Conrad Bangkok



วันนี้นายพัก..สบายจะพาเพื่อนๆไปสัมผัสกับอีกหนึ่งโรงแรมย่านใจกลางเมือง ถึงแม้ที่นี่จะเป็นมานานแล้ว แต่ผมเชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักที่นี่ทุกซอกทุกมุม มาครับ มากับผม เดี๋ยวผมจะพาไปสัมผัสที่นี่แบบเจาะลึกกันนะครับ

คอนราดกรุงเทพตั้งอยู่ในตึกคอมแพล๊กโฟซีซั่น การจะมาที่นี่นั้นถ้าไม่มีรถยนส่วนตัวมาก็เดินทางไม่ยากครับ เพราะเราสามารถมาโดยลงรถไฟฟ้าสถานีเพลินจิตและต่อชัตเตอร์บัสโรงแรมเข้าไปครับ ชัตเตอร์บัสจะเวียนมาจอดตรงป้ายรถเมล์แถวๆหน้าโรงแรม โนโวเทลเพลินจิตครับ



คอนราด กรุงเทพฯ เป็นอีกโรงแรมหนึ่งที่วางตัวเป็นโรงแรมสำหรับนักธุรกิจ เลยครับ  บรรยากาศลอบบี้ของโรงแรม เพดานจะสูงๆ ใช้สีโทนอบอุ่น ไม่โชว์วิวใดๆทั้งสิ้น โดยรวมแล้วเหมาะกับการมานั่งรอคุยธุระ หรือทำธุระกรรมกันซะมากกว่าครับ ลอบบี้นี้คนจะวุ่นวายทั้งวันครับ ยิ่งช่วงเที่ยงๆด้วยแล้วไม่ต้องบรรยายกันเลยครับ



พื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 7 ในโซนนี้ครับ ชั้นนี้ถือเป็นชั้นที่รวมกิจกรรมไว้ทั้งหมดสำหรับแขกที่มาเข้าพัก มีทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่(มาก) ฟิตเนส และสปา













ส่วนห้องพักที่นี่ ต้องขอบอกว่า เมื่อตอนที่โรงแรมนี้สร้างเสร็จใหม่ๆคงจะ "ว้าวววววว" กันไม่น้อย แต่เวลาผ่านไปหลายปี ก็มีหลายๆโรงแรมใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย ห้องพักที่นี่ก็เลยดูค่อนข้างจืดไปสักนิด แต่สิ่งที่ยังรู้สึกได้ไม่เปลี่ยนแปลงไปคือ ห้องพักที่นี่อยู่สบาย เตียงนุ่ม และมีโต๊ะทำงานที่เป็นกิจจะลักษณะ ในส่วนของห้องน้ำนั้นผมต้องขอยอมรับเลยครับว่า ดูดี สวย ไม่ตกยุคเลย







ชุดอาบน้ำเป็นชุดนี้ พร้อมตุ๊กตายางช้างน้อย (ที่ไม่ฟรี)



ส่วนช้างผ้านี้เป็นกิ๊ฟก่อนนอนครับ จะมีให้หนึ่งตัวต่อหนึ่งเตียง เพราะฉะนั้นใครมานอนที่นี่นอนเตียงคู่เถอะครับ เพราะจะได้ช้างน้อยสองตัว

ป.ล. โดยส่วนตัวแล้วผมว่า ช้างสีม่วงสวยสุดแล้วครับ



Executive Suites เป็นห้องสวีทที่มีขนาดกำลังพอดีไม่ใหญ่โตมากมายนัก







Deluxe Suites เป็นอีกห้องพักที่ผมว่าสวยทีเดียว โดยเฉพาะวิวที่ชั้นสูงๆด้วยแล้ว วิวสวยไม่แพ้โรงแรมไหนๆในกรุงเทพเลยครับ









Executive lounge ในชั้นที่ 29 lounge ที่นี่จะมีเสริฟอาหารเช้า อาฟเตอร์นูนทีในช่วงบ่ายๆ และ ค๊อกเทล&คานาเป้ในช่วงเย็นๆ ฟรีสำหรับแขกพิเศษที่จ่ายเพิ่มมา











Diplomat Bar อยู่ติดกับลอบบี้ ที่นี่ถือเป็นอีกที่ๆเหมาะกับการมานั่งชิลล์หรือคุยงานกันครับ





Liu ห้องอาหารจีนแสนอร่อยของที่นี่ ในความคิดผมๆว่าอาหารที่นี่อร่อยและบุฟเฟ่ติมซำราคาก็สัมผัสได้







KiSara ต้องยอมรับเลยครับว่าอาหารที่นี่อร่อยและมีคุณภาพมากๆๆ(แต่ราคาแอบแรง) มีบุฟเฟ่ซูชิในวันธรรมดาราคาประมาณ 1000 บาท







เมนูนี้ ฟรัวกรากับเต้าหู เป็นการผสมระหว่างตะวันตกกับตะวันออกครับ







เนื่อมัสซึซากะตุ๋นทานกับมันบด อร่อยมากๆๆครับ



อยากบอกว่าใกล้เคียงแม๊คนั่มมากกกกกก แต่ไอศครีมจะมีกลิ่นส้มยูสุ ทานกับซอสมะม่วงครับ



The Deli by Conrad ร้านขนมของคอนราด เห็นมีลดราคาขนมเค้ก 50% ช่วงประมาณ 5-6 โมงเย็นด้วยครับ





Cafe@2 ห้องอาหารบุฟเฟ่นานาชาติของที่นี่ โดยรวมที่ผมทานมา ผมว่า อาหารไม่ดี ไม่แย่ ทั่วๆไปนะครับ ดีตรงที่ว่าค่อนข้างมีอาหารหลากหลาย แต่ขนมนี่ขอบอกอร่อยมากกกกกกกกกก

ป.ล. เห็นมีโปรร่วมกับบัตรเครดิตอยู่บ้าง โปรโมชั่นก็จะประมาณ มาสี่จ่ายสอง



































แถมท้ายกับอาหารเช้าของที่นี่ ต้องยอมรับว่าอาหารเช้าที่นี่จัดเต็มมากกกกกกกกก เป็นอีกโรงแรมที่ผมประทับใจในความหลากหลายของอาหารเช้า









สรุป...ที่นี่จึงเหมาะกับ

ถ้าจะให้ผมพูดถึง Conrad Bangkok แล้ว ผมมองว่าที่นี่เป็นโรงแรมเน้นมาทำธุระหรือมาทานอาหารซะมากกว่าที่จะมาพักผ่อนจริงๆจังๆ ห้องอาหารของที่นี่ค่อนข้างมีหลากหลายและรสชาติก็ใช้ได้ทุกห้องอาหาร โดยเฉพาะห้องอาหารอาหารญี่ปุ่นกับห้องอาหารจีน ส่วนห้องพักที่นี่ถึงแม้จะดูเก่า (และแก่ไปสักนิด) แต่คงต้องยอมรับว่า อยู่สบายมากๆๆ มีโต๊ะทำงานที่เป็นสำหรับนักธุรกิจจริงๆ และวิวก็สวยสุดๆๆในชั้นที่อยู่สูงๆ



Create Date : 27 มีนาคม 2556
Last Update : 2 เมษายน 2556 6:43:20 น.
Counter : 13353 Pageviews.

0 comment
Sofitel So Bangkok



สวัสดีคร้าบบบบบบ วันนี้นายพักสบายจะพาเพื่อนๆมาหาที่พักผ่อนในเมืองกรุงกันบ้าง จะว่าไปแล้วโรงแรมในกรุงเทพก็มีสวยๆอยู่หลายที่เลยนะครับ บางทีการหาพักผ่อนของเราก็ไม่จำเป็นต้องไปไหนไกลเลยจริงๆ มาครับ วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆมาสัมผัสกับโรงแรมที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมที่มีวิวกรุงเทพสวยที่สุด โรงแรมนี้มีชื่อว่า Sofitel So Bangkok

Sofitel So Bangkok จะตั้งอยู่ตรงหัวถนนสาธร ตรงข้ามกับสวนลุมพินี ใกล้ๆโรงแรมจะสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีลุมพินี ครับ เพราะฉะนั้นเรื่องการเดินทางสะดวกมว้ากกกกกกกกกกกกก





เอาล่ะครับเราเข้าไปดูในโรงแรมกันบ้างดีกว่า เมื่อเข้ามาที่ลอบบี้ชั้นล่าง (ซึ่งไม่ใช่ลอบบี้จริง) คุณจะพบกับบรรยากาศแบบนี้ โรงแรมนี้ถ้าจะให้เทียบกันจริงๆแล้ว สไตล์ของโรงแรมคือ แฟชั่นโฮเทลนะครับ หรูหราแต่ไม่แก่ กลุ่มตลาดของโรงแรมนี้จึงเป็นคนหัวใจรุ่นใหม่ที่รักงานดีไซน์ คอนเซ็ปของโรงแรมจะเป็นต้นไม้แห่งโลก 5 ธาตุ ดิน น้ำ ลม โลหะ และไฟ โดยจะให้ดิน น้ำ ลม โลหะ อยู่ในส่วนของห้องพักเท่านั้น

ป.ล. ถ้าจะให้ผมเทียบที่นี่กับโรงแรมในแบรนด์อื่นๆแล้ว ที่นี่น่าจะเทียบได้กับ W Hotel ของ Starwood ล่ะครับ





ชั้นล่างนี้จะมีจุดน่าสนใจอยู่ที่นี่ครับ ร้านชอคโกแลตของที่นี่ชื่อ Choco Lab ร้านนี้จะเป็นร้านที่ขายชอคโกแลตเป็นหลักๆเลย เบเกอรี่ก็มีนะครับแต่ก็จะมีส่วนผสมของชอคโกแลตอยู่ทุกชิ้น รสชาติของชอคโกแลตที่นี่หลากหลายมากๆๆครับ เท่าที่ชิมมา ผมว่าอร่อยไม่แพ้ชอคโกแลตยี่ห้อดังๆจากญี่ปุ่นเลยนะครับ ช่วงที่ผมไปพักมีบุฟเฟ่ชอคโกแลตด้วยครับ ราคา 750++









เอาล่ะครับเราขึ้นไปที่ลอบบี้ของจริงที่ชั้น 9 กันดีกว่าครับ ลอบบี้ที่นี่มีชื่อว่า Park Lobby เป็นลอบบี้ในห้องแอร์แต่เพดานสูงเปิดโล่งด้วยวิวสวนลุมสวยๆ ที่นี่จะมีบาร์อยู่หนึ่งบาร์ชื่อ Mixo bar เป็นบาร์ของลอบบี้ครับใครอยากหาอะไรเย็นๆดื่มชมวิวไปก็เชิญเลยนะครับ







ช่วงเย็นๆประมาณหกโมงครึ่ง(เย็น)ทุกวัน ที่นี่จะมีการแสดงจุดตะเกียงประทีปที่ลอบบี้ด้วยครับ



ส่วนห้องนี้ชื่อว่า Solution Room หรือถ้าจะให้เรียกตามโรงแรมชาวบ้านที่นี่ก็จะคือ บิสซิเนสรูม นั้นเองครับ



ในส่วนของห้องจัดเลี้ยงจะอยู่ที่ชั้น 8 ครับ



เอาล่ะครับเราเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องพักกันก่อนดีกว่ามั้ย แล้วเดี่ยวผมพาไปชมในส่วนอื่นๆของโรงแรมต่อเนอะ ห้องที่นี่จะถูกแบ่งเป็นสามแบบหลักๆ

Cosy วิวตึกต่างๆในกรุงเทพด้านถนนสาธร

Comfy วิวสวนลุมด้านถนนวิทยุ

So club ห้องที่รวมสิทธิประโยชน์ของ club signature


ว่าแต่ห้องพักที่นี่มีถึง 4 ธาตุ 4 สไตล์ ว่าแต่ใครอยากพักห้องธาตุไหนกันดีล่ะ

Metal Element ห้องธาตุโลหะ ห้องนี้เป็นธาตุที่ผมชอบที่สุดแล้วครับ คงด้วยเพราะความขาวโอโม่ของห้องจึงทำให้ห้องอยู่สบาย ปลอดโปร่ง





ห้องทุกสไตล์จะมีห้อง Suite นะครับ ห้อง Suite ของ Metal Element ก็เรียกได้ว่า สวยไม่แพ้ห้องไหนๆ โดยเฉพาะห้องน้ำ







Wood Element ห้องธาตุไม้ เน้นที่ความเรียบง่าย อันนี้จะเป็นห้องที่ดู Simple ที่สุดแล้วครับเหมาะสำหรับคนรักงานไม้ คนที่ไม่ชอบอะไรหวือหวามาก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย





ห้องสวีทของ Wood Element จะมีด้วยกันสองระดับ ห้องที่อยู่ในภาพคือ Spa suite ถ้าเรื่องวิวแล้ว ผมให้ห้องนี้เป็นห้องที่สวยที่สุดของโรงแรมแล้วครับ แถมห้องนี้จะเป็นห้องเดียวเท่านั้นมีระเบียงด้วย









Earth Element ตัวแทนจากธาตุดิน ในห้องจะเน้นเป็นการตกแต่งสไตล์มนุษย์ถ้ำ ดูๆๆไปออกแฟนตาซีไปสักนิด ใครไม่ชอบอะไรเยอะๆ อาจมึนได้กับห้องนี้ ข้อดีของห้องนี้คือห้องน้ำสวยมากกกก





ในห้องพักทั้งสี่ธาตุ ห้องสวีทของ Earth Element จัดวางเลย์เอ้าท์ได้ไม่เหมือนห้องไหนๆเลยครับ ดูเป็นห้องสวีทที่มีใส่ลูกเล่นในการจัดห้องกันพอสมควรเลยล่ะ





Water Element เอเลเมนท์สุดท้ายที่เพิ่งเสร็จไป เป็นห้องที่ผม.....ชอบทะมึนทึ่มๆไปหน่อยอ่ะ T__T ทั้งที่เป็นห้องที่คาดหวังไว้มากที่สุด





อ่างอาบน้ำที่ธาตุนี้ได้รับการดีไซน์มาไม่เหมือนห้องไหนๆ ห้องนี้จึงดูเป็นห้องที่ดูมีลูกเล่นในห้องน้ำเยอะที่สุดครับ



ตัวแทนของธาตุน้ำในห้องนี้จะมีปลากัด และ พญานาคตั้งอยู่



ห้องสวีทที่แพงสุดของที่นี่จะเป็นห้องธาตุน้ำนี่แหละครับ ชื่อ So VIP เป็นห้อง Duplex สองชั้น ในห้องมีอ่างจาฯขนาดใหญ่ มีห้องครัว ห้องรับแขก มีห้องนั่งเล่น เป็นห้องที่มีไว้เพื่อจัดปาร์ตี้จริงๆครับ













ทุกห้องพักจะมีเซ็ตนี่ไว้ให้ครับ ทั้งเวลคัมฟรุ๊ต และ ขนมก่อนนอน



มินิบาร์ในตู้เย็น ซัดให้เกลี้ยงได้เลยครับ กินฟรีทุกอย่าง ว่าแต่ทำมั้ยต้องมีกระทิงแดงด้วย ????



กาแฟ illy กาแฟคุณภาพจากอิตาลี่ กินฟรีอีกเช่นกัน ซัดไป



อินเตอร์เน็ต พาสเวิร์ด WiFi ดูหนัง ฟังเพลง โลกออนไลน์ใดๆ จัดการเข้าที่ทีวีได้เลยครับ ( มีคีย์บอร์ดและรีโมทมหัศจรรย์ไว้ให้คุณใช้เลยครับ ไม่ต้องพกโน๊คบุ๊คมาเอง)



เรื่องห้องพักจบกันไป เราไปต่อในส่วที่ผมชอบที่สุดของที่ Main Pool ที่ชั้น 10 ไม่มีคำอธิบาย ชมรูปกันเอาเองครับว่ามันสุดยอดขนาดไหน

ป.ล.บริเวณนี้จะมีพูลบาร์กับฟิตเนส So Fit ด้วยครับ แต่ขอโทษด้วย พักสบายลืมถ่ายเพราะมัวแต่ตะลึงวิวจากสระว่ายน้ำ














So Spa ที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 11 ถือว่าอยู่ในธีมของธาตุไม้ครับ ถามว่าสปาดีมั้ย เลิศมั้ย อะไรเป็นซิกเนเจอร์ ได้โปรดอย่าถาม เพราะไม่ได้ลองครับ





ห้องอาหาร Red oven ตัวแทนจากธาตุ ไฟ ครับ ชื่อห้องอาหารนี้มาจากเตาสีแดงเพลิงนั้นแหละครับ  บรรยากาศโดยรวม ก็โปร่งๆโล่งๆโชว์วิวสวยๆของสวนลุมเป็นหลัก แต่จะมีมุมเก๋ๆหลายมุมเหมือนกันครับซึ่งจะอยู่ในโซนด้านในที่ไม่เห็นวิว ส่วนการจัดไลน์บุฟเฟ่ของที่นี่นั้นจะจัดออกมาให้ความรู้สึกเหมือนเรามาเดินจ่ายตลาดอยู่ครับ









ใครอยากชมรีวิว Weekend Wine Brunch @ Sofitel So Bangkok เชิญที่ลิงค์นี้นะครับ

เชิญคลิ๊กที่นี่



Park Society ห้องอาหารดินเนอร์หรูชั้นบนสุดของโรงแรม อาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารฟิวชั่น ราคาก็...เอาว่าเป็นที่รู้กัน ส่วนรสชาติอาหาร ผม....ให้ผ่านครับ อร่อยมากกกกก อยากกินอีก ที่นี่เหมาะกับกับการมาดินเนอร์ในมื้อพิเศษกับคนที่พิเศษๆเท่านั้น เพราะบรรยากาศที่นี่สวีทมากกกกกกกกก ด้านบนห้องอาหารจะมีบาร์ Loof top ที่ชือ Hi-So Bar ที่ต้องเสียเงินเพิ่มเข้าไปครับ (ดาราชอบไปกันครับที่นี่)









เมนูอาหารที่นี่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

เมนูนี้คือฟรัวกราสไตล์ฝรั่งเศสครับ



เมนูนี้ มันคืออาหารญี่ปุ่นครับ เป็นซาซิมิทูน่า ( ดูหน้าตาไม่น่าใช่อาหารญี่ปุ่นเลยนะครับ )



เมนูนี้ เป็นลอบเตอร์ปรุงใลมาในสไตล์ฝรั่งเศสครับ



วากิวเสต็ก คงไม่ตองบรรยายถึงความอร่อย



เลม่อนทาร์ต กับ ชอคโกแลตสติ๊ก



ราสเบอรี่ฟูเล่ กับ ไอศครีม passion lollipop



ห้อง Club Signature club สำหรับผู้จองห้องระดับ So club ครับ สิทธิประโยชน์ของห้องนี้คือ หาอะไรทานได้ทั้งวันที่ห้องอาหารนี้ อาหารเช้าที่ต่างจากที่ Red Oven / Afternoon tea / Cocktail Time ครับ










ไลน์อาหารเช้าไม่ใหญ่นะครับที่ Club Signature อาหารในไลน์ก็ไม่ต่างจากที่ Red Oven เท่าไหร่



แต่มีเมนูอาหารเจ๋งๆที่สั่งเป็นอลาคาร์ตมากมาย



เอกเบเนดิกแซลม่อน



แซลม่อนเทอริยากิเซ็ต



เฟรนช์โทส



แพนเค้ก



ช่วงบ่ายๆก็จะมี Afternon tea เสริฟ ขอบอกจัดเต็มมากกกกกก









ช่วงเย็นจะเป็นปาร์ตี้คอกเทลกับคานาเป้หลายสัญชาติ เรียกว่านอกจากจะอิ่มวิวแล้วยังอิ่มท้องกันเลยล่ะครับ





ในส่วนของชุดพนักงานเป็นอะไรที่คงไม่พูดถึงไม่ได้เพราะออกแบบโดย Monsieur Christian Lacroix เขาคือใครผมไม่ทราบ รู้แต่ว่าเขาดังมากกกก ออกแบบชุดได้หลุดโลกทีเดียว

ป.ล. ส่วนผู้ชายในภาพชื่อคุณพอล เขานี่แหละพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแขกอย่างจริงจัง ใครมีปัญหา 108-1009 ใดๆในโรงแรม เชิญปรึกษาเขาได้เลยครับ ใครพบคุณพอลอย่าลืมเข้าไปทักทายกันน้าาาา



ในส่วนของบัตร AA+ ที่จะให้สิทธิห้องฟรีหนึ่งคืน ผมว่าที่นี่ก็ถือเป็นอีกที่น่าสนใจไม่เลวเลย

แถมยังมีสิทธิอื่นๆเช่น ลดค่าอาหารได้ถึง 50% เมื่อมาทานอาหาร weekend brunch @ Red Oven สองคนครับ



ถูกใจใช่เลย

1.การตกแต่งภายในของตัวโรงแรม
ล้ำมากครับ ไม่ว่าจะเป็น outlet ต่างๆ รวมถึงห้องพักด้วยครับ

2.วิวของโรงแรมเทพมากครับ โดยเฉพาะที่สระว่ายน้ำหาโรงแรมไหนเทียบยากจริงๆ

3.อาหาร(ฟรี) ที่
Club Signatureเยี่ยมมากครับ เช้า สาย บ่าย เย็น ทำเอาผมประทับใจทุกช่วงเวลาเลย

4.มีห้องหลายสไตล์ให้เลือกพักครับ เป็นอีกโรงแรมผมว่าไอเดียเจ๋งมาก แขกสามารถกลับมาสัมผัสห้องอื่นๆได้โดยไม่น่าเบื่อ

5.มินิบาร์ฟรีทุกอย่าง ยกเว้นแอลกอฮอล์

6.พนักงานเยี่ยมจริงๆครับในทุกจุดของโรงแรม โดยเฉพาะ คุณพอล คุณเนตร คุณเซป
คุณวิน

7.ห้องน้ำมีสายชำระด้วย ปลื้มมมมม

ไม่โดนใจเอาซะเลย

1.ราคาครับจะแรงไปไหนๆๆๆ แต่ผมก็ยังคิดว่าว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่น่ามาสัมผัสมากๆๆ

2. ห้องพักระดับเริ่มต้นรู้สึกมีขนาดเล็กไปสักนิดนะครับ เมื่อเทียบกับห้องเริ่มต้นของที่อื่นๆ

โดยรวมๆแล้วที่นี่ถือเป็นโรงแรมที่น่าสัมผัสมากๆๆครับ โดยเฉพาะที่สระว่ายน้ำ ปลื้มมากกกกกกก

ปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยเซ็ตแฟชั่นของหนุ่มหล่อ Waichue Sebastian Solasachinda ที่กำลังเริ่มมีผลงานในวงการบันเทิงในขณะนี้













Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 10 กันยายน 2556 0:33:14 น.
Counter : 30928 Pageviews.

4 comment
Oriental Residence Bangkok



เมื่อก้าวแรกที่เข้าไปสัมผัสที่นี่ สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดคือการตกแต่งที่เรียบหรู แต่ดู เบา สบาย อย่างน่าประหลาด ทุกอย่างของที่นี่ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าเดินอยู่ในโลกแห่งความฝัน ถึงแม้ว่าผมยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสที่นี่อย่างลึกซึ้ง แต่ช่วงเวลาที่ผมได้เดินซึบซับกับบรรยากศที่นี่นั้น มันทำให้ผมนึกถึงคำว่า " Just Feel like Home " ขึ้นมาเลยครับ โดยเฉพาะในห้องพักนั้น มี "พระบรมฉายาลักษณ์" แบบฉบับการ์ตูนน่ารักที่มุมโต๊ะทำงานด้วย เห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ ผมได้สัมผัสโรงแรมมาก็เยอะ ได้พักโรงแรมมาก็มาก แต่ไม่เคยมีโรงแรมที่ไหนเลยที่จะทำให้ผมรู้สึกว่าคล้ายบ้านได้ขนาดนี้

ป.ล.อาจเป็นเพราะภาพที่มีทุกบ้านภาพนั้นก็เป็นได้ที่ทำให้บรรยากาศในห้องพักดูอบอุ่นคล้ายบ้านมากขึ้น ^__^









































Create Date : 17 กรกฎาคม 2555
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2556 21:01:36 น.
Counter : 6222 Pageviews.

5 comment
Okura Prestige Bangkok


Okura ถือเป็นโรงแรมสัญชาติญี่ปุ่่นแท้ๆ มีโรงแรมในเครือกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆหลายทีเลยครับ โดยธรรมดา Okura จะถือว่าเป็นโรงแรม 5 ดาวในประเทศญี่ปุ่นเอง ( แต่เมื่อเทียบกับโรงแรมเชนของเมืองนอกในระดับเดียวกันแล้วในบางสาขาอาจจะดูดรอปๆลงไปสักนิด )  แต่ในไทย Okura ได้อัพมาตรฐานจากเดิมให้กลายเป็นแบรนด์โรงแรม 5 ดาว++เทียบระดับกับโรงแรมระดับเชนเมืองนอก 5++ หลายๆแบรนด์ได้เลยครับ โดยใช้ชื่อว่า Okura Prestige bangkok และถือว่าเป็น  Okura Prestige ที่แรกของโลกด้วยครับ โดยคอนเซ็บของโรงแรมนี้จะเป็นความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานกับความทันสมัย ธีมที่ใช้ในโรงแรม ก็ตกแต่งออกมาสไตล์เรียบแต่หรู สีที่ใช้ก็จะเน้นสีน้ำตาลทองและขาวเทาดำเป็นหลัก ....มาครับ มากับผม ผมจะพาเพื่อนๆไปสำรวจที่นี่กัน






ขอเริ่มจากแผนที่ก่อนครับ การเดินทางมาที่นี่ไม่ยากเลย เพราะโรงแรมตั้งอยู่ในตึกปาร์คเวนเจอร์ เพลินจิต เดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าสะดวกมากมายเลยล่ะครับ มาลงที่สถานีเพลินจิตแล้วเดินเข้าตึก ปาร์คเวนเจอร์ ไปได้เลยครับ



เมื่อเข้ามาถึงเราจะเจอลอบบี้ขั้นล่างก่อนครับ ลอบบี้ที่นี่ไม่ใช่ ลอบบี้ของโรงแรมนะครับ แต่ที่นี่เป็นเหมือนส่วนต้อนรับส่วนหน้าให้กับแขกที่คนที่จะเข้ามาสัมผัสโรงแรม ใครจะไปงานตามห้องบอลลูมต่างๆสามารถขึ้นยันไดเลื่อนจากจุดนี้ไปได้เลยครับ แต่ถ้าใครอยากจะขึ้นลิฟท์ก็มีบริการเหมือนกันนะครับ โดยใช้ลิฟตัวเดียวกับที่ขึ้นไปเมนลอบบี้ ครับ







ภายในชั้นนี้จะมีร้านขายดอกไม้ด้วยครับ ใครที่จะมางานตามห้องบอลลูม ไม่ต้องไปหาซื้อดอกไม้ที่ไหนหอบมาให้เฉาเลยครับ สั่งจากตรงนี้ มารับแล้วขึ้นงานไปเลย สะดวกมากมาย






ส่วนใครที่จะต้องไปใช้บริการของโรงแรม กดลิฟท์ ไปชั้น 24 โลดเลยครับ ชั้นที่ 24 จะเป็น Main Lobby ของโรงแรมครับ อย่างที่บอกไปธีมของที่นี่จะเน้นการตกแต่งเรียบหรูเข้าว่า











ในส่วนที่อยู่ติดกับ Main Lobby คือ UP & ABOVE Bar ครับ ที่นี่จะมีบริการเครื่องดื่ม เสน็ค และ อาฟเตอร์นูนที หลายรูปแบบไว้บริการครับ ( ไม่ฟรี นะคร้าบบบบ )












จากที่ได้ลองชิม อาฟเตอร์นูนที ที่นี่มา ผมว่า....มันเจ๋งมากกกกกก เจ๋งกว่าหลายๆโรงแรมที่ผมเคยทานมาเลยครับ เซ็ตนี้ชื่ออะไรจำไม่ได้ แต่ผมขอเรียกว่า ชอคโกแลตเบนโตะ แล้วกันนะครับ เซ็ตนี้เป็นเซตสำหรับคนรักชอคโกแลตเลยล่ะครับ ทุกอย่างในเซ็ตนี้จะมีชอคโกแลตเป็นส่วนประกอบ ราคา 750++ ทานได้ 2 คน พร้อมเครื่องดื่มร้อนเย็น 2 ชุด










เซ็ตนี้ชื่อว่า Traditional Set ครับ เป็นเซ็ตที่หลายๆโรงแรมเขามีกัน ใครชอบแบบอร่อยแต่ทานแล้วอยู่ท้อง จัดเซ็ตนี้ไปครับ  เซ็ตนี้มีดีที่ขนมปังครับ มัน... นุ่มมากกกกกกกกก ถึงแม้ว่าจะทิ้งไว้นานแต่ก็ยังนุ่มอยู่ สโคนก้อร่อยนะครับถึงแม้หน้าตามันจะเหมือนซาลาเปาไปสักนิด แต่หอมเนยไม่มีกลิ่นแป้งด้วยครับ เซ็ตนี้ ราคา 640++ ทานได้ 2 คน พร้อมเครื่องดื่มร้อนเย็น 2 ชุด เช่นกันครับ







ในส่วนของบาร์ข้างนอก เราจะสามารถชมวิวของกรุงเทพเมืองฟ้าอมรกันได้เต็มๆครับ ใคร ชอบวิวงามๆของกรุงเทพ คงมีได้ปลื้มที่นี่กันบ้างล่ะ บรรยากาศดีทั้งกลางวันและกลางคืนเลยครับ ( ถ้าฝนไม่ตกนะ )







Up & Above ( แปลว่า ขึ้น เหนือ ? ) ห้องอาหารที่เรียกว่า All day dinning และเป็นห้องอาหารเดียวครับที่มีบุฟเฟ่ (ในตอนเช้าและเที่ยง) พาไปชมบรรยากาศกัันก่อนนะครับ









เราไปชมไลน์อาหารเช้ากันก่อนดีกว่า ขอบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าไม่ได้ยังชิมแค่เดินไปถ่ายมาเฉยๆ เพราะฉะนั้นอะไรรสชาติเป็นยังไงคงไม่ต้องถามนะครับ เพราะตอบไม่ได้แน่ๆครับ  T_T

















ส่วนมื้อเที่ยง จะมีลูกเล่นหน่อยครับ เพราะมีหลายแบบให้เลือก
1.มินิบุฟเฟ่
2.มินิบุฟเฟ่+คอร์สอาหาร 2 หรือ3
จะสังเกตได้ว่าอาหาร ส่วนใหญ่จะเป็น คานาเป้ และ ซีฟู้ด จะเน้นเป็นอาหารแบบไม่หนักมากครับ ส่วนขนมหวานจะเสริฟแยกต่างหากไม่รวมอยู่ในไลน์ครับ วันที่ไปทานเป็นไอศครีมเชอเบทกับผลไม้ แซบมากกกกกก ขอบอก 55555







3.ชุดเบนโตะ ประจำวัน ( บ๊อกเซ็ต อาหารไทย+อาหารตะวันตก )
วันที่ไปทานวันอังคาร เป็นเซ็ตข้าวผัดกุ้ง+ซุปหัวหอม+ปอเปี๊ยทอด+สลัดผลไม้ ครับ













ห้องอาหาร Yamazato ห้องอาหารสัญชาติญี่ปุ่นแท้ๆๆ Yamazato ถือเป็นห้องอาหารแรกของญี่ปุ่นเลยครับที่เปิดให้บริการโรงแรมในสมัยก่อน เพราะฉะนั้นห้องอาหารนี้จึงมีประวัติในญี่ปุ่นมายาวนานมากจริงๆครับ ที่นี่จะทั้งซูชิบาร์ เทปันยากิเคาเตอร์ และ อาหารเซ็ตหรืออราคาร์ต ( ไคเซกิ เรียวริ ) โดยแบ่งเสริฟอาหารเป็น 3 ช่วงครับ











อาหารเช้า เป็นแบบเซ็ตครับ ไม่มีให้เลือกนะครับมีเซ็ตเดียวเอง โดยจะเสริฟหลักๆเป็นปลาย่าง มิโซะซุป และผักต้ม เสริฟพร้อมเครื่องเคียงมากมายครับ  รสชาติอาหารจะออกมาสไตล์เรียบง่าย ไม่เลี่ยน ไม่มัน ไม่เผ็ด และจะมีผลไม้ตบท้ายให้ด้วยครับ เราสามารถเติมข้าวได้เรื่อยๆนะครับ ส่วนกับข้าว เติมบ่ได้ก๊าบบบบ

ส่วนมื้อกลางวัน ยังไม่ได้ลองครับ ของเด็ดของจะหนีไม่พ้นเซ็ตลันช์ ในราคาที่เอื้อมถึงครับ

ส่วนมื้อเย็น ก็ยังไม่ได้ลองเช่นกัน ของเด็ดจะอยู่ที่เซ็ต ไคเซกิ เรียวริ (เซ็ตอาหารที่จัดถวายแด่แขกบ้านแขกเมืองและจักรพรรดิ์ญี่ปุ่น) ราคาเซ็ต/คน ราคาเริ่มต้นที่ 4500++ เท่านั้นเองก๊าบบบบบ













Element ห้องอาหารตะวันตกก็ยังไม่มีโอกาสได้ชิมอะไรทั้งนั้นเช่นกันครับ T__T ที่นี่จะเปิดบริการในช่วงเย็นเท่านั้น ชมบรรยากาศกันไปแทนนะครับ

















เอาล่ะครับเราไปดูในส่วนของMain Pool กันดีกว่า สระว่ายน้ำที่นี่อยู่ชั้นเดียวกับ ห้องอาหาร Element เลยครับ จุดขายของที่นี่คือดีไซน์เรียบๆเก๋ๆของสระว่ายน้ำ และ วิวมองเมืองฟ้าอมรในมุมสูงๆๆ





ฟิตเนสอยู่หลังสระว่ายน้ำนี่เองครับ เปิด 24 ชั่วโมง ครับ












Okura Spa มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่การตกแต่งถือว่างดงามทีเดียวครับ ของเด็ดของที่นี่คือ สปาไม้ไผ่ครับ เป็นยังไงน่ะเหรอครับ เออ...ไม่ทราบเหมือนกันเพราะยังไม่ได้ทดลองเลยครับ ใครลองแล้วมาบอกผมด้วยนะครับ แหะๆ
















Exclusive Lounge สำหรับผู้ที่จองห้องพักในเรทที่รวมตัวนี้ไปด้วย ก็จะคล้ายๆเหมือนโรงแรมอื่นๆ คือ มีอะไรกินทั้งวัน แสน็ค ขนม ในตอนบ่ายๆ และ Cocktail & Canape ในตอนเย็นๆ แต่จะแตกต่างจากโรงแรมอื่นขนาดไหนนั้นบอกไม่ได้ครับ เพราะมีเวลาสัมผัสอยู่แค่ แป๊ปเดียวเองครับ





DELUXE ROOM ห้องระดับเริ่มต้นของที่นี่ ผมว่าแค่ระดับเริ่มต้นก็หรูแล้วล่ะครับ













DELUXE CORNER คือห้องในระดับที่ 2 ของโรงแรม ห้องนี้มีดีที่ วิวครับ ชมวิวกรุงเทพกันได้แบบเต็มอิ่มจุใจทีเดียว



ชุดชาในห้องพัก เป็นแบบใบชาครับ



ชุด Amenities ของโรงแรมจัดอยู่ในกล่องสวยงามหรูหรา



แผงวงจรควบคุมระบบไฟฟ้าภายในห้องพัก ทุกอย่างควบคุมด้วยเจ้านี่แหละครับ



คีย์การ์ด สีขาวสำหรับห้องสวีท และสีน้ำตาลสำหรับ ห้องระดับธรรมดาครับ



Night Gift เป็น โอริกามิ เซ็ตนี้ครับ



ชุดยูกาตะ ไม่มีคงไม่ได้เป็นแน่แท้



ภายในตู้เสื้อผ้าครับ



ห้องสุขาขนาดกระทัดรัดภายในห้องพัก



ระบบชักโครก ถูกควบคุมด้วยเจ้าตัวนี้ครับเหมือนที่ญี่ปุ่นเลยยยย

ในส่วนของบทสรุป

ผมคงไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้นะครับ ไม่กล้าที่จะเขียนข้อดีข้อเสียลงไปจริงๆ เพราะจริงๆแล้วผมก็ยังไม่มีโอกาสได้พักที่นี่เลย มีโอกาสแค่ไปสัมผัส และใช้บริการในส่วนเท่านั้น ( ห้องอาหาร ) แต่ในจุดที่ไปใช้บริการมาก็บริการดีได้ใจอยู่นะครับ ^__^

และของแถมท้าย กับห้อง PRESIDENTIAL SUITE










Create Date : 10 มิถุนายน 2555
Last Update : 12 มิถุนายน 2555 21:04:25 น.
Counter : 24763 Pageviews.

9 comment
Muse Langsuan Bkk










































อีกหนึ่งโรงแรมในเครือ M Gallery by Accor โรงแรมนี้จะเน้นความเป็นอาร์ตติสค่อนข้างสูง ใครที่รักในงานศิลปะผมว่าคนต้องหลงรักโรงแรมในเครือนี้เป็นแน่แท้

ถูกใจใช่เลย

1.ที่นี่มีกลิ่นอายของความคลาสสิคอยู่เยอะมากครับ เป็นโรงแรมที่ได้แรงบรรดาลใจการตกแต่งมาจากช่วง ยุคทองในสมัยรัชกาลที่ 5
2.ทำเลที่ตั้ง เรียกว่าตั้งอยู่กลางเมืองก็ไม่ผิด เข้าไปในซอยหลังสวนนิดเดียวเอง สะดวกในการไปไหนมาไหนมาก เพราะรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกล แหล่งชอบปิ้งก็อยู่ไม่ไกล
3.การบริการที่นี่พนักงานบริการดีครับ ยิ้มแย้ม แจ่มใส ทักทาย แขกที่มาพักตลอด
4.ห้องพักสวยมากครับ เป็นอีกโรงแรมที่มีจุดเด่นเรื่องห้องพัก คุมอารมณ์โทนให้ออกมาขรึมๆหน่อย


ไม่โดนใจเอาซะเลย

1.ไม่มีสายชำระในห้องน้ำ ไม่ปลื้มมมมม
2.ราคาห้องพักแรงมากถ้าเป็นราคาปกติ โชคดีที่จองไปนอนตอนโปรน้ำท่วม
3.สระว่ายน้ำเล็กมากกกก และ โรงแรมมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดครับ

คุณจะชอบที่นี่ถ้าคุณชอบอะไรที่มีกลิ่นอายแห่งความคลาสสิค ชอบห้องพักที่สวยงามและหรูหรา มีความสุขอยู่แต่ในห้องพักซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าคุณหวังจะมาพักผ่อนแบบอยากว่ายน้ำในสระกว้างๆ มีพื้นที่ส่วนกลางให้พักผ่อนและรีแลกซ์ค่อนข้างมาก ที่นี่ไม่น่าจะตอบโจทย์คุณได้



Create Date : 08 มกราคม 2555
Last Update : 19 มีนาคม 2555 10:18:55 น.
Counter : 1757 Pageviews.

4 comment
1  2  3  4  

Paksabuy
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 340 คน [?]



free counters
Free counters