ชื่อจิตร ภูมิศักดิ์ เป็นนักคิดนักเขียน ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่ตน
"พร่างพรายแสงดวงดาวน้อยสกาว ส่องฟากฟ้าเด่นพราวไกลแสนไกล ดั่งโคมทองผ่องเรืองรุ่งในหทัย เหมือนธงชัยส่งนำจากห้วงทุกข์ทน..."
เสียงเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา" ส่องนำใจใครต่อใครมาหลายสิบปี ...ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิดหรอก หลายสิบปีแล้วจริงๆ... จิตร ภูมิศักดิ์ แต่งเพลงนี้ขณะถูกขังอยู่ในคุกลาดยาว ช่วงประมาณปี 2505
...แล้วเขาเข้าไปทำอะไรอยู่ในคุก ?...
ตุลาคม 2501 จิตร ภูมิศักดิ์ ซึ่งเป็นอาจารย์วิทยาลัยครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ และเป็นอาจารย์พิเศษคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ถูกจับในข้อหา "มีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์" และ "สมคบกันกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร"
ทบทวนประวัติศาสตร์ไทยกันสักนิด ช่วงนั้น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เพิ่งยึดอำนาจจาก จอมพลแปลก พิบูลสงคราม ซึ่งอยู่ในอำนาจมานับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองก็ว่าได้ โลกช่วงนั้นแบ่งเป็นขั้วมหาอำนาจจักรวรรดินิยมอเมริกัน ซึ่งผงาดขึ้นมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง กับขั้วมหาอำนาจคอมมิวนิสต์โซเวียต ซึ่งแผ่ขยายเข้าไปครอบคลุมยุโรปตะวันออก และอีกหลายประเทศรายรอบรัสเซีย
ในขณะที่จอมพล ป. ดำเนินนโยบายชาตินิยม ไม่สนใจไม่ยอมตามอเมริกา นโยบายของจอมพลสฤษดิ์เป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม คือติดตามอเมริกาอย่างใกล้ชิด การตั้งสภาพัฒน์ก็เกิดขึ้นมาในช่วงนี้ โดยการชี้นำของสหรัฐ ผ่าน "คำแนะนำ" ของธนาคารโลก ซึ่งได้เงินเกือบทั้งหมดมาจากรัฐบาลอเมริกา
...แล้วทำไมถึงต้องจับจิตร ภูมิศักดิ์ เขาเป็นคอมมิวนิสต์จริงหรือ ?...
จอมพลสฤษดิ์ใช้วิธี "เหวี่ยงแห" จับคนที่น่าสงสัยมาให้หมด ถ้าจับมา 10 คนแล้วมีคอมมิวนิสต์ติดมาสักคน ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว สิ้นปี 2507 ศาลกลาโหมตัดสินยกฟ้อง จิตร ภูมิศักดิ์ได้รับการปล่อยตัวในฐานะผู้บริสุทธิ์ เขาถูกขังฟรีไปกว่า 6 ปี
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่อยู่ในคุกลาดยาว เป็นช่วงที่จิตร ภูมิศักดิ์สร้างสรรค์งานเขียนอันทรงคุณค่าเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแต่เพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา" ซึ่งนำมาเผยแพร่ในวงกว้างโดยวง "คาราวาน" และร้องกันในหมู่นักกิจกรรมและนักศึกษาทั่วประเทศไทย แต่ยังมีงานเขียนทั้งในเชิงวิชาการคือ "ความเป็นมาของคำสยาม ไทย ลาว และขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ" ซึ่งเป็นงานเขียนที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งแม้ในปัจจุบัน และงานแปลนิยายสะท้อนสังคมอันลึกซึ้งเรื่อง "แม่" ของแมกซิม กอร์กี้ และงานอื่นๆ อีกมากมาย
ที่จิตร ภูมิศักดิ์ ติดเข้าไปใน "แห" ด้วย ที่จริงก็ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะจิตรเป็นอาจารย์ที่ไม่ได้สอนตามหนังสือ แต่สอนด้วยจิตสำนึกของการรับใช้สังคม ช่วงที่จิตร ภูมิศักดิ์เป็นอาจารย์พิเศษที่ศิลปากร หนังสือรับน้องของศิลปากรปี 2500 "แตกต่าง" ไปจากที่เคยเป็นมา เต็มเปี่ยมไปด้วยบทความที่ชี้ให้เห็นว่า "ศิลปะต้องเกื้อเพื่อชีวิต" รวมถึงบทความของจิตรเองในนามปากกา "ทวีปวร" เรื่อง "ศิลปะเพื่อชีวิต" ซึ่งเป็นที่อ้างถึงมาจนปัจจุบัน
ไม่น่าแปลกใจ เมื่อมองย้อนกลับไปในปี 2496 สมัยที่จิตร ภูมิศักดิ์ยังเป็นนิสิตชั้นปีที่ 3 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะนั้นจิตรดำรงตำแหน่งสาราณียกรของสโมสรนิสิต รับผิดชอบจัดทำหนังสืออนุสรณ์ 23 ตุลา ซึ่งในปีนั้น "แตกต่าง" จากที่เคยมีมาอย่างน่าตกใจ
หนังสืออนุสรณ์ 23 ตุลาในปีนั้น หันกลับมาหา "ประชาชน" และชี้ให้นิสิตจุฬาฯ "เห็น" ถึงความเป็นไปในสังคมช่วงนั้น ซึ่งอยู่ภายใต้รัฐบาลที่มีอำนาจ "เบ็ดเสร็จ" ของจอมพล ป. เนื้อหาในเล่มมีแต่เรื่องราว "น่าตกใจ" ที่คนส่ววนใหญ่ในสมัยนั้น "รับไม่ได้" หรือไม่ยอมรับ เช่น
- วิจารณ์การใช้พุทธศาสนาบังหน้าทำมาหากินและการทำบุญแบบไม่จำเป็น
- งานแปลของนักปฏิวัติที่มีชื่อเสียง เช่น วอลแตร์ รุสโซ
- แปลข่าวของต่างประเทศที่เปิดโปงการค้าฝิ่นและการโกงกินของรัฐบาลไทย
- บทความโต้การรณรงค์ของกรมประชาสัมพันธ์ที่ประณามคนยากจนว่าเป็นผู้เกียจคร้าน
- ข้อความชักชวนให้นิสิตจุฬาฯ น้อมรำลึกถึงบุณคุณของกรรมกรผู้สร้างตึกจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงประชาชนผู้เสียภาษี
หนังสืออนุสรณ์อันแหวกแนว ทำให้เกิดการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดชอบขึ้นที่หอประชุมจุฬาฯ และที่นี่เองที่จิตรถูกนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์จับ "โยนบก" ลงจากเวที จนได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลไปหลายวัน
...เขาจึงต่อสู้อยู่ข้างคนทุกข์เข็ญ ได้เห็น ได้เขียนพูดจา คุกขังเขาได้แต่หัวใจอย่าปรารถนา...*
เป็นเพราะเหตุนี้ ที่เขาระเห็จเข้าไปเขียนงานอยู่ในลาดยาวเสียหลายปี แม้ว่าก่อนเข้าไปในคุกเขาจะไม่ได้เป็นคอมมิวนิสต์ แต่การ "รับใช้ประชาชน" ของเขา ก็คงไม่สบอารมณ์ "รัฐ" ในสมัยนั้นเป็นแน่ ยิ่งเป็น "รัฐ" ที่ไม่เชื่อในประชาชน และวางตัวอยู่เหนือประชาชนด้วยแล้ว
อย่างไรก็ตาม วิญญาณนักกิจกรรมเพื่อสังคมคงอยู่กับเขา ไม่ว่าจิตรจะอยู่ที่ไหน ในคุกลาดยาวเต็มไปด้วยนักศึกษา ปัญญาชน นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ นักสังคมนิยม และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ตัวจริง จิตร ภูมิศักดิ์ได้ร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนร่วมคุก และเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา" ก็ได้ฉายโชนอาบใจ ให้ความหวังกับเพื่อนนักกิจกรรมอีกมากมายหลายคน
ปี 2508 หลังออกจากคุก จิตรมุ่งหน้าเข้าป่า ร่วมเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (สมกับที่ถูกจับไปขังเสียกว่า 6 ปี) ทำงานมวลชนอยู่ในเขตภูพาน คือแถบนครพนม สกลนคร ปีนี้เป็นปีที่ "เสียงปืนแตก" คือกองทหารป่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ากวาดล้างด้วยกำลังเป็นครั้งแรก เปิดฉากการสู้รบระหว่างรัฐบาลกับพรรคคอมมิวนิสต์นับแต่นั้นมา
4 พฤษภาคม 2509 ระหว่างเดินทางเพื่อทำงานมวลชน จิตรและสหายถูกล้อมปราบโดยทางราชการ พวกเขาหลบหนีหิวโซไปจนถึงชายป่าบ้านหนองกุง รุ่งเช้าวันที่ 5 จิตรเข้าไปขอข้าวในหมู่บ้าน ชาวบ้านลอบแจ้งกำนัน ซึ่งพากำลังติดตามมาจนทัน จิตรและเพื่อนถูกล้อมยิงตายในชายป่าเช้าวันนั้นเอง
...ศพคนนี้ นี่หรือ คือจิตร ภูมิศักดิ์ ศพคนนี้ นี่หรือ คือจิตร ภูมิศักดิ์ ตายคาหลักเขตป่ากับนาคร...*
ป่า กับ นาคร อาจหมายถึง ป่าที่จิตรและเพื่อนกำลังจะหลบหนีไปสู่ กับ หมู่บ้านที่เขาเข้าไปขอข้าว
ป่า กับ นาคร อาจหมายถึง กองทหารป่าของ พคท. กับ กองกำลังของรัฐ อำนาจของทางราชการ
ป่า กับ นาคร อาจหมายถึง เสรีภาพ ที่วิญญาณนักกิจกรรมคนหนึ่งแสวงหา กับ การครอบงำ...
เขาตายเหมือนไร้ค่า แต่ต่อมาก้องนาม ผู้คนไถ่ถามอยากเรียน ชื่อจิตร ภูมิศักดิ์ เป็นนักคิดนักเขียน ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่ตน*
เดือนพฤษภาคมอีกแล้ว... ปีนี้ 2548 นับดูก็ได้ 39 ปีแล้ว จากวันที่จิตรจากไป ปีหน้าก็จะครบ 40 ปี โลกยังหมุน สังคมไทยยังเดินทางต่อไป จิตวิญญาณของนักกิจกรรมยังระอุอุ่นอยู่อยู่ในหัวใจผู้คน วันใดที่ฟ้ามืด ผู้คนยังคงมองหาแสงดาวที่หลบเร้นจนเจอเสมอ
หรือคุณว่าไม่จริง...
ขอเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย แม้ผืนฝ้ามืดดับเดือนลับละลาย ดาวยังพรายศรัทธาเย้ยฟ้าดิน ดาวยังพรายอยู่จนฟ้ารุ่งราง...
ด้วยศรัทธาและอาทร 13.05.48
* จากเพลง จิตร ภูมิศักดิ์ โดยวง คาราวาน
แหล่งข้อมูล
เรื่องสืบเนื่อง
Create Date : 11 มิถุนายน 2548 | | |
Last Update : 12 สิงหาคม 2548 15:06:26 น. |
Counter : 1456 Pageviews. |
| |
|
|
|