Paulla
Group Blog
 
All Blogs
 
เกาะพยาม @ ระนอง

ได้โอกาสไปเที่ยวทะเลอีกแล้ว หลังจากทำงานมาทั้งปี คราวนี้จะไปเกาะไหนดีที่สงบ สวย และยังคงเป็นธรรมชาติอยู่ เพื่อนก็เลยเสนอมา ไปเกาะพยามไหม เราก็งง "เกาะพยามไหน ไม่เคยได้ยินเลย" ก็ search หาข้อมูล ไม่ค่อยมีใครให้ข้อมูลมากเท่าไร แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าอยู่จังหวัดระนอง ฝรั่งที่นี่รู้จักดีกว่าเราอีกแฮะ เอาว่ะ ลองไปดูสิว่ามันธรรามชาติอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า เราก็เลยนัดเจอกันที่ขนส่งสายใต้ใหม่ 2 ทุ่ม รถออก 3 ทุ่มเป๊ะๆๆๆ ถึงตัวเมืองระนอง 6 โมงเช้า




รถบัสของบริษัท โชคอนันต์ทัว จก. vip 24 ที่นั่งราคา 666 บาท/เที่ยว

พอถึงที่ อ.เมือง ก็แวะกินติ่มซำซะหน่อย เห็นเขาว่าอร่อย แต่รสชาดก็ธรรมดาน่ะค่ะ แต่แถวนั้นมีอยู่เจ้าเดียวค่ะ (สำหรับคนที่ใช้บริการของบ.โชคอนันต์ พอออกจากหน้าออฟฟิตก็เลี้ยวซ้าย เดินตรงไป 200 เมตรก็จะเห็นร้านค่ะ อยู่ฝั่งซ้ายมือ)





หมี่ซั่วของเขาก็คล้ายๆเกาเหลาเครื่องในหมูแล้วใส่เส้นหมี่นี่เองค่ะ

หลังจากกินอิ่มแล้วก็เดินทางต่อไปท่าเรือข้ามไปเกาะพยาม โดยนั่งรถ 2 แถวสีแดง สาย 3 ค่ะ (ขึ้นฝั่งตรงข้ามร้านติ่มซำ) ราคาคนละ 15 บาท บอกเขาว่าไป"ท่าเรือเกาะพยาม"น่ะค่ะ ถ้าบอกว่าไป"ท่าเรือ" คนขับจะขับเลยไปที่ท่าเรือเกาะสอง ฝั่งพม่าค่ะ ต้องเดินย้อนกลับมาอีก 500 ม.ได้
จากปากทางเข้ามาถึงท่าเรือประมาณ 500 ม.ได้ เรือเมล์จะออกเวลา 9.30 น. และ 14.30 น. แต่ถ้าเป็น Speed boat จะออก 10.30 น. ค่ะ ปากอ่าวเป็นพื้นที่ป่าชายเลน ยังคงสมบูรณ์เพราะมีปลาตืนและปูก้ามใหญ่ข้างเดียวเต็มไปหมดสามารถมองเห็นใกล้ๆได้ตรงท่าเรือเลยค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู









พอออกจากป่าชายเลนเราจะเห็นทะเล 2 สี


โชคดีระหว่างทางได้พบคนไทยครอบครัวหนึ่งมาจากชุมพร เลยได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ เขาบอกว่าให้มองไปด้านขวามือจะเห็นชายฝั่ง นั่นคือ เกาะสอง ของประเทศพม่าค่ะ


พอเลยไปหน่อยจะเห็น เกาะสน ที่นี่แหล่ะที่เขามาเล่นกาสิโนกัน จะเห็นตืกสูงที่ดำๆ จุดเล็กๆ เป็นสัญลักษณ์


ที่ระนองคนพม่าอยู่เยอะมาก ร้านค้าต่างๆจะเขียน 2 ภาษาคือ ไทยและพม่า แต่คนพม่านี่ดีน่ะค่ะ รักษาวัฒนธรรมดีจังเลย ผู้หญิงจะใส่ผ้าถุงและปะแป้งขมิ้นที่หน้าก่อนออกจากบ้าน ทั้งเด็กเล็กจนถึงผุ้ใหญ่เลยทีเดียว

เรามาถึงที่เกาะพยามเวลาประมาณ 11.30 น. ใช้เวลา 2 ชม.


พอขึ้นท่าเรือก็เช่ามอ'ไซด์ auto วันละ 250 บาท ซื้อน้ำมันต่างหาก ลิตรละ 45 บาท ถนนบนเกาะจะลาดด้วยปูนเลยขับสบายหน่อยแม้ว่าจะมือใหม่หัดขับ ระหว่างทางไปอ่าวเขาควาย จะมีเนินสูงแถมเป็นทางโค้ง ด้านล่างเป็นเหวด้วยเลยต้องระมัดระวังเป็นพิเศษน่ะค่ะ


กว่าจะถึงที่พักก็เกือบเที่ยงครึ่ง (จริงๆขับแค่ 5-10 นาทีก็ถืงแล้วค่ะ) เราพักที่ วิจิตรบังกะโล (vijit bungalows) ราคา 500 บาท/คืน






พนักงานที่นี่พูดภาษาไทยไม่ได้ส่วนใหญ่เป็นคนพม่า และนักท่องเที่ยวก็เป็นชาวยุโรป เช่น ฝรั่งเศสและเยอรมัน ที่นี่มีนักท่องเที่ยวคนไทยรวมเราด้วยก็แค่ 4 คนเองค่ะ การให้บริการดีค่ะ เอาใจใส่ลูกค้า เคยอ่านเว็ปอื่นบอกว่าไม่ต้อนรับคนไทย บริการไม่ดี ไอ้เราก็อยากรู้เลยโทรไปถามเลยค่ะ เขาก็พูดจาดีน่ะค่ะ ไม่เห็นเหมือนในเว็ปบอกเลย มาถึงก็สั่งข้าวผัดทะเลและข้าวผัดปู รสชาติอร่อยใช้ได้ กุ้งตัวใหญ่ดี และสั่งน้ำมะนาวและแตงโมดับกระหายสักหน่อย



ข้าวจานละ 70 บาท ส่วนน้ำราคาแก้วละ 50 บาท ถ้าปั่น 60 บาท

หาดหน้าบังโกโลเป็นทรายสีขาวละเอียด นุ่มมากเลย ยิ่งตรงชายหาดพอน้ำลง เอาเท้าเหยียบลงไปยกขึ้นมาเป็นรอยนูนเลยค่ะ รู้สึกดีมากๆ และน้ำนี่ใสกิ๊กเลยค่ะ ลมก็เย็นสบายไม่เหนียวเหนอะแหนะด้วย ไม่เหมือนเกาะอื่นๆ เขาบอกว่าเพราะเป็นลมบก (ลมที่พัดมาจากบนบก) อันนี้ก็ไม่รู้เท็จจริงแค่ไหนค่ะ










หลังจากนอนเล่น อ่านหนังสือจนหลับไปหลายงีบ ก็แดดร่มลมตกพอดีก็ขอไปเล่นน้ำหน่อยเถอะใสเหลือเกิน ฝรั่งนี่ก็แปลกน่ะค่ะ ชอบเล่นน้ำตอนบ่ายโมงตรงแดดเปรี้ยงมากๆ ที่รีสอร์ทนี้เขามาเป็นครอบครัวค่ะ เลยนั่งดูพ่อแม่ลูกๆมาเล่นน้ำพายเรือกัน เพลินตาดีค่ะ

พระอาทิตย์กำลังจะตก น้ำก็ลดลงไปเร็วมากเลยค่ะ เลยไปเดินเล่นดูบังกะโลข้างๆดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้าง
เริ่มจากฝั่งซ้ายมือ มี 3 ที่ ได้แก่ Buffolo Bay, Payam Cabana และอีกที่จำไม่ได้ค่ะ
หาดทรายด้านนี้กลางวันจะแคบลงกว่าด้านขวามือค่ะ ส่วนอาหารที่เคยลองไปทานก็ Buffolo bay รสชาติไม่ค่อยถูกปากคนไทยเท่าไร และยุงเยอะมากค่ะ

ที่นี่ด้านหน้าหาดของ Buffolo bay เป็นร้านอาหาร ส่วนที่พักจะอยู่ด้านในค่ะ


สั่ง Seafood Salad ราคา 180 บาท กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ก็สดดีน่ะค่ะแต่ราดด้วยน้ำสลัด Thousand Island ไม่อร่อยเลยค่ะ ต้องขอน้ำจิ้มซีฟู้ดมาเพิ่มแทน


ที่นี่คือ Payam Cabana ด้านหน้าเป็นร้านอาหารเช่นกันค่ะ


ส่วนที่นี่ Vijit Bungalows ด้านหน้าจะมีทั้งที่พักและร้านอาหารเล็กๆ




เรามาดูด้านขวามือกันบ้างมีแค่ที่เดียวคือ Payam Cottage




พอเดินต่อไปเรื่อยๆก็ไม่มีที่พักแล้ว มีแต่หาดและโคดหินแทน ตรงนี้มีรูกลมๆที่เขาบอกว่าเป็น High light ของที่นี่ด้วยค่ะ




ข้ามแนวโคดหินประมาณ 300-400 ม. จะเจอที่พักอีกด้านของอ่าวเขาควาย ชายหาดด้านนั้นจะมีทรายสีทอง คล้ายๆอ่าวใหญ่ค่ะ

หาดนี้อยู่ด้านหน้าของ Mr. Gao Bungalow ค่ะ


อาหารที่พัก Vijit รสชาดอร่อยและเยอะมากค่ะ ราคาไม่แพงด้วย




ที่พักนี่เขาจะปิดไฟเวลา 6 โมงเช้าจนถึง 9 โมงเช้า คนบนเกาะเขาจะใช้ไฟ Solarcell ประหยัดพลังงานดีค่ะ

ถ้าตื่นเช้าออกมาเดินชายหาดสัก 7 โมง จะเจอนกกระยาง นกเงือก (ถ่ายไม่ทันมันบินไปเกาะกิ่งไม้สูง)


พอประมาณ 8 โมงเราก็ขี่มอ'ไซด์เที่ยวรอบเกาะ เริ่มจากไปวัดเกาะพยามก่อนอยู่ด้านซ้ายมือจากท่าเรือ




ก่อนจะไป Blue sky resort ก็มาเจอชาวประมงที่จับปลาตัวใหญ่มาได้ และเห็นปูม้าตัวบะเอ๊กใส่ถุงขาย โลละ 250 บาท ถ้าสนใจจะซื้อปลาสด ปูสดมาทำอาหารกินเองที่รีสอร์ทต้องมาตอนเช้าน่ะค่ะ ประมาณ 7.30-8.30 น. และมีพระเดินมาบิณฑบาตรด้วยน่ะค่ะ




จากนั้นก็ขับผ่านท่าเรือไปทางขวามือไปสู่ Blue Sky Resort ที่เขาบอกว่าเป็น Maldive เมืองไทย ที่นี่เขาว่าอาหารอร่อย และเชฟมาจากโรงแรมระดับ 5 ดาว










เราสั่งสปาเกตตี้ซอสครีมและสเต็กปลาแซลมอล สั่งน้ำกีวี+ส้มและน้ำสตอเบอรี่+แบลคเคอร์แรนท์ และต่อด้วย กล้วยหอมทอด อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ








พอตกบ่ายเราก็ไปอ่าวใหญ่ ผ่านสวนกายูร เขาบอกว่าเดือนนี้กำลังออกดอกถ้าจะเก็บเกี่ยวต้องช่วงเดือน ก.พ.

อ่าวใหญ่ หาดกว้างจริงๆสมชื่อ คลื่นแรงมากจริงๆไม่ค่อยเห็นคนเล่นน้ำทะเล ที่อ่าวใหญ่จะมีผับบาร์เยอะมาก มีทั้งอยู่บนชายหาดและตามทางจะไปชายหาดเต็มไปหมด ใครที่ชอบเฮฮามาพักที่นี่ก็ดีค่ะ แต่ถ้าชอบเงียบๆแบบเรา แนะนำไปพักที่อ่าวเขาควายดีกว่า








พอดีไปถึงเห็นที่พัก Smile bungalow


เรานอนที่นี่ 2 คืนก็ถึงเวลากลับแล้ว เขาถึงว่าความสุขช่างสั้นนัก เรือรอบแรกจะออกเวลา 8.30 น. เราก็เลยไปถึงท่าเรือก่อนเวลาออก 1 ชม. เลยหาอะไรทานรองท้องก่อน ขอแนะนำร้านป้าศรี ขายหมูปิ้ง ไม้ละ 10 บาท เขาหมักได้เข้าเนื้อมากๆ นั่งมอ'ไซด์ผ่านหอมมากๆ เลยแวะซื้อ2-3 ไม้ ของเขาอร่อยจริงๆ และเพื่อนก็ซื้อข้าวราดแกงไตปลา แกงไข่แมงดา และพะโล้ขาหมู อร่อยไม่แพ้กันค่ะ (ไม่มีรูปค่ะเพราะหิวจนลืมถ่ายเลย หุหุหุ)

เราก็มาถึงฝั่งเวลา 10.30 น. ก็แวะเที่ยวระนองต่อเลย ที่นี่มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ขอดูแผนที่ท่องเที่ยวก่อนน่ะ

ที่แรกขอเริ่มจากวัดสุวรรณคีรีวิหาร เป็นวัดอารามหลวง นั่งรถ 2 แถวสีแดง สาย 3 เหมือนเดิมแต่นั่งฝั่งตรงข้ามทางเข้าท่าเรือเกาะพยาม


จากที่ไหว้พระแล้วเราไปต่อที่พระราชวังรัตนรังสรรค์ (นั่งรถ 2 แถวสีแดงคันเดิมหน้าวัดฯเลยค่ะ)




ระนองเมืองแห่งน้ำพุร้อนแร่ธาตุธรรมชาติไม่มีกำมะถัน งั้นขอไปแช่และอาบหน่อยเถอะ เราก็เลยไปที่สวนสาธารณะรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำพุร้อน (บ่อพ่อ)ที่ยังคงมีน้ำล้นทุกปี


มีที่แช่เท้าด้วยค่ะ


เขาบอกว่าที่บ่อน้ำพุร้อนพรรั้ง มีให้อาบและแช่ด้วย ราคา 20 บาท บรรยากาศธรรมชาติมาก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว

และแล้วก็ถึงเวลากลับกรุงเทพฯ ออกจากตัวเมืองระนอง 20.30 น. และถึงกรุงเทพตี 5 ครึ่งของอีกวัน เหนื่อยแต่ก็สนุกค่ะ แล้วพบกันใหม่น่ะค่ะ
บายบาย


Create Date : 14 ธันวาคม 2553
Last Update : 14 ธันวาคม 2553 17:10:59 น. 8 comments
Counter : 7469 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ เลยนะคะ
เป็นทริปที่น่าตามรอย มากจริง ๆ^^


โดย: มิลเม วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:21:31:55 น.  

 
แวะมาเที่ยว เกาะพยาม ครับ


โดย: Kavanich96 วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:8:30:38 น.  

 
เป็นโปรแกรมที่ต้องไปให้ได้นะ สวย สงบ สนุก


โดย: ผู้ร่วมเดินทาง IP: 124.122.245.111 วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:13:21:38 น.  

 
ว้าวๆๆๆๆ กำลังหาข้แมูลเกาะพยามอยู่พอดี
ขอลอกโปรแกรมทัวร์หน่อยจะได้ไหม ครับ


โดย: กาแฟเย็นใส่นมเยอะๆ วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:23:22:19 น.  

 
ได้เลยค่ะ ไม่สงวนลิขสิทธิ์
ใครอยากกินติ่มซำทับหลี ต้องขับรถไปเองน่ะค่ะเพราะมันอยู่ใกล้ชุมพร ถ้ามาระนองโดยรถขนส่งคงไม่ได้ทานค่ะเพราะไกลมากข้ามหลายอำเภออยู่ เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ทาน เขาว่าอร่อยมากกกก = ='


โดย: paulla_j IP: 58.136.10.108 วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:9:07:26 น.  

 
แนะนำเว็บท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม


โดย: attractions (loveyoupantip ) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:23:46:06 น.  

 
เป็นทริปที่น่าสนใจมากกก ไว้จะตามรอยนะคะ


โดย: wanviaum IP: 58.8.32.55 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:20:14 น.  

 
ดีมากเลยค่ะที่เอามาแชร์ให้ดูอยากไปเที่ยวเหมือนกันค่ะ


โดย: 😊 IP: 1.46.66.38 วันที่: 9 มิถุนายน 2559 เวลา:23:43:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paulla_j
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ
เพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์ที่ประทับใจก็แชร์ได้น่ะค่ะ
ยินดีค่ะ ^o^
Friends' blogs
[Add paulla_j's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.