InterContinental Marseille - Hotel Dieu

inter2

mar_079_resize

บองชูว์ กล่าวทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศสกันก่อนนะคร้าบบบบบ วันนี้ผมนายพัก...สบาย จะขอพาเพื่อนๆไปเที่ยว อีก 1 เมืองเด็ดในฝรั่งเศสกันฮะ  Marseille เมืองนี้เป็นเมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์ที่แสนยาวนาน เรียกได้ว่าเป็นเมืองท่าเก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้  Marseille ถ้าอ่านตามสำเนียงฝรั่งเศสจะอ่านออกเสียงว่า ‘มาร์กเซย’ ที่นี่ถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามและเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุด (อายุกว่า 2600 ปี) ของประเทศฝรั่งเศสเลยฮะ ก่อนที่จะไปทำความรู้จักเมืองท่าเมืองนี้กัน ผมขอใช้อำนาจของความเป็ผู้เขียนบทความ ลากเพื่อนๆไป ดู ที่หลับที่นอนที่ผมพักกันก่อน บอกเลย ภูมิใจเสนอมากกกก

InterContinental Marseille - Hotel Dieu

คงไม่ต้องบอกเกี่ยวกับ เชน อินเตอร์คอนในเครือ IHG กันสักเท่าไหร่ เพราะผมเชื่อว่า คนไทยทราบถึงความหรูหราของเชนนี้เป็นอย่างดี InterContinental Marseille ตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกว่าแทบจะดีที่สุดของเมืองนี้ก็ได้ เพราะอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายจุดทีเดียวโดยเฉพาะ เขตเมืองเก่า  เขตท่าเรือเก่า พิพิธภัณฑ์มูเซม หรือมหาวิหารของมาร์กเชย ตัวอาคารของ InterContinental Marseille - Hotel Dieu นั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่แต่เป็นการรีโนเวทจากอาคารเก่าแก่โบราณของเมืองนี้ครับ จึงทำให้ที่นี่สวยคลาสสิค งดงามอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต

mar_046_resize

mar_077_resize

mar_088_resize

ภายในตกแต่งให้ดูทันสมัยจ๋าๆมาเลย ด้วยดีไซด์จากศิลปินที่มีชื่อเสียงในประเทศฝรั่งเศส เขาบอกว่าที่นี่เลือกใช้สีโทนขาวดำเทาเป็นหลัก ตกแต่งให้ดูเรียบหรูและได้แรงบรรดาลใจในการตกแต่งมาจาก ท่าเรือเก่าของเมืองแห่งนี้ รวมไปถึงท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน ลองชมบรรยากาศคราวๆกันดูฮะ

mar_062_resize

mar_119_resize

mar_048_resize

mar_120_resize

mar_060_resize

mar_061_resize

ที่นี่มีสระว่ายน้ำด้วยฮะ ( โรงแรมแพงขนาดนี้ไม่มีก็กะไรอยู่นะ) สระว่ายน้ำที่นี่เป็นสระน้ำในร่ม เนื่องด้วยอากาศแต่ในฤดูที่นี่จะมีอากาศที่ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้น สระน้ำที่นี่จึงคุมอุณภูมิไว้ที่ 28 องศาตลอดทั้งปีฮะ เพื่อให้แขกสามารถใช้สระว่ายน้ำได้ในทุกฤดู

mar_002_resize

จุดนี้คือบาร์ของที่นี่ฮะ ชื่อ The Bapian Bar

mar_117_resize

Les Fenêtres ห้องอาหารหลักของที่นีฮะ เรียกว่า เช้า สาย บ่าย เย็น ก็มาทานที่นี่ได้ฮะ

mar_053_resize

mar_051_resize

อาหารฝรั่เสสส่วนใหญ่จะเสริฟเป็นเซ็ต เซ็ตเล็กอย่างนี้จะมี 3 อย่างว

1.ออร์เดริฟ จานนี้เป็น ฟรัวกราเทอลีนฮะ มันคือตับบดนั้นแหละ แต่เอาฟรัวกรามาทำ ตับบด ก็อย่างที่รู้กันตับบดก็กินกับหนมปังนั้นแหละฮะ ข้อดีของตับบดฟรัวกราคือ หอมมัน และไม่มีกลิ่นตับรุนแรงเหมือนตับอื่นๆ อร่อยแบบเย็นๆ 55555

mar_050_resize

จานนี้เป็น ปลานึ่งครับ  น่าจะเป็นปลาเก๋านะ เนื่องด้วยเป็นเมืองท่าเรือติดทะเล อาหารทะเลจึงสดแบบไม่ปราณีใคร ข้างหลังครัวมีบ่อปลากันเลยใช่มั้ย กราบบบบบบ สดมากกก

mar_124_resize

แอปเปิ้ลทาร์ตและไอศครีมฮะ  ไอศครีมวนิลล่าเทพมว้ากกกก กราบบบบบ

mar_125_resize

มาดูอาหารเช้ากันดีกว่า บอกเลยชวนกราบเป็นที่สุด น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตของเราชาวไทย มันสู้อาหารเช้าของอินเตอร์คอนเมืองไทยได้มั้ย คำตอบคือ ถ้าวัดที่ปริมาณ ความหลาก และไอเทม ไม่มีอะไรสู้ได้เลยฮะ T__T

แต่ ที่ชนะขาดลอยแบบเมืองไทยไม่มีทางเทียบติดคือ เบเกอรี่ทั้งหมดฮะ รสชาตินี่เหมือนในร้านที่ขายแพงๆกันเลยฮะ ก้มกราบบบบรัวๆ ขีดเส้นใต้ 3 เส้นหนาๆ หนัก เบเกอรี่ และโกโก้ร้อน  อร่อยเวอร์วัง อลังการมว้ากกกก

mar_052_resize

mar_063_resize

mar_064_resize

mar_065_resize

mar_067_resize

page333

อันนี้ประทับใจมากกกกกกกกกกกก น้ำส้มคั้นสดๆเป็นลูกๆกันเลย

mar_066_resize

มาดูในส่วนของห้องพักกันบ้าง  ก็มาโทนขาวดำเทา ถามว่าสู้เมืองไทยได้มั้ย จริงๆ สู้ได้นะสบายมากกกก เตียงดีมาก แบบมากจริงๆ แต่เมื่อเทียบราคาดูกับเมืองไทยแล้ว ให้เมืองไทย ชนะเลิศไปเลยฮะ กราบบบบบบ  ถูกและดีคงมีแต่ในเมืองไทนยสินะ

mar_039_resize

mar_041_resize

mar_043_resize

mar_042_resize

mar_040_resize

วิวจากห้องพัก ห้องอาหาร และ จริงๆก็ วิวของทั้งโรงแรมนั้นแหละ (แต่ห้องพักที่ได้วิวนี้ไปจะไม่ได้ทุกห้องนะครับ )

mar_044_resize

mar_116_resize

ห้องนี้คือห้องที่แพงที่สุดของที่นี่ เป็นห้องสวีทขนาดใหญ่  ห้องอ่ะไม่เท่าไหร่ แต่วิวพาโนราม่า อลังมว้ากกกกกกกกกกก กราบฮะ

mar_074_resize

mar_075_resize

mar_073_resize

mar_076_resize

จบเรื่องโรงแรมกันไปล่ะ เอาเป๋าเก็บแล้วออกไปเที่ยวกันดีกว่า จากตัวโรงแรมเลย เราสามารถเดินไปจุดต่างๆเหล่านี้ได้เลยฮะ แต่บอกไว้เลยว่าการเดินเที่ยวแบบนี้ทำใจเรื่องขาลากกันเลย

จุดแรก

Old port หรือ Vieux port

ถือว่าเป็นหนึ่งในท่าเรือเก่าแก่ที่สุดของเมืองมาร์เซย์และประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 กันเลย ที่นี่เปรียบดังประตูสู่เมดิเตอร์เรเนียน อดีตเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้า ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ เมืองมาร์เซย์ เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดและยังเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศส แน่นอนว่าเมื่อเป็นเมืองท่าสำคัญ นื่องจากเป็นเมืองท่าที่ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน ต้องทำใจดรื่องมีคนหลายเชื้อชาติอพยพเข้ามาที่เมืองนี้ด้วยฮะ ต้องทำใจยังไง ? เนื่องจากมีหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ที่นี่ จึงมีหลายๆปัญหาตามมา เช่นความขัดแย้งในด้านเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา โอกาสทางการศึกษา รวมไปถึงความเป็นอยู่ก็ไม่ทัดเทียมกับชาวฝรั่งเศส ทำให้เมืองนี้ก็มีปัญหาไม่ต่างจากปารีสมากนัก จะมาท่องเที่ยวเมืองนี้ก็ต้องระวังตัวกันนิดนึงฮะ  ป.ล. แต่จากที่สัมผัสมา ผมว่าดีกว่าปารีสนะฮะ

mar_115_resize

mar_106_resize

mar_072_resize

mar_086_resize

mar_089_resize

mar_071_resize

ถ้าจะแวะร้านอาหารริมพอร์ท ผมแนะนำให้ลอง เมนูนี้ฮะ หอยแมลงภู่อบชีส ถือเป็นของขึ้นชื่อเลยก็ว่าได้ฮะ

mar_083_resize

Mucem

เดินจนสุดพอร์ท เราจะมาถึงจุดนี้ฮะ  Mucem พิพิธภัณฑ์อารยธรรมยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน (The Museum of European and Mediterranean Civilisations)

เมื่อก่อนที่นี่คือป้อมปราการแซ็งต์ฌอง (Fort Saint-Jean) สมัยปฏิวัติฝรั่งเศสเคยถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ อนนี้ถูกปรับเปลี่ยนมาให้เป็นพิพิธภัณฑ์แล้วฮะ

mar_019_resize

Mucem คืออะไร ?

Mucem หลักๆถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนฮะ

1.ส่วนอาคารภายนอก บนอาคาร และภายนอกทั้งหมด ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสวนสาธรณะเข้าฟรีของเมืองนี้  โดยจะแบ่งเป็น2 ส่วน

1.1 ป้อมปราการแซ็งต์ฌอง ถือเป็นสัญลักษณ์ ของ marseille ในอดีต ถุกเชื่อมด้วยสะพานเหล็กลอยฟ้าขนาดใหญ่ ให้ตรงมายังส่วนบนสุดของอาคารได้เลย บรรยากาศภายในก็จะมีร้านอาหาร สวนพักผ่อนหย่อนใจ เป็นสวนสาธารณะที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหนเลยล่ะ  ส่วนภายในอาคารก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ครับ ต้องเสียเงินเข้า ซึ่งแน่นอน ผมไม่ได้จ่ายเข้าไป

mar_105_resize

mar_085_resize

mar_113_resize

mar_103_resize

mar_102_resize

1.2 เป็นอาคารสมัยใหม่ ถูกเชื่อม ถูกเชื่อมด้วยสะพานเหล็กลอยฟ้าขนาดใหญ่จากป้อมปราการแซ็งต์ฌอง  หน้ากากคอนกรีตหน้ากากของตัวตึกถือเป็นไฮไลค์ของโซนนี้ เพราะเป็นวัสดุที่คิดค้นสร้างขึ้นมาพิเศษ มีความแข็งแกร่งเหมือน คอนกรีต สวยงาม และเบา ถือเป็นสัญลักษณ์ ในปัจจุบัน และ อนาคตของ marseille ส่วนภายในอาคารก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ครับ ต้องเสียเงินเข้า ซึ่งแน่นอน ผมไม่ได้จ่ายเข้าไป 5555555

mar_104_resize

mar_112_resize

mar_109_resize

มหาวิหาร Cathedrale de la Major

เดินถัดจาก Mucem ไปนิดเดียว เราก็จะเจอ  Cathedrale de la Major มหาวิหารแห่งเมือง marseille เรื่องประวัติผมไม่ค่อยมีข้อมูลเลยฮะ แต่บอกเลยว่างดงามมากกก สมควรมาเยี่ยมชมมากกก

mar_084_resize

mar_098_resize

ย่านเมืองเก่า

เดินถัดจากCathedrale de la Major มหาวิหารแห่งเมือง marseille มาอีกนิดเราจะเข้าสู่เขตย่านเมืองเก่าฮะ จุดนี้ก็เดินเล่นเพลินไม่เลวทีเดียวฮะ

mar_097_resize

mar_090_resize

mar_096_resize

page698

ในย่านเมืองเก่ามีจุดที่น่าสนใจคือจุดนี้ฮะ Centre de la Vieille Charité จากข้อมูลที่ได้มาน่าจะเป็นสถานที่อยู่สำหรับคนอพยพ คนยากไร้  แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมต่างๆ

mar_100_resize

mar_101_resize

mar_099_resize

โบสถ์นอเตอร์ดาม เดอ ลา การ์ด

โบสถ์นอเตอร์ดาม เดอ ลา การ์ด (Basilique de Notre-Dame-de-la-Garde)  Notre Dame ในภาษาฝรั่งเศส หมายถึง Our lady  ซึ่งในที่นี้หมายถึง เดอะ เวอร์จิ้น หรือพระแม่มาเรียนั้นเอง ความหมายโดยรวมของโบสถ์นี้ จึงหมายถึง Our lady of the guard (พระแม่มาเรียผู้ปกป้องพวกเรา) นักเดินเรือส่วนใหญจึงมักมาขอพรกับพระแม่มาเรียให้ปกปักรักษายามต้องล่องเรือออกไปในทะเล  โบสถ์นอเตอร์ดาม เดอ ลา การ์ดถือเป็นจุดชมวิวที่สุดของเมือง Marseille ตั้งอยู่บนเขาสูง 155 เมตร ด้านในโบสถ์ออกแบบ ตกแต่งได้สวยงาม ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นโมบายเรือลำเล็ก ๆ ห้อยไว้ด้วย  ที่มีห้อยไว้โเกิดจากที่ชาวประมงหรือนักเดินเรือเมื่อมาขอพรและ เดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว ก็จะนำเรือลำเล็กๆมาถวายแด่ พระแม่มารี เพื่อเป็นการขอบคุณที่คุ้มครองให้เดินทางกลับมาโดยสวัสดิภาพ

การเดินทาง จุดนี้อยู่ถัดออกมาจากโรงแรมไกลสักนิด ถามว่าเดินได้มั้ยก็เดินได้นะ ใช้เวลาประมาร 30-40 นาทีจากโรงแรม

mar_070_resize

mar_035_resize

mar_026_resize

mar_033_resize

mar_027_resize

mar_029_resize

mar_028_resize

mar_032_resize

Park Of The Longchamp Palace Marseille

ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จในการสร้างคลองนำส่งน้ำจากแมาน้ำ Durance กับเมืองมาร์กเซย ที่นี่เป็นสวนสาธารณะเข้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายฮะ

การเดินทาง ถ้าเดินออกจากโรงแรมก็ใช้เวลาประมาณ 30-40  นาที ถ้านั่งรถไฟใต้ดิน จากท่าเรือไปลงที่สถานี Métro la Rose  ก็ใช้เวลาเพียง ประมาณ 20 นาที เท่านั้น

mar_003_resize

mar_004_resize

mar_007_resize

mar_010_resize

Palais du Pharo

Palais du Pharo คืออะไร มันคือวังเก่าที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระราชา ชาร์ลส์ หลุยส์นโปเลียนมหาราช ฮะ  อารมณ์ประมาณพระราชวังฤดูร้อนฮะ

การเดินทาง ถ้าเดินออกจากโรงแรมก็ใช้เวลาประมาณ 30  นาที โดยเดินผ่านไปทางท่าเรือเก่า

mar_013_resize

mar_016_resize

mar_015_resize

จาก กทม ไป ปารีส (ฝรั่งเศส) กันเนอะ

การไปฝรั่งเศสครั้งนี้ผมเดินทางด้วยสารการบิน Air France ฮะ ถามว่าต่างจากสายการบินอื่นเยี่ยงไร คำตอบคือไม่รู้ฮะ เพิ่งเคยบินกับสายการบินนี้ครั้งแรก จากการบิน 12  ชั่วโมง ขออธิบายโดยรวมๆกันเนอะ

1. ขนม น้ำฟรีไม่มีอั้น ไม่ต้องขอให้เสียเวลา อยากได้อะไร เดินไปหยิบกันได้เลยฮะ หลังจากอาหารมื้อแรกไปลุยเลยฮะ จุดบริการจะอยู่บริเวณท้ายเครื่อง ขนมจะเปลี่ยนไปทุกประมาณ 2 ชั่วโมง มีทั้งไอติม แซนวิช คุกกี้

2.อาหารเสริฟ 2 มื้อ มื้อแรกเป็นอาหารหนัก มื้อ 2 เป็นเหมือนอาหารว่าง โดยรวมผมเฉยๆกับอาหารของสายการบินนี้นะ บอกตรงๆ ไม่ถนัดอาหารฝรั่ง ไม่วิจารณ์ล่ะกันเนอะ ไอเทมเยอะดีนะ แต่ ขนมปังแข็งเย็นเกิ้นนน กราบบบ

3.การบริการ  ก็ไม่ดีไม่แย่นะ โดยรวม ทั่วไปๆ แอร์มีติดฟีลลิ่งเชิ่ดๆนิด ความเป็นฝรั่งเศสหน่อยๆ นะ แต่โดยรวมโอฮับ ผมให้ผ่าน

4.ขนาดที่นั่งและรายการทีวี  ขนาดที่นั่งก็ไม่ได้แคบจนนั่งไม่สะดวกนะฮะ แต่คนแน่นๆ ก็มีอึกอัดนะ ฝรั่งเขาตัวใหญ่อ่ะ (ผมนั่ง Eco ) แต่เบาะมีแอบเก่าๆนิดหน่อย รายการทีวีโอเลยฮะ หนังเยอะมากกกกก ผมได้ดู The Little Prince ด้วยฮะ สนุก มากกกก

5.ราคาตั๋ว ผมมาตั๋วที่ทางแอร์ฟรานอนุเคราะห์มาอ่ะครับ แต่สำหรับผม ผมแนะนำให้รอโปรนะครับ น่าจะมีเรื่อยๆ

DSC_0061_resize

DSC_0095_resize

DSC_0078-3

page2586_resize

ส่วนใครอยากชมบรรยากาศในเลkจน์ของ Air France กดดูจาก clip นี้ได้เลยนะฮะ ขอบคุณเจ้าของคลิป คุณ Traveller ด้วยครับ

DSC_0013




Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2559 8:24:57 น.
Counter : 1822 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Paksabuy
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 340 คน [?]



free counters
Free counters