Group Blog
 
All blogs
 
[เห่อหนังสือใหม่] การสอน+MBA+หุ้น ล่าสุดทั้ง6เล่ม (บ่นๆ)

ตั้งใจจะสถาปนาสัปดาห์นี้ให้เป็นสัปดาห์แห่งการเริ่มศึกษาเรื่องการลงทุนสำหรับตัวเองกันเลยทีเดียวค่ะ
แต่ก่อนที่จะอวดของใหม่ ขอเล่า(แฉ)ความเป็นมาเป็นไป ของตัวเองพอหอมปากหอมคอค่ะ


ปกติเราเป็นคนชอบชื้อหนังสือค่ะ ชอบซื้อนะค่ะ ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนรักการอ่านมากมายอะไร 
บางเล่มซื้อมายังอ่านไม่จบ บางเล่มอ่านได้หน้าสองหน้าก็ไม่ได้เปิดมันอีกเลย
แนวที่ชอบและซื้อบ่อยก็พวก หนังสือเรียนภาษา,วัฒนธรรมจีน-ญี่ปุ่น
หนังสือเกี่ยวกับอาชีพที่เราอยากเป็น(ณ ช่วงเวลานั้นๆ)
และที่เคยซื้อมาอ่านบ้างก็จะมีไม่กีเล่ม
เช่นพวกวรรณกรรมแปล,ประวัติศาสตร์และสังคมจีน-ญี่ปุ่น


มาพูดต่อเรื่องหนังสือที่ช็อปมาในรอบสัปดาห์นี้ค่ะ

เล่มแรก
MBA WORLD GUIDE 2010

ตามแผนการที่ว่าหลังจากกลับจากปักกิ่งจะลงเรียนป.โทต่อ
ก็ไม่รีรอค่ะรีบหาข้อมูล เรื่องที่ว่าจะเรียนต่อสาขาอะไรก็เป็นที่หนักใจสำหรับเราเหมือนกัน
เพราะจบรัฐศาสตร์ แต่เบื่อการเมือง(ไทย)พอเข้าทำงานที่บ.เอกชน
ก็เกลียดการเป็นลูกน้อง อยากเป็นผู้บริหาร
ก็เลยเป็นประเด็นที่ทำให้อยากเรียน MBA
แต่ก็อีกแหละเพราะตัวเองไม่ชอบตัวเลข ไม่ชอบท่องสูตร
ไม่ชอบคำนวนไม่ใช่หรอที่ทำให้เราเลือกเรียนศิลป์-ภาษาตอนม.ปลายน่ะ
พอเข้ามหหาลัยก็จับพลัดจับผลูต้องมาเรียนรัฐศาสตร์
ก็เลยไม่ได้ลึกซึ้งอะไรกับเรื่องเศรษฐศาตร์การตลาด การเงิน-บัญชีอะไรบวกนี้เลย
ทำไงดี...
























ระหว่างนี้ก็พยายามหาสถาบันที่เปิดโอกาศ
และค่าเล่าเรียนไม่สูงมาก
หนังสือเล่มนี้ซึ่งไปขุดมาจากร้านนายอินทร์
เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ช่วยคนไม่รู้อะไรได้เยอะเลยค่ะ



เล่มต่อมาซื้อวันเดียวกัน แต่คนละร้านค่ะ
สอนเก่งสอนเป็น 


เห็นชื่อหนังสือ+ชื่อสนพ.ก็สนใจ คว้าหมับ
แล้วเดินไปจ่ายตังเลย ชอบแบบเรียนภาษาญี่ปุ่นของสนพ.นี้อยู่แล้วและเล่มนี้ก็ออกแนวคล้ายๆ "จำเก่งจำแม่นจำนาน"
ที่ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว (ซื้อมา แต่ก็อ่านวนไปวนมา
ไม่จบซักที สำหรับเรานะ ยิ่งอ่านยิ่งจำไรไม่ได้เลย เฮ่อๆ)
สำหรับเล่มนี้อ่านได้แค่20-30หน้าเองค่ะ
แต่ก็รู้สึกว่ามีประโยชน์ ไม่ใช่ว่าสอนคนอื่นเก่งอย่างเดียว
แต่ต้องสอนตัวเองเป็นด้วย
ชอบค่ะ







อีกเล่มซื้อพร้อมกันกะเล่มข้างบนค่ะ
ญี่ปุ่นตะแคงซ้าย


ซื้อมาเพราะแอบอยากไปเรียนญี่ปุ่นอยู่เหมือนกันค่ะ
แต่เป็นเพราะยังไม่มีเวลา+เงิน มันก็เลยเป็นยังเป็นภาพความฝันลางๆอยู่
ไปขุดเล่มนี้จากในหมวดท่องเที่ยว
แต่เนื้อหาไม่ใช่แค่ไปถ่ายรูปที่เที่ยวสวยๆมาล่อกิเลสคนอ่าน
เล่มนี้บอกเราตั้งแต่ขั้นตอนการไป ขั้นตอนการอยู่
จะอยู่แบบนักเรียนหรืออยู่แบบนักท่องเที่ยว
รวมถึงแง่คิดมุงมองที่มีต่อญี่ปุ่นด้วย



เล่มต่อไป สดๆร้อนๆ เมื่อวานนี้เองค่ะ
เล่นหุ้นออนไลน์ไม่ยาก


พอพูดเรื่องหุ้นก็ต้องเล่ากันอีกยาวหน่อยนะคะ
(อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ)
เราซึ่งปกติเป็นผู้หญิงชอบเรียนภาษา
ชอบการท่องเที่ยว ชอบแต่งหน้า
รักสวยรักงาม ชอบช็อปปิ้ง
(เผาผลาญเงินคุณแฟน)
แล้วเหตุอันใดทำให้เรา
มาสนใจเรื่องการเงินได้ล่ะนี่





เราเข้าใกล้คำว่าหุ้นครั้งแรกเมื่อสองสามปีก่อนตอนไปเยี่ยมญาติคุณแฟนที่ปักกิ่ง พี่ชายเค้า"เล่นหุ้น" ได้เห็นเค้านั่งจ้องตัวเลขสีต่างๆที่วิ่งไปวิ่งมา บนแบลกกราวน์สีดำ เช้ามาพอเปิดคอมได้พี่ชายเค้าก็จะไอ้โปรแกรมนี้แหละ เราก็อ่อ...คนเล่นหุ้นคือต้องนั่งดูไอ้ตัวเลขพวกนี้ เวลาเราจะใช้คอมเข้าเฟสบุ๊คบ้างอัพบอลกแชทกับเพื่อนบ้าง เราก็ปิดไอ้โปรแกรมนี้ลงไป ไม่ได้สนใจอยากอะไรอีกเลย


พอได้มาเห็นเล่มนี้ครั้งแรกที่ชั้นหนังสือแนะนำของร้านซีเอ็ดเมื่อปลายเดือนก่อน ก็สะดุดคิดถึงเรื่องของพี่ชายคุณแฟน บวกกับหนังญี่ปุ่นที่โหลดมาดูเรื่อง お爺さんは25歳 เด็กวัยรุ่นผู้ชายหมกตัวแต่ในห้อง เล่นหุ้นออนไลน์ จนได้เงินก้อนใหญ่ เนื้อหาหนังไม่ได้เน้นเรื่องหุ้น เน้นเรื่องการให้เวลากับครอบครัวมากกว่า แต่หนังสนุกชอบมากค่ะ เรื่องนี้ก็เลยทำให้เรารู้ขึ้นมาอีกนิดว่า อ่อ หุ้นเล่นแล้วจะรวย มีรถหรูขับเหมือนพี่ชายคุณแฟน และได้เงินมาง่ายๆเหมือนเด็กในหนังนั่น


แต่ตอนนั้นไม่ได้หยิบมา และยังไม่ได้สนใจเรื่องหุ้น จนมาวันนึงคุณแฟนซึ่งยังไม่ค่อยรู้ศัพท์เฉพาะทาง มาบอกว่าถามให้หน่อยที่ไทยเปิดบัญชีหุ้นอย่างไร เราก็งงค่ะ ถามว่าจะเปิดทำไม เค่าก็พูดง่ายๆว่า จะเล่นหุ้นกับพี่ชาย เรายิ่งงงใหญ่ เธอจะบ้าหรอ เราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับหุ้นกันเลย แล้วจะเล่นได้ไง โดนเค้าโกงเป็นหนี้ไม่รู้ด้วยนะ เตือนคุณแฟน


เรื่องทั้งหมดก็เลยทำให้เราตัดสินใจหยิบหนังสือเล่มนี้มา คิดว่าเราควรศึกษาพื้นฐานง่ายๆไว้บ้าง ยังไงก็ยังหางานทำ หรือยังหาที่เรียนต่อไม่ได้ มีเวลาค่อนข้างมาก แต่ยังอ่านไม่จบค่ะเปิดดูแล้วเป็นภาษการ์ตูนอ่านง่ายแทรกเนื้อหาสำคัญๆ เป็นระยะๆ เหมาะกับคนหลังเขาเรื่องหุ้นอย่างเรามาก

















อีกเล่มก็มาพร้อมกันค่ะ
การลาออกครั้งสุดท้าย

ขณะที่เราถือเล่นหุ้นออนไลน์ไม่ยากอยู่ในมือ และเดินเพื่อไปเปรียบเทียบดูหนังสืออื่นๆที่เกี่ยวกับหุ้น ก็ได้ยินบทสนทนาของหญิงสาวสองคน "ไม่เคยอ่านเล่มไหนจบเร็วเท่าเล่มนี้เลย" เราก็เหล่ไปดูหนังสือเล่มที่ว่าในมือหล่อนค่ะ แล้วก็ทำเป็นเดินผ่าน พอเห็นว่าเดินออกไปกันเลยเราก็หยิบมันขั้นมาดู โอ้ว...ชื่อหนังสือก็โดนใจค่ะ อนุมาณเอาเองว่า การลาออกจากการเป็นลูกจ้างครั้งนั้นคือครั้งสุดท้ายของเราใช่ไหม เปิดดูลวกๆในเล่มสะดุตากับหลายสำนวนมากๆ ซื้อเลย ซื้อๆ แต่ยังไม่ได้เปิดอ่านจริงจังค่ะ


 



มาดูที่เล่มสุดท้าย
เคล็ดลับความมั่งคั่ง


หยิบมันขึ้นมาเพราะมันวางอยู่ใกล้ๆกัน เนื้อหาเป็นภาพการ์ตูนน่ารักดี ซื้อเพราะอยากให้มันครบ500บาท จะได้แสตมป์สองดวง ระหว่างรอคุณแฟนมารับก็อ่านได้ครึ่งเล่ม ความคิดที่จะศึกษาเรื่องหุ้นอย่างจริงจังก็ผุดขึ้นมาเต็มหัวเราเลย ประจวบเหมาะกับที่จะลงเรียนMBAอยู่พอดี ขอทุนคุณแฟนเรียนต่อ สอนภาษาหารายได้ไปพลาง เรียนจบเป็นนักบริหารสาวในบ.เล็กๆ เป็นนักลงทุนสาวตัวน้อยๆ มีอิสระภาพทางการเงิน เป็นที่พึ่งให้แม่ ให้น้อง (คิดไกล..จังเลย)






ตะขิดตะขวงใจนิดน่อยตรงที่เราเกิดในครอบครัวฐานนะไม่ค่อยดี แถมมีแค่เราคนเดียวในบ้านที่หัวสูงอยากรวย ตอนนั้นคิดไปเองว่าเรียนภาษาจะได้ตังเยอะ ได้ไปเมืองนอก น่าเสียดายที่ไม่เรียนเศษฐศาสตร์ตั้งแต่แรก อยากรวยต้องทำใจอยู่กับเรื่องตัวเลขเรื่องคำนวนให้ได้ซิ เพิ่งสำเหนียกตัวเองได้อายุก็ปาไป23แล้ว สายเกินไปมั๊ย


ถ้างั้นไม่รอช้าแล้วค่ะ เริ่มวันนี้เลย วันแห่งการเรื่มต้นเรียนรู้เรื่องหุ้น และการเงิน คงจะได้เปิดกรุ๊ปบลอกใหม่เร็วๆนี้ เห็นมีกูรูในบลอกมากมาย ยังไงขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ แล้วจะมาเล่าต่อค่ะ


 








Create Date : 12 มิถุนายน 2554
Last Update : 12 มิถุนายน 2554 12:35:36 น. 0 comments
Counter : 1376 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BeeryKiss
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 81 คน [?]








New Comments
Friends' blogs
[Add BeeryKiss's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.