Group Blog
 
All Blogs
 

Cliniqie Repairwear Extra Help Serum

ผู้เขียนบทความ : Start now
ระยะเวลาการใช้ ~ เกือบหมดขวด

คุณสมบัติ : อันนี้ก็ถือได้ว่าเป็น anti-aging ตัวแรกจากค่าย Clinique ที่ผมได้ใช้นะครับ ตามชื่อของมันนั่นก็คือ “repairwear” นั่นก็คือ “การซ่อมแซม” และด้วยส่วนผสมหลักส่วนใหญ่ของมัน ดังนั้นมันจึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มต่อต้านอายุประเภท prevention คือช่วยป้องกันการการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรนั่นเอง และช่วยเพิ่มการซ่อมแซมตัวเองของผิว, ดังนั้นถ้าใครกำลังคิดจะซื้อตัวนี้เพื่อมาลดเลือนริ้วรอยที่เกิดมาจากวัย “ที่มีอยู่เดิมก่อนแล้ว” ก็ต้องมองไปที่ตัวอื่นแทนนะครับ เพราะว่าตัวนี้จะไม่ช่วยตรงจุดนั้นมากนักเพราะว่าส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยดูแล้วไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนัก, ตามโฆษณาที่อ้างไว้ก็คือช่วยในการซ่อมแซมระบบฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติให้ทำงานเป็นปรกติมากขึ้น, คือเมื่อเราอายุมากขึ้น ระบบการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติของเรามันก็เสื่อมลง และเมื่อเราออกนอกบ้าน, มลภาวะ, ความเครียด อะไรต่างๆนาๆ ก็ล้วนเป็นตัวก่ออนุมูลอิสระ สาเหตุที่สำคัญที่ทำลายกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติของเรา, ถ้าอนุมูลอิสระน้อยลง ผิวหน้าก็จะซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น การผลัดเซลล์ผิวก็ปรกติขึ้น ริ้วรอยก็ปรากฏช้าลง, ดังนั้นส่วนผสมหลักๆเกือบทั้งหมดของ serum ตัวนี้ ก็คือสารสกัดที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระนั่นเองครับ ประกอบไปด้วยพวกสารสกัดจาก ชาแดง ชาเหลือง ชาชาว, วิตามิน E ที่สกัดได้มาจากโปรตีนถั่วเหลือง ที่ทั้งช่วยป้องกันอนุมูลอิสระและลดกระ, centella asiatica ที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงขึ้น และสารสกัดในลำดับค่อนไปทางท้ายๆก็คือ Boswellia serrtata ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ถูกใช้ใน L’Oreal De-Crease with Boswelox นั่นเองครับ เพื่อช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อผิวหน้า ทั้งหมดนี่ก็คือส่วนผสมหลักของ serum ตัวนี้

เนื้อ serum ค่อนข้างหนักมากพอสมควรเลยนะครับ, คือออกไปทางอีมัลชั่นได้เลยนะผมว่า ทาไปแล้วผิวจะมันนิดๆเหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวไว้, การซึมไม่ค่อยดีนัก, ไม่เหมาะกับการใช้ตอนเช้า และผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม, ไม่ผสมน้ำหอม, สีใส, ผสม alcohol denat. สามารถใช้ serum ตัวนี้เดี่ยวๆหรือคู่ไปกับโลชั่นหรือครีมในสูตรเดียวกันของเค้าได้ (แต่คงมันเพิ่มน่าดู) มาในขวดปั๊มทรงสูง พลาสติกทึบแสง ซึ่งเหมาะสมสำหรับพวกตัวบำรุงผิวที่ผสมสาร anti-oxident เพื่อช่วยป้องกันการเสื่อมของสารพวกนี้

ข้อดี : ไม่ก่อสิว ไม่ทำให้แพ้หรือระคายเคือง, ให้ความชุ่มชื่นได้ดี เหมาะกับสภาพผิวแห้ง

ข้อเสีย : ใช้ทาหน้ามาได้ประมาณ 1 เดือน ที่เหลือผมเอามาทาคอ, เพราะว่าทำให้ผิวมันขึ้นพอสมควร, ไม่เห็นผลในด้านความเปล่งปลั่ง หรือความเปลี่ยนแปลงด้านอื่นๆ คือเฉยมากๆ , เนื้อ serum ไม่เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย หรือผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม, กลิ่นออกแนวสารเคมีมากๆครับ ถ้าใครใช้แล้วจะให้แฟนหอมแก้มก็ต้องคิดหนักนะ ^_^

ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยงครับ !!

-------------------------------------------

คะแนน : 4.6 / 10 ครับ




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2549    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2549 20:22:38 น.
Counter : 511 Pageviews.  

Lancome High Resolution Collaser-48

ผู้เขียนบทความ : Start now
ระยะเวลาการใช้ ~ 2 เดือน

คุณสมบัติ : ตัวนี้ผมเริ่มใช้พร้อมๆกับ Lancome Bienfait เลยละครับ แต่แตกต่างที่ว่าตัวนี้เป็น serum เพื่อช่วดลดริ้วรอยทั้งแบบตื้นและแบบลึกโดยเฉพาะเลย โดยอ้างว่าสามารถช่วยเพิ่มการสังเคราะห์ collagen ได้ภายใน 48 ชั่วโมง !! โฆษณาอลังการดีมั้ย !? (ก็ in vitro test ตามเคยครับ) ส่วนผสมหัวใจหลักของ serum ตัวนี้ที่ใช้โฆษณาว่าช่วยลดริ้วรอยได้นั้น มีอยู่ตัวเดียว นั่นคือ Rice Peptides โดยใช้หลักการสังเคระห์ collagen เพื่อให้เซลล์ผิวมีพลังงานและไปทำให้ริ้วรอยนั้นแลดูจางลง นี่คือการทำงานของมัน (ตัว rice peptides ที่จริงก็มีผสมอยู่ใน morpholift ด้วยเหมือนกัน), นอกนั้นก็เป็นส่วนผสมตัวประกอบเท่านั้นเอง เช่นวิตามิน C แบบ ascorbyl glusocide และวิตามิน E, คาเฟอีน ที่ช่วยลดการสะสมน้ำของเซลล์ (ไม่ใช่ทุกๆคนที่ใช้ได้) และตามธรรมเนียม ก็คือพวกสารที่ช่วยบดบังริ้วรอยแบบชั่วคราว (เป็นพวกสีๆนะครับ เมื่อทาไปแล้วเหมือนจะเป็นเอฟเฟกซ์ blur) ส่วนประกอบมีแค่นี้จริงๆครับ มันเป็น serum ที่ออกแบบมาให้ใช้เฉพาะจุดที่มีริ้วรอยเท่านั้น คือเป็นพวก treatment, ไม่จำเป็นต้องทาทั่วหน้า, เนื้อ serum เป็นสีขาวอมเหลือง, ไม่มัน, เมื่อทาไปแล้วจะเนียนไปกับผิว ลื่นๆ, เกลี่ยยากหน่อยนึง, ไม่มีกลิ่นอะไรเลยครับ, อยู่ในขวดปั้ม (แต่ตัวที่ผมใช้นั้นเป็นขนาดทดลองขนาดใหญ่นะครับ ตั้ง 10 ml ก็เลยลองได้จนรู้ผล)

ข้อดี : เป็น serum ที่ไม่เพิ่มมัน ดังนั้นสามารถใช้ตอนเช้าๆได้, ไม่ก่อสิว ไม่อุดตัน แค่นี้ครับ

ข้อเสีย : ถ้าใครที่กำลังมองหา serum เพื่อมาช่วยลดริ้วรอย ก็มองข้ามตัวนี้ไปได้เลยนะครับ ผมเองมีเริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยที่ลึกขึ้นเวลายิ้มกว้างๆ และเห็นว่าผิวรอบบริเวณปากดูกระชับน้อยลง คิดว่ามันน่าจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย (ดีใจมากที่ผมขอเป็นตัวอย่างมาลองก่อน) เพราะไม่เห็นผลอะไรแม้แต่เพียงนิดเดียวเลยครับ ตลอดเวลาที่ใช้มาเกือบๆ 2 เดือน, เพราะว่าทาง Lancome อ้างเอาไว้ว่าภายใน 1 สัปดาห์ผิวจะดูอิ่มและ firm ขึ้น : ผมก็เฉยๆ รอต่อไป, อ้างว่าภายใน 1 เดือนริ้วรอยจะจางลง : ก็ยังเฉยๆเหมือนเดิม, ผมก็ยังให้เวลาต่อตามที่สัญญาไว้อีก 20 วัน ก็เหมือนเดิมทุกๆอย่าง สรุปก็คือ มันไม่มีประสิทธิภาพอะไรเลยสำหรับผม, ผมได้ลองเอาไปทาที่รอบดวงตาดูด้วย เพราะมีขีดเล็กๆ 2-3 ขีด ก็เหมือนเดิมทุกอย่าง

ผมคิดว่า retinol ได้ผลและตรงจุดกว่าเยอะ, และการทำงานของ serum ตัวนี้น่าจะเหมาะกับคนที่มีอายุ การผลิต collagen แย่ลงมาก อาจจะเห็นผลบ้างก็ได้ ส่วนถ้าใครยังอายุไม่ถึง 30-40 ก็ไม่แนะนำครับผม

ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยงครับ !!

-------------------------------------------

คะแนน : 2 / 10 ครับ




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 27 พฤษภาคม 2549 17:40:46 น.
Counter : 376 Pageviews.  

Dior Capture First Action Serum

ผู้เขียนบทความ : Start now
ระยะเวลาการใช้ ~ 3 เดือน

คุณสมบัติ : เป็น serum เพื่อช่วยลดริ้วรอยแรกเริ่มจากทาง Dior ในตระกูล Capture, ส่วนผสมหลักคือ Tri-Ageproof ที่อ้างว่าจะเข้าไปยับยั้งการทำลายของเอนไซม์บางชนิดที่มาขัดขวางการฟื้นฟูผิว และช่วยลดการสาเหตุต่างๆที่เป็นตัวการก่อให้เกิดอายุ, และส่วนผสมที่ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อผิวหน้าที่มีการเคลื่อนไหวซ้ำๆเพื่อช่วยชะลอริ้วรอยแบบแสดงอารมณ์, ง่ายๆก็คือช่วยให้ความอ่อนเยาว์คงอยู่ได้นานที่สุด, เนื้อ serum ไม่ได้บางเบาตามที่โฆษณาไว้นะครับ แต่ว่าค่อนข้างหนักนิดหน่อย คือว่าเมื่อทาไปแล้วมันจะหนืดๆนิดๆ แต่ก็เกลี่ยได้ง่าย, จะไม่ซึมทันที และให้ความชุ่มชื่นเล็กน้อย (แบบหนึบๆ) ตื่นเช้ามาตอนล้างหน้าก็จะรู้ว่ามีฟิลม์บางๆเคลือบอยู่ที่ผิวหน้า, กลิ่นน้ำหอมแบบหวานๆแรงมากครับ ใช้แรกๆอาจรับไม่ได้ แต่ใช้ไปเรื่อยๆมันก็ชินอะครับ ตามปรกติ, เป็นขวดปั๊ม กดได้ง่าย ไม่มีปัญหาอะไร

ข้อดี : เป็น serum ที่ให้ความชุ่มชื่นเล็กน้อย และไม่ก่อสิว

ข้อเสีย : ไม่เห็นผลอะไรเลยครับ ทั้งในเรื่องของความสดใส ยืดหยุ่น หรือเปล่งปลั่ง คือเฉยๆมากๆนะครับ ไม่เห็นผลอะไรทั้งสิ้น ถึงมันจะออกแบบมาเพื่อเน้นการป้องกันพวกริ้วรอยแรกเริ่ม แต่อย่างน้อยที่สุดก็ควรเห็นผลอะไรบางอย่างในทางที่ดีขึ้น (เช่นผิวหน้าดูสดชื่นขึ้นเล็กน้อยตอนตื่นนอน) จะได้เป็นสัญญาณว่ามัน “ทำงาน” จริงๆ คงไม่มีใครอยากไปคาดเดาตอนที่ตัวเองอายุมากๆหรอกใช่มั้ยครับ ว่ามันจะเห็นผลหรือไม่

ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยงครับ !!

-------------------------------------------

คะแนน : 3.2 / 10 ครับ





 

Create Date : 30 เมษายน 2549    
Last Update : 30 เมษายน 2549 3:00:41 น.
Counter : 414 Pageviews.  

Estee Lauder Perfectionist CP+

ผู้เขียนบทความ : Start now
ระยะเวลาการใช้ - 4 เดือนครึ่ง

คุณสมบัติ : อ้างว่าภายในวันแรก ริ้วรอยจะดูลดลง (โดยใช้สารสะท้อนแสง) และผิวสว่างขึ้น, เป็นสูตรปรับปรุงขึ้นใหม่จากสูตรเดิม (สูตรเดิมไม่มี CP+ ต่อท้าย) โดยการเพิ่มสารที่เรียกว่า Poly-Collagen Peptides ที่ช่วยในการเพิ่มการผลิตของ collagen เพื่อช่วยลดริ้วรอยด้วยการทำให้ผิวดูฟูขึ้นจากการ support ของ collagen ดังนั้นสำหรับผู้ที่อายุยังไม่มากนักเช่นไม่ถึง 30/35 การใช้ serum ตัวนี้จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเพราะว่าการผลิต collagen ของผิวยังพอใช้ได้อยู่ ถ้าใช้ไปคงไม่เห็นผลนัก และการใช้สารที่ช่วยในการสะท้อนแสงเพื่อช่วยบดบังให้ริ้วรอย "แลดูจางลง" (แต่ว่าจริงๆริ้วรอยยังคงอยู่) ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยแรกเริ่มแต่ว่าอายุยังไม่มาก เพราะว่าสารหลักๆมันไปเกี่ยวพันกับการกระตุ้นของ collagen มากกว่า, ตัวนี้มาในขวดทรงสูงพลาสติกแข็งแบบปั๊ม, สีม่วง, บรรจุภัณฑ์ออกแบบได้ดีกว่า idealist เพราะว่าควบคุมการกดได้ดีกว่า, เนื้อ serum เป็นสีขาวขุ่นเล็กน้อย, เมื่อทาไปแล้วจะลื่นผิวเหมือนแป้งในทันที เหมือนกับ idealist และ tta เพราะว่าผสม polysilicone-11 ไว้เหมือนกัน รวมทั้งสารสกัดอื่นๆเช่น Mulberry extract แบบเดียวกับ idealist, ดังนั้นถ้าใครเคยใช้ idealist แล้ว “สิวขึ้น” เพราะว่าแพ้พวก silicone ที่มันจะเคลือบผิวชั้นบนไว้ ก็ให้ระวังตัวนี้, มันเป็นพวก anti-aging treatment ไม่ได้มีคุณสมบัติความชุ่มชื่น, กลิ่นหอมหวานอ่อนๆคล้ายผลไม้

ข้อดี : ไม่เพิ่มความมัน, ไม่ก่อสิว

ข้อเสีย : เฉยๆเลยครับ ใช้มามากกว่า 4 เดือน บอกได้เลยว่าเฉยๆ ไม่เห็นผลอะไรทั้งนั้น เพราะว่าผมเองจะเริ่มสังเกตได้ว่าผิวที่มุมปากเริ่มลึกขึ้น; หลังการใช้ ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น ทุกอย่างเหมือนเดิมหมด, ผิวไม่ได้ดูสว่างขึ้น ไม่มีอะไรเหมือนกับที่โฆษณาไว้แม้แต่อย่างเดียว ก็คงไม่มีอะไรจะเขียนมากไปกว่านี้นะครับ ขอคำเดียวสั้นๆ “ผลิตภัณฑ์ไร้สาระ” เพราะว่าโฆษณาไว้เกินจริงมากๆเลย ผลที่ได้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยงครับ !!

-------------------------------------------

คะแนน : 2 / 10 ครับ





 

Create Date : 03 มีนาคม 2549    
Last Update : 22 พฤษภาคม 2549 2:30:52 น.
Counter : 344 Pageviews.  

Lancome Primordiale Optimum Nuit

ผู้เขียนบทความ : Start now
ระยะเวลาการใช้ - มากกว่า 1 เดือนครึ่ง

คุณสมบัติ : night cream จากชุด Primordiale ซึ่งชุดนี้จะเหมาะสำหรับช่วงอายุ 25-30 ต้นๆ เพื่อช่วยลดริ้วรอยแรกเริ่ม ตัวนี้เป็นสูตรสำหรับผิวธรรมดา – ผิวแห้งนะครับ จุดที่แตกต่างจากตัว day จะเป็นที่ส่วนผสมซึ่งทั้ง 2 ตัวนั้นไม่คล้ายกันซะทีเดียว (แต่น้ำหอมแนวเดียวกัน) อธิบายก่อนว่า ในชุด Primordiale นั้น ตามโฆษณาที่อ้างอิง, ตัว day จะถูกใช้เพื่อช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น, ลดลือนริ้วรอย และปกป้องผิว ส่วนตัว night จะถูกมอบหมายให้ฟื้นฟูผิวยามค่ำคืน ดังนั้นเทคโนโลยีที่ทาง Primordiale โฆษณามาเกี่ยวกับ Thermo-Control System ที่เป็นสารโพลีเมอร์เปลี่ยนรูปร่างตามอุณภูมิ จึงถูกใช้เฉพาะในตัว day เท่านั้น ไม่มีในตัว night นะครับ

ส่วนผสมชูโรงของตัว Primordiale Nuit (night) ที่ถือเป็นกุญแจ ก็มีด้วยกันจริงๆแค่ 2 ตัวเท่านั้นเองที่ออกฤทธิ์ตามโฆษณาที่อ้างไว้ ว่าจะช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเองยามค่ำคืนในขณะนอนหลับ, ช่วยให้ผิวดูสดชื่นขึ้นในตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้ว และขจัดของเสียออกจากผิว เพื่อความเปล่งปลั่ง.. นั่นก็คือ วิตามิน A ที่ถูกบรรจุอยู่ในแคปซูลนาโนโซม กับ สารสกัดจากจมูกข้าวสาลี, ซึ่งเทคนิคการนำวิตามิน A เข้าไปอยู่ในแคปซูลนาโนโซมนั้น ที่จริงแล้วถูกใช้เป็นครั้งแรกในสายการผลิตของ L’Oreal Revital Lift โดยการใช้เทคโนโลยีนาโนเข้ามาช่วยตรงจุดนี้ โดยอ้างว่าสามารถนำพาสารบำรุงต่างๆแทรกซึมข้าไปในชั้นผิวได้ลึกกว่า โดยไม่เสียคุณค่าของมันไป, ตัวนี้จะประกอบไปด้วยวิตามิน A ในแคปซูล ที่ช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิว ให้ผิวสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น และช่วยทำให้พื้นผิวดูเรียบเนียนขึ้น ส่วนสารสกัดจากจมูกข้าวสาลี จะช่วยขจัดสารพิษที่เซลล์ผิวสร้างขึ้นมาจากการกระตุ้นของปัจจัยต่างๆระหว่างวัน เมื่อสารพิษน้อยลง ตัวขัดขวางขบวนการผลัดเซลล์ผิวก็น้อยลง ผลที่ได้รับก็คือผิวจะได้รับการผัดเปลี่ยนใหม่ดีขึ้น ฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น.. ดังนั้นสารสำคัญมีแค่ 2 ตัวเท่านั้นครับ นอกนั้นก็พวก beech bud กับ เมล็ดดอกทานตะวัน ซึ่งไม่ค่อยสำคัญอะไรเท่าไหร่นัก

ตัวนี้มาในกระปุกพลาสติก ไม่มีพายสำหรับตักมาให้, สีน้ำเงิน diego, เนื้อครีมเมื่อทาไปแล้วให้ความชุ่มชื่นกำลังดีครับ พอๆหรืออาจจะมากกว่าตัว day นิดหน่อย, เนื้อครีมสีเปลือกไข่ ไม่ออกชมพูเท่าไหร่, กลิ่นหอมกุหลาบอบอวน, ไม่ใช่ oil-free และไม่มีเขียนว่า non-comedogenic นั่นก็หมายความว่า สำหรับผู้ที่มีผิวมัน สิว หรืออุดตันง่าย หลีกเลี่ยงการใช้ตัวนี้ครับ

ข้อดี : หลังจากใช้มาติดต่อกันประมาณ 1 เดือนครึ่ง พบว่าทุกครั้งที่ใช้ ผิวจะชุ่มชื่นขึ้น ไม่มัน ไม่เยิ้ม และไม่ก่อสิวด้วย (แล้วแต่สภาพผิวนะครับ) ก็ให้ความชุ่มชื่นได้ดีครับ ไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง

ข้อเสีย : หลังจากที่ใช้ เมื่อตื่นขึ้นมา หลายๆตื่นก็แล้ว ก็สังเกตดูไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดกระปุก พบว่า ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดใดทั้งสิ้น ครับ คือชุ่มชื่นขึ้นอย่างเดียว แต่ว่าไม่รู้สึกถึงความเปล่งปลั่ง หรือผิวหน้าที่ดูสดชื่นขึ้น (ทดสอบโดยสังเกตจากวันที่เหนื่อยจริงๆ และตอนที่ผมใช้ตัวนี้ ก็ไม่ได้ทาอะไรที่เป็น anti-aging นอกเหนือจากตัวนี้เลย) คือเฉยๆนะครับ ไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรแย่ลง เพราะว่าไม่มีสิว (แล้วจะใช้ไปทำไม ??) ไม่ใช่สูตร oil-free และ ไม่ใช่สูตร non-comedogenic อาจก่อสิวสำหรับสภาพผิวมัน หรืออุดตันได้, บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก จะทำให้สารต่อต้านอนุมูลอิสระเสื่อมประสิทธิภาพไปเรื่อยๆในการเปิดใช้แต่ละครั้ง, ผสมน้ำหอมค่อนข้างมาก อาจทำให้หลายๆคนแพ้, ส่วนผสมที่พื้นๆ เช่น วิตามิน A ในแคปซูลนาโนโซม ก็ใช้ L’Oreal Revital Lift แทน คงไม่ต่างเกรดกันมากนักในเรื่องของวิตามิน A ส่วนสารสกัดจากปลายจมูกข้าวสาลี ก็มีกันอยู่มากมายครับ

ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยงครับ !!

-------------------------------------------

คะแนน : 3.2 / 10 ครับ





 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 29 เมษายน 2549 13:51:53 น.
Counter : 566 Pageviews.  

1  2  

Start now
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




สบายๆครับ รักธรรมชาติ รักชีวิต รักความถูกต้อง..

ความสุข คือ
1. การมองเห็นความสุขในตัวผู้อื่น
2. การมองเห็นความสุขในตัวเอง

แค่นี้ก็มีความสุขแล้วนะ....














Friends' blogs
[Add Start now's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.