~ ข้อควรระวังสำหรับการคำนวณ "กำไรต่อหุ้น"
Smiley ขณะที่ผมกำลังนั่งแกะงบการเงินของบริษัทแห่งหนึ่ง ผมได้ทดลองคำนวณกำไรต่อหุ้นด้วยตนเอง
ถึงแม้ว่างบการเงินของแต่ละบริษัทมักจะสรุปกำไรต่อหุ้นมาให้อยู่แล้วก็ตามที

Smiley การคำนวณกำไรต่อหุ้นนั้น
ใช้ "งบกำไรขาดทุน" และ "งบดุล"



Smiley สูตรในการคำนวณกำไรต่อหุ้น คือ

"กำไรสุทธิ" หารด้วย "จำนวณหุ้นสามัญ (ที่ได้รับการชำระมูลค่าแล้ว)"

ผมได้ทดลองคำนวณกำไรต่อหุ้นของปี 2552
ผลที่ได้ตรงกับตัวเลขที่ทางบริษัทระบุเอาไว้พอดี Smiley



ผมจึงทดลองคำนวณกำไรต่อหุ้นของปี 2551 ดูบ้าง
ผลที่ได้ไม่ตรงกับตัวเลขที่ทางบริษัทระบุเอาไว้ Smiley Smiley



Smiley หากท่านสังเกต "งบกำไรขาดทุน" ให้ดีจะเห็นบรรทัดนี้เขียนว่า
"จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก"



Smiley ในระหว่างปีบริษัทอาจจะมีการออกหุ้นเพิ่ม หรือซื้อหุ้นคืน Smiley
ทำให้จำนวนของหุ้นเปลี่ยนแปลงไป

Smiley ตัวอย่าง Smiley



เมื่อนำ "จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก" มาใช้
ตัวเลขที่ได้จะเท่ากับตัวเลขที่บริษัทคำนวณมาให้พอดี Smiley Smiley





Create Date : 02 สิงหาคม 2555
Last Update : 2 สิงหาคม 2555 14:04:10 น.
Counter : 5827 Pageviews.

2 comment
งบการเงินบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของบริษัท
Smiley เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2555
ได้อ่านกระทู้ของคุณ  Bgate ในเว็บบอร์ดพันทิป ห้องสินธร
เนื้อหาของกระทู้เขียนไว้ว่า

ถามเพื่อนๆที่ติดตาม KYE มานานหน่อยครับ

ถามเพื่อนๆที่ติดตาม KYE มานานหน่อยครับ
อยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่ปี 2009 ที่ KYE มีกำไรโตขึ้นถึง 6 เท่าตัวโดยประมาณ โดยที่ยอดขายไม่ได้เติบโตขึ้นครับ
เหมือนมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างอย่างรุนแรง

ภาพที่ 1

จากคุณ       : Bgate
เขียนเมื่อ     : 27 ก.ค. 55 22:48:07

 แม้ว่าจะไม่เคยได้ติดตาม KYE เลย (ไม่รู้จักด้วยซ้ำ) แต่ท่านสามารถรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้จากงบการเงิน

Smiley เริ่มจากการนำงบการเงินย้อนหลังมาอ่าน (ผมใช้เว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.ล.ต.)

ภาพที่ 2

Smiley นำ งบปี ของปี 2552 มาอ่าน (ภายในจะเป็นของปี 2552 เปรียบเทียบกับปี 2551)

ภาพที่ 3

Smiley มาเริ่มวิเคราะห์กันเถิด

ภาพที่ 4

Smiley รายได้จากการขายและให้บริการ(รายได้หลักของกิจการ)ลดลง 504 ล้าน (โอ้โห ลดลง 500 ล้าน)


แม้ว่าจะมีรายได้จากเงินปันผล ,กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ,และรายได้อื่น ๆ มาช่วยประมาณ 100 ล้าน
แต่รายได้รวมก็ยังลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 400 ล้านอยู่ดี (โอ้โห)

Smiley แม้ว่ารายได้จากการขายและให้บริการ(รายได้หลักของกิจการ)จะลดลง 504 กว่าล้าน
แต่ต้นทุนการขายและบริการ(รายจ่ายหลักของกิจการ) น้อยลงถึง 803 ล้าน (สงสัยนโยบายลดต้นทุนจะดี)

แม้ว่าค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็เพียง 60 ล้านเท่านั้นเอง
และปี 2552 นั้น ไม่ได้ขาดทุนจากการแลกเปลี่ยนเหมือนปี 2551

ทำให้ค่าใช้จ่ายในปี 2552 ลดลงจากปี 2551 ถึง 757 ล้านเลยทีเดียว (ลดต้นทุนสุดสุด)

Smiley ทำให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายในปี 2551 เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ถึง 357 ล้าน
รวมถึงการจ่ายดอกเบี้ยน้อยลง 1 แสน 5 หมื่นกว่าบาท (เศษเงินของหลักร้อยล้านจริง ๆ)

ทั้งหมดที่กล่าวมา จึงทำให้ปี 2552 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 2551 จำนวน 357 ล้านบาท

Smiley หรือสรุปง่าย ๆ ก็คือ
ขายได้น้อยลง 500 ล้าน
แต่ต้นทุนลดลง 800 ล้าน
เงินจึงเพิ่มมาประมาณ 300 ล้าน

Smiley งบการเงินบอกเล่าเรื่องราวได้ดั่งนิทาน



Create Date : 28 กรกฎาคม 2555
Last Update : 31 กรกฎาคม 2555 5:01:38 น.
Counter : 2194 Pageviews.

3 comment
อย่าตัดสินบริษัทจากบทสรุปผลประกอบการ
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2555
ได้อ่านกระทู้ของคุณ
เม่าทมิฬ จากเว็บบอร์ดพันทิป ห้องสินธร

คุณเม่าทมิฬได้ตั้งกระทู้ถามชาวสินธร ดังนี้

ถามเล่นๆ หุ้นตัวนึง 5 ปีที่ผ่านมาเป็นแบบคิดเห็นอย่างไรกัน

ส่วนของผู้ถือหุ้นลดไป 50%
สินทรัพย์ลดไป          20%
รายได้เพิ่ม              147%
กำไรสุทธิเพิ่ม          250%
และจ่ายปันผลโหดมาหลายปี

สำหรับผมซื้อมาก็กะถือนานแต่พอมานั่งเจาะงบจริงๆก็เปลี่ยนเป็นดูว่าถ้าส่วนของผู้ถือหุ้นลดไปแตะ 70- 80%จากปี 51 ผมคงออกล่ะ บริษัทคงไม่เจ๊งหุ้นคงไม่ร่วงมากแต่ไม่ชอบหุ้นลักษณะนี้

ท่านอื่นว่าไง

จากคุณ : เม่าทมิฬ
เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 20:36:05

Smiley กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่น่าสนใจ
เพราะสมัยเมื่อผมเข้าตลาดหุ้นใหม่ ๆ ยังไม่มีวิชากรองหุ้น
ไม่รู้จะวิเคราะห์บริษัทจากอะไรดี

Smiley อาศัยการเปิดบทสรุปผลประกอบการขึ้นมาวิเคราะห์แบบมั่วๆ
เมื่อท่านเข้าไปที่เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หรือเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เก็บรวบรวมข้อมูลบริษัท

อาจจะได้พบเห็นผลประกอบการหน้าตาคล้ายกับแบบนี้


มันเป็นผลประกอบการที่สรุปแบบรวบรัดไม่ได้แจกแจงรายละเอียดอะไรเลย
การวิเคราะห์บริษัทโดยใช้สรุปผลประกอบการแบบนี้อาจจะเกิดปัญหา
เช่น ไม่เข้าใจว่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเป็นข้อดีหรือข้อเสีย เป็นต้น


Smiley ย้อนกลับมาที่คำถามของคุณเม่าทมิฬ

ส่วนของผู้ถือหุ้นลดไป 50%
สินทรัพย์ลดไป          20%
รายได้เพิ่ม              147%
กำไรสุทธิเพิ่ม          250%
และจ่ายปันผลโหดมาหลายปี

------------------
1. ส่วนของผู้ถือหุ้นลดไป 50%

ส่วนของผู้ถือหุ้นนั้นประกอบไปด้วย
-กำไรที่ยังไม่ได้จัดสรร
-จำนวนหุ้น
- ส่วนเกินมูลค่าหุ้น

ท่านกล่าวว่าส่วนของผู้ถือหุ้นลดไป 50% จะต้องดูว่าส่วนใดที่ลดไป
ถ้าลดลงเพราะกำไรสุทธิลดลง = ไม่ดี
ถ้าลดลงเพราะจำนวนหุ้นลดลง = ดี เนื่องจากจะมีคนแบ่งกำไรน้อยลง ทำให้แต่ละคนได้มากขึ้น

บอกแค่ว่าส่วนของผู้ถือหุ้นลดไป 50%  ไม่อาจจะสรุปได้ว่าดีหรือไม่
--------------------------
2. สินทรัพย์ลดไป 20%

สินทรัพย์นั้นต้องดูว่าเป็นอะไร

ถ้าเป็นสินทรัพย์ที่ล้าสมัย หมดประโยชน์
การขายซากเหล่านั้นออกไปถือว่าเป็นเรื่องดี

แต่ถ้าขายสินทรัพย์ทิ้งเพื่อหาเงินฉุกเฉินนั้นถือว่าใช้ไม่ได้
-------------------
3. รายได้เพิ่ม 147%

รายได้นั้นแบ่งเป็น
- รายได้หลักที่มาเป็นประจำ เช่นรายได้จากการขายหรือบริการ
- รายได้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว เช่น เงินที่ได้มาจากการขายสินทรัพย์ (ที่ดิน โรงงาน ฯลฯ)

ถ้ารายได้ที่เพิ่มมาจากการทำงานของบริษัทถือว่าดี

หากบริษัททำการค้าไม่ดี แต่ปีนั้นขายซากสินทรัพย์ทิ้งไปได้
ทำให้มองดูเหมือนว่าปีนี้รายได้เยอะ
ทั้งที่ว่ารายได้แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำเสมอ

* รายได้มากขึ้น ต้องดูว่าค่าใช้จ่ายขึ้นด้วยไหม
ต้องเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายด้วย
------------------
4. กำไรสุทธิเพิ่ม 250%

อย่างที่ได้กราบเรียนไปข้างต้นว่า
ต้องดูให้ดีว่าเงินที่เพิ่มนั้นเป็นเงินที่ได้ประจำ หรือเงินที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

------------------
5. จ่ายปันผลโหดมาหลายปี
ท่านต้องดูว่าจำนวนเงินที่จ่ายปันผลนั้นมากหรือน้อยสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับรายได้

ถ้าเงินปันผลน้อยกว่ารายได้ อาจจะหมายถึงบริษัทนำเงินที่ทำธุรกิจมาจ่าย
ถ้าเงินปันผลมากกว่ารายได้ ท่านควรจะสงสัยว่าเอาเงินที่ไหนมาให้ กู้เขามา หรือขายสินทรัพย์เพื่อหาเงิน
-----------------------

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมต้องมุดเข้าไปอ่านงบการเงินจริง ๆ
การใช้ตัวเลขสรุปสำเร็จรูปโดยไม่แจ้งรายละเอียด ทำให้ไม่รู้แหล่งที่มาของเงิน
และอาจทำให้ "คิดผิดพลาด" ได้


ท่านสามารถศึกษาการกรองหุ้นได้จากที่นี่

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pantipstory&month=07-2012&date=12&group=9&gblog=1




Create Date : 26 กรกฎาคม 2555
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 8:43:15 น.
Counter : 2097 Pageviews.

1 comment

เฮียเลือด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



พระธรรมลูกา บทที่ ข้อที่ 31
"พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “คนปกติไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต้องการหมอ"