|
อีก1ก้าวของฉันเพื่อการเตรียมตัวเกษียณ
เมื่อวานนี้ฉันไปทำธุระที่ธนาคารมาค่ะ เปลี่ยนสมุดบัญชีธนาคารเล่มใหม่ และตัดสินใจเริ่มซื้อกองทุนรวมกับทางธนาคารเป็นวันแรก รวมถึงสมัครใช้แอพของธนาคารในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยค่ะ
ที่ธนาคารเขาจะมีให้เราเลือกประเภทการลงทุน ซึ่งจะมีทั้งหมด4ประเภท
ประเภทที่1 มีความเสี่ยงสูงสุด แต่ผลตอบแทนก็ดีที่สุด คือกองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดหุ้น/กองทุน/และการลงทุนด้านอื่นๆในประเทศสหรัฐอเมริกา
ประเภทที่2 มีความเสี่ยงรองลงมา ผลตอบแทนค่อนข้างดีพอสมควร แต่ต้องซื้อต่อเนื่องระยะยาวนานถึง20ปี (ไม่มีเงินปันผล) เป็นกองทุนรวมที่ฉันเลือกเปิดบัญชีและซื้อไว้นั่นก็คือ "กองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศทั่วโลก"
ซื้อกองทุนรวมปีละ400,000เยน ซื้อติดต่อกันนาน20ปี จะต้องใช้เงินลงทุน(เงินต้น) 8,000,000เยน
ประเภทที่3 ลงทุนในตลาดหุ้นและอื่นๆภายในประเทศญี่ปุ่น
ประเภทที่4 คือให้ความรู้สึกคล้ายๆกับการซื้อสลากออมสินเลยค่ะ เพราะความเสี่ยงต่ำ แล้วผลตอบแทนก็ต่ำมากเช่นกัน
ฉันศึกษาหาความรู้และใช้เวลาคิดทบทวนอยู่นานกว่า3ปี ทีนี้เมื่อตัวเองมีเงินพร้อม และทำใจให้พร้อมยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง ฉันจึงตัดสินใจเลือกซื้อกองทุนรวมกับธนาคารค่ะ

(ส่วนแอพธนาคารในประเทศไทยฉันไม่เคยสมัครใช้งานเลย เพราะโทรศัพท์มือถือของฉันเป็นระบบเติมเงิน เกรงว่าถ้าหากไม่ได้เติมเงินใส่เบอร์มือถือแล้วเกิดเบอร์ถูกยกเลิกไปแอพธนาคารที่สมัครใช้งานไว้มันจะเกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ ไม่ได้อยู่เมืองไทยด้วย กลัวปัญหาแบบนี้ฉันจึงไม่เคยสมัคร ไม่เคยใช้งานแอพธนาคารในประเทศไทยเลย บัตรATM.ของธนาคารในประเทศไทยฉันก็ไม่มี เพราะไม่ต้องการเสียค่าธรรมเนียมรายปี มีแต่สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารอย่างเดียวค่ะ)
ที่ฉันตัดสินใจสมัครใช้งานแอพของธนาคารญี่ปุ่น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการรับโอนเงินเดือนจากสามีมาเข้าบัญชีเงินฝากของฉัน โดยที่ฉันไม่จำเป็นต้องรับเงินเดือนเป็นเงินสดเหมือนกับทุกๆเดือนที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว
ฉันจะได้จับเงินสดน้อยลง สะดวกโอนเงินชำระค่าบัตรเครดิตคืนให้สามีผ่านทางออนไลน์ด้วย ไม่จำเป็นต้องไปหาเหรียญหรือเศษสตางค์มาทอนคืนให้สามีเหมือนแต่ก่อนแล้ว รวมถึงสามารถเช็คยอดเงิน ดูผลตอบแทนจากการลงทุนกองทุนรวมของฉันผ่านทางแอพลิเคชั่นของธนาคารได้อีกด้วย
ถือว่าเป็นการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนตัวเองในการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลมากขึ้น
พนักงานที่ธนาคารยังบอกเลยว่า บัตรATM.ที่ฉันใช้อยู่ก็เป็นแบบธรรมดาเบสิคสุดๆ เพราะไม่พ่วงกับบัตรเครดิต ไม่พ่วงกับsuica,PASMOอะไรใดๆทั้งสิ้น เป็นบัตรที่ฉันเอาไว้ใช้ฝากเงิน-ถอนเงินอย่างเดียว แค่นั้นจริงๆ บัตรATM.ของธนาคารและธนาคารไปรษณีย์ญี่ปุ่นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีค่ะ สามารถใช้กดเงินได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น หากทำธุรกรรมในเวลาทำการและกดเงินจากตู้ในธนาคาร หรือในที่ทำการไปรษณีย์จะไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่ถ้าหากเรากดเงินจากตู้ATM.ที่ตั้งอยู่นอกธนาคาร นอกที่ทำการไปรษณีย์ เช่นตามสถานีรถไฟ ในห้างสรรพสินค้า นอกเวลาทำการ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมค่ะ
เมื่อวานนี้พนักงานเลยจัดการเปลี่ยนบัตรATM.ใบใหม่ให้ เพราะฉันซื้อกองทุนรวมกับทางธนาคารไว้ เปลี่ยนมาเป็นบัตรATM.ที่สามารถใช้ฝาก-ถอน-โอนเงินในธนาคารเดียวกันได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แม้จะทำการฝาก-ถอน-โอนเงินนอกเวลาทำการก็ตาม นับว่าช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้มากขึ้นกว่าเดิมจริงๆค่ะ เพราะแต่ก่อนเวลาฉันจะฝากเงินหรือจะถอนเงินจะต้องทำในเวลาทำการตามที่ธนาคารเขากำหนด เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
ฉันจัดการพิมพ์รายการ "เงินออมเพื่อการลงทุน" กับ รายการ "เงินค่าใช้จ่ายรายเดือน" ใส่กระดาษแล้วเคลือบพลาสติกใสไว้ ทุกๆเดือนฉันจะแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆตามรายการที่กำหนดไว้ จะไม่เอามาปะปนกัน ไม่เอาทุกอย่างมากระจุกรวมกันเพราะตัวเองจะได้ไม่งง ไม่สับสน แยกบัญชีไปเลยให้ชัดเจน ดูง่ายกว่า
เงินออมเพื่อการลงทุน-เตรียมตัวเกษียณ ระยะเวลาในการออม-การลงทุน 20ปี
(เงินสด180,000เยน/เดือน กระจายการออมและการลงทุนดังต่อไปนี้..)
1.FOR INVESTMENTS ฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารเดือนละ 50,000เยน เพราะฉันซื้อกองทุนรวมผ่านทางธนาคารนี้ โดยธนาคารจะหักเงินออกจากบัญชีเงินฝากของฉันอัตโนมัติในวันที่10ของทุกเดือน เดือนละ30,000เยน ยกเว้นเดือนมกราคมกับเดือนกรกฎาคมที่ธนาคารจะหักเงินออกจากบัญชี50,000เยน
(เงินที่ฉันใช้ซื้อกองทุนรวมปีละ400,000เยน ซื้อกองทุนรวมติดต่อกัน20ปี ใช้เงินลงทุนทั้งหมด8,000,000เยน) ระหว่างนี้ก็สามารถถอนเงินออกมาได้ตามความต้องการของตัวฉันเอง แต่ทางที่ดีฉันคิดว่าควรซื้อกองทุนรวมสะสมต่อไปเรื่อยๆในระยะยาวจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าค่ะ และที่สำคัญก็คือผลตอบแทนที่ได้ฉันไม่ต้องเสียภาษี
2.FOR MY HOME ฉันตั้งใจจะเก็บเงินให้ได้อีกสักก้อนหนึ่ง เอาไว้สำหรับซื้อบ้านที่เมืองไทย ฉันเก็บเงินฝากเข้าบัญชีธนาคารไปรษณีย์เดือนละ80,000เยน เป็นเวลา60เดือน(5ปี) จะมีเงินออมเพิ่มขึ้นอีกประมาณล้านกว่าบาท ถ้าฉันยังไม่ได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยก็จะยังคงเก็บออมเงินต่อไปเรื่อยๆค่ะ อย่างน้อยๆการที่ฉันมีเงินออมอีกสักก้อนช่วยให้รู้สึกอุ่นใจกว่า
3.CREDIT CARD เก็บเงินฝากธนาคารเดือนละ50,000เยน สำรองไว้เผื่อตัดยอดชำระค่าบัตรเครดิต
ต่อมา เป็นรายการ..
เก็บเงินสดใส่แฟ้มค่าใช้จ่ายรายเดือน (เงินสด70,000เยน/เดือน)
1.เก็บเงินสดใส่กระเป๋าสตางค์ 20,000เยน
2.เติมเงินใส่บัตรnanaco20,000เยน
3.เติมเงินใส่บัตรsuica 5,000เยน
4.เติมเงินใส่บัตรPASMO 5,000เยน
5.เก็บเงินไว้ไปเที่ยว10,000เยน
6.เก็บใส่แฟ้มเก็บเงิน เผื่อสำหรับใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลเดือนละ 5,000เยน (ถ้าเดือนไหนไม่มีค่าใช้จ่ายก็จะโปะฝากเข้าบัญชีเงินออมเพื่อซื้อบ้าน)
7.FOR MYSELF เก็บใส่แฟ้มเก็บเงิน เดือนละ5,000เยน
*ในส่วนของค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าแก็ส ค่าโทรศัพท์บ้านและค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าเน็ต ค่าประกันต่างๆ ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำมัน ฯลฯ สามีจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ส่วนฉันมีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะค่าอาหารการกินและของใช้ภายในบ้านที่จำเป็นๆ เช่นข้าวสาร อาหารแห้ง ผักสด ผลไม้ เนื้อสด กุ้ง หอย ปู ปลา เครื่องปรุงรสต่างๆ น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ ยาสระผม สบู่ กระดาษทิชชู่ ฯลฯ เท่านั้นค่ะ
ปกติค่าโทรศัพท์บ้านและค่าโทรศัพท์มือถือจ่ายค่าบริการรายเดือนไม่แพงเลย เพราะฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบโทรศัพท์คุยกับใครนานๆ ถ้าโทรคุยธุระจะใช้โทรไลน์ฟรี หรือไม่ก็ส่งข้อความทางไลน์ฟรี ไม่เสียเงินค่ะ ในแต่ละเดือนฉันช่วยสามีประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเหมือนกัน.

แฟ้มเก็บเงินของฉันตอนนี้มีทั้งหมด3เล่ม
เล่มแรก "รางวัลชีวิต" ฉันจะเก็บเงินใส่แฟ้มเล่มนี้สะสมไว้ทุกเดือน เป็นเงินที่เหลือหลังจากเก็บออมและหลังจากหักค่าใช้จ่ายรายเดือนทุกอย่างแล้ว พอเก็บเงินได้ครบ1ปี ก็เอาไปซื้อของขวัญวันเกิด ของขวัญคริสต์มาส ของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองเป็นรางวัลชีวิต ให้กำลังใจตัวเอง เป็นแรงผลักดันให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะเก็บหอมรอมริบเงินเอาไว้ใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิตหลังเกษียณ
เล่มที่สอง "แฟ้มเก็บเงิน" ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็น "แฟ้มค่าใช้จ่ายรายเดือน" - จะเก็บสะสมธนบัตรใหม่ เลขสวย เลขตองด้วย
เล่มที่สาม "สมุดบัญชี" - ฉันจะใช้เก็บพวกสมุดบัญชีธนาคาร ทั้งธนาคารของไทยและธนาคารในญี่ปุ่น สลากออมสิน สลากธกส. เก็บรวมกันไว้ในแฟ้มเล่มนี้ จะได้หยิบใช้งานได้ง่าย หาก็ง่าย เก็บก็ง่าย





ไปเดินถ่ายรูปดอกซากุระริมคลองแถวบ้าน ที่ฉันเคยรีวิวในเว็บพันทิปเมื่อ10กว่าปีก่อน(รีวิวสถานที่ดูดอกซากุระที่นี่เป็นคนแรกเลย) สมัยนั้นสถานที่แห่งนี้คนไทยยังไม่รู้จักกันมากนัก อยู่ในกรุงโตเกียว ลงรถไฟใต้ดินสายTOZAI LINE 東西線 ลงที่สถานี MONZENNAKACHO 門前仲町駅
ก่อนที่จะมีโควิด-19ระบาด ที่นี่จะมีเรือพายสมัยเอโดะให้บริการด้วย(เฉพาะเสาร์-อาทิตย์) จ่ายค่าตั๋วคนละ500เยน ได้โปสการ์ดแถมมาด้วยอีก1ชุดค่ะ มีของกินขายเพียบเลย เดินเล่นเพลินๆ ถ่ายรูปเพลินๆ บรรยากาศสำหรับคนในพื้นที่ที่มาเดินเล่นกันจริงๆ คนต่างชาติมีน้อยมากค่ะ
ปีนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขางดจัดเทศกาลอีกปี(เป็นปีที่3แล้วที่งดจัดงาน)เพราะสถานการณ์โควิด-19ยังระบาดหนักในกรุงโตเกียว ไม่มีเรือพายให้บริการ แต่จะมีบริการล่องเรือยนต์ ตามที่เห็นในภาพค่ะ
ปีนี้ฉันเห็นว่าเริ่มมีชาวต่างชาติมาเดินเล่นถ่ายรูปดอกซากุระที่นี่กันมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังเดินได้สบายๆ ถ่ายรูปได้สบายๆ ไม่แออัดเหมือนกับที่อุเอโนะและที่นากะเมะกุโระค่ะ
Create Date : 07 เมษายน 2565 |
Last Update : 9 พฤษภาคม 2565 15:45:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 447 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|