|
~*~ฉันอยู่ตรงนี้... แต่เธอเดินไปซะแล้ว~*~
เมื่อหลายวันก่อน เพื่อนสนิทส่งเพลง "ฉันอยู่ตรงนี้" ของ Crescendo มาให้ค่ะ พร้อมบอกว่า "ฟังแล้ว เรื่องของแกชัดๆเลยนะเนี่ย" เราก็เลยได้ลองฟังเป็นครั้งแรก
เธอมองหาสิ่งใด เมื่อมีฉันยืนอยู่ตรงนี้ เธอมองหาสิ่งใด เมื่อมีฉันเคียงข้างเธอเหมือนเงา
เหม่อมองฟ้า ก็ดูช่างว่างเปล่า ใต้แผ่นน้ำก็ดูช่างกว้างไกล เธอมองหาสิ่งใด ฉันนั้นรักเธอ
โปรดอย่าคิดอื่นไกล ฉันนั้นมีแต่ความหวังดี โปรดอย่าคิดสิ่งใด ฉันไม่เปนอย่างใคร เหมือนเค้า
เหม่อมองฟ้า ก็ดูช่างว่างเปล่า ใต้แผ่นน้ำก็ดูช่างกว้างไกล เธอมองหาสิ่งใด ฉันนั้นรักเธอ
อยากจะขอให้เธอจงลืมคืนที่ผ่านพ้นมา อยากจะขอให้เธอจงลืมเวลาที่เคยเสียใจ อยากจะขอให้เธอจงลืมแล้วไม่ต้องมองหาใคร แค่เธอเปิดใจ กับใครซักคนที่รักเธอ
ฉันนั้นยังรออยู่ตรงนี้ และเปนเงา เธอจะมองหาใครอีก มองหาใครอีกนะ
ฟังแล้วก็ โอ้วววว โอ๊ะ โอ๊ะ โอยยยยย โดยเข้าอย่างจัง แต่แล้ว... เมื่อได้ค้นพบว่าการที่เราคอยอยู่ข้างๆเขามาเป็นปีๆ แล้วเขากลับไปพบคนที่เขาจริงจังด้วยซะแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคนๆนั้นไม่ใช่เรา มันเจ็บปวดจนพูดไม่ถูกเลยจริงๆ ถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาจะมองหาคนที่จะมาเติมเต็มเขาอยู่เสมอ แม้ว่าเราจะยืนเป็นเงาอยู่ข้างๆ เขาก็ไม่เคยหันมามอง หรือคิดจะหยิบยื่นความเป็นตัวตนให้กับเจ้าเงานี่ซะที แต่เงาอย่างเราก็ยังมั่นใจว่า อย่างน้อย เรายังมีพื้นที่อยู่บ้าง ข้างๆเขา จนมาตอนนี้ เขาพบคนที่เขาจริงจังด้วยแล้ว และทุ่มเทให้อย่างมากมาย โดยที่เราเพิ่งมารู้เอาเมื่อเขาทำท่าจะมั่นคงกับใครคนนั้นแล้ว ความรู้สึกมันเหมือน... คนที่เกาะเชือกเส้นหนึ่งอยู่กลางอากาศ แล้วมั่นใจมากว่า เชือกเส้นนี้แข็งแรงพอที่จะไม่ทำให้เราตกลงไป ถึงแม้ว่าจะปีนขึ้นไปไม่ได้ แต่ไม่ตกลงไปก็ดีแล้ว แล้วอยู่ๆ เชือกก็ขาดกะทันหัน แล้วเราก็กำลังตกลงไป สู่ห้วงอะไรสักอย่างข้างล่างที่มันมืดมิด
ร้องไห้จนหมดน้ำตาที่จะร้อง ตอนนี้ฟังเพลงอะไรน้ำตาก็พาลจะไหลซะให้ได้ อกหักธรรมดาก็ว่าจะแย่แล้ว การต้องมาอกหักในต่างประเทศ ตอนอากาศมัวๆ แล้วหนาวจับจิต อยู่คนเดียวในห้องแคบๆ มีงานกองให้เคลียร์ มันรู้สึกได้ถึงความเหงาและความอ้างว้างที่ชัดเจนมากขึ้น เบื่อการนั่งร้องไห้คนเดียวแล้ว
Create Date : 14 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 14 มีนาคม 2551 5:16:38 น. |
Counter : 404 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
*~*เมื่อความเศร้ามาเยือนอีกครั้ง*~*
ตั้งแต่ต้นปี คิดว่าเรื่องๆนึงทำท่าจะดีขึ้น แต่แล้วเมื่อมันมาทำร้ายเรา...
รู้สึกว่าทุกอย่างเป๋ไปหมดเลย
งานที่กองสุม เริ่มหมดแรงที่จะทำ
การกลับบ้านที่รอคอย ดูจะมีเรื่องให้อยากกลับน้อยลง ทั้งๆที่คิดถึงบ้านมากๆ
ทำไมนะ ทั้งๆที่คิดว่าทำใจได้แล้ว จะไม่แคร์ ไม่สน ทั้งๆที่คิดว่ายอมเจ็บ ยอมทน
ไม่เห็นต้องตั้งใจทำร้ายกันขนาดนี้นี่นา
ความเหงาที่มีอยู่เป็นทุนเดิม มันยิ่งถาโถมหนักขึ้น
หมดแรง หมดกำลังใจไปซะทุกเรื่อง
อยากจะทิ้งทุกอย่าง แล้วกลับบ้าน
กลับไปนอนร้องไห้ในที่ๆคุ้นเคย กับคนที่เข้าใจเรา
ทำไมใครๆก็บอกให้ลืม มันทำไม่ได้จริงๆนะ
เราลองพยายามที่จะลืมมาตลอด แล้วมันก็ทำไม่ได้จริงๆ
ไม่ได้อยากมานั่งทนเจ็บปวด โดนทำร้ายซ้ำซากอยู่แบบนี้
แต่เราไปไหนไม่ได้ เราไม่ยอมไป ถ้าเขาไม่เขี่ยเราออกมา เราก็ไม่ไปไหน
แล้วมันจะต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน
...เหนื่อย เพลีย เศร้า ท้อ สับสน...
Create Date : 06 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 6 มีนาคม 2551 2:51:49 น. |
Counter : 257 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Look beyond the surface
กำลังงงๆว่านี่เราจะเขียน Blog อีกแล้วหรือนี่ (ที่มีอยู่มากมายตั้งหลายเวบยังไม่พออีกรึไง???) แต่กว่าจะรู้ตัว ก็มานั่งเขียนอีกแล้ว...
เป็นซะแบบนี้แหละค่ะ ตามประสามนุษย์ช่างบ่นอย่างดิฉัน ยิ่งตอนนี้อยู่คนเดียวเหงาๆ ในที่ๆอากาศหนาวๆ ยิ่งต้องหาทางระบายเรื่องในหัวออกไปให้ได้มากที่สุด ไม่งั้นอาจจะเฉาตายได้
เข้าเรื่องเลยดีกว่า ที่เลือกกลุ่มย่อยเป็น "ศิลปะ" ก็ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกค่ะ เนื่องจากว่าเมื่อคืนนั่งเขียน essay outline ส่งอาจารย์ ส่วนนึงใน essay ที่ต้องเขียนคือการเปรียบเทียบภาพที่มี composition เหมือนกันสองภาพที่มาจากยุคเดียวกันและนักวิจารณ์บางท่านก็ว่าก๊อปปี้กันมา
ภาพที่หนึ่งได้แก่ Mars and Venus ของ Sandro Botticelli อีกภาพคือ Mars and Venus ของ Piero di Cosimo
ทั้งสองภาพมีเทพีวีนัสนอนตะแคงอยู่ทางด้านซ้ายและเทพมาร์สนอนตะแคงอยู่ทางขวาเช่นกัน โดยที่เทพมาร์สหลับอยู่ทั้งสองภาพ
น่าแปลกที่ภาพเหมือนกัน เรากลับรู้สึกว่ามันสื่อความหมายที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว ทั้งๆที่ดูผ่านๆแล้ว หลายๆคนอาจจะชอบภาพของ Piero di Cosimo มากกว่าเพราะดูอ่อนหวาน ละมุนกว่า
แต่เรากลับรู้สึกดีกับภาพของ Botticelli มากกว่า (อาจจะลำเอียงเป็นการส่วนตัวอยู่เป็นทุนเดิมแล้วก็ได้) นั่นก็เพราะว่าภาพของ Botticelli มันสื่อออกมาได้ว่า "ความรักสามารถทำให้ความรุนแรงสงบลงได้" ในขณะที่ภาพของ Cosimo มันออกแนว erotic อะค่ะ
ไม่ใช่เพราะวีนัสของ Cosimo เธอเปลือยอยู่หรอกนะคะ แต่เป็นเพราะน้องกระต่ายในรูปตะหาก บวกกับหน้าตาของเทพมาร์สที่หลับอยู่ ดูแล้วมันให้ความรู้สึกเหมือนเพิ่งจะปฏิบัติ "ภารกิจ" มายังงั้นแหละ
ให้เพื่อนที่ไม่ได้เรียน History of Art ด้วยกันดู เขาก็ว่าเขาชอบของ Cosimo มากกว่าเพราะดูเหมือนครอบครัวพักผ่อนอยู่ในสวรรค์
เอ... หรือเราจะคิดมากเกินไปนะ?
การเรียน Symbolism มากไปก็ทำให้เกิดข้อเสียได้มากเหมือนกันว่าไหมคะ? กลายเป็นพวกคิดมาก คิดลึก คิดเล็ก คิดน้อย คิดยุบยับไปหมด ทั้งๆที่บางที มันอาจจะไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ก็ได้ แต่จริงๆ การได้คิด พินิจ พิเคราะห์ มันก็สนุกดีอีก เหมือนประลองปัญญา... I think, therefore I am ไงคะ
Create Date : 05 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 5 มีนาคม 2551 22:09:48 น. |
Counter : 272 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|
Location :
Leeds Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
หนูน้อยหลงผิดที่วิ่งตามความฝันของตัวเองมาจนเกือบจะสุดปลายทางแล้วถึงได้รู้ว่าเหนื่อยแทบขาดใจ T-T
กำลังพยายามสะกดจิตให้ตัวเองก้าวต่อไปให้ถึงปลายทาง ก่อนที่จะกลับไปใช้ชีวิตเรียบๆอย่างมีความสุขในเมืองหลวงที่แสนจะวุ่นวายของประเทศเล็กๆรูปขวานที่แสนจะอบอุ่นเสียที
** และตอนนี้ดิฉันกลับมาแล้วค่า** กลับมาชดใช้กรรมที่ได้ก่อไว้แต่ชาติปางใดหว่า T^T ทำงานที่เกลียด ที่ไมตรงกับไอ้ที่สู้อุตส่าไปเรียนๆมาเลย เอาเถอะนะ... เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างจะดีเอง :)
|
|
|
|
|
|
|
|