me:ผู้หญิงของตำนาน

Japan 5 (Tokyo - Yokohama)

16-04-08

วันนี้จะทำการมูฟไปโตเกียว
ลากกระเป๋า หิ้วกระเป๋า สะพายเป้
สัมภาระทั้งหมด 3 ใบ ทุลักทุเลมาก แระก็ขึ้นรถเมล์ด้วยนะ 555
สามารถ!!!
แอบจิตตกบ่นกับเพื่อนว่าคนขับรถเมล์จะรอเราแบกกระเป๋าขึ้นรถมั๊ย
มันตอบให้ใจชื้นขึ้นว่าเค้ารอได้ ^^ ไม่เหมือนรถเมล์บ้านเรา

(**คำเตือน วันนี้รูปเยอะมาก ใครเนทเต่ากรุณาทำใจ -_-")

ที่นี่รถเมล์ตรงเวลามาก ที่ป้ายรถเมล์จะมีข้อมูลบอกว่ารถสายนี้มาเวลานี้
บนรถจะไม่มีกระเป๋ารถเมล์ ขึ้นไปปุ๊บ จะมีเครื่องดังรูปนี้ตรงประตู
แล้วจะมีกระดาษใบเล็ก ๆ ให้หยิบ กระดาษมันจะมีข้อมูลบอกว่าถ้าขึ้นสถานีนี้ ลงที่นี่ ราคาเท่าไหร่


ถ้าบางคนจำได้ก็ไม่ต้องหยิบกระดาษ แล้วเครื่องก็จะดูดคืนกลับไป เป็นการรณรงค์ลดกระดาษของบ้านเค้า
ส่วนนี่จะอยู่บริเวณข้างหน้าของรถ ด้านบนคนขับ เป็นเครื่องบอกเหมือนกระดาษที่หยิบตรงประตูนั่นแหละ


รอรถที่จะพาเราไปโตเกียว


คือชินคันเซนนั่นเอง โย่ ๆ


ภายในของชินคันเซน

ซ้ายคือ แผนผังของตัวรถไฟว่ามีกี่ตู้ ตู้ไหนสูบบุหรี่ได้-ไม่ได้ ห้องน้ำอยู่ที่ไหน โบกี้ไหนสำหรับคนที่จอง-ไม่จอง
กลางคือ เลขที่นั่งจะอยู่บนหน้าต่าง
ขวาคือ เซนเซอร์ในห้องน้ำเวลาต้องการจะกดชักโครก ก็แค่เอามือผ่าน

มีเจ้าหน้าที่เดินขายของเป็นระยะ


ถึงที่หมายแล้วคับ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง นั่งหลับบ้าง ดูวิวบ้าง
บ๊ายบายชินคันเซนปุ๊บ ก็ขึ้นรถไฟท้องถิ่นต่อ เพื่อไปยังที่พัก


ที่พักคืนแรก ณ โตเกียว ขอหรูหราไฮโซ เหอๆๆ ไม่ใช่หรอก จริง ๆ อยากลองนอนแบบวิถีชาวญี่ปุ่น ซึ่งเค้าเรียกกันว่าที่พักแบบเรียวคัง

ภายในบริเวณที่พัก


ญี๊ปุ๊น ญี่ปุ่น




ห้องนอนคับ ที่นอนเป็นแบบนี้ เรียกว่าไรไม่รู้จำไม่ได้ 555


เก็บของ พักเหนื่อย ถอนหายใจ 2 แฮก ก็พากันเดินทางต่อ
เดินไปสถานีประมาณ 5 นาที ชื่อสถานี CHIDORICHO เพื่อนบอกว่าแปลว่านกกระสา 100 ตัว (มั้งนะ ถ้าจำไม่ผิด :p)


ตีตั๋วไปโยโกฮาม่า

ถึงแล้วววววว ตึกใหญ่ ๆ ที่เห็น เรียกว่า แลนด์มาร์ค เป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ตึกที่เห็นอีกตึกคือ Queen's Square




เดินไปเรื่อย ๆ อะ วิวสวยได้ทุกย่างก้าวจริง ๆ เมืองนี้




ตึก Akarenka อดีตเคยเป็นด่านศุลกากร




ข้าง ๆ ตึก มีจัดงานแสดงดอกไม้ เลยถูกดอกไม้มัวเมา ใช้เวลากับที่นี่นานมาก ถ่ายซะจนแบตกล้องหมดไป1ขีด





หลังจากนั้นก็เดินกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ




ผ่านยามาชิตะปาร์ค


เดินต่อไปเพื่อหาข้าวกินที่ไชนาทาวน์

สวยเนอะ


สวยปะ?


รถม้า+ฝาท่อ+รถลาก


ไม่ได้ถ่ายที่ไชนาทาวน์มาเลย อยู่กล้องเพื่อนหมด เนื่องจากเซฟแบตตัวเองอะ อย่างที่บอกไปเมื่อกี๊ ว่าแบตขีดนึงอุทิศให้กับดอกไม้

เดินวนเวียนอยู่ในไชน่าทาวน์นานมาก เพื่อนจะหาร้านที่เคยกิน แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ แล้วพอจะเลือกร้าน มันก็ขอหาต่ออีกแป๊บ ปาดเหงื่อกันเลย หิวจนหายหิว

หลังจากนั้นก็เดินกลับ เจอปั๊มน้ำมัน หัวจ่ายน้ำมันแปลกดี มันไม่ติดพื้น สายลากมาจากข้างบน


ไนท์วิวคับไนท์วิว ไม่ได้แบกขาตั้งกล้องไป อาศัยคอนกรีทแถวนั้น 555 ภาพเลยสวยอย่างที่เห็น เพราะถ้าอาศัย 2 มือของตัวเอง ภาพคงสั่นเหมือนผีเข้า










แลนด์มาร์คตอนกลางคืน


Cosmic Clock 21 อยู่ในสวนสนุก Yokohama Cosmo World จริง ๆ สีไฟจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ นะ แต่ทำไมถ่ายออกมาได้แต่สีเขียวทุกที -_-"


เดินกลับทางเดิม ลากขากันไปหาเรือ นิปปอนมารุ






ยืนถ่ายรูปอยู่ที่เรือ ใกล้ ๆ กันเป็นสวนสนุกโยโกฮามาคอสโมเวิล์ด ได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดจากรถไฟเหาะที่ดูท่าทางหวาดเสียว ก็เลยสะกิดเพื่อนยิก ๆ ว่าอยากเสียว 5555

เลยต้องลากขากันไปต่อ ตามใจคนเอาแต่ใจซะหน่อย

รถไฟเหาะที่ว่า ขึ้นบันไดอันเดียวกับ Cosmic Clock 21 อะ ก็เลยได้มุมแหงนมาเชยชม


แล้วทำไมไม่ถ่ายรถไฟเหาะ

พอเล่นเสร็จ ลงมาแล้วมันเด็กมาก ๆ เด็กมาก ๆ ๆ ไม่เสียว ไม่อะไร คนมันกรี๊ดอะไรกันวะ เสียดายตังโคด ๆ

จากนั้นก็เดินทางกลับคับผม

Ps. เมืองนี้เป็นเมืองใหม่ ถ้าใครช่างสังเกตจะเห็นว่าไม่มีสายไฟฟ้าเกะกะตา เพราะเค้าฝังไว้ใต้ดิน แระก็ใครที่เคยดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นเรื่อง tatta hitotsu no koi[たったひとつの恋] (Just One Love) เค้าถ่ายที่เมืองนี้ทั้งเรื่องเลยนะ
สรุปแล้ว วันนี้ตามรอยซีรี่ส์เรื่องนี้ มีความสุข 5555

แต่พลาด ๆ ๆ ไม่ได้ไป Minato Mirai 21 กะ Doll Museum อะ เศร้า

ถ้าได้ไปอีก จะไปตามเก็บ

ขอแนะนำสำหรับใครที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่น เมืองโยโกฮามาควรไปมาก สวยมาก เราชอบบบบบบ

TBC.




 

Create Date : 08 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 8 พฤษภาคม 2551 14:57:47 น.
Counter : 709 Pageviews.  

Japan 4 (Universal Studio Japan)

15-04-08

วันนี้จะไป ยูนิเวอแซล สตูดิโอ ซึ่งอยู่เมืองโอซาก้า
ตอนนี้เราอยู่เกียวโต ก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ


ถึงแล้วววววว Welcome to the fantastic world โย่ ๆ



ประเดิมของเล่นแรกด้วย หนัง 4D เรื่อง shreak
ก็แปลกดี แต่ไม่ค่อยเร้าใจ แค่มีน้ำ มีลมฉีดให้รู้สึก


บรรยากาศข้างใน สิ่งก่อสร้างตื่นตาตื่นใจดี เหมือนเข้าไปอยู่อีกโลกนึง





ต่อไปก็เล่นสไปเดอร์แมน กะ Back to the future มันเป็น 3D
หนุกโคด หวาดเสียวดี



ส่วนอีที จะน่ารัก อธิบายไม่ได้ เข้าไปข้างในเค้าก็ไม่ให้ถ่ายรูป T_T








อาหารกลางวันวันนี้เป็นข้าวแกงกะหรี่ ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ กลิ่นมันเหมือนยาไทย -_-"


แบล็คดราฟ ใครรู้จักเรื่องนี้บ้าง เราไม่รู้จัก -_-" เข้าไปจะเป็นประมาณให้ความรู้เกี่ยวกับไฟไหม้ น่าจะนะ เพราะเค้าบรรยายญี่ปุ่น


ฉลาม + ไดโนเสาร์ บุก!!!
2 อันนี้ออกแนวขำ ๆ หลอกเด็ก





Jaws จะเป็นล่องเรือไปเรื่อย ๆ แล้วก็มีฉลามโผล่มาให้เห็นเป็นระยะ
คนนำเรือมีความสามารถในการเล่าใส่ฟิลลิ่งโคด ๆ แต่แปลไม่ออก 555

ส่วนจูราสิคพาร์ค ถ่ายรูปไม่ได้เนื่องจากกลัวกล้องพัง น้ำกระเซ็นมาก แต่ก็ประมาณเดียวกับ Jaws อะ มีไดโนเสาร์ให้ตื่นเต้นเป็นระยะ อารมณ์ประมาณแกรนแคนยอนที่แดนเนรมิต

บรรยากาศคาวบอยมาก


ซุ้มขายของ ที่คาดผมน่ารัก ๆ


ตะลุยเมืองพ่อมดออส
สวย ๆ น่ารัก สีลูกกวาดดี


ต่อด้วยเมืองการ์ตูน สนูปปี้


เย็นแล้ว




ที่นี่วันนี้ปิด 1 ทุ่ม


ปิดท้ายด้วย ของเล่นแรก เนื่องจากมันฉายคนละเรื่องกับตอนเช้า







ด้านนอกดินแดนมหัศจรรย์


แสงสีก็ยังคงตื่นตาตื่นใจ


หิว ๆ ๆ ต้องหาไรกิน

ไฮโซมากอะ เป็นร้านราเมง หยอดเงินกับเครื่อง จิ้มเมนูที่ต้องการ แล้วจะได้กระดาษใบเล็ก ๆ เข้าไปในร้านเอายื่นให้เค้า เจ๋งว่ะ

หน้าตาอาหาร+บรรยากาศของพ่อครัว



นี่เป็นพื้นทางเดิน จะมีฝาท่อลายน่ารัก ๆ ไทยน่าทำแบบนี้บ้างเนอะ เจริญตาดี


อิ่มแล้วก็เดินไปขึ้นรถไฟกลับ เหลือบไปเห็นช่องเข้าคิวสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะอะ เด็ดมาก สะกิดถามเพื่อน เพื่อนบอกว่ามันเฉพาะช่วงเวลา ไม่ใช่ตลอด


หมดวันแล้วคับ กลับบ้านดีก่า


บั๊ยบัย

เจอกันอีกทีเมื่อขยัน




 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2551 15:16:22 น.
Counter : 1487 Pageviews.  

Japan 3 (ฮิเมจิ, โอซาก้าอความเรียม, เทมโปซัง)

14-04-08

วันนี้ เคยวางแผนไว้ว่าจะไปยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ แต่หลังจากลุ้นพยากรณ์อากาศทางอินเตอร์เนทอยู่หลายวัน มันก็ยังคงพยากรณ์ว่าวันนี้ฝนตก

ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนไป ปราสาทฮิเมจิ ซึ่งอยู่จังหวัดโกเบ







จากสถานีรถไฟ เดินไปยังปราสาท ไกลมากกกกกกกกก
อากาศก็เย็นมากด้วย

โคมไฟข้างทาง ตัวการ์ตูนน่ารัก เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของท้องถิ่นนี้


เห็นปราสาทอยู่ลิบ ๆ


สังเกตได้ว่า โกเบ นี้ ไม่มีเสาไฟฟ้า เนื่องจากยังเป็นเมืองที่แผ่นดินไหวอยู่ เค้าเลยฝังสายไฟไว้ข้างล่าง แหงนหน้ามองฟ้า มองตึก แล้วโล่งตามาก^^


ถึงแล้ว




ฮิเมจิ เป็นปราสาทที่เค้าว่ากันว่าสวยที่สุดในโลก


บรรยากาศโดยรอบดีมาก ๆ อะ ชอบโคด
แบบว่าอากาศเย็น ๆ ลมพัดที กลีบดอกซากุระปลิดตามแรงลม
โอ้วววววววว โรแมนซ์ ชอบ ๆๆๆๆๆ








ภายในตัวปราสาท


โครงสร้างปราสาท มี 6 ชั้น ขึ้นกันลิ้นห้อยเลย แถมบันไดขึ้นชันอีกต่างหาก


ชุดเกราะทหาร


ทีวางอาวุธ


ที่ประทับโชกุน



ผังเมืองรอบปราสาท


วิวชั้นบนสุดของปราสาท



บ่ายแล้ววววววว กลับ ๆ ๆ ไปโอซาก้า


หาอะไรกิน


ย่านอะไรซักย่าน ไว้รู้แล้วจะมาอีดิทใหม่ -_-"

ป้ายน่ารัก ๆ ของแต่ละร้าน


ร้านนี้ที่จะเข้าไปฝากท้อง


พ่อครัวที่ทำอาหาร พิซซ่าญี่ปุ่น ^^


อิ่มท้องแล้วก็ไปต่อ ที่อควาเรียม


ถึงแล้ว น่าภูมิใจมากที่ป้ายต้อนรับมีภาษาไทยด้วย โบชัวร์ก็มีภาษาไทย


โอซาก้าอความเรียมใหญ่ติดอันดับโลก ก็เลยเข้าไปยลซักหน่อย
จริง ๆ ไม่ได้เป็นคนพิศมัยการดูพวกนี้ซักเท่าไหร่


แต่ชอบพวกแมงกระพรุนอะ น่ารักดี ถ่ายเป็นคลิปมาเยอะแยะเลย


เวลามันว่ายไปตามน้ำ สวยดี




หลังจากอิมเอมกับบรรยากาศโลกใต้น้ำแล้ว ก็ออกมารับลมหนาวเหน็บข้างนอก ขอบอกว่าหนาวมาก ยิ่งค่ำยิ่งหนาว โคด ๆ

ตรงข้ามกับอความเรียมเป็น เทมโปซัง ซึ่งก็คือชิงช้าสวรรค์บ้านเรา แต่ใหญ่อลังการมาก ขึ้นไปเพื่อชมวิวกลางคืน


ไม่สามารถเก็บภาพวิวกลางคืนมาฝากได้ เนื่องจากอากาศเย็น ทำให้มือสั่น ภาพที่ได้เลยสั่น ประกอบกับชิงช้ามันไม่อยู่นิ่งอีกต่างหาก

เดินทางกลับ

หนทางนี้อีกยาวไกล

TBC...

ps. สรุปว่าวันนี้ฝนดันไม่ตก




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2551 16:16:54 น.
Counter : 869 Pageviews.  

Japan 2 (อาราชิยามา-สะพาน Togetsukyou-ป่าไผ่, ศาลเจ้า Fushii inari, วัดโทไดจิ-นารา)


13-04-08
วันนี้วางแผนไว้ตั้งกะเมื่อคืนว่าจะไป อาราชิยามา (Arashiyama) ซึ่งยังอยู่ในเกียวโตอยู่

จากที่ศึกษาข้อมูลจากเวบและหนังสือต่าง ๆ เค้าบอกกันว่าสวย

นี่เป็นร้านค้าระหว่างทางที่จะไป สีสันสดใส


เหมือนขายผลไม้แช่อิ่ม เป็นไม้ ๆ


ถึงแล้ว อาราชิยามา


สะพาน Togetsukyou


ชื่อสะพาน


แผนที่บริเวณอาราชิยามาทำได้น่ารักมาก


เดินข้ามสะพานเพื่อจะไป ป่าไผ่

เจอวัดระหว่างทางเดินเข้าไปเก็บบรรยากาศ


แต่ไม่ได้เข้าตัววัด เนื่องจาก.....เสียตัง





รถคนเข็นเพื่อชมเมือง ได้บรรยากาศดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ขึ้น


อากาศก็เย้นเย็น แต่ก็ยังกินไอติม หน้าตาก็ละม้ายคล้ายของบ้านเราอะนะ ของบ้านเราไม่เกิน 20 บาท แต่ของบ้านเขาแพงมากกกก ราคาคูณ 10 เหอๆๆ เป็นไอติมรสงาดำ



ถึงแล้วป่าไผ่


มีต้นเมเปิ้ลด้วย แต่ยังเขียวอยู่


จากนั้นก็เดินกลับทางเดิม




เจอเด็กน้อยใส่ชุดลูกเสือ เหมือนกำลังยืนรับบริจาคอะไรซักอย่าง




นั่งรถไฟไปจุดหมายต่อไปศาลเจ้า Fushii inari


ร้านขายสายไหม ถุงน่ารัก น่าซื้อ




เห็นคนตักกิน ตักลูบหน้าลูบตา คาดว่าคงประหนึ่งน้ำมนต์บ้านเรา






อันนี้ประมาณว่า เสี่ยงเซียมซี แล้วได้คำทำนายไม่ดี ก็เอามาผูกไว้


ที่ศาลเจ้านี้มีเสาโทริเรียงกันหลายพันต้นมาก


ที่นี่เป็นฉากนึงในซีรี่ส์ญี่ปุ่นเรื่อง Hanayori DangoII ด้วยนะ



เดินไปเรื่อย ๆ เริ่มเหนื่อย เพราะไม่มีใครบอกได้ว่าอีกไกลมั๊ยกว่าจะเดินครบหมดทุกต้น เลยตัดสินใจเดินกลับ เพราะตอนบ่ายวางแผนไว้ว่าจะไปจังหวัดนารา

ร้านขายถ่าน


รถไฟมุ่งสู่นารา


บนรถไฟ เห็นเด็กน่ารัก เลยถ่ายมาซะ...




มุ่งหน้าสู่วัดโทไดจิ (Todaiji)


พระญี่ปุ่น ยืนทำไรไม่รู้


รถเข็นขายเกาลัด


เห็นรูปก็เดาได้ว่า ขายอะไร .... Tako Yaki นั่นเอง อิๆ


ถ้าพูดถึงเมืองนารา คนญี่ปุ่นจะนึกถึงกวาง เพราะกวางที่นี่เชื่องมาก

แต่เพื่อนบอกให้ระวัง ถ้าถืออะไรที่กลม ๆ แบน ๆ มันจะมางับเอาไปให้ได้

ประตูทางเข้าวัด




วัดโทไดจิ


วัดนี้จะมีพระองค์ใหญ่มาก แล้วก็จะมีเสาต้นนึงในวัดที่มีรู เค้าว่ากันว่าใครที่ลอดรูของเสาแล้วจะดี วันที่ไปคนลอดเยอะมาก เลยไม่ได้ลอง แต่จริง ๆ ก็ไม่กล้าเพราะกลัวไม่รอด

กลับสู่เกียวโต กับเกียวโตทาวเวอร์ยามเย็น


หิวแล้ว ก็ต้องหาข้าวกิน




รูปพวกนี้มันเค้ก ไม่ใช่ข้าว

555555 แต่มันร้านเดียวกัน
อาหารมื้อนี้หน้าตาประหนึ่งข้าวผัด เห็นแล้วอยากขอพริกน้ำปลา แต่...ไม่สามารถ เพื่อนบอกว่าที่นี่ถ้าเราหาอะไรมาปรุงเพิ่มจะเหมือนไม่สุภาพ ประหนึ่งว่าอาหารไม่อร่อย T_T คิดมากกันจริง เนอะ :p


ช้อนนี้ไว้ตักทอปปิ้งของไอติม เห็นแปลกดีเลยถ่ายมา


TBC




 

Create Date : 30 เมษายน 2551    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2551 14:07:39 น.
Counter : 1511 Pageviews.  

Japan 1 (วัด Daigoji, วัด Ninnaji, วัด Ryoanji, วัด Kinkakuji เกียวโต)

12-04-08

วันแรกไปซื้อตั๋ว surutto หรือ Kansai Thru Pass แบบ 3 วัน
ตั๋วที่ว่านี้ สามารถนั่งรถไฟ หรือรถเมล์ ได้ทั่วทั้งภูมิภาคคันไซ ^^

ตรงข้ามกับที่ซื้อตั๋วคือ เกียวโตทาวเวอร์


หลังจากซื้อเสร็จ ก็เดินไปซื้อแสตมป์ เพื่อแปะโปสการ์ดส่งไปยังบ้านเกิด
หน้า post office มีตู้ไปรษณีย์หน้าตาแบบนี้ แปลกกว่าตู้ไปษณีย์ทั่วไป


หลังจากนั้นก็ let's go ลุยวัด Daigoji

ระหว่างทางไป เจอต้นซากุระเป็นระยะ




ที่วัดมีซากุระแบบยังไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่


สวยมะ?



ภาพนี้สวย ชอบ


หลังจากวัดนี้ เป้าหมายต่อไปคือวัด Ninnaji
บรรยากาศภายในรถไฟ


วัด Ninnaji








ผู้คนคึกคัก ต่างมาจับจองที่ใต้ต้นซากุระเพื่อทานอาหาร นั่งเล่น นั่งคุย เสพบรรยากาศ





หลังจากชักภาพถ่ายกันจนเต็มอิ่ม ได้เวลาโบกมือลา เพื่อเดินทางต่อ


เห็นลูกนี้สีสดดี เลยถ่ายมา ไม่รู้ลูกไร สีสรรมันฉูดฉาดมาก


มีหลายพันธุ์อะ ซากุระ


ภายในวัด Ryoanji





วัดนี้มีชื่อเสียงในด้านการจัดสวนแบบเซน เค้าว่ากันว่ามองแล้วสงบ แต่ทำไมเรามองแล้ว งง


สงสัยยังไม่บรรลุ

สงบกันมั๊ย





เพื่อนที่พาเที่ยว บอกว่า วันที่ไป คนเยอะมาก ความสงบเลยอาจไม่เกิด







ร่มรื่นดี ชอบ



ซากุระ ที่ร่วงตามพื้นหญ้าสีเขียว ประกอบกับเส้นสายของรากไม้
คนก็บอกกันว่ามองแล้วสงบ .... (เหรอ? นังคนนี้ออกแนวขวางโลก 555)


ดอกไม้น่ารัก








เก็บเกี่ยวความสงบจนอิ่ม มายืนรอรถเมล์ที่สถานี


เพื่อลุยต่อที่วัด Kinkakuji


เค้าเรียกกันว่าวัดทอง ที่เราเห็นมันทอง ๆ นั่น ทำจากทองจริง ๆ นะ


คนเยอะมาก กว่าจะได้รูปแบบที่พอใจ เล่นเอาปาดเหงื่อ

หลังจากวัดนี้ ก็เป็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็นได้ ทัวร์วัดต่าง ๆ เป็นอันจบเพียงเท่านี้ เพราะวัดทั่วไปส่วนมากจะปิดให้เข้าชมตอน 5 - 6 โมงเย็น

ห้างสรรพสินค้าที่นี่ส่วนมากก็ปิด 2 ทุ่ม

ฉะนั้นชีวิตต่างแดนในแดนซากุระ จึงไม่สามารถท่องราตรีได้

ท้องเริ่มหิว เลยไปหาอะไรกิน
มื้อแรกของที่นี่คือ

แต่น แตน แต๊น....
เรียกว่าไรไม่รู้ เรียกไม่เป็น


มีให้บดงาเองด้วย บดใหญ่เลย หนุก แปลก ไม่เคยทำ



จัดการอาหารค่ำเรียบร้อย

ก็เดินเล่นเรื่อย ๆ เจอนี่ ที่เค้าอาศัยเล่นตามถนน

ชอบเสื้อเค้าอะ แนวดี ชอบบบบบ


แม่น้ำนี้เพื่อนบอกว่า เส้นเดียวกับที่ถ่ายละครเรื่อง sapuri



พบกันใหม่ใน japan 2




 

Create Date : 29 เมษายน 2551    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2551 14:09:09 น.
Counter : 1362 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

me:ผู้หญิงในนิยาย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add me:ผู้หญิงในนิยาย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.