Each time history repeats itself, the price goes up. ~Author Unknown
Group Blog
 
All Blogs
 
พระพุทธเจ้าหลวงกับการเลิกทาสในประเทศไทย

พิรัส จันทรเวคิน

พระพุทธเจ้าหลวงหรือสมเด็จพระปิยะมหาราชนอกจากจะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีคุณูประการอันใหญ่หลวงต่อประเทศแล้ว ท่านยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสักการะของคนไทยทุกหมู่เหล่า บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์


หากจะมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดที่ถูกจดจำและเป็นที่กล่าวขานถึงด้วยความรักและเทิดทูนสูงสุด ก็คงจะหนีไม่พ้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์สมเด็จพระปิยะมหาราชเจ้า พระผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า พระราชกรณีณียกิจของพระองค์ในด้านต่างๆมีมากมายหลากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยตามแบบอย่างชาติตะวันตก หรือการธำรงรักษาไว้ซึ่งความเป็นเอกราชของชาติไทยจากเงื้อมมือของชาติมหาอำนาจผู้รุกราน หากทว่าที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะได้แก่การยกเลิกระบบทาสที่มีอยู่มาช้านานในสยามประเทศ

ในช่วงที่พระองค์เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเมื่อปีมะโรง พุทธศักราช ๒๔๑๑ นั้น ราชอณาจักรสยามมีทาสประเภทต่างๆอยู่เป็นจำนวนถึงหนึ่งในสามของจำนวนประชากรทั้งหมด หลังจากที่ทรงขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน พระองค์ทรงมีดำริให้มีการเลิกทาสในสยามประเทศ โดยได้ทรงตราพระราชบัญญัติขึ้นเมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๑๗ ให้มีการลดจำนวนเงินค่าตัวของทาสลงในแต่ละปี โดยมีผลย้อนหลังไปถึงปีที่เสด็จขึ้นครองราชย์ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าลูกทาสที่เกิดในปี ๒๔๑๑ จะสามารถมีความเป็นไทได้โดยสมบรูณ์เมื่อมีอายุครบ ๒๑ ปีบริบรูณ์ โดยให้ขาดจากความเป็นทาสทั้งชายและหญิง นอกจากนี้ยังได้ทรงตรากฏหมายห้ามการซื้อขายทาส โดยมีการกำหนดบทลงโทษทางอาญาแก่ผู้ฝ่าฝืน และทรงกระทำพระองค์เป็นแบบอย่างด้วยการบริจาคพระราชทรัพย์เพื่อไถ่ถอนทาสในวโรกาสต่างๆ



ครั้นเมื่อลุถึงปีพุทธศักราช ๒๔๔๘ ก็ได้ทรงออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้ทาส ร.ศ.๑๒๔ ยกเลิกสภาพความเป็นทาสให้กับเด็กที่เกิดจากทาสในเรือนเบี้ย ส่วนพ่อแม่ที่เป็นทาสอยู่ก่อนแล้วนั้น ก็ให้นายทาสจ่ายค่าตอบแทนให้ในอัตราที่กำหนด เป็นผลให้สยามประเทศปราศจากการมีทาสโดยสิ้นเชิงในปีที่มีการตราพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว นับเป็นการบรรลุพระราชปณิธานที่ได้ทรงตั้งไว้เมื่อครั้งเสด็จขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ

นโยบายเลิกทาสของรัชกาลที่ห้าด้วยการลดจำนวนเงินค่าตัวของทาสลงในแต่ละปีนั้น แม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานถึง ๓๐ ปี แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในประเทศ อันอาจนำมาสู่สงครามกลางเมืองและการสูญเสียเลือดเนื้อ เหมือนอย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้จึงเป็นผลให้สามารถพัฒนาประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ล้นพ้นของพระองค์ ด้วยการให้ความป็นไทแก่คนไทยที่เป็นทาส เหล่าทวยราษฏร์ทั้งหลายจึงได้แซ่ซ้องสรรเสริญ และถวายพระราชสมัญญานามแด่พระองค์ว่า สมเด็จพระปิยะมหาราช อันมีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน"



ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท
พระปิยะมหาราชแห่งชาติสยาม
ทรงเลิกทาสประกาศไทในเขตคาม
จึงคงความเป็นไทยในวันนี้
เคยร่มเย็นเป็นสุขในยุคก่อน
กลับรุ่มร้อนแบ่งฝ่ายเป็นหลายสี
กราบพระบาทขอบุญญาพระบารมี
หลอมทุกสีให้เห็นเป็นหนึ่งเดียว

(ประพันธ์โดย ด.ร.อุไรรัตน์ วรรณยิ่ง)


สงวนลิขสิทธิ์ บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ห้ามนำบทความหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบทความไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เว้นแต่จะได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของบทความ มิฉนั้นจะถูกดำเนินการทางกฎหมาย


Create Date : 13 เมษายน 2553
Last Update : 30 มิถุนายน 2553 16:54:29 น. 2 comments
Counter : 2099 Pageviews.

 


โดย: ooyporn วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:17:38:28 น.  

 
ประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่หก



โดย: piras วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:20:12:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

piras
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีความสวยงาม ไม่แพ้ภาษาของชนชาติใดในโลก

free counters
Friends' blogs
[Add piras's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.