เยเมน ตอน 1, trip 9-12 May 2010 รายงาน และเกร็ดความรู้


รายงานการเดินทางไปเยเมน 9-12 May 2010

ที่มาของเรื่อง

EGAT มีโรงไฟฟ้า GT 701D ที่หนองจอกขนาดประมาณ 120 MW 3 ตัว
และที่ลานกระบืออีก
1 ตัว ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ใช้งาน ขณะนี้ EGATi (ไอ) กำลังดำเนินการ จะนำไปติดตั้งขายไฟที่เยเมน เป็น Marib 3

โดยมี บ.ฟาเฮม ซึ่งใกล้ชิดรัฐบาล นำเข้าข้าวและนํ้าตาล คุม logistic กว่า
40% เป็นจุดที่ กฟผ ติดต่ออยู่

ก่อนหน้านี้ Siemens เพิ่งติดตั้งเครื่องโรงไฟฟ้าเสร็จ เป็น Marib 1

12-15 Dec 09 ปีที่แล้ว คณะ EGAT I และ คุณอรรถพร ไป visit พบนายกฯเยเมน...

ทางฝ่ายธุรกิจ กฟผ ชวนเอeสโกร่วมงาน O&m โดย supply คนไปทำงานกับคนของ กฟผ ระดับ Plant Mgr, Operation Mgr และ Maintenance Mgr จึงมีการเดินทางครั้งนี้เพื่อไปดูสภาพที่จะทำงาน
เพื่อเตรียมการ ทั้งนี้ทั้งในด้านวิศวกรรม ก่อสร้าง และการเดินเครื่อง

รายงานการเดินทาง

เดินทางคล้ายๆ ไป Sudan คือ
ต่อเครื่องที่
Emirate หรือ Qatar ก็ได้ เราเลือก Emirate เพราะการต่อเครื่องเหมาะสมกว่า
ขามามี
connecting time 2 ชม. ครึ่ง มาถึง Sana’a (ออกเสียง ซานาอะ) เช้า 8:30 น. เจ้าหน้าที่ของฟาเฮม ซึ่งเป็น1 ใน partner ของ EGAT ก็มารับ

น่าเสียดายเนื่องจาก Visa on arrival ของคุณนิวัฒน์ และจำนงค์ เอกสารสำเนาส่งมาไม่ทัน และเจ้าหน้าที่ Emirate ก็ไม่ยอมผ่อนผัน 2 คนจึงมาไม่ได้พร้อมกัน มาได้ก็วันรุ่งขึ้น

เขื่อนโบราณ(เขื่อน Marib และเมืองที่อยู่หลังเขื่อน)

พ้นภูเขาก็มาถึงทะเลทราย

แล้วสัก 60 กม. จะถึง site
นักบินก็พาวนรอบๆ Marib Dam ซึ่งเป็นของเก่าแก่
สร้างมาย้อนหลังได้ถึง
4,000 ปี แล้วก็บูรณะใหม่
เขื่อนนี้ใช้งานมาแต่โบราณ กั้นน้ำ เลี้ยงเมือง
Marib ซึ่งเป็นชุมชนโบราณขนาดใหญ่สมัยนั้นมีขนาดราว 100 ตารางกม. ต่อมาเขื่อนพัง คนก็อพยพหนี ราว 50,000 คน ซึ่งบันทึกในคัมภีร์อัลกุรอาน

ส่วนหนึ่งก็ผมสรุปให้ว่าอพยพมาทางใต้ของไทย มาเลย์ สิงค์โปร์ อินโดฯ ไงครับ ทำให้มีการนุ่งโสร่งเหมือนที่นี่ และเคี้ยว Qat เหมือนๆ
กันกับที่ทางใต้เราเคี้ยวกระท่อม และทางอเมริกาใต้เคี้ยวใบโคคา

ปัจจุบัน ชุมชน Marib ก็ยังมีอยู่
มองทางอากาศ ขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็คงพอมีของขาย
Mr. Khalid Proj. หรือ Plant Mgr. บอกว่ามีรถวิ่งไปเมืองนี้แทบทุกวัน
ซึ่งผมเดาว่า อย่างน้อยก็ไปซื้อ
Qat กระมัง

คนที่นี่ (คงหมายเฉพาะผู้ชาย) ไม่เคี้ยวQatเพียง 15 % เท่านั้น ในหนังสือบอกว่า เพาะปลูกQatมากจนขาดแคลนน้ำทีเดียว




Create Date : 26 มีนาคม 2554
Last Update : 19 กันยายน 2560 21:34:47 น.
Counter : 1012 Pageviews.

0 comment
ฝึกลมปราณ หายจากปวดแขน ขา หัวเข่า ดีมากครับ


ฝึกลมปราณ…แก้โรคชะงัดทีเดียว


ฝึกลมปราณ…แก้โรคชะงัดทีเดียว
ผมเคยปวดแขนขวาทั้งแขน แบบนอนทรมานเลย จะไปรักษาแผนปัจจุบัน ก็ไม่เชื่อมั่น
เพราะหลายปีก่อน สักสิบปี เคยเป็นชาๆที่แขนซ้าย กลัว...ก็ไปรักษาโรงพยาบาลหลวง มีชื่อมาก
หมอตรวจ เป็นหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท ก่อนจ่ายยาถามว่าเราเป็นโรคกระเพาะหรือไม่ เราปฏิเสธ
ก็รักษาโรคนี้หาย แต่ตอนนี้ยังเป็นโรคกระเพาะอยู่ รักษาไม่หาย เลยเข็ด

โชคดี มีน้อง กฟน เขาเห็นเราดัดแขนตัวเอง ก็เดาว่าเราเป็นอาการ
แบบที่เขากำลังรักษากับหมอจีนแลกเปลี่ยน ที่ราชภัฏ จันทรเกษม
หมอจีนฝังเข็ม ร่วมกับใช้ถ้วยสูญญากาศ
ไปครั้งละสักชั่วโมง 7-8 ครั้งก็หาย ครั้งละดูเหมือน 400 บาท
น่าสนใจตรงที่ปีกแขนด้านหลัง ที่ลูกถ้วยดูดนั้น
แรกๆดำทั่วไปหมด
ทำไปๆ สีก็อ่อนลง พื้นที่ก็เล็กลง แล้วก็จางหายไป

หายไป 2-3 ปี อาการเริ่มกลับมาใหม่
ไม่รู้ว่าเกิดจากเราไปกระตุ้นด้วยการขูดกัวซา แผนจีนโบราณ (กัวซานี้ก็แปลก ผมเห็นลูกผมบ้าง ภรรยาบ้าง
ขูดให้พรรคพวกที่มีปัญหา แขนติดยกไม่ได้ ขาติด สักครึ่งช.ม. ไม่เกิน ก็หายอย่างน่าประหลาด)
หรือมันกลับมาของมันเอง
ก็ยังโชคดี เล่าให้คุณพิสิฐ พุฒิไพโรจน์ MD COT เพื่อน วศ 55 ของเรา
ก็ได้รับคำแนะนำพร้อม CD ฝึกลมปราณ ของ อ.ศุภกิจ
ซึ่งอธิบายว่ารักษาได้หลายโรคเหลือเกิน
ไม่น่าเชื่อเลย ทำอยู่สัก 15 วัน อาการปวด ชา หายไปสัก 90% ทีเดียว
ก็เลยทำเรื่อยๆเกือบทุกวันๆละ 2 รอบ มาราวหนึ่งปีแล้ว
บางช่วงขี้เกียจทำ เขาก็เตือนโดยเริ่มๆปวดอีก ก็ต้องทำต่อมาเรื่อยๆ
อาการปวดที่ก้นหรือที่เรียกว่าสลักเพชร และปวดเข่า ก็ยังหายไปด้วยครับ

ส่ง link มาให้ ดูวิธีการฝึก และคุณประโยชน์นานาประการ





Create Date : 26 มีนาคม 2554
Last Update : 19 กันยายน 2560 21:36:23 น.
Counter : 1617 Pageviews.

0 comment
(เพิ่มข้อมูล TDS นํ้าฝน)ประสบการณ์ เครื่องกรองนํ้า ข้อมูลทดสอบนํ้าที่เราดื่มๆกัน


เพิ่มเติมข้อมูลวัด TDS นํ้าฝน 20 เมษ 54
วานนี้ 19 เมษ 54 เก็บตัวอย่างนํ้าฝน หลังฝนตกหนักสักพักที่ระยองวันนี้เอามาวัด TDS ได้ 10 ครับ
ทีนี้ถ้าเราถือว่านํ้าฝนน่าจะถือเป็นหลักยึดได้ ก็ดูค่าที่วัดได้ของนํ้าชนิดต่างๆข้างล่างอีกทีครับว่าเราควรดื่มนํ้าอะไร
สำหรับบางท่านที่เชื่อว่าดื่มนํ้าที่มีเกลือแร่ปนถึงจะดี ก็ควรระวังโรคนิ่วโดยอย่าให้ TDS สูงนักนะครับ

ข้อเขียนหลัก :
เราดื่มนํ้าวันละ 3 ลิตร
แต่เราก็ไม่แน่ใจว่านํ้าที่ดื่มสะอาด มีสารละลายอะไรปนมาก หรือน้อย
ทุกบ้านมักมีเครื่องกรองชนิด RO(Reverse Osmosis) บ้าง ไม่ RO บ้าง
ซื้อมาแพงบ้าง ถูกบ้าง ใหม่เอี่ยมก็มี ใช้จนเก่างั่กก็มี
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไส้กรอง ก็แพงมาก แพงน้อย

ไม่มีใครทราบว่า ไส้กรองหมดอายุ ควรเปลี่ยนแล้วหรือยังไม่จำเป็น
ทุกครั้งที่ตัดสินใจเปลี่ยน ก็มักสงสัยว่ามันจำเป็นหรือไม่
ยังไม่นับที่เสียตังซื้อนํ้าดื่มนอกบ้าน ดื่มที่ที่ทำงาน ไมรู้ว่าสะอาดเพียงไร

ยี่ห้อไหนดี ไม่ดี
ฯลฯ
สงสัยกันมากผมเลยเอาเครื่องวัด2 ชนิดที่บ้านมาสาธิตที่ที่ทำงาน
ผมใช้เครื่องวัด TDS (Total Dissolved Solid) วัดโดยการนำไฟฟ้า
และ เครื่อง Electrolysis ซึ่งปล่อยความต่างศักย์ที่สองขั้ว นํ้าที่มีสารละลายปนมาก ก็จะถูกแยกออกมาให้เห็นเป็นฟองก่อน หลังจากนั้นก็จะเห็นตะกอนแขวนลอยบ้าง ตกตะกอนบ้าง

ผู้ร่วมการทดลอง คุณชุมศักดิ์ กจก-อ รบง([บันทึกการวัด TDS) ฝบร KNG เป็นต้น
ผลการวัด TDS :
Elken 0
EgcomTara 0
TNP 0
สยาม 30
Amway 200
ประปาจากห้องนํ้า H/O 190
ประปาที่ผ่านเครื่องกรอง Singer. ที่ H/O 190
นํ้าต้ม H/O 290
แร่นอง 300
นํ้าสิงห์ 430
หลังจากนั้นใช้แท่งไฟฟ้า 2 ขั้ว แช่ Electrolysis ก็พบร่วมกันว่านํ้าที่ TDS สูงก็จะเกิดฟองมากขณะปล่อย Voltage หลังจากนั้นก็จะเห็นตะกอนแขวนลอยบ้าง ตกตะกอนบ้าง มากน้อยแปรตาม TDS
ในขณะที่นํ้า RO 3 รายการแรก(รวมเอ็กคอมธาราของเรา)ที่ TDS = 0 นั้น จะนิ่ง ไม่มีฟอง และไม่เกิดตะกอนใดๆ (ตรงกับผลการทดสอบหลายครั้งก่อนหน้า นี้ ซึ่งนํ้า RO ที่มีการบำรุงรักษาถูกต้อง อย่างไรก็ดีใครฟังข่าว 2-3 วันนี้ กทม. เข้าไปตรวจตู้นํ้าดื่ม พบว่าที่ขายๆกันมีถึง 21% ที่ไม่ได้มาตรฐาน)


ข้อถกเถียง

ในขณะที่คนจำนวนมากเชื่อมั่น นํ้า RO และเครื่องกรองนํ้าตามบ้านก็เป็น นํ้า RO มากแล้ว
คนจำนวนหนึ่งมองว่านํ้า RO สะอาดเกินไป

ลองเข้าไปค้นใน internet ก็จะมีเถียงกันมาก

ผมอยู่ข้าง นํ้า RO หลังจากฟังลูกอธิบายว่า สมัยก่อนเรากินนํ้าฝนที่รอล้างหลังคาสักพักใหญ่ก่อน
นํ้าฝนนั้นก็จะใกล้ๆนํ้ากลั่น เพราะกลั่นมากจากเมฆ ไม่มีแร่ สิ่งเจือปนอะไร
ดังนั้นการดื่มนํ้า RO ก็คือนํ้าฝนสะอาดๆนั่นเอง

ส่วนท่านที่เชื่อว่าควรจะให้มีอะไรปนบ้างนั้น ก็ไม่ควรจะไปเสียสตางค์ซื้อเครื่่องกรองแพงๆ บวกค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนใส้กรองแพงๆ
ถ้าเชื่อว่า "นํ้าประปาดื่มได้" ก็เพียงติดตั้ง Pre-Filter ตัวละสักพันสองพันบาท
ค่าใส้กรองเปลี่ยนครั้งละสัก 260 บาท ปีละ 2 ไส้ สำหรับกรองโคลนหรือสิ่งปนเปื้อนในระบบท่อของการประปาและบ้านท่านเอง
จริงๆก็เพียงพอแล้วครับ
อ้อ สำหรับ UV นั้นผมเห็นเขาเอาหลอด UV สีม่วงๆส่องไปก็ฆ่าเชื้อทั่วไป บางอย่างได้แล้วครับ

พูดถึงเชื้อโรค นํ้า RO ที่บ้านผมใช้หุงข้าว ความที่ไม่มีเชื้อโรคเลย พบข้อดีมากอีกข้อคือ ข้าวไม่เคยบูดเหมือนก่อนหน้าที่จะใช้นํ้า RO เลยครับ

ถ้าจะซื้อเครื่องกรองนํ้า RO เลือกซื้อที่เขาไม่เอาเปรียบเรา
โดยชาร์จค่าตัวและค่า filter ที่ต้องเปลี่ยนเป็นระยะๆแพงเกินไป
อย่างที่บ้านผมใช้ Elken เครื่องละ 30,000 บาท เป็นชนิดตั้งโต๊ะ มีก๊อกกดแบบๆตู้นํ้าดื่มทั่วไป
กำหนดเปลี่ยนใส้ 3000 บาท ทุก 3 ปี pre-filter ซึ่งเป็นของตลาดๆ ก็ตามคุณภาพระบบท่อ ปีละ 500

ถ้าแพงกว่านี้(มาก) ก็ต้องตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัยว่า แพงไปหรือเปล่าด้วยครับ

เพราะ นํ้า RO ก็แค่มีปั๊มอัดนํ้าผ่านเยื่อ membrane (ซึ่งละเอียดมากจนกรองเชื้อโรคได้)สักพักก็ backwash
มักลดภาระโดยมี pre-filter ก่อน ก็แค่นั้นแหละครับ

ถ้ามีเวลาจะหาข้อมูล + รูปภาพส่งให้พวกเราใหม่อีกครั้ง

เครื่องตรวจผมยังเอาไว้ที่officeสักพักใครสนใจเอานํ้าที่บ้านมาตรวจก็ได้ครับ

เพิ่มศักดิ์ 22 มีค 11

ข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณวิชัย เอ็กคอมธารา
:

น้ำดื่มที่เหมาะต่อสุขภาพมนุษย์ ต้องประกอบด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอาทิ โปแตสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม
ต้องมีโครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็กทำให้แทรกซึมสู่เซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเป็นด่างอ่อน ๆ ค่าความเป็นกรดและด่างระหว่าง pH 7.0 - 7.4
และ TDS (Total Dissolved Solid) ไม่เกิน 500 และยังมีส่วนประกอบอื่นๆอีกมากมายหลายรายการครับ
ซึ่งหาได้จากน้ำดื่มเอ็กคอมธาราครับ และหากอยากทราบว่าที่บ้านท่านมีคุณภาพน้ำเป็นเช่นไร เอ็กคอมธารา ก็ตรวจสอบให้ได้ครับ




Create Date : 26 มีนาคม 2554
Last Update : 19 กันยายน 2560 21:37:35 น.
Counter : 3281 Pageviews.

35 comment
เพราะมาก หาฟังยาก สำหรับผู้อาวุโส+เนื้อเพลง เด็กๆที่อยากเรียนภาษา ได้อารมณ์เพลง และภาษาอันแสนไพเราะ


การเรียนภาษาอังกฤษที่ได้ผล สนุก มีความสุขในการเรียน รองจากการแต่งงานกับเจ้าของภาษาและการไปอยู่ประเทศที่เขาใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เห็นจะได้แก่การร้องเพลงภาษาอังกฤษ
ผมเคยเห็น เพื่อนเก่งภาษาอังกฤษ ทั้งๆที่ก็ไม่เห็นเรียนขยัน หรือเก่งอะไร ก็มานึกออกภายหลังว่าเขาชอบร้องเพลงฝรั่งกัน ร้องกันแบบจำเนื้อเพลงได้กันหลายๆสิบเพลงเลย ซึ่งเช่นนั้นเขาก็สามารถนำเพลงมาเป็นภาษาพูด ภาษาเขียน ส่วนการฟังก็คงได้บ้าง
ผมแรกเพียงทำ link ให้ไปฟังใน U-Tube ต่อมาก็ทำVideo + เนื้อเพลง แต่ก็กินเนื้อที่มาก คงทะยอยทำเพิ่มมาให้ภายหลัง
ที่ง่ายคือหาvideoเพลงที่เขามี lyric หรือเนื้อเพลงทำมาสำเร็จ ก็ทำแยกมาให้ฟังและหัดร้องอีก 2 Blog ต่างหาก
เข้าใจดีว่าเด็กๆคงไม่ค่อยชอบเพลงเก่าๆ แต่ลองฟังหลายๆเที่ยว แล้วทำความเข้าใจกับความหมายของเนื้อร้อง ก็อาจจะชอบขึ้นมาเหมือนกับผมที่จำยอมฟังเพลงที่ลูกสาวบังคับเปิดฟังในรถ ทุกวันๆก็ชอบเพลงวัยรุ่นได้เหมือนกัน
ภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษากลางในการติดต่อโลกที่ globalized ผมได้เห็นความเสียเปรียบของคนไทยในการทำธุรกิจ และก็คงเช่นกันในทุกๆเรื่องที่เราต้องติดต่อกับโลกภายนอกเช่น การเมือง เศรษฐกิจ ความรู้ เท็คโนโลยี ฯลฯ จึงฝากคนรุ่นหลังให้แก้ไข และไม่หันหลังปฏิเสธ เพราะเราไม่มีทางเลือกครับ เพราะเราทำให้ภาษาไทยเป็นภาษาโลกไม่ได้ครับ จึงต้องเพียรหาทางศึกษาภาษาอังกฤษกันต่อไป
ข้างล่างเป็น link ไป U-Tube ที่ต่อไปผมจะหาเนื้อมาให้ซ้อมร้องกันครับ 

1)A Man Without Love

2)Winter World of Love

3)Delilah.. หญิงผู้หลอกลวง



4)Cabaret, Liza Minnelli

5)New York

6)when the girl in your arms is the girl in your heart ..อย่าปล่อยเธอจากไป



7)stay awhile เร้าอารมณ์..

8) I'm on my way สักครั้งในชีวิตที่เราจะบอกกับตัวเองเช่นนั้น

9)help me make it through the night...อารมณ์แห่งรัก


คลิกเพราะมาก หาฟังยาก หาเนื้อมาให้


คลิกClipแบบKaraoke : Nat King Cole + How can I tell her


คลิก ENGELBERT HUMPERDINCK + CCR เป็นต้น


คลิกเพราะมาก Imagine & Let It Be




Create Date : 21 มีนาคม 2554
Last Update : 19 กันยายน 2560 21:39:55 น.
Counter : 751 Pageviews.

0 comment
ในหลวง



Create Date : 19 มีนาคม 2554
Last Update : 19 กันยายน 2560 21:41:05 น.
Counter : 481 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

permsak.rat
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



All Blog