การเดินทางต่อไป คงจะต้องเดินคนเดียวแล้วสิเรา....รอวันเธอกลับมาเดินอยู่ร่วมกันในอนาคตนะ I love you...
 
Australia First Trip : Day 1 BKK-SIN-SYD

และแล้ว วันสำคัญก็ได้มาถึง

7 April 2012 : BKK-SIN by SQ0979 ..... and transit at Changhi Airport SIN-SYD by SQ231 (Airbus A380)

ตื่นเต้นเหมือนกันนะ ที่ต้องเดินทางคนเดียว ไม่ใช่การไปต่างประเทศครั้งแรก แต่ไปทุกครั้ง มีคนไปด้วยตลอด แต่ครั้งนี้ ดิฉันต้องบินเดี่ยวคร้า แถมยังกล้าที่จะไปเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์อีกอ่ะ ช่างกล้า แทนที่จะไปการบินไทย 555

วันนั้น ก็รีบไปสนามบินแต่หัววัน เนื่องจากของที่ต้องโหลดไป มีคนฝากไปเยอะ น้ำหนักท่าจะเกิน ก็เลยไปเร็ว ๆๆ เพื่อจะได้โหลดของคนแรก ๆ แต่ด้วยความที่เจ้าหน้าที่เช็คอินเป็นคนของการบินไทย ก็เลยปล่อยน้ำหนักให้เกินมั้ง จริงๆ ระบุไว้แค่ 20KG แต่สองกระเป๋า กะหนึ่งถุงใหญ่(ผ้านวม) ปาไปเกือบ 30KG

อ่ะด่านแรกเรื่องน้ำหนักผ่านไป

ก็ร่ำลากะบรรดามิตรรักแฟนเพลง ที่มาส่ง และก็เดินเข้าเกทดีกว่า รอขึ้นเครื่องตามระเบียบ ระหว่างนั้น ก็เดินเช็คราคาสินค้าที่ duty free ซึ่งดูๆๆ แล้ว แพงเนอะ รู้สึกว่าจะแพงกว่าเดิม

พอเกทเปิด ก็มารอขึ้นเครื่องเลย นั่งลำเล็ก ไปต่อลำใหญ่ มาดูกันสิ ว่าลำเล็ก จะมีจอทีวีมั้ย มีไรรองท้องระหว่างไปสิงคโปร์น้า





จอเล็กนะคะ สำหรับเครื่องโบอิ้งธรรมดา ส่วนอาหาร ข้าวไก่อบนะ ก็พอกินได้ แต่ที่อร่อย จะเป็นสลัดแฮมที่แนบมาด้วย อร่อยดี

กินอิ่ม ก็ถ่ายรูปเล่นซะหน่อย ถ่ายเองก็ได้ หน้าเลยบานแบบนี้เลย 5555



หลังอิ่มท้องผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เครื่องก็ landing ที่สนามบินชางกี เรียบร้อย คราวนี้ก็ต้องมาผ่านอีกด่าน คือ เดินหาเกทที่ต่อเครื่อง

ก่อนลงเครื่องไม่ลืมปรับเวลาให้ตรงกับเวลาท้องถิ่น ไม่งั้นผลัดหลงเวลาแย่เลย

ออกจากประตูเครื่อง ก็เดินหา Skytrain เปลี่ยน Terminal เพื่อที่จะไปเกท B2 เดินๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ยังไม่วาย ขอแชะรูปหน่อย




เจอเกทแล้ว รอเวลา มีเวลาเดินเล่นประมาณชั่วโมงกว่าๆๆ ทำธุระส่วนตัว และเดินดูของ ราคาน้ำหอมกะเครื่องสำอางที่สิงคโปร์ ถูกกว่า duty free บ้านเรานะ เมื่อก่อนบ้านเราถูกกว่า ไฉน เปลี่ยนไปอ่ะ

และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง Airbus A380 คนเยอะเหมือนกันแฮะ ไม่มีคนไทยเลยเหรอคะ ไฟล์ทเนี่ย ดูเหมือนจะต่างชาติหมดเลย ใครจะนั่งข้างฉันล่ะเนี่ย สู้โว้ย



รูปไม่ค่อยชัดเท่าไร รูปเครื่องบิน

เนื่องจากขึ้นไปคนเยอะ เลยไม่ได้ถ่ายภาพรวมไว้มาก มาดูจอทีวี และอาหารเลยเนอะ ขึ้นเครื่องไปมันจะตีหนึ่งแล้ว ดังนั้น มื้อแรกบนเครื่องเลยเป็นแค่ของว่าง อารมณ์ประมาณพายไก่อ่ะ หรือคิบับไก่ เนี่ยแหละ แต่มีช้อคโกแลตด้วย



หลังจากทานของว่าง ก็ดูหนังสักพัก ของีบหน่อยนึงนะ
อ้อ !!! ลืมเล่าค่ะ คนนั่งข้างๆๆ เป็นสองสามีภรรยา ชาวเขมร ไปหาคุณหมอถึงซิดนีย์คร้า ก็ดี แกเปิดหนังไม่เป็น ก็สอนเปิด พูดภาษาอังกฤษปนภาษาใบ้ กะแก เพราะแกก็งง ๆๆๆ ภาษาอังกฤษ เหมือนกัน

หลังจากงีบไปประมาณสามชั่วโมง ก็ตื่นมา สักพัก ทางแอร์ก็เตรียมเสริ์ฟ อาหารเช้า (เค้าจะเสริฟก่อนเครื่องลงประมาณสองชั่วโมง) มาดูกันว่าอาหารเช้าเป็นอะไร



มันคือ ออมเล็ทจ้า อร่อยดี

สักพักก็ถึงซิดนีย์แล้ว ไหนดูบรรยากาศนอกเครื่องหน่อยสิ อัยย่ะ ฝนตกฮะพี่น้อง



สักพักเครื่องก็ landing @Kingford Smith International Airport

ใจเต้นแรงๆๆๆ เพราะอ่านเรื่องตม.มาเยอะ ไม่กล้าถ่ายรูปหรือทำไรเลย กลัวตม.ถามเยอะ

ไม่มีคนเลย ลงไฟล์ทเวลานี้ (1020)
เลือกตม.ได้เลย เอาคุณผู้หญิงอ้วนคนนี้ดีกว่า ดูใจดี และใจดีจริงๆๆๆ ไม่ถามไรเลย แสตมป์ให้เลยอ่ะ กรี๊ดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

มาอีกด่าน ตอนรอเอากระเป๋า ก็พยายามดูว่ามีคนไทยมากะเราบ้างมั้ยน้า อ่ะมีกลุ่มนึง ประมาณห้าหกคนได้ สักพักมีเจ้าหน้าที่เดินตามหาคนไทย เค้ามาถามคนข้างๆ เราว่าคนไทยมั้ย (คนข้างๆ เป็นจีน) เราเลยเสนอตัวบอก เราไทย เค้าก็ถามชื่อไร ดูพาสปอร์ต มาทำไร (มาเทรนกับสนง.ใหญ่) เค้าก็ถามมาคนเดียวเหรอ (ใช่มาคนเดียว) แล้วมันก็บอกว่าไม่มีไร งง งง
ก็รอเอากระเป๋าต่อ สักพักมีมาอีกคน เป็นออสซี่ มาเลย มาถามว่า มาจากไหน (ไทยสิ) พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย (ได้นิดหน่อย) มีของต้องสำแดงตามข้อดังกล่าวในใบตม.มั้ย (ไม่มีเลย) โอเค คุณออกช่องนั้นเลยนะ (ช่องที่ตรวจใบตม.แล้ว) เย้ เย้ ผ่านฉลุย

พอออกมา ก็เจอน้องสาวที่น่ารัก มารอรับอยู่ พร้อมคุณแฟนของน้อง
การไปครั้งนี้ ไปดูงาน และไปพักบ้านลูกชายเจ้านาย ที่ Marrick Ville อยู่นอกเมืองซิดนีย์นิดนึง ซึ่งมีเด็กน้อยถึงสองคนด้วยกัน (คิดในใจ คงจะวุ่นวายดีแท้ สิบกว่าวันนี้ของฉัน)

พอไปถึงบ้านลูกชายเจ้านาย ภรรยาเจ้านาย ซึ่งบินไปก่อนเราสองเดือน รอรับอยู่แล้ว แต่ยังอยู่ในชุดแม่บ้าน เราก็ไม่ได้เพลียอะไรมาก น้องสาวที่น่ารัก เห็นเราไม่เพลียมาก และดูท่าทางจะเซง ถ้าเราอยู่บ้าน จึงชวนเราออกไปเที่ยวต่อ เราก็โอเคเลย อาบน้ำ แล้วไปเที่ยวต่อ (ถึงฝนจะตกปรอยๆๆ ก็ตาม)

มาดูรถไฟบ้านเค้ากัน มีรูปรถใหม่ และรถเก่านะ



เพื่อจะได้ศึกษาเส้นทางด้วย เราไปในเมืองด้วย รถไฟกัน

น้องๆๆ ก็ตัดสินใจพาคุณพี่ ไปเที่ยว Manly Beach ดีกว่า แต่ไปที่พักของน้องเพื่อเก็บของก่อนนะ ก็เลยได้นั่งรถไฟ ไปลง Museum Station ใกล้ๆ ไทยทาวน์ ก็ได้เห็นในเมืองแล้ว


ไปขึ้นเรือกัน เพื่อข้ามไป Manly Beach ไปที่ Circular Quay จะมีท่าเทียบเรือเยอะแยะไปหมด เราไปขึ้นที่ Wharf 5 Manly


คนเยอะอยู่นะ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดอีสเทอร์ของเค้า

ระหว่างนั่งเรือไป ก็ถ่ายภาพบ้าง แต่ไม่ค่อยสวย เนืองจากฝนตกอ่ะ



ประมาณ 1 hrs. ก็ถึงแล้ว พอถึงน้องหิวข้าว เลยพาเราทานอาหารไทยมื้อแรกที่ไปถึงที่ Manly

ร้านชาติไทย โด่งดังมากๆๆที่ซิดนีย์


แชะรูปซะหน่อย เดี๋ยวจะมาไม่ถึง



จริงๆ มีอีกสองอย่าง แต่ไม่ได้ถ่าย อาหารจานเดียว จานใหญ่ จะตกอยู่ประมาณ AUD$11 ต่อจาน ซึ่งแพงมากถ้าคูณเป็นเงินบาท ดังนั้น ห้ามคูณค่ะ ถ้าคุณอยู่ที่นั่น ไม่งั้นจะกินอะไรไม่ลงสักอย่างเลย

มื้อนี้ ก็ได้รับอภินันทนาการจากน้องสาวที่น่ารัก


หลังจากอิ่ม ก็เดินไปชายหาดกัน ระหว่างทางเดินไป เราก็นึกๆๆ อยู่ว่าเอ้มันเหมือนชะอำ หรือพัทยา หรือภูเก็ตบ้านเรานะเนี่ย มีของขาย มีถนนกั้นระหว่างร้านค้า กะชายหาด แต่ที่นี่คือ ออสเตรเลีย



มาดูชายหาดกันบ้างน้า



ปิดท้าย blog นี้ ด้วยภาพนี้ แล้วกัน นกนางนวลขาแดง เยอะมากที่ชายหาด ขอเจ้าของ blog วิ่งไล่มันหน่อยนะ



แค่วันแรก ก็ยาวเลย อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ ยังไงถ้ามีเวลาจะมาอัพวันต่อๆ ไปให้ชมกันต่อคร้า




Create Date : 04 มิถุนายน 2555
Last Update : 4 มิถุนายน 2555 13:28:28 น. 0 comments
Counter : 1326 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

pieberry
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนคนหนึ่ง ที่มีรักให้กับเค้าคนนั้น ไปเต็มที่ และไม่คิด ไม่เคยจะมีที่ว่างในหัวใจให้กับใครอีกเลย

นอกจากเธอเท่านั้น norparahcav
[Add pieberry's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com