเล่าเจี้ยง ที่ได้ฝากหวดเจ้ง ไปนั้นมีใจความว่า
"...ข้าพเจ้าเล่าเจี้ยงผู้น้อง ขอคำนับมาถึงเล่าปี่ผู้พี่ ด้วยทุกวันนี้ ข้าพเจ้า มีใจรำลึกถึงอยู่ แต่ทว่าเป็นทางกันดารยากที่จะไปมา ครั้นจะจัดแจงสิ่งของมาคำนับตาม ประเพณี ก็มิทันที ซึ่งมิบังควรประการใดนั้น ขอท่านได้อดโทษข้าพเจ้าเถิด ด้วยบัดนี้เตียวฬ่อ คิดการใหญ่หลวงนักจะมาทำร้ายข้าพเจ้า ๆ หาที่จะเห็นมิได้ หวังจะพำนักแต่ ท่านผู้เดียว ด้วยโบราณก็ว่าไว้ว่า สิบผู้อื่นมิเท่าแซ่เดียวกัน ขอท่านได้อนุเคราะห์แก่ ข้าพเจ้า อย่าให้ได้ความอัปยศแก่เตียวฬ่อนั้นเลย....."

เล่าปี่จึงยกทัพโยธาไปตามคำเชิญนั้น จนกระทั่งพบกับ เบ้งตัด ที่ยกมารอรับอยู่กลางทาง แล้วก็พากันมาถึงเมืองโปยเสีย เล่าปี่ก็ตั้งค่ายอยู่นอกเมือง

ส่วนเล่าเจี้ยงนั้นก็จัดทหารสามหมื่น แพรอย่างดีบรรทุกเกวียนสามเล่มกับสิ่งของเงินทอง และเสบียงอาหารเป็นอันมาก ยกออกจากเมืองเสฉวน โดยไม่ยอม ฟังเสียงคัดค้านจากผู้ใด ออกไปรับเล่าปี่ที่เมืองโปยเสีย ซึ่งห่างจากเสฉวนหกร้อยเส้น เมื่อเล่าปี่รู้ข่าว ก็เข้าไปพบเล่าเจี้ยงในเมืองแต่เพียงลำพัง เล่าเจี้ยงก็แต่งโต๊ะเชิญให้ เล่าปี่เสพสุราด้วยกันเป็นผาสุข พูดคุยกันแต่เรื่องเมื่อหนหลัง จนพลบค่ำเล่าปี่จึงคำนับากลับไปค่าย

เมื่อเล่าปี่กลับไปแล้ว เล่าเจี้ยงก็ออกปากแก่ขุนนางทั้งปวงว่า คนที่ทักท้วง ไม่ให้คบกับเล่าปี่นั้นหาปัญญามิได้ ได้พบกันวันนี้พิเคราะห์ดูกิริยาอาการ เห็นเป็นคนซื่อตรงอารีต่อพี่น้องจริง เตียวสงผู้แนะนำนั้นมีความชอบเป็นอันมาก ว่าแล้วก็จัดแจงถอดเสื้อออกจากกายมอบให้ลิ่วล้อ นำไปมอบเป็นรางวัลแก่เตียวสงที่เมือง เสฉวน พร้อมด้วยทองคำอีกห้าร้อยตำลึง แต่ที่ปรึกษาอีกสี่คนที่มาด้วย ก็ยังอุตส่าห์เตือนว่า
"...ท่านอย่ายินดีเข้าใกล้เล่าปี่ก่อน อันเล่าปี่นี้ทำกิริยาแช่มช้อย พูดจาไพเราะอ่อนโยนก็จริงแต่ว่าเป็นคนเจ้ามารยา น้ำใจกระด้างดังเหล็กเพ็ชร์ หาเหมือนกับวาจาไม่...."

ซึ่งเล่าเจี้ยงก็หัวเราะให้ตามเคย

ส่วนเล่าปี่นั้น เมื่อกลับมาถึงค่ายแล้ว ก็เจอลูกยุของ บังทองเข้าให้อีกว่า

"....ขอให้ท่านหาเล่าเจี้ยงมากินโต๊ะ ณ ค่ายเรา ๆ จะให้ทหารจับตัวฆ่าเสีย แล้วจึงยกเข้าไปเอาเมืองเสฉวน เห็นจะได้โดยง่าย มิพักถอดกระบี่ออกจากฝัก มิพักขึ้น เกาทัณฑ์ให้เสียสาย...."

เล่าปี่ก็อิดออดไม่อยากจะทำตาม บังทองจึงปรึกษากับหวดเจ้งที่เตียวสงส่งมาให้ร่วมมือกับเล่าปี่ โดยคิดจะลงมือเสียเองโดยไม่ให้เล่าปี่รู้

ดังนั้นพอถึงวันรุ่งขึ้น เมื่อเล่าเจี้ยงเชิญเล่าปี่ไปกินเลี้ยงอีก ครั้นเห็นว่า เล่าเจี้ยงเมาสุราได้ที่ดีแล้ว บังทองก็ใช้ให้ อุยเอี๋ยน ทหารเอกของเล่าปี่หาทางฆ่า เล่าเจี้ยงเสีย อุยเอี๋ยนก็ถอดกระบี่เดินเข้าไปตรงหน้าโต๊ะ แล้วขออนุญาตรำกระบี่ ให้
ท่านผู้ใหญ่ทั้งสองได้ชม บังทองก็ให้ทหารที่กินเลี้ยงอยู่ใกล้ถอยห่างออกมา อุยเอี๋ยนก็รำ กระบี่อยู่หน้าโต๊ะ

ฝ่าย เตียวหยิม ทหารเอกของเล่าเจี้ยงรู้ทัน ก็ชักกระบี่ออกไปรำคู่อยู่ด้วย อ้างว่ารำกระบี่ไม่มีคู่ดูไม่งาม ฮองตง ทหารเอกผู้สูงอายุของเล่าปี่ ก็เข้าไปรำด้วย เป็นสองต่อหนึ่ง คราวนี้ทหารฝ่ายเล่าเจี้ยงทนไม่ไหว ยกโขยงออกไปร่วมวงด้วยอีกสามกลายเป็นสองต่อสี่ เล่าปี่เห็นท่าไม่ดีก็คว้ากระบี่จากมือทหารของตนเข้ามาห้ามว่า

"......ตัวเราพี่น้องมาพบกันมีความยินดี เสพสุราเลี้ยงกันให้สบายตามประเพณี ควรหรือท่านทั้งปวงมีความกินแหนงกันสนเท่ห์ฉะนี้มิชอบ ใช่จะเหมือนครั้งพระเจ้าฮั่นโกโจ และพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง เสพสุราด้วยกัน ณ ด่านงักปุนก๋วน นั้นหามิได้
จงทิ้งกระบี่เสียทุกคน ถ้าผู้ใดมิวางกระบี่ก็จะตัดศรีษะเสีย...."

เล่าเจี้ยงก็หันมาตวาดพวกทหารของตน เช่นเดียวกัน แล้วก็รินสุราเลี้ยงดูกันต่อ เล่าปี่ก็ย้ำว่า

"....ตัวเราทั้งสองเป็นพี่น้องกัน เรามาบัดนี้จะช่วยป้องกันรักษาบ้านเมือง ให้อยู่เย็นเป็นสุขสืบไป ซึ่งเราจะได้คิดเป็นสองใจนั้นหามิได้....."

เล่าเจี้ยงก็ดีใจรับคำว่า

"....พี่นี้รักข้าพเจ้าหนักหนา เป็นสุจริตจริง ข้าพเจ้ามิได้มีความสงสัยเลย จะขอสนองคุณท่านไปตราบเท่าวันตาย...."

แล้วก็ถ้อยทีถ้อยคุยกันไปจนค่ำจึงกลับเหมือนเดิม แล้วก็เลี้ยงกันดังนั้นทุกวันไป ทั้ง ๆ ที่ทหารของทั้งสองฝ่าย ต่างก็ระแวงกันอยู่

จนกระทั่งม้าใช้มาบอกว่า บัดนี้ เตียวฬ่อ ได้ยกมาจะตีด่านแฮบังก๋วน
แล้ว เล่าเจี้ยงจึงอ้อนวอนให้เล่าปี่ยกทหารไปป้องกันเตียวฬ่อ ที่ด่านแฮบังก๋วน เมื่อ
เล่าปี่ไปแล้ว ที่ปรึกษาก็พากันขอร้อง ให้เล่าเจี้ยงกลับเมืองเสฉวน โดยให้ทหารเอก
สองคนคือ เอียวหวย กับ โกภายคุมทหารไปรักษาด่านโปยสิก๋วน เพื่อป้องกันไม่ให้
เล่าปี่หวนกลับมาตีเสฉวนภายหลัง

ขณะเมื่อเล่าปี่ยกทหาร ไปตั้งอยู่ที่ด่านแฮบังก๋วนนั้น ภรรยาของเล่าปี่
คือ นางซุนฮูหยิน ซึ่งเป็นน้องสาวของ ซุนกวน ได้รับข่าวลวงจากซุนกวนว่า มารดาที่อยู่
เมืองกังตั๋งป่วยหนัก ก็พา อาเต๊า บุตรของเล่าปี่ ที่เกิดจาก นางกำฮูหยิน ภรรยาเอก
จะกลับไปเมืองกังตั๋งด้วย พอดีจูล่งรู้ข่าวจึงตามไปเอาตัวอาเต๊ากลับคืนมาได้ แต่ต้อง
ปล่อยนางซุนฮูหยินไปเพียงคนเดียว

เล่าปี่รู้ข่าวแล้ว ก็คิดห่วงเมืองเกงจิ๋วของตน เกรงว่าซุนกวนจะยกทหารไปตีเอาคืน จึงคิดจะถอนตัวจากด่านแฮบังก๋วน แต่ก่อนจะกลับนั้น บังทองก็ออก อุบายให้มีหนังสือถึงเล่าเจี้ยง ขอทหารสามหมื่นกับเสบียงสิบหมื่นถัง เพื่อจะเอาไป ช่วยซุนกวนรบกับโจโฉ
พอหนังสือมาถึงมือเอียวหวยผู้รักษาด่านโปยสิก๋วน ก็รีบเอาไปให้เล่าเจี้ยงด้วยตนเอง เพื่อจะห้ามไม่ให้เล่าเจี้ยงช่วยเล่าปี่ตามคำขอ แต่เล่าเจี้ยงก็ยังยืนยัน
ว่าเล่าปี่เป็นคนที่ควรจะช่วยเหลือ ที่ปรึกษาทั้งหลายต่างก็ช่วยกันคัดค้านเป็นการใหญ่ จนเล่าเจี้ยงยอมเชื่อ จึงจัดแต่ทหารที่สูงอายุให้เพียงสี่พัน และข้าวอีกหมื่นถังมอบให้เล่าปี่ไปอย่างเสียไม่ได้ แล้วก็กำชับเอียวหวยให้ป้องกันรักษาด่านของตนเอาไว้ให้ดี

พอเล่าปี่ได้รับของและคนไม่ครบตามที่ขอ ก็โกรธจัดถึงตะบะแตก ท่าทีที่เคยสุภาพอ่อนน้อมก็หายไป เอาหนังสือของเล่าเจี้ยงฉีกทิ้งต่อหน้าคนที่คุมเสบียงมาส่งบังทองได้ทีก็ส่งเสริมว่า

"....แต่ก่อนท่านทำน้ำใจสุภาพไม่หยาบช้า คนทั้งปวงก็ปรากฏ..บัดนี้
ท่านได้ทำผิดเกินไปแล้ว และจะกลับทำดีไปภายหน้า อันความรังเกียจนั้นก็ไม่หาย เมื่อได้เป็นถึงเพียงนี้ จะนิ่งอยู่ไม่ได้...."

แล้วก็เสนอให้ตกกระไดพลอยโจนไปสามขั้น คือ

ประการที่หนึ่ง รีบหาทางลัดเข้าตีเมืองเสฉวนเสียเลย สอง แกล้งทำ
เป็นยกทัพกลับ พอเอียวหวยตามไปส่งก็จับฆ่าเสียชิงเอาด่านโปยสิก๋วนให้ได้ สาม ให้ยกกองทหารไปอยู่เมืองปักเต้เสียก่อน แล้วลอบหนีกลับเมืองเกงจิ๋ว ภายหน้าจึงไปตีเมืองเสฉวน

เล่าปี่คิดแล้วจึงว่า

"....กลเป็นประถมนั้นเห็นฉกรรจ์นัก กลที่สามนั้นก็เนือยไป กลอันเป็นคำรบสองนั้นพอเป็นประมาณ เห็นจะได้การของเรา...."

ว่าแล้วก็มีหนังสือไปถึงเล่าเจี้ยง ขอลากลับไปรักษาเมืองเกงจิ๋ว เพื่อป้องกันโจโฉก่อน

พอหนังสือถึงเล่าเจี้ยงแล้ว เตียวสงรู้ข่าวก็นึกว่าจริง ชักจะเสียดาย
ความคิด ที่จะยกเมืองเสฉวนให้เล่าปี่ จะต้องเป็นหมันไป จึงเขียนหนังสือถึงเล่าปี่ว่า
".....ข้าพเจ้าเตียวสงคำนับมาถึงเล่าปี่ ด้วยข้าพเจ้าเจรจาไว้แก่ท่านแต่ก่อนนั้นเป็นคำมั่น และบัดนี้ท่านยกมาถึงเมืองเสฉวนแล้ว ถ้าจะคิดทำการดังที่ว่ากันไว้ ก็จะได้ดังปรารถนา เมืองเสฉวนเหมือนอยู่ในกำมือ เหตุไฉนท่านจึงมิได้คิด ที่
จะทำการเล่า จะยกกลับไปเมืองนั้นจะมิป่วยการทหารเสียหรือ ขอให้คิดทำการจงได้ ตัวข้าพเจ้าจะอาสาทำการรับท่านในเมืองเสฉวน..."

หนังสือนี้กำลังจะให้ลิ่วล้อเอาไปส่งเล่าปี่ ก็พอดี เตียวซก เจ้าเมืองเกงฮันซึ่งเป็นพี่ชายมาเยี่ยม ต้องเอาหนังสือซ่อนไว้ในมือเสื้อ แล้วจัดโต๊ะมากินเลี้ยงกัน
พอเสพสุราเมาหนังสือก็ตกลงโดยไม่รู้ตัว เตียวซกเก็บมาอ่านแล้วก็ตกใจเป็นอย่างมาก
ที่น้องชายบังอาจคิดร้ายต่อเล่าเจี้ยงเจ้านายของตน จึงเอาหนังสือไปให้เล่าเจี้ยง

เตียวสงจึงถึงฆาต ถูกเล่าเจี้ยงจับประหารเสีย พร้อมด้วยบุตรภรรยาตามระเบียบ

ฝ่ายเล่าปี่ เมื่อยกทหารมาถึงด่านโปยสิก๋วน ก็ให้ทหารเข้าไปบอกแก่สองนายด่าน ว่าจะขอลาไปแล้ว เอียวหวย กับ โกภาย ก็จัดแจงสิ่งของออกจากด่านไปคำนับเล่าปี่ แต่ซ่อนอาวุธไปในเสื้อด้วย เผื่อว่าได้ทีก็จะฆ่าเล่าปี่เสีย ด้วยความจงรัก
ภักดีต่อเล่าเจี้ยง แต่บังทองไม่ไว้ใจจึงสั่งให้ อุยเอี๋ยนกับฮองตงคอยรับมืออยู่ข้างนอก
ค่าย เพื่อจะได้จัดการกับทหารที่ติดตามนายด่านมา

พอเอียวหวยกับโกภายเข้าไปคำนับเล่าปี่ พร้อมกับมอบของขวัญโดยให้
ลิ่วล้อรออยู่นอกค่าย เล่าปี่ก็ให้ เล่าฮอง ลูกเลี้ยงของตน กับ กวนเป๋ง ลูกเลี้ยงของ กวนอู เข้ามาจับตัวนายด่านทั้งสองไว้ เมื่อค้นตัวดูก็พบอาวุธที่ซ่อน จึงให้ทหารเอาตัว
ไปฆ่าเสีย ส่วนทหารติดตามสองร้อยคน ที่จับได้นั้นกลับยกโทษให้และจัดการเลี้ยงดูอย่างดี แล้วเกลี้ยกล่อมให้ยกไปตีด่านโปยสิก๋วนของพวกตนเองเป็นการแก้ตัว ทหารที่รอดตายก็เป็นเพื่อนกับทหารที่รักษาด่าน เล่าปี่จึงได้ด่านนี้โดยไม่ต้องลงแรงเลย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ก็มิได้ผิดไปจากคำของผู้หวังดีต่อเล่าเจี้ยง ที่ได้
ตักเตือนมาตั้งแต่ต้น เล่าปี่ นั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน เที่ยวเร่ร่อนกราบกรานเขาไปทั่วทิศ
แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเข้มแข็งเด็ดขาดไม่แพ้ใครในสามก๊ก บัดนี้ได้ชักดาบออกมาจ่อคอหอย เล่าเจี้ยง เมืองเสฉวนแล้ว อีกไม่ช้าก็คงจะรู้ว่า เมืองใหญ่ที่เป็นหนึ่งในสามของแผ่นดินนี้ จะรอดจากคมดาบของผู้พนมมือไปได้หรือไม่.

##########



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2560 12:05:29 น. 0 comments
Counter : 592 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.