ครั้นเมื่อลุถึงปีพุทธศักราช ๒๔๔๘ ก็ได้ทรงออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้ทาส ร.ศ.๑๒๔ ยกเลิกสภาพความเป็นทาสให้กับเด็กที่เกิดจากทาสในเรือนเบี้ย ส่วนพ่อแม่ที่เป็นทาสอยู่ก่อนแล้วนั้น ก็ให้นายทาสจ่ายค่าตอบแทนให้ในอัตราที่กำหนด เป็นผลให้สยามประเทศปราศจากการมีทาสโดยสิ้นเชิงในปีที่มีการตราพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว นับเป็นการบรรลุพระราชปณิธานที่ได้ทรงตั้งไว้เมื่อครั้งเสด็จขึ้นครองราชย์ใหม่ๆนโยบายเลิกทาสของรัชกาลที่ห้าด้วยการลดจำนวนเงินค่าตัวของทาสลงในแต่ละปีนั้น แม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานถึง ๓๐ ปี แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในประเทศ อันอาจนำมาสู่สงครามกลางเมืองและการสูญเสียเลือดเนื้อ เหมือนอย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้จึงเป็นผลให้สามารถพัฒนาประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ล้นพ้นของพระองค์ ด้วยการให้ความป็นไทแก่คนไทยที่เป็นทาส เหล่าทวยราษฏร์ทั้งหลายจึงได้แซ่ซ้องสรรเสริญ และถวายพระราชสมัญญานามแด่พระองค์ว่า สมเด็จพระปิยะมหาราช อันมีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน"
สงวนลิขสิทธิ์ บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ห้ามนำบทความหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบทความไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เว้นแต่จะได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของบทความ มิฉนั้นจะถูกดำเนินการทางกฎหมาย