Group Blog
All Blog
|
ชาดกเรื่อง "หมีจองเวรไม้ตะคร้อ" บนตู้พระธรรม (The tale of a bear and the tree angel, Jatakanarrative painting on the scripture cabinet at Bang kuntien, Bangkok.) ผมไปสำรวจวัดนี้มานานหลายปีแล้ว หลังจากชมจิตรกรรมในพระอุโบสถ ก็ได้ไปพบตู้ใบนี้โดยบังเอิญ น่าจะเหลือไม่กี่ใบในวัดแล้วที่ไม่ถูกขโมยหรือถูกยกไปขาย น่าเหนื่อยหน่ายเหมือนกันครับ ประเทศอื่นเขาไม่เห็นเป็นยังงี้ ไอ้เรื่องขโมยของศาสนา รู้ทั้งรู้ว่าทั้งผิดบาป ทั้งตกนรก คนมันโลภอยากได้เงิน ทำอะไรก็ได้ไม่ต้องไปคิดถึงชาติหน้าแล้ว เอาเถอะ เรามาต่อเรื่องตู้ใบนี้กันดีกว่า ตู้ใบนี้สร้างสมัยรัตนโกสินทร์ ครับ น่าจะประมาณรัชกาลที่ 3-4 แล้ว ดูจากฝีไม้ลายมือและลายเส้น เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ ผิดแปลกจากตู้ทั่วๆไปที่มักประดับลายเป็นแพทเทรินเฉยๆ เหมือนวอลเปเปอร์ แต่ตู้ใบนี้ช่างท่านออกแบบเป็นเรื่องราวในพุทธศาสนาหลายเรื่องมารวมๆกันไว้ อย่างเรื่องพระปลงอสุำภกรรม เรื่องฉัททันต์ชาดก เรื่องปฏิจจสมุปปบาท ซึ่งไว้ว่างๆ จะเอามาให้ชมกัน แต่ตอนนี้ขอวกกลับไปเรื่อง ผันทนชาดก เสียก่อนนะครับ เรื่อง ผันทนชาดก หรือ หมีจองเวรกับไม้ตะคร้อ มาจาก ขุททกนิกาย อรรถกถาชาดก กล่าวถึง หมีตัวนึง นอนอยู่ใต้ต้นตะคร้อ แล้วกิ่งตะคร้อหล่นใส่หัว หมีก็นึกโกรธรุกขเทวดาประจำต้นตะคร้อว่ากลั่นแกล้งตน จึงเข้าไปหาพราหมณ์ตัดไม้ ที่กำลังหาไม้สำหรับมาประกอบรถ โฆษณาว่าไม้ตะคร้อนี้ดี ทำกงรถแล้วมั่นคงดี ไม่พังง่ายๆ ฝ่ายรุกขเทวดาฟังหมีเจรจาอย่างนั้นแล้วก็ตกใจ เกรงว่าพราหมณ์จะทำลายวิมานของตน จึงกล่าวกับพราหมณ์ว่า ถ้าท่านลอกหนังคอหมีไปหุ้มกงรถ กงรถของท่านจะแข็งแรงเหมือนหุ้มด้วยเหล็กเลยทีเดียว เ่ท่านั้นเอง พราหมณ์ตัดไม้ก็ฆ่าหมีตัวนั้น จากนั้นก็ตัดไม้ตะคร้อเอาไปทำกงรถ แล้วก็ลอกหนังหมีมาหุ้มกง ส่วนเนื้อหนังที่เหลือก็กินเสีย พระพุทธองค์จึงทรงตรัสโทษของการจองเวร การทะเลาะวิวาท การขาดความสามัคคี ก็เป็นอันจบผันทนชาดกครับ ส่วนบนตู้พระธรรม ช่างท่านเขียนเป็นชายตัดไม้ ไม่ได้แต่งกายแบบพราหมณ์ ต่างกับในอรรถกถา แต่ไม่เป็นไร เพราะเนื้อความคงเดิม |
ปลาทองสยองเมือง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]
Friends Blog
Link |