ความรู้ในโลกนี้เรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุด
Group Blog
 
All blogs
 
เทศกาลบ๊ะจ่าง







ขนมบ๊ะจ่าง
" บ๊ะจ่าง ขนมจ้าง หรือที่ในภาษาจีนกลางเรียกว่า จังจึ"


วันนี้เป็นวันเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างของชาวจีน
เชื่อว่าหลายๆ บ้านวันนี้ต้องมีบ๊ะจ่างอยู่ในบ้านอย่างน้อยๆ ก็ 1 ลูก
เราเห็นและทานบ๊ะจ่างกันมานานตั้งแต่เล็กจนโต
แต่รู้มั๊ยว่า "บ๊ะจ่าง" มีที่มาด้วยนะ ไม่ใช่ทำขึ้นมาทานให้อิ่มท้องเท่านั้น
มาลองดูกันว่า บ๊ะจ่าง / ขนมจ้าง / จังจึ มีที่มาอย่างไรกันดีกว่า

เทศกาลกินขนมบ๊ะจ่างที่คนไทยรู้จักกันดี คือ "เทศกาลตวนอู่เจี๋ย (端午节)" ในจีน
ที่จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ประเทศแถบเอเชีย
อาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี บางส่วนในจีนแผ่นดินใหญ่ ไทย ฯลฯ
ที่มีชาวจีนโพ้นทะเลและชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ อาศัยอยู่
จะมีการฉลองเทศกาลตวนอู่คล้ายคลึงกัน

ในรอบสัปดาห์ระหว่างเทศกาลนี้ หลายครัวเรือนจะห่อขนมบ๊ะจ่าง หรือขนมจ้าง( จีนกลางออกเสียง粽子-จ้งจึ)
ที่ทำจากข้าวเหนียว ข้างในห่อเนื้อสัตว์ เห็ด ถั่วแดง ไข่เค็ม และเครื่องปรุงต่างๆ
เป็นรูปปิรามิดสามเหลี่ยม บ้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ใช้เชือกมัดแล้วนำไปนึ่งหรือต้ม

การห่อบ๊ะจ่าง
" การห่อบ๊ะจ่าง "

ขนมบ๊ะจ่างแต่ละท้องถิ่นจะแตกต่างในรายละเอียดของสิ่งที่ห่ออยู่ในข้าวเหนียว
อาทิ ขนมบ๊ะจ่างทางเหนือของจีน เช่นในปักกิ่งจะห่อไส้ถั่วแดงล้วนๆ บ้าง
เป็นผลไม้บ้าง เช่น ลูกเจ่า(小枣) หรือลูกจ๊อ (ในภาษาแต๊จิ๋ว) เกาลัด
และมีบ้างที่ใส่เนื้อสัตว์ มีเครื่องอย่างอื่นบ้าง แต่ไม่มากเท่าขนมจ้างในบ้านเรา
ส่วนบ๊ะจ่างทางใต้ของมณฑลกว่างตง(กวางตุ้ง) หรือแบบที่นิยมในบ้านเรา
ที่คงไม่ต้องแจกแจงว่ามีเครื่องหลากหลายเพียงใด
รสชาดเข้มข้นถูกปากคนเมืองร้อน-อบอุ่น

นอกจากกินขนมบ๊ะจ่างแล้ว ใน "เทศกาลตวนอู่" นี้ยังมีการละเล่นที่ขาดไปไม่ได้คือ " การแข่งเรือมังกร "
โดยเฉพาะในฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊าและในแม่น้ำฉางเจียงในจีน(แยงซีเกียง) มีการจัดกันยิ่งใหญ่ทุกปี

แข่งเรือมังกร
" การแข่งเรือมังกรที่ฮ่องกง "

ประเพณีการกินขนมบ๊ะจ่างและการแข่งเรือมังกรในเทศกาลตวนอู่เจี๋ย
เกี่ยวเนื่องอย่างแนบแน่นกับเรื่องราวโศกนาฏกรรมของกวีแห่งนครรัฐฉู่ (楚国)
ผู้รักชาติยิ่งชีพปลายสมัยจั้นกั๋ว(475-221 ปีก่อนคริสตศักราช)
นามว่า ชีว์หยวน (屈原- 340-278 ปีก่อนคริสตศักราช)

ตำนวนเล่าว่า ชีว์หยวนซึ่งเดิมทีกินตำแหน่งขุนนางใกล้ชิดฮ่องเต้ฉู่หวัง
ได้กราบทูลแนวคิดรวมกำลังเขตแคว้นน้อยใหญ่โดยรอบ
เพื่อเตรียมต่อกรกับนครรัฐฉิน ซึ่งเรืองอำนาจอยู่ในขณะนั้น ทว่าฮ่องเต้ถูกเป่าหูโดยขุนนางฝ่ายฉิน
นอกจากไม่ยอมรับความคิดของชีว์หยวนแล้ว
ยังเนรเทศชีว์หยวนออกนอกนครรัฐไปถึง 2 ครั้ง
ต่อมาภายหลังทหารฉินยกทัพมาถล่มนครรัฐฉู่จริงๆ
และยึดครอง " อิ่งเฉิง" (ปัจจุบันอยูในพื้นที่ของมณฑลหูเป่ย) เมืองหลวงของนครรัฐฉู่สำเร็จ
ชีว์หยวนเมื่อทราบเรื่องก็ช้ำใจอย่างสุดแสน
จึงไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายด้วยความทุกข์ระทมที่แม่น้ำมี่หลัวเจียง

ในวันที่ชีว์หยวนกระโดดน้ำตายตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 เมื่อ 278 ปี ก่อนคริสตศักราช
ขณะนั้นเขาเป็นที่รักและเคารพของราษฎรนครรัฐฉู่
เนื่องจากเป็นขุนนางผู้มีจิตวิญญาณรักชาติสูงส่ง
ราษฎรต่างเห็นอกเห็นใจในความจงรักภักดีของเขาอย่างมาก
เมื่อทราบข่าวว่าชีว์หยวนกระโดดน้ำตาย
จึงพากันนำเรือออกไปในแม่น้ำ เพื่อหวังว่าจะช่วยชีวิตชีว์หยวนไว้ แต่ก็ไม่เป็นผล

ชาวเมืองเมื่อหาศพชีว์หยวนไม่พบ ก็เกรงว่าปลาจะมาแทะร่างอันไร้วิญญาณของเขา
จึงคิดทำขนมข้าวเหนียวห่อใบไผ่โยนลงไปในแม่น้ำให้ปลากินแทน
และนั่นเป็นกำเนิดของประเพณีกินบ๊ะจ่างและการแข่งเรือมังกร
ที่เจริญงอกงามสืบทอดมาถึงปัจจุบัน

บ๊ะจ่าง

ตำนานดังกล่าวทำให้เทศกาลกินขนมบ๊ะจ่างในจีน
ยังมีความหมายที่ลึกซึ้งอีกว่าเป็น " เทศกาลของกวี "
ที่ระลึกถึงความภักดีและรักชาติของชีว์หยวนอีกด้วย

ในประเทศจีนนอกจากจะกินบ๊ะจ่าง / จ้งจึ กันแล้ว
ยังมีกิจกรรมนิทรรศการรำลึกถึงกวีนิพนธ์ของชีว์หยวน
จัดแข่งขันอ่านและเขียนบทกวีของเหล่ากวีจากทั่วประเทศ เป็นต้น โดยเฉพาะในปีนี้ (พ.ศ.2547)
กระแสการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีโบราณของชาติเริ่มตื่นตัวอย่างมากในจีน
จึงมีความเคลื่อนไหว และงานฉลองต่างๆจัดขึ้นคึกคักและกว้างขวางกว่าทุกปีที่ผ่านมา

***ขอบคุณ (Thank You) ที่มาบทความ, ข้อมูลและภาพประกอบ

- ซินหัวเน็ต,ซีน่าเน็ต,ไชน่าเดลี่ -22/06/04
- ผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2547
//www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9470000011386

*หมายเหตุ
ตัวสี่เหลี่ยมที่อยู่ในวงเล็บ คือ ตัวอักษรจีน หากเครื่องใครมี Font ภาษาจีนก็จะอ่านได้ค่ะ



Create Date : 19 มิถุนายน 2550
Last Update : 19 มิถุนายน 2550 17:36:48 น. 6 comments
Counter : 1276 Pageviews.

 
วันนี่เพิ่งจะห่อกิน แต่ไม่เกี่ยวกับเทศกาล
เกิดอยากกินขึ้นมาเฉยๆจ้า


โดย: เอ๊กกี่ วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:19:09:57 น.  

 
หว่อ เย่าชื่อ บะจ่าง .......ส่งมาให้ลูกนึงได้มั้ยค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่น่าสนใจค่ะ


โดย: princess gig วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:20:29:01 น.  

 
มาหาฟามรู้จ...กิงไม่ค่อยล่ายอ่า
ป่าวกัวอ้วง แต่กัวกินไม่หยุดอ่า อิอิ


โดย: เจ๊ลูกหมี (Mrs.Bear ) วันที่: 20 มิถุนายน 2550 เวลา:11:21:07 น.  

 
แวะมาหาความรู้เพิ่มเติมใส่ซาหมองฝ่อๆน่ะค่ะ ^^'

ชอบกินบ๊ะจ่างมาตั้งนมนาน

แต่ก็เพิ่งทราบที่มาที่ไปวันนี้ล่ะค่ะ

ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ :)


โดย: เซี่ยวลี้ปวยตือ วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:11:07:12 น.  

 
ปัจจุบันยังจัดวางของไหว้ได้เลยค่ะ


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:17:12:10 น.  

 
เพิ่งได้เข้ามาอ่านบล็อคนี้ พี่ลองชิมบ๊ะจ่างที่ปักกิ่งมาแล้วไม่ชอบเท่าไหร่ ชอบแบบบ้านเรามากกว่า รสชาติเข้มข้นถูกปากคนไทยกว่าเนอะ เพิ่งรู้ประวัติที่มาของบ๊ะจ่างนะเนี่ยขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ นะจ๊ะ


โดย: โบว์ (Die vier Jahreszeiten ) วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:7:28:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peijing
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]







More Cool Stuff At POQbum.com

Friends' blogs
[Add peijing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.