ค้าออนไลน์ มันจะสบายไปมั้ยคร้า...
วันนี้..ไปเดิน Fashion Island เพราะต้องรอหมาอาบน้ำตัดขน ฉีดวัคซีน 2 ตัว ขาว-ดำ เจ้าหยิน-เจ้าหยาง ต้องรอนานหน่อยเลยปลีกเวลา ไปเดินรอที่ห้างสรรพสินค้า ...เพราะมันเย็นและเพลิน..
จากการสังเกตบรรยากาศการค้ารอบๆ ห้าง ดูไม่คึกคักเท่าไรแม่ค้าคุยกันเอง เดินแก่วงแขนชมสินค้าเธอสินค้าฉัน เรากันเอง ท่าทาง Relax ปลอบกันเอง เวลาจะถามราคาหรือถามหาสินค้าต้องเรียกอยู่หลายรอบ และการเลาะรั้วของอิชั้นก็ไม่ได้เรียกร้องความต้องการขายจากแม่ค้าด้วย..เอ๊ะหรือเราดูไม่โอ่...ไม่พอจะซื้อไหวฮา......(หยุดฮา ปลอบใจตัวเองที่เขารู้ทันเราซะก่อน) ต่อนะ...คงเป็นเพราะแม่ค้ามีเวลาว่างพอควร หรือมากกว่าปกติ และยังมีสินค้าต่างๆพากันมาออกรายการกลางห้าง แบบขาจร ก็มีอยู่กลุ่มหนึ่ง ซึ่งกิจกรรมนี้ ก็เป็นไปตามปกติ ของ strategic style and Business Model ของ FashionIsland คือ pooling shop & force sales ด้วยกัน จึงมีบูทมาวางกลางห้างหลาย Zone เช่น สินค้าไทยคล้ายจะ Otop แต่มันดูค่อนไปทาง industrial Product เช่น จิวเวล เลียนแบบ หรือ กระเป๋าหนังเทียม ฝีมือดี มีตำหนิมั่งเลยไม่แน่ใจว่าโอ้กระต๊อบ (Otop) หรือเปล่า แต่ก็มีงานไม้งานสาน งานจิวเวล และครีมสมุนๆไพรไทยๆ ก็เยอะรายการเช่นกันร้านจะวางแน่นหนาเต็มทางเดินตามสไตล์เขา เห็นอะไรบางอย่าง ทำเอาสะดุดความรู้สึก...เอี๊ยด!!!น่ามึนงงเล็กน้อย..ราคาสินค้าบ่งบอกอะไรบางอย่าง..และ อยากจะบอกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย "ราคาถูกลง"คิดว่ามันถูกลง...แต่อาหารกลับแพงปรู๊ด...
ตัวอย่างเช่นร้านปกติขายเสื้อผ้าจำพวกเสื้อผ้าแฟชั่น สังเกตุเห็นชัดคือ ราคาถูกและไม่สมน้ำสมเนื้อกับคุณภาพ...ยังไง ?? คุณภาพดีค่ะ! สินค้าดีกว่าสินค้าที่เราสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตมากยังไม่พอ คุณภาพดีกว่า เห็นรูปแบบด้วยตา เห็นเนื้อผ้า เห็นขนาด และ ลองได้ !!!! วันนี้ ความรู้สึกเปลี่ยนไปเยอะกับสินค้าที่นั่งดอดชมและชื่นชอบทางอินเตอร์เน็ต...เมื่อเปรียบเทียบราคากันระหว่างที่ร้าน กับสั่งซื้อทางออนไลน์...โอวมันต่างกันมาก!!! ทางออนไลน์ มันแพงกว่า 2.5 เท่า เทียบกับที่เจอในห้างตอนนี้ราคาที่เราเห็นทางออนไลน์กับสินค้าสวยๆ คุณภาพไม่ทราบ แต่เดาจากประสบการณ์ว่า...งั้นๆ เดินต่อไปอีกหลายๆร้าน สินค้า 200 บาทล้วนแบบดีและสวยแต่เราจะเห็นได้ทางอินเตอร์เน็ตในราคา 450 บาท หรือ 590 บาท ร้านในห้างตอนนี้ ทั้งราว 200 บาท เลือกกันสิคุณท่าน...เดินเลียบๆ เคียงเล่นไปพักใหญ่ ...ชักเบื่อ (ดูทางเน็ตมาเยอะเหมือนๆกันแหละ)เลยเปลี่ยนโซน..หันมาทางตู้ "อกฟูรูฟิต" ห่ะ..สบู่เต้าหู ก้อนละ 35 บาท 3 ก้อน 100 บาท..ยืนอิดออดพักหนึ่งหยิบวาง หยิบวาง ... พี่แม่ค้าคนสวย(คาดว่าแกต้องทดลองทานกลูต้าแกเองมั่งแล้ว แกสวยมาก อึ๋มและX!!) เอ้า เอาไป 30 บาท เราก็สวมทับไปเลย 4 ก้อนร้อยนะคะพี่ ... โอ๊วไม่ได้ ค่า ..อ่ะ 4 / 110บาท นะจ๊ะ อย่าต่อราคาพี่อีกเลย ...อ่ะค่ะ ๆๆๆๆ รีบกวาดมา 4ก้อน ก่อนที่แกจะนึกเสียดายของๆแก ....โทษทีเหอะ สบู่เต้าหู้ที่ว่านี่ทางอินเตอร์เน็ต .. 40 บาท 5 ก้อน 200 และ รวมค่าส่งอีก 40-50 บาทค่ะ ... อ่ะจี๊ยยยเกือบสั่ง..เล็งๆ อยู่เชียว..ได้ของสมราคา อยากรู้อื่นๆ อีก สินค้าประเภทช่วยสาวขาวสวย ราคาที่เราเห็นทางเน็ต ออนไลน์ประมาณ 600 บาท นี่ลดราคานะ..ไอ้ที่แพงกว่าก็มี ที่ร้านในห้าง 480 บาท บร๊ะเจ้า โลกนี้ต้องล้วงลึกขยันสรรหาซะแล้ว บางทีพี่กรูก็เกินไป (กูเกิ้ล) โกหกเราเพลินเลย... ระหว่างเดินต่อไปเรื่อยๆ ในห้างมองไปที่แม่ค้าแต่ละท่าน (คงเป็นลูกจ้าง เพราะแต่ละท่านเฮฮา..ไม่เครียดเท่าไรนี่แสดงว่า ว่างจนอารมณ์ดี หากขายดี หน้าเขาจะหงิกเพราะเบื่อและเหนื่อย ...ร้านพวกนี้มีโสหุ้ยมีค่าเช่าที่ มีค่าพนักงาน มีค่าอื่นๆ มากมาย ...เป็นต้นทุน ทางออนไลน์ไม่มีต้นทุนแต่มีค่าส่ง หากคุณสั่งหลายๆ เวบก็ปาเข้าไป 3-4 ร้อยเหมือนกัน มันต่างอะไรกับค่ารถ ค่าน้ำมันหนอ ???
ร้านออนไลน์ หากทำเอง ก็ไม่มีโสหุ้ยอะไรนอกจากค่า Host เวบนิดหน่อย"ต่อปี" แน่ะ !! ราคา Host ก็ไม่ได้แพงกระฉูดซะหน่อย... ลองกลับมาพิจารณาร้านรวงอีกครั้งเถิดค่ะ หันมาสอนโลกแห่งความเป็นจริงให้กับพวกร้านทางอินเตอร์เน็ตบ้างว่า แค่ Key Board นิดหน่อยไม่ต้องแพงนักก็ได้...ค้าออนไลน์มันก็สบายอยู่แล้ว จะเอารวยเร็วอีก มันจะสบายไปมั้ยคร้า...
จาก เจ๊กวนเล้ง!! โรควุ้นในตาเสื่อม โรคที่มากับความเจริญของยุค IT
คุณๆ รู้จัก "วุ้นในตามั้ยคะ ? แล้วทราบมั้ยว่า วุ้นนัยตามีปัญหาได้เรา... ไขปัญหาภาษี : ประเด็นปัญหาการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบ
ประเด็นปัญหาการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบ ระยะเวลาบัญชีสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2556 เรามา ปุจฉา& วิสัชนา ภาษีนิติบุคคลที่เริ่มในปี 2556 หรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2556 มีดังนี้ ปุจฉา: ในทางปฏิบัติกรมสรรพากรได้กำหนดแนวทางในการพิจารณากรณีประมาณการกำไรสุทธิขาดไป เกินกว่า 25% ของกำไรสุทธิ ซึ่งได้จริงจากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นตามแบบภ.ง.ด.50 หรือตามผลการตรวจสอบของเจ้าพนักงาน แล้วแต่กรณี ว่ามีเป็นกรณีที่มีเหตุอันสมควรหรือไม่อย่างไร
วิสัชนา: กรณีประมาณการกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีตามแบบภ.ง.ด.51 ขาดไปเกินกว่า 25% ของกำไรสุทธิซึ่งได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นตามแบบ ภ.ง.ด.50 หรือตามผลการตรวจสอบของเจ้าพนักงานแล้วแต่กรณี โดยไม่มีเหตุอันสมควรซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอีก20% ของภาษีที่ชำระขาด ตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร นั้นกรมสรรพากรมีแนวทางในการพิจารณา เหตุอันสมควร ตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ดังนี้
1. กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จัดทำประมาณการกำไรสุทธิและยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีครึ่งปีไว้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้วถือว่ามีเหตุอันสมควร ทั้งนี้ ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 50/2537
2. กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่าร้อยละ25 ของกำไรสุทธิซึ่งได้จากการประกอบกิจการโดยมีเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ถือว่ามีเหตุอันสมควร ทั้งนี้ ตามข้อ 3 ของแนวทางปฏิบัติกรมสรรพากรที่ มก. 9/2550 ลงวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2550
(2.1) กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการในรอบระยะเวลา 6 เดือนหลังของรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการ(รายได้จากการประกอบกิจการ ไม่รวมถึง การนำเงินไปหาประโยชน์โดยฝากธนาคาร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์หรือซื้อพันธบัตรหรือหลักทรัพย์ที่ได้รับมาก่อนไม่ว่าในรอบระยะเวลาบัญชีนี้หรือรอบระยะเวลาบัญชีก่อน)
(2.2) กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อปรับปรุงรายได้เพิ่มขึ้นตามข้อเท็จจริงของผลการตรวจสภาพกิจการ
(2.3) กรณีมีการขายทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการในรอบระยะเวลาบัญชี6 เดือนหลัง ของรอบระยะเวลาบัญชีและมีกำไรจากการขายทรัพย์สินดังกล่าว
(2.4) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำลงทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดต่ำลงด้วย
(2.5) การส่งสินค้าออกมีความไม่แน่นอน ทั้งปริมาณและราคาสินค้าหรือมีการยกเลิกการควบคุมราคาหรือปริมาณสินค้าส่งออก
(2.6) การรับจ้างที่มีค่าจ้างไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างและความยากง่ายของงานที่ทำ
(2.7) อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ
ที่มา : www.bangkokbiznews.com
ระวังพระปลอม โบกรถท่าน ขอติดรถไปปล้น!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าแบ่งปันมาจาก FB แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆและอันตรายจริงๆ พักนี้เห็นข่าว ฆ่าแล้วนำศพมาโยนทิ้ง ลองอ่านเรื่องนี้ดูค่ะ คติสอนฝจ "คนใจบุญ" ทั้งหลาย อาจให้แง่คิดเพื่อระมัดระวังตัวกันบ้างอย่าจอดรับใครง่ายๆ แม้จะแต่งกายแบบพระ แต่เรื่องนี้มีคำแนะนำ มีข้อแนะนำดีๆ ว่าควรทำอย่างไร ... ลอง click เข้าไปอ่านดูค่ะ ... ดูยูทูบ (Youtube) ดีไม่ดี ...อาจติดคุก!!
ขอบอกกล่าว ว่ามีคนไทยเดินทางไป USA แล้วจะกลับ BKK เมื่อไปถึงแอร์พอร์ต ล่วงหน้าก่อน 2 ชม.จึงนั่งเล่น IPad ดูหนังที่ load มาจาก You tube เพลินๆ แต่ถูกจับเฉยเลย ติดคุกอยู่ 6เดือน ภรรยาต้องส่งทนายไปจัดการให้ เพิ่งประกันตัวได้เมื่อวันที่ 12 สค.ที่ผ่านมานี้เอง โดนค่าประกันตัว 1 ล้านบาท จึงขอเตือนกันไว้ นี่เรื่องจริงนะครับ มันมีหลักฐานหมด กล้องวงจรปิด ซูมชัดตามเวลาที่ผู้ถูกจับดูอยู่เลยครับ youtube เปิดดูได้ แต่ห้ามโหลดเก็บไว้ Case นี้คือภาพยนต์ที่มีลิขสิทธิ์ ประเด็นคือละเมิดลิขสิทธิ์ เตือนคนรอบข้างที่เดินทางกันบ่อยๆ ด้วยครับ...เสียวแท้น๊อ!! |
Changixmas
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?] คนเรามี 2 ถูก คือ ถูกต้องและถูกใจ ในการใช้ชีวิตมันมี 2 ถูกนี้เสมอ ถ้ามันทั้งถูกต้องและถูกใจ ดีสุด แต่ยามใดมันสองแพร่ง ระหว่างถูกต้อง กับถูกใจ นี่จะโคตรกระอักกระอ่วนเลย และมันมักอยู่ในลำดับถูกใจ แล้วไปหา ความถูกต้อง ถ้าเรามองหาความถูกต้อง มักจะอดถูกใจ
Group Blog
All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |