ฮอกไกโด ใน ฤดูใบไม้ร่วง (Hokkaido Autume Japan) 2

โอบิฮิโระคืออะไรทำมั้ยต้องมา

โอบิฮิโระถือถือเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพอันงดงามไม่แพ้ที่ไหนในเกาะฮอกไกโด และยังเป็นเมืองที่ได้รับการวางผังเมืองเลียนแบบกรุงวอชิงตัน ดี ซี ของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เราไปดูกันดีกว่า ในทริปโอบิฮิโระและซะทสึไนนี้ มีอะไรน่าเบิ่งกันบ้าง

การเดินทาง

ถ้าเดินทางจากสถานีรถไฟซัปโปโร่ เราสามารถมาถึง โอบิฮิโระ ได้ไม่ยากเย็นเข็นใจนัก การเดินทางด้วยรถไฟน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด แต่อาจใช้เวลาสักหน่อย(ประมาณ 3 ชั่วโมง) ส่วนสถานีที่ถัดไปในภาพในภาพคือ สถานี Satsunai Station ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของทริปในเส้นทางที่ 2 นี้ (เอาจริงๆอยู่ไม่ห่างจากโอบิฮิโระสักเท่าไหร่นะครับ)



เส้นทางที่ 2 อาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น ไปกับสุดยอดออนเซ็นของเกาะฮอกไกโด

สำหรับในเส้นทางที่สองนี้ ผมเดินทางจาก โซอุนเคียว มาเมืองโอบิฮิโระและ Naka-satsunai แสนงาม ขอบอกเลยใช้เวลาไม่น้อยกันเลยล่ะครับ กว่าจะมาถึง แต่ว่าคุ้มค่ามากที่มาเยือนที่นี่ ในเส้นทางที่สองนี้ไม่มีอะไรจะฟิน(เวอร์)ไปกว่าการอาบน้ำแร่แช่ออนเซ็นสีอัมพัน ที่ tokachigawa  อีกแล้ว เพราะออนเซ็นสีอันพันของที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นสุดยอดของออนเซ็นในเกาะฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ ในตัวออนเซ็นนี้ถือเป็นออนเซ็นบริสุทธิอย่างแท้จริงๆ (ภายในตัวน้ำแร่จะประกอบด้วยสารฮิวมิค จากแร่ลิกไนท์ เวลาอาบจะรู้สึกลื่นๆ มีประโยชน์กับผิวอย่างมากมาย)

มาครับมากับผมๆจะพาเพื่อนๆไปสัมผัสออนเซ็นสีอัมพันที่โรงแรม tokachigawa onsen daiji โรงแรมที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวที่งดงามไม่แพ้ที่ไหนๆในย่าน tokachigawa นี้เลย



ลอบบี้โรงแรมญี่ปุ่น นับเปอร์เซนต์แล้ว ร้อยล่ะ 95 มีเอาไว้ใช้งานจริงๆครับ ความสวยงามอลังการ อย่าไปหวังครับ พี่ไทยเราอลังกว่าเยอะ



ที่บริเวณโอบิฮิโระนี้จะขึ้นชื่อเรื่องต้นไม้สีขาว โรงแรมนี้ก็เลยนำต้นไม้สีขาวมาตกแต่งด้วย



จุดขายของที่นี่คืออนเซ็นสีอัมพัน ที่เป็นบ่อกลางแจ้งครับ จะบอกว่ามาแช่ตอนช่วงหนาวๆเย็นๆมัน ฟินมว้ากกกกก



ส่วนใครไม่ชอบโป้กลางแจ้ง ก็มาโป้ในร่มเอาล่ะกัน มีหลายบ่อให้ลองอยู่ เวลาอาบออนเซ็นสีอัมพันตัวนี้แล้ว ผิวจะไม่แห้งนะครับ จะออกลื่นๆ



เอาล่ะครับไปดูห้องพักของวที่นี่กันดีกว่า ห้องนี้เป็นโซนใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จเรียกว่าโซนสวีท ข้อดีคือ มีห้องออนเซ็นส่วนตัวในห้องให้เลยครับ

ห้องกว้างใหญ่ไพศาล มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างที่จะมีได้ มีเตาผิงให้ด้วยครับ



ห้องจะถูกแบ่งเป็น สามส่วน ส่วนห้องนอนและระเบียงคือส่วนนี้





ระเบียงเล็กได้โลว์ แต่วิวงามจับใจเลยครับ



ส่วนที่ 2 คือห้องน้ำครับ ห้องอาบน้ำจะออกแบบให้เหมือนห้องอาบน้ำในออนเซ็น





ไฮไลท์คืออนเซ็นส่วนตัวที่ระเบียงกับวิวงามๆนี่แหละครับ



แต่สำหรับสาวๆ ผมว่าไฮไลท์คือเจ้าอเมนนิตี้เซ็ตนี้ครับ สารพัดครีมบำรุงผิว คลีนซิ่ง โฟม โลชั่น มอยเจอร์ ใช้กันไปนะ เห็นแล้วอยากจะปั้มเก็บกลับมาบ้าน เพราะครีมน้ำน้ำที่ให้มาใช้ ดีมากครับ



ส่วนที่สามห้องสุขา อาจดูไม่มีอะไร แต่แอบเก๋ตรงที่อ่างล้างมืออยู่บนชักโครก ใช้สอยพื้นที่ได้สุดยอดมากกกก



ห้องประเภทนี้ได้คลับเบเนฟิตด้วยครับ เสียดายผมไม่มีเวลาถ่ายเจาะไอเทมมาให้ดูได้ มีเวลาอยู่ที่นี่น้อยเหลือเกิน แต่ขอบอกว่าไอเทมจัดเต็มมากกกกกกกกก คลับเบเนฟิตบ้านเราที่ว่าหรูๆ ตายสนิทครับ





วิวจากห้องรับรองที่คลับครับ วิวสวยมากกกก





ช่วงที่ไปอากาศเย็นมากกกกกกกก สนามหญ้าหน้าโรงแรม กลายเป็นแม่คะนิ้งไปหมดเลยล่ะ พี่ไทยหลังเขาอย่างผมไม่ค่อยได้เห็นแบบนี้ ดีใจวิ่งไปถ่ายรูปอย่างกับ เจอทอง ส่วนพี่ยุ่น เฉยชากันมากกกก เดินผ่านกันไปไม่ได้สนใจอะไรกันเลย คงเป็นธรรมดาสำหรับเขาสินะ โชว์บ้านนอกอีกแล้วตู T__T



ส่วนห้องอาหารเช้าของที่นี่ผมเฉยๆมาก ไม่สมกับโรงแรมห้าดาวเลย เหมือนโรงอาหารยังไงก็ไม่รู้





ส่วนอาหารเช้า ขอบอกเลยว่า ก็เฉยๆ ธรรมดาได้อีก พี่โอะว่าไงครับ



ซูเนโอะ : โอะว่า ครัวซอง เพรสตี้ ไม่เลวเลยนะพักซัง ส่วนอาหารอย่างอื่นก็ดูธรรมดา แบบนี้ที่บ้านโอะ กินบ่อย เผอิญเกิดมารวยนะ 55555



ซูเนโอะ : ส่วนมื้อค่ำที่เป็นบุฟเฟ่ต์ ถือว่าโอเค โอะว่า มันเหมาะสมกับฐานะกับครอบครัวโอะอ่ะ 55555



อาหารมื้อค่ำที่เป็นบุฟเฟ่ต์ค่อนข้างหลากหลาย ไอเทมของค่อนข้างมีคุณภาพ รสชาติโอเค แต่ผมยังแอบติดใจบุฟเฟ่แบบบ้านๆที่ sounkyo-kankou มากกว่า อันนี้มันแอบผู้ดีไปหน่อยอ่ะ กินแล้วเกร็ง



ซูมๆ ปลาดิบให้ชมกันเนอะ ไม้ตายของที่นี่ผมว่าคือปลาดิบ กับข้าวหุงแบบญี่ปุ่น



มาถึงโอบิฮิโระนี่แล้ว เชื่อว่าเพื่อนคงอยากสัมผัสกับของดีเมืองนี้กันเนอะ งั้นผมพาไปเที่ยวที่นี่กันดีกว่า ที่นี่เป็นฟาร์มของดาราญี่ปุ่นครับ เป็นฟาร์มแบบครบวงจร มีทั้งโรงงานทำชีส ทำขนม ร้านอาหาร ร้านของฝาก ฟาร์ม และการแสดงของสัตว์ครับ (ชีสของที่นี่เคยไปออกบูธของดีเมืองฮอกไกโดที่พารากอนด้วยครับ)



ภาพดาราญี่ปุ่น ที่เป็นเจ้าของฟาร์มครับ

การจะเดินทางมาที่นี่ ไม่ง่ายเลยครับพ่อแม่พี่น้อง รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้นครับ ใครอ่านถึงตรงนี้อาจจะบอกว่า ไปลำบากเกิ้นนนน ไม่ไปหรอก 5555 เอาเป็นว่าผมพามาให้ดูเปิดหูเปิดตาล่ะกันนะครับ เพราะร้านของฝากร้านอาหารของดาราญี่ปุ่นคนนี้จะมีเปิดสาขาอยู่สนามบินชิโตเซะด้วยครับ ถ้าใครดูแล้วสนใจก็แวะที่ร้านที่สนามบินได้



บรรยากาศของฟาร์มจะไม่ใหญ่ไม่โต ไม่หรูหราอลังการ แต่ดูสะอาด สะอ้านมากกก



ในบริเวณของลานการแสดงจะมี สัตว์น่ารักหลายประเภทเลย ใครรักสุนัขน่าจะชอบบริเวณนี้เพราะจะมีการแสดงของเหล่าสุนัขแสนรู้ในช่วงวันหยุดด้วย (แต่วันที่ผมไปไม่มีนะ)









อันนี้เป็นแผนที่แสดงในฟาร์ม ไม่ได้ใหญ่โตอะไรครับ



ของขึ้นชื่อของที่นี่คือ ชีส และลูกอมคาราเมล (แสนแพง) ลูกอมคาราเมลนี้ได้รับรางวัล เป็นของดีเมืองฮอกไกโดด้วยครับ



ส่วนของขายดีอย่างอื่นๆก็จะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนม



ส่วนร้านอาหารของที่นี่ ก็จะมีหลายเมนูดัง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกที่มีชีสเป็นส่วนประกอบ พวกพิซซ่า หรือสปาเก็ตตี้จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ





แต่เมนูที่เขาว่าเด็ด เขาว่าดีและราคาคุ้มค่าเงิน กลับเป็นเมนูนี้ครับ  ข้าวหน้าหมูย่างอันแสนดังของที่นี่ พอชั่นใหญ่มากกกก กินไม่กันหมดทีเดียว รสชาติมันจะเหมือนหมูปิ้งบ้านเราที่สุด กินแล้วนึกถึงเมืองไทยขึ้นมาเลย เมนูนี้เป็นอีกมนูยอดฮิตของคนที่นี่นะครับ



ใครสนใจอยากชิม บอกตรงๆถ้าถ่อมาถึงโอบิฮิโระมันดูจะไกลไปนะ ผมแนะนำให้ลองหาทานร้านนี้ที่สาขาสนามบินชิโตเซะจะดีกว่า ราคาน่าจะเท่ากันครับ



ทานของคาวไปแล้ว มาต้องมาชิมของหวาน  มาญี่ปุ่น ไม่ชิมของหวานเหมือนมาไม่ถึงใช่มั้ย มาเมืองนี้ผมแนะนำลองชิม ไอศครีมโฮมเมด เจลลาโต้ยี่ห้อนี้ดูครับ ร้านชื่อ Takachino Fromage เป็นร้านขายชีสกับไอศครีมโฮมเมดที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ครับ ร้านนี้นอกจากดังไอศครีมแล้ว ยังดังเรื่องชีสโฮมเมดด้วยครับ





ที่ร้านสาขาใหญ่ใครไม่สะดวก ก็จะมีสาขาย่อยอยู่ที่ย่านรวมของฝากในตัวเมืองด้วยครับ



รสที่แนะนำให้ชิม คือรสนม และ รสชีส ฮะ



ที่เที่ยวในวันนี้คือที่นี่ครับเรียกว่าเอาใจคนชอบเสพงานศิลป์กัยเลยทีเดียว ที่นี่มาไม่ง่ายเช่นกัน รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้นนะขอบอกเลย ใครสนใจที่นี่ไว้ผมหาข้อมูลมาให้อีกทีนะครับ แต่สำหรับผม เดินชมได้นะครับ แต่ไม่ได้อินอะไรมากมาย เสพงานศิลป์ได้แต่ไม่ขนาดดีฟดำดิ่งลงลึกไปขนาดนั้น ขอไปถ่ายใบไม้แดงลั้นลา ลั้นลาดีก่า อิอิ

























ปิดท้ายไดอารี่หน้านี้ด้วยภาพระหว่างการเดินทาระหว่าง จากอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง มาสู่ โอบิฮิโระ เส้นทางยาวไกลเหลือเกิน และสะดวกที่สุดด้วยการขับรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น ขอบอกเลย หลับๆตื่นๆมาตลอกทาง แต่วิวระหว่างทางก็งดงามทุกครั้งที่ลืมตาตื่นขึ้น เส้นทางที่ถ่ายภาพด้านล่างนี้ เรียกว่า mikuni pass ถือเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ระหว่างการเดินทางในวันนี้

ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายแล้วครับ เรากลับเข้าเมืองซัปโปโรกันบ้างดีกว่า หนีออกมาเที่ยวนอกเมือง 2 ทริปแล้ว











ขอขอบคุณการท่องเที่ยวฮอกไกโด บริษัท บางกอกพอตะ กล้องป๊อกแป๊กแคนนอน SX700HS

Create Date : 26 ตุลาคม 2557 Last Update : 8 พฤษภาคม 2558 23:34:00 น. Counter : 3852 Pageviews.		64 comments
Share Tweet