★ ★This is just the beginning of my journey ^^ ★ ★
Group Blog
 
All Blogs
 

คั่นเวลาด้วยการพากินที่ Sao Paulo Brazil

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ขอคั่นด้วยเอ็นทรี่สั้นๆ นะคะ ก่อนที่จะเดินหน้าจัดเต็มกันต่อไป

ก่อนอื่น ได้อ่านคอมเม้นและหลังไมค์นะคะ ไม่ได้เอ่ยถึงซักทีเกี่ยวกับการสมัครแอร์นะคะ

สิ่งที่ต้องพร้อมที่สุดคือความเป็นตัวเอง และบุคลิกภาพค่ะ เสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องเรียบร้อยนะคะ สำหรับการเรียนสมัครแอร์ สำหรับตัวพิงคิดว่ามันไม่จำเป็นนะคะ เพราะก็ไม่ได้เรียนมาเหมือนกัน แต่ถ้าจะไปเรียนก็ไม่ผิดค่ะ แต่ว่าค่าเรียนก็ออกจะแพงซักหน่อย เราลองฝึกภาษาเบื้องต้นเอง เอาหนังสือเก่าๆ มาเปิดดู ดูรายการ ดูหนัง มันช่วยเรื่องภาษาได้นะคะ

อีกอย่างคือความมั่นใจ และความจริงใจ รู้บอกว่ารู้ ไม่รู้บอกว่าไม่รู้

คนไทยได้ภาษีเรื่องยิ้มอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัว ยิ้มสู้เข้าไปค่ะ

(ขอรวบมาตอบตรงนี้ให้หมดเลยนะคะ)

ถ้าใครมีคำถามอะไร most welcome เลยนะคะ
หรือว่าที่ ig ใหม่ก็ได้ค่ะ pingthewicked_boo นะ

ขอให้โชคดีค่ะ


วันนี้พาไปที่เซาเปาโล ประเทศบราซิลค่ะ
เมืองนี้ไม่มีอะไรมากและค่อนข้างอันตราย ไม่ใช่เมืองเที่ยวเหมือนริโอค่ะ

จะสังเกตได้ว่าลูกเรือเมื่อบินไปที่นี่จะไม่มีใครออกไปเที่ยวไหน
เพราะไม่มีที่เที่ยวและที่สำคัญ

เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เพราะไฟลท์ยาว 12-14 ชั่วโมง หรือบางทีก็เกินกว่านั้น
และวันรุ่นขึ้นต้องบินไปอาร์เจนตินาอีก

สิ่งที่พวกเราพอจะทำกันได้ก็คือ หาอาหารดีๆ กินกันค่ะ

เรามาพักกันที่โรงแรมใหม่ ซึ่งพิงปลื้มมากเพราะว่าใกล้สนามบินค่ะ
Caesar SP International Airport managed by Pullman

โรงแรมเก่าใช้เวลาบางทีบวกรถติดเป็น 2 ชม นะคะกว่าจะถึงโรงแรม

วิวจากข้างบนในห้องคนขับค่ะ
 photo sp1_zps59b7fe8a.jpg

มาถึงโรงแรมกันแล้ว เราได้ห้องวิวทางด้านหน้า
 photo sp5_zps156702cf.jpg

อากาศค่อนข้างดีค่ะ

มาถึงวันแรกฟ้าก็มืดแล้ว แต่ทุกคนหิวมาก เนื่องจากโดนผู้โดยกินหัวมาจากบนเครื่อง จึงนัดรถจากร้านอาหารท้องถิ่นให้มารับค่ะ

ออกกันมาเยอะขนาดนี้เลยค่ะ
 photo sp3_zpsb144da2d.jpg

Starter มาแล้วเป็นสลัดธรรมดาค่ะ
 photo sp2_zpsdcae6559.jpg

นี่เลยค่ะ ดริ้งที่ถูกขนานนามว่าเป็น Brazil's National Drink โอ้โห เว่อร์มาก เรียกว่า "Caparinha" ออกเสียงว่าคาปารินย่า (ถูๆไถๆ)

เป็นเครื่องดื่ม cocktail ชนิดหนึ่ง เบสด้วยแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า Cachaça ทำการเสิร์ฟ on the rocks ใส่น้ำเชื่อมและมะนาว

 photo sp6_zps230c6cfe.jpg

รูปแรกที่พิงเอามาให้ชมคือรสเสารสค่ะ อีกแก้วนึง (สั่งต่อ) เป็นรสสตรอเบอรี่ค่ะ จริงๆ มีหลายรถมาก เป็นรสมะนาวปกติ สัปปะรด และผลไม้อื่นๆ ที่ออกรสเปรี้ยวๆ ค่ะ

 photo sp7_zps86847217.jpg

อิคาปารินย่านี่แรงมากนะคะขอบอก แต่อร่อย ต้องลองจริงๆ!


และนี่เลยค่ะไฮไลท์ของงานคือสเต็กเนื้อแบบท้องถิ่นแท้ๆค่ะ
จริงๆ ถ้าเพื่อนๆ เคยเห็น ที่บราซิลจะดังที่เป็นเนื้อเสียบไม้ที่ปิ้งๆ มา อันใหญ่ๆ แล้วมีคนมาสไสลด์ให้ที่โต๊ะ อันนั้นก็เด็ดค่ะ แต่คราวนี้พิงมาลองอันนี้กัน

เด็กเหมือนกันค่ะ บอกเลอ

 photo sp4_zps8d9772ed.jpg

วันนั้นก็นั่งเม้าท์มอยเปรมปรีดิ์กันมากค่ะ

จริงๆ ไฟลท์นี้ทุกอย่างเกือบดีหมดแล้วค่ะ แต่มีลูกเรือประหลาดคนนึง พิงยังจำชื่อนางได้จนถึงตอนนี้ เป็นเก้งสาวชาวฟิลิปปินส์ค่ะ

คนๆ นี้เป็นคนที่เพาะหมาไว้ในปาก จนวันต่อมา ไม่มีใครพูดกับนางอีกแล้วค่ะ คือ แต่ละคำที่พูดออกมา ล้วนแล้วแต่เป็นคำที่ไม่ดี ไม่สร้างสรรค์ คือไม่ต้องพูดก็ได้ วันสุดท้าย (บินกันสามวันค่ะ) นางเหมือนจะรู้ตัวละก็เงียบๆ ไป ยกตัวอย่างเช่น

เวลาเราจะบอร์ดผู้โดยสารขขึ้นเครื่องอ่ะค่ะ ลูกเรือแต่ละคนก็ต้องมีหน้าที่ความรับผิดชอบในโซนต่างๆ ของเครื่องแตกต่างกันไป เราจะต้องทำ security check เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีสิ่งของแปลกปลอมบนเครื่อง และก่อนจะทำ เราต้องรอให้พี่ๆ ทำความสะอาดออกไปก่อน เราถึงจะเริ่มทำ ตรวจเสื้อชูชีพ ดูความปลอดภัยและความสะอาดบนเครื่อง และเมื่อเช็คเสร็จ เราต้องส่งเช็ค ให้กับคนที่คุมในโซนนั้นๆ ซึ่งตำแหน่งนางวันนี้คือคนๆ นั้นค่ะ

พิงกะลังทำกาแฟกินอยู่ เพราะเห็นอยู่ว่าพี่คลีนเนอร์กะลังจะออกไปละ นางก็ตะโกนมาถามว่า "เช็คอ่ะ ทำรึยัง"
พิงก็ตอบกลับไปว่า "อ๋อ จะเอาตอนนี้เลยเหรอ"
แทนที่นางจะตอบกลับมาว่า "ใช่" คือพิงก็จะเดินไปเช็คให้ ก็แค่นั้นจบ แต่นางก็ตอบกลับมาว่า
"ฮัลโหล?? ขอโทษนะ ผู้โดยจะบอร์ดอยู่แล้ว เทอยังไม่ได้ทำอีกเหรอ"

1 ดอก

และไม่ใช่พิงที่โดนคนเดียวนะ ทุกคนรู้สึกเหมือนกันหมดเลย

อีกหนึ่งตัวอย่างคือ ตอนที่ลูกเรือว่างๆ ก็จะมาคุยกัน เราก็มาคุยกันเล่นๆ ว่า พรุ่งนี้ใครจะได้ทำตำแหน่งอะไร ลูกเรือก็แบบ ชั้นไม่อยากทำตำแหน่งนู้น ตำแหน่งนี้ ชั้นไม่อยากดูแลคนขับ โยนกันไป โยนกันมา คือสิ่งเหล่านี้มันเป็นบทสนทนาที่พูดเล่นกันปกติเลยอ่ะ ไม่มีใครจริงจัง เพราะถ้าใครได้ตำแหน่งอะไรไป ก็ไม่มีใครขัดข้องอยู่แล้ว

นางก็เดินเข้ามาในวงแล้วบอกว่า

"For me, every position is the same, that's because you guys are lazy, bitches!"

เบะปาก แสยะยิ้ม แล้วเดินผ่านไป

ทุกคนมองหน้ากันแบบ......

และก็เป็นอย่างนี้ไปตลอดทั้งไฟลท์คือ

ถ้าคนอย่างคุณจะ nice ไม่ได้ มุงก็เงียบปากไปซะเลยดีกว่า

โอเค วันแรกจบไฟค่ะ

วันที่ 2 ลูกเรือมีแพลนกันว่า จะลงมากินบุฟเฟ่ต์กันตอนเที่ยง ละจะไปนั่งชวกันแถวสระว่ายน้ำต่อ ไม่มีใครชวนนาง แต่นางก็ลงมากินบุฟเฟ่ต์ และออกตัวเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า นางจะไปว่ายน้ำ

แผนทุกคนเปลี่ยน สรุป มีแค่นางคนเดียวที่ไปสระว่ายน้ำต่อ ชิส์

อ่ะตัดมาถึงตอนจบก่อน ว่าหัวหน้าก็เป็นฟิลิปปินส์เหมือนกัน แล้วเก้งตนนี้ ก็ชอบทำตัวเป็นหัวหน้าแทน เช่น ทำประกาศ เป็นคนคำนวณเวลาพักของลูกเรือ เปิดวิดีโอ ซึ่งทุกอย่างเป็นงานของหัวหน้า ละตำแหน่งวันที่ทำกลับคือ มันจะมีตำแหน่งนึงที่ใครไม่ได้อยากทำเลย

ซึ่งนับๆ กันแล้ว เหลือนางคนเดียวที่จะต้องได้รับตำแหน่งนี้ไป (R1 ดูแลคนขับ) ตกลงสรุปออกมาว่า นางไม่ได้เป็นค่ะ เพราะนางไปขอหัวหน้าว่าไม่อยากเป็น!! เลยมีชะนีคนหนึ่งซวย ได้เป็นตำแหน่งนี้ซ้ำกับวันที่ผ่านมา

โถ่....ไหนบอกว่าทำตำแหน่งอะไรก็ได้

พิงเริ่มไม่พูดกะเค้าวันสุดท้าย พิงออกไปซื้อลิปในดิวตี้ฟรีมา นางเริ่มรู้ตัว ลอยหน้ามา "เทอๆๆๆๆ ไหนดูหน่อยสิซื้อลิปสีอะไรมาหรา"

......

คนเรา.....

โอเค เรามาดูไลน์บุฟเฟต์ที่โรงแรมกันดีกว่า

 photo sp8_zpsedaf52cc.jpg

มันดีนะ แต่ถ่ายมาไม่หมด เพราะว่าอายเค้า นางสาวเอเชียมาถ่ายรูปอาหารไปรีวิวอีกละ

 photo sp9_zps6aa91645.jpg

 photo sp10_zpsf98f6191.jpg

 photo sp13_zps59c50dbc.jpg

 photo sp11_zps4c3f0880.jpg

 photo sp12_zpsf602ae4c.jpg

จริงๆ มี cooking station ด้วยจ้า ทำสเต็กเนื้อแบบสดๆ เลย แต่ที่นี่ขนาดสั่ง well done แล้วยังเลือดสาดอยู่เลย ต้องระวังนิดนึงจ้า

ดีนะที่ไฟลท์นี้คนขับดี ไฟลท์ยาวๆ แบบนี้ คนขับตั้ง 4 คนที่เราต้องดูแล เหมือนมีพ่อเพิ่มมา 4 คน

เจอกันใหม่บล๊อคหน้านะคะ

คิดถึงทุกคนค่ะ




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2557 18:40:16 น.
Counter : 2781 Pageviews.  

พาเที่ยว พาชิม ประเทศจอร์เจีย (ไม่ใช่รัฐจอร์เจียนะ)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวบล๊อคแก๊งค์พิงกลับมาแล้ว
ทิ้งบล๊อคไว้จนเน่าหนอนแล้วไม่ได้เข้ามาเช็คเลย
ยอมรับเลยว่าว่างค่ะ เพราะงานพิงมันไม่เคยยุ่ง
บินเสร็จก็จบ หยุด แต่เรื่องของเรื่องคือความขี้เกียจค่ะ
ช่วงนี้เลยไม่ได้พาไปเที่ยวไหนเลย

พิงว่ามันชักจะไปกันใหญ่ถ้ายังดองต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้
เพราะประเทศใหม่ๆ ที่พิงไปมันก็จะยิ่งทับถมๆๆ กองๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ
โดยที่ทริปที่ผ่านๆ มา พิงยังไม่ได้มาทำรีวิวเลย

โอเควันนี้เริ่มก่อนจากทริป "จอร์เจีย" ค่ะ

ถ้าไม่มาทำอาชีพนี้พิงบอกกงๆ ว่า ไม่มีทางที่จะรู้ว่าเห๋ยย...
มีประเทศนี้ในโลกด้วยเหรอ

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่าจอร์เจียที่จะพาไปนี้
คือประเทศค่ะ ไม่ใช่รัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาแต่อย่างไร

ประเทศจอร์เจียอยู่แถวๆ ทะเลดำและอาเซอร์ไบจานค่ะ (ที่มีพี่ทีมชาติวอลเล่ย์หญิงบางคนไปเล่นลีกที่นั่นอยู่)
ประเทศนี้เคยอยู่ใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตหรือรัสเซีย
และเพิ่งได้เอกราชเมื่อไม่นานมานี้นะคะ เมื่อ พ.ศ. 2534 เอง

พูดถึงทีมวอลเล่ย์บอล วันนั้นเจอทั้งทีมเลยจ้าเป็นผู้โดยสาร
พิงไม่ค่อยได้ติดตามแต่เป็นกำลังใจให้ตลอด
พี่ปลื้มจิตนางเอาเสื้อหนาวคลุมหัวหลับทั้งไฟลท์เลยจ้า
ส่วนพี่คนอื่นๆ น่ารักมาก บอกว่าจะเอาอะไรบอกนะคะ
เพราะว่าในอีโคโนมี่ไม่มีคนไทยเลยค่า โดยเฉพาะพี่กิ๊ฟน่ารักมากๆ

เอ้าต่อค่ะ เราไปกันต่อเลย

เมืองหลวงของที่นี่ หรือ station ที่เรา bound for คือ Tbilisi ค่ะ
เดินทางกันด้วย Airbus 319 ลำเล็กกระจิ๋วหลิว กระจ้อยร่อย คือ....เด็กๆ คะ
เป็นการใช้คำสร้อยแบบไม่ถูกนะ

เข้าพักกันเลยที่โรงแรม (อะไรแวะ)
คือเรื่องมันนานแล้ว พิงขอโทษจริงๆ เพราะว่าพิงจะจำอะไรไม่ได้เลยยยย
 photo gg1.jpg

โรงแรมโลเคชั่นค่อนข้างดีเลยทีเดียวนะคะ เพราะอยู่ในเมืองเลย เดินไปไหนก็เดินได้เลยค่ะ อีกอย่างค่าแท๊กซี่ไม่แพง แต่ต้องต่อหน่อยนะ เพราะว่ารอบแรกที่ขึ้นแท๊กซี่พิงไม่ได้ต่อลยแพงไปหน่อย

พวกพิงไปหาอาหารกินกันค่ะตอนเย็นๆ
ประกอบด้วยขุ่นพ่อชาวเสปน และพี่ชายชาวอังกฤษค่ะ
 photo gg3.jpg

พวกเราก็เดินเรื่อยๆ มาเรียงๆ ตามท้องถนน
 photo gg4.jpg

ผ่านร้านขายของขายผลไม้ทั่วไป
 photo gg7.jpg

 photo gg5.jpg

รูปต่อไปที่จะเห็นห้อยๆๆๆ มัวคือถั่วเคลือบอะไรไม่รู้ค่ะ ไม่มีใครรู้ จนพี่สาวที่แสนดีเพอร์เซอร์ของไฟลท์นามน้ำอุ่นนางทนสงสัยไม่ไหวนางเลยซื้อมาค่ะ

 photo gg6.jpg

พูดได้คำเดียวนะคะว่า



"แหลไม่ล่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย" (โว้ยยย)

แล้วถั่วก็ตกมาอยู่ในมือพิง พิงก็วิ่งเอายัดปากทุกคนหมดเลย จนเจ้แกบอกว่าพวกคนขับจะต่อยพิงอยู่แล้วในความป่วง (เก๊าขอโต๊ด)
บอกแล้วว่าพวกนี้บนไฟลท์คือ Commander ลงไฟลท์มา คือทาสของพวกเรา ฮ่าๆๆๆๆ


(ขอสารภาพว่า ตอนนี้พิงทำ E-learning ของที่บริษัทไปด้วย และหาข้อมูลของประเทศนี้ไปด้วย ขอบอกว่ายากมากกค่ะ ไม่ค่อยเจอข้อมูลเลย เพราะประเทศนางไม่ดังอ่ะ ถ้าพิงไม่สามารถหาคำมาอธิบายรูปภาพได้พิงขอโต๊ดจิงๆ)

เอาล่ะเดินมาก็สุ่มเอาซักร้านค่ะ ก็ได้ที่นั่งสิงสู่เม้าท์มอยกัน

 photo ggg2.jpg

ดูจากขวดเบียร์ภาษาแบบเพื่อนถาม เห้ยอยู่พม่าเหรอ ลาวเหรอ เนปาลเหรอ อินเดียเหรอ ฮ่าๆๆๆๆ ป่าวเว้ยยย อยู่เมืองฝรั่ง เค้าบอกว่า ภาษาของที่นี่เป็นหนึ่งในภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยนะจ๊ะ

พิซซ่าของขุ่นพ่ออร่อยมากๆ เลย แต่เราสั่งหมูชิ้นๆ ไรไม่รู้มากิน ลืมถ่ายรูป อันนั้นก็อร่อยมากเช่นกัลค่ะ

 photo ggg1.jpg

ร้านน่ารักๆๆ เลยค่ะ เรานั่งกันข้างนอก
 photo gg8.jpg

พอกินกันเสร็จก็หาร้อนนั่งกินดื่มเม้าท์มอยกันต่อค่ะ
จนเดินมาถึงตรงนี้ น่ารักมากๆ เหมือนเป็นย่านท่องเที่ยวร้านอาหาร แต่แปลกนะ เมืองเงียบมากกกก ทั้งๆ ที่อากาศดี และร้านน่านั่ง บรรยากาศดีๆ มีมากมายค่ะ

 photo gg9.jpg

 photo gg10.jpg

 photo ggg4.jpg

 photo ggg3.jpg

เรื่องจากมืดแล้วและอากาศหนาว เค้าเลยแจกผ้าห่ม คุณเจ้แกก็มีการชงจับคู่สุดฤทธิ์ให้ผู้ช่วยนักบินมาห่มผืนเดียวกะพิง (เนื่องจากนางมีสามีแล้ว) แต่บังเอิญว่า ทั้งคู่ไม่มีใครอินกับกันและกัน (กรูก็เลือกหน้าตานะคะ) จึงจบเห่ไปซะอย่างนั้น นั่งกินนั่งเม้าท์กันมันมากค่ะวันนั้น มีถ่ายวีดีโอไว้ด้วย มีพนักงานเอาไฟมาลนเหล้าอะไรไม่รู้ (แซมบูก้า) ไม่ถนัดค่ะถนัดยาดอง อยู่ใน ig ของพุงพิงค่ะ

 photo ggg5.jpg


คืนนั้นจบไปแบบเมาๆ แล้วที่ทุเรศคือ เค้ายังจะมีไปต่อกัน ระหว่างนั้นเดินผ่านโรงแรม พิงพรวดเข้าโรงแรมไปเลยค่ะ ไปหลับดีกว่า ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ ฮ่าๆๆๆ

วันที่ 2 ค่ะ เป็นวันสวยๆ ของสาวไทยใจมารเอ๊ยยย งาม ทั้งสองคนค่ะ

พิงรู้จักพี่ท่านนึงชื่อพี่กิ๊ก นางแนะนำมาว่า เนี่ยๆๆๆๆๆ ต้องไปกินร้านนี้นะ เดินไปจากโรงแรม (สุดท้ายนั่งแท๊กไป) ชื่อร้าน ซาคาริช ค่ะ ขายพวกอาหารพื้นเมืองค่ะ เราก็เอาวะ ไปกันเบยค่ะ

 photo ggg6.jpg

บรรยากาศน่ารักๆ เงียบๆ หน่อยค่ะ

พุงพิงบุกครัวเลยค่ะ ที่วางอยู่บนนั้นเป็น wrap ข้างในน่าจะเป็นหมู อร่อยมากเลยค่ะ ใส่หัวหอมด้วย เลิฟๆ
 photo ggg8.jpg

คุณลุงคนนั้นนั่งมองกระเหรี่ยงสองตัวอยู่นานแล้วค่ะ ในที่สุดนางจึงเลี้ยงไวน์แดงคนละแก้ว เค้าว่ากันว่าที่นี่ house wine อร่อยมาก พุงพิงกินแล้วแบบ


แบบ

คือบับ....

โอเค จบนะ ฮ่าๆๆๆ

มาถึงอาหารกันบ้าง ที่นี่ดังหนมจีบไส้หมู

 photo ggg9.jpg

คุณค้าาาาา สุรพลซีฟู้ดหรือไผ่แดงอร่อยกว่าค่ะ ณ จุกนี้บอกเลอ!

แต่เดี๋ยวเค้าหาว่ามาไม่ถึง

พอกินเสร็จ เชคบิลแล้ว เดินไปขอบคุณพวกลุงแล้วเราก็จากไปค่ะ
เจ้าบ้านอยากต้อนรับ เค้าไม่ได้มาวุ่นวายเลย ถือว่าคนที่นี่น่ารักมากๆ นะคะ

ต่อไปที่ๆ เราจะไปคือโบสถ์ Tsminda Sameba ค่ะ
เราเรียกแท๊กซี่ไปกันแต่ระหว่างทางก็พบของสวยงาม วิวสวยงามตรงนี้ที่เราไม่ได้คาดหวังจึงบอกให้แท๊กจอด จ่ายตังค์ไปครึ่งนึง แล้วบอกว่า เดี๋ยวขอไปเดินเดี๋ยวมา รอนะ

แล้วนางก็รอ! เออ เริ่ดนะ คนที่นี่

 photo ggg10.jpg

ในเมืองแถวๆ โรงแรมจะมีพวก homeless เยอะมาก เมืองดูน่ากลัวและแอบไม่สะอาดนิดๆ แต่พอหลุดออกมาตรงนี้นะโหหหหหห ปลื้มปริ่มเลย พิงปลื้มปริ่ม!!

 photo ggg11.jpg

เดินข้ามสะพานตรงนี้มีรูปกระโดดด้วยนะ คนก็มองสุดริด อิอิ
 photo ggg12.jpg

 photo ggg13.jpg

 photo ggg14.jpg

สวยป่ะล่ะ

จริงๆ พิงมาแถวนี้จะมาขึ้นกระเช้าเคเบิลค่ะ แต่พอเดินไปถามนางบอก ยังไม่เปิดจ้า!! เอ้าาา หลอกดาววว

 photo ggg15.jpg

เลยเดินเล่นก็ได้จ้า

 photo ggg16.jpg

อากาศดีๆ แดดอ่อนๆ พอเดินมาถึงตรงนี้ สังเกตด้านบนของรูป

กระเช้าเปิดแล้วโว้ยยย
 photo ggg17.jpg

อดค่ะจุดนี้เพราะเราเลยจุดนั้นมาแล้ว ข้างบนเขามีรูปปั้นใหญ่มากอ่ะ อดดูเบย

พิงกลับไปยังจุดขึ้นแท๊กที่นางยังรออยู่ แล้วเราก็ขึ้นเขาไปโบสถ์กันเลยค่ะ สวยมาก

 photo ggg18.jpg

ของจริงมันสวยงาม ทองอร่าม เห็นวิวทั้งเมือง ผู้คนไม่มี (พิงหารูปในเน็ตคนเยอะมากเลยอ่ะ ทำไมไม่มีคนไม่รู้ เงียบทั้งเมืองเลยเกิดไรขึ้นหนอ)

พอขึ้นมาเห็นตรงนี้เป็นอีกครั้งที่รู้สึกขอบคุณชีวิต อีกครั้งที่มีเพื่อนร่วมเดินทางที่ดีด้วย โชคดีจริงๆ

 photo ggg19.jpg

 photo ggg20.jpg

 photo ggg21.jpg

ลาไปกับรูปโบสถ์สวยๆ หลังจากนั้นพิงไปช๊อปของที่ซูปเปอร์ เดินกินไอติมนั่งชิวข้างทาง มีความสุขฝุดๆ ไฟลท์ก็ง่ายไม่ค่อยมีผู้โดยสาร (ไม่เคยกลัวสายการบินเจ๊งเลย)

ปิดท้ายจริงๆ กับสิ่งที่ชอบถ่าย

ท่อระบายน้ำ

แป่ววว

 photo ggg22.jpg

สวัสดีค่ะ

พรุ่งนี้ไปกรุงเทพอีกแย้ว เย่ๆๆๆ




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2556    
Last Update : 19 ธันวาคม 2556 20:43:09 น.
Counter : 9578 Pageviews.  

Yangon ย่างกุ้ง ดินแดนแห่งอารยธรรม

A E C ยกทรงชั้นดีมีมาตรฐาน

เห้ยยย!?

ไม่ใช่ !!

ป่าว สวัสดีค่ะ พิงแต่อยากจะเข้ายุค AEC เลยพาไปเที่ยวพม่า
แต่เพลงที่ร้องไปนั้นมันต้องร้องว่า ABC ใช่ปะ

เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า (ได้ข่าวว่าตั้งแต่เขียนบล๊อคมา พิงไม่เคยพาเข้าเรื่องตั้งแต่ครั้งเดียว)

พิงไปย่างกุ้ง ประเทศพม่ามาค่ะ และที่สำคัญ ไฟลท์นี้เป็นไฟลท์ที่นอนยาวด้วย เพราะว่ามันไม่ใช่ daily flight ค่ะ มีไฟลท์กาต้าร์แอร์เวย์ไปจากโดฮาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง (แต่ตอนที่พิงนั่งเขียนอยู่นี้เป็นไฟลท์ทุกวันแล้วค่ะ)
ดังนั้นพิงจึงมีเวลาที่ประเทศพม่าประมาณ 3 วันเต็มๆ เลยทีเดียว

พิงเดินทางมาด้วยไฟลท์เต็ม ที่เต็มไปด้วยคณะท่านรัฐมนตรี VIP (ซึ่งตัวรัฐมนตรีแม่มหลับตลอดไฟลท์เลยค่าาา) จากกระทรวงการท่องเที่ยวพม่า แว้ก!! ซึ่งกลับจากการประชุมที่กรุงวอชิงตัน ดีซี (ไฮโซเนาะ) เดินทางประมาณเกือบ 7 ชั่วโมง เราก็ถึงย่างกุ้งค่ะ

เราพักกันที่ Park Royal Hotel ถ้าใครจะไปพม่าพิงแนะนำเลยอ่ะโรงแรมนี้ เลิศมาก มีร้านอาหารจีน บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น และอาหารเช้าที่เลิศที่สุดในสามโลก (แต่เริ่ดน้อยกว่าโรงแรม Atlantis ที่ดูไบค่ะ) สระว่ายน้ำก็โอเค พนักงานดี บาร์ก็เริ่ด (ด้วยความสวย ได้กินฟรีจากโต๊ะข้างๆ ด้วย) จริงๆ หลายประเทศแล้ว คือพวกเราจะหน้าตาเป็นนักท่องเที่ยว เคยโต๊ะข้างหลังเลี้ยงไวน์ขาวที่มิวนิค โต๊ะข้างๆ เลี้ยงไวน์แดงที่จอร์เจีย อันนี้ โต๊ะตรงนู้นเลี้ยงเบียร์ที่พม่า (อันนี้เป็นแขกที่มาพักเหมือนกัน) แต่มันดีอย่างนึงคือ คนท้องถิ่นพวกนี้ เหมือนเค้าอยากต้อนรับ คือแบบอยากเลี้ยงเฉยๆ ไม่ได้มีใครมาวุ่นวายหรืออะไรเลย พอเค้ากินเสร็จเค้าก็บ๊ายบาย ไป เออ พิงว่าโอเคอ่ะ ตราบใดที่ไม่มาวุ่นวาย เวิ่นเว้อ เรื้อน เราพร้อมจะเป็นเพื่อนจะทุกคนค่ะ มันจะมีบางเวลานะ เพื่อนๆของพิงจะรู้ ถ้ามาไม่ดี ก็จะโดนดิชั้นด่าไปตามระเบียบ

ต่อค่ะต่อ เห็นมะ มีแต่น้ำ ยังไม่เริ่มเลย

นี่คือห้องที่เราเข้าพักค่ะ โรงแรมดีมากนะคะ

 photo r023.jpg

แล้วที่สำคัญคือ location ดีสุดๆ ใกล้ทุกอย่าง ใกล้เจดีย์ชเวดากอง ใกล้พระนอนตาหวาน ใกล้เทพทันใจ ใกล้ร้านอาหารทั้งหลายแหล่ เอ๊ะ หรือว่าเมืองมันเล็ก แล้วค่าแท๊กซี่ที่นี่ถูกมากนะคะ ยังไงไปไหนก็ไม่เกิน 100 บาทนะคะ แต่บางทีไปหลายคน ก็ต่อซักนิดๆหน่อยๆ ก็ได้ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงเค้าก็จะลดให้ค่ะ

คนที่นี่ไม่โกงนะคะ (ไม่ใช่แม่สายนะคะ)

คนที่นี่จิตใจดี พร้อมให้ความช่วยเหลือ แล้วเมืองยังเป็นแบบเก่า ไม่มีผับบาร์ ทุกคนยังนุ่งโสร่งอยู่ ยิ้มแย้มแจ่มใส สมมติเราไปดูของแล้วไม่ซื้อ ก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีการชักสีหน้าใดๆ ทั้งสิ้น

เอาล่ะค่ะ จุดหมายแรกที่เราจะไปกัน ต่อไปนี้จะเป็นรูปล้วนๆ นั่นคือ
เจดีย์ชเวดากองค่ะ
พิงเสียดายมากที่ไม่ได้อยู่รอจนมืด เพราะเค้าจะเปิดไฟ และเค้าบอกว่าเพชรที่อยู่บนยอดของเจดีย์จะส่องแสงสวยมาก

นี่คือคณะการเดินทางของเรานะคะ ประกอบไปด้วยขุ่นพ่อกัปตัน รองคนขับ และลูกเรืออีโคโนมี่อีกสองนาง

 photo r004.jpg

ที่นี่เสียค่าเข้าด้วยนะคะ ถ้าจำไม่ผิด 8 ดอลล่าร์ค่ะ และเค้าก็จะแปะป้าย สีส้มๆ ที่เสื้ออย่างที่เห็นและเข้าไปได้เลย ทางด้านหน้าจะมีไกด์ท้องถิ่น ถ้าเราต้องการจ้างไกด์ก็จ้างได้เลย แต่ถ้าเราอยากเดินเที่ยวเองก็ไม่จำเป็นนะคะ

 photo r008.jpg

ทางขึ้นที่นี่มีหลายทางค่ะ มีทางเข้าทิศเหนือ ใต้ ออก ตก มีทั้งเดินขึ้นบันได อย่างสูงเลย เาอยากขึ้นมาแต่มาผิดทางเลยขึ้นลิฟท์แทนค่ะ ถอดรองเท้าไว้ข้างนอก ไม่หาย ตอนเดินลงมาเอารองเท้า ก็จะมีคุณป้า คอยแจกผ้าเย็นให้เช็ดเท้า น่ารักมากๆ

ต่อไปเป็นบรรยากาศด้านบนนะคะ

 photo r001.jpg

 photo r003.jpg

 photo r022.jpg

 photo r005.jpg

อิจฉานางสองคนนี้ ใส่โสร่งด้วย น่ารักเชียว
 photo r006.jpg

 photo r007.jpg

สวยมากๆ ค่ะ แต่สีอาจออกมาไม่เท่าของจริง เพราะอากาศค่อนข้างอึมครึม
 photo r009.jpg

 photo r010.jpg

 photo r011.jpg

เข้าไปนั่งไหว้พระ
 photo r012.jpg

จะมีซุ้มพระประจำวันเกิดอยู่ค่ะ ก็เข้าไปสรงน้ำพระได้ อันนี้ก็สอนคุณกัปตันชาวสวีดิช นางก็ทำตามแต่โดยดีค่ะ ผู้ช่วยก็เช่นกัน
 photo r013.jpg

เอาล่ะ เราตัดภาพกันมาถึงตอนเย็นนะคะ โรงแรมแนะนำให้เรามาทานกันที่นี่ค่ะ ภัตรคารการเวก (ไหงชื่อเป็นแบบนี้หว่า) คือร้านสวยงามใหญ่โตอลังการมาก จนกลายมาเป็น Landmark อีกอย่างหนึ่งของเมือง

 photo r014.jpg

พิงไม่มีรูปด้านข้างนะคะ มันจะเป็นเรือขนาดใหญ่ สวยมากๆ เลยค่ะ

 photo r015.jpg

แก๊งค์หนุ่มสาววัยใส ฮ่าๆๆๆๆ

จะมาที่นี่เพื่อนๆ ต้องจองก่อนนะคะ เพราะว่ากรุ๊ปทัวร์ไทยนี่แหละมาลงเยอะมวากกก แต่ว่าเจ้าหน้าที่ front นางน่ารักมาก ช่วยเราทุกอย่าง จนหาโต๊ะให้เราจนได้ เราชอบการบริการของคนที่นี่จริงๆ สาบานได้

เราเสียค่าเข้าตกคนละประมาณ 900 บาทนะคะ ข้างในเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ค่ะ (ไม่ค่อยอร่อยนะบ่องตง) แต่มันพอมีอาหารไทยบ้างไงคะ เลยพอกินได้ค่ะ แล้วก็มีการแสดงโชว์ค่ะ

 photo r024.jpg

 photo r025.jpg

 photo r027.jpg

พิงอยากจะบอกว่า อาหารท้องถิ้นพม่าอ่ะ พิงทาน ไม่ได้เลยยย

 photo r026.jpg

ขนมอร่อยดีค่ะ คล้ายๆ ขนมไทย
อีรองคนขับนางก็ตักข้าวเผ็ดๆ อะไรไม่รู้มากินละก็น้ำหูน้ำตาไหล แต่ก็ยังกินต่อ พิงก็บอกว่า พิงชอบ ขำ เวลาเห็นชาวต่างชาติเผ็ดและทรมาน นางก็ด่าพิงมาว่า ยูมัน Evil!! ฮ่าๆๆๆๆ

วันนี้ก็จบลงไปหนึ่งวันค่ะ วันที่สองพิงไปเดินตลาด แต่ไม่ได้อัพรูปนะคะ เพราะเหมือนกะตลาดเพดานส฿งติดแอร์ทั่วไป ของก็คล้ายๆ ของทางภาคเหนือและพวกเครื่องประดับต่างๆ ค่ะ

วันต่อมา พิงเจอหัวหน้าไฟลท์ชาวท้องถิ่นค่ะ บอกให้ไปพระนอน Reclining Buddha สิ พิงก็ไปค่ะ โอ้โห ใหญ่โต อลังการและงามมากเลยนะคะ
 photo r029.jpg

 photo r030.jpg

 photo r031.jpg

มีทัวร์ไทยอยู่แถวนั้น พิงก็แอบไปเนียนยืนฟังนะคะ เห็นว่า ทุกอย่างบนพระบาทมีความหมายหมดเลย ตรงกลางหมายถึงสวรรค์อะไรประมาณนี้ค่ะ


แต่นี่เลยที่พิงรอคอนคือเทพทันใจ นัตโบโบจีค่ะ (เพื่อนพิงขอได้ผลมาแล้วค่ะ)

 photo r028.jpg

พิงซื้อเครื่องเซ้น 1 ชุดนะคะ ประกอบไปด้วยมะพร้าว ดอกไม้ กล้วย และน่ารักมาก พิงซื้อจากร้านข้างนอก มีหนุ่มน้อยชาวพม่ายกตามมาส่งให้เลย สงสัยกลัวเราหนัก และทางค่อนข้างไกลนะคะ

วิธีการขอพรนะคะ ให้เรานำเงินสองใบ อะไรก็ได้ ม้วนเป็นกรวยซ้อนกันไว้ เสียบไปที่มือท่าน แล้วเอาหน้าผากเราไปชนกับนิ้วท่าน แล้วขอพรนะคะ ตอนพิงขอพร อีมัคทายควัดก็แบบ "One by one, one by one" อยู่นั่นแหละ

ตูเสียสมาธิ อ๊อยยยยยยยย

แล้วก็เอาผ้าคลุมไหล่สีเขียวๆ คลุมท่า แล้วเดินวนรอบท่านสามรอบนะคะ (พิงเหมือนจะทำไปรอบเดียว) และให้บอกว่า ถ้าสำเร็จก็จะกลับมาที่นี่อีก (ถึงจะสำเร็จหรือไม่ พิงก็จะมาอีกแน่นอน มาพม่าแล้วสบายใจเหลือเกินค่ะ)


เย่ หมดแล้วค่ะ สำหรับทริปพม่าครั้งนี้ เมื่อวานพิงไปโปแลนด์มาค่ะ แต่ไม่ได้ออกข้างนอก เพราะโดนไปแบบงงๆ จึงไม่มีชุด พรุ่งนี้พิงไปสวิส มะรืนไปลอนดอน อาทิตย์ปน้าไป ปารีส เกาหลี ละก็ เพิร์ธค่ะ

สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2556    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2556 16:38:40 น.
Counter : 2766 Pageviews.  

พาเดินเล่นที่ Tunis ตูนีเซีย ซานโตรินี่ แอฟริกา

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ คราวนี้พิงหายไปนานอย่างผิดปกติ
คอมพังค่ะ หมายถึง adaptor อ่ะค่ะ เนื่องจากน้ำท่วมบ้าน อย่างที่บอกไว้ในบล๊อคที่แล้ว จำได้ป่าวเอ่ย
จริงๆ จะไปซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไม่ไปเองเนื่องจากขี้เกียจ
อีกอย่างนึงคือบินเยอะค่ะ กลับมาบ้านก็อยากจะพักผ่อนเลยไม่ได้มาเขียนซะนาน

อันนี้ดองไว้นานแล้วค่ะ อีกประเทศใหม่ที่พิงไม่เคยไป คือประเทศตูนีเซียค่ะ ก่อนมาทำงานนี้ พิงก็แค่เคยได้ยินชื่อประเทศนี้บ้างผ่านๆ แล้วพอพิงได้มาทำงานที่นี่ ตอนแรกก็มีไปค้างที่ประเทศนี้นะคะ แต่ว่าต่อมา ก็มีสงครามจราจลวุ่นวายมากๆ สายการบินของเราเลยยกเลิกเลย์โอเวอร์ที่นี่ไปค่ะ เอาไฟลท์ไปพ่วงกับโมครอคโค คือบินจากกาต้าร์ไปแค่แวะจอดตูนิส และไปค้างที่โมรอคโคค่ะ

แต่ตอนนี้สถานการณ์สงบแล้ว เย่ๆๆๆ direct flight กลับมาอีกครั้ง เลยมีไปค้างที่ตูนิส พิงเลยขอไฟลท์ไปค่ะ ละก็ได้พอดี๊ อิอิ

ตูนีเซียเป็นประเทศที่อยู่ในทวีปแอฟริกาเหนือ แต่เป็นประเทศมุสลิมนะคะ มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนค่ะ มีอาณาเขตติดกับประเทศอัลจีเรีย และลิเบียค่ะ (อยากจะบอกว่าประเทศพวกนี้มีรบราฆ่าฟันจราจลตลอดเวย์ แต่สายการบินเราหาได้แคร์ไม่ อิรักยังไป)

เอาล่ะ มาถึงตูนิสแล้ว เอ้อ....ขอเล่าเรื่องนักบินก่อน
ขุ่นพ่อนักบินไฟลท์นี้ พุงพิงมีข้อสันนิษฐานว่าเมียอาจจะไม่เลี้ยง ตั้งแต่เริ่มขึ้นไฟลท์มาเลย นางก็ถามหาอาหาร ถามหาแซนวิช นางเป็นนักบินอายุประมา 60 อัพ ชาวบราซิลเลี่ยนนัยตาสีฟ้า ออกแนวเป็นลุงแก่เรื่องมาก พอเราบอกว่า เออ ไม่มีอ่ะ ฝ่ายอาหารเค้าไม่ได้โหลดขึ้นมาให้ ก็โทษกรูต่างๆ นานา จนเราไปเรียก catering (แผนกอาหาร) มาให้คุยกันก็แล้ว ก็ยังไม่เลิกบ่น ผู้ช่วยนักบินก็มองหน้าเราแบบ เสียใจด้วยนะแต่ช่วยไม่ได้ เพราะกัปตันโคตรรรรรบ่น

และตลอดไฟลท์นางก็ขอนู่น ขอนี่ขอนั่นแบบ ไม่หยุดหย่อน ไม่รู้จักอิ่ม พร้อมต้องการ explore สิ่งของที่กินได้บนเครื่องไปเรื่อยๆ อีผู้ช่วยก็ไม่กิน

ไม่พอออ!! กัปตันนางยังหลับอย่างจริงจังอีกด้วย (หมายเหตุ เวลามีนักบินสองคนจะสลับกันพักได้ เพราะเวลาบินใส่โปรแกรมไว้แล้วใช้ออโต้ไพลอตอยู่แล้ว ดังนั้น หน้าที่ของพุงพิงก็คือ เข้าไปเชค ทุกๆ กี่นาทีก็ว่าไป เรามีสแตนดาร์ดอยู่ หรือไม่กรูก็เข้าไปอยู่ในนั้นแม่มเลย ถ้าเซอร์วิสข้างนอกกับผู้โดยเสร็จแล้ว)

และในวันนั้น ถ้าเราเข้าไปอยู่ใน cockpit แล้วไปนั่งคุยกะผู้ช่วย ก็จะเสียงดัง รบกวนขุ่นพ่อที่แอบหลับ จำได้เลยสิ่งที่ดิฉันไปนั่งทำกันวันนั้นคือ

ซ่อม map -_-"

ในห้องนักบินมันจะมีเล่มๆ อยู่ เป็น แผนที่แบบ manual ซึ่งนางก็จำเป็นต้องใช้กัน และมันผ่านศึกมาเยอะมันเลยขาด กรูก็เลยไปนั่งซ่อม เอาสก๊อตเทปแปะกันอย่างเงียบๆ ชีวิต...


อ่ะจ้าาาาา นอกเรื่องเยอะเกินไปแล้วมาเข้าเรื่องกันเลยแล้วกัน
ถึงแล้วจ้าโรงแรม Golden Tulip โรงแรมดี สระว่ายน้ำสวยมาก แต่ไม่ได้ถ่ายมานะ
 photo tun1.jpg

ล๊อบบี้ก็สวยๆ แนวๆ
 photo tun2.jpg

จุดหมายในวันนี้ของเราในบ่ายวันนี้คือ Sidi Bou Said ค่ะ กว่าจะจำชื่อได้ ยากมากเลยนะ เราออกไปกัน 6 คนค่ะ นักบินสองคน มีลูกเรือฝรั่งสองคน เกาหลี และพิงค่ะ

ให้เพื่อนๆ นึกถึง ซานโตรินี่ฟ้าๆ ขาวๆ นะคะ ออกแนวนั้นล่ะค่ะ

 photo tun3.jpg

ธงประจำชาติค่ะ
 photo tun20.jpg

ก็จะมีร้านขายของที่ระลึกมากมาย

 photo tu3.jpg

 photo tun5.jpg

พ่อค้าที่นี่มารยาทดีไม่น่ารำคาญเหมือนที่ตุรกีที่ชอบมาคุย มาตาม มาคุกคาม คนที่นี่น่ารักมากนะคะ มารยาทดี

 photo tun6.jpg

 photo tun8.jpg

 photo tun7.jpg


มาถึงเรื่องชุดก่อน พิงพยายามแต่งตัวเรียบร้อยสุดๆๆๆ เพราะเห็นว่าเป็นประเทศมุสลิม ที่ไหนได้ กรูแพ้!!! แพ้อีลูกเรือคนอื่น สายเดี่ยวเกาะอก กระโปรงสั้น กระโปรงบาน แต่ละนางจัดเต็มเพื่อมาถ่ายรูป สวยๆ กันทุกคน เสียดายไม่มีรูปหมู่มาให้ดู น่าจะอยู่ในกล้องของนางคนอื่น เสียใจมากอ่ะ

 photo tun9.jpg

ประตูเหมือนจะเป็นสัญลักษ์เด่นๆ ของที่นี่เลย
 photo tun10.jpg

 photo tun11.jpg

บรรยากาศน่ารักจริงๆ
 photo tun12.jpg

 photo tun19.jpg

เค้ามีเหยี่ยวให้ถ่ายรูป (เหมือนที่ดูไบ) นางบราซิลคนนี้อยากดู เหยี่ยวเกาะหัวนางเลยจ้าาาา ฮ่าๆๆๆๆๆ นางคนนี้ก็หนึ่งในลูกเรือนี่แหละ

 photo tun13.jpg

เดินเล่นต่อ

 photo tun14.jpg

 photo tun15.jpg

วิวตรงนี้คือ landmark ของที่นี่ค่ะ ไม่มาถือว่าผิด!! ฮ่าๆๆ

 photo tun16.jpg

 photo tun17.jpg

ร้านอาหารตรงนี้สวยมาก แต่ไม่เข้าใจ กัปตันไม่ยอมกิน บอกจะมาไปกินที่อื่น ตอนเย็นพิงไปกินกันที่อื่น นั่งรถกันไปไกลมาก ไปกินปลา ตัวละ 2000 อะไรไม่รู้ โคตรไม่อร่อย บ้านเราอร่อยกว่าเย๊อะะะ

 photo tun18.jpg

เรากะผู้ช่วยกะน้องเกากะชิ่งกันหลายทีละ แต่ชิ่งไม่ได้อ่ะ ตอนนี้มันจะแบ่งเป็นสองกรุ๊บตั้งแต่ออกจาก รร เพราะต้องแยกแท๊กซี่คือ กัปตันไปกะน้องบราซิล(เพราะชาติเดียวกัน) กะนางโมาเนีย ส่วนเรากะเกาหลีไปกะผู้ช่วย
ขนาดนอกงานแล้วนะ กัปตันตัดสินใจอะไร พวกเราไม่กล้าหืออ่ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ เพราะนางแก่ด้วยมั้ง ปกติพอลงจากงานมา พวกคนขับนี่แหละต้องตามใจพวกกรู!!!

ขากลับก็แวะชมในร้าน มีพ่อค้าชาวตูนิสเชิญเข้าไป ซื้อไม่ซื้อไม่เป็นไร ขอให้เข้ามาดูเพราะบ้านหลังนี้เก่าแก่มาก
 photo tun21.jpg

สรุปเมืองสวย คนน่ารัก อาหาร เอ่อ....ก็พอได้มั้ง ค่าครองชีพไม่แพงมากค่ะ

เย็นนั้นพวกเราก็ไปนั่งกินปลาจิบไวน์กัน ค่อนข้างแพงเลยร้านที่กัปตันเลือก กัปตันกะเลือกร้านที่ถูก โดนซะเองเลย อิอิ เราไม่มีปัญหากันอยู่แล้ว อีกวันเราบิน Deadheading กลับค่ะ หรือที่การบินไทยเรียกกันว่า passive คือนั่งกลับเฉยๆ กับเครื่องอีกลำไม่ทำงานค่ะ เพราะพวกนักบินสองคนต้องบินเครื่องคาร์โก้อีกลำกลับ ฟังดูยุ่งยากเหลือเกิน

ทริปหน้าพาไปเที่ยว Park Guell ที่ Barcelona Spain ไปชมศิลปะของ Gaudi อันโด่งดังกันนะคะ หลังจากนั้นจะพาไปเที่ยวประเทศจอร์เจีย (ที่ไม่ใช่เมืองจอร์เจียนะ) และที่พิงเพิ่งกลับมาจากพม่า ทริปไหว้พระค่ะ

คิดถึงทุกคน ดูแลสุขภาพนะคะ

สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2556    
Last Update : 26 ตุลาคม 2556 19:57:18 น.
Counter : 3373 Pageviews.  

ไปค่ะ ไปเที่ยวเกาหลีกับสาวๆ Hello Kitty Cafe, Cat Cafe and Trick Eye Museum

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคน พิงนึกว่าจะไม่ได้มาเขียนซะแล้วค่ะ เนื่องจากบ้านพิงน้ำท่วม!!

บ้านก็คือหอที่พิงอยู่นี่แหละค่ะ เรื่องคือว่า ตอนที่พิงไปบิน แล้วกลับมา พิงเปิดเข้าห้องมาละห้องมันเปียกๆ นึกว่า อ๋อออ คุณเจ้ที่อยู่ด้วยกันสงสัยถูบ้านทำความสะอาด

เจอนางนั่งเอาไดร์เป่าผมเป่าโมเด็มอินเตอร์เน็ตอยู่พร้อมกับพูดว่า

"อิพิง มันคือ Disaster!!!!" "มันคือวันสิ้นโลกของกรู"

คือแบบ ห้อง Master Bedroom อ่ะค่ะ ที่เป็นห้องของเกาหลี นางไม่อยู่ไปบิน แล้วที่ฉีดตู๊สสสอ่ะ มันรั่ว พี่ซูจะตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนตีสอง (เล่าละเอียดมาก) มีการบอกว่า ตอนนั้นกะลังคิดอยู่ว่าจะฉี่หรือนอนต่อ (คนเราคิดอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ) แล้วนางก็ย่ำลงมาจากเตียง เฮ้ย อะไรเปียกๆ

น้ำจ้าาา น้ำท่วมทั้งห้องเลย เน้น ทั้งห้อง แล้วอพาร์ทเม้นท์ที่เราอยู่มันก็กว้างพอสมควรเลยอ่ะ คือท่วมทั้งบ้าน รวมทั้งห้องพิงด้วย ซักพัก ก็มีคนมาเยอะแยะมามาเคาะห้อง รั่วจ้าาาา น้ำรั่วลงไปห้องฝรั่งข้างล่าง พวก Housing officer ก็มา ละพี่ซูเล่าให้ฟังว่า อีฝรั่งกะคนจีน เอาที่โกยขยะมาช่วยวิดน้ำ ฮ่าๆๆๆๆๆ พี่ซูบอกว่านางน่ารักมาก ละซักพัก (ขณะนั้นเวลาตีสอง) พวกคนทำความสะอาด 4-5 คนก็บุกมา เหมือนหน่วยงานพิเศษมาออกรบอะไรซักอย่าง มาทำความสะอาดๆๆ

ตัดมาที่พิง ลากกระเป๋า กลับมาอย่างสวยงาม
ตี 5 สถานการณ์ under control
เจอเจ้ นั่งเอาไดร์เป่าผมเป่าโมเด็ม

"อิพิง มันคือ Disaster!!!"

ค่ะตอนนั้น ก็นึกว่าเน็ตจะเสีย แต่พอมันหายเปียกมันก็ดีค่ะ
เหตุการณ์ผ่านมาเป็นอาทิตย์นะ เมื่อเช้า พิงนั่งอยู่ อะไรระเบิดดัง ตุ๊บ!!!
Adapter ของคอมเครื่องนี้นี่แหละค่ะ

นี่แหละค่ะ ที่เล่ามาทั้งหมดคือ เกือบไม่ได้มาเขียน เพราะ Adapter ระเบิด
นี่ขอยืมของต่ายมาก่อน เพราะคอมยี่ห้อเดียวกัน ดีนะใช้กันได้

มาค่ะ กว่าจะได้เข้าเรื่อง

พิงไม่ได้ไปเกาหลีมานานพอสมควรเลยทีเดียว ตั้งแต่หน้าหนาวคราวที่แล้ว คราวนี้ตั้งหน้าตั้งตารอมากเลยค่ะ

ตอนแรกเห็นรายชื่อลูกเรือคนไทย 1 คน แต่ตอนใกล้ๆ ไฟลท์มีคนสแตนบายเปลี่ยนจ้า โชคดีจริงๆ ที่นางสแตนบายเปลี่ยน เพราะพี่คนไทยอีกคน เค้ามีเพื่อนเกาหลีที่นู่นค่ะ ไม่งั้นเราได้ออกคนเดียว เหงา น้ำลายบูดแหงๆ

ดูรูปไปเพื่อนๆ (รุ่นพิง) ก็อาจจะอ๋อกันนะคะ เพราะนางคือพี่ตวง สาวิกา อดีตดาราดังที่ผันตัวมาเป็นแอร์โฮสเตสนั่นเอง (เป็นไง สำนวนเหมือนข่าวบันเทิงมิ)

พอเราแลนด์กัน ณ อินชอนตอนนั้นเป็นเวลาตอนเย็น เราก็ไม่รีรอที่จะออกไปกินหมูเกาหลี หรือ ซัมเกี๊ยบซัล กันทันที

พิงออกไปใกล้ๆ ค่ะ ที่แถวๆ มหาลัยฮงอิก จะไปกินร้านเดิมที่เคยกินทุกที แต่!!! อะไรไม่รู้ โดนลุงไล่ออกมาอ่ะ แบบคนเต็มไรงี้มั้ง หรือพูดอังกฤษไม่ได้ โดยผลักไล่ออกมาเลยอ่ะ ก็เลยมากินอีกร้าน แต่ร้านไหนก็เหมือนๆ กันค่ะ

 photo ic1_zps712d060d.jpg

หลังจากกินอิ่มกันแล้ว เราก็ไปเดินเล่น ดูของกันตามประสาสาวๆ ค่ะ แล้วเราก็บังเอิญเดินมาเจอ Hello Kitty Cafe!! พี่ตวงบอกว่า เนี่ยๆ อ่านมาจากเน็ต ดังนะที่นี่ แวะมั้ย เอ้าาาาา แวะะะ

(บ่องตงคือคนห้าวๆ อย่างพุง น่าจะไปแวะดราก้อนบอล วันพีซคาเฟ่อะไรเทือกนั้นมากกว่า ถ้ามี แต่ร้านนี้ มันน่ารักจริงๆ นะ ถึงจะไม่ใช่แนว)

 photo ic2_zpsfd204b18.jpg

เดินเข้ามาในร้าน ก็จะมีขนมหน้าตาน่ารักมากมาย แต่บางอย่างก็หมดแล้วนะ เพราะว่ามันค่อนข้างดึกแล้ว

 photo ic3_zps43a8341f.jpg

บรรยากาศภายในร้านชั้นล่างค่ะ
 photo ic5_zps6116607a.jpg

 photo ic6_zps6ed648f9.jpg

เรานั่งกินกันที่โต๊ะนี้เลยค่ะ
 photo ic4_zps8a272dc9.jpg

เราสั่งขนม เครื่องดื่มแล้ว ก็ได้เจ้าสิ่งนี้มานั่งรอ ถ้าเกิดของเราพร้อมแล้วมันจะสั่น เราก็ไปเอาค่ะ
 photo ic7_zps7f17dbce.jpg

นี่ค่ะหน้าตาขนม มันก็แค่ขนมปัง ละพี่ตวงสั่งชาวานิลา พิงสั่งชา Sweet potato รสชาติเฉยๆ อิอิ

 photo icc_zps148f7797.jpg

แล้วทันใดนั้น เมื่อเรากินเสร็จ เราก็เพิ่งรู้ตัวว่าเราพลาด เพราะว่าชั้นบนมันน่ารักมากๆ แถมไม่มีคนเลย ทุกคนมาออ นั่งกันอยู่ที่ชั้่นล่างแคบๆ หมด

 photo ic8_zps3552d49c.jpg

อ่ะ ห้องน้ำ
 photo ic9_zpsbd4cd0d9.jpg

 photo ic10_zps5d04c9c5.jpg

 photo ic11_zpsd71a3364.jpg

ชมพู๊ ชมพรู.....

 photo ic12_zps1940f2f3.jpg

คงถูกใจคนรักคิตตี้แน่นอน
 photo ic13_zpsefc4605a.jpg

 photo ic14_zps9493835a.jpg

มองลงไปข้างล่างได้
 photo ic15_zps58310584.jpg

 photo ic16_zpse5d2d6e0.jpg

ขอเข้ากล้องมั่ง
 photo ic17_zps6c0852db.jpg


วันแรกก็จบลงตรงนี้ค่ะ แต่นั่งเม้าท์กันแบบนานมากกกกกกกกกกกกก ผู้หญิงนางนี้เป็นผู้หญิงคิดบวกนะคะ คุยได้เรื่อยๆ เม้าท์มอยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ไม่ยอมกลับ จนดึกมากๆ แล้วเลยกลับ เพราะพรุ่งนี้ เราก็ยังมีนัดกันต่อค่ะ ที่ๆ พี่ตวงอยากไป พิงอยากไปมานานแล้วนั่นก็คือ Trick Eye Museum ที่เหมือนกับ Art Paradise ที่พัทยาค่ะ (แต่ที่นี่มีมานานแล้วน้า..)



เช้ามาเราก็ยังไปกันที่เดิมค่ะ แถวๆ มหาลัยฮงอิกค่ะ ก่อนออกจากโรงแรม พิงก็เปิดเน็ตก่อน หาทางไปว่าเลี้ยวขวาเลี้ยวซ้ายอย่างไร ขี้เกียจไปหลง ปรากฏว่าใกล้มาก ไม่ต้องหลงจริงๆ

หน้าตา Trick Eye Museum เป็นแบบนี้ค่ะ แต่ตัวมิวเซียมจะอยู่ข้างล่างใต้ดินนะคะ
 photo ic19_zpsf9f57f4e.jpg

เราไปมันยังม่เปิดค่ะ ประมาณอีก 15 นาที ข้างหน้า มีร้านบุฟเฟ่ต์ฟหมูเกาหลี พิงเลยไปจัดกันเลยค่ะ ตกคนละ 300 กว่าบาท จริงๆ เห็นร้านนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วคนเยอะมาก

 photo ic21_zps0981060f.jpg

ร้านนั่งสบายมากค่ะ ซักพักมีทัวร์คนไทย (คนใต้) มาลงค่ะ คนไทยเยอะมากนะคะ ใครบอกกระแสเกาหลีแผ่สญี่ปุ่นกำลังมา แต่เท่าที่เห็นแล้ว คนไทยก็ยังเต็มโซลอยู่ดีค่ะ

มาค่ะ ตวง สาวิกา และพิง ธนพร (เมิงเป็นใครรร???) ก็จัดกันไป อีกมื้อ ติดๆ กัน
 photo ic22_zps1cc106c4.jpg

เสร็จแล้ว เราก็ไปมิวเซียมกันค่ะ เดินประมาณ 10 ก้าวถึง

 photo ic20_zps80045f37.jpg

ซื้อตั๋วคนละ 15,000 วอนค่ะ ได้เข้ามิวเซียม แล้วก็ Ice Museum ค่ะ
 photo ic20_zps80045f37.jpg

เรามาถ่ายรูปเล่นกันตรงทางเข้าก่อนค่ะ

 photo ic23_zpscda42ebd.jpg

เป็นพิพิธภัณฑ์สามมิติ หลอกตา ทุกอย่างเป็นรูปวาด

 photo ic24_zps978d431a.jpg

ต่อจากนี้ก็ถ่ายรูปเล่นกันล้วนๆ จ้า....


อันนี้เหมือนนะ เหรียญหล่น กรุ๊งกริ๊ง
 photo ic25_zps4c09a7de.jpg

ชอบรูปนี้มาก ต้องหลอกผู้ชายจีนให้มาถ่ายให้ แต่เรานั่งไม่ค่อยตรงนะ
 photo ic26_zps0be269ee.jpg

แต่รูปหัวข้างล่างนี้ ดูยังไงก็ไม่เหมือน ที่เมืองไทยยังเหมือนกว่า
 photo ic27_zps00736468.jpg

ตัวใหญ่ตัวเล็ก ห้องนี้ มีคู่รักคนจีนมา เล่นไม่เป็น ว่าใครต้องทำท่ายังไง แต่พี่ไทยอย่างเราสองคน โปรมาก ขอให้คนถ่ายให้ แล้วกระโดดเข้าไปได้เลย
 photo ic28_zpsf7842ba9.jpg

ส่วนเกิน ฮือๆๆๆ
 photo ic29_zpsad4e4b59.jpg

คนแคระ
 photo ic30_zps8a7f3c0d.jpg

ชอบรูปนี้ มีมิติดี โดนปลาฉลามบุกกก
 photo ic31_zpsc0f01ff6.jpg

ส่วนอันนี้จะดีกว่านี้ ถ้าทำให้ผมร่วงลงมาได้
 photo ic32_zpse6b15c41.jpg

อยากเป็นเซเลบบ้าง อ้วนหน่อยนะ ลดอยู่ ฮ่าๆๆๆ
 photo ic33_zpsa896d685.jpg

ปีกนี้ที่ไทยก็มี แต่ว่าไม่เหมือนกันเท่าไหร่นะ
 photo ic35_zpsd275c957.jpg

ห้องเก็บเงินที่ก็อลังการดีนะ ชอบๆ
 photo ic34_zps3277917a.jpg

นางหัวอะโฟรสองคนนั่งรอรถบัส
 photo ic36_zps7355b8ea.jpg

โอ๊ยยยย ซูชิหนักก
 photo ic37_zps746ce4a5.jpg

กระโดดช่วยป้าตำข้าว
 photo ic38_zps81ef0843.jpg

ออกแนวโรคจิตบ้างอะไรบ้าง
 photo ic39_zpsd02bce73.jpg

สุดท้ายนี้ Ice Museum ลง 1 รูปพอ เพราะมันกาก อาจจะประมาณดรีมเวิร์ล แล้วหนาวมาก แบบเอาแอร์เป่าเข้าว่า ไม่รู้จะเข้าไปทรมานทรกรรมกันทำไม
 photo ic40_zps8fee20ba.jpg

จบไปอย่างสนุกสนานที่ Trick Eye Museum ค่ะ



เอาล่ะค่ะ ใกล้จบแล้ว เพื่อนๆ ทนๆ กันหน่อยเด้อ พิงก็ทนเหมือนกัน ตอนนี้ให้ผู้จัดการส่วนตัว (ต่าย) ทอดไก่อยู่ แบบว่าหิวน่ะ แต่เอาให้จบก่อน

สถานที่สุดท้ายที่มาเจออย่างฟลุคๆ ที่พวกเราจะไปกันคือ คาเฟ่แมว หรือ Cat Cafe นั่นเองค่ะ จริงๆ มีรูปหน้าร้านด้วย แต่ลืมอัพขึ้น สภาพแบบดูมอมแมม ยังไงไม่รู้ ส่วนร้านอยู่บนตึกแถวชั้นสามค่ะ ตอนแรกเสร็จจากมิวเซียมพิงอยากไปเดินช๊อปเมียงดง แต่มาเจอนี่ซะก่อน ก็อะเคยยยย์อ่ะ แวะก็แวะ!!!

เข้ามาในร้าน เปลี่ยนรองเท้า แล้วเค้าก็จะเอาข้อปฏิบัติมาให้ค่ะ
 photo ic41_zpsa30c3578.jpg

เสียค่าเข้าประมาณ 15000 นี่แหละมั้ง จำไม่ได้แล้ว แต่ถือว่าเป็นค่าเข้า และเครื่องดื่มฟรี 1 แก้วค่ะ เลือกอะไรก็ได้ พิงก็เลือกชาเขียวกัน
 photo ic49_zps7e26c60e.jpg

เจ้านี่เป็นตัวที่พิงชอบมาก เก็บไปฝันถึงจนถึงวันนี้ พิงเรียกเจ้านี่ว่าแมววิสกัส เพราะเหมือนในโฆษณาวิสกัส จริงๆ ที่นี่มีหมดเลย แมว มีโอ ก็มี

แสบนะเทอออ กระเป๋าฉันนนนนนนน ม่ายยยยยย....

 photo ic42_zpsf3623def.jpg


แมวเต็มปายหมด
 photo ic43_zpsa5d73449.jpg

พิงเดาว่านี่เป็นชื่อ รูป และนิสัย ประวัติ ไรงี้ (มั้ง)
 photo ic47_zps72b8f6e7.jpg

บรรยากาศน่ารัก ตอนมายังไม่มีคน พอตกเย็นเด็กมหาลัยก็จะมา
 photo ic44_zps12363ea7.jpg

 photo ic45_zps51c07123.jpg

รูปถ่ายมาเยอะมาก แต่เอามาให้ดูพอเป็นน้ำจิ้มนะจ๊ะ

 photo ic46_zpsb985ed7c.jpg

มาค่ะ ปิดท้ายวัน ด้วย ร้านหมูเกาหลี แถวโรงแรม!!!
กลับมาจากไฟลท์นี้ พิงอ้วนขึ้น 2 กิโล โอ้ มายยย กู๊ดเนสสสส!!
 photo icccc_zpscaa9471e.jpg

เอาล่ะวันนี้พิงขอตัวก่อน ต้องรีบมาเขียนเพราะเดี๋ยวลืม มีอีกสองที่ที่ต้องเขียนจ้า คือประเทศตูนีเซีย และบาเซโลน่า สเปนจ้าา มีไปเซี่ยงไฮ้มาด้วย แต่เน้นหนักไปทางกิน ไม่มีอะไร แล้วพบกันใหม่นะคะ สวัสดีค่าาา




 

Create Date : 11 กันยายน 2556    
Last Update : 11 กันยายน 2556 22:16:09 น.
Counter : 7113 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  

Bloody Distance
Location :
Doha Qatar

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับสู่ blog ของพิงค่ะ พิงคือหญิงไทยที่ได้มีโอกาสมาอยู่ต่างแดนค่ะ มาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ
New Comments
Friends' blogs
[Add Bloody Distance's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.