All Blog
กลอนจาก จักรภพ เพ็ญแข 1 สค.50 เพื่อญาติมิตร นปก.
กลอนผ่านลูกกรง
จากจักรภพ เพ็ญแข
1 สค.50
เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร


เมื่อญาติมิตรเห็นหน้าน้ำตาไหล
เปิดดวงใจให้ล้นคนละฝั่ง
เหมือนฝันร้ายอยากให้ตื่นเพื่อคืนรัง
แต่เรายังหยัดยืนไม่อุทธร

อำนาจชั่วล้ำเร้นมืดเช่นนี้
ดังภูตผีพรายออกเที่ยวหลอกหลอน
ข้าวสารเสกสาดใส่มีไหว้วอน
จะร้าวรอนเพียงใดไม่เลิกรา

เพราะตระหนักศักดิ์ศรีของชีวิต
เมื่อบ้านเมืองวิปริตต้องสู้หน้า
บานกระจกชอกช้ำด้วยน้ำตา
ก็ร่ำรารอไว้จะไปเยือน

บททดสอบจิตใจในยามทุกข์
ต้องหมั่นปลุกปลอบไว้ใดจะเหมือน
ขังอารมณ์ให้เข้าเป็นเจ้าเรือน
พวกเพียรเตือนว่าทอดทิ้งเพื่อสิ่งใด

ห้องเยี่ยมญาติยังเห็นว่าเป็นญาติ
เรื่องของชาติจะต้องรู้ว่าอยู่ไหน
แยกส่วนรวมออกจากตัวและหัวใจ
เพื่อมุ่งไปเบื้องหน้ากล้าเผชิญ

ถึงจิตใจใฝ่จะมีเสรีภาพ
เพียงแต่วาบแล้วละลิ่วคงผิวเผิน
เมื่อจิตใจพร้อมผดุงก็มุ่งเดิน
ผ่านสรรเสริญและประณามไปตามทาง

คือภาระประวัติศาสตร์ นะญาติมิตร
ไฟจะปิดจะเปิดให้ไสวสว่าง
สิ่งที่เพียรเปลี่ยนสลับจะจับวาง
จะหักร้างถางพงด้วยจงใจ

อาหารและดอกไม้น้ำใจญาติ
คือประกาศว่าคงไม่สงสัย
เราต่างมองสองเราด้วยเข้าใจ
ละดวงใจเหลือให้เห็นเป็นความจริง

ความกล้าหาญเยี่ยงนี้มีค่านัก
รวมความรักความงามและความนิ่ง
ไม่ปริปากซักถามรู้ความจริง
คือยอดยิ่งญาติมิตร ณ จิตใจ

รู้ว่าหัวใจหายไม่วายห่วง
กลัวเร่ลวงมายาน้ำตาไหล
กลัวแปดเปลื้อนมลพิษทางจิตใจ
กลัวไปไกลแล้วไม่กลับจะลับลา

พักผ่อนเถิดญาติมิตรอย่าคิดมาก
แม้ลำบากขนาดไหนได้เห็นหน้า
เหมือนช้างหลวงผูกมัดเต็มอัตรา
เสร็จยุทธนาสงครามจะตามไป



Create Date : 01 สิงหาคม 2550
Last Update : 1 สิงหาคม 2550 16:54:12 น.
Counter : 1272 Pageviews.

6 comments
  
โดย: boatboat วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:17:41:33 น.
  
เพราะดีจังครับ

เคยชอบคุณจักรภพนะ
โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:17:43:21 น.
  
ข่าวว่า..
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นลูกชายกึ่งลูกสาว ของ นายสุนทร เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก่อนหน้าจะเข้าสู่วงการเมือง เคยเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลง กรณ์มหาวิทยาลัย สำนักเดียวกับ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี สองเนติบริกร ผู้ทรยศต่อนายกฯทักษิณ ชินวัตร ด้วยการขายความลับให้กับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มาโดยตลอด

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจกระไรเลย หากจะทราบข้อมูลในภายหลังว่า สุรเกียรติ เสถียรไทย ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ทรยศหักหลังนายกฯทักษิณ ด้วยเช่นกัน

การให้ข้อมูลเท็จต่อคตส. ใส่ร้ายนายกฯทักษิณ ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีแทรกแซงและสั่งการให้ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก หรือ เอ็กซิมแบงก์ ปล่อยกู้ให้แก่รัฐบาลพม่า เกินวงเงินที่ธนาคาร อนุมัติไว้แล้ว อีก 1,000 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขว่าต้องนำเงินกู้มาเช่าช่อง สัญญาณดาวเทียมไทยคม เป็นเรื่องที่นายกฯทักษิณ ชินวัตร คาดไม่ถึงว่า คนอย่างสุรเกียรติ์ เสถียรไทย จะกล้ากระทำ และกล้าโกหก เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันและกระทบถึงรัฐบาลพม่า

ทั้งๆ ที่ โดยข้อเท็จจริงแล้ว บอร์ดของธนาคาร เป็นผู้พิจารณาโดยอิสระ และไม่มีเงื่อนไขการให้เงินกู้ว่าต้องกลับมาเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม หรือซื้อสินค้าและบริการของบริษัทในเครือชินคอร์ป รัฐบาลพม่า มีอิสระในการตัดสินใจด้สนตนเอง โดยที่ไม่มีใครไปแทรกแซงได้





เหตุผลที่สุรเกียรติ์ เสถียรไทย โกหกเรื่องการปล่อยสินเชื่อแก่รัฐบาลพม่า และใส่ร้ายนายกฯทักษิณ มีอยู่ 3 ประการคือ

1. เพื่อทำให้ข้อกล่าวหาของคตส. ว่านายกฯทักษิณ ทุจริต ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง มีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ

2. เพื่อให้เหตุผลในการก่อการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มีความน่าเชื่อถือ

3. เพื่อเป็นการส่งนายกฯทักษิณ ขึ้นสู่ศาลแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในฐานะจำเลย และมีจุดหมายปลายทางที่เรือนจำในฐานะนักโทษ

สุรเกียรติ์ เสถียรไทย กล้ากระทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ แน่นอนเหลือเกินว่าย่อมต้องมีเดิมพันสูง ไม่เช่นนั้นก็ต้องได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งหาคำตอบกันอยู่นานว่า อะไรคือแรงจูงใจในการโกหกระดับชาติครั้งนี้


เพราะแม้แต่ ผู้ที่ทำให้สุรเกียรติ์ มีสถานะ “หลานเขย” ก็ยังไม่โปรด สุรเกียรติ์ แม้แต่น้อย ไม่เพียงแต่ไม่โปรด ยังไม่คิดอยู่หอร่วมห้อง ไม่ยอมหลับนอนอยู่เรือนเดียวกัน ด้วยเหตุที่ไม่แน่ใจว่า สุรเกียรติ์ เลือกและรักที่จะเป็นอะไรกันแน่ ระหว่าง สามี กับ ภรรยา

ฉายา “ป้าแมรี่” ที่มีผู้เรียกขานนั้น ยิ่งนานวัน ยิ่งทำให้เดาเป็นผู้อื่นยาก และจำกัดวงให้คาดเดาชื่อเหลือน้อยลงทุกที แต่ทุกทีที่คาดเดาจะต้องมี สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อยู่ในนั้นด้วย

ฤาว่า การเมืองไทยยุคต่อไป จะไม่ใช่ยุคของ ชายจริง หญิงแท้ อีกแล้ว

เหมือนกับ กองทัพในห้วงเวลากว่าสามสิบปีที่ผ่านมา ก็เป็นกองทัพภายใต้อาณัติของชายไม่จริง หญิงไม่แท้ เช่นเดียวกัน

นึกเล่นๆ ถึงวันที่ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นผู้นำประเทศ แล้วไปปรึกษาหารือกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ คนที่กองทัพนับถือว่าเป็น “ป๋า” แล้ว ก็คงสนุกพิลึก

ป้า กับ ป๋า เจรจากัน บทสนทนาคงจะ วี๊ดว๊ายกระตู๊วู๊ น่าดูชมเชียวล่ะ คุณๆ ทั้งหลาย

แค่นึก ก็สนุกแล้วล่ะ … จริงมั๊ยฮ๊า ป้าแมรี่
ขอท่าพิจารณา….
โดย: ทนอยู่กันได้งัย IP: 202.5.86.84 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:16:23:14 น.
  
หักหลังคนชั่วเพือดำรงความดี ดีกว่าพวกโกงแผ่นดิน แล้วจะไม่มีแผ่นดินอยู่
โดย: มูสังแย้ว IP: 202.44.8.100 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:11:31:28 น.
  
คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผผล
โดย: สล IP: 124.120.230.210 วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:11:33:20 น.
  
ไอ้โง่ไอ้ควายเอ้ย คุณมันยังจะโง่และควายแบบโงหัวไม่ขึ้นเลยหรือวะ ยังเทอดทูนไอ้หน้าเหลี่ยมเป็นยิ่งกว่าพ่อซะอีก..เซ้นต์ง่ายๆแค่ว่า ประเทศจนลงคนไทยจนลงเป็นหนี้มากขึ้นในช่วงไม่ถึง5ปี แต่ไอ้ทักษิณเวลานี้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเกินกว่า10เท่าเป็นแสนล้าน....หาคำตอบให้หน่อย..นายแกล้งโง่หรือโง่จริงก็ไม่รู้...รู้แต่ว่าโง่กว่าควาย
โดย: คนชล IP: 117.47.29.89 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:28:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

50youngnum
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



  •  Bloggang.com