Group Blog
 
All blogs
 

ข้อเสียและปัญหาในหมาแต่ละพันธุ์

1. อาฟกัน ฮาวน์ด
Photobucket

เห็นท่าทางสะโอดสะองเช่นนี้ แต่เรื่องความแข็งแรงทรหดบึกบึนแล้วกลับตรงกันข้ามกับภาพที่ปรากฏ นัยว่าทนฟ้าทนฝนดีนัก แต่จิตใจค่อนข้างอ่อนไหวได้ง่ายจึงต้องการความรักและเอาใจใส่จากเจ้าของมากเป็นพิเศษ อีกสิ่งที่จะลืมมิได้คือการแปรงขน ต้องกระทำทุกวันเรียกว่าเป็นกิจวัตรประจำวัน หากไม่ได้แปรงขนก็มักพันกัน ยากแก่การแก้ไข อาฟกันฮาวน์ดที่มีน้ำหนักตัวมาก หรืออ้วนกะโหลกศรีษะใหญ่กว้างไม่เรียวแหลมปากสั้น ตาโต คอหนาและสั้น ล้วนจัดเป็นพวกไม่ได้มาตรฐานทั้งสิ้น

2.บาสเซ็ท ฮาวน์ด
Photobucket

สายพันธุ์ของบาสเซ็ทเป็นหมาล่าเนื้อมันจึงชอบสูดดมตามพื้นดินเพื่อสะกดรอย และก็มักที่จะหายใจเอาเชื้อโรคตามพื้นเข้าไปได้ง่าย เสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเดินหายใจ ดังนั้นควรหมั่นพาไปหาหมอเพื่อเช็กสุขภาพ "ใบหู" สิ่งที่เป็นจุดเด่นของหมาพันธุ์นี้ก็มีส่วนก่อปัญหา คือมักจะจุ่มลงไปในชามข้าวเสมอทำให้สกปรกเปรอะเปื้อนขณะกินข้าวเศษอาหารที่ติดหมักหมม จึงเป็นบ่อเกิดของเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียจึงอาจแก้ไขได้โดยการใช้ปากชามแคบแต่ลึกเพื่อป้องกันใบหูลงไปเปะปะกับอาหาร นอกจากนี้แล้วเจ้าของต้องหมั่นเช็คใบหูและรูหูเป็นประจำอีกด้วยลักษณะที่ถือเป็นลักษณะไม่ดีหรือไม่ถูกต้องคือ หูตั้งเกินไป หลังแอ่นหรือขึ้นเป็นสัน ขนยาวและอกแคบหรือตอบ

3.บ๊อกเซอร์
Photobucket

ปัญหาสุขภาพของหมาพันธุ์นี้ที่พบบ่อยคือ โรคผิวหนังอาจพบอาการแพ้เป็นตุ่มคัน ขนร่วง หรือแม้แต่เนื้องอกบนผิวหนังก็เป็นได้บ่อย ฉะนั้นจึงควรปรีกษาหมอหมาใกล้บ้านท่าน หมั่นตรวจดูปาก เหงือก และฟัน ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่มีรายงานว่าหมาบ๊อกเซอร์ที่มีอายุมากขึ้น มักป่วยเป็นโรคไขข้ออีกเสบหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรพาไปหาหมอ ส่วนลักษณะไม่ดีคือหุบปากไม่สนิทมีลิ้นและฟันโผล่ ออกมา หลังแอ่น มีขนยาวตามเท้า สีตัวขาวหรือดำ

4.บลูด๊อก
Photobucket

จัดว่าเป็นหมาที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บประจำตัวอะไรนักนอกเสียจากระบบหายใจของบลูด๊อกทึ่ค่อนข้างแปลก คือ จมูกสั้น และมีน้ำลายไหลมากกว่าหมาอื่น ทำให้สำลักน้ำลายบ่อย ๆ บางครั้งก็ส่งเสียงครางครืดคราดในลำคอ คล้ายคนมีเสลดพันคออย่างนั้นแหละ บริเวณหลืบหนังเหนือจมูกเป็นที่สะสมความสกปรกดีนัก พอ ๆ กับใบหูที่ม้วนเป็นกลีบกุหลาบ เจ้าของควรทำความสะอาดโดยใช้สำลีชุบน้ำเช็ดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จะทำให้มีกลิ่นสะอาดได้ บลูด๊อกตัวใดที่หูตั้ง หางยาวหุบปากแล้วยังเห็นลิ้น

5.ชิวาวา
Photobucket

แม้จะตัวจิ๋วก็มีสิ่งที่ต้องระวังคือความอ้วน จึงควรควบคุมอาหารให้พอเหมาะ อย่าให้กินมากเกินไปและต้องพาออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ฟันของชิวาวามักมีหินปูนจับบ่อย ทำให้ต้องพาไปหาหมอ(หมา) ปีละ1-2ครั้ง เพื่อตรวจดูถ้ามีมากก็ขูดเสียดีกว่า จะปล่อยทิ้งไว้ให้เหงือกอักเสบและปากเหม็นเน่า ชิวาวาที่ใบหูตก หางสั้น หรือตัวอ้วนปุกเกินขนาด ล้วนไม่เข้าเกณฑ์มาตราฐานทั้งสิ้น

6.เชา เชา
Photobucket

เชา เชาที่เลี้ยงในบ้านเรามักก่อปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมอยู่เสมอ ที่สำคัญคือ ความก้าวร้าวและดุร้าย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสืบเนื่องมาจากการเลี้ยงดูเอาใจใส่ของเจ้าของอย่างไม่ถูกวิธีแทบทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังพบว่า เชา เชา มีโรคประจำตัวคือผิวหนัง อักเสบ มีน้ำเหลืองเยิ้ม กระดูกข้อต่อของช่วงขาไม่แข็งแรงและการม้วนกลับของหนังตาทำให้ขนตากลับไปทิ่มแทงลูกตา แต่ก็สามารถแก้ไขโดยการผ่าตัดข้อเสียของ เชา เชา คือหูตก ลิ้นมีจุดด่างสีชมพู หางตกหรือ หางไม่โค้งขึ้นมาบนหลัง สีจมูกไม่ดำและมีขนสีอื่นแซมตามตัว

7.ค็อกเกอร์ สแปนเนี่ยล
Photobucket

มีดวงตาที่อ่อนไหวต่อการติดเชื้อได้ง่ายมักพบว่าเกิดอาการอักเสบ ตาแดง มีหนองหรือขี้ตา น้ำตาไหลบ่อย ๆ อยู่เสมอดังนั้นจึงต้องหมั่นรักษาความ สะอาดและตรวจดูตาเป็นประจำ หมาพันธุ์นี้ยังเป็นพันธุ์ที่ผลิตขึ้หูออกมาเป็นพิเศษ ทำให้เจ้าของต้องเช็ดรูหูทุก 2-3วันครั้ง หากทิ้งให้หมักหมมจะเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียตามมา และความที่มีขนเส้นเล็กแต่ยาวเป็นจำนวนมากทำให้ต้องได้รับการแปรงและทำความสะอาดทุกวัน ค็อกเกอร์ สแปเนี่ยลตัวใดที่มีหัวใหญ่แบนหรือกลมเกินไป ขนหยิกหยองเส้นขนละเอียดมากหรือหยาบ จนเป็นเส้นลวดแล้วละก็นับว่าผิดกติกาของพันธุ์เป็นอย่างมากกระทั่งยอมรับไม่ได้

8.ดัชชุน
Photobucket

หมาชูชก ชอบกินอย่างไม่บันยะบันยัง เจออะไรขวางหน้าเป็นฟาดเรียบ ดังนั้นเจ้าของต้องคอยควบคุมเรื่องปริมาณอาหารที่กิน มิฉะนั้นจะอ้วนจนพุงย้อยลากติดดิน ดัชชุนที่อายุมาก ๆอาจพบอาการอัมพาตของขาหลัง เนื่องจากหมอนรองกระดูกไปกดไขประสาทสันหลัง ดัชชุนบางตัวมีอารมณ์เกรี้ยวกราดรุนแรงและดุมากซึ่งนับเป็นบุคคลิกที่ไม่ดีไม่ควรนำไปเป็นพันธุ์

9.ดัลเมเชี่ยน
Photobucket

โรค ภัยน้อยเหลือเกิน แต่อย่าให้ขาดการออกกำลังเพราะหมาพันธุ์นี้ชอบกระโดดโลดเต้นในที่กว้างเป็น อย่างมาก อาจพบว่าบางตัวมีอาการหูหนวกมาแต่กำเนิดซึ่งสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ และในหมาที่โตแล้วมีโอกาสป่วยเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะอยู่ไม่น้อย การมีแต้มดำบนพื้นขาวในลูกสุนัขเกิดใหม่นั้น บางครั้งจะยังไม่พบว่ามีแต้มแต่อย่าตกใจรอไปจนอายุมากขึ้นก็จะมีแต้มดำสม ความต้องการ

10.โดเบอร์แมน พินเชอร์
Photobucket

ขี้เรื้อนมีตัวที่เรียกว่า ดีโมเด็กซ์ดูจะอยู่คู่กับโดเบอร์แมน พินเชอร์ตลอดไป จัดว่าเป็นคู่กัดที่เหนียวแน่นคู่หนึ่ง แต่ปัจจุบันการรักษาได้พัฒนาไปมากโอกาสหายจากโรคค่อนข้างสูงกว่าแต่ก่อน ลักษณะไม่ดีของหมาพันธุ์นี้คือ อ้วนใหญ่เกินไป หัวกลม ปากสั้น และนิสัยหวาดระแวงหรือตื่นเต้นง่ายเกินเหตุขนาด ก็คือ ประสาทนั่นเอง

11.เยอรมัน เชพเพิร์ด
Photobucket

เบ้ากระดูกเชิงกรานหลวม หรือ HIP DYSPLASIA เป็น ความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และมีความสำคัญในหมาเยอรมัน เชพเพิร์ดมากดังนั้นจึงจำเป็นต้องผ่านการตรวจรับรองว่าปราศจากโรคนี้เสีย ก่อนที่จะการซื้อขาย หรือนำไปผสมพันธุ์

12.เกรท เดน
Photobucket

หมายักษ์พันธุ์นี้ต้องการการออกกำลังอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง ที่กำลังเจริญเติบโตคือเป็นลูกหมาจนถึงวัยรุ่น กินเวลาเติบโตทั้งสิ้นกว่า 20 เดือน เกรท เดนมีร่างยักษ์เช่นนี้ อาหารการกินจำต้องให้มีคุณภาพและ ปริมาณที่มากเพียงพอด้วย หากมัวแต่ประหยัดกลัวจนเพราะหมาอยู่ละก็ มีหวังโตแต่หัวแน่ เกรท เดน ที่มีหัวกลม คอสั้น ขาสั้น หลังโก่ง ขนยาว หางยาว ล้วนเป็นกาลกิณีทั้งสิ้น


13.มินิเจอร์ พินเชอร์
Photobucket

ด้วยขนที่สั้นเกรียนและรูปร่างสมส่วนกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ทำให้มองคล้ายกับกระจง ซึ่งวิ่งเล่นอย่างคล่องแคล่วโรคภัยไข้เจ็บไม่สู้จะมี นอกจากโรคหนึ่งที่คล้ายกับสหายร่วมชาติของเขาคือ โดเบอร์แมน พินเชอร์ ได้แก่ขี้เรื้อนดีโมเด็กซ์ นั่นเอง หมาพันธุ์นี้ถ้าขนาดตัวเล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไป ตาโตเกินไป หัวแบนหรือกลมโด่งเกินไป หลังโก่งช่วงตัวยาวมาก ฟันขบไม่สนิทขนยาวมาก หรือผิวหนังย่นยับ ล้วนผิดมาตราฐานยี่ห้อมินิเจอร์พินเชอร์ทั้งสิ้น

14.ปักกิ่ง
Photobucket

หมาปักกิ่งมีจุดอ่อนที่ตาเป็นอย่างมาก เพราะความที่มันกลมดตและโปนถลนออกมาจากเบ้ามากนั่นเอง ทำให้โอกาสจะหลุดเป็นไปได้สูง เช่นตกใจสุดขีด โดนกัดหรือแม้แต่ไอจามอย่างรุนแรงก็ตามที ในระยะที่หลุดออกมาใหม่ ๆ ถ้ารับพาไปหาหมออาจทำการยัดกลับเข้าที่และเย็บตรึงไว้ แต่ยิ่งถ้าทิ้งไว้เนิ่นนานจะทำให้เยียวยาลำบากยิ่งขึ้น หมาปักกิ่งที่ผิดจากตำราคือ มีปากยาว หูตั้ง ตาเล็กหางกุดหรือไม่โค้งขึ้นบนด้านหลังขายาว ลำตัวสั้น

15.ปอมเมอเรเนี่ยน
Photobucket

โรคฟันดูจะมีความสำคัญต่อหมาปอมเมอเรเนี่ยนมาก โดยเฉพาะหินปูนที่เกาะง่าย มิหนำซ้ำยังมีโรคของข้อและกระดูกที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมอีกคือเบ้ากระดูกเชิงกรานหลวม และสะบ้าหลุดง่าย ลักษณะของปอมเมอเรเนี่ยนที่ไม่นิยมคือ หัวทุย ตาโตมาก ใบหูตกหรือขนาดใหญ่ไป หางสั้นและไม่เป็นพวงโต ขนตามตัวไม่ฟูฟ่องหากกลับยาวแต่พับไม่มา

16.พูเดิ้ล
Photobucket

พูเดิ้ลหมาเจ้าสังคม ไม่ใช่สังคมหมานะ แต่มักเป็นสังคมของคน ดังนั้น ความอ่อนไหวจิตใจจึงเกิดขึ้นได้ง่ายมากและโน้มนำให้เกิดอาการทางประสาทอยู่บ่อย ๆ ปัญหาทางพันธุกรรมที่ผิดปกติเช่น เห่า หอน หรือร้องเรียกความสนใจ อาการกัดและเกาเพื่อทำร้ายตัวเอง หรือแม้แต่ซีมไม่กินอาหารเนื่องจากโรคทางจิตใจที่พบอยู่ได้บ่อย ๆ ส่วนโรคทางกายที่พบเห็นเสมอคือ โรคหัวใจ ไม่ว่าจะหัวใจโตเส้นเลือดหัวใจตีบทำให้มีอาการเป็นลมล้มฟุบไปเสียเฉย

17.ร็อทไวเรอร์
Photobucket

ความ ยักษ์ของมันทำให้ต้องพาไปออกกำลังกลางแจ้งอยู่เสมอ ๆหาก ถูกจำกัดบริเวณหรือล่ามโซ่แล้วจะทำให้หมาพันธุ์นี้เศร้าหมองและสุขภาพไม่ แข็งแรงตามมา ความควบคุมอาหารอย่าให้กินมากไปจนอ้วนเกินขนาดซึ่งนับเป็นลักษณะไม่ดี ร็อทไวเลอร์ที่มีขนยาวและหยิก หลังโก่ง พุงย้อย ขาโก่ง ตาสีเหลืองหรือสีฟ้า อีกทั้งอารมณ์หงุดหงิดง่ายล้วนเป็นลักษณะไม่พึงปราถนาเช่นกัน

18.เซนต์ เบอร์นาร์ด
Photobucket

ปัญหา ของหมาพันธุ์ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายคือสะโพก ทำให้ต้องตรวจเช็กว่าปราศจากลักษณะเบ้ากระดูกเชิงกรานหลวม เซนท์เบอร์นาร์ดก็เช่นกันมิได้ยกเว้นเลย นอกไปจากนี้ยังต้องพาเขาออกกำลังให้มาก พลังงานที่ใช้ไปต้องสมดุลกับพลังงานที่ได้รับมาจากอาหารมิฉะนั้นแล้วอาจอ้วน เกินขนาด หมาเซนท์เบอร์นาร์ดที่มีหน้าและปากแหลม หูตั้ง หัวแบน ขนหยิกหยอง สีตัวเข้ม นับเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามลักษณะประจำพันธุ์ทั้งสิ้น

19.เทอร์เรีย
Photobucket

ขน รุงรังนี่เองที่ทำให้เจ้าของต้องหมี่นแปรงเป็นประจำทุกวันหากลืมเมื่อใดเป็น พันกันอีนุงตุงนัง หากทิ้งไว้นาน ๆ เข้า จึงเกิดโรคผิวหนังอักเสบตามมา ข้อควรระวังของ สก็อตทิช เทอร์เรียคือโรคผิวหนังและเลี้ยงอ้วนเกินไปส่วนยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย คือปากเหม็นเนื่องจากฟันผุหินปูนเกาะมากมายจนทำให้เหงือกอักเสบ ลักษณะที่ไม่ดีของหมาเทอร์เรีย คือตาโตโปน หูตก ตัวสูงใหญ่เกินขนาดและขนสั้นหยิกขอดติดผิวหนัง

20.หมาไทย
Photobucket

"หูตั้ง หางดาบ"คือพื้นฐานของลักษณะหมาไทยที่เราทั่วไปรู้กันดี หากหูตก หางพวง หรือหูตั้ง ๆ ตก ๆหางขอดหางสั้นละก็ใช้ไม่ได้แน่ถือว่าผิดเผ่าพันธุ์หากมีอานก็ต้องถูกต้องตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ สีตัวต้องไม่มีสีแซมยกเว้นการมีปากมอม ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญอันหนึ่ง ปัญหาที่พบบ่อย ๆ ของหมาไทยก็คือ ความมีใจอิสระของเขาทำให้ออกเที่ยวเตร่ทั่วไป เมื่อกลับมาบ้านมักจะนำบาดแผลตามตัวทั้งร่างมาฝากเจ้านาย ให้ช่วยเยียวยารักษาเป็นนิจศีล เนื่องด้วยเลือดนักสู้มากเหลือเกินออกไปพบพานหมาตัวอื่นผิดหู ผิดกลิ่น ผิดถิ่น ขึ้นมาเป็นฟัดกันจมเขี้ยวเลือดอาบเชียว

เมื่อทราบข้อเสียและปัญหาของสุนัขแต่ละพันธุ์แล้ว ก็คงจะง่ายต่อการเลือกหาสุนัขมาเลี้ยงมากขึ้นนะคะ ทุกพันธุ์ก็มีข้อเสียแตกต่างกันไป ก็เหมือนคนเราแหละค่ะ ทุกคนก็มีข้อเสีย เวลาเราจะเลือกคนรักซักคน เราก็ต้องเลือกคนที่เค้ามีข้อเสียที่เรารับได้มากที่สุด ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้นค่ะ การเลือกสุนัขก็เหมือนกัน ยังดีนะคะที่คนเรามีสิทธิ์ที่จะเลือก คิดดูสิคะ สัตว์เลี้ยงไม่มีสิทธิ์เลือกเจ้าของบ้างเลย เพราะฉะนั้นก็เห็นใจสัตว์เลี้ยงตัวน้อย ๆ ที่มีชีวิตจิตใจด้วยนะคะ ทำตัวเป็นเจ้าของที่น่ารักและมีข้อเสียน้อยที่สุดกันดีกว่าค่ะ


ขอบคุณที่มา : //www.ytona.com











 

Create Date : 18 มกราคม 2553    
Last Update : 18 มกราคม 2553 21:47:55 น.
Counter : 5005 Pageviews.  

กระดูกมหาภัย

หมากับกระดูก ดูจะเป็นของโปรด หรือเป็นของคู่กันในชีวิตจริงมาทุกยุคทุกสมัยเลย อย่าว่าแต่ชีวิตจริงเลย บ่อยครั้งในการ์ตูนวอล์ทดีสนีย์ สิ่งที่อยู่คู่ปากหรือข้างตัวเหล่าบรรดาหมาดาราทั้งหลายก็คงไม่พ้นกระดูกนี่ หละเป็นสำคัญ เคยมีท่านผู้อ่านถามผู้เขียนว่าทำไมหมาจึงชอบกระดูก ผู้เขียนก็ตอบไปตามจริงว่าไม่ทราบ ด้วยไม่รู้จริงๆ ในพฤติกรรมหลายประการของมัน แม้จะเลี้ยงคลุกคลีอยู่กับพวกมันอยู่เสมอ แต่ที่ดูมั่นใจก็คือระหว่างเนื้อกับกระดูก คงไม่มีหมาตัวไหนเลือกกินกระดูกก่อนเป็นแน่ (เพียงแต่ส่วนมากมันไม่มีโอกาสเลือกต่างหาก) อย่างไรก็ดี ไม่ว่าหมาหรือคนคงถือคติเดียวกันที่ว่า ได้น้อยย่อมดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
กระดูก เป็นอวัยวะที่มีองค์ประกอบของแคลเซี่ยมเป็นหลัก เป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุดส่วนหนึ่งในร่างกายสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหมู กระดูกเป็ด กระดูกไก่ กระดูกคนหรือกระดูกอะไรก็ตามแต่ การแทะกระดูกของหมาจึงให้ผลนอกจากด้านการช่วยขัดฟันให้มันแล้ว ยังให้แคลเซี่ยมแก่เจ้าตูบด้วย แต่ท่านผู้อ่านทราบไหมคะว่าการกินกระดูกชนิดต่างๆ นอกจากจะให้คุณตามที่กล่าวแล้วก็มีอันตรายและข้อควรระวังอยู่ไม่น้อย
เรา มาเริ่มจากกระดูกหมู แหล่งโภชนาการยอดนิยมที่ว่ากันว่าให้ประโยชน์สูงสุดในกระบวนสัตว์ด้วยกัน (คือใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน) ท่านผู้อ่านหลายท่านเวลารับประทานอาหารที่ปรุงจากเนื้อหมู เมื่อมีกระดูกเหลือ มักจะโยนกระดูกให้หมากิน หากเป็นกระดูกชิ้นโตสักหน่อย ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะหมาจะคาบไปนั่งแทะนอนแทะ แต่หากเป็นกระดูกชิ้นเล็กๆ พอดีคำ หรือไปเจอตัวที่ตะกละก็กลืนไปเลย บางบ้านเลี้ยงหมาไว้หลายตัว การมีมารยาทหรือเป็นสุภาพหมาคงอดตาย พอเข้าปากปุ๊บกระดูกก็จะถูกกลืนลงท้องไปในทันทีไม่มีรีรอ ลองคิดดูซิว่ากระดูกแข็งๆ ที่บางครั้งทำเอาฟันเราเกือบหัก จะทำให้กระเพาะอาหารเจ้าตูบทำงานหนักขนาดไหน โดยเฉพาะเมื่อไม่ถูกบดให้ละเอียดด้วยฟันเสียก่อน
อย่างไร ก็ดีการกินกระดูกหมูยังดีกว่าการกินกระดูกเป็ด กระดูกไก่ลองไปถามสัตวแพทย์ที่คุ้นเคยดู กี่คนก็คงส่ายหน้าและไม่แนะนำให้กิน นอกจากจะได้รับการบดให้ละเอียดเสียก่อน (ซึ่งก็คงไม่มีใครเสียเวลาทำ) ส่วนสาเหตุนั้นก็ง่ายๆ ลองสังเกตดูเวลาที่เรากินไก่ย่าง เป็ดพะโล้ แล้วพยายามแทะกระดูกไก่ กระดูกเป็ด พอกัดจนกระดูกแตก จะสังเกตเห็นว่ามันแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ แต่แหลมคมใช่ไหมคะ
ลอง นึกสภาพตอนที่กระดูกแหลมๆ สุดอันตรายเหล่านี้เคลื่อนที่ผ่านอวัยวะต่างๆ ลงสู่กระเพาะอาหารทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ รวมไปถึงหากชิ้นส่วนใดไม่สามารถย่อยได้ในกระเพาะอาหาร ก็จะเคลื่อนที่ไปยังระบบขับถ่ายต่อไปอีก อันตรายจะเกิดขึ้นในกรณีที่ชิ้นกระดูกไปขูดหรือสร้างบาดแผลให้กับอวัยวะ ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกระดูกเคลื่อนลงไปขวางในขณะที่กระเพาะอาหารบีบตัวแล้ว ล่ะก็ ไม่อยากนึกภาพตามไปเลยค่ะ มันหวาดเสียว

ทีนี้ เมื่อกระดูกธรรมชาติให้ทั้งคุณทั้งโทษ เจ้าของหมาหลายท่านก็เลยเปลี่ยนมาให้เจ้าตูบกัดแทะกระดูกเทียมที่ทำขึ้นมา จากหนังชั้นในของวัว ควาย นำมาผ่านการฟอก ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน อบให้แห้ง แล้วผลิตออกได้เป็นรูปร่างต่างๆ เติมสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ ตามแต่จะพัฒนาสูตรกันไป แต่งกลิ่นเติมสี ล่อตาล่อใจทั้งหมาและเจ้าของ เพื่อจะได้หาซื้อมาให้กับเจ้าแสบแสนซนที่บ้าน
กระดูก เทียมที่ว่านี้มีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ หลายราคา ทั้ง ผลิตขึ้นภายในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ แม้กระดูกเทียมจะดูเป็นสิ่งที่ปลอดภัยในบรรดาของกัดแทะต่างๆ ของหมา เพราะนอกจากผลิตด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่แตกหรือแหลมคม และสามารถย่อยสลายได้ แต่เมื่อถูกน้ำลายและโดนแทะไปเรื่อยๆ จะนิ่มจนสามารถไหลหรือกลืนลงคอไปได้ บ่อยครั้งทีเดียวค่ะ เจ้าของหมากระเตงเจ้าสี่ขาที่บ้านไปหาสัตวแพทย์พร้อมอาการไม่กินข้าวปลา เซื่องซึม ท้องบวมอืด ตรวจไปมาพบว่ามันกินกระดูกเทียมลงไปมาก จน ย่อยไม่ทัน อัดอยู่ในกระเพาะและลำไส้จนแน่น ต้องช่วยกันเป็นนานสองนานกว่าจะเอาออกมาได้หมด นี่ยังไม่รวมไปถึงอันตรายอันเกิดจากการกัดแย่งกระดูกกันของเหล่าหมาๆ อีกด้วย
สัจธรรมประจำโลกนั่นแหละค่ะ อะไรก็ตามที่ไม่ได้เดินสายกลาง ไม่มีความพอดี ก็อาจกลายเป็นโทษเป็นทุกได้ แม้ แคลเซียมจากกระดูกสัตว์ จะเป็นประโยชน์ในการเสริมโครงสร้างและการเจริญเติบโตของร่างกาย อีกทั้งกระดูกจะช่วยในการขัดหินปูน ทำความสะอาดฟันหมาขณะกัดแทะ แต่แคลเซียมที่มากเกินพอดีกว่าที่ร่างกายต้องการ ก็จะไปสะสมสร้างปัญหาได้ นั่นก็คืออีกกรณีหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในคลินิกสัตวแพทย์ คือเจ้าของหมาพาหมาที่มีอาการถ่ายไม่ออกมาพบ ดูเหมือนมันพยายามจะอึเบ่งจนหน้าเขียวก็ไม่สำเร็จ สอบถามไปมาพบว่าเจ้าของหมาซื้อกระดูกจากร้านข้าวขาหมูให้แทะเล่นเป็นของ กำนัลทุกวัน วันละถุงใหญ่ ไอ้เจ้าหมาก็เป็นใจ เห็นนายเดินถือถุงกระดูกเข้าบ้านล่ะเป็นระริกระรี้ แทะมันส์แทะเพลินเจริญใจทุกวันจนถ่ายออกมามีแต่แคลเซียม นานวันเข้าเกาะกันจนท้องผูกหมอต้องทำการสวนเอาก้อนแข็งพวกนี้ออก ซึ่กว่าจะสำเร็จก็เล่นเอาซะเหนื่อยทั้งคนทั้งหมาเชียวค่ะ

ที่มา //www.dollydoghouse.com




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2552    
Last Update : 18 มิถุนายน 2552 4:27:35 น.
Counter : 1645 Pageviews.  

1  2  

Pet Corner
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Pet Corner's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.