แวะมาติดตามสถานการณ์ด้วยคนค่ะ ไม่ค่อยน่าไว้ใจเลย

รายใหญ่ช้อนหุ้นรอเด้ง

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2550
โพสต์ทูเดย์ — รายใหญ่ประสานเสียง ตั้งท่ารอทยอยเก็บหุ้นหลุด 800 “เสี่ยปู่” ชอบกลุ่ม ปตท. เล็งซื้อตัว พี/อีต่ำกว่า 9 เท่า ส่วน “เสี่ยยักษ์” แนะเลือกหุ้นตัวเล็ก

นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือ “เสี่ยปู่” นักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงรุนแรงจากผลกระทบของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ (ซับไพรม์) ของสหรัฐ ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานในกลุ่ม ปตท. (PTT) ปรับตัวลงแรง ซึ่งเป็นจังหวะที่เข้ารับ โดยแนะนำให้ดูอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ของหุ้นแต่ละตัวเป็นหลัก หากต่ำกว่า 9 เท่า แนะนำซื้อ

หุ้นแนะนำซื้อ เช่น หุ้นเรือ ที่ได้รับผลดีจากค่าระวาง หุ้นโรงกลั่นระยอง (RRC) และ อะโรเมติกส์ (ATC) ที่ได้ประโยชน์จากการควบรวม รวมทั้งหุ้น ปตท. (PTT) ลงมา 270-280 บาท ทยอยซื้อ

เสี่ยปู่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เข้าไปลงทุนสั้นๆ และขายทำกำไรออกไป 400-500 ล้านบาท หรือ 20% ของพอร์ต ส่วนหุ้นที่ถือลงทุนระยะยาวบางตัวขึ้นมาแรงได้ขายออกไปแล้วรอรับกลับ

“ผมไม่ได้มองว่าฝรั่งขายแล้วแย่ ถ้าราคาหุ้นตัวนั้นๆ ไม่แพงก็น่าซื้อกลับ ซึ่งดัชนีมีโอกาสลงได้อีก แต่ให้เลือกซื้อเป็นรายตัว” เสี่ยปู่ กล่าว

นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือเสี่ยยักษ์ นักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า ต่างชาติจะไม่กลับมาลงทุนง่ายๆ เนื่องจากผลกระทบการขายหุ้นรอบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียอย่างเดียวเท่านั้น

สำหรับนายวิชัยและนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ ได้ระบายหุ้นออกไปก่อนหน้านี้ในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นมาแถว 900 จุด และคิดว่าดัชนีที่ลงมาต่ำแถว 800 จุด ยังไม่ถึงเวลาซื้อ

“รายใหญ่ที่ระบายหุ้นออกไปแล้ว ออกเลย พูดตรงๆ ก็คือ พักเลย ถึงเวลานี้ขอนับเงินดีกว่า ต้องยอมรับกันว่าหุ้นขึ้นรอบนี้ด้วยเงินต่างชาติที่ไหลเข้ามา เวลาหายไปเสียหายมหาศาล นักลงทุนทั่วโลกจนหมด ความเชื่อมั่นตอนนี้หายไปหมดแล้ว” เสี่ยยักษ์กล่าว

นักลงทุนรายใหญ่กล่าวอีกว่า ผลของซับไพรม์ทำให้นักลงทุนเสียหายหมด โดยเฉพาะเสี่ยยักษ์ เสียหายจากราคาหุ้นที่ขึ้นไปสูงสุดถึงปัจจุบัน คิดเป็นสัดส่วน 4% ของราคาหุ้น

“ตลาดหุ้นดีๆ นกกระจอกโดนยิงตายทีละตัวก็ไม่น่ากลัว แต่หุ้นตกเที่ยวนี้นกกระจาบตายเป็นฝูง ถูกแหครอบ ไม่มีใครรอด”

นักลงทุนมองแนวโน้มจากนี้ไปว่า ตลาดหุ้นจะไม่วิ่งขึ้นต่อเนื่อง แต่จะเป็นลักษณะปิงปอง เล่นโต้-ไปมา เทคนิคการลงทุนให้ซื้อเพื่อรอการเด้งช่วงสั้นๆ และให้ทยอยรับ 20% ของเงินลงทุน โดยเลือกหุ้นตัวเล็กพื้นฐานดี แต่ไม่ใช่หุ้นเล็กเก็งกำไร และห้ามซื้อหุ้นที่ต่างชาติซื้อขายเด็ดขาด

นายยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม หรือเสี่ยยง กล่าวว่า ช่วงนี้ได้หยุดลงทุนและรอดูสถานการณ์ตลาดหุ้นสหรัฐเป็นหลัก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ รวมไปถึงราคาน้ำมันด้วย โดยตลาดหุ้นขณะนี้มีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก ทั้งซับไพรม์ของสหรัฐ ราคาน้ำมัน การขายหุ้นทั่วตลาดหุ้นเอเชีย

“ตลาดหุ้นลงเร็วแรง จาก 900 จุด มา 800 จุด โอกาสรีบาวด์ (ฟื้นตัว) มี แต่ที่ตลาดไม่รีบาวด์ ต้องหยุดและกลับมาคิดใหม่ ซึ่งตอนนี้ไม่แน่ใจว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะหยุด (ตก) เมื่อไร ที่น่าห่วงการลดพอร์ตขายหุ้นทั่วตลาดเอเชียของต่างชาติ โอกาสที่ดัชนีจะไป 900 จุด จากนี้ไม่ง่าย รวมถึงราคาน้ำมันที่ผันผวน แต่ไม่รุนแรงเป็นขาลง จะมีส่วนช่วยให้ตลาดกลับขึ้นมาได้ช่วงสั้น หุ้นพลังงานในกลุ่ม ปตท. ทุกตัวจึง น่าซื้อ” นายยรรยง กล่าว

สำหรับดัชนีวันที่ 7 ส.ค. เปิดตลาดเด้งขึ้นไปบวก 7.38 จุด อยู่ที่ 823.25 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวัน ก่อนจะมีแรงขายออกมาต่อเนื่องทุบดัชนีร่วงเกือบ 10 จุด กระทั่งมีแรงซื้อหุ้นแบงก์และหุ้นพลังงานกระเตื้องขึ้นปิดตลาด 814.40 จุด ลดลง 1.47 จุด มูลค่าซื้อขาย 16,937.29 จุด

ต่างชาติขายหนักต่อเนื่องมียอดสุทธิ 2,609 ล้านบาท, สถาบันซื้อ 964 ล้านบาท และรายย่อยซื้อ 1,645 ล้านบาท


Key word
เสี่ยปู่ (นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล)
เสี่ยยักษ์ (นายวิชัย วชิรพงศ์ )
เสี่ยยง (นายยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม)