Group Blog
  •  

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  ชีวิตในญี่ปุ่น
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
All Blog
32.  การไม่เอาใจใส่ลูกนั้นเลวร้าย ยิ่งกว่าการตามใจลูก
      ในสหรัฐอเมริกา ปัญหาชนผิวดำซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนทั่วประเทศนั้นมิใช่เป็นปัญหาเฉพาะผิวเท่านั้น หากเป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงดูเด็กก่อนเข้าโรงเรียนด้วย นักจิตวิทยาจำนวนมากได้ทำการสำรวจพื้นที่ที่ชนผิวดำอาศัยอยู่ เช่น แถบฮาร์เลมในนิวยอร์ก และพบว่าความแตกต่างระหว่างระดับสติปัญญาและอุปนิสัยของเด็กผิวขาวและเด็กผิวดำนั้น เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมในระยะปฐมวัย ดังนั้น เมื่อเด็กเข้าเรียนความแตกต่างจึงเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งกลายเป็นช่องว่างระหว่างชนผิวขาวและผิวดำ ซึ่งแตกต่างกันมากมายจนยากที่จะแก้ไข

      ครอบครัวชนผิวดำจำนวนมาก พ่อแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านทั้งคู่เพื่อหารายได้ประทังชีวิต เด็กที่เกิดมาถูกปล่อยให้เติบโตขึ้นมาเองตามอัตภาพทางฝ่ายลูกชนผิวขาวนั้นถูกเลี้ยงดูด้วยความเอาใจใส่จากพ่อแม่คนรอบข้างจำนวนมาก ความแตกต่างนี้กล่าวได้ว่าเป็นต้นตอของความแตกต่างอันยากที่จะแก้ไขระหว่างชนผิวขาวและผิวดำ ซึ่งออกจะเป็นเรื่องโฉงฉางอยู่สักหน่อย แต่อันที่จริงในครอบครัวของพวกเราก็มีเรื่องคล้ายคลึงกันนี้ ซึ่งก่อให้เกิดความแตกต่างขึ้นในหมู่เด็กๆ ใช่หรือไม่ ความแตกต่างระหว่างเด็กที่มีระดับสติปัญญาต่ำ ระหว่างเด็กที่มีอุปนิสัยอ่อนโยนว่าง่ายและโอบอ้อมอารีย์กับเด็กดื้อรั้นเห็นแก่ตัว ความแตกต่างเหล่านี้มิได้เกิดขึ้นจากฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว แต่น่าจะเกิดขึ้นจากความแตกต่างทางทัศนคติเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูในระยะปฐมวัยมากกว่า

     มีสถิติชี้ให้เห็นว่า ยิ่งพ่อแม่เลี้ยงดูลูกแบบปล่อยปละละเลยมากเท่าไรเด็กยิ่งจะเกิดความไม่มั่นใจและมีความก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากเด็กกระหายความรักอยู่ตลอดเวลา แกจึงมีแนวโน้มที่จะเรียกร้องความสนใจจากผู้ใหญ่เสมอ (จากวารสารชื่อ”Gendal no Esprit " วิญญาณสมัยใหม่ เล่มที่43) การเลี้ยงดูอย่างปล่อยปละละเลยในที่นี้หมายถึงการให้นมลูกอย่างไม่มีระเบียบกฎเกณฑ์ คือให้เฉพาะเวลาที่เด็กต้องการเท่านั้น หรือให้ของเล่นลูกโดยไม่สนใจที่จะเลือก หรือขี้เกียจเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก เป็นต้น

      ในทางตรงกันข้าม การเลี้ยงดูลูกแบบปกป้องมากเกินไปจะมีปัญหาทำให้เด็กขี้ขลาดขวัญอ่อน แต่พูดโดยส่วนรวมแล้ว เด็กที่พ่อแม่รักมากเกินไปนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่พ่อแม่ไม่ใส่ใจ จะมีโอกาสเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าสังคมได้ง่ายกว่าและมีอารมณ์ที่มั่นคงกว่า

      ปัจจุบันนี้ เราถือว่าแม่บ้านเป็นปัจเจกบุคคลและเป็นสมาชิกของสังคมและมีสตรีจำนวนมากที่ต้องการออกไปทำงานนอกบ้าน ไม่ยอมจำกัดบทบาทของตนอยู่เฉพาะในเรื่องการดูแลบ้านและเลี้ยงดูลูกเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นเด็กที่ต้องเฝ้าบ้านอยู่ตามลำพังเพิ่มมากขึ้น และมีพ่อบ้านที่ต้องเข้าไปหาอาหารในครัวเองมากขึ้น

      ผมเองไม่ได้คัดค้านในเรื่องของสามีภรรยาออกไปทำงานนอกบ้านทั้งคู่หรอกครับ แต่ผมอยากให้พ่อแม่ทุกคนตระหนักว่าการเลี้ยงดูลูกอย่างปล่อยปละละเลยนั้นไม่เพียงมีผลกระทบต่อระดับสติปัญญาเท่านั้น แต่ยังมีผลร้ายอย่างมากต่อพัฒนาการทางด้านอุปนิสัยของเด็กด้วย



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2556 13:51:54 น.
Counter : 442 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Harutoaki
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



ตอนนี้ผันตัวมาเป็นแม่ค้าทำขนส่งจากจีนมาไทย หาตังค่าขนมให้เจ้าหนูฮิโร ใครสนใจติดต่อมาได้เลยนะคะ เราคิดราคาถูกสุดๆ

ส่วนอะไรที่เป็นข้อมูลเอามาแชร์กับเพื่อนๆเท่าที่จะทำได้นะคะ เพื่อนๆจะได้ไม่เจอเหตุการเซ็งแบบเรา หากเพื่อนๆมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็เขียนแนะนำเราเอาไว้ได้เลยนะคะจะได้เป็นความรู้กับเราด้วย.

สำหรับเพื่อนๆที่สงสัยเกี่ยงกับเรื่องวีซ่า สามารถทิ้งอีเมล์ไว้ให้เราได้นะค่ะ เวลาตอบบางทีบางคนไม่ใช่สมาชิกเราก็ไม่รู้ว่าจะได้เห็นข้อความเราไหม

เรื่องวีซ่าเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแต่อย่างใด แต่ที่ลงข้อมูลไว้เผื่อคนที่ต้องการทำวีซ่าอย่างเราจะได้มีที่หาข้อมูลได้