Bloggang.com : weblog for you and your gang
ให้รางวัลกับชีวิตบ้างครับ ชีวิตคือการเดินทาง เงินทองของนอกกายไม่ตายค่อย ๆ หากันไปครับ
ลาวใต้ขับรถลุยโลด
ขับรถเที่ยวเองในลาวใต้ง่ายมาก ๆ ครับไม่ยุ่งยากเลย ประหยัด(ถ้าจำนวนคนไปพร้อมกันหลายคน) และสะดวกสบายมากครับ
เริ่มด้วยการเตรียมตัวก่อนนะครับ ไปดูวิธีการนำรถข้ามไปลาวได้ที่นี่ครับ
//www.unlimit-travel.com/board/viewtopic.php?t=95
ที่ในเวบนี้ไม่ได้ลงคือเรื่องค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าประกันซึ่งจะแล้วแต่ชนิดรถ จำนวนผู้โดยสาร ฯ และที่ ๆ ไปครับแต่ว่ากันว่าไม่น่าเกินพันบาทครับส่วนผมจ่ายไป 700 บาทครับ แล้วก็เตรียมเผื่อค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ไปอีกนิดหน่อยนะครับ เช่นค่าธรรมเนียมนำรถเข้าออก ค่าเอกสาร ค่าธรรมเนียมเข้าลาว (ป้ายเขียน 5000กีบต่อท่าน แต่เจ้าหน้าที่เรียก 200 บาท 4 คน (อัตราแลกเปลี่ยนตอนนั้น 1บาท=280 กีบ)) ซึ่งที่ดูมาจากของคนอื่น ๆ กับที่เราจ่ายไม่ค่อยตรงกันก็ไม่รู้มันมีมาตรฐานหรือเปล่าแต่ไม่คิดมากครับอยากเที่ยวจ่ายอีกไม่กี่ตังค์แลกกับความสะดวกครับ
แล้วก็แผนที่ลาวครับ //www.ecotourismlaos.com/maps.htm ส่วนผมก็ใช้มันหมดรวมทั้ง googleearth+Goops GPS ด้วย อิอิ
แล้วเช่นเคยครับแหล่งข้อมูลหลักผมก็ต้อง 3 webs นี้ครับ //www.wutkate.com //www.trekkingthai.com //www.pantip.com/cafe/blueplanet
สรุปโปรแกรมนี้ก็เดินทางด้วยรถยนต์ไปตามเส้นทางชัยภูมิเพื่อแวะทุ่งดอกกระเจียว แล้ววิ่งตัดไปทางเส้น 23 ผ่านมหาสารคาม ยโสธรเข้าเที่ยวที่อุบล ข้ามไปลาวใต้ ดูงานแห่เทียนพรรษา แล้ววิ่งกลับเส้น 24 แวะเที่ยวเขาพระวิหารครับ ค่าใช้จ่ายหลักจะหนักไปที่น้ำมันนะครับ อิอิประมาณห้าหกพันบาท ค่าอาหารรองมาครับเฉลี่ยมื้อละสามถึงสี่ร้อยบาทเพราะสำหรับผมเรื่องกินเท่าไรเท่ากันขอให้อร่อย อิอิ ค่าโรงแรมสองพันกว่า@400บาท แล้วก็ค่าเข้าที่เที่ยวต่าง ๆ ครับโดยเฉพาะที่ลาวใต้นี่เก็บจังเลยครับ
เริ่มเลยนะครับตอนแรกว่าจะออกแต่เช้ามืดเพื่อไปดูดอกกระเจียวแต่ไม่ไหวครับเลยออกจากบ้านเกือบเก้าโมงเช้าแหนะ แวะเที่ยวที่แรกก่อนนะครับทุ่งดอกกระเจียว ที่ป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิครับ
ว่าจะไปเที่ยวอุทยานฯไทรทองต่อแต่ร้อนมากครับไม่ไหวเลยจะวิ่งต่อไปอุบลเลยดีกว่า ระหว่างทางก็แวะเที่ยวอนุเสาวรีย์ที่ชัยภูมิครับ
ไม่รู้เพื่อน ๆ เป็นกันไหมเวลาวิ่งตามเส้นทางนี่ผ่านเมืองทีไรหลงทุกที แปลกแต่จริงครับทางหลวงบ้านเราเลขเดียวกันมีไม่รู้กี่ถนนเพราะตัดเลี่ยงเมืองเก่าบ้างใหม่บ้าง ป้ายผิดบ้างพังบ้าง เฮ้อ สุดท้ายก็ใช้ IGO GPS Navigator มาช่วยครับแต่เนื่องจากแบต PCC มีน้อยเลยต้องคอยเปิดเวลาวิ่งผ่านเมืองเพื่อให้มันนำทางเท่านั้น แต่บางครั้งก็ไม่วายต้องใช้ปากถามทางบ้างครับแต่วันหลัง ๆ นี่คล่องแล้วใช้ดูแผนที่ประกอบการตัดสินใจไม่เชื่อ IGO ทั้งหมดหรอก อิอิ
วิ่งไปเรื่อยจนเย็นก็หิวแล้วเลยแวะทานข้าวที่ร้อยเอ็ดครับ มีคู่มือร้านอร่อยทั่วไทยของปตท.ลองหาแล้วไม่เจอสักที IGO ก็มีไม่หมดสุดท้ายก็ใช้ดูแผนที่เอาและก็กะ ๆ เอาแล้วก็ได้ผลครับมาลงตัวที่ร้านข้าวต้มคนเห็นคับ อร่อยและถูกทีเดียวเลยครับ
อิ่มแล้วก็วิ่งต่อจะไปอุบลเลยแต่มืดมากก็เลยต้องแวะนอนพักที่ยโสธรแทนครับ ที่พักเอาแค่นอนอย่างเดียวเลยพักคืนละแค่ 250 เองครับอิอิ
เช้าขึ้นมาก็แวะหาอะไรทานที่ตลาดก่อนครับได้ทานขนมครกแปลก ๆ ที่มีแต่กะทิถ้าเราต้องการหวานเขามีน้ำตาลให้เติมเองครับก็ใช้ได้ถูกดีสิบบาทเองได้หลายคู่เลยครับ
อิ่มแล้วก็วิ่งต่อเลยครับที่เที่ยวขึ้นชื่อยโสธรก็ต้องนี่เลยครับ พระธาตุก่องข้าวน้อยครับ
ที่นี่มีคนมาเที่ยวเยอะนะครับแต่ทำไมไม่ค่อยพัฒนาให้ดูดีกว่านี้นะ
แล้วก็ไปต่อถึงอุบลก็หาของทานเลยครับเกือบเที่ยงพอดี แวะทานแหนมเนืองอาหารเวียดนามร้านดังครับ ร้านอินโดจีนครับแต่ราคานี่แพงกว่าที่เราทานที่กรุงเทพมากเลยนะเฮ้อ แต่ก็อร่อยคนละแบบกับที่เคยทานนะครับ แล้วก็ปฏิบัติการ IGO หาโรงแรมครับแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ว่างเลยครับสำหรับวันงานแห่เทียน ได้เฉพาะคืนที่เราถามเท่านั้นสรุปว่าพักที่ โรงแรมศรีอีสานครับ ห้องเยี่ยมราคาไม่แพงครับ 550 บาทรวมอาหารเช้าสองที่ครับ ที่นี่ผมชอบอาหารเวียดนามด้วยอร่อยครับ เมนูที่ชอบคือ ศรีอีสานมะละกออร่อยครับ คล้าย ๆ กับส้มตำไทย
แล้วเราก็ไปเที่ยวต่อกันที่แก่งสะพือ
เขื่อนปากมูล และผาแต้มครับ
เดินลงไปดูภาพผนังโบราณเหนื่อยเอาการเลยครับเดินเป็นกิโลลงหน้าผาไปแต่เดี๋ยวนี้เขาทำทางเดินค่อนข้างดีกว่าเมื่อก่อนนะครับไม่ได้มาแวะสิบปีละ
อ้อที่นี่เป็นอุทยานฯนะเสียค่าเข้าด้วยนะครับ อัตราค่าธรรมเนียมกรมอุทยานครับ //www.dnp.go.th/parkreserve/fee/feerate.asp?lg=1
ขากลับก็หลงอีกครับแวะกลับอีกเส้นนึงครับไม่ใช่ทางเดิมแต่ก็มาถึงอุบลเหมือนกันแต่ทางกำลังซ่อมอยู่ แต่ก็ดีไปอีกแบบก็คือได้เห็นอีกด้านของชีวิตชนบทครับ
รุ่งขึ้นก็มุ่งหน้าเข้าลาวผ่านทางด่านช่องเม็กครับ
ที่เห็นนี่ตึกยังไม่เสร็จนะครับถ้าเสร็จแล้วคงจะสะดวกขึ้นเหมือนด่านอื่น ๆ นะครับตอนแรกกังวลเหมือนกันครับว่าจะมีปัญหาอะไรไหมจะขาดเอกสารอะไรไหมจะยุ่งยากอะไรมากไหม แล้วก็ลุย ๆ ถามดะไปเรื่อย สุดท้ายก็เอาข้ามไปเที่ยวได้อย่างสบายใจครับ อิอิ
จะขับข้ามเข้าลาวอย่างแท้จริงหลังจากด่านนี้ที่ต้องไปลงทะเบียนกับศุลกากรลาวก่อน
แล้วประมาณ 44 โลเราก็มาถึงเมืองปากเซครับถนนที่ลาวใต้นี่เป็นถนนลาดยางสองเลนสวนวิ่งสบายครับรถน้อยไม่มีตำรวจมาจับความเร็วด้วยครับอิอิ แล้วก็หาของทานกันไปลงตัวที่ร้าน NS สุกี้ครับ
อาหารอร่อยทีเดียวเลยครับ แต่อาหารที่ลาวใต้นี่แพงครับตอนแรกนึกว่าจะถูกกว่าบ้านเราซะอีก เมนูแนะนำครับคือ สุกี้สำหรับมื้อเย็น 70000 กีบ แหนมเนือง 60000 กีบ และที่ผมชอบสุดก็ปอเปี๊ยะหรือที่นี่เรียกว่า จ๊ะหย่อ ครับ 30000 กีบ
อิ่มแล้วก็หาโรงแรมครับเช่นเดียวกับที่อุบลเต็มเกือบทุกที่เลยครับแต่ก็ยังดีไปได้ที่นึงครับห้องแอร์ราคา 400 บาท แต่จริง ๆ มันก็ไม่ร้อนนะครับห้องพัดลมแค่ 250 เองครับ มีที่ถามมาห้อง 100-150 พัดลมก็มีนะครับ ที่ผมเล็งไว้สำหรับทริปหน้าต้องที่นี่ครับ
ห้องแอร์ 500 บาทครับดูดีมาก ๆ ครับ แต่ว่าไปที่เมืองปากเซนี่ถ้าไม่ใช่เทศกาลก็มีให้เลือกเพียบเลยครับ วิ่งหาได้เลยครับ
เอ่อลืมบอกไปที่ลาวนี่มีด่านเก็บค่าผ่านทางเป็นจุด ๆ หลายจุดนะครับ จะเข้าเมือง ออกเมืองปากเซ เนี่ยคันละ 2000 กีบครับ
ได้ที่พักแล้วก็ลุยต่อเลยครับไปที่ใกล้ ๆ กันก่อนที่ตาดผาส้วมจากเมืองวิ่งมายี่สิบนาทีก็ถึงครับ
นี่เจ้าของสัมปะทานเป็นคนไทยมาลงทุนครับปรับแต่งจนดูดีน่าเที่ยวมากครับแต่ค่าที่พัก และอาหารนี่แพงไปหน่อยครับ เลยอุดหนุนแค่กาแฟ 10000 กีบกับน้ำแปลก ๆ ทีเขาแนะนำ 10000 กีบครับ
นี่เลยครับรูปทานไปแล้วครึ่งแก้วแต่ทานไม่หมดครับ
รสชาตคล้าย ๆ ฟักทองบดอ่ะซึ่งผมก็ไม่ค่อยชอบเลยแค่พอใช้ครับ
คุยสักพักเจ้าของก็แนะนำให้ไปแวะชมชีวิตหมู่บ้านชาวเขาที่นั่นครับ ดู ๆ แล้วเหมือนสร้างขึ้นนะได้ยินว่าแค่สิบนาทีเลยลองแวะที่ไหนได้ชั่วโมงกว่าเดินเมื่อยเลยครับ เลยไปน้ำตกตาดฟานดีกเลยไม่ทันได้เดินเที่ยวเลยครับ
มีช้างให้ขี่เที่ยว และให้อาหารครับ
ตัวนี้เขาบอกว่าอายุตั้ง 46 ปีแล้วนะเนี่ย ช้างนี่กินจุมาก ๆ เลยนะครับเห็นเขาว่าต้องให้วันนึงหลายเข่ง ไอ้ตอนเราซื้ออาหารให้จ่ายไปตั้ง 10000 กีบเขาจะให้เราป้อนตั้งหลายหวีเราก็ว่าแบ่งให้คนอื่นป้อนบ้าง กลัวว่าช้างจะทานมากไป แต่พอทราบปริมาณแล้วก็ป้อนแค่สองหวีพอครับ
บ้านแบบโฮมสเตย์ครับหัวละ 400 บาทต่อวันรวมอาหารเช้าเย็น
นี่ก็ที่ชุมนุมของหมู่บ้าน
มีช้างจริงก็มีช้างปลอมด้วย อิอิ
วันรุ่งขึ้นก็ต้องเติมน้ำมันครับที่นี่แพงกว่าเมืองไทยมากเพราะต้องนำเข้าจากพี่ไทยนี่แหละ อิอิ ดีเซลลิตรละ 30 กว่าบาทครับ วันนี้ต้องไปไกลเลยครับ คอนพะเพ็ง จากปากเซ 165 กม.แค่นั้นเอง
แวะทานข้าวเที่ยงที่นี่ก่อนเพราะนึกว่าใช่แต่ไม่ใช่ครับ อิอิ อาหารที่รีสอร์ทนี้ก็ไม่ได้แพงมากนะครับ
ภาพถ่ายคอนพะเพ็งจากบริเวณร้านค้าที่จอดรถครับ
แล้วนี่ก็จุดถ่ายภาพยอดฮิตที่ศาลาครับ พร้อมด้วยนางแบบน้องต้าร์ขาลุยครับ อิอิ
จริง ๆ แล้วควรไปต่อที่ด่านชายแดนลาวกัมพูชาใกล้ ๆ นะครับแต่ว่าเราก็ไม่ไปเพราะไม่รู้ และเวลาอาจไม่พอครับก็เลยไปต่อที่น้ำตกหลี่ผีครับ เขาว่าเป็น ไนแองการ่าแห่งเอเชียเชียวนะครับ อิอิ
จะไปที่นี่ต้องไปข้ามเรือนะครับที่บ้านนากะสังค์ รถข้ามไม่ได้ต้องฝากไว้ครับค่าฝากรถก็ 3000 กีบ ค่าเรือหางยาวคนละ 15000 กีบไปกลับครับเราเหมาลำ 50000 กีบครับ นี่จุดซื้อตั๋วที่ท่าเรือครับ
ให้ดูนายแบบและวิวบนเรือครับ อิอิ
เรือจะไปจอดที่บ้านดอนเดดครับ แล้วต้องนั่งรถที่เห็นนี้คนละ 15000 กีบนะ ถ้าไม่ถึง 10 คนต้องเหมา 150000 กีบครับเลยซวยครับต้องรออีกลุ่มมาเพื่อแจม
รถนี้จะวิ่งบนถนนที่ถมทับทางรถไปเดิมครับสมบุกสมบัน หั่วสั่นคลอน ฝุ่นตลบมาก ๆ ครับไม่เหมาะกับผู้สูงวัยที่สุขภาพไม่ค่อยดีแน่ ๆ ครับ อิอิ
บ้านพักบริเวณดอนเดด
ลงรถแล้วก็ต้องเดินไปที่น้ำตกอีกประมาณ 100 เมตรได้ครับ
ต้นไม้แปลกดีครับ
แล้วก็กลับที่พักครับที่นี่เวลามืดถนนไม่น่าวิ่งเท่าไรนะครับ ขนาดกลางวันยังต้องหลบพวกวัวควายแพะไก่ คน แมงไซ จักรยาน แบบว่าต้องเหยียบเบรคกระทันหันบ่อย ๆ เลย กลางคืนนี่ไม่ต้องคิดเลยครับ เกิดเหตุต่างบ้านนี่ไม่รู้ต้องโดนอะไรบ้างเลยต้องรีบกลับหน่อยครับ
ต่อครับวันนี้จะไปเที่ยววัดพู (Wat Phou) มรดกโลกเชียวนะครับเนี่ย ไปที่นี่ต้องเลี้ยวขวาที่ประมาณหลักสามสิบ (ก็ประมาณ 30 กิโลจากเมืองปากเซ) แล้ววิ่งไปเรื่อย ๆ ครับถึงท่าเรือป้ายบอกว่าถึงวัดพู 17 กิโลเมตรครับ ต้องเอารถข้ามเรือแบบเนี้ย เสียวมะอย่างนี้มันเสียวมะ อิอิ
เป็นแพรถยนต์ที่เขาเอาเรือสามลำมาต่อกันโดยแผ่นกระดานครับ ค่าเรือก็ 28000 กีบหรือ 100 บาทไม่มีเงินลาวจ่ายเงินไทยพี่เขาขอ 120 บาทเลยนะแต่ขากลับรู้ทันจ่ายเงินลาวเลย อิอิ
พอขึ้นท่าเรือก็เลี้ยวขวาวิ่งไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเดียวไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงครับ ที่นี่เสียค่าเข้าชมแพงมากครับคนละ 30000 กีบแหนะ คราวหน้าผมคงไม่มาละ อิอิ
เดินขึ้นไปทั้งไกลทั้งเหนื่อยทั้งร้อนเลยครับ ไม่น่าเชื่อครับมรดกโลกที่นี่มีการดูแลที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเลยครับ
เดินเข้ามาประมาณ 200 เมตรก็ถึงทางเข้าปราสาท
ขึ้นถึงจุดปราสาทแล้วครับ จริง ๆ ก็ยังมีบางส่วนด้านบนอีกนะครับ แต่ก็ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวกันครับเพราะดูไม่ค่อยน่าจะมีอะไรน่าสนใจครับ
ไหว้พระอิ่มบุญไปครับ ที่นี่เป็นที่นับถือของลาวมาก ๆ นะครับ
วิวด้านบนเห็นโครงสร้างคูเมืองด้วยสวยดี
วันนี้ที่นี่มีเวียนเทียนด้วยนะแต่ว่าก็ไม่ได้ออกไปหลอกครับติดละครอ่ะ อิอิ ที่นี่วันพระแต่งตัวสวยงามไปทำบุญกันครับ ร้านก็ปิดกันเยอะเลยครับเรามาแวะเที่ยวที่ตลาดปากเซก่อนกลับโรงแรมครับ
นี่ร้านกาแฟเดลต้า ร้านดังอีกร้านของที่นี่เห็นรถคนไทยจอดแวะทานกันเยอะเลยครับ อยู่ใกล้ ๆกับร้าน NS สุกี้ที่แนะนำไว้ก่อนหน้านี้เลยครับ
วันแห่เทียนพรรษาก็วิ่งกลับอุบลครับกว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้วก็แวะหาที่จอดครับ แล้วก็วนไปจอดที่ หน้าโรงแรมศรีอิสาณ ก็เลยทานข้าวที่นี่อีกเพราะติดใจครับ อิอิ
เพิ่งมารู้ว่ามาเที่ยวถ่ายภาพตอนกลางคืนก็ได้ครับไม่ร้อนด้วย แต่ก็เนอะกลางคืนก็ไม่ได้ดูสาว ๆ สวย ๆ ในขบวนซิ อิอิ
แล้วก็แวะดูวงโปงลางอย่างสนุกสนานทีเดียว แต่อยู่ร่วมดูได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ต้องเผ่นครับเพราะร้อนมาก
ไปหลงที่สถานีรถไปอุบลนิดหน่อยครับ
วิ่งกลับกรุงเทพแล้ว แต่ก็แวะเที่ยวเขาพระวิหารก่อนครับ
เราถึงเขาพระวิหารก็บ่ายสามกว่าแล้วครับแล้วยังเจอหมอกลงจัดอีก แต่ไม่เป็นไรถึงแล้วก็ต้องลุยเดินไปเหนือยมากกว่าถึงทางขึ้นก็เป็นกิโลแล้วนะ ต้องปืนขึ้นเขาอีก 4 ชั้นเหนื่อยมาก ๆ ครับ
น่าเสียดายนะครับถ้าอยู่ในความดูแลของไทยน่าจะดีกว่านี้มากครับ เสียค่าเข้าอุทยานเขาพระวิหารก่อน แล้วก็มาเสียค่าเข้าบริเวณชายแดนเขมรคนละ 5 บาท แล้วถ้าจะขึ้นเขาพระวิหารก็ต้องเสียอีกคนละ 50 บาทนะครับ
ขับกลับคาดหวังว่าเส้น 24 นี้จะเป็นสี่เลน แต่ที่ไหนได้สองเลนสวนตลอดวิ่งกลับบ้านมืด ๆ เสียวมาก ๆ ครับ ทางก็ซ่อมเป็นระยะนะเนี่ย มีดีหน่อยตรงช่วงโคราชแค่นั้นเองครับเฮ้อ ๆๆๆ กว่าจะถึงบ้านก็เที่ยงคืนกว่า ๆ ครับ จบทริปแบบเหนื่อยโคตร ๆ ครับ
Create Date : 07 สิงหาคม 2550
Last Update : 11 มกราคม 2551 16:59:08 น.
23 comments
Counter : 3014 Pageviews.
Share
Tweet
เริ่มด้วยการเตรียมตัวก่อนนะครับ ไปดูวิธีการนำรถข้ามไปลาวได้ที่นี่ครับ
//www.unlimit-travel.com/board/viewtopic.php?t=95
ที่ในเวบนี้ไม่ได้ลงคือเรื่องค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าประกันซึ่งจะแล้วแต่ชนิดรถ จำนวนผู้โดยสาร ฯ และที่ ๆ ไปครับแต่ว่ากันว่าไม่น่าเกินพันบาทครับส่วนผมจ่ายไป 700 บาทครับ แล้วก็เตรียมเผื่อค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ไปอีกนิดหน่อยนะครับ เช่นค่าธรรมเนียมนำรถเข้าออก ค่าเอกสาร ค่าธรรมเนียมเข้าลาว (ป้ายเขียน 5000กีบต่อท่าน แต่เจ้าหน้าที่เรียก 200 บาท 4 คน (อัตราแลกเปลี่ยนตอนนั้น 1บาท=280 กีบ)) ซึ่งที่ดูมาจากของคนอื่น ๆ กับที่เราจ่ายไม่ค่อยตรงกันก็ไม่รู้มันมีมาตรฐานหรือเปล่าแต่ไม่คิดมากครับอยากเที่ยวจ่ายอีกไม่กี่ตังค์แลกกับความสะดวกครับ
แล้วก็แผนที่ลาวครับ //www.ecotourismlaos.com/maps.htm ส่วนผมก็ใช้มันหมดรวมทั้ง googleearth+Goops GPS ด้วย อิอิ
แล้วเช่นเคยครับแหล่งข้อมูลหลักผมก็ต้อง 3 webs นี้ครับ //www.wutkate.com //www.trekkingthai.com //www.pantip.com/cafe/blueplanet
สรุปโปรแกรมนี้ก็เดินทางด้วยรถยนต์ไปตามเส้นทางชัยภูมิเพื่อแวะทุ่งดอกกระเจียว แล้ววิ่งตัดไปทางเส้น 23 ผ่านมหาสารคาม ยโสธรเข้าเที่ยวที่อุบล ข้ามไปลาวใต้ ดูงานแห่เทียนพรรษา แล้ววิ่งกลับเส้น 24 แวะเที่ยวเขาพระวิหารครับ ค่าใช้จ่ายหลักจะหนักไปที่น้ำมันนะครับ อิอิประมาณห้าหกพันบาท ค่าอาหารรองมาครับเฉลี่ยมื้อละสามถึงสี่ร้อยบาทเพราะสำหรับผมเรื่องกินเท่าไรเท่ากันขอให้อร่อย อิอิ ค่าโรงแรมสองพันกว่า@400บาท แล้วก็ค่าเข้าที่เที่ยวต่าง ๆ ครับโดยเฉพาะที่ลาวใต้นี่เก็บจังเลยครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:15:56:26 น.
เริ่มเลยนะครับตอนแรกว่าจะออกแต่เช้ามืดเพื่อไปดูดอกกระเจียวแต่ไม่ไหวครับเลยออกจากบ้านเกือบเก้าโมงเช้าแหนะ แวะเที่ยวที่แรกก่อนนะครับทุ่งดอกกระเจียว ที่ป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิครับ
ว่าจะไปเที่ยวอุทยานฯไทรทองต่อแต่ร้อนมากครับไม่ไหวเลยจะวิ่งต่อไปอุบลเลยดีกว่า ระหว่างทางก็แวะเที่ยวอนุเสาวรีย์ที่ชัยภูมิครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:15:58:57 น.
ไม่รู้เพื่อน ๆ เป็นกันไหมเวลาวิ่งตามเส้นทางนี่ผ่านเมืองทีไรหลงทุกที แปลกแต่จริงครับทางหลวงบ้านเราเลขเดียวกันมีไม่รู้กี่ถนนเพราะตัดเลี่ยงเมืองเก่าบ้างใหม่บ้าง ป้ายผิดบ้างพังบ้าง เฮ้อ สุดท้ายก็ใช้ IGO GPS Navigator มาช่วยครับแต่เนื่องจากแบต PCC มีน้อยเลยต้องคอยเปิดเวลาวิ่งผ่านเมืองเพื่อให้มันนำทางเท่านั้น แต่บางครั้งก็ไม่วายต้องใช้ปากถามทางบ้างครับแต่วันหลัง ๆ นี่คล่องแล้วใช้ดูแผนที่ประกอบการตัดสินใจไม่เชื่อ IGO ทั้งหมดหรอก อิอิ
วิ่งไปเรื่อยจนเย็นก็หิวแล้วเลยแวะทานข้าวที่ร้อยเอ็ดครับ มีคู่มือร้านอร่อยทั่วไทยของปตท.ลองหาแล้วไม่เจอสักที IGO ก็มีไม่หมดสุดท้ายก็ใช้ดูแผนที่เอาและก็กะ ๆ เอาแล้วก็ได้ผลครับมาลงตัวที่ร้านข้าวต้มคนเห็นคับ อร่อยและถูกทีเดียวเลยครับ
อิ่มแล้วก็วิ่งต่อจะไปอุบลเลยแต่มืดมากก็เลยต้องแวะนอนพักที่ยโสธรแทนครับ ที่พักเอาแค่นอนอย่างเดียวเลยพักคืนละแค่ 250 เองครับอิอิ
เช้าขึ้นมาก็แวะหาอะไรทานที่ตลาดก่อนครับได้ทานขนมครกแปลก ๆ ที่มีแต่กะทิถ้าเราต้องการหวานเขามีน้ำตาลให้เติมเองครับก็ใช้ได้ถูกดีสิบบาทเองได้หลายคู่เลยครับ
อิ่มแล้วก็วิ่งต่อเลยครับที่เที่ยวขึ้นชื่อยโสธรก็ต้องนี่เลยครับ พระธาตุก่องข้าวน้อยครับ
ที่นี่มีคนมาเที่ยวเยอะนะครับแต่ทำไมไม่ค่อยพัฒนาให้ดูดีกว่านี้นะ
แล้วก็ไปต่อถึงอุบลก็หาของทานเลยครับเกือบเที่ยงพอดี แวะทานแหนมเนืองอาหารเวียดนามร้านดังครับ ร้านอินโดจีนครับแต่ราคานี่แพงกว่าที่เราทานที่กรุงเทพมากเลยนะเฮ้อ แต่ก็อร่อยคนละแบบกับที่เคยทานนะครับ แล้วก็ปฏิบัติการ IGO หาโรงแรมครับแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ว่างเลยครับสำหรับวันงานแห่เทียน ได้เฉพาะคืนที่เราถามเท่านั้นสรุปว่าพักที่ โรงแรมศรีอีสานครับ ห้องเยี่ยมราคาไม่แพงครับ 550 บาทรวมอาหารเช้าสองที่ครับ ที่นี่ผมชอบอาหารเวียดนามด้วยอร่อยครับ เมนูที่ชอบคือ ศรีอีสานมะละกออร่อยครับ คล้าย ๆ กับส้มตำไทย
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:02:16 น.
แล้วเราก็ไปเที่ยวต่อกันที่แก่งสะพือ
เขื่อนปากมูล และผาแต้มครับ
เดินลงไปดูภาพผนังโบราณเหนื่อยเอาการเลยครับเดินเป็นกิโลลงหน้าผาไปแต่เดี๋ยวนี้เขาทำทางเดินค่อนข้างดีกว่าเมื่อก่อนนะครับไม่ได้มาแวะสิบปีละ
อ้อที่นี่เป็นอุทยานฯนะเสียค่าเข้าด้วยนะครับ อัตราค่าธรรมเนียมกรมอุทยานครับ //www.dnp.go.th/parkreserve/fee/feerate.asp?lg=1
ขากลับก็หลงอีกครับแวะกลับอีกเส้นนึงครับไม่ใช่ทางเดิมแต่ก็มาถึงอุบลเหมือนกันแต่ทางกำลังซ่อมอยู่ แต่ก็ดีไปอีกแบบก็คือได้เห็นอีกด้านของชีวิตชนบทครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:05:14 น.
รุ่งขึ้นก็มุ่งหน้าเข้าลาวผ่านทางด่านช่องเม็กครับ
ที่เห็นนี่ตึกยังไม่เสร็จนะครับถ้าเสร็จแล้วคงจะสะดวกขึ้นเหมือนด่านอื่น ๆ นะครับตอนแรกกังวลเหมือนกันครับว่าจะมีปัญหาอะไรไหมจะขาดเอกสารอะไรไหมจะยุ่งยากอะไรมากไหม แล้วก็ลุย ๆ ถามดะไปเรื่อย สุดท้ายก็เอาข้ามไปเที่ยวได้อย่างสบายใจครับ อิอิ
จะขับข้ามเข้าลาวอย่างแท้จริงหลังจากด่านนี้ที่ต้องไปลงทะเบียนกับศุลกากรลาวก่อน
แล้วประมาณ 44 โลเราก็มาถึงเมืองปากเซครับถนนที่ลาวใต้นี่เป็นถนนลาดยางสองเลนสวนวิ่งสบายครับรถน้อยไม่มีตำรวจมาจับความเร็วด้วยครับอิอิ แล้วก็หาของทานกันไปลงตัวที่ร้าน NS สุกี้ครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:07:30 น.
อาหารอร่อยทีเดียวเลยครับ แต่อาหารที่ลาวใต้นี่แพงครับตอนแรกนึกว่าจะถูกกว่าบ้านเราซะอีก เมนูแนะนำครับคือ สุกี้สำหรับมื้อเย็น 70000 กีบ แหนมเนือง 60000 กีบ และที่ผมชอบสุดก็ปอเปี๊ยะหรือที่นี่เรียกว่า จ๊ะหย่อ ครับ 30000 กีบ
อิ่มแล้วก็หาโรงแรมครับเช่นเดียวกับที่อุบลเต็มเกือบทุกที่เลยครับแต่ก็ยังดีไปได้ที่นึงครับห้องแอร์ราคา 400 บาท แต่จริง ๆ มันก็ไม่ร้อนนะครับห้องพัดลมแค่ 250 เองครับ มีที่ถามมาห้อง 100-150 พัดลมก็มีนะครับ ที่ผมเล็งไว้สำหรับทริปหน้าต้องที่นี่ครับ
ห้องแอร์ 500 บาทครับดูดีมาก ๆ ครับ แต่ว่าไปที่เมืองปากเซนี่ถ้าไม่ใช่เทศกาลก็มีให้เลือกเพียบเลยครับ วิ่งหาได้เลยครับ
เอ่อลืมบอกไปที่ลาวนี่มีด่านเก็บค่าผ่านทางเป็นจุด ๆ หลายจุดนะครับ จะเข้าเมือง ออกเมืองปากเซ เนี่ยคันละ 2000 กีบครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:09:30 น.
ได้ที่พักแล้วก็ลุยต่อเลยครับไปที่ใกล้ ๆ กันก่อนที่ตาดผาส้วมจากเมืองวิ่งมายี่สิบนาทีก็ถึงครับ
ที่นี่เจ้าของสัมปะทานเป็นคนไทยมาลงทุนครับปรับแต่งจนดูดีน่าเที่ยวมากครับแต่ค่าที่พัก และอาหารนี่แพงไปหน่อยครับ เลยอุดหนุนแค่กาแฟ 10000 กีบกับน้ำแปลก ๆ ทีเขาแนะนำ 10000 กีบครับ
นี่เลยครับรูปทานไปแล้วครึ่งแก้วแต่ทานไม่หมดครับ
รสชาตคล้าย ๆ ฟักทองบดอ่ะซึ่งผมก็ไม่ค่อยชอบเลยแค่พอใช้ครับ
คุยสักพักเจ้าของก็แนะนำให้ไปแวะชมชีวิตหมู่บ้านชาวเขาที่นั่นครับ ดู ๆ แล้วเหมือนสร้างขึ้นนะได้ยินว่าแค่สิบนาทีเลยลองแวะที่ไหนได้ชั่วโมงกว่าเดินเมื่อยเลยครับ เลยไปน้ำตกตาดฟานดีกเลยไม่ทันได้เดินเที่ยวเลยครับ
มีช้างให้ขี่เที่ยว และให้อาหารครับ
ตัวนี้เขาบอกว่าอายุตั้ง 46 ปีแล้วนะเนี่ย ช้างนี่กินจุมาก ๆ เลยนะครับเห็นเขาว่าต้องให้วันนึงหลายเข่ง ไอ้ตอนเราซื้ออาหารให้จ่ายไปตั้ง 10000 กีบเขาจะให้เราป้อนตั้งหลายหวีเราก็ว่าแบ่งให้คนอื่นป้อนบ้าง กลัวว่าช้างจะทานมากไป แต่พอทราบปริมาณแล้วก็ป้อนแค่สองหวีพอครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:12:21 น.
บ้านแบบโฮมสเตย์ครับหัวละ 400 บาทต่อวันรวมอาหารเช้าเย็น
นี่ก็ที่ชุมนุมของหมู่บ้าน
มีช้างจริงก็มีช้างปลอมด้วย อิอิ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:16:06 น.
วันรุ่งขึ้นก็ต้องเติมน้ำมันครับที่นี่แพงกว่าเมืองไทยมากเพราะต้องนำเข้าจากพี่ไทยนี่แหละ อิอิ ดีเซลลิตรละ 30 กว่าบาทครับ วันนี้ต้องไปไกลเลยครับ คอนพะเพ็ง จากปากเซ 165 กม.แค่นั้นเอง
แวะทานข้าวเที่ยงที่นี่ก่อนเพราะนึกว่าใช่แต่ไม่ใช่ครับ อิอิ อาหารที่รีสอร์ทนี้ก็ไม่ได้แพงมากนะครับ
ภาพถ่ายคอนพะเพ็งจากบริเวณร้านค้าที่จอดรถครับ
แล้วนี่ก็จุดถ่ายภาพยอดฮิตที่ศาลาครับ
พร้อมด้วยนางแบบน้องต้าร์ขาลุยครับ อิอิ
จริง ๆ แล้วควรไปต่อที่ด่านชายแดนลาวกัมพูชาใกล้ ๆ นะครับแต่ว่าเราก็ไม่ไปเพราะไม่รู้ และเวลาอาจไม่พอครับก็เลยไปต่อที่น้ำตกหลี่ผีครับ เขาว่าเป็น ไนแองการ่าแห่งเอเชียเชียวนะครับ อิอิ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:20:05 น.
จะไปที่นี่ต้องไปข้ามเรือนะครับที่บ้านนากะสังค์ รถข้ามไม่ได้ต้องฝากไว้ครับค่าฝากรถก็ 3000 กีบ ค่าเรือหางยาวคนละ 15000 กีบไปกลับครับเราเหมาลำ 50000 กีบครับ นี่จุดซื้อตั๋วที่ท่าเรือครับ
ให้ดูนายแบบและวิวบนเรือครับ อิอิ
เรือจะไปจอดที่บ้านดอนเดดครับ แล้วต้องนั่งรถที่เห็นนี้คนละ 15000 กีบนะ ถ้าไม่ถึง 10 คนต้องเหมา 150000 กีบครับเลยซวยครับต้องรออีกลุ่มมาเพื่อแจม
รถนี้จะวิ่งบนถนนที่ถมทับทางรถไปเดิมครับสมบุกสมบัน หั่วสั่นคลอน ฝุ่นตลบมาก ๆ ครับไม่เหมาะกับผู้สูงวัยที่สุขภาพไม่ค่อยดีแน่ ๆ ครับ อิอิ
บ้านพักบริเวณดอนเดด
ลงรถแล้วก็ต้องเดินไปที่น้ำตกอีกประมาณ 100 เมตรได้ครับ
ต้นไม้แปลกดีครับ
คงเดาได้ไม่ยากนะว่าเขียนว่าอะไร
แล้วก็กลับที่พักครับที่นี่เวลามืดถนนไม่น่าวิ่งเท่าไรนะครับ ขนาดกลางวันยังต้องหลบพวกวัวควายแพะไก่ คน แมงไซ จักรยาน แบบว่าต้องเหยียบเบรคกระทันหันบ่อย ๆ เลย กลางคืนนี่ไม่ต้องคิดเลยครับ เกิดเหตุต่างบ้านนี่ไม่รู้ต้องโดนอะไรบ้างเลยต้องรีบกลับหน่อยครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:25:45 น.
ต่อครับวันนี้จะไปเที่ยววัดพู (Wat Phou) มรดกโลกเชียวนะครับเนี่ย ไปที่นี่ต้องเลี้ยวขวาที่ประมาณหลักสามสิบ (ก็ประมาณ 30 กิโลจากเมืองปากเซ) แล้ววิ่งไปเรื่อย ๆ ครับถึงท่าเรือป้ายบอกว่าถึงวัดพู 17 กิโลเมตรครับ ต้องเอารถข้ามเรือแบบเนี้ย เสียวมะอย่างนี้มันเสียวมะ อิอิ
เป็นแพรถยนต์ที่เขาเอาเรือสามลำมาต่อกันโดยแผ่นกระดานครับ ค่าเรือก็ 28000 กีบหรือ 100 บาทไม่มีเงินลาวจ่ายเงินไทยพี่เขาขอ 120 บาทเลยนะแต่ขากลับรู้ทันจ่ายเงินลาวเลย อิอิ
พอขึ้นท่าเรือก็เลี้ยวขวาวิ่งไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเดียวไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงครับ
ที่นี่เสียค่าเข้าชมแพงมากครับคนละ 30000 กีบแหนะ คราวหน้าผมคงไม่มาละ อิอิ
เดินขึ้นไปทั้งไกลทั้งเหนื่อยทั้งร้อนเลยครับ ไม่น่าเชื่อครับมรดกโลกที่นี่มีการดูแลที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเลยครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:29:40 น.
เดินเข้ามาประมาณ 200 เมตรก็ถึงทางเข้าปราสาท
ขึ้นถึงจุดปราสาทแล้วครับ จริง ๆ ก็ยังมีบางส่วนด้านบนอีกนะครับ แต่ก็ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวกันครับเพราะดูไม่ค่อยน่าจะมีอะไรน่าสนใจครับ
ไหว้พระอิ่มบุญไปครับ ที่นี่เป็นที่นับถือของลาวมาก ๆ นะครับ
วิวด้านบนเห็นโครงสร้างคูเมืองด้วยสวยดี
วันนี้
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:36:40 น.
เดินเข้ามาประมาณ 200 เมตรก็ถึงทางเข้าปราสาท
ขึ้นถึงจุดปราสาทแล้วครับ จริง ๆ ก็ยังมีบางส่วนด้านบนอีกนะครับ แต่ก็ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวกันครับเพราะดูไม่ค่อยน่าจะมีอะไรน่าสนใจครับ
ไหว้พระอิ่มบุญไปครับ ที่นี่เป็นที่นับถือของลาวมาก ๆ นะครับ
วิวด้านบนเห็นโครงสร้างคูเมืองด้วยสวยดี
วันนี้ที่นี่มีเวียนเทียนด้วยนะแต่ว่าก็ไม่ได้ออกไปหลอกครับติดละครอ่ะ อิอิ ที่นี่วันพระแต่งตัวสวยงามไปทำบุญกันครับ ร้านก็ปิดกันเยอะเลยครับเรามาแวะเที่ยวที่ตลาดปากเซก่อนกลับโรงแรมครับ
ดูที่นั่งพิเศษน้องต้าร์ครับ First class อิอิ
กบครับ
ผักครับ
เสื้อผ้า เครื่องมือช่าง ของเล่น ฯลฯ ที่เราเห็นขายกันทั่วไปตามชายแดนครับ ถาม ๆ ดูราคาก็แพงกว่าบ้านเราครับ ถามไปเขาก็ว่ารับจากไทยมาขายนี่แหละ
ร้านทอง เครื่องประดับก็เยอะนะครับ ในตลาดมีเครื่องเล่นพวก รถบั๊มบ์ บอลลูนด้วยนะครับ
นี่ร้านกาแฟเดลต้า ร้านดังอีกร้านของที่นี่เห็นรถคนไทยจอดแวะทานกันเยอะเลยครับ อยู่ใกล้ ๆกับร้าน NS สุกี้ที่แนะนำไว้ก่อนหน้านี้เลยครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:36:53 น.
วันแห่เทียนพรรษาก็วิ่งกลับอุบลครับกว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้วก็แวะหาที่จอดครับ แล้วก็วนไปจอดที่ หน้าโรงแรมศรีอิสาณ ก็เลยทานข้าวที่นี่อีกเพราะติดใจครับ อิอิ
เพิ่งมารู้ว่ามาเที่ยวถ่ายภาพตอนกลางคืนก็ได้ครับไม่ร้อนด้วย แต่ก็เนอะกลางคืนก็ไม่ได้ดูสาว ๆ สวย ๆ ในขบวนซิ อิอิ
แล้วก็แวะดูวงโปงลางอย่างสนุกสนานทีเดียว แต่อยู่ร่วมดูได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ต้องเผ่นครับเพราะร้อนมาก
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:41:41 น.
วันแห่เทียนพรรษาก็วิ่งกลับอุบลครับกว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้วก็แวะหาที่จอดครับ แล้วก็วนไปจอดที่ หน้าโรงแรมศรีอิสาณ ก็เลยทานข้าวที่นี่อีกเพราะติดใจครับ อิอิ
เพิ่งมารู้ว่ามาเที่ยวถ่ายภาพตอนกลางคืนก็ได้ครับไม่ร้อนด้วย แต่ก็เนอะกลางคืนก็ไม่ได้ดูสาว ๆ สวย ๆ ในขบวนซิ อิอิ
แล้วก็แวะดูวงโปงลางอย่างสนุกสนานทีเดียว แต่อยู่ร่วมดูได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ต้องเผ่นครับเพราะร้อนมาก
วิ่งกลับกรุงเทพเลยครับแต่แวะเที่ยวเขาพระวิหารก่อนครับ
เราถึงเขาพระวิหารก็บ่ายสามกว่าแล้วครับแล้วยังเจอหมอกลงจัดอีก แต่ไม่เป็นไรถึงแล้วก็ต้องลุยเดินไปเหนือยมากกว่าถึงทางขึ้นก็เป็นกิโลแล้วนะ ต้องปืนขึ้นเขาอีก 4 ชั้นเหนื่อยมาก ๆ ครับ
น่าเสียดายนะครับถ้าอยู่ในความดูแลของไทยน่าจะดีกว่านี้มากครับ
เสียค่าเข้าอุทยานเขาพระวิหารก่อน แล้วก็มาเสียค่าเข้าบริเวณชายแดนเขมรคนละ 5 บาท แล้วถ้าจะขึ้นเขาพระวิหารก็ต้องเสียอีกคนละ 50 บาทนะครับ
ขับกลับคาดหวังว่าเส้น 24 นี้จะเป็นสี่เลน แต่ที่ไหนได้สองเลนสวนตลอดวิ่งกลับบ้านมืด ๆ เสียวมาก ๆ ครับ ทางก็ซ่อมเป็นระยะนะเนี่ย มีดีหน่อยตรงช่วงโคราชแค่นั้นเองครับเฮ้อ ๆๆๆ กว่าจะถึงบ้านก็เที่ยงคืนกว่า ๆ ครับ จบทริปแบบเหนื่อยโคตร ๆ ครับ
โดย:
ok3
วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:41:50 น.
แวะมาชมคะ plan กะพี่ๆ น้องๆ ว่าจะไปเที่ยวกันปลายปีอยู่เหมือนกันคะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ จะได้เป็นแนวค่ะ
โดย: mam (
mamminnie
) วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:17:50:49 น.
ตามมาเที่ยวด้วย
ขอบคุณข้อมูลค่า
โดย: หมวยน้อยร้อยชั่ง IP: 117.47.33.246 วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:18:07:35 น.
สะบายดี
ฝากไว้ก่อนปะเทดลาว
เอาไว้เราเจอกัน
อยากไปเที่ยวแบบนี้มั่งจัง
โดย:
ชมจันทร์
วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:13:28:17 น.
ตามมาเที่ยวด้วยเช่นกันคะ ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย ก็ดูๆ ภาพ เอา ^^
โดย:
อ่อนโยน 2006
วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:15:21:43 น.
เอาที่อยู่และเบอร์ติดต่อของที่พักที่ผมไปมาฝากครับ
โรงแรมศรีอิสาณ ที่อุบลราชธานี //www.sriisanhotel.com/
62 Phadeang Rd. Ubonratchathani 34000 Thailand
Tel : +66 045-261011 Fax : +66 045-261015
Contact us :Info@Sriisanhotel.com
โรงแรมลาวเจริญ LAO CHALEUN HOTEL ที่ผมพักครับ
Road 06 + 04 Watluang Village Pakse Chapasak Lao PDR.
Tel. 856 (31) 251 333 FAX 856 (31) 251138
โรงแรมแสงอรุณ SANG A ROUN HOTEL ที่ผมคิดว่าน่าสนใจที่สุดครับ
No.13 South Rd., Pakse Chapasak Lao PDR.
Tel. 031-252111 Fax. 031-252555
โดย: ok3 IP: 124.120.122.40 วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:10:16:05 น.
ไฮดซมักมักมัก
โดย: คนจะไปลาว IP: 61.7.133.57 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:14:20:06 น.
//prsty.spaces.live.com/
เปิดอ่านจากห้องBlue planetทีแรกจำไม่ได้
ตามมาอ่านในบล็อกถึงได้ถึงบางอ้อ
ลองอ่านนิวซีแลนด์ของผมดูนะครับ
พิริยะ
โดย: มาเยี่ยมทักทายครับ IP: 58.8.16.152 วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:23:44:43 น.
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ที่เที่ยวในฟิลิปปินส์ ครับ
โดย: อั้ม IP: 58.10.71.199 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:21:23:08 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ok3
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Group Blog
ขับรถตะลุยต่างแดน
เที่ยวไปในสองฮา ฮานอย ฮาลองเบย์
เกาหลีใต้แดนฝันละครดัง
ดำน้ำลึก
โอ้ ทะเล แสนงาม
น้ำตก ป่า เขา ดอย
เที่ยววัด โบราณสถาน ตึก สิ่งปลูกสร้าง
ท่องแดนมังกร จีน
โรคกับดวงตา
All Blogs
ต้าลี่ ลี่เจียง เชียงกรีลา คุนหมิง เชียงรุ้ง (จอดรถหน้าด่านบ่เต็น)
ขับรถเองตะลุยมาเลเซีย สิงคโปร์ ไม่ยากอย่างที่คิด
ข้อมูลขับรถข้ามไทยมาเลเซียสิงคโปร์
ขับรถวนรอบลาวเหนือ เชียงใหม่ เชียงของ ห้วยทราย หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์
ลาวใต้ขับรถลุยโลด
Friends' blogs
k.j
L@st love
Webmaster - BlogGang
[Add ok3's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
//www.unlimit-travel.com/board/viewtopic.php?t=95
ที่ในเวบนี้ไม่ได้ลงคือเรื่องค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าประกันซึ่งจะแล้วแต่ชนิดรถ จำนวนผู้โดยสาร ฯ และที่ ๆ ไปครับแต่ว่ากันว่าไม่น่าเกินพันบาทครับส่วนผมจ่ายไป 700 บาทครับ แล้วก็เตรียมเผื่อค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ไปอีกนิดหน่อยนะครับ เช่นค่าธรรมเนียมนำรถเข้าออก ค่าเอกสาร ค่าธรรมเนียมเข้าลาว (ป้ายเขียน 5000กีบต่อท่าน แต่เจ้าหน้าที่เรียก 200 บาท 4 คน (อัตราแลกเปลี่ยนตอนนั้น 1บาท=280 กีบ)) ซึ่งที่ดูมาจากของคนอื่น ๆ กับที่เราจ่ายไม่ค่อยตรงกันก็ไม่รู้มันมีมาตรฐานหรือเปล่าแต่ไม่คิดมากครับอยากเที่ยวจ่ายอีกไม่กี่ตังค์แลกกับความสะดวกครับ
แล้วก็แผนที่ลาวครับ //www.ecotourismlaos.com/maps.htm ส่วนผมก็ใช้มันหมดรวมทั้ง googleearth+Goops GPS ด้วย อิอิ
แล้วเช่นเคยครับแหล่งข้อมูลหลักผมก็ต้อง 3 webs นี้ครับ //www.wutkate.com //www.trekkingthai.com //www.pantip.com/cafe/blueplanet
สรุปโปรแกรมนี้ก็เดินทางด้วยรถยนต์ไปตามเส้นทางชัยภูมิเพื่อแวะทุ่งดอกกระเจียว แล้ววิ่งตัดไปทางเส้น 23 ผ่านมหาสารคาม ยโสธรเข้าเที่ยวที่อุบล ข้ามไปลาวใต้ ดูงานแห่เทียนพรรษา แล้ววิ่งกลับเส้น 24 แวะเที่ยวเขาพระวิหารครับ ค่าใช้จ่ายหลักจะหนักไปที่น้ำมันนะครับ อิอิประมาณห้าหกพันบาท ค่าอาหารรองมาครับเฉลี่ยมื้อละสามถึงสี่ร้อยบาทเพราะสำหรับผมเรื่องกินเท่าไรเท่ากันขอให้อร่อย อิอิ ค่าโรงแรมสองพันกว่า@400บาท แล้วก็ค่าเข้าที่เที่ยวต่าง ๆ ครับโดยเฉพาะที่ลาวใต้นี่เก็บจังเลยครับ