Monsters: สัตว์ประหลาดหรอกเร้อออออ???




Monsters: สัตว์ประหลาดหรอกเร้อออออ???




โอ่ โอ โอ้ ไม่รู้ตัวจริงๆว่าไปอ่านคริติคที่ไหนมาว่ามันช่างเป็นหนังสัตว์ประหลาดเอเลี่ยนบุกโลกที่นำเสนอเรื่องราวได้ดี มีพล็อต ชวนให้คิด ช่างแปลกใหม่กว่าแนวเอเลี่ยนทั้งปวงทั้งหลายที่ทยอยออกฉายกันมาในช่วงปีสองปีนี้

แน่ล่ะสิยะ อย่าไปพูดถึงสกาย *ตู้ด* ให้เมื่อยฟันกรามเลย

เอเลี่ยนที่นาซ่าเก็บตัวอย่างแล้วเกิดความผิดพลาดเกิดตกในประเทศสหรัฐอเมริกาและลามไปประเทศเพื่อนบ้านด้วย พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่าครึ่งประเทศกลายเป็นเขตติดเชื้อ ติดเชื้อยังไง อย่างไร ทำไมคนต้องใส่หน้ากากกันแก๊ซพิษ มีเอเลี่ยนเจ้าของหนวดสปาเกตตี้หยึ๋ยๆตัวเท่าตึกอาละวาดโครมครามให้ดูตื่นเต้นด้วย

มันคงเหมือน District 9 ผสม The Road แน่ๆ ถ้าดูจากเทรลเลอร์ พระเอกดูได้ นางเอกน่าย้ากกกก เอาน่ะ ถ้าหนังไม่ตรงใจดูนางเอกพระเอกแก้ขัดไปพลางๆก็ได้ว้า

ทำไม ทำม๊ายยยย

ดูจบ...ความน่ารักของนางเอกม่ะได้ช่วยอะไรเลย /me ส่ายหัวเศร้าๆ

อ้ะ...อย่ามาชี้หน้าว่าจขบ.ชอบแต่หนังเอเลี่ยนยิ่งกันไส้แตกม้ามกระจายนะ เรื่องแนวนั้นชอบมากก็จริงแต่ก็ไม่ถึงกับเมินทิ้งดราม่าในเรื่องซะทีเดียวหรอก แต่เรื่อง Monsters เนี่ยเอเลี่ยนนี่ผักแนมแอบๆในจานชัดๆ เมนคอร์สน่ะหนังเลิฟๆ

สปอยล์ สปอยล์

อ่ะค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก มันคือหนังรักค่ะ เหมือนโดนเทรลเลอร์หลอกไหมคะ? มันคือ หนังโร้ดมูวี่ที่มีเรื่องราวของความรักมา “แซม” กับ “โคลเดอร์” ที่ต้องหาทางทุกวิถีทางออกจากเม็กซิโกเพื่อข้ามพรมแดนไปสหรัฐก่อนที่ทางการพี่กันจะปิดพรมแดนเพื่อส่งกำลังมาปูพรมกวาดล้างพ่อแม่พี่เพื่อนหมึกพอล ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องดำเนินไปโดยที่เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์เป็นแค่แบ็คกราวน์และตัวประกอบ เตรียมไว้ถ้าคนดูเตรียมลุกไปส้วมเมื่อไหร่มันก็จะแรดออกมาโบกหนวดยาวฟิ้วๆ ส่ายก้นหย่ายๆ ส่องแสงเป็นไฟท้ายรถจักรยานปี๊บๆ วิ้งๆ ส่งเสียงแฮ่! จนในที่สุดเราต้องหย่อนตูดนั่งที่เดิมเพื่อลุ้นว่ามันจะสำแดงเดชสหัสเดชะยังไง? ซึ่งนั่นก็คือประมาณสัก 10% ของเรื่อง อีก 90% ที่เหลือเราจะได้ดูแซมกับโคลเดอร์หนุงหนิงกัน อุกิ๊ว...

ถ้าส่งกีตาร์ให้โคลเดอร์แทนไอ้กล้องคู่กายของฮีและให้แซมฮึมฮัมร้องเพลงซักฉากละก็...


จขบ.จะเรียกเรื่องนี้ว่า Once Upon a time in Monsters’ Land


ช่วงบทสนทนายืดยาวและไร้จุดหมายบนรถแต่ละคันที่แซมกับโคลเดอร์โบกขึ้นมาชวนให้หลับ มอ - อา - กอ = มาก รู้ว่าหนังพยายามปูความสัมพันธ์ของทั้งสองคนให้ชิดใกล้ เพื่อสุดท้ายแล้วจะได้ฉายฉาก kissing moment แสนโรม๊านซ์(ที่สุดที่หนังเรื่องนี้จะมีได้แล้ว)ในฉากสุดท้ายได้อย่างชอบธรรม ไม่งั้นโคลเดอร์จะเป็นพวกฉวยโอกาสและแซมก็จะกลายเป็นหญิงเลว ที่ทั้งๆที่มีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนแล้วยังไปจูบกับชายอื่นอีก

โคลเดอร์คือชายที่ล้มเหลวในชีวิตคู่ มีลูกชายที่แทบไม่ได้เจอพ่อ เขาควรจะกลับไปหาลูก แต่ความสับสนขัดแย้งในใจระหว่างควรไปกับไม่ควรไป สุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าโคลเดอร์ตัดสินใจเรื่องลูกลงไปหรือไม่ แต่จขบ.รู้สึกอยู่ลึกๆ(แว่บนึง) ว่าทำไมเรื่องง่ายอย่างการไปเจอหน้ากันถึงเป็นเรื่องยากลำบาก ทั้งตัวเราและคนที่เราคิดถึงถึงต้องเจ็บปวดอย่างทั่งถึงกัน

ทำไม?


แซมก็ไม่พึงพอใจชีวิตสมรสในกาลข้างหน้า ทั้งหลีกเลี่ยงและปฏิเสธไม่ให้มันมาถึง ทั้งการที่มาเที่ยวเม็กซิโกคนเดียว ทั้งๆที่คนโดยทั่วไปแล้วต้องมากับคู่หมั้นแบบสวีทกันแน่ๆ ยิ่งกว่านั้นแซมยังไม่เคยเดทกับคู่หมั้นอีกต่างหาก

เธอกลัวทั้งปัจจุบัน ที่มีสัตว์ประหลาดให้เห็นในทีวีทุกวัน แต่กลัวยิ่งกว่าคือชีวิตในอนาคตที่เธอไม่เต็มใจที่จะเริ่มกับคู่หมั้นเธอที่เธอไม่ได้รู้สึกผูกพันด้วยเลย (แม้แต่การบอกว่า “ฉันก็คิดถึงคุณ” และ”ฉันรักคุณ” ทางโทรศัพท์แซมก็มีสีหน้าฝืดฝืนอย่างช่วยไม่ได้)

ถ้าเพียงแต่โคลเดอร์จะช่วยเธอได้...

แต่ว่าพระเอกของเราไม่อยู่ในสภาพที่จะช่วยใครได้เลย อันที่จริงโคลเดอร์เป็นเหมือนภาพของแซมในอนาคตด้วยซ้ำ เขาคือกระจกสะท้อนของชีวิตคู่ที่ล้มเหลว

ไม่มีใครช่วยใครได้ เพราะอย่างนั้นทั้งสองคนถึงดึงดูดซึ่งกันและกัน ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

แต่พึ่งพาซึ่งกันและกันตลอดการเดินทางแสนยากลำบากจนถึงปลายทาง สัตว์ประหลาดเป็นเพียงกิ่งไม้ที่งอกยาวผิดที่ผิดที่ทางจนบางครั้งทั้งสองก็สะดุดหน้าคว่ำ แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่จะหยุดทั้งคู่จากการตัดสินใจเรื่องที่ตัวเองหมกมุ่นได้

หนังชีวิตต้องสู้ชัดๆ !!! /me ทุบโต๊ะ ชื่อเรื่องน่ะแปลว่าสัตว์ประหลาด ช่วยทำให้สมชื่อเรื่องทีเถิด
จริงๆแล้วเอเลี่ยนเรื่องนี้ทำให้เราไม่ผิดหวังมากเท่าไหร่ เพราะทราบจากข้อมูลเบื้องต้นแล้วว่าทุนสร้างหนังเรื่องนี้เผลอๆจะสร้างธาราหิมาลัยได้ไม่ถึงครึ่งเรื่องด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นฉากในแม่น้ำที่มีวัตถุประหลาดค่อยๆผุดโผล่มาถึงน่าระทึกมาก ตอนแรกนึกว่ากระโดงหลังเอเลี่ยนกลายพันธุ์จากปลาชะโด แต่ไปๆมาๆฉากนี้ไว้โชว์พลังแขนเอเลี่ยนซะงั้น

ดูไปดูมาบางที Monsters น่าจะเป็นพวกมนุษย์มากกว่านะ อย่างน้อย เอเลี่ยนก็ไม่เคยส่งนุ้กไปถล่มหมู่บ้านคนของตัวเองซะพระเจ้าเหี้ยนเต้ ร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นดูยังไงๆส่วนมากเกิดจากอาวุธสงครามของกองทัพชัดๆ อย่างน้อยเวลาเดือดร้อนเอเลี่ยนก็ไม่เคยโก่งราคาค่าโดยสารเรือเฟอรืรี่ อย่างน้อยเอเลี่ยนก็ไม่ได้ผลาญทรัพยากรที่สะสมมาหลายร้อยล้านปีให้เกลี้ยงหมดหยดสุดท้ายภายในเวลาร้อยกว่าปีได้อย่างมนุษย์แน่

มันขอแค่ไฟไม่กี่วัตต์ที่มันจะขอชิมๆเล็มๆจากทีวีนิดหน่อยเอง แซมก็ขี้งกซะจริง ชอบฉากที่มีความกดดันของแซมที่เห็นเอเลี่ยนกระดึ๊บมาดูดไฟจากทีวีออกไป มีหนวดเลื้อยให้ขนหัวลุกเล่น


แต่ฉากที่เด็ดสุดคือฉากที่หมึกพอลมหายักษ์สองตัวมาเจอกันหน้าปั๊มน้ำมันที่นางเอกพระเอกซ่อนตัวอยู่ แล้วมันก็...

ปั่ม

ปั่ม

ปัม


ป๊าม...


กันหน้าปั๊มให้โคลเดอร์กับแซมชมหนังปลาหมึกสดกันอย่างเพลินตา

จขบ.คิดว่ามันสองตัวปั่มป๊ามกันแน่ 100% ค่ะ คงไม่ใช่การแลก PIN กันอย่างแน่นอน

แน่นอนว่าฉากซาบซึ้งของคู่ปลาหมึกและฉากจูบของแซมทำให้จขบ.น้ำตาไหลพรากได้อย่างไม่ยากเย็น



คือหัวเราะมากไปน่ะ ซี่โครงอักเสบกันเลยทีเดียว


เอาไป 7/10 เพราะฉากหน้าปั๊มช่วยชีวิตไว้แท้ๆเลยเนาะ


ถึงจะบ่นๆว่าน่าเบื่อแต่ก็ตั้งใจดูนะเนี่ยเรื่องเนี๊ย ลำบากนิดหน่อยเพราะซับที่มีนี่เฮลไฮมล์ ตะแคงหูฟังแล้ว เงี่ยหูฟังแล้ว ผิดถูกยังไง มาช่วยท้วงติงด้วยนะคะ






Free TextEditor



Create Date : 15 ธันวาคม 2553
Last Update : 30 มกราคม 2554 13:15:55 น.
Counter : 1464 Pageviews.

10 comment
The Other Boleyn Girl : รักนี้พี่ขอ Spare
หนังขนดาราที่ชอบสุดๆมาไว้เรื่องเดียวกันตั้งสามคน ยังไงก็ขอดูให้ได้ซักวัน (ซักวันมาก...ดองเกือบปี แถมซับผลุบๆโผล่ๆเลยปิดแม่งแล้วฟังมั่วๆเอา รู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่เก็ทนะเออ)





หลงรักพี่เอริค บานาใน Troy กับบทบาทพี่ชายผู้มี อิโมโต๊ะ เอ๊ย โอนี่จังคอมเพล็กซ์กับออร์แลนด์โด้ บลูม (ตอนนี้พี่โด้แกไปไหน? ไม่เห็นหน้ามาหลายเพลาแล้วหลังเรื่องไพเรทภาค 3) แล้วตามมาดราม่ากับบทไอ้ยักษ์ตัวเขียว The Hulk ที่กว่าจะแปลงร่างได้ยากเย็นแสนเข็ญ ดราม่ามากจนโดนโห่เพราะมันไม่ใช่สไตล์ฮีโร่มะกันขวัญใจแฟนๆมาร์เวล มันต้องบู๊เซ่...ก็ไปแก้มือล้างตากันไปในภาค Incredible Hulk ก็ได้ถล่มตึกทลายเมืองสมใจอยากของแฟนๆ ที่ผิดหวังจากภาคก่อนล่ะ มาเรื่องนี้ก็ได้เล่นบทกษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 ผู้เป็นที่ร่ำลือกันว่าเป็นคิงเพลย์บอยที่ประหารเมียตัวเองได้เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ

ชิท...เจอกันคราวนี้พี่เอริคกระโดดถีบลุคส์เฮคเตอร์ชายผู้รักเดียวใจเดียวในใจจขบ.ซะพังทลายหมด แง้...

กับแม่นาง สการ์เล็ต โยแฮนสัน หญิงสาวคนนี้เพิ่งมาติดตามหลังจากเจอพลัง Charisma อันเปี่ยมล้นของเธอกระแทกเบ้าตาจนถลาแซดๆ ใน Match Point เลยตามมาดูต่อกับบทคริสติน่า สาวผู้หาตัวเองไม่เจอซักกะทีใน Vicky Christina Barcelona แต่เรื่องหลังนี่เจอ เพเนโลเป้ ครูซ ส่ง Charisma มาแข่ง สการ์เล็ตเรื่องนี้เลยแพ้เพเนโลเป้ ไป .05 point

และพบรักนาตาลีครั้งแรกใน Star Wars : Attack Of The Clones ความจริงเจอกันหลายหนแล้ว แต่อมิดาล่าในภาคนี้ช่างเจิดจรัสเสียจริง อดเหลียวหันมามองดูไม่ได้ เป็นข้อดีข้อเดียวของภาคนี้ ไม่งั้นจขบ.จะรู้สึกว่าตรูไม่เหลืออะไรกะสงครามถล่มอวกาศแฟนตาซีอันไกลโพ้นอีกต่อไป พอในฉากบูชายัญแท่นทะเลทราย ถึงทำให้จขบ.กรีดร้องว่า “เฮย์เดนนนนนน...เอ็งยังไม่คู่ควรกับแพดเม่เว้ยยยยย” โฮก แฮ่ก เหนื่อย... สครีมพอละ


เรื่องนี้โฟกัสไปที่ตัวหญิงสาวตระกูลโบลีนคนน้อง แต่บทของแอนก็ส่งเสริมตัวเองให้โดดเด้งได้มากกว่าใคร ถึงจะชอบสการ์เล็ตและเชียร์แมรี่ แต่สปอตไลท์ก็สาดลงมาที่แอน การแสดงของนาตาลีจับใจมากกว่า เพราะตัวละครที่มีมิติ ร้ายลึก ร้องฟูมฟายได้เหมือนคนปกติที่เราๆท่านๆเห็น ไม่ใช่อีเย็นที่ยอมให้จิกหัวด่าว่า เช้า กลางวัน เย็น แล้วก็ยังรักท่านเจ้าคุณได้ไม่เสื่อมคลาย เหมือนที่เฮนรี่ปฏิบัติต่อแมรี่ (ถึงไม่ตบก็ทำร้ายจิตใจกันน่าดู) บทบาทแมรี่ของสการ์เล็ตเลยไม่มีพลังเท่าที่ควร คือเป็นคนดีซ้า...แม่พระชัดๆ

The Other Boleyn Girl ส่งเจ๊แน็ต(นาตาลี พอร์ตแมน)มาประกบบทฟาดฟันแย่งชิงพระผัวสุดหล่อล่ำกับสการ์เล็ต โยแฮนสันในบทแอนน์ โบลีน และแมรี่ โบลีน สองเลดี้ไม่ดีแตกในยุคราชวงศ์ทิวดอร์ สงสัยว่าตอนนี้สเตย์ยังไม่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเหรอคะ? ผู้หญิงทุกคนในหนังหลุบนมหมด ถ้ายุควิคตอเรียนละก็ พ่อเอ๊ยแม่เอ๊ย ทุ่งราบนิวซีแลนด์ของเจ๊แน็ตก็เหอะได้ทะลักทลายออกมาไม่น้อยหน้าใคร ไม่ต้องเซดถึงของสการ์เล็ตตี้เลย...ล้นหลาม เคะ เคะ เคะ เคะ /me โดนตบหน้าคว่ำข้อหาจะลากไปเรื่อง ecchi

หมายเหตุ : ecchi นั้น คล้ายๆเกือบๆ เหมือนจะอยู่ในแดนเดียวกันกับคำว่า Hentai อิเคะๆ ผู้มีประสบการณ์ดู หนัง AV จะเจนจัดคำเหล่านี้อย่างมาก อ้ะ...อย่ามาทำซึนเดเระ เค้ารู้นะว่าอย่างน้อยก็เคยดูมาแล้วซักเรื่องละน่า

ศึกรักใหญ่หลวงนักนี้ มี SPOIL ...

ความรักบังตาคน หรืออำนาจบังตาความรัก

สองพี่น้องแสนสวยแม้มีเบ้าหลอมเหมือนกันแต่ขึ้นรูปออกมาต่างกันโดยสิ้นเชิง แอน โบลีน คนพี่แก่นแก้ว ต่อปากต่อคำเก่งและเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ แม้ในตอนแรกเธอจะเก็บความร้ายได้อย่างแนบเนียนภายใต้ผิวนวลแสนสวยกับใบหน้างดงามที่จะลวงหลอกทุกคนแม้แต่น้องสาวที่รักของเธอเอง แต่ในที่สุดเธอก็ปล่อยงูพิษร้ายในใจแล่นออกมาไล่กัดคนรอบข้างจนเจ็บปวดกันไปหมด โดยเฉพาะกับแมรี่น้องสาวที่รักเธอยิ่งกว่าอะไร เพียงเพื่อคำว่า “ริษยา”ที่อาจเจือปนด้วยความรักในตัวกษัตริย์หนุ่มใหญ่แห่งอังกฤษด้วย ในขณะที่แมรี่คนน้องผู้เสงี่ยมหงิมไม่รู้อิโหน่อิเหน่ (สการ์เล็ต...ถึงจะแอบทำตัวซื่อๆยังไงก็หลอกสายตาชั้นไม่ได้หรอก ความเจิดจ้าของเธอยังทิ่มเรติน่าชั้นเสมอย่ะ - จขบ.) ไม่มีแม้แต่การบริหารเสน่ห์ให้ร้อนแรงเหมือนพี่สาว กลับถูกเฮนรี่ที่แปดเหล่ครั้งเดียวแล้วถึงกับหลง(ไม่ใช่รัก)จนส่งคนมากระชากลากเข้าวังไปเป็นเมียเก็บเลยทีเดียว

เรียกว่าวาสนามาจอดถึงตีน แต่ดันมาจอดผิดคนเสียนี่ แอนที่ถูกหมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นว่าที่พระราชินีแห่งอังกฤษหน้าแตกแหกกระจาย ถึงกับต่อว่าน้องว่าไปอ่อยคิงเฮนรี่ถึงในห้องหับทั้งๆที่แม่รี่มีซะมีเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แล้วก็ผิดใจกับแม่รี่นับแต่นั้นมา(จริงๆแอนนั่นแหละผิด ดันไปหลอกล่อจนทำให้เฮนรี่หล่นหกตกม้าจนเดี้ยงตอนที่ไปล่าสัตว์ด้วยกัน ดีที่คอไม่หัก แม่รี่ไปช่วยพยาบาลในตอนกลางคืน แฮรี่ ทิวดอร์กลับหลงหญิงสาวที่สวย ไม่มีปากมีเสียง อ่อนโอนผ่อนตามผู้ชาย เพอร์เฟ็ก! ไม่เหมือนอีค่างบ่างเมื่อกลางวัน โลดโผนซะตรูตามไม่ทัน หล่นหลังม้ามาจุกแอ้กยังงี้ ไม่เอากลับไปทำเมียเด็ดขาด)

แมรี่จึงได้เป็นพระสนมสมใจอาป๊าธอมัส โบลีน และอาโก ดยุคแห่งนอร์ทโฟล์คที่เป็นขุนนางผู้มักใหญ่ใฝ่สูงหวังเป็นเครือญาติกับพระราชินี หากแม่รี่ให้กำเนิดพระโอรสได้ หนทางสู่อำนาจปูด้วยกลีบกุหลาบก็เปิดกว้างสำหรับตระกูลโบลีน ขณะที่มะม้าอลิซาเบธแห่งบ้านนี้คัดค้านความคิดน่ารังเกียจของสามีและน้องชายที่คิดขายลูกสาวไปให้ผู้ชายเพื่อแลกกำอำนาจทรัพย์สมบัติโดยเจ้าตัวไม่ยินยอม(น่า น่า มะม้า ตอนหลังแม่รี่ยินยอมทุกอย่างเลยล่ะค่ะ) เพราะมะม้ารู้ดีว่าการแต่งงานกับคนที่ไม่ชอบนั้นมันทุกข์ทรมานเพียงใด (น่าน สะอึกใช่มั้ยล่ะ อาป๊า)

โชคดีของแมรี่ที่เฮนรี่ปฏิบัติต่อเธออย่างนุ่มนวล เท่าที่ชายคนนึงจะทำให้ได้ เธอจึงรักเขาสุดหัวใจ และเป็นโชคร้ายของแม่รี่เช่นกันที่ทุ่มความรักให้ทุกสิ่งทุกอย่างจนกระทั่งเมื่อโดนทอดทิ้ง... ความเจ็บปวดใหญ่หลวงก็อ้อยอิ่งรอคอยอยู่ข้างหน้า

คนที่ทำร้ายเธอไม่ใช่ใคร สามีสุดที่รักกับพี่สาวของเธอเอง

หลังจากพลาดท่า(อ่อย)ไม่สำเร็จในตอนแรก แอนก็ไปฝึกวิทยายุทธ์ในราชสำนักฝรั่งเศส กลับมาอีกหนก็พกเสน่ห์และลูกเล่นแพรวพราวมาหลอกล่อจนเฮนรี่ถึงกับลืมไปเลยว่าแอนก่อนหน้านั่นเป็นยังไง ลืมไปว่าแมรี่นอนแบ็บเป็นตาลขโมยเพราะอุ้มท้องพระโอรสที่เขาอยากได้นักหนา หญิงร้ายชายบ้ากามโคจรมาเจอกัน ราชสำนักอังกฤษก็ไฟลุกพรึ่บ...

ด้วยความที่ว่าอังกฤษในตอนนั้นอยู่ภายใต้โป๊บแห่งโรมันคาธอลิค ที่เป็นผัวเดียวเมียเดียว (เมียน้อยอีกเป็นโขยงไม่นับ) เฮนรี่ที่แปดมีพระราชินีคาเธอรีนแห่งราชวงศ์อารากอร์นของสเปนอยู่แล้ว และโป๊บก็ไม่อนุญาตให้หย่า (อนึ่ง ถ้าจขบ.จำไม่ผิดโป๊บแห่งวาติกันในตอนนั้นอิงอยู่กับราชวงศ์อารากอร์นมากทีเดียว รู้งี้ฟังอาจารย์มากๆก็ดี หลงๆลืมๆ ไปเยอะเลยง่ะ) แอนที่ยื่นคำขาดว่าต้องหย่าและตั้งตัวเธอเป็นพระราชินีซะก่อน เฮนรี่เลยตั้งตัวเป็นหัวหน้านิกายโปรเตสแตนท์ใหม่ “Church Of England” และจัดการให้สังคราชแห่งแคนเทอะเบอะรี่หย่าพระองค์กับพระราชินี่แคทเธรีน(โดยการทำให้การสมรสเป็นโมฆะ) ท่ามกลางเสียงฮืออย่างไม่พอใจในราชสำนัก และเสียง ”เย้ส!” จากแอน และพวกพ้องผู้สนับสนุน คนขัดขืนไม่ยอมรับมีอีกมาก แต่ทุกสิ่งก็หมุนผันเปลี่ยนผ่าน ไม่มีใครหยุดความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อีกแล้ว

กฎหมายใหม่กรุยทางเสร็จสรรพให้แอนขึ้นครองบัลลังค์คู่กับเฮนรี่อย่างเต็มภาคภูมิ แอนเหยียบย่ำพระราชินีคาเธอรีนขึ้นสู่อำนาจสำเร็จ และเหยียบหัวน้องสาวไปครองรักกับอดีตน้องเขยอย่างสะใจ

แต่มาถึงตอนนี้เฮนรี่คงรู้แล้วว่ากรูเอางูพิษมาทำเมียรึเนี่ย???

ฮื่อ เหมาะดี เหมือนผีเน่ากับโลงผุไง...

และกรรมก็ติดจรวดไวกว่าที่คาดเมื่อแอนไม่สามารถให้กำเนิดลูกชายได้ อำนาจที่มีอยู่ก็คลอนแคลนแม้จะมีแบ็คในราชสำนักจนถึงกับแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันกับคนของเฮนรี่ แม้ ~ สมเป็นแม่ของพระนางอลิซาเบธที่หนึ่ง สร้างบารมีได้ล้นเหลือ

เมื่อแท้งลูกชายอีก แอนเลยจะปล้ำ???จอร์จ โบลีน(หนุ่มหล่ออีกคนในเรื่อง...อ๊าง) น้องชายตัวเองเพื่อเอาทายาท แต่สุดท้ายก็เกิดความเวทนา???น้องชายอย่างสุดระงับขึ้นมา แผนการปั๊มลูกเลยล่ม

(ฮู่ว...ขอบคุณเทวดาฟ้าดิน ให้เจ้แน็ตหื่นอย่างนี้ รับไม่ค่อยไหวแล้วจริงๆ)

ทว่าเมียของจอร์จที่ยังไม่ทันเห็นภารกิจเสร็จสรรพดีก็แจ้นไปทูลฟ้องเฮนรี่เสียแล้ว และในเวลาต่อมาเมียของน้องชายแอนนาม เจน ซีมัวร์ก็เป็นพระราชินีคนต่อไป ฮา...อูย หัวเราะไม่ออกแล้วว่ะ แถมหลังเจน ซีมัวร์ ก็ราชินีอีกคนที่ก็โดนบั่นคอเช่นกัน พูดจริงๆว่าใครได้เป็นเมียเฮนรี่นี่เรียกได้ว่าบรรพบุรุษพ่อบรรพบุรุษแม่ซวย...



แอนถูกตัดสินประหารข้อหามีชู้พร้อมกับจอร์จ(ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่) เพราะเธอรักอำนาจมากกว่าตัวเฮนรี่เอง เธอทะเยอทะยานจนสุดท้ายก็ถูกความทะเยอทะยานนั้นย้อนมาทำร้าย และเฮนรี่ก็เห็นตัณหาดีกว่าความรักที่แมรี่มอบให้ การกระเสือกกระสนไขว่คว้าหญิงสาวมาสนองตัณหาตัวเองในกาลต่อมา จะหาความรักที่บริสุทธิ์เหมือนของแมรี่ก็ยากที่จะมีอีกแล้ว แล้วเฮนรี่ก็ปล่อยไฟตัณหาก็แผดเผาเขาตราบจนวันตาย



คนที่โชคดีสุดในเรื่องนี้เป็นแมรี่ผู้ไม่ช่วงชิงอำนาจอะไรกับใครเลย เธอขอแค่ความรัก



ที่เฮนรี่ไม่ได้ให้...


ที่ให้ไปก็เหือดหายไปตามกาลเวลาหมดแล้ว ความขมขื่นที่เขาทิ้งรอยร่วมกับแอนบนความรู้สึกของแม่รี่ แมรี่ไม่ได้เก็บมาคิดแค้น เธอยังรักเขาและแอนเหมือนเดิม...


และกลับใช้ความรักฟูมฟักเด็กหญิงผมแดงผู้ในภายภาคหน้าคือสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งจักรวรรดิอังกฤษ


ลูกสาวที่เฮนรี่เกลียดชังผู้เป็นแม่สุดหัวใจกลับขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากเขาได้


ตลกร้ายเหลือทน


/me แอบหัวเราะไม่มีเสียงใส่หน้าเฮียแก สมน้ำหน้าย่ะ!!!



เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ชายที่ดีคือผู้ชายที่ตายแล้วเท่านั้น” อ้างอิง ละครเวที“ทึนทึก” คำพูดของป้าจิ๊ แม้จะไม่ถูกหมดแต่ก็ไม่ผิดหมดเหมือนกันล่ะน่า แถมใช้ได้ถึงวันโลกแตก ไม่มี out ไม่มีวันหยุดราชการ สามารถหยิบมาตอกหน้าผู้ชายได้ทุกที่ทุกเวลาหากคิดจะหือขึ้นมา เขาจะอึ้งจนเถียงไม่ออกไปพักนึง เราก็จะกำชัยชนะอย่าง่ายดาย ให้พวกเขางงกันต่อไปว่าสรุปต้องตายกันก่อนเรอะถึงจะเป็นผู้ชายที่ดีได้



และเรื่องนี้ก็สอนอีกว่า

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.



.

.

.

.

.



จะหาคนที่รับบทเป็นคิงเฮนรี่ที่แปดได้สุดหล่อล่ำอย่างเอริค บาน่าคงจะไม่มีอีกแล้ว กิ๊ซซซซ โฮก...


จขบ.มันลำเอียง โปรดอย่าถือสา



Create Date : 02 มิถุนายน 2553
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 14:52:11 น.
Counter : 6637 Pageviews.

10 comment
The Road : ชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดิ้น(กระแด่ว)กันต่อไป


หลังจากสิ้นโลกแล้ว มนุษย์จะเป็นยังไงกันต่อ? หนังวันล้างโลกหลายๆเรื่องทั้ง Armageddon ,Deep Impact , The day After tomorrow ,2012 อื่นๆอีกเป็นตับ และอีกหลายๆเรื่องที่ฮอลลีวู้ดพร้อมจะสร้างหากมีคนขุดค้นพบคำทำนายวันสิ้นโลกใต้หินปูนของอารยะธรรมขาวเมโสโปเตเมียอะไรเทือกๆนั้น หนังที่ว่ามาทั้งหมดมนุษย์ฝ่าด่านทดสอบของพระเจ้าได้อย่างงดงาม ยืดหยัดกล้าหาญต่อหน้าโชคชะตาที่โหดร้าย ไปสู่ฟ้าทองผ่องอำไพอนาคตอันแจ่มใส ดิเอ็น...

ในขณะที่เรื่อง The Road ชะตากรรมที่โหดร้ายเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง


สป๊อยล์ สปอยล์


หลังหายนะครั้งใหญ่ สภาพแวดล้อมไม่อำนวยให้คนอยู่อาศัยอีกต่อ มนุษย์ตัยห่านเกือบหมด ที่เหลือรอดก็กระเสือกกระสน Survival กันเอาเอง รัฐล่มสลาย กฎหมายก็ไม่คุ้มครอง ถอยหลังสู่ยุคนีแอนเดอทัลโดยสมบูรณ์ คนใจเข้มแข็งเลือกจะสู้ต่อไป คนใจอ่อนแอปลิดชีวิตตัวเอง และคนที่ยอมแพ้ต่อความสิ้นหวังสลัดทิ้งศีลธรรมความดีชอบผิดถูกเหมือนถอดเสื้อผ้าเก่าๆกองทิ้งไว้ เพื่อจะได้กระทำป่าเถื่อนโดยปราศจากการยับยั้งจากจิตสำนึกภายใน โลกสิ้นสูญพร้อมๆกับมนุษยชาติที่ดับดิ้นในพริบตา

บักโกอาศัยในโลกที่ว่านี่แหละ

ขอเวลานอกแป๊บนะคะ

สวัสดีค่ะพี่วิกโก ไม่ได้เจอพี่ตั้งนานตั้งแต่เรื่องฮิดัลโก้โน่นแน่ะค่ะ History of violence กับ Eastern promise ไม่ได้ไปข้องแวะเลยค่ะ /me เอาหัวโขกกับพื้นขอขมา เห็นพี่หนวดเฟิ้มเหมือนเดิมแล้วนึกถึงพี่ท่านอารากอร์น ป่านนี้คงจี๋จ๋าอยู่กับแม่นางอาร์เวนอยู่ ณ มิลเดิ้ลเอิร์ธอยู่แน่เลย ชิส์ อิจฉา....

จบนอกเวลา



หนังเป็นโทนเทาๆทึมๆ ฉากเป็นต้นไม้ดำๆหงิกงอ บ้านร้างๆ ฝุ่นกระจายทึบ ผู้คนดูโสๆอี๋ๆ หาความสวยงามจากเรื่องนี้ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว หรือฉากอ่างน้ำท่วมเลือดกับเตาย่างเนื้อ(คน)จะเรียกว่าดูดีเป็น อ่าาาาร์ทเทอะ ศิลปะแนวโกรเทส??? ดูตอนร้อนๆแล้วเย็นสันหลังดีจัง ยิ่งเปิดควบกับ The day After tomorrow แล้วรู้สึกเย๊นเย็นขึ้นมาทันที ( /me ลากพัดลมมาเป่าปลายทีน) จะบอกหน่อยไม่ได้ฤา ว่าที่โลกเป็นอย่างนั้นเพราะอะไร โกลบอล วอร์มมิ่ง? สงครามนิวเคลียร์? ขั้วโลกกลับตาลปัตร? มนุษย์ดาวอังคารโจมตี? ทำให้จขบ.นั่งคิดหาสาเหตุจนลืมธีมเรื่องไปพอสมควร พอพยายามโฟกัสไปที่ตัวละครหลักทั้งสองคน เด็กผู้ชายดูใสซื่อ บริสุทธิ์ พี่วิกโกเคราเฟิ้มเชียว โกนหนวดทีนึงเล่นเอาจำไม่ได้(ในเรื่องอื่น) เป็นพ่อลูกที่รักกันมาก ตอนที่ต้องพลัดพรากจากกันช่างเป็นฉากสะเทือนอารมณ์ แต่ทำไมไม่สามารถเรียกน้ำตาออกมาได้แม้แต่หยดเดียว (ไม่ได้เป็นคนใจแข็งเลย ดูอะไรก็ร้องไห้ได้หมด เจ้าฮาจิกับปู่ริชาร์ด เกียร์ก็ร้อง ดูมิโกะคนทรง(วาย)หุ่นเทวะก็ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ดูไททานิครอบที่ยี่สิบแปดยังร้องเลย)

ทั้งๆที่หนังแนวนี้ต้องคั้นอารมณ์จนน้ำตาทะลัก แต่...

ทำไมฟะ?

รึว่าน้ำในร่างกายมันกลายสภาพเป็นเหงื่อหมดแล้ว?


อ่ะค่ะ
จะเข้าร่องเข้ารอยแล้วค่ะ


พ่อและลูกชายคู่นึงที่เอาชีวิตรอดอยู่บนโลกเน่าๆใบนี้ แสวงหาที่อยู่ที่ปลอดภัยและหนีภัยจากมนุษย์ที่ล่ามนุษย์เพื่อกินเป็นอาหารคนเป็นพ่อเลยสอนให้ลูกใช้ปืน เพื่อปกป้องตัวเองจากเงื้อมมือสัตว์ในร่างคน โดยฆ่าตัวตายก่อนจะถูกกิน ถ้าไม่ว่าจะทำยังไงก็ตามที่ปลายทางก็คือความตาย หนทางที่เรียบง่ายก็ยังดีกว่าทางที่มีแต่ความทรมาน

ผู้เป็นพ่อคิดเช่นนั้น...

ทั้งๆที่ตัวเองกับลูกก็เหยียบลงมาบนเส้นทางที่ทรมานแล้วเรียบร้อย ท้องหิว สิ้นหวัง ท้องอิ่ม ประกายความหวังก็คุขึ้นมาก่อนจะโรยราไปตามความเป็นจริงโหดร้ายที่ผ่านตาทุกวัน ทั้งสองคนลากสังขารพาทั้งกายทั้งใจโทรมๆมุ่งลงทิศใต้ วาดหวังว่าอนาคตที่ดีดว่านี้ยังคงหลงเหลืออยู่ในดินแดนทางใต้ แต่ระหว่างการเดินทางนั้นความเหนื่อยล้าทางกาย ความทุกข์ทรมานใจค่อยกัดกินคนทั้งสอง เด็กชายยังมองโลกในแง่ดี คนเป็นพ่อคล้ายกลับจะโดนย้อมด้วยสิ่งสกปรก ไม่มีน้ำใจ ไม่มีไมตรี ชิงของได้ก็ทำ ฆ่าเพื่อปกป้องตัวเองและลูกได้ก็ยอม ในขณะที่ตระหนักว่าชีวิตตัวเองไม่ยืนยาวนัก เวลาที่เหลืออยู่จึงต้องอุทิศเพื่อเกลาลูกน้อยให้ยืนได้ด้วยขาตนเองเขาก็ต้องสอนลูกให้เหี้ยมและเฉียบขาดกับผู้อื่น ทั้งๆที่อีกใจนึงก็อยากจะเก็บความซื่อบริสุทธิ์ให้คงอยู่ในตัวลูกที่รักยิ่งกว่าชีวิตตลอดไป

ลูกชายที่เปรียบเหมือนน้ำเย็นใสที่คอยหล่อเลี้ยงหัวใจอันด้านชา

สำหรับเขาแล้วถ้าโลกอันโสมมนี่จะแปดเปื้อนอีกสักเพียงใด ขอแค่มีที่พักพิงใจแค่ที่ๆนึงก็พอแล้ว

แสงสว่างในหัวใจทั้งในตัวเองและในหัวใจคนอื่นจะนำพาให้ทุกคนไปสุดถนน สุดจุดหมายปลายทางได้รึเปล่า แล้วที่จุดสิ้นสุดนั่นจะมีที่พักพิงใจไหม?
หรือแค่เป็นการเริ่มต้นของฝันร้ายครั้งใหม่

ถึงจะเป็นอย่างนั้น มนุษย์ก็ไม่ละทิ้งความหวัง นี่สิถึงเป็นมนุษย์ ดิ้นรนต่อสู้อย่างกล้าหาญ ไม่ยอมแพ้อับจนต่อโชคชะตา

อย่าให้แสงสว่างในใจดับเป็นอันขาด...


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.

ให้ตายเหอะ เพิ่งจะเคยเขียนอะไรแบบจริงจังๆ เครียดๆ ก็วันนี้แหละ



Create Date : 07 พฤษภาคม 2553
Last Update : 7 พฤษภาคม 2553 14:43:22 น.
Counter : 1095 Pageviews.

6 comment
Alien vs Predator: Requeim สัตว์ประหลาดฟัดกันนัว
เคยเขียนไว้เมื่อสามปีแสงก่อนที่เว็บอื่น แต่ไหนๆก็มีบล็อกแล้วนี่...จับมาลงในนี้อีกทีแล้วกัน

ภาษาอังกฤษวันละคำ

ดิสอิสอะบล็อค
อีคนเขียนอิสอะอู้...




หัวยาวๆ น้ำลายย้อยๆคือ เอเลี่ยน ส่วนทรงเด๊ดร็อกใส่หน้ากากคือ พรีเดเตอร์ ชื่อไทย สัตว์ประหลาดอุบาทว์ ซัดกันนัว ภาค 2 ในใบปิดหนัง สัตว์ประหลาด 2 ตัว หันมาชู 2 นิ้ว

ไม่รู้ว่าแปลว่าสู้ตาย หรือ ตอนนี้โลกนี้มีเรา 2 ครองคู่กันแน่

ข้อความต่อไปนี้เป็นสปอยล์ทั้งสิ้น สปอยเอเลี่ยนภาคแรกยันภาคล่าสุด

แต่ขอปูพื้นนิดส์ เนื่องจากเป็นแฟนหนังเอเลี่ยน สัตว์ต่างดาวน้ำลายหก หัวยาวเฟื้อย เลือดเป็นกรด และตอนเกิดต้องแหวะท้องบิดรมารดา
(ชั่วจริง เจ้าลูกอกตัญญู) ให้คนดูแทบแหวะ และเสียวสยองมีจิตอุปาทานเล็กๆว่าตัวเองอาจจะเลี้ยงตัวประหลาดต่างดาวไว้ในท้อง

ริปลีย์(ซิเกอร์นีย์ วีเวอร์)ตัวละครหญิงที่เราขอโวตว่าทรหดอดทนบึกบึนที่สุดในฮอลลีวู้ดนี้ ให้คำนิยาม เอเลี่ยนว่า "สัตว์ประหลาด"
หลังจากที่เธอกระเซอะกระเซิงหนี ตายมาได้ในภาคแรก และไปฟัดกับราชินีเอเลี่ยน ภาค 2 ถ้านึกถาพไม่ออก ไปดูภาพข้างบน ราชินีเอเลี่ยนมีทรงนกยูงแพนหางบนหัว และออกไข่เป็นร้อยๆฟองได้ ทางก้นหรือไงเนี่ยแหละไม่แน่ใจ มันมืดๆตอนนั้น

และภาค 3 แม่บึกริปลีย์ไม่รอดเนื่องจากดันมีเอเลี่ยนไปฟักตัวในท้องเธอระหว่างที่เธอ หลับในแคปซูล แต่พวกองค์กรอะไรก้ไม่รู้เอาศพเธอไปโคลน จนได้ริปลีย์พันธุ์ใหม่ทีโหดราวกับเป็นเอเลี่ยนซะเอง เนื่องจากเซลล์เธอไปผสมกับเซลล์เอเลี่ยนเรียบร้อย โรงเรียนฮอลลี่ ในภาค 4 ที่มีชื่อภาคเท๊เท่แต่เราจำไม่ได้ และมีลูกเอเลี่ยนผสมมนุษย์มาแฮ่ๆตอนเกือบจบ และยานร่อนลงโลก ซึ่งคิดว่าเอเลี่ยนคงจบแล้วแหละ เพราะ หนังเอเลี่ยนยึดหลักสำคัญว่าต้องอยู่บนอวกาศเท่านั้น



คิดผิด...



เพราะ สัตว์ประหลาดซัดกันนัว alien vs predator คลอดออกมาในปี 2004 ผูกเรื่องซะเลิศเชียว พิรามิดที่เราเห็นๆกันน่ะ เป็นสถาปัตยกรรมของเผ่าพันธุ์ พรีเดเตอร์ มันเป็นทฤษฎีที่สงสัยกันมานานว่า มนุษย์ต่างดาวเป็นคนสร้างพิรามิดบนโลก ดีว่าหนังยังให้อารยธรรมที่พรีเดเตอร์เป็นพระเจ้านี่ ล่มสลายไปและถูกฝังกลบใต้น้ำแข็ง จนมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งไปพบเข้าแล้วลงไปสำรวจ

ฮ่าฮ่า...เดาต่อไม่ยากส์

ที่อารยธรรมบรรเจิดอลังการล่มไปเพราะพรีเดเตอร์เป็นเผ่าพันธุ์นักรบนักล่า ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าข้าแน่นะ เลยไปเอาเอเลี่ยนมาเพาะไว้
แล้วให้ พรีเดเตอร์ที่ต้องการบรรลุนิติภาวะฆ่าเหล่าเอเลี่ยนที่แพร่พันธุ์ได้เร็ว หยั่งกะปลาวางไข่แน่ะ พรีเดเตอร์ใช้มนุษย์ที่นับถือพวกเขาว่าเป็นพระเจ้าเป็นรังฟักไข่เอเลี่ยน พรีเดเตอร์หนุ่มรุ่นสุดท้ายทำไม่สำเร็จเลยระเบิดตัวเองตายพร้อมๆกับทำลายทุก สิ่งจนสิ้นซาก แต่พวกมันก้ยังใช้พีรามิดใต้น้ำแข็งเป็นที่ฝึก รด.กันทุกๆร้อยปี และแจ็กพ็อดที่พวกนักสำรวจเลือกที่จะลงไปสำรวจพิรามิดใต้โลกในวันนั้นพอดี

อืม ซวยไปนะจ๊ะ...

และก็บู๊สะบั้น เลือดสาดกระจาย ทั้งเขียว ทั้งแดง และเหลืองๆเป็นมูกๆ จนสุดท้ายเหลือ"ต้องรอด" 1 คน กับอีก 2 ตัว นางเอกผิวดำที่พรีเดเตอร์ยกย่องให้เป็นนักรบเลยเชียว ตัวพรีเดเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุด และราชินีเอเลี่ยนหัวนกยูงแพนหาง สู้กันนัวอีกราชินีเอเลี่ยนโดน 2 รุม 1 ถีบตกน้ำจมบุ๋มๆ ส่วนพี่เด้ดร้อกไม่รอดโดนเสียบหลายที... ที่อกนะ ไม่ใช่ที่อื่น

แต่ตอน สุดท้ายบอกโต้งๆ ว่ามีภาค 2 ชัวร์เนื่องจากพรีเดเตอร์
"ต้องรอด"พลาดท่าให้เอเลี่ยนฝังไข่ไว้ในตัว แล้วมันก็ ก๊าซซซ แหวกอกออกมาหน้าตาเป็นลูกครึ่งเหลือเกิน จงเรียกข้าว่า "พรีเดเลี่ยน"

หนังภาค 2 ต่อเรื่องเลยตรงที่พรีเดเลี่ยนอาละวาดบนยานอวกาศของพรีเดเตอร์จนยานตกไปที่ โลก (อีกครา)
แล้วเหล่าเอเลี่ยนและพรีเดเลี่ยนหลุดรอดไปยังเมืองเล็กๆ และแพร่พันธุ์อย่างเงียบๆ ร้อนไปถึงหัวหน้าพรีเดเตอร์ที่ต้องลงมาปราบปราบสัตว์ประหลาด ตัวเองก้อเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนกันแต่เท่ ถ้าเอ็งจะไม่ถอดหน้ากากตอนสุดท้ายให้ดิฉันเห็นหน้าดั่งเช่นที่เอ็งทำเป็นวัตรปฏิบัติในหนังพรีเดเตอร์ทุกๆภาค ไม่เว้นกระทั่ง AVP โค้กพรวดจากปากเลย ตอนเอเลี่ยนฟักตัวจากท้องชาวบ้านยังไม่สยองเท่า

หนังพยายามปูพื้นถึง ความสัมพันธ์ของพี่ชายน้องชาย แม่ที่เป็นทหารจากบ้านไปนานจนลูกสาวปฏิเสธความสัมพันธ์ของแม่...
นอกนั้น อย่าไปพูด ได้เวลาฆ่าล้างเมืองแสนสงบ ให้วุ่นวายอลหม่านปานวันสิ้นโลก เกริ่นไปแล้วว่าเอเลี่ยนแพร่พันธุ์ได้เร็วมาก

ภาคนี้พรีเดเลี่ยนแพร่ พันธุ์ได้เร็วทางลัด วิชามาร โดยไปฝังตัวอ่อนจำนวนมากใส่มดลูกผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ใกล้คลอดแล้ว ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าโพรงอกของคนธรรมดาหลายเท่า อูแหวะ!

เมื่อนาย อำเภอที่ซื่อๆไม่ทันเกม วิทยุไปหาทางรัฐบาล เขาได้คำสั่งให้ไปรอที่ใจกลางเมือง นายทหารหญิงหอบลูกวิ่งกระเตงฟัดแย้งว่านี่เป็นแผนที่จะพาทุกคนไปตาย เธอจึงมุ่งไปทางตรงพยาบาลเพื่อหาเฮลิคอปเตอร์ฉุกเฉินบินหนีไปแทน พี่ชายน้องชายตามไปด้วย และแล้ว...

ทางรัฐบาลก็ส่งขีปนาวุธลงใส่เมืองที่หาย วับไปในพริบตา รวมทั้งพรีเดเลี่ยนและพรีเดเตอร์ที่ฟัดกันนัวด้วย เหลือ "ต้องรอด" 4 คนในภาคนี้(เยอะกว่าภาคที่แล้วอีก) ขับเฮลิคอปเตอร์หนีจากรัศมีระเบิดทัน...

ยังจะมีทิ้งท้ายให้ติดตามภาค 3 ต่อ เนื่องจาก ตัวพี่ชายเก็บเอาอาวุธยิงมวลพลังงานมหาศาลไปได้ และอาวุธชิ้นนั้นตกไปในมือของรัฐบาล

รัฐบาลที่งี่เง่าและจอมปลอมของสหรัฐ...ตามที่หนังฮอลลีวู้ดหลายๆเรื่องนำเสนอให้เราเห็น

"รัฐบาลไม่ โกหกประชาชนหรอก!" สาวรายหนึ่งประกาศ และกล้องได้ฉายให้เห้นถึงใบหน้าที่สิ้นหวังของหล่อนเมื่อเธอเห็นขีปนาวุธที่ พุ่งลิ่วลงมา
แทนที่จะเห็นเครื่องบินช่วยเหลือ

แดกดันกันได้ดีจริงๆ



Create Date : 24 มีนาคม 2553
Last Update : 24 มีนาคม 2553 14:47:17 น.
Counter : 4667 Pageviews.

7 comment
Let the right one in แวมไพร์หน้าใสแต่ใจไม่กระเตาะ
เรื่องมันเริ่มจากว่า เพื่อนลากไปดูแวมไพร์โคตรหล่อ หมาป่าซิกแพ็ค แห่ง Twilight :New moon จขบ.นั่งหาวแล้วหาวอีก ขณะที่เพื่อนนั่งตาแป๋วจ้องลอนคลื่นหน้าท้องเจค็อบอย่างมีความสุข อย่าไปสะกิดเชียวนะ แม่คุณจะแว้ดให้ พอดูจบแล้วมันก็ให้ยืมภาคแรกมาให้ดูด้วย

อูย...นางเอกหน้าปวดอึตลอดเวลาเนี่ยนะ กรูไม่ดูหรอก!
ปั๊ก!โดนสันดีวีดีเคาะหัว แล้วบังคับให้ดู ฮือ... สิ่งที่เก็บเกี่ยวจากภาคแรกได้คือ เพลง Clair de lune ของ Debuusy เพราะดี...

ตอนนั้นเลยสาบานกับตัวเองว่าจะหาหนังแวมไพร์ที่มีเนื้อมีหนังมังสามาดูล้างตาเรื่องนี้ให้ได้



Let the right one in เป็นช้อยส์ที่เข้าตาเลยทีเดียว

ความเหงาจากเมืองที่ขาวโพลน ความอึดอัดจากห้องสี่เหลี่ยมไร้ชีวิตชีวา มีปัญหาครอบครัว พ่อแม่หย่ากัน(โถ...ไอ้หนูเอ๊ย....) และมีแม่ที่ดูเหมือนไม่ค่อยแคร์ เพียงดูแลลูกไปตามหน้าที่เท่านั้น ผลักดันให้ออสการ์ กลายเป็นเด็กเงียบเชียบเศร้าซึมไร้เพื่อน โดนรังแกประจำ และกลายเป็นคนที่อ่อนแอไม่กล้าสู้และเก็บกดอยู่ลึกๆ วันแล้ววันเล่าที่ผ่านไปช่างเศร้าซึมเหมือนเมืองนี้นัก จนกระทั่งเด็กสาวนามเอลี่ผู้ลึกลับปรากฎขึ้นมาในชีวิตออสการ์เนี่ยแหละ ชีวิตเขาถึงพอมีสีสันขึ้นมาบ้าง

สีโชกเลือด...


SPOIL... แล้วนะจ๊ะ เยอะ+สำคัญด้วยเหอะ...


Let the right one in หนังสวีเดนที่ดำเนินเรื่องเนิบนาบตามสไตล์หนังยุโรป ถ้าใครชอบดูแบบซีจีอลังการเรื่องกระชับตัดต่อรวดเร็ว ดูเรื่องอาจจะพังพาบคาโซฟาได้ หนังค่อยๆเล่าทีละเล็กละน้อย หยอดความสยองนิดหน่อยพอแหวะ เสียงเลือดไหลโกร๊ก เสียงหนึบหนับของเลือดที่ติดมือ พอเป็นพรีวิวเล็กว่าเอ็ง(ผู้ชม)จงเตรียมตัวรับมือ แวมไพร์เรื่องนี้ไม่ใช่แวมไพร์โรแมนติก แล้วก็ไม่ใช่แวมไพร์วิ่งโอลิมปิกด้วย<---แซวทไวไลท์

ถ้าออสการ์เป็นเป๊บซี่ที่ถูกเขย่าจนใกล้ระเบิด ที่เปิดฝาขวดเรื่องนี้ก็ชื่อเอลี่ พออสการ์ได้อยู่ใกล้เอลี่มากเข้าสัญชาตญาณดิบก็ถูกถ่ายทอดโดยไม่ต้องพึ่งพาการกัดคอเลย เอ่่อ...บอกไปยังว่าเอลี่น่ะคือผีดูดเลือด  เอลี่ที่ติดค้างอยู่ในร่างเด็กอายุ 12 ตลอดกาลไม่ว่าเวลาจะผันผ่านไปแค่ไหน เธอก็ยังอยู่ อยู่เพื่อออกล่าเลือดมาเติมเต็มชีวิต ไปอีกชั่วกาลนาน(แต่ไม่แน่นะ อีก 2 ปี 2012 โลกใกล้แตกแล้วล่ะ)โดยออกล่าเอง และมีชายแก่ที่จงรักภักดีต่อเธอคอยฆ่าคนเพื่อนำเลือดมาสังเวยเธอด้วย

แวมไพร์ผู้มีประสบการณ์ผ่านไม่รู้กี่ร้อนกี่หนาว สอนสั่งเด็กชายหน้าสวยเหมือนผู้หญิงให้เอาคืน "หนักๆ"  กับพวกเด็กเกเร ไม่เคยมีใครให้คำปรึกษาแบบเจนจัดเช่นนี้มาก่อน และออสการ์เลือกที่จะไว้วางใจและเชื่อเอลี่ เด็กชายรวบรวมความกล้าได้เป็นครั้งแรกของชีวิต ความกล้าที่ก้าวกระโดดจาก 0 เป็น 10 จากความมีเหตุผลเป็นดิบกร้าว จากที่ยืนรอคำพิพากษาของกลุ่มเด็กเกเรโดยไม่ขัดขืนอะไรเลย กลายเป็นไม่ร้องห้ามปรามหรือทักท้วงซักคำแต่ฟาดป้าบจั๋งหนับเลย เสียงกรีดร้องของเด็กเกเรยิ่งทำให้ออสการ์สาสมใจ สีหน้าเปล่งประกายความเชื่อมั่นเหมือนบรรลุสิ่งสุดยอดที่เขาหวังมานาน เขาไม่ใช่เด็กอ่อนแอที่จะมาดูถูกกันอีกแล้ว เขาเก่งขึ้นแล้ว เก่งพอที่เอลี่จะยอมรับ แล้วก็เก่งพอที่จะปกป้องเอลี่ได้ด้วย

เอลี่ที่รัก เพื่อนคนแรกและคนสุดท้ายของเขา เขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ... แต่เอลี่ก็เหมือนจะรั้งตัวเองไว้ก้าวหนึ่งเสมอ คอยพร่ำบอกออสการ์ว่าฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิงธรรมดา

โอว...ช่างโรแม๊นซ์ ไม่เห็นเป็นไรเลยเอลี่เอาอย่างเอ็ดเวิร์ดกับเบลล่าซี่ สวีทวิ้ดวิ้วกันขนาดนั้นน่ะ ถึงเธอจะไม่เป็นมังสวิรัติก็ช่างเถอะ ถึงเธอจะแค่ 12 ขวบก็ไม่เป็นไรหรอกนะ เดี๋ยวนี้เขานิยม Loli (คุคุคุ...คุก...คุก...คุก อืม...เหมือนอะไรติดคอ)

ต่อมาถึงได้ซาบซึ้งว่า...ที่เอลี่มีปัญหาไม่ใช่แค่เธอเป้นแวมไพร์อย่างเดียว...




เอลี่เคยมีปิกาจู้!!!





โฮ้-หลี่-ชิด !!!.....จขบ.ไถลตกเก้าอี้...
หักมุมรุนแรงแหกโค้งเลย<---- สำหรับเจ้าของบล๊อกน่ะ
เรื่องนี้มัน Y(aoi) ทำไมไม่มีใครบอก เค้าจะได้หามาดูให้เร็วกว่านี้!!! กระดี๊กระด๊า...                                                             

อูย ว่าแล้วว่าทำไมบรรยากาศมันแปลกๆ ว่าแล้วก็ย้อนไปดูตอนที่ออสการ์ไปอยู่กับพ่อแล้วเพื่อนพ่อก็โผล่มา รึว่าฉากนั้นก็!!! กึ๋ยส์ๆๆๆๆ(คิดมากไปเองค่ะ) วิ่งไปหาพัดลมมาเป่าไล่ปราณเมฆม่วงจากบล็อกก่อน เดี่ยวผู้ที่หลงเข้ามาจะสำลักตาย...

ถึงจขบ.จะสนใจเรื่องนี้ แต่ออสการ์ก็บ่ยั่น ไม่สนอะไรทั้งนั้น ขอแค่เอลี่อยู่ข้างๆเขาก็พอแล้ว ไม่สนขนาดที่ว่าเขาต้องผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าผู้คนเพื่อเธอ(รึเขา) ในทางกลับกันเอลี่ก็พร้อมจะผลาญคร่าชีวิต mortal อื่นๆเหมือนกันหากเพื่อเด็กผู้ชายหน้าหวานใสคนนี้เพียงผู้เดียว

รึเรื่องนี้มันจะ Yuri วะ? เอลี่ยิ่งน่ารักอยู่ด้วยดิ...

แล้วบางทีเรื่องอาจะซ้ำรอยเดิม บางทีออสการ์อาจจะเป็นเหมือนชายแก่ที่เคยร่วมชีวิตอยู่กับเอลี่ เมื่อถึงจุดๆนึงไม่เธอก็เขาก็ต้องพลัดพรากจากกัน คนอยู่ก็เจ็บปวด หากคนตายมิอาจรอคอย...หรือสองคนอาจจะเลือกที่จะอยู่ร่วมกันในฐานะคนที่ไม่ใช่คน ไม่อาจปลดเปลื้องบาปได้เหมือนหญิงสาวที่ยอมตายด้วยแสงแดดแผดเผาดีกว่ามีชิวิตอยู่อย่างไม่อาจออกไปข้างนอกยามกลางวันได้ตลอดกาล...

ปล.ถ้าเอลี่อยู่เมืองไทยจะลำบากน่าดู...แดดแรีงแรง
ปล.2ออสการ์ก็เหมือนกันสวยจนต้องโดนหลอกเอาไปขายชัวร์ๆ
ปล.3 Yaoi คือชายรักชาย ส่วนYuri คือหญิงรักหญิง



Create Date : 07 มีนาคม 2553
Last Update : 7 มีนาคม 2553 16:38:32 น.
Counter : 4219 Pageviews.

6 comment
1  2  3  

กุลสตรีดีแตก
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Group Blog