Group Blog
 
All blogs
 
แอลฟ่าคลอดแล้วจ้า

หลังจากที่ลุ้นอยู่นานว่าจะคลอดแอลฟ่าเมื่อไหร่ ในที่สุดก็มีวันนี้จนได้จ๊ะลูกจ๋า ตอน 3 ทุ่มวันเสาร์ที่ 3 ก.ค.53 แม่เริ่มมีมูกขาวใสออกมา แม่ก็เล่าให้พ่อฟังคิดว่าจะคลอดหรือเปล่าแต่ไม่เห็นมีน้ำอะไรออกมาเลย ก็เลยถามเบอร์โทรหมอพัชรดาซึ่งเป็นคนที่ป้าเม้งฝากให้ดูแลแม่แทนป้าเม้งตอนป้าเม้งไปเยอรมัน แต่แม่ก็ไม่ได้โทรไปถามหรอก พ่อก็บอกว่าลองโทรก่อนว่าอาการแบบนี้ใกล้คลอดหรือเปล่า แม่ก็คิดว่าคงไม่หรอกมั้ง ซึ่งวันนี้หมออยู่ที่ กทม. จะกลับมาก็วันอาทิตย์ตอนเย็นๆ เราเองก็นอนใจคงไม่คลอดพรุ่งนี้หรอก ลูกสาวแม่คงรอคลอดกับป้าเม้งแน่เลย ถ้าโทรไปอาจารย์เค้าอาจบินมาเที่ยวเช้าก็ได้ งั้นก็คงมาทำคลอดแอลฟ่าแน่เลยค่ะ

สัญญาณเตือนเริ่มมาแว้ว
ตอนประมาณเที่ยงคืนครึ่งลุกขึ้นไปห้องน้ำมีความรู้สึกว่ามันแฉะๆ ที่กางเกงชั้นในมีมูกออกมาอีกแล้วแถมมีน้ำใสๆ ออกมาอีกด้วยแต่ไม่เยอะแฮะ ไปนอนต่อดีกว่า นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ ตอนตีหนึ่งลุกไปเข้าห้องน้ำอีก มีน้ำออกมาอีกแล้วแต่ก็ไม่เยอะเหมือนเดิมเลยโทรไปถามพยาบาลที่ห้องคลอดเล่าอาการให้ฟัง ไม่มีท้องแข็ง แบบว่ามีนิดหน่อยไม่สม่ำเสมอนานๆ มาที พยาบาลก็บอกว่ายังไม่ต้องมาก็ได้ถ้าท้องแข็งุถี่ๆ ทุกๆ 10 นาที หรือ 5 นาทีแล้วค่อยมา เอาวะไปนอนต่อดีกว่าก็หลับๆ ตื่นๆ ตอนตี 3 ลุกไปเข้าห้องน้ำอีกล่ะ ปรากฎว่ามีเลือดออกมาด้วยนิดนึงสีไม่เข้มจางๆ ก็เลยโทรไปเล่าอาการให้พยาบาลฟัง พยาบาลก็ถามเหมือนเดิมว่าปวดท้องหรือท้องแข็งหรือ คำตอบก็เหมือนเดิม งั้นตอนเช้าค่อยมายื่นบัตรพบหมอเรื่องเลือดที่ออก งั้นก็ไปนอนต่อบอกพ่อหนูนิดหน่อยเล่าถึงอาการที่มี ตื่นนอนมาตอนประมาณ 6 โมงเช้าของวันที่ 4 ก.ค. 53 มีเลือดออกมาอีกสีก็ไม่เข้มเหมือนเดิมมีน้ำใสๆ ออกมาอีกนิดหน่อย ในใจก็นึกว่าไม่เป็นไรคงไม่มีอะไรหรอก ที่แย่คือต้องไปเจอกับหมอผู้ชายนี่สิประมาณว่าอายอ่ะนะ แต่ถ้าจะคลอดวันนี้ก็พอทำใจได้อยู่คงจะเป็นเวรหมอโอ๊คแน่เลยเพราะหมอเค้าจะเปลี่ยนเวรกันตอน 8.30 น. อาบน้ำแต่งตัวด้วยความใจเย็นเก็บกระเป๋าที่เตรียมไว้แล้วเผื่อจะคลอดวันนี้ ก็ยังคิดว่าคงจะไม่คลอดหรอกเพราะไม่มีอาการอะไรเลย ไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 8 โมงเช้าไปที่ห้องคลอด ก็เล่าอาการให้พยาบาลฟัง พยาบาลก็ให้ติดเครื่องฟังหัวใจเด็กและดูการบีบตัวของมดลูก ปรากฏว่าแอลฟ่าหัวใจเต้นดีแต่แม่ไม่มีคอนแทคเลยค่ะ แบบว่าไม่สม่ำเสมอเลย พยาบาลโทรถามหมอเวรก็คือหมอโอ๊ค แล้วพยาบาลก็บอกว่าหมอผู้หญิงไม่มีใครอยู่เลย ก็เลยถามไปว่าหมอชินาอยู่ป่ะ คลอดกับหมอชินาก็ได้ ไม่ใช่ว่าหมอโอ๊คไม่ดีนะคะ แต่ประมาณว่าฉันอยากคลอดกับหมอผู้หญิงเท่านั้นฉันอาย พอหมอโอ๊คมาถึงก็บอกว่าผมโทรเช็คให้แล้วทั้ง รพ.มีหมอสูติอยุ่ 2 คนซึ่งเป็นผู้ชายทั้งคู่ ตายล่ะสิไม่มีทางเลือกก็เลยบอกหมอไปว่าไม่เป็นไรค่ะคลอดกับหมอก็ได้อย่างน้อยก็รู้จักกันหมอเค้าดูแลดีมั่กๆ อยู่แล้ว หมอก็เลยขอตรวจปากมดลูกและขอดูว่าน้ำที่ออกมาเป็นน้ำเดินหรือจริงหรือเปล่า พอตรวจเสร็จหมอบอกว่าปากมดลูกเปิด 3 ซม.แล้วและน้ำที่ออกมาเป็นน้ำเดินจริงๆ อ่ะ 3 ซม.ไหงไม่ปวดเลยก็ไม่รู้ หมอบอกว่าน่าจะคลอดไม่เกินบ่าย 2 โมง โอ้วเอาจริงหรอเนี่ย ก็ถามหมอไปว่าจะคลอดเองได้หรือเปล่าเพราะรกเกาะต่ำ หมอก็เลยจัดการอัลตร้าซาวน์ดูให้บอกว่ารกไม่ได้ปิดปากมดลูกคลอดเองได้แน่นอน โล่งอกไปที แอลฟ่าก็ตัวเล็กน้ำหนักน่าจะประมาณ 2800 กรัมได้ ให้ไปนอนรอคลอดแล้วก็จะให้ยาแก้ปวดด้วยจะได้ไม่ปวดมาก แล้วก็บอกว่าถ้าคลอดภายใน 4 ชม.หลังให้ยาจะมีผลไปกดการหายใจของแอลฟ่า เอาก็เอาว่ะจะได้ไม่ปวดมาก จากนั้นคุณพยาบาลก็จัดการบวชให้เรียบร้อยเสียวน่าดูเชียวจะบาดฉันมั้ยเนี่ยจั๊กกะจี๋พิลึก จากนั้นก็ไปนอนรอที่ห้องรอคลอดคุณหมออนุญาตให้พ่อจ๋าเข้ามาคุยกับแม่ได้พ่อก็แอบยิ้มๆ ว่าจะคลอดแล้ว ก็เลยบอกให้ไปจัดการเรื่องจองห้องพักผู้ป่วยและก็อะไรอีกต่างๆ นานา แล้วพ่อก็บอกว่าตอนบ่ายสองโมงจะมาใหม่ แหมจริงๆ เลยไม่คิดจะมาเป็นกำลังใจให้กันเลยนะเนี่ย ตอน 10.30 น.เริ่มมีอาการท้องแข็งแต่ก็ยังไม่ถี่แบบสม่ำเสมอนานๆ มาที 11.00 น. ก็เริ่มปวดท้องแล้วล่ะสิ เริ่มสัมผัสได้ว่าปวดแต่ก็ยังพอทนได้ หมอเข้ามาเจาะถุงน้ำให้บอกว่าไม่เจ็บพอเจาะออกมาบอกว่าน้องถ่ายขี้เทาแล้วแต่ไม่มากยังพอรับได้หมอบอกว่าถ้าถ่ายเยอะจะผ่าให้ทันที พยาบาลก็เปลี่ยนหน้ากันมาจับท้องเรื่อยๆ และสั่งยาแก้ปวดและยาเร่งคลอดให้ ตอน 12.00 น. พอฉีดยาเข้าไปรู้สึกว่าความเจ็บปวดที่มีมันลดน้อยถอยลงรู้สึกดีขึ้นมากๆ กลับกลายเป็นอยากจะนอนแทน สักพักตอนบ่ายโมงกว่าคลื่นแห่งความเจ็บปวดมันถาโถมเข้าใส่ ยาระงับปวดก็เอาไม่อยู่เริ่มปวดมากขึ้นเริ่มมีซี๊ดปาก โอ๊ยปวดอ่ะ ปวดมาก หมอก็เข้ามาตรวจภายในบอกว่าปากมดลูกเปิด 9 ซม.แล้ว หมอก็ดีมั่กๆ มาช่วยนวดหลังให้อีก นวดอยู่นานเหมือนกันอารมณ์ตอนนั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะขอให้ฉันหายปวดทีเถอะ ในใจก็นึกว่าเมื่อไหร่จะชวนเบ่งซักทีเนี่ย จนหมอบอกว่าถ้าอยากเบ่งก็ให้บอกจะได้พาไปห้องคลอด ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าชวนเบ่งเป็นไงแต่รู้สึกว่าอยากจะอึอ่ะใช่ไม่ใช่ไม่รู้แต่อยากคลอดแล้วก็เลยบอกหมอไปว่าอยากเบ่งแล้ว อิอิแอบลัดคิวเล็กน้อย ตอน 14.15 น.ก็โดนเข็นไปที่ห้องคลอด มันก็เริ่มปวดมากขึ้นหมอให้โทรตามหมอเด็กกับแพทย์ใช้ทุนมารับเด็กและช่วยทำคลอดแต่ก็ไม่เห็นทำไรเลยนอกจากยืนดูอย่างเดียวคงเป็นกรณีที่ต้องผ่าตัดมั้ง คราวนี้แหละเริ่มอยากเบ่งหมอก็เลยให้เบ่ง เบ่งไปประมาณ 5 -6 ครั้งได้มั้งจำไม่ค่อยได้รู้สึกว่าจะไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะแต่ละครั้งที่มีลมเบ่งได้แค่ 2 ครั้งเองเลยไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะปกติต้องเบ่งให้ได้ 3 ครั้ง หมอบอกว่าเห็นหัวเด็กแล้ว ลองเบ่งอีกครั้งได้ 2 ครั้งเหมือนเดิม พยาบาลบอกว่าแบบนี้ไม่ดีแน่หมอก็บอกว่าต้องเบ่งให้ได้นะเพราะหมอไม่อยากใช้เครื่องดูดออกเพราะจะทำให้ศีรษะบวมบ้างล่ะ มีเลือดออกใต้สมอง กระดูกอาจแตกสารพัดจะพูด หมอเลยสั่งให้เตรียมเครื่องดูดอ่ะ เอ๊ะจะขู่ฉันไปถึงไหนเนี่ยเอาวะลองดูสักตั้ง พอมีลมเบ่งก็เบ่งได้แค่ 2 ครั้งเหมือนเดิม พอครั้งที่ 2 เบ่งได้ 2 ครั้งแต่หมอบอกว่าหัวเด็กคาอยู่ให้เบ่งอีกครั้ง ตายละฉันจะเบ่งไงเนี่ยไม่มีลมเบ่งเลยก็เลยกลั้นใจเบ่งแบบไม่มีลมเบ่งซะงั้น พอเบ่งเสร็จก็บอกว่าไม่ไหวแล้วอ่ะเหนื่อยแย่แล้วจะหมอแรงแล้วนะ หมอก็บอกว่าหัวเด็กออกมาแล้วครับ อ้าวไม่เห็นรู้สึกเลยว่ามีอะไรออกมา พอมีลมเบ่งก็เบ่งอีกครั้งหมอบอกว่าน้องออกมาแล้วครับคราวนี้รู้สึกเจ็บเหมือนมีอะไรพรวดออกมา ได้ยินหมอขานเวลา 14.56 น. เราก็เลยนอนหมดแรงหมอบอกว่าน้องร้องไห้เองได้แล้วครับ เราก็ค่ะฉันเหนื่อยหมดแรง พยาบาลก็จัดการทำความสะอาดแอลฟ่าแล้วก็ส่งน้องมาให้ดูแล้วบอกว่าคุณแม่หอมแก้มคุณลูกหน่อยก็หอมแก้มลูกไปแบบเหนื่อยๆ รู้สึกว่าตอนเห็นหน้าแอลฟ่าครั้งแรกเฉยๆ ไม่มีความปลาบปลื้มใจใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากคำว่าฉันเหนื่อยฉันเจ็บแล้วเค้าก็พาแอลฟ่าไปสังเกตอาการเนื่องจากหนูกลืนขึ้เทาตัวเองแต่ไม่รู้จะสำลักเข้าไปที่ปอดหรือเปล่า หมอก็จัดการทำคลอดรกเย็บแผลให้เรียบร้อยดีนะที่ไม่ให้นิสิตแพทย์เย็บให้ยังแอบเสียวๆ อยู่เหมือนกัน 2 ชั่วโมงผ่านไปโดนเข็นขึ้นไปที่หอพักผู้ป่วยพอเจอหน้าพ่อก็ถามว่าไปเจอหน้าลูกมาหรือยังแล้วถ่ายรูปหรือเปล่า คำตอบที่ได้คือลูกโดนให้น้ำเกลืองดน้ำงดอาหาร โดนใส่สายดูดขี้เทาออกจากกระเพาะและให้ออกซิเจน พ่อเห็นแล้วสงสารลูกเลยไม่อยากถ่ายรูป ไม่อยากให้แอลฟ่าเห็นรูปตัวเองตอนนี้ สรุปแล้วแม่ไม่มีรูปวันแรกที่แอลฟ่าเกิด เซ็งไปเลย คืนนี้เลยต้องนอนคนเดียวพอตื่นเช้ามาก็ไปดูลูกพอเห็นหน้าลูกคราวนี้จิตวิญญาณของความเป็นแม่เริ่มมา น้ำตามันเริ่มจะไหลทั้งรักและทั้งสงสารแอลฟ่าเป็นที่สุด โถเจ็บไหมลูก สรุปว่านอน รพ.ไป 4 วัน 3 คืน ไม่เคยได้นอนกับแอลฟ่าเลย เพราะหมอให้สังเกตอาการอยู่ที่เนอสเซอรี่ ได้แต่เทียวไปให้นมลูก รอจนเซ็งแล้วเซ็งอีก หมอให้เอกซ์เรย์ปอดผลว่ามีอาการของปอดรั่วปอดแตกหรือเปล่า ผลออกมาเหมือนเดิมไม่มีอะไรผิดปกติ หมอเลยให้กลับบ้านตอนประมาณ 4 โมงเย็นแบบไม่ทันเตรียมใจกลับมาบ้านคืนแรกโอ้โหทำไรไม่เป็นเลยค่ะเนื่องจากไม่เคยได้เลี้ยงที่รพ.เลย ต่อไปนี้แม่กับพ่อคงลำบากกันอีกหลายเท่าแต่ก็มีความสุขที่ได้เห็นหน้าแอลฟ่าทุกวันค่ะ เขียนมาซะยืดยาวมาดูหน้าเจ้าหญิงตัวน้อยน้องแอลฟ่ากันดีกว่าน้อ




Create Date : 11 กรกฎาคม 2553
Last Update : 14 กรกฎาคม 2553 17:31:17 น. 3 comments
Counter : 5599 Pageviews.

 
น่ารักน่าชัง ตาแป๋วแหววเลยค่ะ น้องแอลฟ่า
ยินดีด้วยนะคะ


โดย: nesumi IP: 183.89.45.166 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:21:21:31 น.  

 
น้องน่ารักจังเลย


โดย: 1 IP: 125.26.176.35 วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:12:30:49 น.  

 
น้ำตาไหลค่ะสงสารน้องอัลฟ่า
ขอให้น้องแข็งแรงโตเร็วๆนะคะ


โดย: joom IP: 115.67.66.27 วันที่: 30 สิงหาคม 2556 เวลา:11:19:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pickajoy
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




Friends' blogs
[Add pickajoy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.