BlogGang.com : : สมาชิกหมายเลข 6180332 - 7 สิ่งน่าจับตา ยูโร 2020 หลังเลื่อนหนีโควิด-19 มาฟาดแข้งในปี 2021

7 สิ่งน่าจับตา ยูโร 2020 หลังเลื่อนหนีโควิด-19 มาฟาดแข้งในปี 2021

บอล ยูโร 2021 นับเป็น 1 ในรายการที่แฟนกีฬาทั้งโลกคอยติดตาม ข้างหลังถูกเลื่อนมาแข่งขันในปี 2021 จากพิษวัววิด-19 รวมทั้งนี่เป็น 7 สิ่งที่น่าจับตา

"เป๊ป" ตอบสั้นๆข้างหลังคว้าชัยชนะที่ 30 ในฐานะที่ปรึกษา ลั่นเหมาต่อ พรีเมียร์ลีก-ชปล.

1. เยอรมนี - ประเทศสเปน ลุ้นได้แชมป์สูงสุด ยุคที่ 4

อีกทั้ง 2 กลุ่มต่างก็เป็นมหาอำนาจที่แวดวงลูกหนังอีกทั้งในอดีตกาลรวมทั้งตอนนี้ ด้วยประสิทธิภาพของเพศผู้เล่น, แท็กติกของที่ปรึกษา รวมทั้งแบบอย่างและก็กรรมวิธีการเล่น ทำให้ยังได้โอกาสที่จะครอบครองความใหญ่โตเพิ่มอีกในศึกบอลชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรปทีนี้

เยอรมนี นับเป็นกลุ่มแรกที่ได้แชมป์รายการนี้ถึง 3 ยุคในปี 1972, 1980 และก็ 1996 ก่อนที่จะ ประเทศสเปน จะทาบรัศมีด้วยวิธีการทำได้ในปี 1964, 2008 รวมทั้ง 2012

2. ประเทศฝรั่งเศส ลุ้นย้อนกลับมาควบแชมป์ยูโร ต่อจากบอลโลก

ขุนศึก "ยี่ห้อไก่" เพิ่งจะคว้าชัยชนะโลกยุคที่ 2 ในศึกเวิลด์คัพ 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งในปัจจุบันนี้ผู้ร่วมทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ก็ยังมีดีพอที่จะสืบต่อการบรรลุเป้าหมายระดับเมเจอร์ในศึกยูโร 2020

ถ้าหากทำเป็นจริง "เลส์ เบลอส์" ก็จะย้อนกลับมาประวัติศาสตร์ที่พวกเขาเคยจารึกเอาไว้เมื่อปี 1998 ที่ได้แชมป์บอลโลกยุคแรกในบ้านตนเอง และก็ตามด้วยครอบครองอำนาจในแวดวงลูกหนังด้วยการกวาดแชมป์ยูโร 2000 ที่เนเธอร์แลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วมกับ เบลเยียม

3. แชมป์คนใหม่

ในบรรดา 24 กลุ่มที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบในที่สุดของศึกยูโร 2020 มีอยู่ 15 กลุ่มที่ยังไม่เคยได้แชมป์รายการนี้มาก่อน แม้กระนั้นหากมองตามเกณฑ์แล้วมีเพียงแค่ 4 กลุ่มที่มีส่วนประกอบดีเพียงพอจะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์คนใหม่

นอกจาก เบลเยียม ที่ยังมี เอดินแดน อาซาร์, โรเมลู ลูกาข้า, เควิน เดอ บรอยน์ เป็นตัวชูโรง กับ อังกฤษ ที่นำกองทัพโดย แฮร์รี เคน, ราฮีม สเตอร์ลิง, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แล้ว อีกครั้งมที่คนจำนวนไม่น้อยแอบเอาใจช่วยและก็มีตัวทีเด็ดที่จะพาทีมไปสู่ดวงดาวหมายถึงโครเอเชีย รองแชมป์บอลโลก 2018 ที่ยังมี ลูกา โมดริช เป็นศูนย์กลางของกลุ่ม

ส่วน ประเทศโปแลนด์ ที่นำกองทัพโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ผู้ครอบครองรางวัลนักฟุตบอลดีเลิศที่ปี 2020 ของสมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ ซึ่งปัดกวาดทุกแชมป์ในระดับสมาคมกับ บาเยิร์น ไม่วนิก ทั้งยังบุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพติดอยู่ล แล้วก็ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ก็คงจะมีคู่รักบอลส่งดวงใจช่วยทำให้ได้ยกถ้วยแชมป์กับกลุ่มชาติของตนเองบ้าง

4. แชมป์แรกในชีวิตของ แฮร์รี เคน

สืบไปจากหัวข้อที่แล้ว แม้ อังกฤษ ได้แชมป์ยูโร 2020 นอกเหนือจากที่จะเป็นแชมป์ทวีปยุคแรกของ "สิงโตขู่คำราม" แล้ว ยังบางทีอาจเป็นการปลดล็อกแชมป์รายการใหญ่คราวแรกในชีวิตของ แฮร์รี เคน ผู้สวมปลอกใส่แขนกัปตันกลุ่มทรีไลออนส์อีกด้วย (แม้มิได้แชมป์ระดับสมาพันธ์กับ สเปอร์ส ในช่วงฤดูกาลนี้ไปซะก่อน)

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา จอมบุกวัย 27 ปี ได้รับการยินยอมรับว่าเป็น 1 ในยอดดาวยิงระดับนานาชาติของปัจจุบัน แต่ว่ายังมีสถานะเป็น "ราชาไม่มีบัลลังก์" ที่รอคอยถ้วยแชมป์มาเติมเต็มในส่วนที่หาย ภายหลังจาก เคน เป็นไปได้เพียงแค่ "พระรอง" กับ "ไก่เดือยทองคำ" ในศึกลีกคัพ ฤดู 2014-2015 แล้วก็ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดู 2018-2019

5. โรนัลโด ลุ้นพังทลายสถิติทำประตูสูงสุดในระดับกลุ่มชาติ

"ซีอาร์เซเว่น" เหลืออีกเพียงแต่ 7 ลูกก็จะทาบสถิติทำแต้มในระดับกลุ่มชาติเยอะที่สุดของ อาลี ดาอี ตำนานศูนย์หน้ากลุ่มชาติประเทศอิหร่านที่เคยทำไว้ 109 ประตู แต่ว่ากว่าที่ศึกยูโร 2020 จะเปิดตัวในมิถานายนนี้ เขาบางทีอาจล่าตาข่ายเพิ่มให้กับ ประเทศโปรตุเกส จนถึงลดช่องว่างให้เหลือลดน้อยลงก็เป็นไปได้ ซึ่งก็ได้โอกาสที่สถิติของ ดาอี บางทีอาจถึงเวลาถูกทำลาย

อย่างไรก็แล้วแต่ ดาวซัลโวในศึกยูโรครั้งที่แล้วๆส่วนใหญ่จะยิงได้ไม่เกิน 5 ประตู มีเพียงแต่ 2 ครั้งเพียงแค่นั้นที่ทำเป็นมากยิ่งกว่าเป็นปี 1984 โดย มิเชล พลาติเตียนนี ที่กดไป 9 ประตู พา ประเทศฝรั่งเศส ครองแชมป์ แล้วก็ปัจจุบันในปี 2016 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เพิ่มจาก 16 กลุ่มเป็น 24 กลุ่ม โดย อองตวน กรีซมันน์ จัดไป 6 ลูก แม้กระนั้น "ยี่ห้อไก่" ได้เพียงแค่รองแชมป์ต่อจาก "ฝอยทองคำ" ของ โรนัลโด

6. การกลับมาของ สกอตแลนด์ รวมทั้งการเปิดตัวของ 2 กลุ่มสมาชิกใหม่

ยูโร 2020 ถือว่าเป็นการคัมแบ็กสู่ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ของ สกอตแลนด์ ในรอบ 23 ปี นับจากได้ไปฝ่าศึกบอลโลก ปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส ทั้งยังยังเป็นศึกชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรปครั้งที่ 3 ต่อจากปี 1992 และก็ 1996 อีกด้วย ก็เลยน่าดึงดูดว่า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กัปตันกลุ่ม พร้อมทั้ง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และก็ผองสหายจะไปได้ไกลกว่ารอบแบ่งกลุ่มไหมสำหรับการกลับมาคราวนี้

ระหว่างที่ ประเทศฟินแลนด์ และก็ มาสิโดเนียเหนือหมายถึง2 กลุ่มสมาชิกใหม่ที่ซื้อตั๋วมาฝ่าศึกยูโรรอบในที่สุดได้เป็นครั้งแรก แล้วก็ยังเป็นการร่วมรายการใหญ่หนแรกของพวกเขาด้วย ซึ่งก็ยังไม่เคยผ่านเวทีบอลโลกมาก่อน แม้กระนั้นทั้งสองจะเป็นเพียงแค่ "ไม้ประดับ" หรือ "ไม้เบื่อไม้เมา" ของกลุ่มร่วมสาย จำต้องติดตามตอนหน้า

7. แฟนบอลกลับเข้ามาเชียร์ในสนามได้อีกที

นี่เป็นสิ่งท้ายที่สุดที่จำต้องจับตา ภายหลังจาก สมาพันธ์บอลยุโรป (ยูฟ่า) ตกลงใจเลื่อนทัวร์นาเมนต์จากปี 2020 ผ่านมาเตะในปี 2021 เพื่อเลี่ยงการระบาดของโรควัววิด-19 แต่ว่าในช่วงนี้เหตุการณ์ก็ยังคงไว้ใจมิได้ เนื่องจากยังไม่มีแนวทางที่จะต่อกรเชื้อไวรัสคนร้ายได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์

เพราะฉะนั้น ข้อความสำคัญที่ว่าตอนนั้นจะสามารถเปิดให้แฟนบอลกลับมาเชียร์ในสนามได้เต็มแบบอีกรอบไหม หรือยังจำต้องฟาดลำแข้งแบบปิดถัดไป ก็เลยเป็นปริศนาที่ยังรอคอยคำตอบอยู่กระทั่งใกล้จะถึงวันแข่งจริง

24 กลุ่มในศึก ยูโร 2020 รอบท้ายที่สุด
กรุ๊ป เอ - ประเทศตุรกี, อิตาลี (เจ้าของงานร่วม), เวลส์, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

กรุ๊ป บี - เดนมาร์ก (ผู้จัดงานร่วม), ประเทศฟินแลนด์, เบลเยียม, รัสเซีย (เจ้าของงานร่วม)

กรุ๊ป ซี - เนเธอร์แลนด์ (เจ้าของงานร่วม), ยูเครน, ออสเตรีย, มาสิโดเนียเหนือ

กรุ๊ป ดี - อังกฤษ (เจ้าของงานร่วม), โครเอเชีย, สกอตแลนด์ (ผู้จัดงานร่วม), เช็ก

กรุ๊ป อี - ประเทศสเปน (ผู้จัดงานร่วม), ประเทศสวีเดน, ประเทศโปแลนด์, สโลวาเกีย

กรุ๊ป เอฟ - ฮังการี (เจ้าของงานร่วม), ประเทศโปรตุเกส, ประเทศฝรั่งเศส, เยอรมนี (ผู้จัดงานร่วม)

ชาติเจ้าของงานร่วมที่ไม่ผ่านเข้ารอบในที่สุด - อาเซอร์ไบจาน, ไอร์แลนด์, โรมาเนีย

วันแข่ง - 11 เดือนมิถุนายน - 11 ก.ค. ปี 2021