Bloggang.com : weblog for you and your gang
It's not easy to be me
Group Blog
เรื่องสั้น
เรื่องเรื่อยเปื่อย
เรื่องภาพถ่าย
สำหรับ VIP
เรื่องยาว อรุณรุ่งในดวงใจ
เรื่องสั้น แนวยูริ ดำเนินทราย
เรื่องสั้นแนวยูริ : กาลนาน
เรื่องสั้น ความรักของฉัน ญรญ
นิยายเรื่องยาว มธุรดา (ยูริ,ญรญ)
กลกาล ยูริ yuri เรื่องยาว
All blogs
เรื่องสั้นแนวยูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๑๑ บทสรุป
เรื่องสั้่นแนวนูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๑๐
เรื่องสั้นแนวยูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๙
เรื่องสั้นแนวยูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๘ ความลับ
เรื่องสั้นแนวยูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๗ อาณาจักร
เรื่องสั้นแนวยูริ ดำเนินทราย : บทที่ ๖ ตามะแน
เรื่องสั้นแนวยูริ ดำเนินทราย : บทที่ ๕ กระจ่าง
เรื่องสั้นแนวยูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๔
เรื่องสั้น แนวยูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๓ หลงทาง
เรื่องสั้น แนวยูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๒ ป่าต้องห้าม
เรื่องสั้น แนวยูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๑ ผาเดียวดาย
เรื่องสั้นแนวยูริ : ดำเนินทราย บทที่ ๘ ความลับ
บทที่ ๘ ความลับ
เมืองสวยงามแห่งองค์ตามะแนถูกซ่อนเร้นอยู่ภายใต้ผาเดียวดาย เมืองแห่งนี้ลี้ลับซับซ้อนหากผู้ใดไม่มีอาคมถึงขั้นเป็นจอมขมังเวทย์ผู้นั้นจะไม่ได้เห็นแม้กระทั่งทางเข้า กาลเวลาผ่านไปหลายพันปี องค์ตามะแนยังคงปกครองบ้านเมืองโดยสงบตลอดมา
เมืองตามะแนไม่ได้เจริญแต่เพียงด้านเดียว ทุกคนในเมืองอยู่ด้วยคาถาร่ายเวทย์แห่งองค์สุริยะชัยเชรษฐ ผู้เป็นพระอัยกาแห่งแม่เมืองตามะแน บัดนี้เมืองทั้งเมืองเริ่มเกิดการเสื่อมของคาถาร่ายเวทย์ องค์ตามะแนทรงรับรู้ได้จากการที่ชาวบ้านด้านนอกมักจะเล็ดรอดเข้าไปยังคูหาทางเข้าของเมืองได้ในคืนราหูเต็มดวง
คำสาปแห่งพระอัยกากำลังจักเลือนหาย พวกเจ้าทุกผู้ทุกนามจักต้องร่ายเวทย์บดบังเมืองแห่งเราอีกครา สุรเสียงก้องกังวานไปทั่วเขตคามแห่งเมืองลับแล ยังมีนางหนึ่งเล็ดลอดออกมาด้านนอกเพื่อเที่ยวไปทั่วไพร
เหตุใดแสงตะวันมิอยู่ ณ ที่นี้ องค์ตามะแนตรัสถามถึงพระพี่เลี้ยงแห่งนาง
ไม่มีเสียงตอบรับอันใดให้พระองค์ได้ล่วงรู้
พวกเจ้ามิตอบข้าจักรู้เอง องค์ตามะแนหลับพระเนตรอยู่ครู่หนึ่งจึงทอดพระเนตรเห็นพระพี่เลี้ยงแสงตะวันแปลงกายเป็นกวางดาวออกวิ่งเล่นไปทั่วแดนไพร
จงกลับมาบัดเดี๋ยวนี้แสงตะวัน หากเจ้ามิกลับเจ้าจักกลายเป็นธุลี สุรเสียงส่งผ่านห่วงอากาศจนถึงกวางดาวตัวน้อยที่กำลังวิ่งวนปีนป่ายในพงไพร ดูเหมือนว่ากวางดาวตัวนั้นจะตกใจวิ่งตะกุยพื้นดินอย่างรวดเร็วฉับพลันร่างของกวางดาวกลับลอยเหนือพื้นดินวิ่งตะกุยอากาศหายวับไปกับตา
ร่างของพระพี่เลี้ยงแสงตะวันหมอบราบอยู่กับพื้นท่าทางลนลาน
เหตุใดเจ้าจึงขัดคำสั่งแห่งข้า
หม่อมฉันมิเคยคิดจักขัดพระกระแสรับสั่งแห่งพระองค์ดอกเพคะ เพียงแต่หม่อมฉัน
เพียงแต่อันใด
เพียงแต่หม่อมฉันออกไปสำรวจเหตุเพราะเมื่อราตรีที่ผ่านมามีผู้บุกรุกทั้งอาคเนย์แลหรดี
เหตุใดจึงเป็นเยี่ยงนั้น
เพราะเวทย์คลุมครอบเริ่มจักเสื่อมลงเพคะพระนาง
มันเป็นผู้ใด
มันเป็นพรานหนุ่มผู้แก่กล้าในเวทย์ผู้หนึ่งเพคะพระนาง
หากเป็นเยี่ยงดังเจ้ากล่าวจริงเจ้าจงไปดักมันผู้นั้นมิให้กล้ำกลายมาถึงปากประตูทวารแห่งเมืองเรา หากเจ้ากระทำมิได้หัวเจ้าจักหลุดจากบ่า
เพคะพระนาง
แสงดาวเจ้าจงช่วยแสงตะวันทำการให้แล้วเสร็จในเร็ววัน
สองพี่น้องพรานป่าบุญและมาก ทั้งคู่ร่ำเรียนคาถาอาคมมาจากพระธุดงค์และพ่อของเขา ดังนั้นภัยต่างๆ จึงไม่อาจคุกคามพรานทั้งสองพี่น้องได้ พรานบุญผู้เป็นพี่ตัดสินใจที่จะบุกรุกเข้าป่าต้องห้ามโดยไม่ฟังคำทัดทานจากผู้เป็นแม่ของเขา จึงทำให้พรานมากผู้เป็นน้องต้องคอยติดตามพี่ชายของเขาเองเข้าป่าต้องห้ามไปด้วยกัน
อย่าเข้าไปเลยบุญพ่อของลูกก็ตายในป่านั้น มันอันตรายนะลูก
ให้ข้าไปเถอะแม่ข้าอยากรู้ว่าในป่ามันมีอะไร พ่อถึงได้พลาดท่าเสียทีและหายไปแบบนั้น
ข้าก็อยากรู้เหมือนกันแม่ว่าป่ามันทำไมถึงได้น่ากลัว นายมากผู้เป็นน้องบอกกับแม่ของตัวเองเพราะเขาและพี่ชายมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่เป็นทุนเดิม
แม่คงห้ามพวกเอ็งไม่ได้อีกแล้ว ระวังตัวด้วยนะลูก
แม่จ๋าข้ากับไอ้มากจะหาของป่าออกมาขายเอาเงินมารักษาแม่ แม่ไม่ต้องห่วงพวกเราสองคนหรอกนะแม่ ฉันรับรองว่าพวกฉันจะปลอดภัยและกลับมาพร้อมกับของป่าแปลกๆ เอามาขายเอาเงินมารักษาแม่นะจ๊ะ
เออพระคุ้มครองเอ็งทั้งสองคนไปดีมาดีลูก
พรานบุญและพรานมากสองพี่น้องก้มลงกราบแม่ของตัวเองและเข้าป่าต้องห้าม พวกเขาเข้าป่าไปคนละทิศ พรานบุญบุกเข้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนพรานมากบุกเข้าไปทางทิศตะวันตก ด้วยความชำนาญการเดินป่าทั้งสองคนนัดหมายกันว่าจะมาเจอกันที่ใจกลางป่าต้องห้าม
แยกย้ายกันไป หากใครมีอันเป็นไปจะได้ไม่ตายหมู่นะไอ้มาก
ได้เลยพี่บุญแล้วไปเจอกันกลางป่า
พรานบุญแม้จะมั่นใจเพียงใดแต่เขาเองก็ต้องพบกับความยากลำบากในการปีนป่ายเขาและหน้าผาสูงจากทางทิศตะวันออกเพื่อไปยังใจกลางป่า ส่วนพรานมากเดินทางสบายๆ เพราะหนทางที่เขาเลือกเดินมานั้นเป็นทางลาด ลงไปยังป่าต้องห้าม
ทั้งสองคนเก็บของป่าและต้นไม้แปลกๆ เอาใส่ย่ามของตัวเอง พรานทั้งสองเดินทางอยู่หลายวันก็มาพบกันที่เนินก่อนถึงหน้าผารูปร่างแปลกๆ
เอ็งดูสิไอ้มากผาที่เราเห็นทำไมเดี๋ยวก็มีถ้ำเดี๋ยวก็ไม่มี
นั่นสิพี่บุญข้าก็ว่ามันแปลกๆ
เราเอาของทิ้งไว้ที่นี่ก่อนดีไหมข้าอยากรู้ว่าไอ้ผานั้นมันทำไมเปลี่ยนรูปร่างได้
ดีพี่ข้าก็อยากรู้ สองพี่น้องรีบเดินไปยังหน้าผาที่มองเห็นอยู่ไม่ไกล แต่เดินเท่าไหร่ก็เดินไม่ถึง
เฮ้ยทำไมมันไม่ถึงสักทีวะ หรือว่ามันขยับได้ พรานมากบ่นอุบเพราะเขาเริ่มเหนื่อยและอ่อนล้า
ข้าว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างพรางตาเราสองคน
เออจริงสิพี่ทำไมข้าไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย
เอางี้ข้าจะร่ายมนต์ก่อนเอ็งช่วยข้าหน่อย พรานสองพี่น้องใช้มนต์สะกดการพรางตาที่ร่ำเรียนมาและก็จริงอย่างที่ทั้งสองได้คาดเดาเอาไว้ เมื่อสองพี่น้องเริ่มร่ายมนต์ก็เห็นสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเปลี่ยนไป เขาทั้งสองมายืนอยู่ด้านล่างของหน้าผาที่ตนเองคิดว่าเดินยังไม่ถึง เมื่อมองขึ้นไปยังหน้าผาก็พบกับปากถ้ำ
นั่นไงพี่บุญปากถ้ำ พรานมากชี้ให้พี่ชายของตัวเองเห็นปากถ้ำที่ทั้งสองคนเดินตามหามาทั้งวัน และจัดแจงปีนป่ายขึ้นไปด้านบนหน้าผาด้วยความระมัดระวัง
ถ้าข้างในมีขี้ค้างคาวเราก็รวยแล้วไอ้น้อง
ข้าว่านะพี่บุญถ้าข้างในมีรังนางแอ่นเราจะรวยมากกว่า สองพี่น้องพยายามปีนไปจนถึงปากถ้ำ แต่ดูเหมือนว่าปากถ้ำแห่งนี้ไม่เหมือนปากถ้ำแห่งอื่นๆ มันดูสะอาดไม่มีหินแหลมคมหรือก้อนหินกระจัดกระจายอะไรเลย
พี่ว่าปากถ้ำนี่มันแปลกๆ ไหมพี่บุญ
อื่มมันแปลกๆ ถ้าเป็นถ้ำอื่นๆ มันต้องมีหินหรืออะไรสักอย่างขึ้นบดบังปากทางเข้าบ้างแต่ที่นี่ไม่มี
งั้นเอ็งกับข้าคงต้องระวังตัวหน่อยเผื่อมีสัตว์ร้ายอยู่แถวนี้ ผลัดกันอยู่ยามก็แล้วกัน
ข้าไปหาฟืนก่อนดีกว่าพี่บุญกลางคืนมันคงหนาว
ไม่ต้องไอ้น้องข้ามีสมุนไพรแก้หนาวชะงัดนัก พรานบุญหยิบกิ่งไม้จากในย่ามของตัวเองส่งให้กับน้องชาย
ไว้เคี้ยวตอนหนาวๆ จะได้ไม่หนาว พรุ่งนี้ฟ้าสางเราค่อยเข้าไปในถ้ำ สองพี่น้องผลัดกันอยู่ยาม ผลัดแรกเป็นของพรานมาก เขานั่งเพ่งมองเข้าไปในถ้ำเห็นแสงวาบๆ ของอะไรสักอย่างจากนั้นได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรหนักๆ ครูดมากับพื้นดิน พรานมากเริ่มสะกิดพี่ชายตัวเอง
พี่บุญ
ข้ารู้แล้วได้ยินแล้ว พรานบุญกระชับมีดหมอในมือของตนเองให้แน่นขึ้น
งูสีเหลืองและสีแดงตัวโตเลื้อยออกมาจากด้านในถ้ำ เข้าบุกรุกหวังทำร้ายพรานสองพี่น้อง แต่ด้วยความเร็วของพรานทั้งคู่จึงสามารถหลบพ้นการจู่โจมรวดเร็วของงูสองตัวได้ การต่อสู้โรมรันระหว่างคนกับงูเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง งูทั้งสองแผ่พังพานขู่เสียงดัง
ฟ่อ จนสะท้อนไปทั่วบริเวณถ้ำ
มันเป็นงูมีวิชาไอ้มากระวังตัวด้วย พรานบุญตะโกนบอกน้องชายของเขา เพราะเขาเริ่มรู้แล้วว่างูขนาดมหึมาที่กำลังเล่นงานเขาอาจจะเป็นงูเจ้าที่เจ้าทางหรือที่ใครๆ เรียกว่างูเจ้าก็เป็นได้
ระหว่างต่อสู้พรานทั้งสองใช้มีดหมอลงอาคมที่ตกทอดกันมารุ่นต่อรุ่นปักลงไปกลางลำตัวของงูทั้งสองตัว และไม่นานนักงูทั้งสองตัวก็ต้องพ่ายให้แก่พรานทั้งสอง จากนั้นก็พยายามจะเลื้อยหนีไปพรานบุญและพรานมาก จับหางงูทั้งสองตัวเอาไว้และสะบัดอย่างแรง เพื่อให้กระดูกงูทั้งสองตัวเคลื่อนจากนั้นก็จับมัดด้วยเชือกที่ทั้งสองคนพกมา มันเป็นเชือกล้วยธรรมดาแต่ลงอาคม
เมื่องูทั้งสองสิ้นฤทธิ์ก็กลายร่างเป็นผู้หญิงสองคนหน้าตาสะสวย จนพรานทั้งสองตะลึงงันกับความสวยของสองสาว
พวกแกเป็นใครเจ้าป่าเจ้าเขาหรือผีสางนางไม้ พรานบุญถามเชิงขู่หญิงสาวทั้งสองที่กลายร่างมาจากงูแต่ทั้งสองก็ไม่มีคำตอบให้กับพรานทั้งสองคน
พี่ข้าถามพวกเอ็งไม่ได้ยินหรือไงวะ พรานมากชักฉุน
ในเมื่อพูดดีๆ กันไม่รู้เรื่องมันต้องโดนอาคมของข้า พรานบุญบริกรรมคาคาอีกพักใหญ่และเป่าพรวดไปที่ผู้หญิงทั้งสองคน เพื่อสะกดจิตคนทั้งสองให้พูดความจริง
เจ้าเป็นใคร เสียงพรานบุญขู่อีกครั้ง
ข้าสองคนเป็นผู้อาศัยในเมืองตามะแนปุระ แสงตะวันที่โดนมนต์สะกดตอบคำถามพรานบุญอย่างง่ายดาย
เมืองนั้นอยู่ที่ไหน พรานมากถามเชิงขู่อีกคน
อยู่ด้านในหลังถ้ำแห่งนี้ แสงดาวตอบและชี้ไปด้านในของถ้ำ
พวกแกพาพวกข้าเข้าไปได้ไหม พรานบุญถามเพราะอยากรู้ทางเข้าและการเดินเท้าเข้าไปในเมืองหากเขาได้เข้าไปด้านในอาจจะมีอะไรดีๆ เอาออกไปขายเพื่อนำเงินมารักษาแม่ของตัวเอง
มิได้ดอกเรามิมีฤทธีพอที่จักนำพวกท่านเข้าไป แสงตะวันตอบคำถามท่าทางเหม่อลอย
เมืองลับแลอย่างนั้นเหรอพี่บุญ พรานมากหันมาถามพี่ชาย
ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ สองคนนี้สวยบาดใจข้าวะไอ้มาก พรานบุญที่ยังหนุ่มแน่นเริ่มมีใจต่อสาวสวยตรงหน้า
มันจะผิดไหมวะถ้าเราใช้วิชาขุนแผนสะกดใจ พรานบุญถามน้องชายตัวเอง
ไม่ผิดมั๊งพี่ข้าก็อยากใช้เหมือนกัน เมื่อสองพี่น้องตัดสินใจได้แล้วต่างคนก็เสกคาถาที่ได้ร่ำเรียนมา แม้ว่าจะผิดต่อหญิงทั้งสองคนแต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิด เพราะทั้งคู่ยังอยู่ในวัยหนุ่มขาดการยับยั้งชั่งใจตัวเอง การที่จะได้ครอบครองผู้หญิงสวยสักคนมาเป็นเมียของตัวเอง คนที่มีอำนาจมากกว่าอย่างเช่นพวกเขาก็สามารถที่จะทำได้โดยไม่ต้องยั้งคิด
ชายสองหญิงสองอาศัยอยู่ในถ้ำลืมวันลืมคืนจนหญิงสาวทั้งสองคนตั้งท้อง พรานบุญและพรานมากหลงอยู่ในโลกแห่งโลกีย์จนลืมว่าแม่ของทั้งสองคนกำลังป่วยกระเสาะกระแสะและต้องการได้เงินไปรักษาตัว เมื่อแสงตะวันคลอดลูกแล้วเธอก็มอบลูกให้กับพรานบุญ และมนต์สะกดของพรานบุญที่สะกดหญิงสาวไว้เริ่มเสื่อมลง
นำลูกกลับไปที่แห่งพี่ท่านเถิดข้าจักต้องกลับไปยังเมืองแห่งข้าแล้วพี่ แสงตะวันหายลับไปกับตาของพรานบุญ ทำให้เขานั้นโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก
ส่วนแสงดาวเธอตัดสินใจหลีกลี้หนีหน้าพรานมาก ทำให้พรานมากถึงกับขาดสติเมื่อตื่นขึ้นมาพบกับที่นอนข้างกายที่ว่างเปล่า เขาเดินเปะปะไปทั่วตามหาเมียของตัวเองที่ท้องแก่ใกล้คลอดจนตกลงไปจากปากถ้ำและสิ้นใจลงในไม่ช้า พรานบุญอุ้มลูกกลับไปที่บ้านของตัวเองก็พบว่าแม่ของเขาได้สิ้นใจไปได้หลายเดือนแล้ว จากความคิดที่จะต้องหาเงินมาพาแม่ไปหาหมอ และเขาไม่ได้ทำ ทำให้พรานบุญโศกเศร้าเสียใจเขามีลูกชายคนเดียวที่จะต้องดูแลและเลี้ยงดูให้เติบโตอาศัยนมแพะที่เลี้ยงไว้ให้ลูกดื่มกิน
พรานบุญแบกลูกเข้าออกป่าต้องห้ามเป็นว่าเล่น ปีนป่ายไปบนหน้าผาแต่ก็หาปากถ้ำไม่พบคาถาของเขาเสื่อมลงเพราะเขาได้ทำผิดศีลใช้คาถาในทางมิชอบ เมื่อมียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ มีคาถาดีแต่ผู้ใช้ใช้ไปในทางที่ผิดคาถานั้นก็เสื่อมไปตามกาล
.................
องค์ตามะแนหยั่งรู้ล่วงรู้ล่วงหน้าว่าจักเกิดเหตุกับสองพระพี่เลี้ยง พระนางปล่อยไปตามครรลองแห่งกรรมที่สองพระพี่เลี้ยงจักต้องประสบ จักทำสิ่งใดก็มิได้เพราะพระนางเองได้ตัดสินใจและนับวันรอคอยการปลดปล่อยแห่งดวงดาว สองปีแห่งเมืองมนุษย์ที่แล้วมาพระนางทรงดำรัสให้พระพี่เลี้ยงกระทำการแลกชีวิตด้วยเนื้อแห่งพระวรกายของพระนาง
เด็กคนนั้นเติบโตขึ้นมาท่ามกลางขุนเขา พระนางทรงทอดพระเนตรด้วยทิพญาณแห่งพระนางเอง ใบเงิน หญิงสาวที่มีชีวิตด้วยการชุบชีวิตจากพระนางเติบโตขึ้น พระนางรอคอยวันแห่งการปลดปล่อยและมีตัวตายตัวแทน
เจ้ารู้แล้วใช่หรือไม่ใบเงิน
เพคะพระนาง ใบเงินก้มหมอบแทบพระบาทขององค์ตามะแน
เจ้าจักทำในสิ่งที่ข้าหวังไว้ได้ฤาไม่
เพคะพระนาง
เจ้ายินดีแน่ฤาที่จักเป็นตัวแทนแห่งข้า สุรเสียงนั้นอ่อนโยนราวกับแพรไหมเนื้อนุ่ม
ใบเงินนิ่งเงียบ เธอรับรู้ทุกอย่างจากองค์ตามะแนและเธอรู้แล้วว่าเธอต้องทำอะไร ชีวิตของเธอที่มีอยู่ทุกวันนี้เพราะองค์ตามะแนเป็นผู้มอบให้ กายหยาบของเธอได้มาจากพระนางทรงเฉือนเนื้อและปลุกเธอให้ฟื้นคืนมีชีวิตจากการตายในท้องของแม่
เจ้าจักมีเพลาตรึกตรองอีกมินานนัก จันทร์เพ็ญคราหน้า ดวงดาวจักเรียงรายเป็นเส้นตรง จักเกิดราหูแห่งดาวทั้งเก้าดวงอีกครา นานนับพันปีจักเกิดสักคราเวลาแห่งการรอคอยแห่งข้าจักสิ้นสุดฤาต้องคอยต่อไปขึ้นอยู่กับเจ้าใบเงิน
เพคะพระนาง
ข้ามินำเจ้ามาเป็นบาทบริจาริกาแห่งข้าดอก อย่างไรเสียเจ้ายังเปรียบเป็นธิดาแห่งข้า มารดามิสมสู่กับบุตรฉันใดอันตัวข้ายิ่งมิทำฉันนั้น เจ้าจักรักข้าเยี่ยงข้ารักเจ้าได้ฤาไม่ลูกรัก
เพคะพระนาง
เรียกข้าว่ามารดาเถิดลูกแม่
เพคะพระมารดา
อีกมิกี่เพลาข้าจักมาทวงสัญญา ณ เพลานี้เจ้ามีสิทธิ์เลือกว่าจักทำหรือมิทำ แลหากเจ้าเลือกข้าเจ้าจงปลดปล่อยตนเองจากทุกสิ่งหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง ตั้งจิตเจ้าให้มั่นกาลนั้นมาถึงเจ้าจงกล่าวแก่ข้า
เพคะพระมารดา
ได้เพลาที่ข้าจักต้องไปแล้วใบเงินลูกรัก พระนางตามะแนสะบัดพระองค์ทรงลุกยืนจากแท่นหินที่พระนางประทับอยู่ พระภูษาสะบัดพรายพลิ้ว กลิ่นหอมอ่อนจางๆ จากพระองค์ฟุ้งกระจายไปทั่ว พระพักตร์ยิ้มกระจ่างแลเห็นพระเนตรคลอด้วยพระอัสสุชล
พระมารดาทรงพระกรรแสงหรือเพคะ
ข้าดีใจที่ได้พบเจ้าอีกคราใบเงิน
ใบเงินก้มกราบแทบพระบาทของพระนางตามะแนอีกครั้ง เธอรู้สึกถึงความรักที่องค์ตามะแนทรงพระทานแก่เธอ แม้ไม่เคยกอดไม่เคยหอมแก้มกันเหมือนแม่ลูกทั่วไป แต่ใบเงินก็สัมผัสได้
เป็นพระมหากุรณาธิคุณยิ่งแล้วเพคะพระมารดา
กลับไปเถิดลูกรัก กลับไปสู่โลกแห่งเจ้า ใกล้รุ่งสางแล้วทุกอย่างจักคลี่คลาย องค์ตามะแนทรงลอยจากพื้นขึ้นสู่อากาศและหายไปในพริบตา
ใบเงินหยิกแขนตัวเองเธอไม่ได้ฝันไป องค์ตามะแนผู้เป็นพระมารดาของเธอเสด็จมาจริงๆ เธอเป็นเลือดเนื้อของพระองค์จริงๆ พระพักตร์ของพระองค์นั้นเหมือนกับเธอราวกับแกะ ถ้าเธอไม่ใช่ธิดาของพระนางแล้วเธอจะเป็นอะไร
ในตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเรกะติไม่ใช่น้องแท้ๆ ของเธอ เรกะติเป็นลูกที่เกิดจากพระพี่เลี้ยงแสงดาวและพรานมาก แต่เธอจะบอกเรื่องนี้กับกานแก้วได้อย่างไร หากเธอบอกก้านแก้วต้องหาว่าเธอบ้ากินมากฝันมากจนละเมอเพ้อพก
หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเรกะติต้องได้รับรู้ที่มาที่ไปของตัวเอง และเมื่อวันนั้นมาถึง เธอจะบอกลาทุกคนได้อย่างไรกัน ใบเงินเดินกลับบ้านพักครูที่อยู่ไม่ไกลจากผาเดียวดายด้วยสีหน้าหวั่นวิตกไปตลอดทาง
...............
น้อมใจและเรกะติกลับมาตัดต่อสารคดีที่เมืองไทย เพราะทั้งคู่ต้องส่งสารคดีให้กับต้นสังกัด ในอีกไม่กี่วัน ระหว่างที่สองคนกำลังตัดต่อภาพและเช็คความเรียบร้อยของภาพเหล่านั้นอยู่ สายตาของน้อมใจก็เหลือบไปเห็นมุมเล็กๆ มุมหนึ่งของภาพที่ทางทีมงานถ่ายไว้ได้
ภาพที่เห็นเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งนุ่งผ้าซิ่นลายแปลกตาและคลุมกายด้วยผ้าคลุมไหล่ ทรงผมรวบสูงเกล้ามวยไว้ทางด้านหลัง ส่งรอยยิ้มเยือกเย็นมาให้กับทีมงาน น้อมใจเห็นภาพนั้นถึงกับขนลุก
เดี๋ยวหยุดภาพสิ น้อมใจบอกกับเรกะติที่กำลังตรวจเช็คภาพ
ทำไมคะแม่ภาพไม่ดีเหรอคะ
ไม่ใช่เร เรลองซูมภาพทางซ้ายจอออกมาหน่อยสิ ตรงมุมเหลี่ยมปราสาทแถวๆ บริเวณที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น
ค่ะแม่ เรกะติซูมภาพตามที่น้อมใจบอกกับเธอ
ซูมเข้าไปอีกลูก ตรงข้างๆ ปรางค์ด้านซ้าย นั่นแหละอีกนิดหยุด น้อมใจสั่งให้หยุดภาพ
แล้วย้อนกลับไปสักห้าวิแต่อยู่ในมุมเดิม
ภาพที่ทีมงานเห็นและต้องตกตะลึงขนลุกซู่ก็คือภาพที่น้อมใจได้เห็นก่อนหน้านี้ ภาพของหญิงสาวส่งรอยยิ้มเยือกเย็นมาให้ทางทีมงาน แต่ที่สำคัญบนยอดปรางค์ปราสาทแห่งนั้นไม่มีที่สำหรับยืนมันเป็นพื้นที่ว่างโล่ง อย่าว่าแต่ยืนเลยแค่ปีนขึ้นไปบนนั้นมักก็ยากลำบาก
คนของทีมงานพยายามจะจับภาพจากมุมสูงแบบนั้นแต่ก็ทำไม่ได้เพราะทางทีมงานไม่ได้เอาเครื่องมือหนักหรือลิฟท์เครนไปด้วย เนื่องจากไม่ต้องการที่จะทำให้โบราณสถานที่ตนเองไปถ่ายทำเกิดการกระทบกระเทือนหรือถูกขุดเจาะอะไร
ดังนั้นภาพที่ได้จึงเป็นภาพดิบจริงๆ ที่ ยังไม่ได้รับการตัดต่ออะไร
ใครเล่นตลกอะไรหรือเปล่า น้อมใจเสียงกร้าวเพราะเธอเริ่มไม่นึกสนุกกับการแกล้งกันแบนี้
ไม่มีครับบอสพวกผมยังไม่ได้ทำอะไรกับเทปม้วนนี้เลย
แล้วภาพมันมาได้ยังไงกัน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะมุมภาพนี้มันเป็นมุมภาพที่สำคัญที่สุดขององค์ปรางค์ปราสาท ถ้าไม่มีภาพนี้ก็เท่ากับว่าพวกเราต้องกลับไปถ่ายซ่อมใหม่ แล้วไอ้ภาพนี้ถ้าปล่อยผ่านให้หลุดออกไป เกิดมีใครเห็นเหมือนที่ฉันเห็น ไม่เป็นข่าวใหญ่โตเหรอว่าทีมงานฉันจับภาพนางอัปสรตัวเป็นๆ ได้ ฉันไม่อยากมีชื่อเสียงในเรื่องแปลกๆ แบบนี้นะ น้อมใจโวยวายลั่นห้องตัดต่อ
แม้ว่าน้อมใจจะเป็นคนใจเย็นกับทุกเรื่องแต่สำหรับเรื่องงานน้อมใจไม่เคยไว้หน้าใคร งานของเธอต้องออกมาดีและดีที่สุด
แม่คะใจเย็นๆ สิคะแม่คงไม่มีใครกล้าแกล้งพวกเราหรอกคะ เรกะติพยายามทำให้น้อมใจลดความร้อนแรงทางอารมณ์ของเธอลงอีกนิด
จะให้เย็นได้ไงเร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ งานทั้งงานมันพังเพราะไอ้ภาพนี้
แต่ไม่มีใครแตะต้องเทปม้วนนี้เลยนะครับนาย นิพนธ์พยายามจะอธิบายว่าไม่มีใครมาทำอะไรกับเทปม้วนนี้เพราะทุกคนก็เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางกลับมาถึงเมืองไทยก็แยกย้ายกันพักผ่อนคงไม่มีใครกล้าหาญที่จะมากลั่นแกล้งทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้
ไม่มีใครแตะแล้วมันมีภาพแบบนี้ออกมาได้ไง
แม่คะแม่ใจเย็นๆ แม่ลองดูสิค่ะว่าผู้หญิงในภาพหน้าตาเหมือนใคร เรกะติตั้งสติได้เธอจ้องมองไปยังภาพนั้น แม้ว่าเมื่อซูมเข้าไปชัดๆ แล้วภาพจะแตกเป็นจุดๆ บ้างแต่เค้าความงามของคนในภาพบอกให้รู้ว่าใบหน้าในภาพนั้นมันเหมือนกับใบเงิน
ใบเงิน ใช่เรใบเงินจริงๆ ด้วย เรไหนลองหาภาพที่ลูกถ่ายนางที่ขี่กวางออกมาสิ จากนั้นทีมงานก็ระดมกันหาภาพของนางฟ้าที่ขี่กวางจากอีกปราสาทขึ้นมา
ลอง Crop เอามาเทียบกันสิ
นิพนธ์จัดการทำการตัดต่อภาพให้กับเจ้านายผู้เอาแต่ใจของเขา เมื่อจัดการเอาภาพสองภาพมาวางเคียงกัน นิพนธ์ก็ตื่นตาตื่นใจกับภาพที่ได้เห็น
เรลูกมีภาพของหนูใบเงินถ่ายติดไว้บ้างหรือเปล่า
มีค่ะแม่
งั้นเอามาให้นิพนธ์เดี๋ยวนี้ น้อมใจสั่งลูกสาวของเธอทันทีเธอต้องการที่จะรู้ว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นมันคืออะไรพิสูจณ์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์หรือไม่เธอไม่เคยเชื่อเรื่องไศยศาสตร์อะไรทั้งสิ้น โลกพัฒนามาจนถึงศตวรรษที่ยี่สิกว่าๆ แล้ว จะให้หันหลังกลับไปเชื่อเรื่องงมงายอีกคนอย่างน้อมใจทำไม่ได้อย่างแน่นอน
เรกะติหยิบม้วนเทปที่เธอแอบถ่ายใบเงินตอนสอนหนังสือก่อนที่เธอจะเดินทางไปป่าต้องห้ามออกมายื่นให้กับนิพนธ์ เธอไม่คิดว่าจะมีใครสนใจที่จะดู เพราะเธอแอบถ่ายทุกอริยาบถของใบเงินเก็บไว้ดูเอง มันออกจะดูแปลกและละลายละล้วง แต่เธอชอบที่จะได้เห็นใบเงิน เพราะเธอรู้สึกว่าทุกท่วงท่าทุกการกระทำของใบเงินนั้นน่ามองน่าประทับเก็บไว้ในความทรงจำ
นี่ค่ะคุณนิพนธ์ เรกะติยื่นเทปให้กับนิพนธ์เพื่อทำตามคำสั่งของน้อมใจ
คุณนิพนธ์หาท่าทางหรือการผินใบหน้าของหนูใบเงินให้เหมือนกับรูปทั้งสองรูป แล้วเอามาเปรียบเทียบกัน น้อมใจสั่งอีกครั้ง
นิพนธ์จักการทำตามคำสั่งของนายเขาเลือกรูปของใบเงินที่เกือบๆ จะคล้ายรูปของผู้หญิงประหลาดและนางฟ้าขี่กวางมาจัดเรียงไว้ในหน้าเดียวกัน เมื่อได้เห็นทีมงานทั้งหมดก็ต้องตะลึงครั้งที่เท่าไหร่ไม่มีใครนับ
ผู้หญิงลึกลับนางฟ้าขี่กวางและใบเงินเหมือนกันราวกับฝาแฝด เพียงแต่ใบเงินนั้นมีใบหน้าที่เรียวและผอมกว่าคางยาวกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
น่าประหลาดมากๆ น้อมใจครางออกมา
เรติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์เขมรให้แม่ด่วนเลยลูกแม่อยากรู้ว่ารูปนางฟ้ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังมาจากไหน
ค่ะแม่เดี๋ยวเรจะจัดการให้
ขอด่วนและด่วนที่สุดนะลูกแม่จะตีแผ่เรื่องนี้ถ้ามันมีมูลความจริง
เรกะติเองก็อยากรู้เรื่องราวต่างๆ ไม่ต่างจากน้อมใจเช่นกันเธอต้องการจะรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ๆ ก็โผล่มาที่ข้างๆ ปรางค์ปราสาท และมีใบหน้าละม้ายกับใบเงินคนนั้นเป็นใครเช่นกัน อาการร้อนรนของเรกะติแสดงออกให้น้อมใจเห็นได้อย่างชัดเจน น้อมใจเข้าใจลูกที่เธอเลี้ยงมากับมือหากเรกะติยังมีสิ่งที่ค้างคาใจก็จะไม่มีวันยอมลามือ น้อมใจเองก็เช่นกัน
สองแม่ลูกครุ่นคิดและกังวลกับเรื่องที่พวกเธอประสบมันไม่ใช่ผีสาง แต่เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็ไม่อยากจะลบหลู่ น้อมใจและเรกะติรู้ดี สิ่งที่เธอจะขุดคุ้ยต่อไปนี้อาจนำมาซึ่งการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตก็เป็นได้
... จบบทที่ ๘
Create Date : 28 สิงหาคม 2551
Last Update : 28 สิงหาคม 2551 10:43:57 น.
6 comments
Counter : 280 Pageviews.
Share
Tweet
เขียนดีค่ะ แน่ใจหรือว่าคุณไม่ใช่เข้าวัดวา
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เลย ถ้าลงเร็วกว่านี้คงเข้าสมัยกันน่าดู
รออ่านตอนต่อไปนะคะ ว่าเรจะทำยังไงถ้ารู้ความจริง ว่าใบเงินจะต้องไปอยู่ ณ อีกดินแดนหนึ่ง ที่ตนไม่สามารถติดต่อได้ นอกเสียจาก...... (คิดคนเดียวดีกว่า)
โดย: ต้นรัง IP: 118.172.167.128 วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:11:33:50 น.
ขยันจังน๊า
สู้ๆ
โดย:
พลังชีวิต
วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:11:54:51 น.
กำลังเช้มข้นเลยว่าไหม๊ค่ะคุณทั้งสอง
โดย: หมอก IP: 124.121.67.56 วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:13:35:10 น.
คุณหมอก คุณเชียร์ให้คุณผิงดาวเขาเขียนให้จบแบบไหนค่ะ ระหว่าง
1. มีความท้วนหน้า หม่อมแม่ตามะแนได้ไปเกิดที่ชอบๆ แม่หญิงใบเงินได้ครองรักกับน้องหญิงเรกะติกในดินแดนไร้กาลเวลา หรือ
2. พี่ใบเงินต้องอยู่ดินแดนลึกลับเพียงลำพัง เรกะติกนั่งร้องให้ที่ผาเดียวดาย ลำพัง หรือ
3. พี่ใบเงินเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ก้าน น้องเรฟัง แล้วตัดสินใจไม่ไปดินแดนลึกลับนั่น ให้หม่อมแม่อยู่ค้างฟ้าต่อไป
ขำๆ นะคุณผิงดาว อย่าถือกันนา
โดย: ต้นรัง IP: 118.172.167.214 วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:21:37:59 น.
เอ่อ พิมพ์หล่น แถมผิด
ข้อ 1. มีความสุขถ้วนหน้า
555
ขำความคิดตัวเองอ่ะ
แต่ขอจบสวยๆ นะคะ
โดย: ต้นรัง IP: 118.172.167.214 วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:21:41:26 น.
555555555555
ขำๆ ค่ะ ไม่เครียด หรอกคุณต้นรังขา
อะลองโหวดคะ แต่จะบอกว่าฉันเขียนจบแล้ว แต่ ยังไม่ได้ เกลา เท่านั้นเอง เพราะหากโพสไป ก็ต้องแก้ไขอยู่ดี ถ้าจะตามไปดู ที่แก้ไข นิดๆ หน่อยๆ เพิ่มเติมบางตอนติดตามได้ที่เด็กดีนะคะคุณต้นรัง
ฉันเขียนไว้ เหมือนๆ จะเอาข้อ1+2+3 เลยนะรนี่ เห่อๆๆ
ขอดูโหวดหน่อยแล้วกันคะ เพราะยังไม่ได้โพส แก้ไขได้อีกเรื่อยๆ
จริงปะ จ๊ะ
โดย:
รันหณ์
วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:22:40:40 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน
คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา
เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
ปิงฟ้าวิลันดา
ฟ้าพิงดาว
ดวงตะวัน
วินทร์ เลียววาริณ
ชุมนุมคนรักเพชรพระอุมา
วรรณวรรธน์
ประภัสสร เสวิกุล
คีตาญชลี
น้องหัวฟู
น้องนิค
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เลย ถ้าลงเร็วกว่านี้คงเข้าสมัยกันน่าดู
รออ่านตอนต่อไปนะคะ ว่าเรจะทำยังไงถ้ารู้ความจริง ว่าใบเงินจะต้องไปอยู่ ณ อีกดินแดนหนึ่ง ที่ตนไม่สามารถติดต่อได้ นอกเสียจาก...... (คิดคนเดียวดีกว่า)