Group Blog
 
All Blogs
 

ขอโทษทีบางวันหลวม = เลยทำให้หลุดๆ

วันนี้เก็บกด ขออัพblog สัก3 อันรวดเลยก็แล้วกัน ใกล้สอบแล้ว ขอระบายความเครียดหน่อย(ความเครียดจริงๆนะ ไม่ใช่อย่างอื่น...)
คุณเคยบ้างไหม ที่จะหลุดอะไรบางอย่าง ที่ไม่อยากหลุดหรอก มันไม่ใช่ตัวตนแท้ๆของคุณ แต่ก็หลุดมันออกมา ด้านที่มันร้ายๆน่ะ อย่าง ครั้งนึง เมื่อไม่นานมานี้ สองสามวันก่อน ผมรู้สึกแย่จนบัดนี้คือ เพื่อนวัยดึก(สงัด)ของผมโทรมาหา แต่ผมกลับตวาดเขา ไปคำนึง ด้วยน้ำเสียงที่แย่มาก รุ่งเช้าเขาก็ยังมาขอโทษผมอีกแน่ะ ว่าต่อไปนี้จะไม่โทรมาถ้าไม่มีเรื่องไม่จำเป็น ผมก็กังวลเลย พยายามขอโทษเขาแค่ไหนเขาก็บอกว่าไม่เป็นไรๆ แต่ในใจผมก็เดาๆได้ว่า มันคงไม่เหมือนเดิมอีกแล้วหละน่ะ เพราะมันไม่โทรหาผมเลย เนี่ย วันนี้มันก็ไม่โทร มันคงโกรธผมจนไม่อยากคบเป็นเพื่อนแล้วมั้ง กำลังจะบอกว่าผมเป็นคนแคร์สังคมมาก มากคนนึง กลัวมันจะโกรธ ไม่พอใจ แต่ก็ไม่พูดออกมา ตอนนั้นผมก็คิดด่าตัวเองนะ ว่าเค้าเป็นใคร เค้าเป็นผู้ใหญ่กว่า meung ตั้งเยอะ แต่ทำไม meung ทำกะเค้าแบบนั้น ไปพูดน้ำเสียงไม่ดีๆแบบนั้นกะเขา ทำได้ไงน่ะ
แล้วยังมีอีกครั้งนึง เพื่อนผมทางเนทโทรมาหา บอกว่าให้ช่วยพาเที่ยวมหาลัยหน่อย อยากมาออกกำลังกาย แต่ผมตอนนั้นง่วงๆอยากกัลป์บ้านไปนอน แถมโทรมาตอนผมกำลังจะกลับบ้าน ผมก้เลยพูดน้ำเสียงไม่ดีไปว่า อย่าเพิ่งมา เพิ่งมารู้ทีหลังว่าน้ำเสียง มันไม่ดีมาก กระโชกโฮกฮาก
ยังไง ผมก็ขอโทษคนทั้งสองคนที่ผมทำไม่ดีด้วยก็แล้วกัน ขอโทษจริงๆ นึกเสียว่าผมไม่ได้พูดก็แล้วกันหรือไม่ ก็คิดซะว่า อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา ยิ่งช่วงๆนี้กังวลเรื่องสอบอยู่ ผมน่ะ ชอบให้มีคนโทรมาหาผมนะ มันจะรู้สึกอบอุ่นใจดี




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2548    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2548 11:05:57 น.
Counter : 318 Pageviews.  

ผมเป็นนักอะไรกันแน่ 1

ที่ตั้งคำถามขึ้นมาแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอก แค่ยังหาจุดยืนไม่ได้น่ะ พวกผู้ใหญ่เค้าชอบเรียกวัยแบบผมว่าวัยแสวงหาตัวเอง ว่าอยากจะเป็นอะไรกันแน่ บางคนคิดออกตั้งแต่อยู่ประถม มัธยม สายหน่อยก็คิดออกตอนเรียนมหาลัยปีหนึ่ง ก็เลยต้องวิ่งรอกเรียนเป็นที่น่าเหน็ดเหนื่อย(ดีนะ แค่เดินข้ามวัดมหาธาตุไปๆมาๆ ไม่เหนื่อยอะไรมากมายนัก) นั่นนับว่าเป็นความโชคดี ที่หาตัวเองที่ชัดเจนแน่นอนเจอตั้งแต่อายุยังน้อยๆ
ถ้าจะตั้งคำถามแบบเด็กๆถามผมตอนอายุใกล้บรรลุนิติภาวะ ว่าอยากเป็นอะไรกันแน่ ผมคงต้องตอบ แบบ 50/50 ว่าอยากเป็นมันทั้งสองอย่าง คือ นักนิติศาสตร์ กับนักมานุษยวิทยา(นี่เรียนไม่จบ กล้าอาจหาญ เรียกตัวเองว่า “นัก” เชียวนะ) มันชั่งใจไม่ถูกระหว่างสองอย่างนี้ มันก็มีเสน่ห์เอกลักษณ์ในตัวของมัน นิติศาสตร์ก็เป็นวิชาที่ชื่นชอบ มีคนบอกว่าผมเป็นคนหัวกฎหมาย เจ้าเล่ห์ๆ ชอบวางแผน (เอ๊ะ ชมหรือด่า) และชอบอ่านหนังสือ ช่างจดช่างจำ แต่ข้อเสียของวิชาชีพนี้คือค่อนข้างน่าเบื่อ วนเวียนจำกัดอยู่ในกรอบที่พวกเขาสร้างขึ้นมากันเอง แต่มานุษยวิทยา จะมาทดแทนตรงนี้ได้เหมาะเหม็ง ใครบอกว่าเป็นนักวิจัยน่าเบื่อ ผมเถียงขาดใจ มันเป็นวิชาที่น่าสนุก ตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ซึ่งแน่นอน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยากรู้อยากเห็น
บางที ผมเรียนจบไป อาจจะไปเรียนกฎหมาย แล้วเอาดีทางอาชีพนั้นไปเลยก็ได้ แต่ก็เสียดายมานุษยวิทยาเหมือนกัน อุตส่าห์ร่ำเรียนมาตั้งมากตั้งมาย ทิ้งขว้างกันง่ายๆได้ไง
จบแระครับ ขอบคุณที่อุตส่าห์มานั่งอ่านสิ่งที่เด็กคนหนึ่งเขียน ไว้วันหลังจะมาพล่ามอะไรให้ฟังใหม่ อ้อ! ถ้าบังเอิญมีนักมานุษยวิทยาพลัดหลงเข้ามาในนี้ก็ช่วย comment หน่อยแล้วกัน 5555




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2548    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2548 10:29:43 น.
Counter : 180 Pageviews.  


แจ้น
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add แจ้น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.