ตอนที่ 3 : ความพยายามครั้งที่ 4 : แผนนี้ไม่มีพลาด
ผมพลาดมาแล้ว ...... สามครั้งทุกครั้งที่พลาด เป็นเพราะผมมัวแต่ยืนตะลึง ตะลึง ตะลึง อยู่เป็นนาทีทุกครั้งกว่าจะรู้ตัว รถเมล์สาย 29 ก็คาบเธอไปไม่คิดเลยว่าการจะตามไปรู้จักใครสักคน จะยากเย็นปานนี้ ...... ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมพลาดอีก ผมต้องวางแผนและเตรียมตัวให้ดี ..... รับรอง คราวนี้ ไม่มีพลาดแน่ ๆ ...ครั้งนี้ ไม่เหมือนครั้งก่อนผมวางแผนล่วงหน้าในการดักเธอ อย่างแรก ผมรู้แล้วว่า เธอขึ้นรถเมล์สาย 29 เพราะฉะนั้น เพื่อความไม่พลาด พอผมเห็นรถเมล์สาย 29 ผมต้องรีบโดด ขึ้นรถไปก่อน อ่อ อีกอย่างกันพลาด ผมต้องขึ้นประตูเดียวกับเธอด้วย เพื่อที่ว่าเราจะได้ไม่ห่างกันมาก ผมต้องพยายามอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ป้องกันเธอไม่ให้ใครเบียดเธอมาก แล้วจะได้หาโอกาสทักทายเธอ หรือ ถ้าไม่ทัน อย่างน้องผมจะได้ลงรถไปพร้อมกับเธอ และ จะได้มีโอกาสในการเดินไปกับเธอ พร้อมกับทำความรู้จักเธอโอ Perfect ช่างเป็นแผนที่ยอดเยี่ยมอะไรอย่างนั้น..... โฮะ ๆๆๆๆๆ ให้มันได้อย่างนั้นสิ ... จอร์จผมกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ พร้อมกับนึกถึงว่า เมื่อไหร่ จะได้เจอเธออีกหนอ.....หวังว่าคงไม่นานเกินไป ..แล้ววันที่รอคอยก็ผมถึงผมเจอเธออีกครั้ง ..... เป็นครั้งที่สี่แน่นอนครับ ครั้งนี้ ผมปรี่เข้าไปหาเธอทันที ไปยืนใกล้ ๆ เธอ พร้อมรอรถเมล์สายมรณะ อีกครั้งผมนึกในใจ "มาสิงานนี้ไม่พลาดแน่" 555555วันนี้คนที่ป้ายรถเมล์เยอะผิดปกติครับ แสดงว่าวันนี้เลิกงานกันเร็ว เลยออกมาออที่ป้ายรถเมล์กันเต็มไปหมด ผมยืนอยู่ด้านหลังเธอ ห่างเธอประมาณ เมตรนึง ข้างหน้าผม คือฝูงชนล้นหลาม เธอยืนอยู่ริมฟุตบาท จ้องมองว่ารถเมล์เมื่อไหร่จะมาอย่างว่าแหละครับ แค่มองเห็นหลังเธอ ผมก็ปลื้มใจแล้ว... คนอาราย หลังยังน่ารักขนาดนี้ .............แล้วรถเมล์สายมรณะของผม พร้อมคนเต็มคัน ก็วิ่งมาเข้าป้ายผมเห็นมันมาแต่ไกลแล้วล่ะ ผมจึงเตรียมตัวแทรกตัวเองไปอยู่ด้านหน้าแต่ ผมคิดว่าผมคาดผิด ฝูงชนดูหนาแน่นกว่าที่คิด แถมพอผมเบียดคนข้างหน้า พี่แกหันหน้ามาพร้อมกับทำหน้าโหดเหมือน อาโนลด์ ชวากซาเนเกอร์ ตอนเป็นคนเหล็กยังไงยังงั้น พร้อมทั้งเลิกตามองคล้ายจะบอกว่า "เบียดทำบิดาท่านหรือครับ" แล้วรถเมล์สาย 29 ก็เข้าจอดป้ายโอ พระเจ้าช่วย เธอก้าวขึ้นไปแล้ว แถมด้วยผู้คนหน้าผมทั้งหมด ก้าวขึ้นไปด้วย โอ นี่มันมารอสาย 29 กันหมดเลยเหรอ (วะ) ผู้คนมากมายพยายามเกียกกายขึ้นไปบนรถให้ได้ ผมก็เป็นคนหนึ่งเช่นกัน ประตูหน้า คือเป้าหมายของผม !!!!ผมพยายามแทรกตัวเข้าไปเพื่อหวังจะขึ้นให้ได้ ขณะผมกำลังเบียดอยู่นั่นเอง ผมก็พบว่า ข้างหน้าผม โอ ... พี่อาโนลด์นั่นเอง "ป้าป" เนื่องจากแกก็กำลังเบียดขึ้นรถเมล์เช่นกัน แขนแกเลยเหวี่ยงมาที่ผม แต่ไม่ได้มาทั้งแขนนะครับ สะบัดมาแค่ศอก เข้าที่หางคิ้วซ้าย ดังสนั้นหวั่นไหว ศอกแกใช่เบา ๆ ที่ไหนครับ เนี่ย ระดับ ส.รัตนพิน เวทีลุมพีนีเชียว อย่างนี้ ต้องให้แอนตาซิล แจกสักหมื่นครับ แม่นอะไรอย่างนั้นผมกระเด็นออกจากประตูด้วยแรกศอกของแก ดูท่าแล้วข้างหน้าผมคงขึ้นไม่ได้ ผมมองประตูหลัง เอาวะ แน่นน้อยกว่าประตูหน้า เปลี่ยนแผนสักหน่อยคงไม่เป็นไรว่าแล้วผมก็พุ่งหลาวไปที่ประตูหลังทันที โอ อารายมันจะแน่นปานนั้น นี่ก็จะห้อยจะโหนกันอยู่แล้วผมยังไม่ละความพยายามที่จะขึ้นให้ได้ ขณะที่ผมกำลังจะได้ก้าวขึ้นบันไดบาทาเบอร์ 40 ของใครก็ไม่รู้ ลอยเฉี่ยวหน้าผมไปประมาณ 0.5 เซนผมเอี้ยวตัวหลบเกือบไม่ทัน อารายมันจะแน่นขนาดนั้นเนี่ย "ชิดในหน่อยเพ่ ชิดในหน่อยเพ่ ประตูขึ้นไม่ได้รอคันหลังนะเพ่" กระเป๋าตะโกนให้รอคันหลังเนื่องจากรถแน่นมาก คนขึ้นไม่หมด ผมก็ยังไม่ได้ขึ้นซะที เดี๋ยวสิเฟ้ย รอตูขึ้นก่อน !!!!!! ชายสองคนที่โหนอยู่ริมประตูหลัง หันมามองหน้าผม พร้อมทั้งส่งสายตาแดกดัน "แน่นตาย.... แล้ว ยังจะเฉือกขึ้นมาอีกเหรอ"โอ พระเจ้าช่วย วันนี้มันอารายกันเนี่ย......ผมเห็นเธอผ่านทางวิวหน้าต่าง ผมเห็นเธอมองกลับมาที่ผมแล้วผมก็เห็นรถเมล์สาย 29 แล่นออกไป .........โอ .........คิดว่าผมจะจบตอนแค่นี้แล้วสิครับยังครับยัง ผมยังไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ หรอก เดี๋ยวหาว่าเล่นง่ายผมหันกลับไป โอ นับว่าสวรรค์ยังมีทางให้คนดีเสมอ แท๊กซี่ครับ แท๊กซี่ผมเรียกแท๊กซี่ทันที ลุงคนขับหันหน้ามา ถามว่าจะไปไหน"ตามรถเมล์คันหน้าไปเลยครับ"ลุงแกหันมามองหน้าผมอย่างไม่แน่ใจ ไอ้นี้มันบ้าหรือเมาวะ อยู่ ๆ ให้ขับตามรถเมล์ผมไม่รอให้แกตอบหรอกครับ เปิดประตูเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว แกก็ทำท่าเอ๋อ ๆ แต่ก็ยอมขับออกไปโดยดีโอ ถนนก็รถโค ตะ ระ เยอะ ผมก็นั่งมองมิเตอร์ไป นั่งมองรถเมล์ข้างหน้าไป รู้สึกว่านาที แต่ละนาทีที่ผ่านไป มันช่างนานเหลือเกินพร้อมกับรู้สึกว่า (กระเป๋า) ตัวเอง เริ่มเบาขึ้น เบาขึ้นลุงคนขับที่แสนดี แกคงกลัวผมจะกระวนกระวายมากเกินไป แกเลยหาอะไรมาคุยเล่นกับผม "รถมันติดจริงนะ ว่าไหมน้อง เดี๋ยวนี้มันแย่ ไปไหน ๆ ก็เจอแต่รถติด""น้องคิดไงถ้าทักษิณจะยุบสภา"เฮ้ย วกมาคำถามนี้ได้ไงเนี่ย ผมกำลังมึน ๆ อยู่ ๆ ดันมาถามเรื่องยุบสภา ผมไม่ค่อยได้สนใจการบ้านการเมืองเท่าไหร่ เลยตอบไปว่า "ก็ดีมั้ง"เท่านั้นแหละ ลุงแกสาธยายเรื่องรัฐบาลใหญ่เชียว สรรเสริญ กันทั้งคณะ ท่าทางลุงแกเก็บกดเรื่องการเมืองมานาน สักพักเสียงแกเริ่มแข็งขึ้น แข็งขึ้น โอ ท่าทางแกจะไม่ชอบไทยรักไทย เอาแน่ ๆสุดท้ายแกเห็นผมนั่งเงียบ แกเลยหันมาถามด้วยเสียงแกม ๆ โหด ๆ"ว่าแต่น้องอ่ะ ชอบพรรคไหน" คำพูดดูดีครับ แต่ถ้าเห็นหน้าแก กลาย ตอนนี้ อยากจะบอกเลยครับ ถ้าบอกไทยรักไทย อาจโดนแกถีบตกรถแน่นอน คนอาราย พอพูดเรื่องการเมืองแล้ว อินโคตรรถวิ่งพอดี ผมถอนหายใจ รอดตัวแล้วตู พอบทรถจะวิ่ง รถมันก็วิ่งได้ดีใจหายครับ ผมเห็นรถเมล์สาย 29 เลี้ยวซ้ายที่แยกหน้า ผมจึงบอกลุงให้เลี้ยวตาม พอเลี้ยวไปปุ๊ป เอ๊ะเริ่มคุ้น ๆ รถเมล์สาย 29 เริ่มออกตัวเร็วขึ้น ลุงแกก็ยิ่งเหยียบเร็วขึ้น ทันใดนั้น ผมก็เห็นเธอ กับป้ายรถเมล์ที่จะต้องลง อ้าว ฉิบ ละ เลยแล้วนี่หว่า !!!"ลุง ๆๆ จอด ๆๆๆๆๆ" พูดไวเท่าความคิด แต่ลุงตามรถเมล์ไปเรียบร้อยแล้ว กว่าลุงแกจะรู้ตัวก็ผ่านไปทันรถเมล์สาย 29 เข้าป้ายอีกป้ายแล้วเลยสิครับท่าน อีกป้ายตามระเบียบ ผมหันมามองมิเตอร์ โอแม่เจ้า ร้อยสี่สิบบาท กระเป๋า เบาหวิวเลยงานนี้ ผมวิ่งกลับมาที่ป้ายเก่า เจอลุงขายเฉาก๊วยคนเดิม ผมกระหืดกระหอบเข้าไปถามแก "เห็นผู้หญิงคนเมื่อวานไหมครับ"แกหันมายิ้มหวานใส่ผม โอ พระเจ้า .....ผมเลยอุดหนุน เฉาก๊วยแกไปอีกสองแก้ว ...... .ให้มันได้อย่างนั้นสิ" อี ข้ามไปฝั่งโน้นแล้ว อีมาข้ามทาหนน ตรงนี้ทุกวังแหละ "อ้าวเวง แล้วไม่บอกผมแต่แรก "แล้วรู้ไหมครับว่าเธอไปทางไหนต่อ"ลุงแกยิ้มหวานอีกละ ..... โอ ซาร่า ผมซื้อกลับบ้านอีกสองถุงก็ได้ ยอมแล้วคร๊าบ ....."อี ข้ามไปฝั่งโน้นเสร็จ ก็เดินไปทางโน้น ปกติบ้านอีจะอยู่แถว ๆ ซอยนั้น แหละ "อ้าว รู้ตั้งแต่แรก แต่ไม่ยอมบอก กั๊กไว้นี่หว่าผมรีบข้ามถนน วิ่งไปที่ซอยนั้นทันที ด้วยความหวังว่า เธอจะแวะซื้อขนมข้างทางแล้วทำให้ช้าลง เพื่อผมจะได้ตามทัน หรือไม่ก็หวังว่า ซอยนั้นจะไม่ลึกมาก จนหาเธอได้ไม่ยากผมวิ่งไปถึงหน้าซอย แต่ก็ไร้เงาเศร้า แท้ ๆ .......... (Again)
ตอนที่ 2 : ติดตาม ตามติด
ผมเจอเธอที่หน้าตึก ..... อีกครั้งผมตะลึงอยู่เป็นนาที ทำไมผมต้องตะลึงทุกครั้งที่มองเห็นเธอด้วยวะ ผมเห็นเธอกำลังเดินไปที่ป้ายรถเมล์ ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดู"17.24 ห้าโมงกว่าแล้วนี่หว่า"ไวเท่าความคิด ผมรีบวิ่งตามเธอไปที่ป้ายรถเมล์ทันที วันนี้ผมคงไม่พลาดเหมือนวันก่อนนะเนี่ยในที่สุด ผมก็วิ่งมาถึงเธอที่ป้ายรถเมล์ โอย มายืนข้างเธอทีไร ผมเป็นไรเนี่ย ทำอะไรไม่ถูกทุกทีเลย ตัวเริ่มสั่น ๆ อีกแล้วเอาวะ วันนี้จะไม่ยอมพลาดเด็ดขาดขณะที่ผมคิดอยู่ รถเมล์เจ้ากรรมสาย 29 ก็วิ่งเข้ามาจอด (อีกแล้ว)แล้วเธอก็เดินขึ้นรถเมล์ไปอีกครั้ง !!!!โอ .... ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมพลาดซ้ำสองหรอก ผมกระโดดตามขึ้นประตูหลังทันที โอ ... พระเจ้าจอร์จ รถเมล์เย็น ๆ โค ตะ ระ แน่น มากกกกกกกกก ผมรู้สึกถึงสัมผัสทุกสัมผัสของทุกคนที่เบียดอยู่กับผม "ชิดในหน่อยเพ่ ชิดในหน่อยเพ่" กระเป๋ารถเมล์ที่แสนดี เบียดเข้ามากลางฝูงชนทั้ง ๆ ที่ไม่มีช่องว่าง ทำให้เกิดอาการบิดเบี้ยวของรูปทรงที่เบียดกันเป็นอย่างดี ตัวผมโดนเบียดเบี้ยวไปเบี้ยวมา ท่ามกลางฝูงชน กลิ่นเหลื่อคละคลุ้ง จนแทบไม่มีอากาศหายใจ โอ พวกตัวสูง ๆ อิจฉาจัง อากาศข้างบนสดชื่นไหมครับ แบ่งมาให้ผมบ้างงงงงงผมพยายามสอดส่ายสายตามองหาเธอ แต่ผมก็เห็นแต่หัว หัว และหัว รถเมล์ก็วิ่งไป จอดไป ตามป้ายต่าง ๆ แล้วมีอยู่ป้ายนึง คนก็เริ่มลงเยอะขึ้น ผมมีช่องว่างในการขยับขยายตัวมากขึ้น แล้วผมก็เริ่มมองหาเธอต่อ แต่ .....เธอหายไปแล้ว หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยผมกวาดตากลับไปที่ป้ายรถเมล์อีกครั้ง อ้าว เฮ้ย เธอลงไปแล้วนี่หว่า โอ เศร้าสิผมทีนี้ แต่เรื่องอะไรผมจะยอมแพ้ ผมวิ่งไปที่ประตูทันที ทันทีที่รถเมล์เปิดประตู ผมก็วิ่งลง แล้ววกกลับไปที่ป้ายนั้นทันทีหวังว่าคงจะทันนะเนี่ยผมวิ่งกลับไปที่ป้ายรถเมล์นั้น โอ ... ไม่เหลือใครแล้ว นอกจากลุงคนนึงนั่งขายเฉาก๊วยอยู่ที่รถเข็นข้างป้ายรถเมล์ผมไม่รีรอที่จะถามทันที "ลุง ๆ เห็นผู้หญิงตัวสูง ๆ ขาว ๆ ผมยาว ๆ ใส่ชุดไปรเวทสีฟ้า ๆ ที่ลงรถเมล์เมื่อกี้ไหม"คุณลุงผู้เหมือนฟ้าจะประทานให้นั่งอยู่ตรงนั้น ตอบสั้น ๆ ว่า "เห็น .................................................... ม้าง" (เวรสิ มีมั้งอีก)ผมเลยต้องอุดหนุนเฉาก๊วยแกก่อนสัก 2 แก้ว แกถึงยอมบอกว่า "อ้อ เห็น ๆๆๆ จำล่าย จำล่าย"โอ ใจชื้น (กระเป๋าชื้นด้วย) "อีหนู คงนั้น ฮั้วเห็นอี จูงมือยายคงนึง ข้ามถนนไปฝั่งโน้นอ่ะ อีคงเห็งว่า ยายคงนั้นนั่งอยู่นานแล้ว ข้ามทาหนน ไม่ได้สักกาที อีเลยช่วยพาข้ามไปอ่า"โอ ฟังแล้วรู้สึกภาคภูมิใจเล็ก ๆ ครับ แฟนในอนาคตของผม เป็นคนดีจริงๆ น่ารัก แล้วยัง โอบอ้อมอารีอีก แหมท่าทางจะใจดีมาก ๆ ซะด้วยอย่างนี้ ไม่รักได้ไง จริงไหมล่ะครับ !ว่าแต่ ผมจะไปตามเธอต่อยังไงล่ะเนี่ย คราวนี้ เธอหายไปแล้วอ่ะชวด AGAIN !!!
ตอนที่ 1 : แรกเจอ ก็เป็นเรื่องซะแล้ว
ผมเจอเธอที่หน้าตึก .....ผมตะลึงอยู่เป็นนาที ผมเห็นเธอเดินอยู่ข้างหน้า ผมยาวขาวสวยสลวยเก๋ พริ้วไปตามลม เหมือนโฆษณานางแบบยาสระผมยังไงยังงั้น ผิวขาวผ่องเหมือนหิมะ รูปร่างสะโอดสะองค์ เอวคอดกิ่ง สูงโปร่ง รูปร่างกำลังดี ในชุดไปรเวท ที่สำคัญ พอเธอหันหน้ามา โอ !! ใช่เลย นี่แหละ นางในฝันของผมผมเห็นเธอเดินขึ้นลิฟต์ไปต่อหน้าต่อตา แล้วเธอก็หายไปแล้วผมก็ไม่ได้เจอเธออีก.........สองอาทิตย์ต่อมา .......ผมพึ่งเลิกงาน เดินลงมาจากตึก ดูจากเวลา กะว่า วันนี้อาจหาอะไรกินก่อนกลับบ้าน เนื่องจากยังไม่เย็นมาก ขณะกำลังเดินไปป้ายรถเมล์ สายตาผมก็ไปสะดุดเข้ากับ !!!เธอนั่นเอง !!! เธอ ยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ผมไม่รอช้า รีบแจ้นเข้าไปที่ป้ายรถเมล์ เข้าไปยืนข้าง ๆ เธอ ไม่รู้เป็นไร พอมายืนข้าง ๆ เธอ ผมมีอาการแปลก ๆ ไม่กล้าหันไปมองหน้าเธอเต็ม ๆ ตัวผม สั่น ระริก ๆ ปากก็สั่น หัวหมุนติ้ว คิดคำพูดอะไรไม่ออก พยายามจะยืน ยังยืนไม่ค่อยจะอยู่ โอย ผมเป็นอะไรไปเนี่ยผมรวบรวมสติและความกล้าขึ้นในใจเงียบ ๆ ถ้าผมไม่กล้า ผมคงไม่มีวันได้รู้จักเธอเป็นแน่แท้ เอ แล้วผมจะเริ่มทักเธอยังไงดี แล้วถ้าเธอ ไม่คุยด้วย ผมจะทำไงดี หรือว่า ถ้าเธอเห็นผม แล้วนึกว่าผมเป็นคนโรคจิตจะทำไงดีล่ะเนี่ย โอย คิดไปคิดมา มัวแต่คิด เดี๋ยวก็ชวดพอดีหรอก !!! ผมตั้งสติ แล้วหันไปทางเธอ ยกมือขึ้นจะสะกิดเธอ พร้อมกับเริ่มเอ่ย คำ ๆ แรก ออกจากปาก "เอ่อ ....."ไม่ทันเอ่อขาดคำ รถเมล์สาย 29 ก็เข้ามาเทียบ เธอก็รีบวิ่งด้วยความรีบร้อน ขึ้นรถเมล์ไปทันทีทันใด กว่าที่ผมจะรู้ตัวและได้เอ่ยอะไรออกไปนอกจาก "เอ่อ" รถเมล์สาย 29 ก็เคลื่อนออกจากป้ายไปอย่างช้า ๆพร้อมกับทิ้งผม ไว้ที่ป้ายรถเมล์อย่างจ๋อย ๆ เอ่อ ..... ไม่น่าเลยตู