Before & After (5) Shock and Coma ช่วงนี้มีคนถามหา น้ำซึม episode 8 กันเยอะ แต่ยังครับ ยังไม่มีอะไรจะอัพเดต เมื่อวานทางวิศวกรได้เข้าทากันซึมตรงที่ยังรั่วอยู่ และรอวันเสาร์ที่จะถึงนี้ จะทำการทดสอบน้ำอีกครั้ง ถ้าผ่านก็จะติดบัวปูนตอนบ่ายเลย แล้วรอทดสอบน้ำซึมรอบสุดท้ายหลังปีใหม่ ประมาณการเคร่าๆ รวมงานทาสี เก็บงาน แต่งสวน ก็คงเสร็จราวๆ วันที่สิบมกรา รอ ลุ้น ต่อไป วันนี้เลยเอารูปถ่ายที่เก็บบันทึกไว้มาดู แล้วนึกขึ้นได้ อยากจะรายงานความเป็นไปของต้นหูกระจงซักหน่อย ก่อนอื่นอยากให้ดูรูปตอนที่เอามาลงช่วงใหม่ๆ คือก่อนหมดฝนไม่กี่วัน จะเห็นว่าใบเต็มต้นและยังเขียวอยู่เลย ช่วงแรกๆ ท่านเทวดาแนะนำให้อัดน้ำ เพราะพึ่งจะลงใหม่ๆ โดยที่ตอนนั้นฝนเริ่มซา อากาศเย็นลง แล้วก็หนาว ไอ้เราก็เพียรรดน้ำมันเรื่อยๆ จะดึกจะดื่นก็อุตส่าห์ขับรถเข้าไปเพื่อให้น้ำ กลัวมันจะไม่แทงรากแล้วก็ตายซะก่อน แต่ยิ่งนานวัน ก็เริ่มสังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติ คือใบเริ่มเหี่ยว เริ่มจากกิ่งล่างสุดแล้วก็ลามขึ้นไปเรื่อยๆ เราก็ไม่คิดไรมาก คิดว่ามันย้ายที่ปลูก เดินทางมาไกลหลายสิบโล ยังปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ไม่ได้ เดี๋ยวก็คงค่อยๆ ฟื้นตัว จะว่าเรารดน้ำน้อยหรือมากไปก็ไม่น่าจะใช่ เพราะต้นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเต้า แคนา มะกอก มะเฟือง กระทิง ก็ยังดูแข็งแรงดี ผ่านไปซักพัก ก็เป็นอย่างรูปข้างล่าง ใบเหี่ยวหมดต้น กิ่งเริ่มแห้งและลอกออกมาได้ ได้ลองถามพี่ที่มาดูแลเรื่องต้นไม้ให้บ้านตรงข้ามว่า มันเป็นอะไร แล้วตายหรือยัง เห็นแกเอาเล็บแคะที่เปลือกออกมา เห็นเป็นสีเขียวอยู่ สรุปว่ายังไม่ตาย แต่เข้าขั้นโคมา อาจต้องถอนมันขึ้นมา แล้วเอาไปอนุบาลใหม่ โหย ต่อมาก็โทรเรียกเทวดาจ้าวที่มาช่วยดู ท่านก็บอกว่า มันอาจจะช็อค เพราะลงต้นตอนเข้าหน้าหนาวพอดี ต้นไม้ใหญ่บางต้น ถ้าลงตอนหน้าหนาว อาจจะหยุดการเจริญเติบโตได้ คือรากใหม่จะไม่แทง มิน่าล่ะ รดน้ำเท่าไหร่ก็เหี่ยวแห้ง แต่ก็แปลกที่ลำต้นยังเขียวอยู่ ... แต่ ทำไมเทวดาเพิ่งบอกตอนนี้(วะ) ไม่บอกตั้งแต่ทีแรก แฮ่ม... หรือว่า ต้นน้ำเต้าเจ้าของที่เดิมมันอิจฉา เลยลงคาถาแช่งเจ้าหูกระจงไว้หว่า เหอๆ เทวดายังบอกอีกว่า ให้รอดูต่ออีกซักระยะ อาจจะช่วงมกราหรือกุมภา คือให้หมดหนาว หูกระจงอาจจะฟื้น หรือไม่ก็ตายไปเลย แล้วท่านจะเสกให้ใหม่อีกต้นแบบ free of charge แต่คราวนี้รูปทรงอาจไม่สวยเหมือนเดิม หรืออาจได้หน้าเล็กกว่าเดิม ไม่ได้หน้าสี่(นิ้ว) เฮ้อ ทำไมมันซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างงี้ บ้านก็พัง ต้นไม้แสนรักก็จะตายต่อหน้าต่อตาอีก   Create Date : 25 ธันวาคม 2551     10 comment Last Update : 11 มีนาคม 2553 16:03:44 น.     Counter : 1236 Pageviews.   Share Tweet

แจ๊กพอต...น้ำซึม...บ้านทะลุ (7) คำเตือน บลอกนี้เขียนด้วยอารมณ์ล้วนๆ ออกแนวบ่นๆ ค่อนข้างยาว ใครที่ไม่ชอบแนวนี้หรือสุขภาพจิตไม่แข็งแรงโปรดหลีกเลี่ยงที่จะอ่าน ความเดิมจากตอนที่แล้ว หลังจากทากันซึม ทดสอบน้ำรอบแรกผ่าน ติดบัวใหม่เรียบร้อย .... 20 ธค 51 วันนี้เป็นการทดสอบน้ำครั้งสุดท้าย ถ้าผ่านขั้นตอนนี้ก็เรียกว่าเกือบจบแล้ว ทำความสะอาดกับเก็บสีได้เลย การทดสอบน้ำเริ่มขึ้นตอนสายๆ เพราะช่วงเช้าเฟอร์นิเจอร์มาส่ง จริงๆ ก็ว่าจะรอจนกว่าจะให้การซ่อมแล้วเสร็จก่อน แต่ฤกษ์เข้าบ้านออกแล้ว กลัวว่าจะเอาของเข้าไม่ทัน ถ้าเลยช่วงนี้ไป จะเริ่มเข้าปีใหม่ของจีน (ตรุษจีน) ซึ่งคนที่มีเชื้อสายจีนอย่างเราไม่นิยมย้ายบ้านช่วงนั้น เหตุผลอีกอย่าง จากขั้นตอนการซ่อมแซมที่ผ่านมาก็ส่งสัญญาณดีมาตลอด ขั้นตอนก็ถูกกำหนดชัดเจน ผลการทดสอบรอบแรกก็ดี ฉะนั้นไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องดีเลย์การเตรียมย้ายเข้าบ้านอีก การทดสอบน้ำก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ทางวิศวกรกับช่างเซอร์วิส ก็เอาสายยางสองชุดต่อก๊อกน้ำ แล้วก็บรรเลงฉีดน้ำไปที่ผนังซึ่งอยู่เหนือบัว การทดสอบก็พยายามฉีดให้ครอบคลุมทุกๆ จุด โดยแต่ละจุดไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง โดยเน้นมากเป็นพิเศษตรงจุดที่เคยรั่วซึมตรงครัวกับมุมห้องรับแขก ผลการทดสอบช่วงแรกดูเหมือนจะสำเร็จดี ไม่มีการซึมของน้ำเลย เนื่องจากมีกำแพงสามด้านที่ติดบัวปูน แต่มีสายยางแค่สองเส้น การทดสอบเลยเน้นที่กำแพงด้านครัวกับหลังบ้านก่อน จากนั้นก็ย้ายสายยางเส้นที่ครัว ไปที่กำแพงด้านระเบียงสวน และแล้วเมื่อเวลาผ่านไปซักสี่สิบนาทีได้ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น น้ำครับน้ำ ซึมเข้าจุดที่ครัวอีกแล้ว แม้จะเป็นขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมมากก็ตาม แต่มันก็เกิดอีก ทั้งๆ ที่หยุดฉีดน้ำด้านครัวนี้ไปซักพักแล้ว เซ็งชมัดยาด รูปการรั่วซึมซ้ำรอยเดิม แม้ขนาดจะเล็กลงมามากแล้ว แต่ยังหายไม่สนิท นอกจากแผลเก่าแล้ว แผลใหม่ก็โผล่ขึ้นมาอีก โอย จะบ้าตาย ไม่รู้ว่ารอยซึมนี่มันเกิดก่อนหรือหลังจากซ่อมบัวปูน แต่ที่เห็นเด่นชัด เพราะเมื่อวันก่อนช่างวอลล์ได้เข้ามาแกะของเก่าออก เพื่อเตรียมผิวสำหรับติดวอลล์เปเปอร์ใหม่ ก็เลยได้ของแถมตามรูป ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมหลายๆ คนเตือนไม่ให้ติดวอลล์เปเปอร์ (แต่ของเราโครงการแถมให้) เพราะถ้ามีอะไรเสียหายที่กำแพง ไม่ว่าจะเป็นรอยร้าว แตก หรือน้ำซึม จะได้เห็นชัดเจน และแก้ไขได้ง่าย นี่ถ้าไม่เห็นรอยนี้ ต่อไปเชื้อราอาจขึ้นตรงวอลล์แผ่นนี้ได้ ไม่รู้เรียกโชคดีหรือโชคร้ายเนี่ย รูปจุดรั่วซึมใหม่ล่าลุด มาจากไหนเนี่ย ถ้าดูตามตำแหน่ง ตำแหน่งที่ซึมไม่ใช่บัวปูน แล้วมันมากจากไหนล่ะเนี่ย เวียนเฮด ถึงตอนนี้ วิศวกรแลนด์กับหัวหน้าก็ได้แต่เอามือลูบหัวเกาหัว แบบว่ามึนงงไปหมด โดยเฉพาะจุดรั่วซึมที่ห้องครัวนี่เกิดได้ไง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าติดบัว ก็ยิงน้ำทดสอบตรงตำแหน่งนี้มาอย่างดีแล้ว แล้วน้ำมาจากไหนอีก ดูนาฬิกา อ้าวบ่ายโมงแล้ว ก็เลยให้ทางวิศวกรแลนด์กลับไปกินข้าวก่อน เผื่อสารอาหารไปเลี้ยงสมองแล้วจะคิดอะไรออกบ้าง เฮ้อๆๆๆๆ จากการปรึกษากันหลังทานข้าว ก็โทรเรียกผู้รับเหมาที่ทากันซึมเข้ามา แล้วก็เริ่มรื้อบัวปูนออกสองเส้นที่เข้ามุมเหนือครัว แล้วก็เริ่มยิงน้ำทดสอบกันอีกรอบว่าน้ำเข้าตรงไหนกันแน่ รูปตอนสกัดบัวปูนออก ห้อยล่องแล่งเลย พอถอดบัวออก ก็ยิงน้ำทดสอบกันแบบตรงๆ ไปเลย ยิงได้ซักพักใหญ่ๆ แต่ว่า... ไม่พบว่ามีการซึมเพิ่ม อ้าว ทีนี้ก็งงกันใหญ่ ทำไมยิงน้ำใส่ตรงๆ ถึงไม่เกิดปัญหารั่วซึมล่ะ เพราะถ้ามันรั่วเข้ารูตะปูเกลียวที่ยึดบัวจริง ถ้าเอาตะปูออกแล้วยิงน้ำตรงๆ น้ำมันก็ต้องซึมเข้าสิ แต่นี่น้ำไม่ซึม ผีหลอกแล้ว เราก็รอกันต่ออีกซักพัก เผื่อน้ำค่อยๆ ซึมยังไม่ถึงข้างใน แต่รอไปรอมาก็ไม่เห็นว่ามันซึมเข้าเลย เอาละสิทีนี้ ไปต่อกันไม่เป็นเลย ถึงตอนนี้ พวกเราก็ซักไซ้รวิศวกรแลนด์ว่า บ้านพรีคาสต์แบบนี้ โครงสร้างเป็นยังไง แล้วแนวกันซึมที่ว่าอยู่ตรงไหน ก็เลยได้รูปมาแบบข้างล่าง คือกำแพงบ้านชั้นบนกับชั้นล่างจะเป็นคนละชิ้นกัน วางประกบกันอยู่โดยมีแนวกันซึมคั่นระหว่างชิ้นกำแพง โดยที่กำแพงจะหนาประมาณสิบเซ็นติเมตร เพื่อป้องกันการรั่วซึม ก็ได้ออกแบบโดยทากันซึมเป็นแถบปิดผิวรอยต่อแล้วปิดทับด้วยบัวปูนอีกครั้ง ฉะนั้นถ้านั้นจะซึมเข้าบ้านได้แนวกันซึมระหว่างชั้นจะต้องถูกกระทบหรือโดนเจาะอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่นี่ก็ไม่ได้มีการเจาะโดนกันซึมแล้วนี่นา เพราะได้ระวังตั้งแต่การติดตั้งบัวปูน ส่วนสาเหตุที่ทำไมถึงรั่วซึมได้อีก อันนี้ไม่ทราบ รูปภาคตัดขวางของบ้าน แสดงการทำกันซึมระหว่างแผ่นผนังชั้นบน-ล่าง และการปิดรอยต่อด้วยทากันซึม แล้วครอบด้วยบัวปูน ตอนที่น้องวิศวกรแลนด์อธิบายทุกอย่างเท่าที่เค้าเข้าใจให้เราฟัง น้ำเสียงเค้าเต็มไปด้วยความอึดอัด เพราะที่เค้าทำมามันน่าจะถูกต้องตามหลักการและตามที่เค้าปรึกษาหัวหน้าหรือคนอื่นมาแล้ว แต่ก็ยังแก้ไม่หาย เค้าขอโทษเราเป็นการใหญ่ที่ทำไม่สำเร็จ และทำให้เราเสียเวลา เราก็เข้าใจนะว่าเค้าผิดหวังอย่างแรง ความเชื่อมั่นเหมือนจะหายไปจากใบหน้าของน้องเค้า ทั้งๆ ที่เค้าก็ทุ่มเทและพยายามทำอย่างเต็มที่ ในตอนนั้น เราก็ไม่มีกะใจไปต่อว่า หรือคิดจะไปต่อว่าเค้าเลยแม้แต่น้อย นึกๆ ไปตอนนั้นน่าจะปลอบใจน้องวิศวกรเค้าไปหน่อย ประมาณอย่ายอมแพ้ สู้ๆโว้ย (ไม่งั้นบ้านพี่แก้ไม่จบแน่ เหอๆ) ที่ทำได้ก็พยายามปรึกษาเค้าถึงทางที่จะแก้ปัญหา เค้าก็พยายามเสนอมาหลายวิธี คร่าวๆ คือ ทำการเจียกันซึมตรงที่รื้อบัวออก ปิดรูด้วยปูนแล้วทากันซึมใหม่อีกรอบ ทดสอบน้ำและปิดบัวปูนด้วยปูนกาวอีกครั้ง แต่คราวนี้จะยึดตะปูเกลียวที่แนวบนของบัวอย่างเดียว ไม่สลับฟันปลาบน-ล่างอีก เพื่อหลีกเลี่ยงการเจาะผิดอีก และเพราะแนวบนจะยึดกับแผ่นผนังบนชิ้นเดียวซึ่งมีความหนาถึงสิบเซ็นติเมตร โดยตะปูจะเจาะเข้าไปในผนังแค่ประมาณสามเซ็นต์กว่าๆ จากนั้นจะหาวัสดุกันน้ำมาทา ปิดรอยต่อของขาบัวปูนที่ติดกับผนัง แล้วสุดท้าย สวดมนต์แล้วทดสอบด้วยน้ำเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากนั้น เค้ายังเสนอขอเจาะรูระบายน้ำใต้บัวให้ถึ่ขึ้น และใหญ่ขึ้น เพื่อว่าหากน้ำยังซึมเข้าบัวได้ ก็จะระบายออกได้เร็วและทันก่อนที่มันจะไหลซึมเข้าแนวผนังหรือแนวกันซึม อืมม ฟังๆ ดูก็น่าจะใช้ได้ คงต้องให้โอกาสน้องเค้าและบ้านของเราอีกครั้ง ขอพระเจ้าคุ้มครองลูกช้างด้วย โอมเพี้ยง ส่วนรอยซึมที่ผนังโถงบันได เห็นบอกว่าเจอรอยแตกร้าวนิดหน่อย จะทำการสกัดแล้วปิดผิวใหม่อีกครั้งนึง อ่อ ขอความอนุเคราะห์ช่วยเข้าไปโหวตกระทู้ที่ ห้องชายคา ในเวป pantip ด้วยนะครับ อยากให้เป็นกระทู้แนะนำ จะได้อยู่ในหน้าเดียวกันกับโฆษณาของแลนด์ (เสียเวลาอ่านแค่สองนาที แล้วคุณอาจต้องคิดใหม่หลายๆ รอบ ก่อนเสี่ยงซื้อบ้านแลนด์ เหอๆ)   Create Date : 22 ธันวาคม 2551     18 comment Last Update : 11 มีนาคม 2553 16:04:29 น.     Counter : 11714 Pageviews.   Share Tweet

แจ๊กพอต...น้ำซึม...บ้านทะลุ (6) คำเตือน บลอกนี้เขียนด้วยอารมณ์ล้วนๆ ออกแนวบ่นๆ ค่อนข้างยาว ใครที่ไม่ชอบแนวนี้หรือสุขภาพจิตไม่แข็งแรงโปรดหลีกเลี่ยงที่จะอ่าน จากความรู้ที่ได้มาตอนซ่อมบ้าน ทำให้ทราบว่างานสร้างบ้านนี่ก็แบ่งเป็นหลายส่วน แต่หลักๆ จะมีส่วนงานโครงสร้าง (infrastructure) กับงานตกแต่งหรือเก็บงาน (finishing) อย่างงานทำกันซึมนี่เป็นของโครงสร้าง แต่การติดตั้งบัวปูนนี่กล้ำกึ่งน่าจะเป็นงาน finishing และทีมที่ทำก็เป็นคนละทีมอีกด้วย อันนี้ จากการสังเกตทีมช่างของบริษัทกรี... ที่เข้ามาแก้งานให้ แม้ว่าทั้งสองทีมจะอยู่บริษัทเดียวกันและใส่เสื้อสีเดียวกัน แต่จะพบว่าหลังเสื้อจะพิมพ์บอกไว้ว่าช่างคนนี้ทำงานส่วนไหน และยังมีหมายเลขกำกับไว้อีกด้วย เช่นงานบัวสำเร็จ 001 (สมมุติ) และทีมที่ทำงานเฉพาะด้านนี่ ก็จะเชี่ยวชาญเฉพาะงานของตัวเอง อย่าเอาช่างกันซึมไปทำงานบัวเด็ดขาด เพราะทำไม่เป็นและไม่ดีแน่นอน ถ้าให้เดา สองบริษัทแรกที่ทำบัวให้ คงจะใช้พวกสารพัดช่าง เรียกว่าทำได้ทุกอย่างแต่อย่างหวังว่าจะดีทุกอย่าง ไม่งั้นบ้านเราคงไม่พรุนขนาดนี้แน่ๆ นี่ไม่อยากจะคิดถึง ช่างที่เป็นชาวนาชาวไร่ ที่รับงานก่อสร้างเป็นงานอดิเรก และช่างอิมพอร์ตทั้งหลายจากนอกประเทศ แล้วช่างเซอร์วิสที่อยู่ในโครงการล่ะ เท่าที่สังเกตุ น่าจะสารพัดช่างเหมือนกัน แต่แต่ละคนก็อาจจะถนัดงานด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ เช่นบางคนถนัดงานปูน บางคนถนัดงานไฟฟ้า แต่อย่าสลับกันนะครับ ไม่งั้นเละหรือต้องตามแก้หลายรอบ ฉะนั้น ทางที่ดีอย่าเรียกช่างเข้ามาทำเอง แต่ให้แจ้งผ่านหัวหน้าช่าง และกำชับให้เอาคนที่ถนัดงานนั้นๆ จริงๆ เข้ามาดีกว่า เรื่องพวกนี้เจอมากับตัวเอง เอาล่ะ กลับมาเรื่องซ่อมบ้านของเราต่อดีกว่า ไถลไปไหนซะไกลเลย 16 ธค 51 วันนี้ D-Day เพราะเป็นวันติดบัวปูน จะเรียบร้อยหรือล้มเหลวก็ขั้นตอนนี้ ถ้ามีการติดผิดโดยเจาะบัวแล้วทะลุกันซึมอีก อาจจะต้องทำใหม่เป็นรอบที่สี่ แต่เหมือนทางแลนด์จะตั้งใจมากเป็นพิเศษ หรือมาลุ้นก็ไม่รู้แฮะ เพราะวันนี้มีคนมาที่บ้านเราเกือบๆ สิบคน เป็นช่างบัวปูนจากกรี... สองสามคน ที่เหลือก็ผจกฝ่ายก่อสร้าง วิศวกรแลนด์อีกสอง หัวหน้าฝ่ายบริการ และลูกทีมเกือบครับเซต ทั้งที่มาช่วยปิดพลาสติกตามหน้าต่างที่หลุดไป และเข้ามาสังเกตการณ์ พร้อมทั้งถ่ายรูปเก็บไว้ ประมาณว่า นี่เป็น case study อะไรปานนั้น เท่าที่สังเกตสีหน้าช่างบัว ดูเหมือนงงๆ ปนประหม่านิดหน่อย เพราะปีนบันไดขึ้นปีนบันไดลงทำกันอยู่ไม่กี่คน แต่ด้านหลังถูกสายตานับสิบคู่จับจ้องบั้นท้ายอยู่ ประมาณเสียวตูดโว้ย อิอิ ยังไงก็ตาม ช่างบัวปูนนี่ ดูเป็นมืออาชีพมาก พูดน้อยและตั้งใจทำมาก ไม่ค่อยเห็นข้อผิดพลาดซักเท่าไหร่ ขั้นตอนก็ต่อเนื่องลื่นไหล และก็ไม่น่าเชื่อ เค้าเริ่มทำตอนเกือบสิบโมง โดยไม่หยุดพักทานข้าว ไม่ทันบ่ายโมงก็เสร็จเรียบร้อย ขอยกนิ้วให้ความเป็นมืออาชีพจริงๆ (แอบได้ยินวิศวกรคุยกันว่าช่างชุดนี้ไปเอามาจากที่อื่น ประมาณแว่วๆ ว่าเป็นพวกมือปืนมือเซียน โฮ่) เท่าที่สังเกตุ ขั้นตอนการติดบัวเริ่มด้วย ช่างปีนขึ้นไปวัดพื้นที่ แล้วมาเตรียมบัวตามขนาด แล้วจึงเจาะรูตำแหน่งที่จะยึดบัวกับผนัง พร้อมเจาะรูระบายน้ำใต้บัว ขณะเดียวกันช่างอีกคนก็จะเจาะรูและยึดตะปูสำหรับเป็นที่รับบัวไม่ให้หล่น พอเสร็จแล้วก็เอาบัวที่เจาะรูเสร็จขึ้นทาบ แล้วใช้สว่านเจาะรูผนังให้ตรงกับตำแหน่งรูที่บัว จากนั้นก็ทาปูนกาวกับขาบัว แล้วก็ยกขึ้นติดตั้งกับผนัง ยึดบัวด้วยตะปูเกลียวสีทองๆ ตอกปลายตะปูให้มิด แล้วปิดหัวตะปูด้วยปูนให้เรียบ แต่งปูนปิดเหนือและใต้บัว เสร็จแล้ว เยี่ยมมาก มาชมภาพสโลว์โมชั่นกันอีกครั้ง เริ่มจากเตรียมบัวให้ได้ขนาด และรูปร่างที่ต้องการ เจาะรูบัวที่จะติดแบบไม่ให้โดนกลางกันซึม และเจาะรูระบายน้ำใต้บัว เราปรึกษาวิศวกรแล้วขอให้เพิ่มรูมากและถี่ขึ้น วิตกจริตกลัวรั่วแล้วน้ำระบายไม่ทัน ทาขาบัวด้วยปูนกาวตรา... แปะบัวติดผนัง และยึดด้วยตะปูเกลียว อันนี้คนละเรื่องคนละความยาวกับเหล็กเส้นที่ตอกทะลุผนังบันไดเลย (ยังแค้นอยู่ แง่งๆ ) ปิดหัวตะปูและเก็บความเรียบร้อยเหนือและใต้บัว ด้วยปูนกาว เสร็จแล้วครับ ศิลปะลายนูนต่ำ(มั้ง) สวยมั้ยครับ ต่อจากนี้ ก็รอวันทดสอบรั่วซึมด้วยน้ำอีกครั้งในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ขอให้รอดด้วยเถิด โอมเพี้ยง ส่วนเรื่องน้ำซึมตอนทดสอบน้ำครั้งแรกที่เข้าผนังตรงช่องต่อท่อแอร์ ก็เรียกทางบริษัทกัน... ซึ่งเป็นตัวแทนหลักมิตซู Mr.Slim เข้ามาตรวจสอบแล้ว พบว่าน้ำไม่ได้เข้าตัวเครื่องที่อยู่ในบ้าน รอดไป... แต่พบว่าทางผู้ติดตั้ง บริษัทสาร... ไม่ได้เอาอะไรอุดไว้เลย แบบว่าไม่ต้องทดสอบน้ำเรื่องกันซึม แค่โดนฝนสาดน้ำก็เข้าแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าไม่ได้ทำการเดินสายดินไว้ไม่ว่าจะที่คอยล์ร้อนหรือตัวเครื่องในบ้าน ทั้งๆ ที่ได้มีการโยงสายดินมาไว้เหนือตัวแอร์แล้ว ทำไมไม่ต่อให้ก็ไม่รู้ ล่าสุดก็เรียกทางสาร... เข้ามาแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ไม่กลัวน้ำเข้าอีกแล้ว ...   Create Date : 18 ธันวาคม 2551     5 comment Last Update : 11 มีนาคม 2553 16:04:42 น.     Counter : 3757 Pageviews.   Share Tweet

แจ๊กพอต...น้ำซึม...บ้านทะลุ (5) คำเตือน บลอกนี้เขียนด้วยอารมณ์ล้วนๆ ออกแนวบ่นๆ ค่อนข้างยาว ใครที่ไม่ชอบแนวนี้หรือสุขภาพจิตไม่แข็งแรงโปรดหลีกเลี่ยงที่จะอ่าน ช่วงนี้บลอกไม่ค่อยวิ่ง จริงๆ อยากจะอัพเดตทุกวันเลย แต่พอกลับถึงบ้านก็เหนื่อยและมึนๆ ไม่ค่อยจะมีใจอัพบลอกเลย จริงๆ เรื่องน้ำซึมนี่เกินกำลังฝ่ายบริการ เราน่าจะฉุกคิดแต่แรกแล้วแจ้งเซลส์ไป แบบว่าโดยปกติแล้วในบริษัททั่วไป เซลส์มักมีอิทธิพลเสมอเพราะเป็นคนหาเงินเข้า ฉะนั้นเซลส์จึงสามารถคุยกับผู้ใหญ่หรือผู้บริหารได้เร็วและโดยตรง ไม่ต้องขึ้นตามลำดับสายบังคับบัญชา ในกรณีนี้ก็เหมือนกัน ความตั้งใจแรกที่เชิญเซลส์มาดูความเสียหายของบ้าน ก็เพื่อจะฟ้องร้อง ไหนบอกว่าบ้านผ่านดับเบิ้ล QC ไหงเป็นงี้ และความเดือดร้อนของเราที่การซ่อมแซมล่าช้า พร้อมกับความเสียหายเพิ่มเติมจากงานซ่อม และการปีนรั้วเข้าบ้านอีกหนึ่งกระทง... แต่ผลที่ได้รับกลับดีเกินคาดครับ เพราะหลังจากนั้นเซลส์ก็แฟกซ์ขั้นตอนการซ่อมแซมที่มีความชัดเจนพร้อมกำหนดการคร่าวๆ มาให้ว่าจะทำอะไรวันไหน และยังบอกว่าผจกฝ่ายก่อสร้างได้กำหนดให้วิศวกรแลนด์คนที่เข้ามาก่อนหน้านี้ มาช่วยดูแลการทำงานของช่างอย่างใกล้ชิด (ไม่ใช่มาแบบแวบไปแวบมาเหมือนตอนแรก) อันนี้แหละโดนมาก ทำให้เราเกิดความรู้สึกดีๆ กับเซลส์แลนด์กับผจกฝ่ายก่อสร้างขึ้นมาบ้าง แต่อีกมุมนึง โครงการนี้ยังขายไม่หมด ถ้าสินค้าและบริการมีปัญหา เซลส์นั่นแหละที่จะซวย และนี่ก็คือขั้นตอนการทำงานที่น่าจะถูกต้อง 1) ให้ช่างทำการเจียกันซึมของเดิมออกให้หมด จะได้รู้ว่ามีรูตรงไหนบ้าง (ทำแล้ว) 2) อุดรูรั่วทั้งหมด ทั้งใหม่และเก่า ด้วยปูนสำหรับซ่อมแซมโดยเฉพาะ (ทำแล้ว) 3) ขัดผิวให้เรียบและทากันซึมใหม่ 4) ทดสอบกันรั่วซึมทุกจุด โดยฉีดน้ำแต่จะจุดจุดละสิบถึงสิบห้านาที 5) ถ้าผ่านข้อ 4 ค่อยทำการติดบัวใหม่ 6) ทดสอบน้ำซึมอีกครั้ง 7) ถ้าผ่านข้อ 5 ค่อยทำความสะอาดชายคา ผนัง หน้าต่าง และพื้น ซึ่งเกิดจากการเจียกันซึมที่ปลิวติดไปทั่ว และการซ่อมแซมด้วยปูน 8) เก็บสีภายนอกให้เรียบร้อย 9) ซ่อมแซมสวนและต้นไม้ทั้งหมด 10) ซ่อมแซมผนังภายในพร้อมวอลเปเปอร์ และทาสีห้องครัวใหม่ 13 ธค 51 หลังจากกลับไปทำงานได้สองวัน ก็ถึงวันซ่อมบ้านต่อ วันนี้เป็นการทากันซึม โดยบริษัทกรี... การทากันซึมนี่ก็ดูไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไร ทาคล้ายๆ การทาสีในพื้นที่แคบๆ คือ ขั้นแรกก็ตีเส้นกั้นพื้นที่ที่จะทา แล้วก็ใช้กระดาษกาวติดกันแนวไม่ให้เลอะเกินพื้นที่ จากนั้นก็ทา เนื่องจากแสงค่อนข้างจ้า วิศวกรที่มาช่วยก็จะคอยเช็คเป็นระยะว่าทาเต็มพื้นที่หรือเปล่า โดยเอากระดาษมาปิดบังแสง พูดง่ายแต่ตอนทำนี่ก็เสียวอยู่ เพราะต้องปีนบันไดขึ้นทั้งคนทาและคนเช็ค เราเองก็ลองปีนดู รู้สึกหวิวๆ อยู่เหมือนกันและดูเหมือนบันไดมันจะหักให้ได้ หรือเราอ้วนเกินไปแล้ว รูปขั้นตอนแรก ตีแนวและติดกระดาษกาว รูปช่างปีนขึ้นไปทากันซึม เห็นบันไดสีดำๆ ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วรู้สึกอุ่นใจว่า ช่างตัวจริงแน่ๆ ไม่ใช่ช่างกำมะลอเหมือนชุดก่อน เอ้า ทาเสร็จแล้ว ก็ตรวจซ้ำอีกที ผ่านก็ไปต่อ พอทาเสร็จก็ต้องแกะกระดาษกาวออกทันที ไม่งั้นจะแกะยาก ... สวยจริงๆ ศิลเปอะชิ้นนี้ หน้าตากันซึมที่ว่า คล้ายๆ ยางมะตอยแต่ไม่ใช่ - made in Canada ว้าว 15 ธค 51 หลังจากเว้นไปสองวัน เพื่อให้กันซึมแห้งสนิท วันนี้เราก็จะมาลุ้นกัน โดยการฉีดน้ำทดสอบกันซึม อย่างที่บอกตอนแรก บ้านถูกเจาะเพิ่มเป็นสิบกว่าแผล ฉะนั้นก็ต้องฉีดน้ำทดสอบทุกตำแหน่งเลย การทดสอบกระทำโดยวิศวกรแลนด์ และช่างฝ่ายบริการ การฉีดน้ำผ่านไปเกือบชั่วโมง ส่วนเราสองคนก็คอยวิ่งวุ่นไปทั่วดูทั้งข้างในและนอกบ้าน เกือบทุกตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ ในตอนนี้เนื่องจากมัวแต่วุ่นวายอยู่ และน้ำกระเด็นค่อนข้างเปียกแฉะ เลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ ส่วนผลการทดสอบก็ผ่านครับผ่านฉลุย แต่ยังครับ ความซวยยังไม่จบ ขณะที่ทดสอบน้ำ น้ำก็มาไหลโจ๊กเลย แต่ที่เข้าไม่ใช่แนวกันซึมแต่เป็นช่องที่ต่อท่อแอร์ออกไปคอยล์ร้อน อะจ๊าก.... ทั้งๆ ที่จุดนึ้ก็ได้คลุมปิดด้วยพลาสติกใส น้ำยังไหลผ่านเข้าไปตรงช่องได้อีก หรือว่า ช่างแอร์ไม่ได้อุดรูผนังแต่กลับเอาฝาครอบปิดเลย งานเข้าแล้วสิเรา เฮ้อออออ น้ำซึมเข้าตรงนี้แหละ แอร์ Mr.Slim Wide&Long ตัวนี้ติดตั้งโดยบริษัทสาร... ซึ่งเคยติดตั้งให้ที่บ้านเก่าและไม่เคยมีปัญหาอะไร ทำไมต้องมาเกิดกับบ้านใหม่ด้วย หรือจะเป็นอาถรรพ์ที่เพิ่งไปดูหมอมา แบบว่าไปหาฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ และแกทักเรื่องเลขที่บ้านว่า มีแต่ธาตุน้ำกับน้ำ บ้านนี้น้ำซึมน้ำรั่วแน่ ฟันธง (หรือคอนเฟิร์มหว่า ) เรื่องราวยังไม่จบ เพราะงานต่อไปคือจุดที่เสี่ยงที่สุดของการซ่อม ที่เราต้องเปลี่ยนผู้รับเหมาเป็นรายที่สาม ก็คือการติดบัวปูน ...   Create Date : 16 ธันวาคม 2551     4 comment Last Update : 11 มีนาคม 2553 16:04:52 น.     Counter : 1391 Pageviews.   Share Tweet

แจ๊กพอต...น้ำซึม...บ้านทะลุ (4) คำเตือน บลอกนี้เขียนด้วยอารมณ์ล้วนๆ ออกแนวบ่นๆ ค่อนข้างยาว ใครที่ไม่ชอบแนวนี้หรือสุขภาพจิตไม่แข็งแรงโปรดหลีกเลี่ยงที่จะอ่าน 7 ธค 51 วันนี้วันอาทิตย์ ครบรอบหนึ่งเดือนตั้งแต่เริ่มน้ำซึม ตอนนี้บ้านเป็นแผลมากกว่าเก่าหลายเท่าตัว ตอนบ่ายทางวิศวกรโครงการกับผู้รับเหมาจากบริษัทกรี... ที่ทำงานด้านโครงสร้างกับกันซึมตัวจริงเข้ามาดู สรุปว่าต้องแก้ไขโดยให้ทำการเจียแนวกันซึมสีดำออกให้หมด จากนั้นทำการอุดซ่อมรูต่างๆ แล้วจึงจะทากันซึมใหม่อีกครั้ง เมื่อเรียบร้อยแล้วให้ทดสอบรอยรั่วซึมทุกจุดทุกรู ถ้าไม่เป็นไร ค่อยทำการติดตั้งบัวปูน ในตอนนี้ก็ได้พูดกันว่าจะให้ทางบริษัทกรี...เป็นคนทำบัวปูนด้วย เพราะจะได้ไม่ผิดพลาดอีก ถ้านับไปนี่ก็จะเป็นผู้รับเหมารายที่สามที่ทำบัวปูน เยี่ยม ส่วนผนังที่ทะลุแล้วซ่อมไปแล้ว ต้องทำการสกัดเอาซีลีโคนกับอีพรอกซี่ออกก่อน แล้วใช้ปูนซ่อมแซมแบบไม่หดตัว (non-shrinking mortar) แปลว่าไอ้ที่ฝ่ายบริการทำมาก็ผิดอีก เอ่อ ทำไมมันไม่ปรึกษากันก่อนวะ 8 ธค 51 เนื่องจากเราไม่วางใจ เราก็เลยลางานมาดูการซ่อมแซม ในตอนเช้า ทางวิศวกรและช่างซ่อมกันซึมก็เข้ามาดูหน้างาน มีการพูดคุยและสั่งงานกันว่าขั้นตอนการทำงานจะเป็นยังไงบ้าง แล้วก็มีการใช้พลาสติกใสปูปิดผนังบางส่วน จากนั้นพอวิศวกรไป ทางช่างก็เริ่มงานเจียกันซึมเดิมออกโดยใช้เครื่องมือเรียกว่าลูกหมู ตอนเจียนี่ฝุ่นและเศษกันซึมที่เป็นยางมะตอยสีดำๆ ก็ฟุ้งไปทั่ว ช่วงนี้เองเราก็เข้าบ้านไปทำงานโดยต่อเน็ตผ่านมือถือ และก็ออกไปดูเป็นระยะๆ แต่เราก็พลาดอีกจนได้ เพราะเศษกันซึมที่เป็นยางมะตอยที่เจียออกมาได้ปลิวไปติดตามผนัง ตามกระจกหน้าต่าง รวมถึงขึ้นไปถึงเชิงชายใต้หลังคาก็มี เราก็ถามช่างว่าทำความสะอาดได้มั้ย เค้าบอกไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเสร็จแล้วจะเก็บให้ ตอนนั้นเรามึนๆ ก็เลยให้เค้าทำตามนั้น ช่วงนี้เอง ขณะที่ไม่มีวิศวกรคุม ฝ่ายบริการก็ไม่โผล่หน้ามาดูแลด้วย พอช่วงเย็น ช่างบอกเจียเสร็จแล้วจะกลับล่ะ พรุ่งนี้จะมาทากันซึมให้ แฟนเราก็ทักว่าแล้วที่ทางวิศวกรให้ทำการซ่อมข้างใน ทำไมไม่ทำก่อน แล้วปูนที่โปะรูรั่วนี่จะแห้งแล้วเหรอ พอบอกให้ติดต่อวิศวกรดูว่าให้ทำยังไงกับรอยทะลุ เค้าก็บอกเงินเติมมือถือหมด แล้วก็บ่นว่าเย็นแล้วทำไม่เสร็จหรอก แล้วก็รีบๆ ทำไม่มีทางออกมาดี เออ พูดได้สวย เราก็เลยโทรเอง สรุปว่าพรุ่งนี้จะให้วิศวกรแลนด์เข้ามาดูก่อนว่าเจียเรียบร้อยมั้ย แล้วก็ทำการอุดรูแตกก่อนด้วย รูปกันซึมเดิมที่ถูกเจียออกไปบางส่วน แต่ก็ยังไม่เรียบร้อย รูปการคลุมผ้าพลาสติกบางส่วน แทนที่จะคลุมหมดทั้งหน้าต่าง และปูรองที่พื้นหญ้า 9 ธค 51 วันนี้เราก็ต้องลางานมาอีก เพราะบอกตามตรง ตอนนี้ไม่ไว้ใจใครเลย ต้องมาดูเอง วันนี้ช่างมาช้ามาก พอถามว่าทำไมมาช้า ทำเป็นพูดเฉไฉว่านัดตอนสายๆ แล้วทำเป็นบ่นเรื่องงานเยอะ งานเร่ง ต้องทำอีกไซท์ให้ทันเวลา เราก็ไม่สนใจฟังมัน จากนั้นวิศวกรแลนด์ก็มาดูความเรียบร้อยงานเจีย แล้วก็สั่งให้เจียเพิ่มเติมอีกพอสมควร โดยเฉพาะเหนือครัว แล้วเค้าก็ให้วิศวกรแลนด์อีกคนมาช่วยดูแลให้ช่างซ่อมแซมผนังที่ทะลุ แต่ช่างบอกว่าวันนี้ไม่ได้เอาลูกหมูมา แล้วก็บ่ายติดงานที่อื่น ก็เลยตกลงให้มาเจียพรุ่งนี้ วันนี้เอาแค่ซ่อมผนังที่ทะลุก็พอแล้ว ก่อนซ่อมเราก็ให้เค้าปูพลาสติกตรงโถงบันไดก่อน เพราะช่างคงทำเลอะเทอะแน่ๆ การซ่อมแซมก็ผ่านไปด้วยดี คงเพราะวิศวกรคนนี้เข้ามาดูงานอย่างใกล้ชิด และช่วยดูแลช่างทำงานตลอดตั้งแต่กระเทาะอีพรอกซี่พร้อมทั้งแซะซีลีโคนออก แล้วค่อยทาน้ำยาประสานและอุดด้วยปูนแบบไม่หดตัว ซึ่งเค้าคนนี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่าเค้าตั้งใจทำงานมากที่สุด รูปการตระเตรียมก่อนซ่อมผนัง โดยทำการปูพลาสติกที่พื้นและผนัง ส่วนถุงดำเป็นถุงขยะที่เราเอามาติดเองไว้เก็บเศษปูนที่กระเทาะออกมา เทคนิคนี้ยืมมาจากตอนเจาะผนังติดตั้งผ้าม่าน รูปตอนทาน้ำยาประสาน แล้วอุดด้วยปูนแบบไม่หดตัว งานซ่อมนี่ก็จบแค่นี้เพราะต้องรอให้มันแข็งตัวก่อน งานแต่งหน้าไว้มาทำหลังจากทดสอบรอยรั่วซึม จากนั้นเราก็บอกให้ช่างเก็บความสะอาดเศษยางมะตอยที่อยู่ด้านนอกก่อนกลับ แต่ปรากฎว่า เค้าเก็บได้แค่บางส่วน แต่เศษๆ ที่ไปติดตามขอบยางหน้าต่างเอาไม่ออก จากนั้นเราก็เรียกฝ่ายบริการมาดู เค้าก็โวยวายและบ่นกับช่างว่าทำไมไม่คลุมปิดหน้าต่างก่อน ทางช่างมันก็บ่นว่าปกติไม่เคยแก้งานหลังจากตกแต่งสีแล้วแบบนี้ แล้วทางโครงการก็น่าจะเอาพลาสติกมาคลุมก่อนที่เค้าจะเข้าทำงานด้วย เอ่อ กลุ้มครับ ถึงตอนนี้ ทางฝ่ายบริการพึ่งจะบอกว่าเย็นนี้จะทำการคลุมผ้าพลาสติกตรงบริเวณหน้าต่างและส่วนต่างๆ เพื่อว่าพรุ่งนี้จะได้ไม่เลอะมากกว่านี้ เห้อ วัวหายจึงล้อมคอก 10 ธค 51 วันรัฐธรรมนูญ วันนี้นัดช่างมาเจียให้เรียบร้อย พอมาถึงก็พบว่าฝ่ายบริการได้เอาพลาสติกใสคลุม เรียกว่าห่อบ้านไว้เลยดีกว่า เอาวะ วัวหายล้อมคอกก็ยังดี เพราะจะมีการเจียเพิ่มเติมแล้ว รูปวัวหายล้อมคอก บ้านเละแล้วค่อยห่อ รูปน้ำปูนที่ซ่อมผนังทะลุ เหมือนน้ำตามั้ย รูปผนังที่เจียเรียบร้อย รอให้ปูนอุดรูและปูนฉาบตามรอยต่างๆแห้งก่อน ก็พร้อมทากันซึม ช่วงเที่ยง เราก็ได้เชิญทางเซลส์และผู้จัดการฝ่ายก่อสร้างเข้ามาชมบ้านที่ผ่าน QC แล้วว่าเป็นยังไง ไว้จะอัปเดตตอนต่อไปให้ฟังครับ ยังอีกยาวไกล เหนื่อยจริงๆ งานนี้   Create Date : 15 ธันวาคม 2551     9 comment Last Update : 11 มีนาคม 2553 16:05:03 น.     Counter : 3231 Pageviews.   Share Tweet