Group Blog
 
All Blogs
 

คนเดือนตุลาร่วม 200 คน ประกาศคว่ำรัฐธรรมนูญฉบับ คมช.

"ผมขอประกาศว่า เราคนเดือนตุลาได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น วันนี้คนเดือนตุลาคนใดก็ตามไปอยู่ข้างเผด็จการ ผมถือเป็นศัตรูของผมทั้งสิ้น และผมจะต่อสู้กับเขาทุกวิถีทาง แม้เราจะเคยร่วมต่อสู้ด้วยกันมาก็ตาม เพราะพวกเขาคือคนที่ทรยศต่อเพื่อน ๆ ที่เสียสละไปทั้งในเมืองและป่าเขา"

ชายร่างใหญ่คนหนึ่งประกาศก้องในห้อง 222 คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ บ่ายวันที่ 5 สิงหาคม 2550 ด้วยน้ำเสียงดุดัน รุนแรงและท้าทาย เขาเป็นหนึ่งในคนเดือนตุลาเกือบ 200 คนที่มาร่วมเสวนาในหัวข้อ “ท่าทีของคนเดือนตุลาต่อประชามติร่าง รธน.50” จัดโดย กลุ่มโดมรวมใจ, กลุ่มเพื่อน 14 ตุลา, กลุ่มเพื่อน 61 - เหนือ, กลุ่มเพื่อนสุราษฎร์, กลุ่มเพื่อนพัทลุง – ตรัง – สตูล และกลุ่มเพื่อนอีสานใต้ ประสานงานโดย ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ และดำเนินงานโดย ธนศักดิ์ ฤกษ์เจริญพร


การชุมนุมเสวนาครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่มีผู้เข้าร่วมอย่างหนาแน่นที่สุด หลังจากความร้าวฉานในหมู่ผองเพื่อนเกิดขึ้นและสั่งสมมานานตั้งแต่การจัดงานครบรอบ 30 ปีหกตุลาเมื่อปลายปีที่แล้ว เพราะกลุ่มคนเดือนตุลาจำนวนหนึ่งเข้าไปเป็นลูกสุมนของเครือข่ายล้มล้างประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหาร 19 กันยายน ภายใต้การชี้นำของเปรม หลายคนวางตัวไม่ถูก เพราะถูกกลุ่มคนที่เข้าไปสวามิภักดิ์เผด็จการตราหน้ากล่าวหาผู้ที่ต่อต้านการรัฐประหารที่ทำลายประชาธิปไตยไทยวันนั้นว่าเป็น "ลิ่วล้อทักษิณ" ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงผู้คัดค้านกบฏครั้งนี้ต่อต้านเพราะยึดมั่นในอุดมการณ์แห่งเดือนตุลาที่เรียกร้องประชาธิปไตยให้กับสังคมไทย และไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือพรรคไทยรักไทยแต่ประการใด บางคนเคยเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรในระยะต้นเสียด้วยซ้ำ แต่ถอนตัวออกมาทันทีเมื่อมีการเรียกร้องนายก ม.7 เพราะทุกคนพบว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรโจรนั้นความจริงกระทำโดยมีเบื้องหลังเพื่อทำลายรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตยเป็นหลัก แต่เมื่อแสดงตนว่าไม่เอา คมช. กลุ่มพวกพ้องที่ได้รับลาภยศจาก คมช.รวมทั้งมีสื่อมวลชนอยู่ในการสื่อสารก็พากันออกมากล่าวหาว่าเป็นลูกน้องทักษิณ หลายคนเครียด ไม่มีทางออกที่ชัดเจน บางคนเห็นแก่เพื่อน บางคนกังวลกับการกล่าวหา แต่ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า พวกตนไม่เอาเผด็จการทั้งสิ้น

ผู้คนร่วม 200 คนที่เข้าร่วมเสวนาในวันนี้ มีเพียงคนเดียวที่ออกมารับร่างรัฐธรรมนูญ เขาชื่อ ปราโมทย์ แต่ปรากฏว่าทุกถ้อยคำที่เขาเอามาให้เหตุผลนั้น ไม่ได้ต่างจากสิ่งที่คนอย่างจรัญ ภักดีธนากุล พูดออกมาในวันดีเบท ช่อง 11 และถูกฝ่ายประชาธิปไตย อย่าง ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ตอบโต้จนหน้าหงายไปแล้ว อีกสองร้อยคนที่เหลือ ต่างก็ได้มีโอกาสรับฟังความคิดเห็นของมิตรสหายหลายสิบคนที่ออกมาพูดจากันอย่างเปิดอก แสดงความคิดและเหตุผลที่ยอมรับได้และถูกต้องตามความจริงที่ควรจะเป็น ไม่ว่าที่มาของรัฐธรรมนูญ การหมกเม็ดเพื่อสร้างอมาตยาธิปไตยและศักดินานิยมอย่างสมบูรณ์แบบ การให้เสรีภาพจอมปลอม การเอาคนที่ชนชั้นปกครองแต่งตั้งขึ้นมามีอำนาจเหนือคนที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาเพื่อควบคุมไม่ให้ทำอะไรได้ ไปจนถึงการเตรียมการคดโกงการลงประชามติเพียงเพื่อให้รัฐธรรมนูญพิการฉบับนี้ออกมาให้ได้เพื่อฟอกตัวเผด็จการเท่านั้น ฯลฯ

ผลสรุปที่ออกมาในตอนท้ายของการเสวนาครั้งนี้ก็คือ 99% ของผู้มาร่วมสัมนา ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 และประกาศต่อต้านต่อไปในทุกรูปแบบ แม้จะมีการผ่านประชามติจอมปลอม เพราะทุกคนเชื่อว่านี่จะเป็นแค่ละครโรงใหญ่ที่ฝ่ายเผด็จการกำกับการแสดงและบังคับให้ประชาชนช่วยฟอกการกบฏและการกระทำที่ผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรมจรรยาของศักดินา อำมาตย์ และขุนศึกเผด็จการเท่านั้น

คนอย่าง วีระ สมความคิด ผู้เคยทำงานใกล้ชิดกับพวกแก๊งค์พันธมิตรและเป็นที่ปรึกษาของกลุ่มทรยศประชาชนประกาศต่อหน้าเพื่อนฝูงในห้องประชุมว่า ไม่รับรัฐธรรมนูญกบฏ ฉบับนี้แน่นอน ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง ดร.สุทธาชัย ยิ้มประเสริฐ ธนศักดิ์ ฤกษ์เจริญพร จัตุรนท์ คชสีห์ จรัล ดิษฐาพิชัย กุลชีพ วรพงษ์ ฯลฯ และแพทย์ พยาบาล อาจารย์มหาวิทยาลัย ข้าราชการ นักธุรกิจ NGO อีกหลายท่าน ศิลปิน นักโฆษณา นักวิชาการ แทบจะทุกสาขาอาชีพ ที่เคยใช้ชีวิตในวัยหนุ่มสาวต่อสู้กับเผด็จการเพื่อความถูกต้องเป็นธรรมในสังคม ไม่ว่าจะเป็นในเมือง ในสถานศึกษา หรือในแนวหน้าป่าเขา ประกาศยืนยันร่วมกันว่า

"ไม่เอารัฐธรรมนูญเผด็จการ คมช."

คนที่รักความเป็นธรรม ย่อมไม่มีใครรับกฎหมายสูงสุดที่ไร้ความเป็นธรรมได้ พวกเขาประกาศการต่อต้านเผด็จการอย่างเต็มที่อีกครั้งในวัยที่ส่วนใหญ่เกินกว่าเลขห้า และประกาศสนับสนุนคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่กำลังต่อสู้กับเผด็จการในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น นปก. คนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กลุ่ม 19 กันยา กลุ่มมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ และอีกหลายสิบกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวขับไล่เผด็จการอย่างเข้มแข็งอยู่ และความเป็นจริงก็คือพวกเขาจำนวนหนึ่งได้ร่วมทุ่มเททุกสิ่งให้กับการต่อสู้ครั้งนี้มาอย่างแข็งขันก่อนหน้านี้แล้วหลายเดือน

วันนี้พวกเขาลุกขึ้นแล้ว และประกาศต่อสู้ร่วมกับประชาชนอีกครั้ง เขาไม่หวังที่จะชี้นำการต่อสู้ แต่เขาพร้อมและตกลงที่จะทุ่มเทเพื่อเป็นแนวร่วมที่ดีเยี่ยมของพลังประชาธิปไตยอีกแนวร่วมหนึ่ง และจะไม่ยอมถอยจนกว่าบ้านเมืองนี้จะเป็นประชาธิปไตยดังที่วีรชนเดือนตุลาและพฤษภาทุกท่านได้ถมชีวิตและจิตวิญญานต่อสู้เพื่อให้ได้มาดั่งหวัง

นักประชาธิปไตยทุกท่านจงมั่นใจว่าท่านไม่เคยต้องสู้อย่างโดดเดี่ยว เพราะเป้าหมายสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้ของทุกคนตรงกันและเราจะเดินไปด้วยกัน




 

Create Date : 20 สิงหาคม 2550    
Last Update : 20 สิงหาคม 2550 19:14:18 น.
Counter : 328 Pageviews.  


my-op
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add my-op's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.