กาแฟหอมกรุ่น รุ่งอรุ่นยามเช้า
Group Blog
 
All blogs
 

Japan farmer






















 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2550 11:24:53 น.
Counter : 494 Pageviews.  

นักบินอวกาศ+นายแพทย์+นายแบบ !!!

ดร.เชค มุสซาฟาร์ ชูกอร์ นักบินอวกาศชาวมาเลเซีย (AGE: 35)
ที่เป็นทั้งแพทย์และนายแบบปรากฎตัวต่อสาธารณชนที่เมืองสตาร์ซิตี รัสเซีย
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังปฏิบัติภารกิจในห้วงอวกาศนาน 12 วันระหว่าง
9-21 ต.ค.50 แต่ต้องเข้าเก็บตัวเพื่อฟื้นฟูสภาพ
ซึ่งขั้นตอนการสู่อวกาศของเขาเสร็จสมบูรณ์พร้อมกลับบ้านเกิดแล้ว Muszaphar
Shukor Al MasrieSheikhMalaysia
Personal data
Birthdate: 26.07.1972
Birthplace: Kuala Lumpur Marital
status: “single”
Children:Selection date: 09.01.2006
Job: Spaceflight Participant




















 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2550 16:53:38 น.
Counter : 1405 Pageviews.  

ความแตกต่างระหว่างผรั่งกับเอเชีย

สีนำเงิน - คนเอเชีย
สีแดง - ฝรั่ง
ไม่มีคำบรรยายนะคะ ถ้างงก็ไม่เป็นไร เพราะบางรูปปุ๊กก็งงเหมือนกัน



















 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2550 16:37:17 น.
Counter : 430 Pageviews.  

คำว่า แต่งงาน โดย นพ.สุกมล ( ขำสุดๆ + โดนม ๊าก)...

> บทความโดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล / ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
>
> ในฐานะผู้ชายดีๆ ที่หายากคนหนึ่ง ผมรู้สึกเห็นใจสตรีเพศจริงๆครับ…
> ช่วงเวลาในการเลือกคู่ของเธอทั้งหลายช่างสั้นยิ่งนัก
> เพราะช่วงอายุขัยของวัยสาวเริ่มผลิบานเมื่อประมาณ 13 ปี
> แล้วมาสุดเขตแดนเมื่อวัยสามสิบ…
> วันเกิดครบรอบ 30 จึงเป็นตัวเลข แห่งความสะเทือนขวั­ญ
> ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก…
>
> หลายคนไม่อยากพูดถึง คนอื่นก็ไม่ควรเอ่ยปากด้วย…
> ถือเป็นมารยาทสังคมอย่างหนึ่ง ยกเว้นพวกมีวาจาเป็นอาวุธ
> ที่ชอบถามว่า
> 'ปาอะไรเอ่ยที่ผู้ห­ญิงกลัวที่สุด '
> เฉลย '! ปาเข้าไปสามสิบยังไม่มีผัว ' …ใครดันถาม มันผู้นั้นสมควรตาย
>
> ตอนเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนักศึกษา
> คุณพ่อคุณแม่ก็สอนนักสอนหนาว่า
> ' อย่าริรักในวัยเรียน 'ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีจบแล้วค่อยมีแฟน '
> ทั้งๆ ที่ไอ้ตอนเรียนหนังสือมีโอกาสพบปะเพศตรงข้ามมากหน้าหลายตาก็หาได้สนใจไม่ เป็นคนประเภท ' รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน '
> ทุ่มเทชีวิตให้แก่การศึกษา…เมื่อเติบใหญ่­่เราจะได้มีวิชา
> เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน
>
> หลังจบการศึกษา ประกอบสัมมาอาชีวะ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาว่าง
> เลือกสรร ควานหา ผู้จะมาเป็นเจ้าบ่าวในอนาคต
> ตั้งสเปกว่าต้องได้แฟนหนุ่มประเภทซูเปอร์เพอร์เฟค
> อย่างวิลลี่ แมคอินทอชหรือจอห์นนี่ แอนโฟเน่ หรืออย่างน้อยๆ
> ก็ต้องมาดแมนแฮนซั่ม หล่อล่ำดำขรึม ถึงจะได้มาตรฐาน… ไอ้ประเภทหุ่นอัฟริกา หน้าติมอร์
> อย่าได้สะเออะหน้ามาให้เห็น…ไม่มีทางได้แอ้มหรอก
>
> จากวันเป็นเดือน - จากเดือนเป็นปี
> ความรักไม่มีวี่แววคืบหน้าแม้วันเวลา
> ผ่านไป… เพราะที่ทำงานทั้งห้องมีผู้ชายอยู่แค่ 5 คน -
> เจ้านายก็ มีเมียแล้ว… ไม่อยากตกเป็นภรรยาบุ­ธรรม
> สองคนดันเป็นเกย์… อีกคนยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นดีหรือเปล่า…
> คนสุดท้ายเป็นชายแท้แต่กำลังถูกแย่งตัวระหว่างเกย์สองคนอยู่
> ไม่อยากเข้าไปเป็นมือที่สาม…นั่งรถมาทำงานก็สองชั่วโมงครึ่ง
> กลับอีกสองชั่วโมงสี่สิบนาที กลับถึงบ้าน หมดสิ้นกำลัง
> ขอนอนเอาแรงก่อน.........

>
> ขณะที่งีบหลับอย่างสนิท ภาพในความฝันที่เธอเห็นคือ
> สถาบันการศึกษาที่เธอจบมา…
> แหล่งที่มีเพศตรงข้ามชุกชุม เธอหวนรำลึกนึกถึงผู้ชายดีๆ
> ที่เขาเคยอุตส่าห์มาเฝ้าตามจีบ ตามง้อตามตื้อ
> แล้วเราเล่นตัวจนเคยตัว ในที่สุดผลประโยชน์ตกอยู่ที่เพื่อนสนิทเป็นที่เรียบร้อย…
> แหม ! ไม่น่าเลย ยิ่งคิดยิ่งเสียดายจริงจริ๊ง…ตื่นพอดี เจอโลกแห่งความจริง
>
> ดำเนินชีวิตไปแต่ละวัน ยิ่งเข้าหน้าหนาว ซองสีชมพูกลิ่นหอมๆ
> จากเพื่อนๆ
> เริ่มทยอยมา ตามหลังซอง กฐินซองผ้าป่าที่เพิ่งหมดฤดูกาล…
> พอไปในงาน ดันเจอคำถามสะกิดใจอีกว่า
> 'เมื่อไรจะถึงคิวแจกการ์ดของตัวบ้างล่ะ'...
> 'โถ! การ์ดแต่งงานน่ะพิมพ์เสร็จแล้ว
> เหลือแต่ชื่อเจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้เลือกว่าจะเป็นใคร
> เพราะครั้งนี้เขาเปลี่ยนระบบเลือกตั้งใหม่ ยังงงๆเรื่องปาร์ตี้ลิสต์อยู่เลย'
> เอ๊ะ…เกี่ยวอะไรกัน!…ในใจก็คิดว่า '
> ก็ฉันอยู่เป็นโสดนี่มันไม่ดียังไง หนักกระบาลใครรึเปล่า'
>
> เคยตั้งคำถามกันไหม…ว่าทำไมต้องแต่งงาน (กันด้วย!)…
> คำตอบจากเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้วหรืออยากจะแต่งงานอาจมีหลากหลาย…
> 'อยู่คนเดียวมันว้าเหว่ อยากมีใครสักคนไว้แก้เหงา ' …รายนี้เห็นผู้ชาย เป็นตัวคลายเหงา
> 'รายได้ไม่พอใช้ หาคนช่วย (หาเงิน) ' …ผมกลัวมาช่วยผลา­เงินมากกว่า
> 'อยากมีลูก ก็ต้องหาพ่อก่อนสิ '…เกิดได้ลูกแล้วจะทิ้งพ่อรึเปล่าเนี่ยะ
> 'โรงงานพร้อมแล้ว ขาดผู้ประกอบการ'…เจ้าของคำตอบกำลังหาผู้ร่วมลงทุนฯลฯ
>
> อันว่า ' ชีวิตคู่ ' อยู่ไปเพื่อสิ่งใด ?
> ชีวิตคู่ คือ การเติมเต็มซึ่งกันและกัน
> ดังนั้นเมื่อมีชีวิตสมรสแล้วครึ่งหนึ่งของ ชีวิตเราจะหายไป
>
> ในส่วนที่ขาดจะมีครึ่งชีวิตของอีกฝ่ายมาเติมแต่งแห่งพื้นที่ว่างนั้น
> ขณะที่ครึ่งชีวิตของเราที่หาย ก็มิได้สู­สลายไปไหน มันก็ไปเติมที่ว่างของคู่เรานั่นเอง
>
> จุดมุ่งหมายของ การแต่งงานคือ
> การใช้ชีวิตคู่ให้มีความสุขมากขึ้นและมีชีวิตที่ดีขึ้น
> เมื่อเป็นสามีภรรยาแล้วต้องมีความสุขมากกว่าตอนอยู่คนเดียว
> ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้ว มีแต่ความทุกข์ ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน
> ก็ไม่รู้ว่า จะแต่งงานไปหาพระแสงดาบคาบค่ายที่ไหน…อยู่คนเดียวมันส์กว่า
>
> ชีวิตคู่ต้องเกื้อกูลกันและกัน ความก้าวหน้าของสามี ภรรยาต้องมีส่วน
> อย่างน้อยก็ปลอบใจในยามที่สามีเครียดจากการงาน
> ชีวิตภรรยาถ้าไม่คิดเอาดี ในทางโลกก็เจริ­ในทางธรรม
> กำลังใจต้องได้จากสามีเช่นกัน
> อย่างน้อยก็อย่าหาทุกข์มาสุมเพิ่ม…
> ถ้าคู่รักของเราประกอบมิจฉาอาชีวะ ติดเหล้า เล่นการพนัน
> โกงบ้านกินเมือง ชีวิตอีกฝ่ายก็เหมือนตก นรกทั้งเป็น
>
>
> เพราะฉะนั้นเวลาเลือกแฟน
> แทนที่จะให้ความสำคั­กับเรื่องรูปร่างหน้าตา
> ฐานะการเงิน ยี่ห้อรถเก๋งที่ใช้อยู่ ฯลฯ
> เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขแค่สองข้อที่จำแสนง่าย คือ
> หนึ่ง - สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด
> สอง - คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า
> เพราะชีวิตคู่คือการเติมเต็มชีวิตแก่กันและกัน
> หาใช่เป้าหมายเพื่อการเสริม เพิ่มความเสียว
> เพราะอยู่คนเดียวก็เสียวได้ ไม่ง้อใครให้เสียเวลา
> ไม่เสียชาติเกิดหรอกครับ ถ้าคุณจะใช้ชีวิตเป็นโสด
> ถือคติประจำใจว่า 'อยู่เป็นโสด ดีกว่ามีผัวเลว'

เอิกๆ




 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2550 15:16:49 น.
Counter : 416 Pageviews.  

สิ่งที่เรียนรู้เมื่ออายุปูนนี้ของ อุดม แต้พานิช

เพื่อนๆส่งมาให้อีกแล้วคะ มันรู้สึกตรงใจไงก็ๆม่รู้ (โดยเฉพาะข้อที่25)

1.มนุษย์ต้องการสิ่งที่ตนเองไม่มี
2.เวลาที่เราวิ่งมารับโทรศัพท์จากที่ไกลๆ
เมื่อถึงโทรศัพท์ เสียงมันมักจะหยุด เราจะ ช้าไป 1 จังหวะเสมอ
3.ถ้าแอบรักใครอย่าฝากใครไปบอก บอกด้วยตัวเองจะดีกว่า
4.เวลาสั่งอาหารไว้นานแล้วยังไม่ได้สักที ให้พูดว่าไม่เอา จะได้เร็ว
5.ถ้าเรียกเก็บเงินแล้วไม่มีใครมาเก็บเสียที ให้ลุกขึ้นทำท่าจะกลับทั้งโต๊ะ
จะมีพนักงานพุ่งมาทันที
6.ปลูกต้นลั่นทมไว้หน้าบ้านไม่เกี่ยวอะไรกับความทุกข์ระทมของตัวเราเลย
7.ระวังคนขายโรตี ที่เพิ่งเดินออกมาจากป่าละเมาะ, พุ่มไม้, ซอกตึก,
อย่าตัดสินใจ ซื้อจนกว่าเขาจะล้างมือ
8.ไม่มีสัจจะในร้านตัดเสื้อ
9.ระวังคนที่แสดงออกว่าเป็นคนดีมากๆ
10.อย่าซื้อทุเรียนมาปอกเอง
11.หนังสือดีคือหนังสือที่เราชอบอ่าน, หนังดีคือหนังที่เราชอบดู
12.อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เรานินทามากๆ อย่าลืมย้ำบ่อยๆ ว่าอย่าบอกใครนะ
13.อย่าทิ้งกระดาษชำระไว้ในชามก๋วยเตี๋ยว คนล้างจะเสียความรู้สึก
14.เรียกยามว่าซีเคียวรีตี้ การ์ด ยามจะตั้งใจโบกรถ
15.อย่าซื้ออะไรที่ต้องเอามาซ่อมต่อ
16.รถในเมืองไทยพวงมาลัยอยู่ทางขวา แต่ฝาน้ำมันไม่อยู่ขวาเสมอไป
17.ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนไม่ต้องเอายาสีฟันไปก็ได้ ยังไงเพื่อนต้องมี
18.ตลาด อ.ต.ก. มาจากคำว่า เอเวอรี่ติง เกินราคา
19.เวลาดูหนังโรงควรจำว่ากระปุกน้ำอยู่ด้านไหน
20.ตัดผมวันพุธได้ ไม่บาป
21.คนไม่กินเนื้อไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีเสมอไป
22.เวลาบ้วนน้ำยาลิสเตอรีนออกจากปากให้หลับตาด้วย
23.ปูอัด มันทำจากปลา
24.กินก๋วยเตี๋ยวจากตะเกียบไม้อร่อยกว่า
25.อย่าไปจ่ายตลาดเวลาหิวเราจะซื้อมาเยอะเกินจำเป็นเสมอ
26.ในโลกนี้จะชอบมีคนมาทักอยู่ 2 ประเภทเท่านั้น ประเภทแรก อ้วนขึ้นนะ กับประเภทที่ 2ผอมลงนะ ไม่มีใครเข้ามาทักว่าปกติดีนี่ไปทำอะไรมา
27.คนที่เอาหมวกตำรวจหรือชุดตำรวจแขวนไว้หลังรถมิใช่เพราะบ้านเค้าไม่มีตู้ เค้าไม่ได้ลืมเค้าแค่กลัวคนไม่รู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร
28.คนที่มีรถทะเบียนเลขเดียวเรียงติดกันหลายๆตัว เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา
29.คนที่มีความรู้มากๆ เขามักจะใช้ความรู้ขังจินตนาการ
30.ฟู่ฟ่าเดี๋ยวก็วายเรียบง่ายอยู่ได้นาน
31.จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา
32.เวลาที่เปิดหนังสือให้เพื่อนดูหน้าที่ตัวเองพูดถึงมักจะหาไม่เจอ
33.ขนมและน้ำในโรงหนัง จะแพงกว่าข้างนอก
34.ห้องน้ำผู้หญิงผู้ชายเข้าไปดูเป็นพวกโรคจิต,ห้องน้ำผู้ชายผู้หญิงเข้ามาดูเป็นแม่บ้าน.
35.เวลารถติด เลนอื่นมักไปได้เร็วกว่าเลนเราเสมอ
36.ถ้าเราขับรถไม่ทันไฟเขียวเป็นคันสุดท้ายให้คิดว่าเดี๋ยวเราจะได้ไปเป็นคันแรก 37.ถ้ามีการแนะนำตัวว่า "นี่เพื่อนฉัน"
หมายความว่า "แฟนฉัน"
38.ถ้ามีการแนะนำตัวว่า "นี่แฟนฉัน" หมายความว่า"ผัว/เมียฉัน "









 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2550 14:45:46 น.
Counter : 421 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

lalintipn
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






coffee
Build your own Blingee

Friends' blogs
[Add lalintipn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.