• HOME
• 日语语法新思维
• AROUND BEIJING 2009
• SWEET HARBIN 2011
• ไดอารี่
• 日本出張
• MATERNITY BLOG
• พัฒนาการ ด.ช.จี้หมิง
• รีวิวของเล่นเด็ก
• เรียนภาษาเกาหลี
• เรียนภาษาจีน
• เรียนภาษาญี่ปุ่น
• เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองก็เก่งได้
• ชีวิตการงาน
• ตกแต่งบ้าน
• BEAUTY
• ท่องเที่ยวไทย
• Shopping Bag
• เพี้ยนเป็นเพลง
• FASHION
• Diet Diary
• Bitch please I'm model
• เก่งสนทนาภาษาญี่ปุ่น

โรแมนติกปลายหนาวที่ฮาร์บิน >>> อวดรูปเน้นๆ โรแมนติกปลายหนาวที่ฮาร์บิน  ของดบรรยายพาทัวร์ซักทริปค่ะ เพราะ หนึ่งโน๊ตบุ๊คของคุณแฟนที่เอามา แป้นคีย์บอร์ดไม่มีภาษาไทย (จะติดสติกเกอร์ก็ไม่ยอม แกกลัวคอมไม่ขลัง) สองพิมสัมผัสไม่เป็น กว่าจะออกมาเป็นลายลักษ์แบบนี้ได้ก็อาศัยจิ้มมั่วเอาค่ะ ｡◕‿◕｡ อีกเรื่องคือตั้งชื่อบลอกไว้อย่างหวานแว๋ว แต่กลับมีแต่รูปตัวเองมาอวด หุหุ ก็ไปกันแค่สองคนนี่หน่า ปล่อยตากล้องเค้าลั่นชัตเตอร์ตามอารมติสไป ส่วนเราก็ทำหน้าที่นางแบบ(หน้าบานๆ) ตามระเบียบ อย่าเพิ่งเอียนนะคะ     Create Date : 13 พฤษภาคม 2554     Last Update : 11 ธันวาคม 2554 22:27:16 น. Counter : 2018 Pageviews.   7 comment Share Tweet

ฮาร์บินไฮโซและน่าอยู่กว่าปักกิ่ง มวาก !! มัวแต่โยเยกันที่ปักกิ่งนานนับเดือน ก็เลยพลาดงานปิงเติงที่ฮาร์บินอย่างแรง พลาดสัมผัสน้องหิโม๊ะ แต่เอาก็เอา แค่ไปให้ถึงฮาร์บินคงกลับไทยได้โดยไม่ระคายเคืองจิตใจ อย่างน้อยก็ได้มา ทริปนี้ตามคอนเซ็ป ลุยเองไม่ง้อทัวร์อีกตามเคย โชคดีที่มีเกาสู้ตี้เที่ย ทำให้การนั่งรถไฟไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด เงียบ นิ่ม สบาย วิ่งได้เร็วสุด 250 กว่ากม./ชม. ไปกันเองกับคุณแฟนเหมือนจะโรแมนติกก็ไม่ใช่ ออกแนวโหดมันฮามากกว่า ไม่รู้ว่ามาเที่ยวพักผ่อนสวีทกัน หรือมาเข้าค่ายลูกเสือเดินทางไกลกันแน่ เดินกันมรทอนเช้าถึงค่ำ ดูบ้านเมือง ดูผู้คน พร้อมกับเปิดอภิปรายกับคุณแฟนที่ข้างทาง ในหัวข้อ "ฮาร์บินไฮโซและน่าอยู่กว่าปักกิ่ง มวาก !!" ตึกรามตามถนนสำคัญๆในเมืองฮาร์บิน สร้างแบบตะวันตก มีโบสหลายแห่งตามอิทธิพลของรัสเซีย มองแล้วคนละอารมณ์กับปักกิ่ง ฮาร์บินสะอาด ดูดี ไฮโซ โรแมนติกกว่า ชอบๆ พูดถึงบ้าน&ร้านอาหารในปักกิ่ง ที่สร้างแบบจีนโบราณก็ติสส์อยู่ แต่บางที่มันเก่ารกร้าง พอมาเห็นฮาร์บิน ไม่ตงไม่ติสส์อะไรกับปักกิ่งแล้ว ดูงั้นแล้วมันหดหู่ๆ ก็จริงอยู่ที่ตึกโมเดิ้นๆเริ่มผุดขึ้นมา แต่เดิ้นไปก็เท่านั้น เดิ้นเป็นหย่อมๆ มองดูผู้คนก็คนละอารมณ์กับปักกิ่งเหมือนกัน ปักกิ่งคนเยอะ ไปไหนมาไหนคนแน่นมาก คนแก่+ขอทาน+บ้านนอกเยอะ ไม่รู้จะอพยบเข้าไปกันทำไม ปักกิ่งไม่เห็นน่าอยู่เลย รถติด มองไปทางไหนก็เจอแต่คนเดินด่ารถ รถด่าคนเดิน มีตังซื้อรถหรูๆขับก็ขับอย่างไร้วินัยไร้น้ำใจ ใช้แตรเป็นที่ระบายอารมณ์ จะว่ารถอย่างเดียวก็ไม่ได้ คนเดินถนนก็ไม่รู้จักทางม้าลาย ไม่รู้จักรอไฟคนข้าม ไม่รู้ว่าคนไหนบ้านนอก คนไหนมักง่ายกันแน่ บางถนนสกปรก+เหม็น ทุกตารางนื้วถูกฉาบด้วยขื้เสลด อากาศแย่ แห้ง ลมแรง ฝุ่นกระจาย พัดถุงขยะปลิวมาแปะหน้ายังเคย (ก็แอบเห็นที่ฮาร์บิน เดาว่าคงเป็นทั้งตอนเหนือๆของประเทศ) คนที่ฮาร์บินมองดูก็แน่นพอๆกับปักกิ่ง แต่มองแล้วสบายตากว่า หนึ่งคนแก่+ขอทาน+บ้านนอกเบาบางกว่า สองสาวสวยเยอะ ปลายฤดูหนาว แต่งตัวกันสวยมากๆ น่ารัก แนวๆก็เยอะ เราคนเมืองร้อนชินกับการใส่เสื้อต้วเกงตัวรองเท้าแตะง่ายๆ มานี่จำเป็นต้องหาบูท หาโค๊ทใส่ ไม่รู้จะซื้อแบบไหน ก็ไม่ต้องไปซื้อนิตยาสารแฟชั่น มานั่งดูสาวๆ ที่นี่ เพลิน... อีกอย่างที่ชอบคือ ชอบเห็นคนแสดงความรักกันที่สาธารณะ ฉากหลังเป็นตึกแบบโรมัน โบส์คริตส์ มีหนุ่มสาววิ่งเล่น โอบอุ้ม คลอเคลีย จูบกันพอที่จะให้ร่างกายอุ่นขี้นมาต้านกับลมหนาวๆ วู...ฮู้... โรแมนติก (เห็นแล้วอดคว้ามือคุณแฟนออกจากกระเป๋ากางเกงมาซุกไว้ในจู๊กกูแร้ตัวเองไม่ได้ กล้าทำได้แค่นี้แหละสาวไทยอย่างเรา หุหุ) อาจเห็นภาพโรแมนติกๆ แบบนี้น้อยกว่าฝั่งยุโรป เพราะฮาร์บินก็ยังคือเอเชีย เอเชียยังไงก็เอเชีย แต่มันก็ยังรู้สึกดีกว่าได้ยิน ได้เห็นคนตะคอกด่าใส่กันไม่ใช่หรอ ปอลิง ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว+ระบายอารมณ์เล็กน้อยถึงปานกลาง พูดถึงคนจีน(บางส่วน)ไม่ได้เหมารวมทั้งหมด ถ้าไปพาดพิงถึงญาติหรือบ้านเกิดใครก็ขออภัย เรามันเด็กน้อยไร้เดียงสา อย่ามาโจมตีเราเลย   Create Date : 25 เมษายน 2554     Last Update : 5 พฤษภาคม 2554 16:49:55 น. Counter : 2286 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ออกจากกรอบ แปลงร่างมาเป็น Beijing Night Girl คืนหนึ่งในปักกิ่ง ยังอยู่ในช่วงอาทิตย์ที่ 2 ของการมาปักกิ่งค่ะ ก็เลยตามแผนที่ว่าจะไปเที่ยวหาเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ ที่ได้ทุนฮ่านป้านมาเรียนที่ 北京语言文化大学>>>มหาลัยในฝันเราแหละ ไม่มีวาสนาได้มาเรียน ได้แค่มาเหยียบก็สุขในใจ ประตูหน้าม. สระน้ำน้อยๆ เมื่อวานหลังจากไปซื้อหนังสือข้อสอบญี่ปุ่นที่中关村图书店 พี่ชายสามีและสามีก็ขับรถมาส่งที่ห้อง บอกที่บ้านว่าเย็นนี้ไม่ไปกินข้าวนะคะ จะไปเป่ยอยู่เที่ยวหาเพื่อนนักเรียนทุนน่ะค่ะ อาจเป็นเพราะเรามาปักกิ่งทีไรก็ซื้อแต่หนังสือ ข้อสอบ ไปเที่ยวตามมหาลัยต่างๆ ครอบครัวสามีจึงมองเราเป็นเด็กน่ารัก ชอบเรียน ขยันอ่านหนังสือ จนถูกขนานนามว่า 好女孩！ 北京语言文化大学！ เอาซะให้พอ เอาแบบzoom zoom พักเที่ยงพร้อมนักเรียนจีนที่โรงอาหาร ที่นี้เราลองมาดู 好女孩 เมื่อคืนไปทำอะไรมาบ้าง ปกติของทุกที่ของมหาลัย ไม่ใกล้ไม่ไกลมักจะมีที่ให้นักศึกษาได้ดื่มได้แดนซ์คลายเครียด โดยเฉพาะมหลาลัยที่มีชาวต่างชาติเยอะๆ ยิ่งต้องมีเพราะมันเป็นยาแก้โรคโฮมซิกได้อย่างดี ยอมรับนะ เราชอบดื่ม ชอบเที่ยว แต่ไม่ถึงกับติด (ติดสามีมากกว่า) สามีไม่เที่ยวไง (หัวโบราณ) ก็เลยไปด้วยกันไม่ได้ แต่เค้าก็ไม่เคยห้ามนะ ผับปิดให้บอกตื่นไปรับ (น่ารักมากๆ) ผับปิดก็จบ ไม่เคยไปต่อไหนกับผู้ชายแปลกหน้า ในเมื่อเค้าให้เกรียตรเรา เราก็ให้เกรียตรเค้าโน๊ะ เข้าเรื่องดีกว่า เพื่อนยังไม่ทันพรรณนาบรรยากาศจบ เราก็ตกลงรับคำชวนทันที ยิ่งผับจีน ยิ่งต้องลอง ยี่งต้องไป ก็ลังเลเรื่องการแต่งตัวอยู่เหมือนกัน ไม่มีเสื้อตัวเก่งที่เราใส่แล้วแดนซ์ได้อย่างมั่นใจ แล้วข้างหนอกหนาว ข้างในจะร้อนมั๊ย เอาเสื้อโคต๊ไปทำยังไง สายเดี่ยวนุ่งสั้นเหมาะมั๊ย ... เราไปกับพี่มล เพื่อนคนเก่งที่ว่า เพื่อนพี่เค้าอีก 3 รวมเราเป็น 5 สาวไทย กว่าจะแต่งหน้าแต่งตัว ออกกันมาได้ก็เที่ยงคืน เพื่อนบอกว่าผับที่นี่ปิดสว่างไม่ต้องห่วง นั่งแทกซี่หน้ามอไปประมาณ 10กว่า元 คืนนี้เป็นLady Night สุภาพสตรีทุกท่านรับคูปองดื่มฟรี 3 แก้ว แต่เนื่องจากเราทุกคนมีหลังมือสองข้าง แสตป์ซ้ายรับ 3 แก้ว วนออกแสตมป์ขวารับอีก 3 แก้ว ร้านจัดได้สวยตามสไตล์จีนโบราณตัดกันกับแสงไฟสไตล์โมเดิน จำนวนห้องน้ำเพียงพอ สะอาดพอควร พนักงานวนเวียนทำความสะอาดตลอดทั้งโซนห้องน้ำและในผับ ชั้น1 มีล็อกเกอร์ฝากเสื้อและกระเป๋าโคต๊ บาร์เหล้า และโต๊ะเก้าอี้โซฟา เปิดเพลงเบาๆ ใต้ดินมีอีกบาร์เหล้าและแดนซ์โซน พวกเรามุดใต้ดินกันดีกว่า อิอิ โชคดีที่เลือกชุดนี้มา ไม่มีใครแต่งตัวหวาบหวิวเหมือนโคโยตี้ หรือนักร้องวงสตริงงานวัดแบบประเทศเรา จะสายเดี่ยวนุ่งสั้นก็มีบ้าง ส่วนมากแต่งกับแบบเอกลักเฉพาะตัวมากกว่า เรามาแบบธรรมดาๆ ในแบบเราก็เหมาะแล้ว แขนยาวตัวละ 29元 หนุ่มๆก็ชมว่าสวยแล้ว เอิกๆ ผับเกย์ ผับเลสลองแล้ว งานนี้ขอลองผับอินเตอร์เนชั่นแน่ว นักท่องเที่ยว80%เป็นต่างชาติ มีทั้งมาเรียน มาทำงาน ส่วนที่เหลือเป็นหนุ่มสาวจีน ที่อาจจะประสงค์หาเพื่อนต่างชาติ หรืออะไรก็ไม่รู้ ชั้นใต้ดินจะจัดเป็นฟลอแดนซ์กว้างๆ ไม่มีโต๊ะเก้าอี้แกะกะ นอกจากที่นั่งบาร์และริมกำแพง มีรปภ.ยืนเป็นจุดๆ ถ้าเห็นตี๋ๆ ใส่ชุดดำ แม้ว่าสาวจะส่ายสะโพกเสียดสียังไง ก็ยังยืนแข็งไม่แสดงอารมณ์ ก็เค้าแหละ บางคนมีกล่องลูกเต๋าเล่นเกมส์ดื่มเหล้า เสียงเขย่ากับจังหวะเพลงแรงๆเข้ากันได้มาก เราชอบ สนุกดี สนุกที่เห็นฝรั่งบางคนโชว์ลีลาเด็ดๆ เหมือนในหนัง step upได้แนบหูพูดคุยกับหัวหยิก หัวทอง เป็นภาษาจีน แต่เอ...อยากพูดญี่ปุ่นบ้างจัง ไม่เจอซักคนเลย บ้านเมืองเค้าแผ่นดินไหวแรงขนาดนั้น คงไม่มีอารมณ์มาเที่ยวล่ะมั๊งโน๊ะ เพื่อนๆทุกคนทั้งดื่ม ทั้งแดนซ์สนุกมาก แม้จะเพี่งรู้จักกันครั้งแรกก็คุยกันได้ แบ่งปันเรื่องทุกข์เรื่องสุขกันได้ ไม่รู้ซี...เราชอบบรรยากาศที่นี่ ต่างวัฒนธรรมก็กระทบไหล่กันได้ ไม่มีปัญหา 6โมงเช้า พนักงานมากระซิบหวานๆว่า 我们差不多要下班了ทุกคนก็รู้กัน ลุกและค่อยๆทยอยออกจากร้าน ไม่มีอารมณ์มาค้าง ไม่มีแนวโน้มว่าจะตีกัน มันคือศิวิไลที่ฉันถามหา จริงๆ เฉลี่ยแล้วเราเสียค่าแทกซี่กันไม่กี่บาท ไม่ได้ดื่มกันขนาดเมาเรี่ยราดไม่รู้สติ แต่เรามารู้จัก มาพูดคุย ฝึกภาษา พูดเรื่องประเทศตัวเอง ฟังเรื่องที่เราไม่เคยรู้ เปิดสายตาให้กว้าง เปิดใจให้กว้าง นอนพัก และลืมตาเพื่อดำเนินชิวิตต่อไปอย่างมีความสุข เรื่องเที่ยวก็โยงมาจบด้วยธรรมมะจนได้ เอาซิเรา... เอิกๆ ว่าแต่เราตอนนี้ก็ยังอาการหนักอยู่เหมือนกัน ใส่บูทส้นสูง1นิ้ว แดนซ์สี่ห้าชั่วโมง นอนปวดขาเหมือนกับไปปีนกำแพงมืองจีนมาเลย ...   Create Date : 26 มีนาคม 2554     Last Update : 26 มีนาคม 2554 14:04:49 น. Counter : 5173 Pageviews.   3 comment Share Tweet

☆★หนีความวุ่นวาย~ตามผู้ชาย~ไปปักกิ่ง☆★ ตอน2 จองตั๋ว วีซ่า แลกตัง (ฝอยแตก) ตั๋วเครื่องบิน เบี้ยน้อยหอยน้อยก็ต้องจำใจนั่งประเภท low cost airline กันเองแล้วหล่ะค่ะงานนี้ ก็เห็นจะมีแค่ Srilankan Airlines เจ้าเก่านี้แหละค่ะโน๊ะ ประทับใจที่ครั้งที่แล้วเราขอที่นั่งข้างหน้าต่าง แต่มันเต็ม พี่สาวตาคมใจดี๊ดี ก็อัพให้เราไปหรูเลิศเชิดได้บนชั้นbusiness class ซะงั้นเอง เลิฟ... การซื้อตั๋วทำเองก็ได้ ง่ายๆ 3 ช่องทาง คือ 1. ซื้อออนไลน์ โดยใช้บัตรเครดิต 2. ซื้อล่วงหน้าเองได้ที่ticket counterของสายการบินเลย 3. ซื้อผ่าน agent ช่องทางที่1มนุษย์ไร้ซึ่งเครดิตอย่างเราหมดสิทธิฺ์ค่ะ แต่การซื้อผ่านช่องทางที่2 ราคาจะแพงสุด เหลือช่องทางสุดท้ายสำหรับปุถุชนอย่างเราืคือ ซื้อกับ agent ได้ราคาถูกกว่าซื้อที่counterของสายการบิน ตั้งที่ละ 700 บาทไทยแน่ะ ก็ดีมิใช่หรือ 55 ซึ่งagent เราเลือก antai พูดจาดี ไว้วางใจได้ 2ช.ม.หลังจากโอนเงินตามจำนวน 36,200 (ราคาสำหรับตั๋วไปกลับ 2 ที่ค่ะ) ก็ได้eticket code ส่งมาทางเมล์ให้เลย เร็ว... วีซ่าจีน ทำเองได้ง่ายนิดเดียว ชินแล้วค่ะที่ชอบจัดการธุระอะไรต่างๆด้วยตัวเอง มันช่วยเราฝึกไหวพริบ และเรียนรู้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดี แต่การจ้างagent ก็อาจเหมาะกับคนที่งานยุ่ง ลามาครึ่งวันรายได้อาจหายไปเป็นพันๆ จ้างagent 500 คุ้มกว่า เพราะงั้นคนว่างงานไม่มีไรทำ และชอบลุยเองอย่างเรา เลือกเขียนเอง ทำเอง รับเอง จ่ายเงินเองค่ะ เหนื่อยหน่อย รอนานหน่อย เจอปัญหาหน่อย รู้ทางแก้ เห็นอะไรหลายอย่าง วันนั้นเราไปเจอกับอะไรมามั่ง ได้ฝอยแตกในบลอกนี้แน่นอนค่ะ แต่ก่อนอื่นไปดูประเภทและค่าทำวีซ่าจีนกันก่อนค่ะ เราเลือกแบบ Single Entry : ทำเสร็จในวันเดียว = 2,200 บาท   ทำเสร็จใน 2-3 วัน = 1,800 บาท ทำเสร็จใน 4 วัน (ปกติ) = 1,000 บาท ### แน่นอนว่าเราเลือกแบบถูกสุด ก็ยังทันนี่นา อีก4วันมาเที่ยวอีก ได้เดินเล่นฟอจูนอีก ก็ดีนี่หน่า อิอิ การเดินทาง ของเราเริ่มจากสนานีลาดกระบัง นั่งไฟฟ้าสาย city line ลงมะกะสัน 30 บาท แล้วลงไปนั่ง MRT อีก 1 สถานี 15 บาท จะนั่งรถเมล์ก็ได้ เดินก็ได้ไกลดี แต่เราไหลไปตามฝูงชน เดินตามเค้าไปลงใต้ดินซะงั้นเอง ขึ้นที่สถานีพระราม 9 ออกทางตึกฟอร์จูน น่องเหล็กอย่างเราขอจ้ำๆ ไม่ไกลมาก ประมาณ300-400เมตร ถ้านั่งมอไชค์ 20 บาท มั้งนะ จำไม่ได้ แต่ที่รู้ๆเก็บแพงกว่าแถวบ้านเรามาก เราใช่เวลานั่งรถ+เดินจ้ำ ไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง ถึง8.30 ยังไม่เปิด ก็ต้องรอตามระเบียบ เอกสาร ที่เราเตรียมไป 1.พาสปอท 2.รูปถ่าย 2 นิ้ว กรอก กดบัตรคิว และปัญหาที่อิฉันต้องเจอ พอยามเปิดประตูตอน 9 โมงตรง แหกกระเป๋าตรวจ แล้วไหลตามคนขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ หยิบฟอร์มมากรอกอย่างไม่ได้รีบร้อนอะไร นึกขึ้นได้อีกที ไปกดบัตรคิวไว้ก่อนดีกว่าจะได้ไม่รอนาน ที่ไหนได้ คิวที่ 100 ซะแล้ว ระหว่างรอก็กวาดตามองนู่นมองนี่ เดาท่าทางคนนั้นคนนี้ว่า นี่ต้องเป็นพวก agent แน่... นี่น้องนักเรียนมาทำวีซ่าไปเรียนจีนแน่ ดีจังเลยน้า... นี่ฝรั่งพวกนี้กะเที่ยวรอบโลกหรือไงนะ... พอถึงคิว เราก็รีบวิ่งเลยค่ะ กลัวเดี๋ยวใครแซง เจ้แก เริ่มทำหน้ามีปัญหา กับตัวเลข 60 วันที่เราเขียนไป ยื่นฟอร์มกลับมา แล้วให้แก้เป็น 30 วัน โดยไม่ถามเหตุผลอะไรเลย เรา : ไม่ใช่ค่ะ หนูขอ 60 วันค่ะ เจ้  : ไม่มีค่ะ มีมากสุด 30 วัน เรา : ทำไมล่ะค่ะ ครั้งที่แล้วก็ได้ 60 วัน แล้วนี่ก็จองตั๋วเครื่องบินแล้วด้วย เจ้  : ไปต่อที่จีนได้นี่ เรา : อยากได้ 60 วันเหมือนครั้งที่แล้วน่ะค่ะ ต้องทำยังไง เจ้  : ไปทำอะไร เรา : ไปเยี่ยมญาติสามี เจ้  : สามีคนจีนหรือเปล่า เอาทะเบียนสมรสกับ ฟาสปอตจีนมา เรา : เอาเอกสาร 2 อย่างนี้มาก็ได้เลยใช่มั๊ยค่ะ (เออ กรูจาจำหน้า และคำพูด อีเจ้นี่ไว้ พรุ่งนี้มาอีก แล้วมีปัญหาอีก จะด่า 靠หนี่มา) กำลังเดินหน้ามุ่ยออกไปจากซอย คิดในใจคนเดียว ทำไมไม่เตรียมมาเผื่อวะกู เอกสารพวกนี้ควรติดตัว ติดรถ ไว้เวลามาทำธุระแบบนี้... ติดรถ อือ ในรถก็มี ขับรถเป็นก็ดีจิโน๊ะ จะได้ขับรถมาเอง เหล่ากงแม่งก็แทนที่จะมาส่ง เอารถไปใช้แล้วยังช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ... ฮึ้ย!!! เหล่ากง+เอกสารอยู่ในรถ+ช่วยเหลือ+ส่ง+แฟกซ์ = ให้เหล่ากงส่งแฟกซ์มาให้ไง! กรูจะโง่ กลับบ้านไปเอาแล้วมาอีกทำไม เนี่ย เกือบแหละ เกือบโง่ พอรู้สึกว่าตัวเอง เกือบโง่ ก็พยามยามทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองดูดีขึ้น นั่นคือ ระหว่างรอเหล่ากง แฟกมา และก่อนไปร้านเฟก เราก็ขึ้นไปกด บัตรคิวสะสมไว้ก่อน มีตั้งแต่คิวที่ 260 359 391 430 จะได้ไม่ต้องรอนานอีก 55 พอรับแฟก และเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้้นไปยื่น ตอนนั้นเค้าเรียกถึงคิวที่ 300 กว่ากันแล้ว 55 ไหนๆ ลองกดอีกทีจิ ตอนนี้บัตรถึงคิวเท่าไหร่กันแล้ว 512 เฮือก! กรูไม่กลัว กรูใช้อันนี้แหละ 359 รออีกแค่ 50 คนเอง เปิดตั้ง 6 ช่อง 7 ช่อง พอถึงคิวเราอีกครั้งดันมาเจอช่องเดิม เจออีเจ้คนเมื่อกี็้้ ก็ดีเผื่อจำเราได้ ก็จะได้ไม่ต้องพูดมาก ยื่นเอกสาร แล้วเราก็ถามเสียงดังฟังชัดว่า "อย่างนี้ได้60วันแล้วใช่มั๊ย" เจ้แกก็ตอบเสียงดังฟังชัดว่า "ค่ะ" >>>น่ารักมาก  วีซ่าจีน ทำเองก็ได้ง่ายนิดเดียว มันจะง่ายกว่านี้มาก ถ้าไม่ใช่ประเภทเรื่องมากอยากอยู่นาน อย่างอิชั้น 55 แล้วสุดท้ายที่ถ้าจ้างagentทำวีซ่าให้ จะไม่มีโอกาสได้มาทำคือ เราเอาบัตรคิวที่กดเล่นไว้มาแจก โดยเดินดูคนถือบัตรเลขท้ายๆในมือ อ่ะช่วยไม่ได้นะคะ ใครไม่แสดงบัตรก็อดนะคะ รอเป็นร้อยคิดต่อไปนะคะ มาดูกันใครจะเป็นผู้โชคดี แน่นอน ต้องเป็นคนไทยด้วยกัน เป็นสาวมั่นที่มาทำธุระของตนเองด้วยตนเอง(เหมือนเรา อิอิ) ได้รับคำขอบคุณและรอยยิ้มกลับมาอย่างล้นหลาม สุดท้ายของสุดท้าย ธุระของเราเองก็เสร็จเรียบร้อย ได้เล่นสนุก และกลับบ้านอย่างสบายใจด้วย   Create Date : 01 มีนาคม 2554     Last Update : 1 มีนาคม 2554 11:26:50 น. Counter : 1521 Pageviews.   0 comment Share Tweet

☆★หนีความวุ่นวาย~ตามผู้ชาย~ไปปักกิ่ง☆★ ตอน1 กำหนดการ แผนเที่ยว แผนช็อป ลงทุนลาออกจากงาน เพื่อตามสามีไปเยี่ยมญาติที่ปักกิ่ง ตาม Concept เลย ใช่มั๊ยล่ะ  ขึ้นชื่อว่า ญาติสามี แค่คิดก็ขนลุกแล้วหล่ะค่ะ บรึ๋ย!!! ไม่ได้อยากพบพานอะไรมากนักหรอก 55 จุดประสงค์หลัก ของเราคือ หนีความวุ่นวาย หนีหน้าที่ หนีภาระ ปัดความรับผิดชอบ อยากบิน อยากเที่ยวเล่น แต่งตัวออกไปทักทายน้องหิโมะ กินอิ่มหลับสบายที่เมืองนอกต่างหาก อิ อิ ひどいよねぇ！ กำหนดการ ตารางบิน Bangkok-Beijing วันที่ 13 มีนาคม 2011 Beijing-Bangkok วันที่ 8 พฤษภาคม 2011 รวมเวลา 57 วัน แผนเที่ยว ครั้งนี้เราขอส่ายหน้าหนีพวกเทียนอันเหมิน กู้กง ฉางเฉิง สวนสัตว์ อะไรประมาณนั้น ของแบบนั้นไปครั้งเดียวน่าจะพอ ที่แน่ๆเลย คิดว่าจะไปเยี่ยมพี่มล พี่ที่ทำงานเก่าที่เค้าได้ทุนไปเรียนเป่ยอยู่ว ถ่ายรูป พูดคุย ยืมเสื้อโค๊ต และอาจถึงขั้นขอค้าง(แล้วหอในม.เค้าจะให้คนนอกอย่างเราเข้าได้มั๊ยเนี่ย) ก็แบบว่าหาที่หลบสงครามประสาทที่บ้านสามีไว้เฉยๆน่ะ 55   ยังมีแผนไปเยี่ยมบ้านใหม่ที่ต่างจังหวัด เมืองจีหลิน ได้ข่าวว่า หนาววววว....วู้ว... คราวนี้กะเตรียมแค่โค๊ต หมวก บูท ไปถ่ายรูปกะน้องหิโม๊ะ แค่ข้างทาง ก็ดูไฮโซแล้ว ไม่ต้องเพลนที่เที่ยวให้เมื่อย 55 เพราะยังมีโทษทัณฑ์ติดตัว โกรธตัวเองยังไม่หาย ที่สอบญี่ปุ่นN2 ไม่ผ่านอีกแล้ว หมดอารมณ์เที่ยวกันไปเป็นแถบๆ คงจะได้เห็นอิฉันหอบหนังสือเรียนเป็นกิโลๆ ขึ้นเครื่องไปจีน ขังตัวเองอยู่ในห้องวันละ4-5ชั่วโมง อ่านหนังสือเตรียมสอบภาษาญี่ปุ่น ง่ะ... หรือแผนการฮันนีมูลบ้าบออะไร ก็คงล่มสลาย เพราะลังเลอยู่ว่า จะทุ่มทุนทรัพย์ไปลงครอสเรียนภาษาญี่ปุ่นซะเลยดีมั๊ยเอ่ย ไปติวภาษาญี่ปุ่นที่ปักกิ่งนี่นะ!!! เจริญ นักดำน้ำมั่วได้ระดับประเทศอย่างเรา จะได้ลงแข่งมั่วในระดับนานาชาติแล้วหรอเนี่ย แผนช็อป 1. เซ็ทแปรงแต่งหน้า Bobbi Brown >>> ราคาตามเคาน์เตอร์ก็หลายพันอยู่ แต่เพียงแค่มองหาป้าย made in China 500บาทก็เอาอยู่ อ่ะนะ made in China ก็รู้กัน (นี่ชีวิตนี้หนังหน้าดิฉันจะมีโอกาศได้สัมผัสแปรงขนกระรอกแท้ๆกะเค้ามั๊ยเนี่ย) 2. หนังสือเตรียมสอบญี่ปุ่นN2 + ข้อสอบ 3. เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย 4. ของฝาก ...   Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2554     Last Update : 1 มีนาคม 2554 9:12:07 น. Counter : 801 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• The_Mercenaries
• Webmaster - BlogGang

• หลายภาษา=หลายใจ~ o_O???
• BlogGang.com