Something is never missing - your imagination in your own world
Group Blog
 
All Blogs
 
On Air เมื่อโลกไม่ได้มีแค่ใบเดียว

(สปอยบ้าง ไม่สปอยบ้างครับผม!!!!!!!!!!!!)

หลังจากที่ได้อ่านรีวิวและเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุกเพราะตีแผ่วงการโทรทัศน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการละครที่ขึ้นชื่อว่า "ถึงรสถึงชาติ" แบบนี้ก็คงจะต้องไขว่คว้าหามาดูกันเสียหน่อย

สดๆ ร้อนหลังจากดูจบมาได้แค่ครึ่งชั่วโมง

อยากจะบอกคำเดียวว่า ชอบครับผม!!!!!

ประเด็นของเรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่าฉากหน้าของวงการละครที่สวยงามนั้น แน่นอนว่าก็ต้องเต็มไปด้วยปัญหามากมายตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่างนักแสดงใส่เสื้อผ้าคล้ายกัน (ซึ่งถือว่าหมิ่นศักดิ์ศรีกันมากสำหรับดาราใหญ่) ไปจนถึงเรื่องเงินลงทุนของนายทุนใหญ่ที่อาจจะคว่ำละครได้อย่างไม่เป็นท่า

แล้วทำไมถึงเป็นโลกสองใบ?

เพราะโลกใบแรกก็คือโลกของละครที่ดูเหมือนจะสวยงาม หอมหวาน และชวนฝันราวกับได้ล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ ละครที่สวยงามอย่าง Ticket to the moon คือโลกแบบนั้น

โลกที่มีแต่ความหวังเหมือนความหวังของอึนฮยอน...

แต่โลกแห่งความเป็นจริง คือโลกแห่งการทำงาน

ที่มีทั้งเสียงหัวเราะ...เมื่อบทไปได้ดีในสายตาผู้กำกับ

หยาดเหงื่อ...ของทีมงานที่อดตาหลับขับตานอนถ่ายทำฉากเพียงฉากเดียวให้เสร็จทั้งๆ ที่นักแสดงเป็นต้นเหตุของปัญหา

หรือน้ำตา...ในวันที่ทุกอย่างถึงทางตัน

โลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และความขัดแย้ง

ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งระหว่างนักเขียนโซและผู้กำกับลี ในแง่ของศิลปะและพาณิชย์ ซึ่งดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้ แต่เมื่อเข้ากันได้ก็กลายเป็นความลงตัว ความรักความเข้าใจ และพบกับความสุขท่ามกลางความแตกต่างในท้ายที่สุด

(คงจะไม่ต่างอะไรกับคำว่า 'รักด้วยหัวใจ' และ 'รักด้วยสมอง' ที่สุดท้ายแล้วทั้งสองอย่างก็ไม่ใช่คำตอบที่เป็นที่สุด หากจะต้องผสมกันให้ลงตัวจึงจะเป้นคำตอบของความรักที่แท้จริง)

หรือจะเป็นโลกมายาที่แสนสวยงามของโอซึงอา กับโลกแห่งความเป็นจริงของผู้จัดการจาง ที่แม้จะไม่มีอะไรเลย แต่เมื่อคนเช่นโอซึงอา 'ตื่นขึ้นมา' พบกับความเป็นจริง เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าโลกใบไหนคือโลกที่เธออยากจะมีชีวิตตลอดไป

ดังนั้นฉากสุดท้ายของโอซึงอาไม่ใช่การไปตามล่าความฝันอย่างเดียว แต่มันคือการเลือก "โลก" ที่เธอต้องใช้ชีวิต ท้ายสุดแล้วโลกที่เธอเลือกอาจไม่ได้ทำให้เธอเห็นดวงดาวพราวพรายอย่างที่ใจต้องการ แต่เป็นโลกที่เธอรู้ดีว่าไม่มีวันจะหลอกลวงเธอเหมือนโลกมายาที่เธอเคยเชื่อว่าทุกสิ่งเป็นของเธอและหมุนรอบตัวเธออยู่ตลอดเวลา

เช็คสเปียร์เคยกล่าวไว้ว่า "โลกนี้เปรียบเสมือนโรงละครโรงใหญ่ ชายหญิงไซร้เปรียบเหมือนตัวละครนั่น" ก็คงจะไม่ผิดอะไรถ้าเราทุกคนจะหลบหนีจากละครโรงใหญ่มาดูละครโรงเล็กเพื่อทำให้เราแสดงบทบาทของเราได้อย่างดียิ่งขึ้นสมกับคำกล่าวที่ว่าดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว

ลองชมนะครับแล้วจะไม่ผิดหวัง !!!!!

_____________________

ผ่านช่วงซีเรียสก็ขอสู่ช่วงสบายๆ บ้าง

คู่ของผู้กำกับลีและนักเขียนโซเป็นคู่ที่น่ารักมากครับ เอใจช่วยลุ้นตั้งแต่แรกจนจบแล้วก็ผมว่าไม่ผิดหวังจริงๆ สิ่งหนึ่งที่ผมจะจำคู่นี้ได้แม่นก็คงจะเป็นรอยยิ้มของคนทั้งสอง โดยเฉพาะคุณผู้กำกับ เวลายิ้มทีเป็นเวลาที่ผมเชื่อเลยว่าใครๆ ก็ต้องชอบ เพราะอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างอยู่บนใบหน้านั้นหมดแล้ว

ส่วนคู่ของโอซึงอากับผู้จัดการจาง คู่นี้ต้องยอมรับว่าความรักของคนสองคนมันช่างเข้มข้นเสียจริงๆ แม้จะไม่มีคำว่ารักหลุดออกมาจากปากเลย แต่การกระทำทุกอย่างมันฟ้องหมดแล้ว (ทุกฉากที่คิมฮานึลร้องไห้ทำให้ผมรู้สึกเศร้าตามไปด้วยจริงๆ ครับ เพราะเธอทำให้เราเห็นได้จริงว่ายิ่งสูงก็ยิ่งหนาวเหลือเกิน)

ส่วนคนที่ผมชอบอีกคนก็ ยุน PD น่ะครับ เพราะว่า...เธอน่ารักจริงๆ



แนะนำจากใจจริงครับ !!!!!!!!!!!!!!!


Create Date : 11 ตุลาคม 2551
Last Update : 11 ตุลาคม 2551 0:34:25 น. 2 comments
Counter : 220 Pageviews.

 
ดูจบแล้วเหมือนกันค่าเรื่องนี้ และวนดูอยู่อีกหลายรอบ ชอบผู้กำกับกะคนเขียนบทมากเลย

แอบหมั่นไส้แม่นักแสดงใหญ่มากมาย


โดย: ดวงตาสวรรค์ วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:2:17:29 น.  

 
ตามมาเชียร์คู่โอซึงอาและจางคิจุนค่ะ ^_^ ความลึกของบทจะมากกว่าคู่แรกหน่อย

ยุน PD ก็ชอบค่ะ ถ้าเธอมีบทเพิ่มมากกว่านี้ก็คงจะดี


โดย: เสี่ยวป้างจื่อ วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:11:09:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

northstar_polaris
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add northstar_polaris's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.