Group Blog
Reviews ในกลุ่ม Protection (White list)
Reviews ในกลุ่ม Whitening (White list)
Reviews ในกลุ่ม Anti-Aging (White list)
Reviews ในกลุ่ม Cleansing (White list)
Reviews ในกลุ่ม Eye / Lip (White list)
Reviews ในกลุ่ม Moisturizer +อื่นๆ (White list)
สาระ เพื่อการดูแลผิวให้อ่อนเยาว์
เทคนิคการนวดหน้า
สมุด มาเยี่ยม มาเยือน
Home - หน้าแนะนำหลัก
FAQs - ถามพอ ตอบไป
ทางเลือกประหยัด คุณภาพเท่าของแพง (บทความ)
ทางเลือกประหยัด คุณภาพเท่าของแพง (ความเห็น)
Reviews ในกลุ่ม Protection (Black list)
Reviews ในกลุ่ม Whitening (Black list)
Reviews ในกลุ่ม Anti-Aging (Black list)
Reviews ในกลุ่ม Cleansing (Black list)
Reviews ในกลุ่ม Eye / Lip (Black list)
Reviews ในกลุ่ม Moisturizer +อื่นๆ (Black list)
Preview ผลิตภัณฑ์ต่างๆของทุกกลุ่ม
เนื้อหาพิเศษ เฉพาะผู้ที่สนใจเรื่องการเมืองเท่านั้น
All Blogs
Q : ทากันแดดอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ?
Q : PA / IPD-PPD และ SPF คืออะไร สิ่งสำคัญที่ควรรู้ไว้เมื่อเลือกกันแดด ?
Q : การสครับผิวด้วยตนเองแบบ MD ถี่ประมาณไหน ถึงจะเพียงพอ ?
Q : Flash ถ้าไม่ใช่สำหรับถ่ายรูป แล้วมันคืออะไร ?
Q : สครับ และ มาส์ก แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ?
Q : ทำอย่างไร จึงช่วยประหยัดเงินในการซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ ?
Q : Day care และ Night care ต่างกันอย่างไร และใช้สลับกันได้มั้ย ?
Q : AHA / BHA สามารถใช้ทุกวันได้หรือไม่ ?
Q : ผลิตภัณฑ์ Anti-Aging ควรเริ่มใช้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?
Q : Collagen ที่อยู่ใน skin care นั้นสามารถซีมลงผิวด้วยการทา ได้จริงหรือ ?
Q : ทำอย่างไร จึงช่วยประหยัดเงินในการซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ ?
Create Date : 22 มิถุนายน 2548
Last Update : 22 มิถุนายน 2548 20:07:07 น.
5 comments
Counter : 315 Pageviews.
Share
Tweet
A :
วันว่างๆเลยเอาเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆมาฝากครับ แต่คิดว่าหลายๆคนคงถูกใจแน่นอน เพราะคงช่วยประหยัดเงินไปได้มาก ยิ่งภาวะข้าวของแพงขึ้นแบบนี้ด้วย อย่างน้อยสำหรับผมมันก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านผลิตภัณฑ์บำรุงหน้าไปมากกว่า 30% เลยทีเดียว ... ก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรมาก แค่ใช้เทคนิคเล็กๆที่ควรใส่ใจ แต่เราอาจมองข้ามหรือว่าลืมไป เพราะที่จริงมันสำคัญเหมือนกันนะ .. เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของเรา ไม่ว่าจะระดับราคาเท่าไหร่
ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่าที่สุด และประหยัดเงินที่สุด ในขณะที่ผิวของเรา ก็ยังดีได้เหมือนเดิม
ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่ที่เปลี่ยนแปลงก็คือ เงินในกระเป๋าตังค์ของพวกเราจะอันตธารได้ช้าลง .. จากประสบการณ์และเทคนิคส่วนตัวนะครับ เช่น idealist ขวดแรกๆ 30 ml. ผมเคยใช้ได้มากสุด 2 เดือน 1 อาทิตย์ก็หมดขวดแล้ว แต่ด้วยวิธีเหล่านี้ ขวดหลังๆผมสามารถใช้ได้ถึง 3 เดือน 3 อาทิตย์เลยทีเดียว เพิ่มขึ้นมา 1 เดือนครึ่ง !! เทคนิคของผมเป็นแบบนี้ครับ
เทคนิคการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
ป.ล. ขอใช้คำว่า ครีม แทนนะครับ
ข้อที่ 1 :
หลังล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ ไม่ควรจะซับหน้าให้แห้งมากเกินไป ให้เหลือความชุ่มชื่นเล็กๆทิ้งไว้บนผิวหน้าบ้าง เพราะว่าการทาครีมต่อไป มันจะได้ลื่นขึ้น บริเวณที่ได้จากการทาก็จะกว้างขึ้น ดังนั้นปริมาณการใช้ในแต่ละครั้งก็จะน้อยลง
ข้อที่ 2 :
เวลาทาครีม ไม่ว่าจะมาจากกระปุกหรือขวดปั๊มก็ตาม ให้ใช้นิ้วนางและนิ้วก้อยในการจิ้มหรือหยดลงมาบนนิ้วเหล่านั้น อย่าใช้มากกว่า 2 นิ้ว หรือนิ้วอื่นๆ เพราะว่ายิ่งมากนิ้ว ปริมาณที่ครีมบำรุงจะถูกดูดซึมผ่านพื้นผิวของปลายนิ้วก็จะมากขึ้นตามไปด้วย สูญเสียครีมไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นใช้แค่นิ้วนางและนิ้วก้อยจะดีที่สุด เพราะว่าเป็นนิ้วที่เบากว่า เล็กกว่า และสะดวกเพียงพอในการทาครีม
ข้อที่ 3 :
สำหรับผู้หญิงคงจะยาก คืออย่าลืมตัดเล็บให้สั้นๆครับ เพราะว่าพวกครีมจะไปหลงเหลือบางส่วนติดอยู่ในซอกเล็บ ยิ่งเป็นแบบกระปุกด้วยแล้ว ถ้าไม่มีช้อนตักจะเปลืองมากขึ้น
ข้อที่ 4 :
การทาครีม ไม่ควรจะแต้มเป็นจุดๆบนใบหน้าทั้ง 5 แห่งพร้อมกันแล้วทา อย่างที่เคยได้ทราบกัน เพราะว่าวิธีนี้ จะทำให้เรากำหนดความสมดุลได้ยากกว่า โดยเฉพาะพวกผิวผสม ให้ใช้การทาครีมแบบเป็นส่วนๆไปโดยเริ่มทีละส่วน ไล่ทาครีมจากหน้าผาก ลงมาที่แก้มด้านซ้ายหรือขวาก่อนตามถนัด จากนั้นค่อยจมูก และคาง ถ้าส่วนไหนแห้งเป็นพิเศษสามารถใช้ครีมได้มากขึ้น ส่วนไหนมันกว่า ก็ใช้ให้น้อยลง
ข้อที่ 5 :
เวลาทาครีม เป็นส่วนๆ ตอนที่ทานั้น
ไม่ควร
นวดหรือกดแรง เพื่อให้ครีมซึมขณะนั้นเลย เพราะจะเปลืองมากขึ้น เพราะครีมต่างๆลงไปสู่ใต้ผิวเร็วเกินไปก่อนที่จะได้บริเวณมากพอ เทคนิคก็คือ ให้ใช้แค่นิ้วนางและกลาง เกลี่ยครีมเบาๆให้ทั่วบริเวณตามที่ต้องการเท่านั้น ขอย้ำว่าแค่เกลี่ยๆนะครับ ลูบๆก็ได้ ดีที่สุดคืออย่าให้นิ้วติดกับผิวมากเกินไป ยังไม่ต้องรีบออกแรง จากนั้นเมื่อทาครีมทั่วทั้งใบหน้าแล้ว ก็ค่อยๆเริ่มบวดเบาๆ หน้าผากก็ปัดออกจากศูนย์กลางไปด้านข้าง (ใช้ 2 มือ) แก้มก็ปัดออกจากด้านในไปด้านนอกเฉียงขึ้นเล็กน้อย, และจากคางไปสู่แก้ม เพื่อให้ครีมซึมลงสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดมากที่สุด
ข้อที่ 6 :
เวลาจิ้มครีมหรือกดจากขวดปั๊ม ให้กะให้พอดี อย่าให้มากเกินไป หรือน้อยเกินไป ถ้าน้อยเกินไป อาจจะทาไม่ได้บริเวณแลยทำให้ต้องจิ้มหรือกดซ้ำ และเวลาทาก็อาจเผลอทาไปซ้ำจุดเดิมที่เคยทาไปแล้ว จะทำให้หน้ามันขึ้น ผิวมันอาจกลายเป็นสิวได้
ข้อที่ 7 :
ถ้ากำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมัน โดยเฉพาะที่ผสมพวกแป้งหรือสารอะไรก็ตามที่ช่วยดูดซับความมัน และทิ้งความแห้งแบบสบายๆไว้บนผิว .. ให้ทาผลิตภัณฑ์พวกนี้เป็นอันดับสุดท้าย (แต่ก่อนครีมกันแดด) เพราะถ้าทาก่อน พวกครีมต่างๆที่ทาไปทีหลัง จะถูกสารแป้งๆพวกนี้ดูดซับเอาไปหมด ทำให้ต้องใช้ปริมาณครีมมากขึ้นกว่าเดิมในการทาให้คลอบคลุมบริเวณผิวหน้า
ข้อที่ 8 :
ผลิตภัณฑ์หลายๆตัว
ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน หรือ ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น
ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันได้แค่พวกผลัดเซลล์ผิวอย่าง aha bha pha เหล่านี้สามารถที่จะทาแค่ 2 วันเว้น 1 วัน หรือวันเว้นวัน ก็ได้ .. ผลที่ได้จะยังคงเหมือนเดิม แต่จะทำให้ประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม 1 เท่าตัว, และตามปรกติเวลาผมซื้อครีมอะไรใหม่ๆมา ผมจะทาทั้งเช้าและเย็นติดต่อกัน 2 อาทิตย์ (ถ้ามันสามารถทาได้ทั้งเช้าและเย็น) จากนั้นจะเริ่มใช้แค่วันละครั้งเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทาวันละ 2 ครั้งครับ เปลืองเปล่าประโยชน์นะ และผลที่ได้ก็เหมือนกัน ยกเว้นว่าคุณจะมีใช้แค่ 1-2 ตัว แต่ต้องการปกป้องผิวจากอนมูลอิสระหรือความแห้ง แบบนั้นก็ทาทั้งเช้าและเย็นได้
ข้อที่ 9 :
ปล่อยให้เราได้หยุดพัก หายใจโล่งๆบ้างเถิด pleaseee..... นี่คือเสียงคำขอร้องจากผิวของเราเอง ..... ผมคิดว่าหลังจากที่เรากระหน่ำทาครีมมาติดๆกันตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว เราควรปล่อยให้ผิวของเราได้พักผ่อนบ้าง ก็คือไม่ต้องไปทาครีมอะไรมันเลย ล้างหน้าเสร็จ ก็พอ ไม่ต้องไปทำอะไรอีก ผลดีแน่นอน ก็คือประหยัดมากขึ้น และยังช่วยให้ผิวได้รับการรบกวนน้อยลง ดังนั้นผิวจึงมีปัญหาน้อยลง เพราะถึงแม้ว่าพวกบรรดาบริษัทจะอ้างว่าผลิตภัณฑ์ของตนแสนจะอ่อนโยนเพียงใด พวกครีมเหล่านี้ มันก็ยังเป็นเพียงแค่สิ่งแปลกปลอม ส่วนเกินบนใบหน้าอยู่ดี.. การทำก็คือ ให้หาวันว่างๆครับ ของผมเช่นว่า ผมจะพักผิวในวันพุธตอนกลางคืน กับ วันอาทิตย์ตอนเช้า (เพราะว่าวันอาทิตย์ผมไม่ได้ไปไหน ไม่ทากันแดดด้วย) ของผมแค่ 2 ครั้ง จาก 14 ครั้งใน 1 อาทิตย์ที่พักผิวครับ ใครอยากจะมากกว่านี้ก็ได้ ตามใจ แต่ไม่ควรเกิน 4 ครั้งนะ แค่นี้ก็ประหยัดได้เพิ่มอีกละ และผิวหน้าก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้ดูแย่ลง ผมสังเกตกับตัวเอง รับรองครับ..
----------------------------------------------------------
ทั้งหมดนี้ คือวิธีประหยัดครีมผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่จะช่วยให้เพื่อนๆได้ใช้ครีมอย่างคุ้มค่ามากขึ้น ได้ยาวนานขึ้น เพราะว่าซื้อถี่น้อยลง เงินในกระเป๋าก็เลยมากขึ้นตามไปด้วย ประหยัดมากกว่า 30% เห็นๆ ....
สวัสดีจ้า ..
โดย:
Start now
วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:20:20:34 น.
อ่านด้วยความสนใจ นึกว่าคุณรำเพยมาเองเลยนะเนี่ย
ป้ามดคงจะต้องติดตามบ่อยๆแล้วละมั้ง มองไปรอบๆ เห็นน่าสนใจทั้งนั้นเลยค่ะ
โดย:
ป้ามด
วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:21:34:41 น.
ถ้าอาทิตย์นึงทาครีมครั้งนึงจะเป็นไงบ้างง่ะคะ เพราะไม่ค่อยนิยมครีมเท่าไหร่เลย...
โดย:
a00152
วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:23:33:57 น.
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆจ้า ^ ^
โดย: Felys IP: 58.136.70.171 วันที่: 5 ตุลาคม 2548 เวลา:2:20:10 น.
รัก blog นี้จังเลยค่ะ
โดย: เก๋ IP: 61.91.201.247 วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:21:32:56 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Start now
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [
?
]
สบายๆครับ รักธรรมชาติ รักชีวิต รักความถูกต้อง..
ความสุข คือ
1. การมองเห็นความสุขในตัวผู้อื่น
2. การมองเห็นความสุขในตัวเอง
แค่นี้ก็มีความสุขแล้วนะ....
Friends' blogs
รำเพย
เด็กชายหัวหอม
nu_noiy
jipnaja
coombe lane\'s guy
grapepink
ตะวันยิ้ม :-)
KEZIA
Webmaster - BlogGang
[Add Start now's blog to your web]
Links
พันทิพย์ ดอท คอม
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เทคนิคการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ป.ล. ขอใช้คำว่า ครีม แทนนะครับ
ข้อที่ 1 : หลังล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ ไม่ควรจะซับหน้าให้แห้งมากเกินไป ให้เหลือความชุ่มชื่นเล็กๆทิ้งไว้บนผิวหน้าบ้าง เพราะว่าการทาครีมต่อไป มันจะได้ลื่นขึ้น บริเวณที่ได้จากการทาก็จะกว้างขึ้น ดังนั้นปริมาณการใช้ในแต่ละครั้งก็จะน้อยลง
ข้อที่ 2 : เวลาทาครีม ไม่ว่าจะมาจากกระปุกหรือขวดปั๊มก็ตาม ให้ใช้นิ้วนางและนิ้วก้อยในการจิ้มหรือหยดลงมาบนนิ้วเหล่านั้น อย่าใช้มากกว่า 2 นิ้ว หรือนิ้วอื่นๆ เพราะว่ายิ่งมากนิ้ว ปริมาณที่ครีมบำรุงจะถูกดูดซึมผ่านพื้นผิวของปลายนิ้วก็จะมากขึ้นตามไปด้วย สูญเสียครีมไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นใช้แค่นิ้วนางและนิ้วก้อยจะดีที่สุด เพราะว่าเป็นนิ้วที่เบากว่า เล็กกว่า และสะดวกเพียงพอในการทาครีม
ข้อที่ 3 : สำหรับผู้หญิงคงจะยาก คืออย่าลืมตัดเล็บให้สั้นๆครับ เพราะว่าพวกครีมจะไปหลงเหลือบางส่วนติดอยู่ในซอกเล็บ ยิ่งเป็นแบบกระปุกด้วยแล้ว ถ้าไม่มีช้อนตักจะเปลืองมากขึ้น
ข้อที่ 4 : การทาครีม ไม่ควรจะแต้มเป็นจุดๆบนใบหน้าทั้ง 5 แห่งพร้อมกันแล้วทา อย่างที่เคยได้ทราบกัน เพราะว่าวิธีนี้ จะทำให้เรากำหนดความสมดุลได้ยากกว่า โดยเฉพาะพวกผิวผสม ให้ใช้การทาครีมแบบเป็นส่วนๆไปโดยเริ่มทีละส่วน ไล่ทาครีมจากหน้าผาก ลงมาที่แก้มด้านซ้ายหรือขวาก่อนตามถนัด จากนั้นค่อยจมูก และคาง ถ้าส่วนไหนแห้งเป็นพิเศษสามารถใช้ครีมได้มากขึ้น ส่วนไหนมันกว่า ก็ใช้ให้น้อยลง
ข้อที่ 5 : เวลาทาครีม เป็นส่วนๆ ตอนที่ทานั้น ไม่ควร นวดหรือกดแรง เพื่อให้ครีมซึมขณะนั้นเลย เพราะจะเปลืองมากขึ้น เพราะครีมต่างๆลงไปสู่ใต้ผิวเร็วเกินไปก่อนที่จะได้บริเวณมากพอ เทคนิคก็คือ ให้ใช้แค่นิ้วนางและกลาง เกลี่ยครีมเบาๆให้ทั่วบริเวณตามที่ต้องการเท่านั้น ขอย้ำว่าแค่เกลี่ยๆนะครับ ลูบๆก็ได้ ดีที่สุดคืออย่าให้นิ้วติดกับผิวมากเกินไป ยังไม่ต้องรีบออกแรง จากนั้นเมื่อทาครีมทั่วทั้งใบหน้าแล้ว ก็ค่อยๆเริ่มบวดเบาๆ หน้าผากก็ปัดออกจากศูนย์กลางไปด้านข้าง (ใช้ 2 มือ) แก้มก็ปัดออกจากด้านในไปด้านนอกเฉียงขึ้นเล็กน้อย, และจากคางไปสู่แก้ม เพื่อให้ครีมซึมลงสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดมากที่สุด
ข้อที่ 6 : เวลาจิ้มครีมหรือกดจากขวดปั๊ม ให้กะให้พอดี อย่าให้มากเกินไป หรือน้อยเกินไป ถ้าน้อยเกินไป อาจจะทาไม่ได้บริเวณแลยทำให้ต้องจิ้มหรือกดซ้ำ และเวลาทาก็อาจเผลอทาไปซ้ำจุดเดิมที่เคยทาไปแล้ว จะทำให้หน้ามันขึ้น ผิวมันอาจกลายเป็นสิวได้
ข้อที่ 7 : ถ้ากำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมัน โดยเฉพาะที่ผสมพวกแป้งหรือสารอะไรก็ตามที่ช่วยดูดซับความมัน และทิ้งความแห้งแบบสบายๆไว้บนผิว .. ให้ทาผลิตภัณฑ์พวกนี้เป็นอันดับสุดท้าย (แต่ก่อนครีมกันแดด) เพราะถ้าทาก่อน พวกครีมต่างๆที่ทาไปทีหลัง จะถูกสารแป้งๆพวกนี้ดูดซับเอาไปหมด ทำให้ต้องใช้ปริมาณครีมมากขึ้นกว่าเดิมในการทาให้คลอบคลุมบริเวณผิวหน้า
ข้อที่ 8 : ผลิตภัณฑ์หลายๆตัว ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน หรือ ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันได้แค่พวกผลัดเซลล์ผิวอย่าง aha bha pha เหล่านี้สามารถที่จะทาแค่ 2 วันเว้น 1 วัน หรือวันเว้นวัน ก็ได้ .. ผลที่ได้จะยังคงเหมือนเดิม แต่จะทำให้ประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม 1 เท่าตัว, และตามปรกติเวลาผมซื้อครีมอะไรใหม่ๆมา ผมจะทาทั้งเช้าและเย็นติดต่อกัน 2 อาทิตย์ (ถ้ามันสามารถทาได้ทั้งเช้าและเย็น) จากนั้นจะเริ่มใช้แค่วันละครั้งเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทาวันละ 2 ครั้งครับ เปลืองเปล่าประโยชน์นะ และผลที่ได้ก็เหมือนกัน ยกเว้นว่าคุณจะมีใช้แค่ 1-2 ตัว แต่ต้องการปกป้องผิวจากอนมูลอิสระหรือความแห้ง แบบนั้นก็ทาทั้งเช้าและเย็นได้
ข้อที่ 9 : ปล่อยให้เราได้หยุดพัก หายใจโล่งๆบ้างเถิด pleaseee..... นี่คือเสียงคำขอร้องจากผิวของเราเอง ..... ผมคิดว่าหลังจากที่เรากระหน่ำทาครีมมาติดๆกันตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว เราควรปล่อยให้ผิวของเราได้พักผ่อนบ้าง ก็คือไม่ต้องไปทาครีมอะไรมันเลย ล้างหน้าเสร็จ ก็พอ ไม่ต้องไปทำอะไรอีก ผลดีแน่นอน ก็คือประหยัดมากขึ้น และยังช่วยให้ผิวได้รับการรบกวนน้อยลง ดังนั้นผิวจึงมีปัญหาน้อยลง เพราะถึงแม้ว่าพวกบรรดาบริษัทจะอ้างว่าผลิตภัณฑ์ของตนแสนจะอ่อนโยนเพียงใด พวกครีมเหล่านี้ มันก็ยังเป็นเพียงแค่สิ่งแปลกปลอม ส่วนเกินบนใบหน้าอยู่ดี.. การทำก็คือ ให้หาวันว่างๆครับ ของผมเช่นว่า ผมจะพักผิวในวันพุธตอนกลางคืน กับ วันอาทิตย์ตอนเช้า (เพราะว่าวันอาทิตย์ผมไม่ได้ไปไหน ไม่ทากันแดดด้วย) ของผมแค่ 2 ครั้ง จาก 14 ครั้งใน 1 อาทิตย์ที่พักผิวครับ ใครอยากจะมากกว่านี้ก็ได้ ตามใจ แต่ไม่ควรเกิน 4 ครั้งนะ แค่นี้ก็ประหยัดได้เพิ่มอีกละ และผิวหน้าก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้ดูแย่ลง ผมสังเกตกับตัวเอง รับรองครับ..
----------------------------------------------------------
ทั้งหมดนี้ คือวิธีประหยัดครีมผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่จะช่วยให้เพื่อนๆได้ใช้ครีมอย่างคุ้มค่ามากขึ้น ได้ยาวนานขึ้น เพราะว่าซื้อถี่น้อยลง เงินในกระเป๋าก็เลยมากขึ้นตามไปด้วย ประหยัดมากกว่า 30% เห็นๆ ....
สวัสดีจ้า ..