ชวนหม่ำ Maison Chin กับ Treecreeper ศาลาแดง ซอย 1 ค่ะ
อยู่ๆเกี้ยวโทรมาหาตอนประมาณ บ่ายสองกว่าๆ ต่างคนต่าง หิวข้าว เพราะยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง ก็เลยออกมา ป๊ะกันหน่อยแรกเริ่ม ว่าจะไปหม่ำกันที่ Treecreeper เกี้ยวบอก ร้านสวยนะแก น่ารักมาก แถมด้วยเจ้าของจบจาก Ohap ที่ๆแกกำลังจะเรียนด้วยเอ้อๆ ไปๆ ไม่ไกลจากบ้านด้วย ร้านอยู่ ศาลาแดงซอย 1 ค่ะ ข้างๆตึก อื้อจื่อเหลียง หรือเข้าทาง ข้างๆตึก Tisco ค่ะไปถึง Treecreeper ตอน บ่ายสามครึ่ง พอเจอประตูหน้าร้าน เค้าเขียนว่า ครัวปิด บ่าย สอง เปิดอีกที ห้าโมงครึ่ง T_T อดกินเลย แต่ เพื่อนยังไม่มา เลยนั่งรอ แถมเห็น Macaroon หน้าตาน่ากิน เลยสั่งมาแทะเล่นระหว่างรออันขวาเป็นรสครีมชีส อันซ้ายเป็นรส ฮอลิคค่ะปรากฎว่า ฮอลิคอร่อยมากก พอเพื่อนมา เลยสั่งมาอีกสองอัน และตามด้วยรสงา ค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรสงามาอะ กินเพลิน ฮาๆ)Macaroon ชิ้นละ 18 บาท ค่ะ ไม่แพงเลย บรรยากาศร้านนะคะชอบจังร้านน่ารักมากตู้เค้กนี่ อยากจะ สั่งทุกชิ้นเลย แต่ตอนนั้น หิวข้าววว ฮือออมีเค้กอันนึง จำชื่อไม่ค่อยได้ แต่แต่งด้วยกุหลาย น่าทานมากๆๆ วันหลังจะโดนนน อันนี้คือมุมที่เปิดประตูเข้ามา จากหน้าร้าน (ไม่ใช่จากฝั่งที่จอดรถ)ใจจริงอยากถ่ายมากกว่านี้ แต่ ตอนนั้นหิววววเพื่อนบอก ว่า ที่นี่จะมีโปร สำหรับ คนที่ชอบ Beer ค่ะ ทุกวันที่ 10 20 30 และวัน พุธ กับ ศุกร์ จะเป็น ซื้อ 2 แถม 1 แต่ถ้า ดันตรงกันอย่างศุกร์ที่จะถึงนี้เป็น หนึ่งแถมหนึ่งค่ะ (อยากไป แต่ ไปไม่ได้ ฮืออ)ไม่ค่อยชัวร์เรื่องโปรนี้เท่าไหร่นะคะ อาจมีผิดพลาด แต่ก็จะประมาณนี้ค่ะ ลองโทรไปถามทางร้าน ก่อนนะคะ ตอนแรกจะไปหม่ำแถวทองหล่อกัน แต่รถไอเกี้ยวเสีย ดับกลางสี่แยกสาธรเลย ก๊ากกก มีพี่มอไซวินฮีโร่มาช่วยเข็น ระหว่างรอโคตลุ้นอะ กัวโดนชนโคตๆ แต่รถก้อกวนนะ พอเค้าเข็นไปให้ถึงป้อม ดันติดนะ ฮึ่มๆ ทีนี้เกี้ยวเลย ยู จะไปตรงอื้อจื่อเหลียง มันดับอี๊ กี๊ดด แต่ดีว่มันติด อย่างลุ้นอะ แต่กวนอีกอย่าง พอไปถึงศูนย์โตโยต้า พาช่างนั่งไปด้วยไปลองขั มันไม่ดับเลยอะ กว่าจะเสร็จเรื่อง ก็ อีกสี่สิบนาที Treecreeper เปิดครัว แต่ตอนนั้นรอไม่ไหวแล้วว เลยเดินเลยไปเจอร้าน Maison chin ดูเมนูหน้าร้าน และตาลายเอาร้านนี้แหละแก !! ละโบว์ก็จะตามมา(Maison Chin อ่านว่า เมซอง ชิน ตามภาษาฝรั่งเศสค่ะ)อาหารของที่นี่ เป็น Asian Fusion ค่ะ แต่หน้าร้านนี่จีนจ๋ามาก ตอนแรกนึกว่าร้านอาหารจีน เก้าอี้ ฮ่องเต้ พร้อมป้าย จากนิตยสารอะไรซักอย่างว่าเป็น Best of (อะไรหว่า) ของปี 2009 & 2010 (คุณBell_Hub บอกว่า ป้ายที่เห็นน่าจะเป็น ป้าย Best restaurant จากนิตยสาร Tatler ขอบคุณค่ะ )เจ้านี่มาก่อนเพื่อนค่ะ ให้แทะเล่นระหว่างรออาหารดิป จากซ้ายไปขวานะคะอันแรกเป็นถั่วแดงรสเผ็ดๆค่ะ (พลอยชอบอันนี้ที่สุด)อันตรงกลางเป็นมะเขือเทศ บดๆนิดนึง ไม่ละเอียด รสชาติ จะเปรี้ยวๆ (แอบมีเผ็ดมั้ยอันนี้เริ่มจำไม่ได้ ฮืออ)อันซ้าย เป็น ครีมชีส มันๆค่ะตัว ขนมปังที่ให้จิ้ม ได้อารมณ์เหมือนกัน ปลาแผ่นอบกรอบเลยอะ - -' 'พี่ๆที่ร้านบอกว่า สั่งเป็นเซ็ทจะคุ้ม กว่า a la cart เยอะค่ะพลอยเลยสั่งเซ็ท 990 ส่วนเพื่อน สั่งเซ็ท 1200 ค่ะ แล้วนี่ก็มา พลอยก็งง เอ้ออ ไม่ได้สั่ง พี่ๆบอกว่าเป็น อาหารเรียกน้ำย่อยค่ะ(เอ้ยย ไม่คาดคิดว่า จะมาเป็น พิธีรีตรองแบบนี้เลย)ซ้ายเป็นลูกชิ้น(น่าจะกุ้ง) ข้างล่างเป็นเห็ดหอมสดราดน้ำแดง (อันนี้จีนจ๋ามากๆ)ขวาเป็น กุ้ง ข้างล่างเป็น มะม่วงสุก มะเขือเทศ ราด บัลซามิค อันนี้ชอบมากก อร่อยลงตัวซักพัก appitizer ตัวจริงก็มาอันนี้ของเกี้ยว เซทพันสองเหตุที่เลือกเซ็ทละพันสอง เพราะว่า ได้กินหลายอย่างนี่แหละพี่ๆบอกว่า ให้ทานจาก บนมาล่างนะคะเนื้อ ทาปาส(ใช่มะจำไม่แม่น) ราวิโอลี่(คล้ายๆจานของพลอย แต่จานของพลอยอร่อยกว่า) หอยเชลล์ย่าง (ข้างล่างเป็นมะเขือเทศแซ่บๆ) ตับห่าน(ข้างล่างเป็นอินทผาลัมแช่เหล้า)กับหลอดหอยนางรม ตัวเด็ดเลยเจ้าหลอดหอยนางรมเนี่ย ต้องบีบมะนาวเติมเกลือพริกไทย กระดกพรวดแบบ บลัดดี้แมรี่ นะคะ ถึงจะแซ่บบ (ชอบความคิดจานนี้มากเลย)ของเซ็ทพลอยเป็น ราวิโอลี่ เนื้อแก้มวัว ซอสจำชื่อไม่ได้ จำได้แต่ว่า รสชาติเป็นเหมือนเกรวี่ ข้นๆ อร่อยมากกกกกกกกกแล้วเจ้านี่ก็มางงมากกกกก ทำไมให้กินของหวานตอนนี้ปรากฎว่า ให้ทานล้างปากค่ะ เพราะเดี๋ยวจะเข้าจานหลักแล้วเป็น sorbet รส มะนาวกับตะไคร้ เสิร์ฟใน เปลือกมังคุดคว้านจานหลักค่ะ อันนี้ของเซ็ทพันสอง เป็นเสต็กเนื้อในซอส ... (ลืม ฮ่าๆ) แต่อร่อยค่ะ ชอบ สั่งแบบมีเดียมมาค่ะ กำลังพอดีเลย ไม่แห้ง ไม่ดิบ จนเกินไปกลับหลังหันเสิร์ฟพร้อม มันฝรั่งบด หน่อไม้ฝรั่งและเห็ดผัดค่ะ ปลา แบล็ค คอด ในไวท์ซอส ต้นหอมอีกจานที่มากับเซ็ท พันสองค่ะ(เซ็ทพันสอง จะได้เมน สองจานค่ะ)จานนี้ไม่ค่อยปลื้มค่ะ หลังจากชิมไปหนึ่งคำ ให้เพื่อนทาน เพราะเพื่อนไม่ทานเนื้อ ฮาๆไปกันสามคน แต่สั่งสองเซทค่ะ อันนี้ของเซท 990 ค่ะ ในเมนูเขียนว่า Rib eye Australia Wagyu with Garlic and Oyster sauceพลอยก้อเลยถามพี่ๆเค้าว่า เอ่อพี่คะ อันนี้มันจะได้ฟีลประมาณเนื้อผัดน้ำมันหอยมั้ยเนี่ยยออกมารสชาติใช้ได้เลยค่ะ (แต่พลอยได้กลิ่นซีอิ้วดำ คิดไปเองรึเปล่าก็ไม่รู้)อร่อยนะคะ แต่มันมันเยอะไปนี๊ดจาน นี้แอบเจอแจ๊คพอต นิดนึง ตรงที่มีเศษเชือก (ที่ไว้ใช้สำหรับทำอาหาร) ติดมาด้วย ถามได้ความว่า เค้าใช้มัดเวลาหมักเนื้อให้เนื้อมันกอดกันค่ะเพื่อนดันฮา ถามว่า แล้วปกติ เค้าจะเสิร์ฟพร้อมเชือก หรอคะ ฮ่าๆๆๆ อันนี้คือเพื่อนสงสัยจริงๆ เลยถาม ไม่ได้กวนอารมณ์พนง แต่อย่างใดอ้อ เครื่องเคียงเป็น เห็ดผัด (อีกแล้ว) กับ หัวหอมตุ๋นในน้ำผึ้ง (น่าจะเป็นไวน์แดงด้วย) หัวหอม ตุ๋นได้ที่อร่อยมากเลยค่ะ จบที่ของหวานค่ะ เป็น แพนนาคอตต้า ไบเล่อร่อยได้ใจไปเต็มๆ ชอบมากกกกก หอม มัน ได้รสไบเล่ อร่อยสุดๆค่ะจานนี้จานนี้ได้ มา สามจานเลยค่ะ (ทั้งๆที่สั่งอาหารแค่สองเซ็ท) คาดว่า เป็นคำขอโทษเรื่องเชือก หรือไม่ก็ทางร้านใจดีค่ะ อร่อยมากเลย ติดใจๆจบละค่าาา สรุปว่า ถ้าให้ไปทานเอง คงไม่ไปละ รู้สึกไม่คุ้มเท่าไหร่ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ
)
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [