• HOME
• 日语语法新思维
• AROUND BEIJING 2009
• SWEET HARBIN 2011
• ไดอารี่
• 日本出張
• MATERNITY BLOG
• พัฒนาการ ด.ช.จี้หมิง
• รีวิวของเล่นเด็ก
• เรียนภาษาเกาหลี
• เรียนภาษาจีน
• เรียนภาษาญี่ปุ่น
• เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองก็เก่งได้
• ชีวิตการงาน
• ตกแต่งบ้าน
• BEAUTY
• ท่องเที่ยวไทย
• Shopping Bag
• เพี้ยนเป็นเพลง
• FASHION
• Diet Diary
• Bitch please I'm model
• เก่งสนทนาภาษาญี่ปุ่น

อาการหลังใส่ตัวอ่อนวันที่ 2 (ลูกบลาสโตซิสกำลังไปเกาะผนังมดลูก) (ใส่ตัวอ่อนวันที่ 19 มิถุนายน 2561) (D5 เกรด B 1ตัว) 21 มิถุนายน (2dp5dt) อาการวันที่ 2 หลังใส่ตัวอ่อน ไม่มีผิดปกติค่ะ ความรู้สึกเหมือนคนธรรมดาๆ ไม่ปวดหน่วง ไม่ปวดจี๊ด ไม่มีเลือด แต่ก็ยังคงนอนติดเตียงทั้งวันค่ะ เพราะส่วนตัวเข้าใจว่า วันที่2หลังจากการใส่ตัวอ่อน ระยะบลาสโตซิส เป็นช่วงที่ตัวอ่อนฟักออกจากเปลือก และกำลังไปเกาะที่ผนังโพรงมดลูก แม้จะยังไม่มีอาการใดๆ แต่คิดว่าการได้นอนหลับสนิทเยอะๆ น่าจะช่วยให้ฮอร์โมนทำงานได้ดี และตัวอ่อนเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ ตื่น 8 โมง มื้อเช้าทานข้าว ปลาทู ชะอมชุบไข่ทอด ไม่มีน้ำพริกนะคะ เสร็จแล้วตามด้วยยาทานยาสอด แล้วนอนกลิ้งเล่นโทรศัพท์จนถึงเที่ยงเลย ตอนเที่ยงทานข้าวผัดวุ้นเส้น แล้วทานยา หลับกลางวันประมาณ 3 ชั่วโมง วันนี้ก็ยังไม่ได้อาบน้ำ แต่เช็ดตัวแทนค่ะ มื้อเย็น ข้าว กับผัดฟักทองไข่ ผัดพริกหยวก น้ำเต้าหู้ ยาทานยาสอด อัพบลอก โพสต์ในเพจ 4 ทุ่มกว่าๆก็หลับค่ะ ------------------------------ #2วันหลังใส่ตัวอ่อน ลูกบลาสโตซิสฟักออกจากเปลือก และกำลังไปเกาะผนังมดลูกแล้วค่ะ ส่วนตัวคิดว่าช่วงนี้สำคัญที่สุด ถ้าได้นอนพักนิ่งๆ และหลับสนิท ไม่เครียด ทานยาให้ครบตรงเวลา ก็จะช่วยให้ฮอร์โมนทำงานได้ดี การเจริญเติบโตของตัวอ่อนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเกิดการฝังตัวของตัวอ่อนแล้วค่ะ   Create Date : 22 มิถุนายน 2561     Last Update : 26 มิถุนายน 2561 10:22:05 น. Counter : 2379 Pageviews.   0 comment Share Tweet

อาการหลังใส่ตัวอ่อนวันที่ 1 (ลูกบลาสโตซิส ฟักออกจาเปลือกหุ้ม) (ใส่ตัวอ่อนวันที่ 19 มิถุนายน 2561) (D5 เกรด B 1ตัว) 20 มิถุนายน (1dp5dt) ปกติสามีจะตื่นก่อน เพื่อไปทำงานประมาณ 6 โมงทุกวัน  ส่วนออยกับจี้หมิง จะตื่นกันประมาณ 8 โมง แต่วันนี้สามีอุ้มลูกไปไว้ที่ห้องคุณปู่คุณย่าตั้งแต่ 6 โมงค่ะ ดีใจที่ได้ตื่นสายโดยที่ไม่มีจี้หมิงมาปลุก  คุณปู่คุณย่าก็เอาลูกไปเลี้ยงให้ทั้งวัน  ก็เลยได้นอนยาวเลย  คนใส่ตัวอ่อนมันสบายแบบนี้นี่เอง55 มื้อเช้าคุณย่าอุ่นสปาเกตตี้ซีพี  ขึ้นมาเสิร์ฟให้ที่เตียง ทานยาสอดยา  นอนเล่นโทรศัพท์สักพักแล้วหลับต่อ ตื่นอีกทีก็เที่ยงกว่าตอนคุณย่าขึ้นมาเสิร์ฟเกี๊ยวต้ม  เสร็จทานยา เอนหลังดูซีรี่ย์  แล้วนอนกลิ้งเล่นโทรศัพท์ดูยูทูปเรื่อยๆ มื้อเย็นคุณสามีแวะซื้อก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่น้ำใส  หน้าปากซอยเข้ามาให้  พยายามไม่ปรุงเค็ม ไม่เติมพริก  ตามด้วย น้ำมะเขือเทศดอยคำหนึ่งกล่อง  แล้วทานยาค่ะ บอกให้สามีเอาลูกมาหาหน่อย คิดถึงลูก  สามีก็เอาลูกมาอาบน้ำ  แล้วเล่นกันได้แป๊บเดียวเอง  เค้าระวังไม่อยากให้ลูกกระโดดทับท้อง  ยังกอดไม่หายคิดถึงก็เอาลูกไปไว้ห้องคุณย่า  กลับเข้ามาอีกทีก็หลับซะและ ก่อนนอนสอดยา วันนี้ก็ยังไม่ได้อาบน้ำ  ยังไม่ถ่าย  ไม่ได้ขึ้นลงบันได  เดินแค่ไปเข้าห้องน้ำใกล้ๆ 5-6รอบ  มีปวดหน่วงหน่วง ช่วงเช้านิดหน่อย แต่พอนอนหลับก็หายไป  จามไปสี่ห้าครั้ง พยายามจามเบาๆ แต่มันก็เบาไม่ได้... ------------------ #1วันหลังใส่ตัวอ่อน ภายในโพรงมดลูกอุ่นนุ่มของแม่ ลูกบลาสโตซิสน้อยยังเดินเล่นสำรวจ และกำลังฟักออกจากเปลือกหุ้ม   ถ้าวันนี้ได้นอนนิ่งๆ คิดว่าก็จะช่วยให้ตัวอ่อนหาที่เหมาะๆ สำหรับการฝังตัวได้ดีขึ้นค่ะ     Create Date : 21 มิถุนายน 2561     Last Update : 26 มิถุนายน 2561 10:21:29 น. Counter : 3193 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ประสบการณ์ใส่ตัวอ่อนครั้งที่สอง หน่วยผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลศิริราช จริงๆรอบนี้ไม่คิดว่าผนังจะผ่านค่ะ  เพราะไม่ได้ทานบำรุงอะไรเลย  พักผ่อนก็น้อยทานแต่ของไม่มีประโยชน์   5 มิถุนา (D1)ประจำเดือนมาวันแรก  ก็คุยกับคุณสามีอีกครั้งค่ะ  ว่าพร้อมจะไปรับลูกคนที่สองแล้วใช่ไหม   แต่ฉันว่าร่างกายฉันยังไม่พร้อมเลยนะ— ก็ลองไปตรวจดูก่อนไม่เสียหาย—   7 มิถุนา (D3)ไปตรวจอัลตร้าซาวด์ คุณหมอบอกว่า ตัวอ่อนเหลือ 23 ตัว  เยื่อบุผนังมดลูกหนา 8มิล  ทานยาสร้างผนังให้หนาอีกหน่อย  แล้วใส่ตัวอ่อนในรอบนี้ได้เลย   รับยามาแบบงงๆ  กลับบ้านพยาม งดของหวานกาแฟ  นอนหลับพักผ่อนให้มากๆ  ลึกๆก็รู้ว่ามันไม่ทันแล้ว  แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย   14 มิถุนา (D10) อัลตราซาวด์ผนัง  หลังจากทานEstrofem  เช้า1เม็ดเย็น1เม็ดมา7วัน  ผนังหนาขึ้นเป็น 14 มิล   ออกมาคุยกับพี่ๆหน้าห้องตรวจ  ก็กังวลอยู่ว่า ผนังของแล้วหนาไปหรือเปล่านะ  จะใส่ตัวอ่อนได้หรือเปล่านะ  เตรียมใจอกหักเอาไว้ก่อนเลยค่ะ   แต่พอคุณหมอเรียก เข้าห้องยังไม่ทันได้นั่ง  คุณหมอก็บอก นัดใส่ตัวอ่อนอังคารหน้า  หมอเพิ่มยาCyclogest สอดเช้าเย็นต่ออีก6วัน นะคะ—  งงมากๆ พูดอะไรไม่ถูก ตอบกลับได้แค่เพียง อ๋อค่ะ—   กลับบ้านมารอใส่ตัวอ่อน ไม่ตื่นเต้นเหมือนครั้งแรก  กังวลว่าถ้าเราใส่ตัวอ่อน กลับมาแล้วนอนติดเตียง 3 วัน  แบบครั้งที่แล้ว แล้วใครจะเลี้ยงจี้หมิง   ปู่ย่าที่ช่วยเลี้ยงอยู่  ก็แค่ช่วยดูให้ประเดี๋ยวประด๋าว  ไม่เคยป้อนข้าว อาบน้ำ ล้างก้น เล่นด้วยทั้งวัน  เขาก็แก่มากต้องการเวลาพักผ่อน  เราจะทิ้งลูกไว้ทั้งวัน  แล้วเรามานอนเฉยๆ  เขาจะเข้าใจเราหรอ...   รอบนี้เราคงนอนนิ่งๆยาวๆ แบบรอบที่แล้วไม่ได้อีก  กลัวว่ารอบนี้จะไม่สำเร็จค่ะ แต่เราก็เคยพูดไว้เองไม่ใช่หรอ  บางคนนอนเป็นอาทิตย์ไม่ติดก็มี  บางคนทำงานหนักเดินทางไกลยังติดก็มี   ยังไงก็จะเดินหน้าต่อไปค่ะ 19 มิถุนา นัดใส่ตัวอ่อน  ออกจากบ้านพร้อมคุณสามี  ไม่ค่อยตื่นเต้นดีใจเท่าไหร่  แต่ก็หายเครียดลงไปบ้างแล้ว   ถึงโรงพยาบาลศิริราช 6 โมง จอดรถในวัดอรุณอมรินทร์  แวะทานข้าวเช้าที่โรงอาหาร  ขึ้นไปหน่วยผู้มีบุตรยาก 7 โมง  นั่งรอสักพักพี่พยาบาลก็เรียกชื่อค่ะ   เซ็นชื่อทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย  อั้นฉี่แล้วรอคุณหมอเรียกเข้าห้อง ใส่ตัวอ่อนตอน 8 โมงครึ่ง  ช่วงนี้เหมือนโรงพยาบาลจำกัดจำนวนคนไข้  ก็เลยดูคนน้อยๆเหงาๆ  บรรยากาศไม่ครึกครื้นเหมือนเมื่อสองปีที่แล้ว   ถึงเวลาเราก็เปลี่ยนเสื้อผ้าขึ้นเตียงค่ะ แป๊บนึงคุณหมอก็ไปละลายตัวอ่อนมา  บอกก่อนใส่ว่า คุณมีตัวอ่อนสวยมากหนึ่งตัว  งั้นวันนี้หมอใส่ตัวที่สวยที่สุดนะคะ  เป็นบาสโตซิส เกรดบี หนึ่งตัว  ถ้าไม่ติดครั้งหน้าใส่ให้2ตัวค่ะ—   ระหว่างใส่ก็จะมีคุณหมอผู้ช่วย มาซาวด์หน้าท้องดูตำแหน่งในการวางตัวอ่อน  ทำไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จ ไม่เจ็บ จิ๊ดๆข้างในนิดเดียว  จากนั้นคุณหมอก็ให้นอนนิ่งนิ่งบนเตียงประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ   ก่อนกลับคุณหมอสั่งยา duphaston ทานเพิ่ม  เช้ากลางวันเย็นครั้งละหนึ่งเม็ด  รอบนี้ไม่มียาฉีดกันแท้งเหมือนรอบที่แล้ว  และทาน estrofem สอด cyclogest ต่อเนื่องค่ะ ยาที่ใช้หลังใส่ตัวอ่อน   ค่าใส่ตัวอ่อนและค่ายา รวม 18,636 บาท ค่ะ กลับมาบ้านสามีก็ขึ้นมาส่งเราที่เตียง  จัดที่ให้นอนนิ่งๆ  เอาจี้หมิงไปช่วยเลี้ยง ชงนม อาบน้ำให้ลูก  เสริฟอาหารให้ เตรียมของใช้มาให้  เห็นเค้าเหนื่อยแทนเราได้ กำลังใจก็มาค่ะ   แม้อารมณ์ความรู้สึกตอนใส่ตัวอ่อนครั้งที่ 2  จะไม่ตื่นเต้นเท่าครั้งแรก  แต่ก่อนนอนก็ยังมาเปิดคลิปยูทูป ดูการแตกตัวของตัวอ่อนซ้ำๆ  ดูการฝังตัววนไปด้วยกันเหมือนเดิมค่ะ  เอ๊ะ...ไม่เหมือนเดิมซิ  มีตัวอ่อนที่ออกมาดุ๊กดิ๊กอยู่ข้างๆ เพิ่มมาแล้ว1ตัวค่ะ ------------------- รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการใส่ตัวอ่อนรอบ 2 7 มิถุนา  ซาวด์ครั้งที่1 1,510 บาท (740/580/190) 14 มิถุนา ซาวด์ครั้งที่2 2,190 บาท (740/1,450) 19 มิถุนา  ใส่ตัวอ่อน 18,636 บาท รวม  22,336 บาท     Create Date : 20 มิถุนายน 2561     Last Update : 27 มิถุนายน 2561 17:21:30 น. Counter : 6611 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ทำเด็กหลอดแก้ว(IVF) ร.พ.ศิริราช นัดใส่ตัวอ่อนครั้งที่ 2 หลังจากคลอดมา 1 ปี สวัสดีชาวบลอกค่ะ หายจากการเขียนบลอกอัพเดทนานเลย ส่วนใหญ่จะไปบ่นในไลฟ์เฟสบุ๊ค ทำคลิปเก็บในยูทูปค่ะ วีดีโอพูดง่ายเร็วกว่ามานั่งพิมพ์ก็จริง แต่เวลากลับมาหาข้อมูลเก่าๆยากค่ะ ตอนนี้กำลังเตรียมตัวท้องคนที่ 2 ก็เลยอยากเขียนเก็บไว้ จะได้กลับมาอ่านเอง หรือเผื่อมีใครผ่านมาอ่านก็จะได้ช่วยเป็นข้อมูลได้บ้างค่ะ ใครที่ชอบวีดีโอ ติดตามที่ช่องยูทูปของออยนะคะ You tube : Be a Super Mom หรือติดตามเพจก็ได้ค่ะ https://www.facebook.com/azbeingmom ออยเอาไว้โพสต์รูป โพสต์กิจกรรมต่างๆ และไว้พูดคุยกับเพื่อนๆแม่ๆค่ะ ㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥ ก่อนอื่นขอสรุปประวัติการรักษามีบุตรยากของออย ก่อนนะคะ 2007 (19ปี) แต่งงาน (คุมกำเนิดธรรมชาติ ไม่เคยกิน/ฉีดยาคุม) 2013 (25ปี) ปล่อยธรรมชาติ3ปี (นับวันไข่ตก,ตรวจวันไข่ตก, วัดอุณหภูมิ,ยาจีน ไม่สำเร็จ) 2016/1(27ปี) เริ่มรักษาที่หน่วยผู้มีบุตรยาก ร.พ. ศิริราช หญิงพบPCOS ชายเชื้อปกติ 2016/2 ฉีดเชื้อ (IUI) ครั้งที่ 1 (ไม่สำเร็จ) รวมค่าใช้จ่าย ประมาณ 4,000 บาท 2016/3 ฉีดเชื้อ (IUI) ครั้งที่ 2 (ไม่สำเร็จ) รวมค่าใช้จ่าย ประมาณ 7,000 บาท 2016/4 ฉีดเชื้อ (IUI) ครั้งที่ 3 (ไม่สำเร็จ) รวมค่าใช้จ่าย ประมาณ 4,500 บาท 2016/5 (28ปี) ฉีดเชื้อ (IUI) ครั้งที่ 4 กระตุ้นไข่ไม่โต ยกเลิกการฉีดเชื้อ) ประมาณ 1,900 บาท 2016/6  พัก  2016/7  พัก 2016/8 เริ่มกระบวนการIVF (กระตุ้นไข่ และเก็บไข่ได้ 39 ใบ ผสมเป็นตัวอ่อนได้ 27 ตัว) 2016/9 รอใส่ตัวอ่อนในรอบเดือนถัดไป เนื่องจากยังมีไข่ค้าง 2016/10 ใส่ตัวอ่อน แช่แข็ง D5 เกรดบี 1ตัว (ละลาย 5 เหลือฝาก 22 ตัว) ค่าใช้จ่าย(IVF)รวม ประมาณ 85,000 บาท 2017/6 (29ปี) คลอดลูกชาย 3,350g. ---------------------------------------- 2018/6 (30ปี) เริ่มเตรียมผนังมดลูก เพื่อใส่ตัวอ่อนครั้งที่ 2 ㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥ เริ่มเตรียมผนังมดลูก เพื่อใส่ตัวอ่อนครั้งที่ 2 ออยวางแผนมีลูกคนที่ 2 ห่างจากคนแรกประมาณ 1-2 ปีค่ะ คนแรกอย่านมแม่ตอนอายุ 6 เดือน หลังจากนั้น 1 เดือน ประจำเดือนก็มาเลย แต่ก็คิดว่า รอประจำเดือนมาอีกซัก 2-3 เดือน ประมาณซัก พฤษภา18 ค่อยนัดใส่ตัวอ่อน แต่เนื่องจากประจำเดือนออย ขาดบ่อยมาตั้งแต่ก่อนท้องอยู่แล้ว พอคลอดแล้ว หย่านมแล้ว ก็ยังขาดอยู่ พฤษภาเมนไม่มา มาอีกทีก็เดือนนี้ (มิถุนา) ก็เลยตัดสินใจ โทรหาหมอเข้าไปตรวจ เพื่อใส่ตัวอ่อนค่ะ ㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥ 2018/6/5 (D1) ประจำเดือนมาวันแรก โทรนัดคุณหมอ (เนื่องจากตอนกระตุ้นไข่ครั้งที่แล้ว ยังมีตัวอ่อนเหลือ จึงไม่ต้องรอคิว นัดใส่ได้เลย)  2018/6/7 (D3) ตรวจอัลตร้าซาวด์ดูผนังมดลูก และรังไข่ (ผนัง 8mm ยังพบPCOทั้งซ้ายและขวา) 740 บาท ตรวจเลือด (HIV, HBV, ซิฟิลิส) 580 บาท ยา สร้างผนัง 190 บาท Estrofem (ทาน เช้า 1 เม็ด เย็น 1 เม็ด 7 วัน) ㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥㊥ ช่วง 2-3 เดือน ก่อนเตรียมผนังรอบนี้ ออยไม่ได้บำรุงอะไรเพิ่มเลยค่ะ ทำงานยุ่ง นอนก็น้อย ดื่มกาแฟทุกวัน เบียร์อาทิตย์ประมาณ 2-3 วัน กลัวผนังไม่ผ่าน กลัวอดใส่ตัวอ่อนในรอบนี้ แต่พอตรวจคุณหมอให้ เริ่มยาเตรียมผนังได้ ก็ดีใจค่ะ คิดว่า จะงดเบียร์ ลดกาแฟ ลดงาน นอนมากๆขึ้น และทานยาให้ครบ ตามเวลา ♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥ วันที่ 14 นัดซาวด์ดูผนังอีกรอบ แล้วจะมาอัพเดทต่อนะคะ กดติดตาม Be a Super Mom ใน Youtube ที่นี่ค่ะ บลอกอื่นๆ เส้นทางการเข้าสู่หน่วยผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลศิริราช เล่าประสบการณ์ วันฉีดเชื้อ (IUI) ที่หน่วยผู้มีบุตรยาก ร.พ.ศิริราช บันทึกอัพเดทอาการ และสรุปผลการฉีดเชื้อ iui ครั้ง สรุปผล ฉีดเชื้อ iui รอบ2 ไข่โตช้า เชื้อก็น้อย ไม่มีอาการคนท้อง ความหวังเลือนลาง สรุปผล ฉีดเชื้อ iui รอบ3 ไข่เล็กขนาดนี้ ผนังก็บาง หมอยังให้ฉีด เพลียจะหวัง คุณหมอให้ฉีดเชื้อ (IUI) รอบ4 ถ้าไม่ติดจะทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ให้ต่อเลย iui รอบ 4 ต้องยกเลิก เพราะไข่หาย!!! ไข่ไม่โต!!! ประสบการณ์เก็บไข่ ทำเด็กหลอดแก้ว(IVF) ที่หน่วยผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลศิริราช เล่าประสบการณ์ ใส่ตัวอ่อน สรุป อัพเดทอาการ และค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF โรงพยาบาลศิราราช สรุป อัพเดทอาการ และค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF โรงพยาบาลศิราราช ผลตรวจเลือด 15วัน หลังใส่ตัวอ่อน ระยะบาสโตซิส 1 ตัว เกรด B ทำเด็กหลอดแก่ว (IVF) : เตรียมตัว กระตุ้นไข่อย่างไร ให้ได้ไข่เยอะ ดี มีคุณภาพ 11 วิธีปฏิบัติตัวหลังใส่ตัวอ่อน ให้ติด IVF เด็กหลอดแก้ว ร.พ.ศิริราช   Create Date : 08 มิถุนายน 2561     Last Update : 19 กรกฎาคม 2561 19:36:30 น. Counter : 10692 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ประสบการณ์ พาเด็กเล็กไปทำพาสปอร์ต และวีซ่าจีน พาเด็กเล็กไปทำพาสปอร์ต พ่อแม่เด็กต้องไปด้วยนะคะ ออยพาจี้หมิงไปทำเดือนมกรา ปี 2561 (อายุ 7 เดือน) เลือกไปที่กงสุลเลยเพราะว่า จะได้เอาทะเบียนสมรส และไปเกิด ไปแปลด้วยเลยทีเดียว (เตรียมทำวีซ่าไปจีนในเดือนมีนาค่ะ) ออยไม่ได้จองคิวออนไลน์ค่ะ ปกติไปทำธุระอะไรชอบไปเช้าๆอยู่แล้ว จะได้มีที่จอดรถและคิวยังไม่เยอะค่ะ ไปถึงเราก็ขึ้นไปชึ้นสอง ตรวจเอกสาร ออยใช้ 1 ใบเกิดน้องตัวจริง 2 บัตรประชาชนพ่อและแม่ตัวจริง (สามีต่างชาติใช้พาสปอร์ตค่ะ) ตอนยื่นตรวจเอกสารไปพร้อมกันพ่อแม่ลูกเลยค่ะ เจ้าหน้าที่เห็นว่าพ่อแม่มาลงนามครบ ก็จะให้แบบฟอร์มไปกรอก แล้วกดบัตรคิวให้ ตอนนั้น 8 โมงเวลาเปิดพอดี คนยังไม่เยอะ ได้เข้าไปทำเลยไม่ต้องรอค่ะ เข้าไปก็ถ่ายรูปน้อง ปั๊มลายนิ้วมือ พ่อแม่ เซ็นเอกสาร ชำระเงิน 1,000 บาท ค่าส่ง EMS 60 บาท เสร็จเรียบร้อยไม่ถึง 10 นาที รอที่บ้าน 4-5 วัน ไปรษณีย์ ก็มาส่งถึงบ้านค่ะ แต่ออยต้องแปลเอกสารเพิ่ม เพราะจะใช้ขอวีซ่าไปจีน ออยไปแปลตรงร้านสวัสดิการกงสุล เป็นช่องเล็กๆอยู่ตรงหน้าบันไดเลื่อนเลย จะมีคนข้างนอกมาชวนให้เราแปลด่วนกับเค้า แต่ออยไปยื่นเองที่ช่องนะคะ แปลใบเกิด ,ใบสำคัญสมรส ,ทะเบียนสมรส ฉบับละประมาณ 300 บาท รอประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ออยก็ไปทานข้าว นั่งรอที่โรงอาหารชั้น 1 ค่ะ 11 โมง ขึ้นไปรับ แล้วนำใบแปล พร้อมต้นฉบับ ไปขอตราประทับ ชั้น 3 กรอกแบบฟอร์ม ตรวจเอกสาร รับบัตรคิว แล้วรออีก ประมาณ 15 นาที ก็ชำระเงิน ประมาณ 600 บาท EMS ค่ะ แล้วก็รอ ไปรษณีย์ ก็มาส่งถึงบ้านเหมือนกัน6-7 วันก็ได้รับค่ะ ขั้นตอน ทำพาสปอร์ต และแปลเอกสารเรียบร้อย ต่อไปก็เป็นขั้นตอนยื่นวีซ่าค่ะ สามีออยเป็นคนจีน ต้องไปทำ re entry visa อันนั้นปล่อยให้เค้าจัดการเอง ของออย ก็ขอเป็นวีซ่าคนไทยไปจีนทั่วไป ที่ชั้น 5 ตึกธนภูมิ ถ.เพชรบุรี แต่ของจี้หมิงต้องทำ travel document (旅行证) ที่ตึก AA รัชดา ซ.3 ค่ะ ออยแยกทำคนละวัน จะได้ไม่ต้องหอบลูกไปรอคิวด้วยค่ะ ออยเลือกจัดการเอง ไม่ใช้บริการเอเจน เพราะมีเวลาว่าง อยากไปเปิดหูเปิดตา  ดูการทำงาน ดูคนที่กำลังจะไปจีน 555 เล่าของจี้หมิงก่อนนะคะ พอได้พาสปอร์ต แล้วก็เตรียมเอกสารที่แปล และไปถ่ายรูปทำวีซ่าค่ะ ออยถ่ายที่ร้านในตลาดใกล้บ้าน ถ่ายจี้หมิงด้วย ออยด้วย บอกเค้าว่าทำวีซ่าจีน ถึงเวลาจริงๆ รูปก็ผ่านไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ ของจี้งหมิงต้องกรอกเอกสารในเว็บแล้วนัดวันไปทำ พอถึงวันนัด เราก็เตรียมรูป เตรียมเอกสาร และปริ๊นแบบฟอร์ม ไปยื่นที่ ชั้น 2 ตึก AA รัชดา ซ.3 ต้องไปทั้งพ่อแม่อีกเช่นกันค่ะ เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารเสร็จ ก็ได้บัตรคิว ออยไปเวลาเปิด 9 โมงเช้าคนยังไม่เยอะค่ะ ได้คิวที่ 4 เจ้าหน้าที่ เรียกดูหน้าน้อง หน้าพ่อแม่ แล้วให้นั่งรอ อีกแปบ รอหัวหน้า เรียกดูหน้าอีกที คุยอะไรกับสามีนิดหน่อย แล้วได้ใบสีชมพู อีก 5 วันมารับ (จ่ายเงินวันมารับ 800 บาท) ง่ายและเร็ว ไม่ถึง 20 นาทีค่ะ ส่วนของออย เจอปัญหานิดหน่อยค่ะ ออยต้องไปทำที่ ชั้น 5 ตึกธนภูมิ ถ.เพชรบุรี ไปก่อนเวลาเปิด เหมือนเช่นเคย รอตรวจเอกสารนานเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะมีคนอื่นไปก่อนเราหลายคิวเลย ปัญหาคือออยเตรียมเอกสารไปไม่ครบ ขาดหนังสือเชิญ และบัตรประชาชนคนจีนผู้เชิญ ของออย ไปพักบ้านญาติสามี ก็เลยไม่มีใบจองโรงแรมค่ะ เตรียมเอกสารไปแค่ 1 พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนา 2 แบบฟอร์ม (โหลดในเว็บแล้วกรอกไปเรียบร้อย) 3 ใบจองตัวเครื่องบิน 4 สำเนาพาสปอร์ตสามี 5 สำเนาทะเบียนสมรส พร้อมฉบับแปล เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องมีสือเชิญ และบัตรประชาชนคนจีนผู้เชิญ เค้าก็บอกว่า ให้ไปพิมพ์ แล้วปริ๊นมา ชั้น 2 มีร้านรับปริ๊นเอกสาร โชคดีที่ญาติสามีทำให้เลย ไม่ต้องกลับบ้านแล้วมาใหม่ พิมส์ส่งมาให้ใน Line แล้วเอาไปปริ๊นที่ร้าน สะดวกดี แค่ต้องเสียเวลามาต่อคิวใหม่ คนเยอะกว่าเดิมอีก ได้คิวแล้วก็ต้องรอเรียกอีก แต่พอเรียกก็ทำไม่นานค่ะ ออยขอเป็น 60 วัน แต่เจ้าหน้าที่ ให้ 50 วัน จริงๆอยู่ประมาณ 46-47 วัน ก็ไม่เป็นไรค่ะ 50 ก็ 50 แบบธรรมดา ทำวันจันทร์นัดรับวันศุกร์ จ่ายวันมารับ 1,500 บาทค่ะ   Create Date : 06 มีนาคม 2561     Last Update : 6 มีนาคม 2561 20:26:25 น. Counter : 3076 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• The_Mercenaries
• Webmaster - BlogGang

• หลายภาษา=หลายใจ~ o_O???
• BlogGang.com