Bloggang.com : Jhaaenaja - ตอนที่ 2 ว่าด้วยภาคข้อมูลการเที่ยว+โปรแกรมการเที่ยวฮ่องกง

Bloggang.com : weblog for you and your gang

Group Blog

All blogs

ตอนที่ 2 ว่าด้วยภาคข้อมูลการเที่ยว+โปรแกรมการเที่ยวฮ่องกง

แหะๆ

เอ๋คงเล่าแค่ข้อมูลคร่าวๆนะคะ ไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรมากมาย

การขึ้นเรือ Turbo jet

เอาเป็นว่าเล่าถึงการขึ้นเรือ Turbo jet (Jetfoil) จากมาเก๊าไปฮ่องกงก่อนเลยละกันนะคะ

การซื้อตั๋วก็ให้ใช้เงินฮ่องกงดอลลาร์นะคะ เค้าไม่รับเงินสกุลมาเกีาค่ะ ค่าเรือก็คนละ 142 HKD ค่ะ รอบเช้าเรือจะออกทุกๆิ 15 นาทีค่ะ โดยเรือจะไปจอดที่ Sheung Wan ค่ะ

Sailing Schedule & Fare (คลิ๊กที่รูปเพื่อขยายใหญ่)

ซื้อตั๋วเสร็จก็ไปด้านในบริเวณจุดรอขึ้นเรือนะคะ เข้าไปก็กรอกใบ ตม.ขาออกมาเก๊าให้เรียบร้อยนะคะ ถ้าหายขอใหม่ได้ กรอกเสร็จก็ให้ไปต่อแถว Visitor ค่ะ ผ่านพิธีการ ตม. เสร็จแล้วก็ให้เข้าไปที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าเพื่อยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่เค้าแปะหมายเลขที่นั่งในเรือก่อนนะคะ ถ้าเค้าเห็นว่ามาด้วยกันเค้าก็จะให้นั่งด้วยกันค่ะ แล้วก็รอให้เค้าเปิดประตูให้นะคะ แล้วก็เอากระเป๋าไปเก็บไว้ที่ด้านหลังค่ะ เสร็จแล้วก็ไปนั่งประจำที่ได้

นั่งซักพักก็จะมีพนง.แจกใบ ตม.ขาเข้าฮ่องกงให้ค่ะ แต่เอ๋แนะนำว่ายังไม่ต้องกรอกก็ได้ เพราะขณะที่เรือแล่นมันจะโคลงเคลงมากๆๆ เริ่มอยากอาเจียน เวียนหัว (ถ้าไงกินยาแก้เมาไปก่อนก็ดีค่ะ) ฉะนั้นไปถึงฝั่งฮ่องกงแล้วค่อยเขียนใบขาเข้าฮ่องกงก็ได้ค่ะ คิวไม่ได้ยาวมาก

เมื่อถึงฝั่งฮ่องกง

ลงจากเรือแล้วก็ให้เดินตามทางไปเลยค่ะ เพื่อไปด่าน ตม.ของฮ่องกง จะมีป้ายบอกไว้ All arrivals เหมือนเดิมค่ะให้ไปต่อแถว Visitor

พอถึงตม. ก็ให้ยื่นใบ ตม.ขาเข้าฮ่องกง กับ passport ให้เจ้าหน้าที่ค่ะ

ซื้อบัตร Octopus Card แล้วไปที่พัก

ให้เดินต่อไปที่อาคารศูนย์การค้า Shun Tak Centre อาคารนี้จะเชื่อมติดกับด่านตม. เราต้องไปซื้อ Octopus Card ที่ MTR Sheung Wan ค่ะ วิธีไปก็เดินไปทางด้านขวามือจากตรงที่เราออกมาจาก ตม. ค่ะ แล้วก็ลงบันไดเลื่อนไปแค่ 1 ชั้นค่ะ จากนั้นเดินไปทางซ้ายเรื่อยๆ พอเจอบันไดเลื่อนก็ให้ลงบันไดเลื่อนไปจนถึงชั้นล่าง แล้วให้เดินออกไปจากตัวอาคาร ก็จะพบ MTR อยู่ตรงขวามือค่ะ

ประเภทบัตรปลาหมึกและราคา (Click ที่รูปเพื่อขยายใหญ่)

บัตรปลาหมึกแบบ Standard ราคาใบละ 150 HKD (เป็นค่ามัดจำบัตร 50 HKD) นะคะ จะ Top up บัตรที่นั่นเลย หรือจะไป Top up ที่ 7-11 ก็ได้นะคะ เติมเงินขั้นต่ำก็ครั้งละ 50 HKD ค่ะ

พกบัตรปลาหมึกแหละค่ะดี จะได้ไม่ต้องพกเหรียญ เอาไว้ใช้ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า แล้วก็ Peak Tram ได้ด้วย ที่สำคัญเอาไว้ซื้อของที่ 7-11 ได้ด้วยค่ัะ

แต่ถ้าหากเราคืนบัตร(กรณีใช้บัตรไม่ถึง 3 เดือน) เราจะได้เงินมัดจำคืนแค่ 43 HKD เพราะเค้าจะหักค่าใช้บัตรไม่ถึง 3 เดือน ไป 7 HKD ค่ะ(ก็ถือว่าคุ้มนะ แต่เอ๋ไม่ได้คืนค่ะ กะเอาไว้ใช้ครั้งหน้า)

แผนที่รถไฟใต้ดินฮ่องกง

กลับที่พัก (เอ๋พักที่ ตึก Sincere ที่ Mong Kok)

ให้นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Admiralty (จะลงที่สถานี Central ก็ได้ค่ะ แต่จะเดินไกลกว่าลงที่สถานี Admiralty เยอะเลย) เพื่อเปลี่ยนสาย Tsuen Wan ก่อนจะต่อไปยังสถานี Mong Kok แล้วใช้ทางออก D2

ออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าแล้วหันหน้าออกมาทางไหน ก็ให้ตรงไปทางนั้น(ออกมาแล้วไ่ม่ต้องเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา) ให้ข้ามถนนไปข้ามไปจนถึงบล็อกที่มีร้านลูกชิ้น ปลาหมึก และคิวรถตู้จอดอยู่ ให้เดินอีกค่ะจนถึงมุมถนนของบล็อกนี้ก็จะเห็น 7-11 อยู่อีกฝั่งของถนน เราไม่ต้องข้ามถนนไปแล้วนะคะ เราก็เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ นับเลยค่ะ เดินประมาณไม่เกิน 20 ก้าวก็จะเห็นทางเข้าตึกซินเซียร์(ตึกซินเซียร์เข้าได้ 2 ทาง) ตึกซินเซียร์เลขที่ 83 ค่อยๆดูนะคะ มันเป็นอาคารที่ทางขึ้นตึกไม่ได้ใหญ่มาก เดี๋ยวจะเลยไปซะก่อน

นี่ค่ะแผนที่ไป Sincere House (รูปไม่ชัด ก็คลิกที่รูปได้เลยค่ะ)

A : คือ Mong Kok Exit D2

เอ๋พักที่ Mei Mei ค่ะ ตอนที่จองไปนั้นไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตค่ะ ส่งเมล์ไปจองก่อนได้ แล้วค่อยไปจ่ายเงินตอนวันที่เข้าพัก แต่ัปัจจุบันต้องสมัครเป็นสมาชิกของ Paypal ก่อน คือตัดบัตรเครดิตเลย แต่ไม่ต้องซีเรียสนะคะตึกนั้นมี Hostel เพียบเลยค่ะ ดูจากป้ายหน้าทางเข้าก็ได้ค่ะ

เอ๋พักที่นี่ได้ค่าห้องไม่ถึง 250 HKD ค่ะ เจเจ๊แกลดให้ ถ้าเป็นคนไทยเจ๊แกลดให้เต็มที่เลยค่ะ อ้อ ! ไปพักที่นี่อย่าไปเรียกเจ้าของแกว่าเจ๊นะคะ แกชอบให้เราเรียกแกว่า "หม่าม๊า" มากกว่า รับรองแกบริการดีถึงใจเลยค่ะ

พักที่นี่ก็ไม่ต้องเอากุญแจหรอกค่ะ เพราะเราจะกลับดึกแค่ไหนเจ๊แกก็นอนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้าคอยเปิดประตูให้ตลอด แล้วถ้ากลับตอนดึกอย่ากดกริ่งหน้าประตูนะคะ ให้เรียกแกมาเปิดให้ เพราะเดี๋ยวมันจะรบกวนคนอื่นค่ะ ไม่ใช่ไรหรอกเดี๋ยวเจ๊แกว่าแล้วเราจะเสียความรู้สึก

ไปคราวหน้าเอ๋ก็จะนอนที่นี่แหละค่ะ สะอาด บริการดี เจ๊แกใจดีมากเลยค่ะ ถ้าเราฟังแกรู้เรื่องแกดีใจถึงขั้นกระโดกอดเลยค่ะ

ก่อนที่เราจะตัดสินใจวางโปรแกรมเที่ยวได้ เราก็ต้องศึกษาแผนที่ฮ่องกงกันก่อนค่ะ เพื่อจะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมาให้เสียเวลา และนี่ค่ะแผนที่ฮ่องกง ซึ่งเอ๋เอามาจาก Hongkongfanclub.com ของลุงเด้งและป้าไก่ค่ะ ขอบคุณค่ะป้าไก่กับลุงเด้งมากนะคะ

Click ที่รูปเพืื่อขยายใหญ่ด้วยนะคะ

โปรแกรมเที่ยวฮ่องกง (ไม่เน้นช้อปปิ้ง)

งั้นเรื่องสุดท้ายที่แนะนำก็คงเป็นเรื่องการจัดทริปเที่ยวในฮ่องกงค่ะ เพราะหลังจากเอ๋หาข้อมูล(ลอกข้อมูลชาวบ้านมา) แล้วเอามาปรับเองนิดหน่อยก็ได้ แผนเที่ยวฮ่องกงแบบนี้ค่ะ (มีรูปประกอบการเที่ยว)

วันที่1

วันแรก มาถึงก็บ่ายแล้วไปดิสนีย์แลนด์ ดูพลุไฟจนจบ แล้วไปกินข้าวที่ Temple Street แล้วเดินเล่นแถวนั้น กลับที่พัก นอน

วันที่2

วันที่สอง ไปวัดหวังไท่ซิน
, วัดนางชี , ไปสวน Nan Lian
แล้วไปไหว้พระวัดใหญ่โป๋หลิน โดยนั่งกระเช้านองปิง
เสร็จแล้วไปช้อปปิ้ง City Gate
ไปดูการแสดง แสง สี เสียง (SOL)
เดินเที่ยว Avenue of Stars
นั่งเรือชมอ่าววิวตอเรีย
ไป The Peak โดยนั่ง Peak tram ขึ้นไป
เดินเล่นที่ตลาดเลดี้มาร์เก็ตนิดหน่อย
กลับที่พัก

วันที่ 3

วันที่สาม ไป Repluse Bay ไปไหว้พระที่วัดทินหัว (Tin Hua)
ไปช้อปปิ้งที่ Tai Yuan Street ที่ Wan chai
กลับไปช้อปปิ้งรองเท้ากีฬาที่Fa Yaun Street
และช้อปปิ้งที่เลดี้มาร์เก็ต อีกรอบ
ไปเอาของที่ที่พัก แล้วนั่งรถ A21 ไปสนามบิน

ถ้าจะให้ดีก็ควรเป็นไปตามโปรแกรมนี้แหละค่ะ แต่ของเอ๋แอบมีสลับนิดหน่อยเนื่องจากตื่นสาย(สังเกตดูที่เสื้อผ้า) แต่จะก็รีวิวตามวันที่แพลนไว้ตอนแรกละกันนะคะ

height=33 type=audio/mid>